ลงทัณฑ์บัญชา
ความรักที่สวยงามของ "หินผา" เป็นอันต้องจบสิ้นลง เมื่อหินผาต้องสูญเสียลูกและเมียอันเป็นที่รักไปอย่างกระทันหัน อีกทั้งน้องสาวที่เฝ้าถนอมเลี้ยงดูเธอมาเองกับมือของหินผาก็กลายเป็นเจ้าหญิงนิทรา เมื่ออุบัติเหตุที่เกิดจากความประมาทของคนไร้ซึ้งเงา และคำขอโทษจากหญิงชั่วคนนั้น หินผาจะไม่ทนแบกรับความเจ็บปวดนี้ไว้คนเดียวอีกต่อไป ซาตานด้านมืดเยี่ยงเขานี่แหละจะลงทัณฑ์บัญชาเธอด้วยตัวเอง..
(โปรดติดตามตอนต่อไป รอหน่อยนะค่ะ นักเขียนถุงแป้ง กำลังสร้างสรรค์ผลงานออกมาให้นักอ่านทุกท่านอยู่ค่ะ กดติดตามเพื่อไม่พลาดตอนต่อไป และนิยายเรื่องใหม่ กดถูกใจ ส่ง comment เป็นกำลังใจ ติชมผลงานมาได้นะค่ะ)
Tags: #ลงทัณฑ์บัญชา #พิมพ์พัณณิตา #ตบจูบ #แก้แค้น #ฝาแฝด

ตอน: ตอนที่ 2 ลางสังหรณ์

    “ทำไมวันนี้ยัยมุกถึงได้ดูรีบร้อนจังเลยคะคุณพี่ น้องรู้สึกใจคอไม่ค่อยดีเลยค่ะ มีอะไรเกิดขึ้นกับพี่ของเรารึเปล่าฮึยัยหยก”
    “คุณชลมาศ” กล่าวกับผู้เป็นสามีด้วยความกังวลใจ ไม่สบายใจยังไงไม่รู้บอกไม่ถูก ก่อนจะหันไปถามกับลูกสาวคนเล็กให้หายข้องใจ
    “ไม่เห็นพี่มุก ว่าอะไรเลยนะค่ะคุณแม่ แต่ช่วงนี้งานที่ร้านผ้าค่อนข้างยุ่งค่ะ มีงานสั่งจองเข้ามาอย่างต่อเนื่อง พี่มุกจริงจัง และใส่ใจในทุกรายละเอียดของงานเสมอ หยกคิดว่าคงจะรีบเร่งมือเพื่อเคลียร์งานให้เสร็จทันไปเที่ยวทะเลกับเพื่อนๆ ที่นัดกันไว้เมื่อครั้งก่อนค่ะ คุณแม่อย่าคิดมากเลยนะคะ หยกว่าไม่มีอะไรหรอกค่ะ”
    “ปิ่นหยก” อธิบายให้แม่ของเธอคลายความเป็นห่วงกังวลใจเกี่ยวกับพี่สาวฝาแฝดของเธอไปได้บ้าง แต่ทำไมเธอกลับใจหวิวๆ รู้สึกใจหายยังไงไม่รู้แปลกๆ อยู่เหมือนกัน ปลอบใจคุณแม่แต่ดันกลับมาคิดมากซะเอง ไปทำงานต่อดีกว่า ต่างคนต่างแยกย้ายกันไปทำงานตามปกติ
    แต่ความคิดความกังวลนั้นก็แตกต่างกันไป คงจะเป็นดั่งคำที่เขาว่า “ลางสังหรณ์” นั้นเป็นเรื่องจริงกำลังจะมีสิ่งที่ไม่ดีเกิดขึ้นแน่ๆ ถึงอย่างไรก็ตามไม่มีใครสามารถรับรู้เหตุการณ์ล่วงหน้าได้เลย อาจเป็นเพราะเวรกรรมที่ทำร่วมกันมา หรืออาจเป็นเพราะชะตากรรมที่ต้องประสบพบเจอ
    ในห้องทำงานของ “ปิ่นมุก” ที่ตกแต่งสวยหรูดีไซน์โก้เก๋ ปิ่นมุกที่กำลังขะมักเขม้นก้มหน้า ก้มตาออกแบบชุดแต่งงานที่ลูกค้าสั่งตัดเป็นพิเศษด้วยความตั้งอก ตั้งใจเป็นอย่างมาก ปิ่นมุกต้องใช้สมาธิ บวกกับความพยายาม และความเงียบสงบ งานใกล้สำเร็จเต็มทีแล้วเหลืออีกนิดเดียวเท่านั้นสู้ๆ ยัยมุก ปิ่นมุกพูดให้กำลังใจตัวเอง จนล่วงเลยเวลามาจนถึงช่วงพักเที่ยง
    พนักงานต่างพากันทยอยออกไปทานข้าวกันหมดแล้ว เหลือเพียงแต่ปิ่นมุกเพียงคนเดียวเท่านั้นในตอนนี้ เธอพลิกดูนาฬิกาข้อมือ มิน่าล่ะ เสียงท้องของปิ่นมุกถึงได้ร้องประท้วง เพราะหิวมากแล้วนั่นเอง งานเสร็จเรียบร้อยพอดี ปิ่นมุกจึงลุกขึ้นยืนเพื่อบิดขี้เกียจไล่ความเมื่อยล้า แล้วจึงหันกลับไปเซฟงาน จัดเก็บอุปกรณ์ต่างๆ เข้าที่ เข้าทางจนเรียบร้อย ก้มลงหยิบกระเป๋าสะพายใบสวยคู่ใจแล้วเดินออกมาจากห้องทำงานของเธอ
    เดินไปด้วย ก้มหากุญแจรถ และกุญแจร้านในกระเป๋าไปด้วย จนเกือบจะชนเข้ากับใครบางคนที่ยืนหันหลังให้กับปิ่นมุกอยู่ในตอนนี้ ดีที่ปิ่นมุกหยุดชะงักฝีเท้าลงอย่างกระทันหันเอาไว้ได้ทันก่อนที่จะชนกับแผ่นหลังอันน่าดึงดูดนั้นของชายหนุ่มที่ยืนหันหลังอยู่เบื้องหน้าของปิ่นมุก
    ปิ่นมุกมีอาการสะดุ้งตกใจเล็กน้อยกับสิ่งที่ได้เห็น เธอจึงรีบถอยหลังห่างออกไปสองสามเก้า ไม่คิดว่าจะมีใครอยู่ในร้านกับเธอด้วยในเวลานี้ เพราะพนักงานทุกคนก็ออกไปทานข้าวกลางวันกันหมดแล้ว ว่าแต่ชายคนนี้คือใครกันล่ะ ปิ่นมุกแอบเสียมารยาทมองสำรวจชายหนุ่มอย่างสงสัยใคร่รู้
    เป็นผู้ชายแน่นอน ผมดำที่ถูกตัดแต่งทรงเท่ไม่หยอก ผิวขาวดูสะอาด สะอ้าน ขนาดดูจากด้านหลังยังสง่างามมากทีเดียว ด้านหน้าจะเป็นยังไงนะ ชักอยากจะรู้ซะแล้วสิ ร่างกายที่สูงใหญ่กำยำ ภายใต้เสื้อผ้าเนื้อดีราคาแพง ปิ่นมุกมองปราดเดียวก็รู้ได้ในทันที แบบนี้คงไม่ใช่โจรหรอกมั้งปิ่นมุกคิดในใจ เธอคงจะคิดมากไปเอง
    ชายหนุ่มคงจะเป็นลูกค้าใหม่ที่ไม่เคยมาร้านของปิ่นมุกมาก่อน ถึงไม่รู้ว่าร้านจะปิดพักเที่ยงจนถึงบ่ายโมง ถึงแม้ว่าปิ่นมุกจะหิวมากเพียงใด แต่มันก็เป็นงาน เป็นหน้าที่ และความรับผิดชอบของเธอ ในเมื่อมีลูกค้ายืนอยู่ในร้านด้วยแบบนี้ จะให้ปิ่นมุกไล่ลูกค้าไปได้ยังไงกัน ลูกค้าทุกคนมีสิทธิเท่าเทียมกัน ถ้าชื่นชม ชื่นชอบในผลงานของเธอ เธอก็ยินดีต้อนรับอย่างเต็มที่ด้วยความเต็มใจอย่างที่สุด
    “ปิ่นมุก” ไม่รู้ตัวเลยว่ามาหยุดยืนที่ข้างหลังของชายหนุ่มคนนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน ห่างเพียงไม่กี่ก้าวก็ถึงตัวแล้วอย่างงี้ ความสูงของชายหนุ่มนั้นทำให้ปิ่นมุกต้องแหงนหน้าขึ้นไปมองเลยทีเดียว ปิ่นมุกอยู่ประมาณไหล่ของชายหนุ่มเห็นจะได้ ชุดสีเข้มที่ชายหนุ่มคนนี้สวมใส่บงบอกถึงสัดส่วนที่ได้รูปมากทีเดียว ตายแล้วยัยมุกตั้งสติหน่อยหยุดคิดอะไรบ้าๆ ได้แล้วนะ น่าอายจริงๆ เลยเรา ยังไม่ทันได้เห็นหน้าชายหนุ่มคนนี้เลยด้วยซ้ำ คิดอะไรไปไกลสะแล้วเรา
    “สวัสดีค่ะ คุณมีชุดสูทที่ชอบแล้วหรือยังคะ ถ้ายังไม่มีเดี๋ยวมุกจะช่วยแนะนำให้ค่ะ”
    “ปิ่นมุก” เอ่ยด้วยน้ำเสียงที่แผ่วเบาปนหวาน นุ่มนวลชวนฟัง เพราะว่าปิ่นมุกกลัวจะรบกวนสมาธิ และทำให้ชายหนุ่มตกใจ
    “หินผา” ที่ยืนเหม่อลอยอยู่ ก็ตื่นจากภวังค์ เมื่อได้ยินเสียงอันไพเราะสะเนาหูกระทบเข้าที่โสตประสาทของเขา ทำให้หินผาต้องหมุนตัวหันกลับมาอย่างช้าๆ นัยน์ตาคมสบเข้ากับใบหน้าสวยหวาน งดงาม จิ้มลิ้มพริ้มเพรา ดวงตากลมโตสุกสกาวแวววาว ผิวขาวอมชมพูเนียนละเอียด
    ชุดเดรสสีชมพูอ่อนระบายรอบไหล่ถึงใต้อก ช่วงเอวบางเข้ารูปชัดเจน กระโปรงบานรอบสั้นแค่เข่าทำให้เห็นขาขาวที่เรียวยาว รองเท้าส้นสูงสีชมพูอ่อนพื้นรองเท้าสีแดงเข้ากับชุดเดรสที่เธอสวมใส่ ส่งให้ดูสวยหวานปนเซ็กซี่นิดๆ ผมสีดำที่นุ่มสลวยดัดลอนปลายดูเป็นธรรมชาติยาวสยายไปถึงเอวบาง บวกกับการวางตัวท่าทางที่สง่างามนั้นน่าค้นหายิ่งนัก
โปรดติดตามตอนต่อไป รอหน่อยนะค่ะ นักเขียนถุงแป้ง กำลังสร้างสรรค์ผลงานออกมาให้นักอ่านทุกท่านอยู่ค่ะ กดติดตามเพื่อไม่พลาดตอนต่อไป และนิยายเรื่องใหม่ กดถูกใจ ส่ง comment เป็นกำลังใจ ติชมผลงานมาได้นะค่ะ



พิมพ์พัณณิตา
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 1 มิ.ย. 2565, 21:19:12 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 1 มิ.ย. 2565, 21:19:12 น.

จำนวนการเข้าชม : 96





<< ตอนที่ 1 ตระกูลฝาแฝด   เผชิญหน้ากัน >>
เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account