หะบีบี้...สุดที่รักของผม

หะบีบี้ น้องนุจสุดท้องแห่งตระกูลโสพณพสุธ
จะทำเช่นไร...

เมื่อการกลับสู่บ้านเกิดกลายกลับตาลปัตร
เป็นบ้านหลังอื่นที่ไม่เคยมีใครรู้ว่ามีอยู่จริงบนโลกนี้

"ดินแดนที่ไม่มีปรากฏบนแผนที่โลก"

ปรากฏแก่สายตา...



"คนแปลกหน้า" เธอคือคนแปลกหน้าสำหรับคนบนดินแดนนี้
และคนบนดินแดนนี้ก็คือ คนแปลกหน้าสำหรับเธอเช่นกัน


คนแปลกหน้าอย่างเธอจะต้องทำเช่นไรในดินแดนใหม่...

เมื่อการกลับสู่อ้อมอกพ่อแม่พี่น้องกลายกลับเป็นความว่างเปล่า

และเขา...คือ 'ภัยคุกคาม!'

ที่กำลังก่อกวนหัวใจเธอนับแต่วินาทีแรกที่ได้เจอ...

เขา...ผู้เป็น...อัศวินขี่ม้าขาวในฝันของเธอมาตลอด...
คนที่เธอเฝ้ารอคอยว่าจะได้เจอในความจริงสักครั้ง...

หากความจริงที่เจอ...กลับพลิกผันชีวิตเธอไปตลอดกาล...



Tags: รักโรแมนติก เพ้อฝัน ความลี้ลับ วิทยาศาสตร์ มุสตอฟา หะบีบี้ โสภณพสุธ

ตอน: บทที่ 14 นาฬิกาตาย

กว่าที่มุสตอฟาจะก้าวผ่านค่ำคืนที่ต้องนอนห้องเดียวกับชายาของตน
โดยไม่สามารถทำอะไรได้เลยนอกจากนอนกอดนั้น ช่างแสนทรมานยิ่งนัก
หากคนที่เขานอนกอดกลับดูมีรอยยิ้มเปื้อนหน้าแม้ยามหลับใหล
ช่างเป็นสตรีที่สร้างความปั่นป่วนรัญจวนใจเขาเหลือคณายิ่ง

"เจ้าอยากได้นาฬิกาของเจ้าฤๅไม่" มุสตอฟาถามหญิงสาวที่บัดนี้
แต่งกายเรียบร้อยแล้ว

"อยากได้อย่างยิ่งค่ะ" หญิงสาวยิ้มทั้งปากทั้งตา

"ใช่สิ่งนี้ฤๅไม่เจ้านาฬิกาที่เจ้าเอ่ยถึงเมื่อวาน" หะบีบี้มองสิ่งที่อยู่ในมือเขา
แล้วรีบโผเข้าไปหาเขาเร็วรี่ หากเขากลับยกมือยืดขึ้นสูงเหนือหัวเธอ
หญิงสาวพยายามเขย่งปลายเท้าเพื่อจะคว้าสิ่งที่อยู่ในมือเขามาไว้ในมือตน
หากอีกฝ่ายกลับไม่ยอมลดแขนลงมาเลย

คนที่เคยคิดมาตลอดว่าตนเกิดมาตัวสูง บัดนี้ ให้ความรู้สึกราวกับเป็นคนแคระไปเลย

อย่า อย่าบีบคั้นให้บีบี้คนนี้ถึงกับต้องปีนร่างสูงตรงหน้าเพื่อขึ้นไปเอานาฬิกาสุดรักสุดหวงนะท่านมุส!!!
ต้นกล้วยยังปีนมาแล้วเลย

"ท่านอยากเป็นต้นกล้วยให้ข้าต้องปีนป่ายหรือไรนะ" เสียงหญิงสาวปีนขึ้นจมูกที่เชิดรั้นนั่น
หากคนฟังหาได้สะท้านสะเทือนไม่ ยังคงเย้าแหย่ไม่ลดละ

"แก้มของข้ารอริมฝีปากเจ้าอยู่ มิเช่นนั้นแขนข้าก็จะไม่ยอมลดลงไปหาแก้มเจ้าดอกหนา
ฤๅเจ้าจักปีนตัวข้าขึ้นมาหอมแก้มข้าก็ได้หนา ข้าจักได้ไม่ต้องโน้มหน้าลงไปหาจมูกเจ้าถึงที่"

ดู ดูเขาพูดสิ

"จะยอมแลกกันฤๅไม่"

ยัง ยังจะต่อรองอีก

หะบีบี้เลยยิ้มหวานก่อนจะเขย่งปลายเท้าหอมแก้มสากนั่นเต็มๆ แบบจัดเต็มขยี้ๆไปเลย
เอาให้ช้ำแดงไปเลย แล้วก็ได้เห็นแก้มนั่นขึ้นสีแดงๆจริงๆดังคิดด้วยในทันที
หญิงสาวเห็นเช่นนั้นแทนที่จะสะใจ กลับขวยเขินบิดม้วนขึ้นมาเสียอย่างนั้น
ทำเอาเจ้าของแก้มถึงกับยิ้มกว้างด้วยความพึงพอใจอย่างที่สุด
แล้วโน้มลงเอียงคอหอมแก้มนุ่มนิ่มและหอมละมุนนั่นเต็มๆ สูดความหอมเข้าเต็มอก

หะบีบี้หัวเราะคิกเบาๆ ทำเอาคนฟังถึงกับรู้สึกรักเสียงหัวเราะใสๆ ราวกับเด็กน้อยนั่น
ของหญิงสาวตรงหน้ายิ่งนัก แม้ว่าสตรีที่โตเป็นสาวในดินแดนนี้จะถูกสั่งห้ามมิให้หัวเราะคิกคัก
เช่นนี้ก็ตาม แต่สำหรับหญิงสาวตรงหน้า เขากลับมองเห็นเป็นความน่ารักน่าชัง
มิได้น่ารังเกียจแต่อย่างไรเลย

"เจ้าส่งเสียงหัวเราะเช่นนี้กับข้าได้คนเดียวเท่านั้นนะหะบีบี้ ห้ามทำเช่นนี้กับใคร
เพราะกฎของสตรีดินแดนนี้ห้ามส่งเสียงหัวเราะเช่นนี้เป็นเด็ดขาด"

"ข้าขอโทษ ที่ไม่สำรวม ท่านย่าก็เคยกล่าวตักเตือนข้าเช่นท่าน ท่านพ่อของข้า
ก็เช่นกัน ข้ามักเผลอเรอ ข้าโดนด่าประจำ อิอิอิ" ก็ยังมิวายหัวเราะคิกๆตบท้ายจนได้สิน่า

"แต่หากเป็นข้า ข้าไม่ว่ากระไรดอกหนา ข้ายินดี" หะบีบี้ยิ้มกว้างทีเดียวกับถ้อยคำนั้น
เธอเพียงรู้สึกว่า เธอสามารถเป็นตัวเองได้อย่างเต็มที่ยามที่อยู่กับเขาผู้นี้
และมันทำให้เธอ สบายใจ มีความสุขอย่างบอกไม่ถูก เขาช่างเป็นชายในฝัน
ที่เธอเฝ้ารอมานานแสนนานจริงๆ เป็นคนที่เธอสัมผัสได้ถึงความอาทร ความอบอุ่น
และใจดี มีเมตตาต่อเธอ

ราวกับฝัน เหมือนเธอกำลังฝันอยู่

"เจ้ามองข้าเช่นนี้ หมายความเช่นไรฤๅ" คนถามสบประสานสายตากับหญิงสาวนิ่ง
ทำเอาคนถูกมองถึงกับแก้มแดงระเรื่ออีกระลอก

"คงไม่ได้อยากจะกลืนกินข้าหรอกใช่ฤๅไม่" หะบีบี้ถึงกับหลุดขำออกมากับประโยคนั้น
ของเขา ก่อนจะนึกขึ้นได้จึงรีบขอโทษเขาอีกครั้ง

"ข้าเผลอหัวเราะดังออกไปอีกแล้ว ข้าขอโทษ" มุสตอฟาคว้ามือหญิงสาวแล้ววางนาฬิกาลงบน
ฝ่ามือของหญิงสาวพร้อมกับบอกเบาๆว่า

"อยู่กับข้าสองต่อสองเช่นนี้ เจ้าจงผ่อนคลายตัวเองเถิด
ข้ามิมัวมาคอยแต่หาเรื่องอันใดมาตำหนิเจ้า ยิ่งเรื่องเช่นนี้ข้ายิ่งไม่ถือสาเจ้าดอกหนาหะบีบี้"

"ที่ข้ามองท่านเมื่อครู่นั้น เพราะท่านทำให้ข้าตกหลุมรักท่านซ้ำๆครั้งแล้วครั้งเล่า
จนข้ามิอาจนับได้อีกแล้วหนาท่านมุสตอฟาเจ้าเอย" คนฟังถึงกับคลี่ยิ้มออกมาด้วยความพึงใจ
แล้วรั้งร่างบางเข้ามาสวมกอด สูดกลิ่นหอมๆของเส้นผมนั่นอย่างรื่นรมย์

"เจ้าก็ทำข้าเสียทรงได้ทุกครา ข้ามิเคยเป็นเช่นนี้กับใครเลยในชีวิตนี้
เจ้าคือ คนแรกเลยหนาที่ทำให้ข้าออกอาการประหลาดได้ถึงเพียงนี้"
ชายหนุ่มสารภาพอย่างตรงไปตรงมา
แล้วก็พบว่าแก้มของเขาเริ่มแดงจนลามไปถึงใบหู
หะบีบี้มองอะไรแบบนี้ด้วยหัวใจเป็นสีชมพู สุดจะบรรยายออกมาเป็นถ้อยคำใด

"ข้ารักท่านท่านมุสตอฟา"

"ข้าก็รักเจ้าเหลือเกินหะบีบี้"

แล้วสองร่างก็กอดกระชับกันอย่างแนบแน่น

"เรียกข้าว่า ท่านพี่ สิหะบีบี้" หะบีบี้ถึงกับสะดุ้ง ผละออกมามองหน้าเขา

"เอ่อ"

"ไหนลองเรียกให้ข้าได้ชื่นใจหน่อยเถิด"

"ข้า ข้า " หญิงสาวกระดากอายอย่างบอกไม่ถูก มันดูจั๊กจี้นี่นา

"ว่าไงน้องหญิง" หะบีบี้ตาโตกับสรรพนามนั่นที่เขาเรียกขานเธอด้วยน้ำเสียงทุ้มกังวานหวาน

โหย ท่านมุสตอฟากินอะไรเข้าไปนะ ทำไมเช้านี้ถึงได้ป่วนหัวใจเธอจนหกคะเมนตีลังกาไปหลายครา

"เอ่อ ค่ะ ท่านพี่" ในที่สุด ไฟนอลลี่ เธอทำได้แล้ว เธอพูดมันออกไปแล้ว

และวินาทีต่อมา ร่างของเธอก็ถูกยกจนล่องลอยหมุนไปรอบๆห้อง โดยเขา
ใช่ เขายกร่างเธอขึ้นอุ้มและหมุนเธอไปมาในอ้อมกอดเขา หะบีบี้ถึงกับหัวเราะอย่างสดใส
แล้วหอมแก้มเขาทั้งสองข้าง เริ่มชินกับการแสดงออกเช่นนี้กับเขาอย่างง่ายดาย
เพราะเขาเป็นคนที่เข้าหาได้ง่ายและไม่ถือตัวเช่นนี้ เธอจึงผ่อนคลาย ไม่เกร็งเลย
และไม่ต้องเสแสร้งใดๆต่อหน้าเขาเลย เขาคือ เซฟโซน คอมฟอร์ทโซนในชีวิตเธอโดยแท้

นี่คงไม่ใช่ความฝันใช่มั้ย เธอกำลังตื่นอยู่ และเขาก็มีตัวตนจริงๆ ในชีวิตเธอใช่มั้ย
ไม่ใช่ว่า อยู่ๆเธอก็ตื่นจากการหลับฝัน แล้วเขาก็หายไปจากชีวิตเธอตลอดกาลหรอกใช่มั้ย

หญิงสาวยกสองมือขึ้นสัมผัสใบหน้าเขาราวกับกลัวว่า ภาพตรงหน้าเธอ เขาที่ยืนอยู่ตรงนี้
จะมลายหายไป เพราะยิ่งนานวัน ยิ่งผูกพันก็ยิ่งลึกซึ้ง และก็ยิ่งหวั่นไหวเหลือเกิน
เธอกลัว กลัวว่าเขาจะหายไปจากชีวิตเธอเหลือเกิน ทั้งๆที่เธอควรดีใจที่มีเขาอยู่ให้กอด
เท่าไหร่ ตอนไหนก็ได้เช่นนี้

ทำไมนะ ยิ่งรักจึงยิ่งกลัว เธอกำลังกลัว

"ถ้าไม่มีเส้นแบ่งเวลา ไม่มีวันและเวลา เราสองคนก็คงจะอยู่ด้วยกันแบบนี้
ไม่มีเปลี่ยนไปเป็นอย่างอื่น" คนฟังกระตุกหัวคิ้วเพียงนิดเมื่อได้ยินวาจาเช่นนั้นจากสาวเจ้า
ที่เขากำลังโอบกอดไว้มั่น

"เจ้ามิต้องการพบเจอวันเวลาที่ดียิ่งกว่านี้ฤๅน้องหญิง จึงเอ่ยวาจาเช่นนี้"

"สำหรับข้า ห้วงเวลานี้ช่างแสนดีที่สุดจนข้าอยากหยุดเวลานี้เอาไว้แค่ตรงนี้"

"ครั้นหากว่าเจ้าได้มีข้าที่รักเจ้าอยู่เคียงข้าง และได้อยู่ร่วมกับทุกๆคนที่เจ้ารักเล่า
เจ้ามิต้องการดอกหรือ" หะบีบี้ถึงกับสะอึก ก่อนจะยิ้มออกมา มองเขาด้วยแววตา
ประหนึ่งคนที่ตกหลุมรักครั้งแล้วครั้งเล่า เป็นการตกหลุมรักซ้ำๆกับคนเดิมๆคนนี้

"ข้าต้องการยิ่งนัก"

"นั่นล่ะ สวนสวรรค์ของอัลลอฮ์คือ สิ่งที่เจ้ามิอาจจินตนการถึงได้ดอกหนา
เจ้าอย่าเอ่ยวาจาใดที่จะเป็นการตัดช่องให้แคบลงเช่นนี้อีก เราจะมีวันเวลาที่งดงาม
ได้ยิ่งกว่านี้อีกเรื่อยๆ เราต้องมีความหวังที่ดีงามในหัวใจ แล้วเจ้าจักไร้ซึ่งกังวล
จิตใจเจ้าก็จักเบิกบาน" หะบีบี้กระชับอ้อมกอดของเขา นี่สินะ รักที่ยากจะถ่ายถอน
เธอรักเขา รักอย่างง่ายดายเหลือเกิน รักแบบที่แน่ใจว่ารัก ไร้ความสับสนและเคลือบแคลงใจ
สว่างชัดในหัวใจยิ่งกว่าแสงใด

"นาฬิกาที่บิดามารดามอบให้ข้าไว้ แม้ว่ามันจะหยุดเดินทาง
แต่ความรักที่เราผูกพันกันไว้ ไม่เคยหยุดเดินทางเลย
ข้ายังสัมผัสได้ถึงความรักของพวกท่านอยู่ตลอดเวลา" น้ำตาหะบีบี้ใหลซึมออกมาทางหางตา

"เช่นนี้แล้ว ใยเจ้ายังร่ำไห้อยู่เล่า"

"นั่นเพราะว่า ข้ามิได้กอดพวกท่านเฉกเช่นที่ข้ากำลังกอดท่านอยู่ในขณะนี้
ข้าคิดถึงอ้อมกอดและกลิ่นกาย คิดถึงน้ำเสียง คิดถึงรอยยิ้ม และนั่นทำให้ข้าร้องไห้
ข้ามิได้เศร้า ข้าเพียงคิดถึงแล้วน้ำตาก็หลั่งออกมา"

"น้ำตาแห่งความคิดถึงสินะ" หะบีบี้พยักหน้า มุสตอฟาจึงใช้นิ้วชี้ทั้งสองเกลี่ยน้ำตาให้หญิงสาว
พร้อมรอยยิ้มบาง

"โล่งขึ้นฤๅไม่" เขาเอ่ยขึ้นหลังจากที่ปล่อยให้หญิงสาวได้ปลดปล่อยน้ำตาออกมา
โดยมีเขาคอยรองรับมันไว้ด้วยสองมือ

"ข้าจักไม่มีวันลืมท่าน จักอย่างไรข้าคงไม่มีวันลืมท่าน ท่านมุสตอฟา"

"ท่านพี่ เจ้าเรียกข้าเช่นนี้มิได้ฤๅ" เขาทวงเสียงเบา ทว่าชัดเจนในคำเรียกร้องนั่น

"ข้าหวั่นใจว่าสักวัน เราจักต้องพลัดพรากจากกัน ข้าอดรู้สึกเช่นนี้มิได้เลยท่านพี่"
มุสตอฟายิ้มบาง ลูบหัวหญิงสาวเบาๆ พลางเอ่ยด้วยน้ำเสียงทุ้มนุ่มว่า

"ไม่ว่าเจ้าจักหายไปที่ใด ข้าก็จักเฝ้าติดตามหาเจ้าให้เจอ ข้าสัญญาด้วยชีวิตและหัวใจนี้"
เขาทาบฝ่ามือลงตรงอกข้างซ้ายที่หัวใจของเขากำลังเต้นอยู่

"ข้าจักจำไว้ ท่านพี่ห้ามลืมสัญญาหนา" มุสตอฟาพยักหน้าด้วยแววตาจริงจัง

"ตั้งแต่กำเนิดและเติบโตมาจนบัดนี้ ข้ามิเคยผิดคำสัญญากับผู้ใด
และเจ้าคือ คนสำคัญต่อหัวใจข้ายิ่งน้องหญิง" หะบีบี้รัก รักในความชัดเจนเช่นนี้นัก
เขาช่างถูกสร้างมาอย่างมั่นคง หนักแน่น กล้าแกร่ง และเด็ดขาดเหลือเกิน
หัวใจเธอคงไม่เป็นอันตรายหรือถูกรังแกอย่างแน่นอน หากได้ฝากไว้กับคนเช่นนี้
หญิงสาวมั่นใจ

"นิจนิรันดร์ มอบใจให้ท่าน"




yoraya
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 17 มิ.ย. 2566, 00:45:27 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 17 มิ.ย. 2566, 00:45:27 น.

จำนวนการเข้าชม : 176





<< บทที่ 13 ปฏิทินกับนาฬิกา   บทที่ 15 การศึก >>
เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account