เศษหนึ่งส่วนสองยกกำลังศูนย์

เป็นเรื่องราวของคนหน้าตาไม่เข้าตา ไม่เป็นที่นิยม
ไม่ฮิต ไม่ฮอตของคนสองคน...
ที่ไม่สมบูรณ์แบบ มีตำหนิ...ภาพประวัติไม่สวยงาม...
แต่นิสัยที่ซ่อนไว้ค่อนข้างสวยสดงดงาม...
แฝงไว้ด้วยเสน่ห์แห่งการมีชีวิต...การสร้างครอบครัว


เศษหนึ่งส่วนสอง หรือ ครึ่งหนึ่งของชีวิตหนึ่ง
มาพบกับ อีกครึ่งหนึ่งของอีกชีวิตหนึ่ง
แล้วยกกำลังด้วยศูนย์...

เลขศูนย์ที่ดูไร้ค่า ไร้ความหมาย แค่เลขกลมๆเลขนึง

หากมันได้ทำให้ เศษหนึ่งส่วนสองยกกำลังศูนย์
มีค่าเท่ากับ หนึ่งได้!

สมการทางคณิตศาสตร์ที่น่าพิศวงนี้
นำมาสู่สมการของความรักของทั้งสอง...

ทั้งคู่ที่ชีวิตไม่สมบูรณ์แบบและมีตำหนิ
จะหล่อหลอมเป็นหนึ่งเดียวได้อย่างไร...

เรื่องนี้มีคำตอบ!!!


Tags: ดราม่า ขุนพล ไนค์ บิลกีส

ตอน: บทที่ 17 วีรกรรมที่ถูกลืม

"น้องไอซ์เป็นไรรึเปล่าคะ ตั้งแต่กลับมาถึงก็ดูเงียบๆ ไม่พูดไม่จา
และรีบเข้านอน ผิดปกติอยู่นะคะ" บีลกีสเอ่ยด้วยสีหน้าคับข้องใจขณะที่กำลัง
จัดข้าวของในห้องให้เข้าที่เข้าทาง และช่วยสามีจัดกระเป๋าเดินทาง

"นั่นน่ะสิ ผมก็ว่าเค้าดูแปลกๆไปตั้งแต่ออกจากงานเลี้ยงแล้ว" ขุนพลเองก็อดไม่ได้
ที่จะเป็นห่วงน้องสาว แต่น้องสาวเข้าห้องล็อคประตูไปแล้ว

"หรือเค้าจะจำเรื่องราวระหว่างเขากับพี่เพลิงขึ้นมาได้แล้ว วันนี้เห็นพี่เพลิงกับภรรยา
ชวนเค้าคุยด้วยตั้งนาน ผมก็ไม่ทันคิดเรื่องนี้ เพราะเอาเข้าจริงๆ เขาเคยเจ็บปวดกับเรื่องนี้มาก"

"เอาไว้พรุ่งนี้ฉันจะลองถามดูนะคะ จะลองชวนเค้าเล่าเรื่องเหตุการณ์ในวันนี้ดูค่ะ"
ขุนพลกุมมือบีลกีสพร้อมรอยยิ้มละมุนทั้งปากทั้งตา ทำเอาหญิงสาวถึงกับหัวใจกระตุก

"ผมคงต้องฝากคุณแล้วล่ะกีส เพราะผมไม่มีเวลาเลย พรุ่งนี้ก็ต้องเดินทางไปทำงาน
อีกหลายวันกว่าจะกลับ" บีลกีสวางมือลงบนมือเขาแล้วกุมไว้แน่น ยกขึ้นแนบข้างแก้ม

"น้องสาวคุณก็คือน้องสาวฉันค่ะ คุณรักใคร ฉันก็รักคนนั้นด้วย"

"แม้ว่า คนที่ผมรักจะมีประวัติไม่ดี คุณก็จะรักหรือกีส"

"ค่ะ ฉันก็จะรัก รักที่ตัวเขา ไม่ใช่รักพฤติกรรมไม่ดีของเขาค่ะ"

"ยังไง?"

"คุณรู้มั้ยว่า ในตัวฉันเอง ฉันมีหลายๆอย่างในตัวเองที่ฉันรังเกียจ นิสัยหลายอย่างที่ไม่ดีในตัวฉัน
ความผิดบาปที่ฉันทำลงไป ฉันเกลียดด้วยทุกส่วนของหัวใจ แต่ฉันกลับให้อภัยตัวฉันเอง
และเมตตาตัวเอง ฉันเลยพยายามแก้ไขนิสัยและพฤติกรรมตนเองให้เป็นที่น่าพอใจขึ้น"

หญิงสาวพยายามอธิบายเขา แต่ดูเขายังมีแววตาที่ไม่เข้าใจเท่าไรนัก

"กับคนอื่น ก็เช่นกันค่ะ คุณอาจจะคิดว่าตัวคุณเองมีตำหนิ มีพฤติกรรมแย่ๆ มีนิสัยแย่ๆติดตัวมา
และฉันก็มองเห็นมันค่ะ ฉันเห็นจุดด่างดำ เห็นพฤติกรรมที่ไม่น่ามองของคุณมาตลอด
ไม่ใช่ว่าฉันยอมรับมันได้หรอกนะคะ และก็ไม่ใช่ว่าฉันจะมองข้ามหรือมองผ่านมันได้ด้วย
ฉันน่ะ เกลียดบรรดาพฤติกรรมไม่ดีและแย่ๆทั้งหลายนั้นของคุณด้วยทุกส่วนของหัวใจฉันเลยค่ะ
แต่ฉันไม่เคยเกลียดตัวคุณค่ะ ฉันรักตัวคุณ และหวังอยากเห็นคุณมีพฤติกรรมที่ดีขึ้นเรื่อยๆ
ฉันจึงให้อภัยคุณ ฉันเลยไม่เคยตัดโอกาสคุณ ฉันให้โอกาสคุณตอนคุณมาขอฉันแต่งงาน
ก็เพราะว่า ฉันรักตัวคุณ ไม่ได้รักสิ่งไม่ดีในตัวคุณค่ะ ไม่เคยรักพฤติกรรมแย่ๆในตัวคุณเลย
และไม่เคยยอมรับพฤติกรรมเหล่านั้นได้ด้วย ฉันแค่ใช้ความอดทนค่ะ อดทนและหวัง"

ขุนพลมองหญิงสาวตรงหน้าด้วยสีหน้าแววตาที่อึ้งงันก่อนจะกระแอมออกมา
แล้วถามเธอว่า

"หวังหรอ"

"ใช่ค่ะ"

"หวังอะไร"

"หวังว่าคุณจะแก้ไขขัดเกลามันออกไปจากตัวคุณค่ะ หวังและขอดุอาอ์ให้คุณตลอดมา"

ขุนพลรวบร่างบางเข้ามากอดเอาไว้แน่น

"ผมเคยคิด คิดว่า เพราะคุณยอมรับข้อเสียในตัวผมได้แล้ว"

"เปล่าเลยค่ะ หัวใจฉันไม่เคยยอมรับสิ่งผิดสิ่งบาปและอะไรแย่ๆได้เลย
แม้แต่ตำหนิในตัวเองก็ตาม ฉันเลยพยายามขัดเกลาตัวเอง พยายามขออภัยคุณบ่อยๆ
เพื่อหวังว่าที่ฉันทำไม่ดีๆกับคุณไป จะได้รับการขัดเกลาออกไปจากตัวฉัน ฉันก็อยาก
เป็นคนที่ดี ที่บริสุทธิ์คนนึงค่ะ และคุณหรือใครๆก็คงไม่ได้ต้องการเป็นคนบาป เป็นคนที่เปื้อนมลทิน
ไม่บริสุทธิ์ เพียงแค่เราต่างก็อ่อนแอเกินกว่าจะต้านทานสิ่งไม่ดีได้ เราจึงปล่อยให้
ตัวเองจมลงไปในมัน"

"ในขณะที่ผมคิดเพียงว่า คุณรับได้กับพฤติกรรมแย่ๆของตัวเองมาตลอด เลยย่ามใจ
ทำไรไม่คิดเกรงใจหรือรักษาน้ำใจคุณ"

ชายหนุ่มยังคงกอดร่างบางไว้ในอ้อมกอด เธอทำให้หัวใจเขาอบอุ่นและไออุ่นนั่นก็แผ่ซ่าน
ไปทั่วทุกรูขุมขนในร่างกายเขา ประหนึ่งว่าเขาได้เข้าสู่สถานที่อันปลอดโปร่ง สบาย
แม้ภายในส่วนลึกจะรู้สึกผิด หากเธอก็ทำให้เขาได้รับความมั่นใจว่า เขายังสามารถเป็นคนที่
คู่ควรแก่ความรักของเธอยังไง

"ฉันรู้ค่ะว่าแต่ก่อนน้องไอซ์สร้างวีรกรรมอะไรไว้บ้าง เธอเป็นคนดัง มีชื่อเสียง
เป็นคนสวยที่ผู้ชายมากมายจับตามองและหวังจะได้ไปครอบครอง
แต่คนที่เธอปรารถนากลับไม่ใช่คนที่รักเธอ เธอเหมือนฉันตรงนี้ค่ะ ตรงที่เราต่างก็รักอีกฝ่ายข้างเดียว
เพียงแต่น้องไอซ์เป็นคนสวยจัด ส่วนฉันแค่ผู้หญิงรูปร่างหน้าธรรมดา บ้านๆ พื้นๆ
ไม่ได้มีอะไรโดดเด่นน่าสนใจ แต่เรื่องความรักแล้ว ฉันกับน้องไอซ์ก็ดูจะเคยตกที่นั่งเดียวกันค่ะ"

บีลกีสดันหน้าออกเค้าออกห่าง ก่อนเดินไปนั่งบนโซฟา เพราะเริ่มเมื่อยขา
ขุนพลจึงตามไปนั่งข้างๆไม่ให้ห่าง

"ใช่ ไอซ์รักพี่เพลิงมาก เป็นรักแรกและรักฝังใจของเค้า เค้าไม่เคยมองใคร
หรือสนใจใคร สายตาของเขามองแต่ดวงตะวันดวงนั้น แต่ดวงตะวันดวงนั้นเป็นของคนอื่น
ทั้งๆที่เขามั่นใจว่าเขาเท่านั้นที่มีสิทธิ์ครอบครองดวงตะวันดวงนั้นเพียงผู้เดียว"

"ความรักจะเยียวยาน้องไอซ์ค่ะ เหมือนฉันไงคะ หัวใจฉันถูกเยียวยาด้วยความรัก
รักย่อมถูกตอบแทนด้วยรักเท่านั้นค่ะ"

"คุณจะบอกอะไรผม"

"คุณบอกฉันว่า คุณฆินทร์สนใจน้องไอซ์ และตามตื้อตามจีบเธอมาก่อนใช่มั้ยคะ"

"ใช่ ไอ้หมอนั่นมันบ้ามากๆ มันกัดไม่ปล่อย มันรุกมันจู่โจม มันพยายามทุกทางให้ไอซ์รับรักมัน
แต่ไอซ์ที่สนใจและรักแต่พี่เพลิงไม่เคยชายตามองมันหรือใครเลย ไอซ์เป็นคนตรงคนแรง
ไม่ชอบก็จะบอกไปว่าไม่ชอบแบบแรงๆตรงๆ ไม่ได้คิดจะรักษาน้ำใจใคร
เค้ากังวลแค่ว่าพี่เพลิงจะมองเค้าจะมีใจเอนเอียงไปทางอื่น เลยชิงปัดและเหวี่ยงทุกคน
แบบขั้นรุนแรงออกไปให้พ้นวงโคจรของเค้า ไอซ์ถึงกับเคยฉีกหน้าฆินทร์มัน
กลางงานตอนที่นักข่าวมารุมสัมภาษณ์ที่ทำให้ฆินทร์หน้าแตกยังจนหายไปจากสื่อทุกชนิด
ไปนาน"

"ฉันเคยดูข่าวนั่นมาเหมือนกันค่ะ ยอมรับว่าตอนนั้นฉันสงสารและเห็นใครคุณฆินทร์เค้ามากๆ"

"ผมถึงไม่ไว้ใจกับการกลับมาของไอ้หมอนี่ไง เพราะปกติผมกับมันก็ไม่กินเส้นกันอยู่แล้ว
แล้วยัยไอซ์ก็ไปสร้างวีรกรรมแบบนั้นไว้กับมันอีก ในสถานภาพตอนนี้มันเป็นต่ออยู่หลายขุมแบบนี้
ผมยิ่งไม่ไว้วางใจ มันต้องมีแผนสักอย่างแน่นอน คนอย่างมัน ไม่ยอมรามือกับอะไรง่ายๆซะด้วยนี่สิ"

"อย่าเพิ่งคิดไปในแง่ลบๆเลยค่ะ เอาเป็นว่าฉันจะช่วยระวังน้องไอซ์ให้อีกแรงนะคะ"

"ขอบคุณมากนะกีส ผมพึ่งพาคุณหลายเรื่องมากๆ"

"ฉันเป็นเมียคุณนี่คะ และก็มีลูกของคุณอยู่ในท้องฉันแล้วด้วย
ฉันน่ะ ยินดีจะให้คุณพึ่งพิงไปตลอดชีวิตค่ะ และฉันน่ะตั้งใจจะดีกับคุณ ฉันจะดีกับคุณไปตลอด"

ขุนพลวางมือลงหน้าท้องของบีลกีสแล้วลูบไล้ไปมาพร้อมรอยยิ้ม

"อยากเจอหน้าเค้าแล้วสิ อยากรู้จังว่าเค้าจะมีหน้าตาน่ารักขนาดไหนนะ"

"ความรักของเราจะทำให้เขาเป็นเด็กที่น่ารักที่สุดในโลกค่ะ" บีลกีสบอกเขาพร้อมกับยิ้มกว้าง

"ใช่ เพราะรัก คุณเลยน่ารักที่สุดในใจผม"ก่อนจะบอกข่าวดีหญิงสาวที่กำลังม้วนต้วนเขินอายอยู่ว่า

"กลับจากการเดินทางครั้งนี้ เราจะย้ายบ้านกันนะ ผมทำเรื่องซื้อบ้านเรียบร้อยแล้ว
รอแค่ย้ายเข้าไปอยู่เท่านั้นนะรู้มั้ย"

"จริงหรอคะ"

"จริงสิ บ้านของเราไงกีส ครอบครัวเรา" บีลกีสดีใจจนถึงกับสวมกอดเขาเอาไว้แน่น

"ฉันจะเตรียมทุกอย่างไว้รอคุณนะคะ น้องไอซ์รู้คงดีใจแน่ๆ ว่าแต่พ่อละคะ รู้รึยัง"

"ผมยังไม่ได้บอกพ่อเลย ว่าจะบอกก่อนออกเดินทาง"

"ท่านคงดีใจแน่ๆค่ะ ฉันมั่นใจ"


อีกฟากของห้องนอน ดุจมณีไม่อาจข่มตาหลับลงได้เพราะบทสนทนานั่นยังวิ่งไปมาในหัวของเธอ
เธอไม่ควรเอาหูไปรับฟังอะไรจากคนคนนั้นเลย ดูก็รู้ว่าเขาไม่ได้หวังดีกับเธอสักนิด
เขามาทำให้เธอรู้สึกแย่ๆกับตัวเองแล้วก็เดินจากไป เขามันร้ายกาจที่สุดเลย

'จะรีบไปไหนล่ะคุณ ช่วงนี้ดูเหมือนคุณจะออกมาจากรู
กลับมาเดินเฉิดฉายกรีดกรายออกงานสังคมหลังจากที่มุดรูหนีใครต่อใครมาตั้งนาน
เป็นไงล่ะ บรรยากาศเดิมๆเก่าๆแบบนี้ ไม่ได้ช่วยกระตุ้นความจำอะไรๆเกี่ยวกับผมบ้างเลยรึไง
ถึงทำเหมือนว่าเราไม่เคยรู้จักกัน ทั้งๆที่คุณน่ะมันนังตัวแสบ'

'ฉันไม่รู้จักคุณ แล้วจะจำคุณได้ยังไงล่ะคะ'

'ไม่เป็นไรหรอก ผมไม่รีบ เพราะผมน่ะมีเวลาให้คุณได้ทำความรู้จักและจดจำผมไปชั่วชีวิตเลยล่ะ'

'แต่ฉันไม่ชอบพฤติกรรมของคุณเลย ไม่ชอบคำพูด ไม่ชอบแววตาคุณ ไม่ชอบสีหน้าที่คุณมองฉัน
ไม่ชอบท่าทางของคุณด้วย'

'แล้วไม่ชอบตัวผมด้วยมั้ย'

'คุณทำตัวไม่น่ารักเลยค่ะ ฉันขอโทษนะคะ ฉันต้องขอตัวก่อน'

'เดี๋ยวสิ คุณไม่คิดว่าผมดูน่าสนใจบ้างเลยหรอ ผมน่ะสามารถเนรมิตคฤหาสน์หลังงามให้คุณ
และเสกให้คุณเป็นเจ้าหญิงได้ในพริบตาเลยนะ และก็ สามารถพาคุณออกท่องเที่ยวไปในที่ต่างๆ
ที่คุณอยากจะไป อยากได้อะไรคุณก็จะได้ดังใจปรารถนา'

'พี่ไนค์บอกว่า ไม่ให้คุยกับคนแปลกหน้าค่ะ เพราะคนแปลกหน้าอาจจะมาหลอกล่อ มาลวง'

'แต่ผมพูดจริง ผมสามารถเนรมิตให้สิ่งเหล่านั้นแก่คุณได้'

'ฉันไม่ต้องการอะไรแบบนั้นจากคนที่ฉันไม่รู้จักอย่างคุณหรอกค่ะ อีกไม่นานพี่ไนค์ก็จะพาฉัน
ไปอยู่บ้านสวยๆแล้วค่ะ'

'อ้อ อย่างนั้นหรอครับ งั้นผมก็ขอแสดงความยินดีล่วงหน้าเลยนะครับ'

'ขอบคุณค่ะ'

'เวลาคุณพูดดีๆ คุณก็ดูดีขึ้นมาเลยค่ะ ขอบคุณอีกครั้งนะคะที่พูดกับฉันดีๆแบบเมื่อกี้'

'คุณชอบคนพูดเพราะๆหรอ'

'ใช่ค่ะ'

'งั้นต่อไป ผมจะพูดเพราะๆกับคุณนะครับคุณไอซ์'

'ขอบคุณค่ะ'

'คุณรู้มั้ย ว่านี่คือ ยิ้มครั้งแรกที่คุณยิ้มให้ผม และมันเป็นรอยยิ้มที่สวยงามที่สุดเท่าที่ผมเคยเห็นมา'

'ไม่เคยมีใครยิ้มสวยๆให้คุณเลยหรอคะ'

'มีครับ แต่ไม่มีใครยิ้มให้ผมได้สวยเท่าคุณเลยครับ'

'ตอนนี้ คุณกลายเป็นคนปากหวานไปแล้วค่ะ'

'แล้วคุณชอบมั้ยล่ะครับ'

'ชอบค่ะ ฉันชอบคนพูดเพราะๆ พูดดีๆ พูดหวานๆค่ะ'

'ผมก็ชอบที่คุณเป็นคุณในตอนนี้มากๆเลยนะ'

'พี่ไนค์บอกว่า ฉันเหมือนเด็กสาววัยมัธยมต้นค่ะ'

'ผมก็ว่าอย่างนั้นนะ'

'งั้นฉันขอตัวนะคะ พี่ไนค์คงรอนานแล้วค่ะ'

'แล้วเจอกันนะครับ'

'เราจะเจอกันอีกหรอคะ'

'แน่นอนที่สุด เพราะคุณ คือ ของผมเท่านั้น'

'หมายความว่าไงคะ'

'ก็หมายความว่า คุณหนีผมไม่พ้นหรอก ผมน่ะล้อมชีวิตคุณไว้หมดแล้วรู้มั้ยครับ'

'ล้อมชีวิตหรอคะ'

'ใช่ครับ และพี่ไนค์ของคุณก็คงทำอะไรไม่ได้มากไปกว่าส่งคุณกลับให้เจ้าของอย่างผมเท่านั้น'

'ฉันเป็นของคุณหรอคะ'

'ดูคุณจะเริ่มเข้าใจง่ายและเร็วขึ้นมากเลยนะครับ'

'แต่ฉันไม่เข้าใจ ทำไมฉันถึงเป็นของคุณ'

'เพราะผมกำหนดมันให้คุณไงล่ะครับ'

'คุณพูดอะไรของคุณ ปวดหัวจังเลยค่ะ'

เธอจำได้ว่าตอนนั้นเธอปวดหัวขึ้นมา และยิ่งปวดหัวขึ้นเรื่อยๆจนรู้สึกวูบๆ จนพี่ปองขวัญเดินมาหา
มาประคองเธอเอาไว้ และพาเธอกลับมายังที่นั่งในงาน เธอไม่น่าออกไปยืนรับลมด้านนอกตรงนั้นเลย
ไม่น่าเลย และเขาคือใครกันนะ ทำไมเธอถึงได้รู้สึกคุ้นๆ และทำไมเขาถึงพูดแบบนั้นกับเธอด้วย
มันหมายความว่ายังไงกันแน่ ทำไมมันถึงได้เข้าใจยาก ทำไมเขาถึงพูดอะไรที่เข้าใจและฟังแล้วสับสน
อย่างนั้น เขาเป็นคนดีหรือคนร้ายนะ แต่เค้าร้ายกาจมากเลย เขาทำให้เธอปวดหัวมากๆ

............................................

อีกฟากของเมืองกรุง ณ คฤหาสน์หลังงาม

"พี่กำลังทำอะไรของพี่" เสียงนั้นหยุดฝีเท้าที่กำลังจะเดินไปยังบันไดเพื่อขึ้นไปยังห้องนอน

"แล้วแกเห็นฉันทำอะไรล่ะคี" คีตาเดินมาดักหน้าใช้ร่างที่บางกว่าขวางพี่ชายของตนเองไว้

"ผมชอบเธอ ถ้าพี่ไม่ได้จริงใจกับเธอ ได้โปรดอย่าทำอะไรเธอเลยได้มั้ย

ผมชอบเธอพี่ได้ยินมั้ย"

"แล้วไงล่ะ แกชอบเธอได้คนเดียวรึไง"

"ผมไม่เชื่อว่าพี่จะรักและจริงใจหรือคิดจะจริงจังกับไอซ์"

"ฉันจะคิดจะรู้สึกยังไงมันก็เรื่องของฉัน แกไม่เกี่ยว"

"ผมขอล่ะพี่ฆินทร์ พี่ก็รู้ว่าไอซ์เค้าต้องเจอกับอะไรมาบ้าง

เค้าเจ็บปวดมามากขนาดไหน พี่อย่าทำไรเค้าอีกเลยนะพี่ฆินทร์

ปล่อยเค้าไปได้มั้ย เค้าก็ได้ชดใช้ให้พี่ไปแล้วด้วยกับความเจ็บปวดทั้งหมดนั้น

พอเถอะนะพี่ฆินทร์ ผมขอร้อง"

"ทำไมแกถึงคิดว่าพี่จะทำร้ายเธอล่ะ พี่น่ะ ต้องการมอบความสุขให้กับเธอต่างหาก"

"ถ้าพี่ไม่ชอบไม่รักเธอ ก็ปล่อยเธอให้ผม ผมสัญญาว่าจะไม่พาเธอมาให้พี่เห็นหน้า

จะพาเธอไปอยู่ต่างประเทศ ในที่ที่พี่จะไม่ต้องเจอะเจอเธออีกเลย"

"เสียใจคี แกเลิกชอบคนอย่างเธอซะเถอะนะ ผู้หญิงคนนี้แสบเกินที่แกจะรับมือไหว"

"แต่เธอก็ไม่ได้เหมือนเธอคนเดิมในอดีตอีกแล้วนะครับพี่"

"ใช่ เธอในตอนนี้ยังไม่ใช่ แต่อีกไม่นานหรอก เธอคนเดิมก็จะกลับมาแล้ว

กลับมาให้คนอย่างฉันสะสางทุกอย่างให้สิ้นซากไปสักที"

"พี่แค้นเธอผมรู้ แต่ให้อภัยเธอไม่ได้หรอพี่ฆินทร์"

"ไม่มีทาง!!!"

"งั้นผมจะขวางทางพี่เอง"

"แกควรเอาชีวิตดีๆของแกไปใช้บนเส้นทางดีๆของแกนะคี อย่ามาข้องเกี่ยวเรื่องระหว่างฉันและเธอ

ยังไงๆ ฉันก็จะต้องสะสาง"

"แล้วพี่จะเสียใจ พี่จำผมไว้นะว่าคนที่จะเสียใจที่สุดก็คือ พี่"

"ฉันจะไม่เสียใจอีกแล้วล่ะคี มีแต่ดุจมณีเท่านั้นที่จะต้องเสียใจ

เสียใจไปชั่วชีวิต และจะไม่มีวันลืมฉันไปจนชั่วนิรันดร์ สิ่งที่เธอต้องจ่ายให้ฉันไม่ใช่ความเจ็บ

แต่คือ ความอับอายและความเสียใจที่ไร้จุดจบ"






.......................โปรดติดตามตอนต่อไป...........................



yoraya
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 14 ก.ค. 2566, 00:25:22 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 14 ก.ค. 2566, 00:59:54 น.

จำนวนการเข้าชม : 223





<< บทที่ 16 คือเธอ   บทที่ 18 เครื่องบรรณการ >>
เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account