เศษหนึ่งส่วนสองยกกำลังศูนย์

เป็นเรื่องราวของคนหน้าตาไม่เข้าตา ไม่เป็นที่นิยม
ไม่ฮิต ไม่ฮอตของคนสองคน...
ที่ไม่สมบูรณ์แบบ มีตำหนิ...ภาพประวัติไม่สวยงาม...
แต่นิสัยที่ซ่อนไว้ค่อนข้างสวยสดงดงาม...
แฝงไว้ด้วยเสน่ห์แห่งการมีชีวิต...การสร้างครอบครัว


เศษหนึ่งส่วนสอง หรือ ครึ่งหนึ่งของชีวิตหนึ่ง
มาพบกับ อีกครึ่งหนึ่งของอีกชีวิตหนึ่ง
แล้วยกกำลังด้วยศูนย์...

เลขศูนย์ที่ดูไร้ค่า ไร้ความหมาย แค่เลขกลมๆเลขนึง

หากมันได้ทำให้ เศษหนึ่งส่วนสองยกกำลังศูนย์
มีค่าเท่ากับ หนึ่งได้!

สมการทางคณิตศาสตร์ที่น่าพิศวงนี้
นำมาสู่สมการของความรักของทั้งสอง...

ทั้งคู่ที่ชีวิตไม่สมบูรณ์แบบและมีตำหนิ
จะหล่อหลอมเป็นหนึ่งเดียวได้อย่างไร...

เรื่องนี้มีคำตอบ!!!


Tags: ดราม่า ขุนพล ไนค์ บิลกีส

ตอน: บทที่ 24 ดุจเจ้าหญิง


งานแต่งงานถูกจัดขึ้นอย่างอลังการในคฤหาสน์หรูของตระกูลฝ่ายเจ้าบ่าว
ที่บัดนี้ถูกเนรมิตให้กลายเป็นสีชมพูทั้งงาน ซึ่งเป็นสีโปรดของเจ้าสาว
ฆินทร์ ที่ตอนนี้อยู่ในชุดเจ้าชายอาหรับกำลังยืนอย่างองอาจสง่ายิ่งกว่าวันใดในชีวิต
รอรับเจ้าสาวที่กำลังถูกพี่สะใภ้ซึ่งกำลังท้องใหญ่ใกล้คลอดในชุดเพื่อนเจ้าสาวสีชมพูอ่อน
จูงมือข้างซ้ายของเธอไว้ มีพี่ชายในชุดโตปสีขาวสง่างามจูงมือข้างขวาของเจ้าสาวเอาไว้มั่น
ด้วยความหวงแหนและทะนุถนอม

ฆินทร์มองเจ้าสาวด้วยความตกตะลึง วันนี้เธออยู่ในชุดเจ้าสาวที่เธอเป็นคนออกแบบเองทั้งหมด
และมิได้ปิดหน้าอันงดงามสะกดจิตนั่นเอาไว้ เพราะมารดาของเขาขอเอาไว้ว่า
อยากเปิดตัวให้ใครๆ ได้รู้จักลูกสะใภ้คนโตของตนที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นหญิงงามล่มเมืองที่มีชื่อเสียงโด่งดัง
คับฟ้าเมืองไทย เลื่องลือนามในความงาม สตรีที่สวยไปทั้งตัว รูปหน้าเค้าโครงทุกอย่างไร้ที่ติ
รูปร่างที่สวยสง่าสมส่วนประณีตยากจะหาหญิงใดเทียบเทียมได้ แม้กระทั่งในบรรดาดารา นักร้อง นางแบบ
ก็หาใครที่จะสวยครบจบในคนคนเดียวกันได้เฉกเช่นดุจมณี ก็หามีไม่ ทั้งในอดีตแลปัจจุบัน
ก็ยังหาหญิงใดในดินแดนนี้เทียบเทียมทัน และด้วยกับความงามล่มเมืองของหญิงสาว จึงทำให้ชีวิตเกิดความ
ไม่ปกติสุขมาโดยตลอด ต้องผจญกับความวุ่นวายนานัปการ จนกระทั่งครอบครัวล้มครืน สูญเสียมารดา
และตระกูลถูกริบทรัพย์สินทั้งหมด สิ้นชื่อเสียง และเงินทองไปในชั่วพริบตา ชีวิตที่สุขสบายราวกับเจ้าหญิง
สวยสง่างามดุจดั่งนางหงส์ก็กลายเป็นหงส์ถูกเด็ดปีก จนต้องซมซานไร้กำลังจะบิน


ซึ่งมารดาของฆินทร์ต้องการให้ผู้คนได้จดจำลูกสะใภ้ของตนในภาพลักษณ์ใหม่ ที่สวยสง่าและงดงาม
ยิ่งกว่าในอดีต เพราะเธอในวันนี้ มีหัวใจที่สดใส ร่าเริง เบิกบาน มีรอยยิ้มที่ไร้เดียงสาราวกับ
ดอกไม้แรกแย้ม มีความเป็นมิตร อารมณ์ดี และพร้อมจะแบ่งปันความสุขให้คนรอบตัว
เพื่อดับข่าวร้ายในอดีตของดุจมณีและครอบครัวไปให้หมดสิ้น เธอจะได้เริ่มต้นชีวิตใหม่ในสังคมได้อย่างราบรื่นเสียที

มิต้องหลบซ่อนตัวซ่อนชื่ออย่างที่ผ่านมาอีกต่อไป

'จากนี้ไป เรามาเริ่มต้นใหม่ไปด้วยกันนะหนูไอซ์ แม่ดีใจที่ได้หนูมาเป็นลูกอีกคน
แม่น่ะมีแค่ลูกชาย คราวนี้ได้ลูกสาวที่ทั้งสวยและน่ารักมาอยู่ด้วยกัน นับเป็นความโชคดีของครอบครัวเรา'
นั่นคือประโยคที่มารดาของเขาได้กล่าวรับขวัญลูกสะใภ้ใหญ่ในวันที่เขาพาเธอกลับมาจากสิงคโปร์

"ว่าไงคะท่านนายพราน" ดุจมณีกล่าวพร้อมรอยยิ้มสดใสเมื่อเดินมาหยุดยืนตรงหน้าของเจ้าบ่าว
ของตนที่กำลังจ้องเธอราวกับจะจ้องให้ทะลุทะลวง

"อะ อะไรนะครับ" หญิงสาวหัวเราะน้อยๆ เมื่อเห็นท่าทางเสียทรงของคนที่เก็บทรงได้ดีมาโดยตลอด

"ก็...นายพรานคนนี้ไม่ใช่หรือคะที่จับหงส์อย่างไอซ์ซะจนบินไปไหนไม่ได้อีกแล้ว"

"หงส์หรือห่านเอาให้แน่" ขุนพลเย้าแหย่น้องสาว ดุจมณีเลยส่งค้อนงามๆ ให้พี่ชายหนึ่งวง
ก่อนจะพูดเจือรอยยิ้มขันว่า

"ก็ไอซ์ได้ยินนี่นา ว่าใครๆ ก็พูดกันว่า นางหงส์กลับวัง"

"วังหรือรังเอาให้แน่" คราวนี้เป็นฆินทร์ที่เอ่ยขึ้นพลางยิ้มอ่อนๆ ให้เจ้าสาวที่สวยปักใจเขายิ่งนัก
ก่อนจะกระซิบเบาๆ ข้างๆ หูดุจมณีว่า

"คืนนี้ จะหาข้ออ้างหนีห้องหอเหมือนที่ผ่านมาไม่ได้แล้วนะครับ พี่จะไม่ทนแล้วนะรู้มั้ย"

คนฟังถึงกับแก้มแดงระเรื่อขึ้นมาทันที บิลกีสที่ยืนอยู่ข้างๆ ดุจมณีถึงกับยิ้มขันเมื่อได้ยินประโยคนั้นกระแทกหูตน

ซึ่งตนเองรู้มาโดยตลอดว่าทั้งสองคนนี้เข้าพิธีนิกะห์เป็นสามีภรรยากันมาสองเดือนแล้ว

แต่ดุจมณียังไม่ยอมย้ายไปอยู่กับสามียังคงหาข้ออ้างสารพัดอย่างเพื่อที่จะขออยู่บ้านพี่ชายต่อ

โดยอ้างว่า ค่อยเข้าหอหลังวันจัดงานแต่งงาน
ซึ่งทางสามีก็ดูจะยินยอมที่จะอดทนรอจนมาถึงวันนี้ แม้ว่าจะต้องเทียวไปเทียวมาระหว่างบ้านตนเอง
ที่ทำงาน และบ้านขุนพลแทบทุกวันตลอดสองเดือนที่ผ่านมาก็ตาม

เธอล่ะเอ็นดูในความน่ารักของฆินทร์ที่ไม่เคยคิดว่า ชายผู้นี้จะดูแลใส่ใจดุจมณีได้อย่างน่ารัก
จนน้องสามีของเธอใจอ่อนลงฮวบๆ ทำให้ดุจมณีสดใสร่าเริง และอารมณ์ดี สุขภาพจิตดีขึ้นแบบก้าวกระโดด

"พี่ฆินทร์น่ารักออกขนาดนี้ ไอซ์จะแจกรางวัลรัวๆ เลยค่ะ คอยดู ฮ่าๆๆๆ" ดุจมณีหัวเราะน้อยๆ
ก่อนจะยกมือปิดปากปิดหน้าแดงๆ ของตัวเอง ทำเอาทั้งสามคนที่มองภาพนั้นอย่างเอ็นดูปนขำขัน
ฆินทร์รับมือบางของดุจมณีจากมือของขุนพลมากุมเอาไว้

"ฝากไอซ์ด้วยนะฆินทร์ รับมือให้ไหวด้วยล่ะ"

"ฉันจะดูแลไอซ์อย่างดี ฉันสัญญา ส่วนเรื่องรับมือนั้นยังไม่รู้จะทำได้แค่ไหน"

"อย่าเกเรกับพี่เค้านะคะน้องไอซ์ และต้องไม่ประชดประชันกันด้วยไม่ว่าจะอย่างไร" บิลกีสสะกิดบอกดุจมณี

"ไอซ์น่ะไม่เกเรหรอกค่ะ จะทำตัวน่ารักๆ ให้พี่ฆินทร์หลงหัวปักหัวปำไปเลย"

"ทำให้ได้อย่างพูดเถอะเราน่ะ" ขุนพลอดไม่ได้ที่จะแหย่น้องสาวที่วันนี้สวยกว่าทุกๆ วัน
และเขาไม่คิดว่า น้องสาวที่ทั้งรักทั้งห่วงคนนี้จะมีคนมารับไม้ต่อจากเขา คนที่เขาไม่เคยคิดว่า
จะยกน้องสาวให้ได้เลยจริงๆ

"หายห่วงค่ะพี่ไนค์ ไอซ์จะดูแลพี่ฆินทร์อย่างดี พี่ไนค์ไม่ต้องกังวลไปนะคะว่าพี่ฆินทร์จะส่งไอซ์คืนพี่ไนค์

เพราะไอซ์กลับบ้านพี่ไนค์ถูกค่ะ นั่งรถไปไม่หลงแน่นอน"

ประโยคนี้เล่นเอาทั้งขุนพลและฆินทร์ถึงกับหัวเราะขำออกมาอย่างห้ามไม่อยู่

"พี่ไนค์นั่นแหละ ต้องดูแลพี่กีสให้ดีๆๆๆๆ ด้วย ไอซ์ไม่อยู่ด้วยแล้ว พี่กีสจะเหงาเอาได้นะคะ

เนี่ยจะใกล้คลอดแล้วแบบนี้ยิ่งต้องดูแล ห้ามไปทำงานไกลๆ ในช่วงนี้นะคะรู้มั้ย

ไม่งั้นไอซ์จะยึดพี่กีส เอาพี่กีสมาอยู่ด้วยซะเลย"

บิลกีสยิ้มขันอย่างอารมณ์ดีเป็นพิเศษ ก่อนจะหอมแก้มดุจมณีฟอดนึง

"ขอบคุณน้องไอซ์นะคะที่เตือนพี่ไนค์เค้า รายนี้น่ะ บ้างานเป็นที่สุด ถ้าคลั่งรักได้เท่ากับคลั่งงาน
ก็คงจะดี และพูดน้อยอีก น้องไอซ์ไม่อยู่พี่เหงาแน่ๆเลย"

"อย่า อย่า มารุมกันตรงนี้ เดี๋ยวกลับบ้านไป เจอคนคลั่งรักแน่ๆ กีสจัง" ขุนพลไม่ยอมรามือง่ายๆ
จัดการขู่ภรรยาที่ตอนนี้ยืนยิ้มอย่างสบายใจ ก่อนจะคว้ามือนั้นมากุมไว้แล้วพยักพเยิดไปทาง
น้องเขย

"เราปล่อยให้เขาสองคนออกไปรับแขกกันเถอะ เธอเองจะได้นั่งพักขา ไม่เมื่อยรึไง"

"ดีเหมือนกันค่ะ นี่ก็ชักจะเมื่อยขาขึ้นมาทันที กลัวจะคลอดวันนี้จังค่ะ มันรู้สึกสังหรณ์ยังไงไม่รู้"

"คิดมาก คุณน่ะกำหนดคลอดอีกหลายวัน"

"พี่กีสอย่ากังวลไปเลยค่ะ ถ้าพี่กีสคลอดวันนี้ ไอซ์จะได้ไปนอนเฝ้าดูหน้าหลานให้หายคิดถึง
ละก็จะได้ไม่ต้องเข้าหอ ดีไปอีก" นั่นไง นั่นปะไร

"มีคนดิ้นแน่ๆ งานนี้" บิลกีสหันไปขำกับขุนพลเมื่อเห็นสีหน้าของฆินทร์

"หลานดิ้นแน่ๆ ใช่มั้ยคะ"

"นู้น ดูหน้าคนข้างๆ บ้างค่ะ" ดุจมณีหันไปมองคนที่กุมมือเธอไว้จนอุ่น

"โอ๋ ไอซ์หยอกพี่ฆินทร์หรอกค่ะ เพราะยังไงๆ พี่กีสก็คงไม่คลอดวันนี้หรอกเนอะ"

"ไปรับแขกได้แล้วไป รั้งๆ รอๆ เดี๋ยวแขกจะคิดว่าเจ้าสาวแอบย่องหนีออกจากงาน"

"ก็ได้ค่ะ พี่ไนค์ก็พาพี่กีสไปพักที่ห้องก่อนนะคะ ดูท่าพี่กีสจะเดินไม่ค่อยจะไหวแล้ว"

เท่านั้นแหละ ต่างฝ่ายต่างก็แยกย้ายกันไป ฆินทร์หันไปยิ้มหวานกระชากใจสาวให้กับเจ้าสาวแสนสวย
ของเขาที่วันนี้สวยบาดตาบาดใจเขาเหลือเกิน เขาไม่คิดว่าเขาจะอดทนมาได้นานขนาดนี้ด้วยซ้ำ
เพราะดุจมณีช่างดึงดูดกายและใจเขาอย่างรุนแรงมาโดยตลอด ยิ่งพอออกไปรับหน้าแขกเหรื่อ
มากมายที่มาร่วมงาน แต่ละสายตาก็มองภรรยาของเขาด้วยแววตาที่เขาก็อ่านออกว่าชมชอบ
ในความงามและน่ารักของเธอ ต่อไป เขาตัดสินใจแล้วว่า จะไม่ให้เธอต้องตกเป็นเป้าสายตา
ของชายอื่นๆ นับร้อยนับพันแบบนี้อีก เขาจะปกป้องเธอจากสายตาของบุรุษที่จ้องมองมาให้เป็นอย่างดี

"พี่ฆินทร์ขา ไอซ์ปวดขามากเลยค่ะ จะเดินไม่ไหวแล้วค่ะ" ดุจมณีส่งเสียงอ้อนฆินทร์เบาๆ หลังจากที่
เดินรับแขกในงานมาครึ่งค่อนวันแล้ว

"เดี๋ยวพี่พาไปนั่งพักตรงนั้นนะครับ" ว่าแล้วก็รีบประคองร่างงามไปนั่งยังที่นั่งที่ค่อนข้างลับตาผู้คน
เพราะต้องการความเป็นส่วนตัวและการพักผ่อน

"ปวดขามากมั้ยครับ" เสียงนุ่มถามอย่างอ่อนโยนสุภาพพร้อมกับนั่งคุกเข่าลงตรงหน้าดุจมณี
ที่กำลังนั่งบนที่นั่ง แล้วถอดรองเท้าหญิงสาวออกมาวางไว้ข้างๆ จากนั้นก็ค่อยๆ นวดเท้า
นวดขาให้ ดุจมณีมองคนที่ก้มหน้าก้มตาช่วยเธอคลายปวดกล้ามเนื้อตรงเท้ากับขาด้วยรอยยิ้มบาง

"พี่ฆินทร์เคยเบื่อมั้ยคะที่ต้องน่ารักแบบนี้" ถ้อยคำนี้ทำให้คนที่เอาแต่ก้มหน้าถึงกับเงยหน้าขึ้นมอง
เจ้าของขาที่เขากำลังนวดอยู่ ก่อนจะยิ้มกว้าง ยักคิ้วให้หญิงสาวแล้วพูดหนักๆ ว่า

"ไม่เบื่อเลยครับ"

"งั้น ห้ามเบื่อนะคะ" ดุจมณีจ้องฆินทร์ด้วยแววตาหวานหยดทีเดียว

"หนูก็ต้องไม่เบื่อที่จะทำตัวน่ารักและขี้อ้อนพี่ด้วยนะครับ"
ดุจมณีถึงกับห่อปากกับคำที่เขาใช้เรียกแทนเธอว่า 'หนู' ทำเอาหัวใจน้อยๆ ถึงกับสั่นอีกแล้ว

"รู้ใช่มั้ยครับว่าพี่ต้องอดทน ต้องควบคุมตัวเองแค่ไหนที่ผ่านมา"

"ไอซ์น่ะรู้หรอกว่าพี่ฆินทร์คิดอะไร รู้สึกยังไง แต่ไอซ์อ่ะชอบแกล้งพี่ฆินทร์ อยากเห็นพี่ฆินทร์เวลา
อดทนอดกลั้น ข่มจิตข่มใจเพื่อรักษาคำพูดที่ไอซ์ขอเอาไว้ มันดูน่ารักน่าหยิกน่าแกล้งที่สุดเลย"

"เลิกแกล้งพี่ได้แล้วนะครับ"

"อ่ะ งั้นตอนนี้ยอมให้พี่ฆินทร์หอมก็ได้ค่ะ" ว่าแล้วก็ยื่นแก้มซ้ายให้ฆินทร์ ชายหนุ่มถึงกับยิ้มกว้าง
แต่ก็อดใจไม่ไหว กดจมูกลงบนพวงแก้มนั้นหนักๆ ก่อนจะย้ายจมูกไปยังแก้มอีกข้างของดุจมณี
แล้วแตะริมฝีปากเบาๆ ตรงกลางหน้าผาก ก่อนจะปัดผ่านๆ ริมฝีปากอิ่มสวยได้รูปนั้น
เพราะกลัวตบะจะแตกก่อนงานจะเลิก

"ยั่วพี่มากเลยนะครับรู้มั้ย ยั่วแบบนี้ไม่กลัวจะเจอรางวัลใหญ่บ้างรึไง"

"ไม่กลัวหรอกค่ะ เพราะพี่กีสน่าจะคลอดคืนนี้ ฮ่าๆๆๆ"

"พี่ก็จะปล้ำหนูคืนนี้เหมือนกัน ฮ่าๆๆๆ"

"ไม่เห็นจะกลัวเลย หนูตัวนี้ไม่กลัวแมวเลยสักนิด"

"พี่จะคอยดู" เสียงนั้นช่างฟังดูแล้วขนลุกอย่างไรก็ไม่รู้สิ ควรจะไปกระตุกหนวดปลาหมึกแบบนั้นหรือเรา
ถ้าโดนหนวดหมึกพันทั้งตัวขึ้นมา คราวนี้ล่ะ โดนกินแน่ๆ


แล้วตามคาด บิลกีสปวดท้องตอนงานแต่งงานเลิกราส่งแขกกลับกันหมดพอดิบพอดี
ทำให้ดุจมณีและฆินทร์รีบเปลี่ยนชุดแล้วไปรอที่หน้าห้องคลอดโดยที่ขุนพลยืนรออย่างกระวนกระวาย
เดินกระสับกระส่ายไปมาไม่ยอมหยุด

"นั่งก่อนเถอะค่ะพี่ไนค์ พี่กีสไม่เป็นไรหรอกค่ะ" ดุจมณีคว้าแขนพี่ชายให้หยุดเดินแล้วรั้งบ่า
ให้นั่งลง

"พี่ตื่นเต้นจนทำไรไม่ถูกแล้วน่ะสิ กีสเข้าไปตั้งนานแล้ว พี่จะขอหมอเข้าไปด้วยก็ไม่กล้า
กลัวเมาเลือด" ใครจะรู้ว่าผู้ชายอกสามศอก ตัวโตอย่างกะช้างก็เมาเลือดและกลัวเข็มเป็นที่สุด

"ดีแล้วค่ะ เดี๋ยวจะเป็นลมในห้องคลอดแล้วลำบากหมอเปล่าๆ ค่ะ" ดุจมณีไม่วายหาเรื่องหยอกพี่ชาย
ให้คลายความกังวล ส่วนฆินทร์นั่งฟังนั่งดูสองพี่น้องคุยกันเงียบๆ มีรอยยิ้มน้อยๆ ตรงมุมปาก

"นั่นไง หมอออกมาแล้ว" ดุจมณีรีบลุกไปหาหมอทันที

"เป็นไงบ้างครับหมอ" ขุนพลรีบถามด้วยความตื่นเต้นอย่างที่สุด ไม่เคยมีครั้งไหนในชีวิต
ที่เขาจะตื่นเต้นเท่านี้มาก่อน

"คุณเป็นพ่อของเด็กใช่มั้ยคะ"

"ใช่ครับ"

"เด็กปลอดภัยค่ะ เป็นเพศชาย ส่วนคุณแม่มีอาการอ่อนเพลีย เพราะเสียเลือดมาก
แต่ไม่ต้องกังวลไปนะคะ อีกเดี๋ยวก็คงจะตื่น"

..............................

ห้องพักฟื้น

"อุ๊ย น่ารักน่าชังจริงๆ เลยหลานอา" ดุจมณีที่มีอาการเห่อหลานชายถึงกับไม่ยอมปล่อยหลาน
ด้วยการอุ้มไว้ตลอด แล้วก็เดินไปเดินมาให้ห้องพิเศษ

"วางหลานลงบ้างเถอะไอซ์ พ่อเขาคงอยากอุ้มลูกเขาบ้าง" ฆินทร์อดไม่ไหวที่จะส่ายหน้าให้กับ
คนที่ดูจะอยากได้หลานมาเป็นลูกตัวเอง

"พี่ไนค์กล้าอุ้มซะที่ไหนละคะ ดูก็รู้ว่ากลัวทำลูกหลุดมือชัดๆ" ดุจมณีไม่วายกระเซ้าเย้าแหย่พี่ชาย
ที่ดูจะอยากอุ้มลูกใจจะขาดแต่ก็ไม่กล้าอุ้ม ส่วนบิลกีสยังคงหลับอยู่ ยังไม่ตื่นเลยตั้งแต่ออกมาจาก
ห้องคลอด

"ก็เจ้าตัวเล็กตัวนิดเดียว พี่ก็ไม่เคยอุ้มเด็กเล็กขนาดนี้มาก่อน พี่ต้องทำไงดีล่ะ"

"ยื่นสองแขนมาค่ะ เดี๋ยวไอซ์สอนให้" ว่าแล้วก็จัดการสอนพี่ชายให้อุ้มลูกจนสำเร็จ
ก่อนจะหัวเราะชอบใจที่เห็นพี่ชายมีท่าทีเก้ๆ กังๆ สิ้นท่า สิ้นลาย เสียทรง

"พี่ฆินทร์ล่ะคะ ไม่ลองอุ้มดูสักหน่อยหรือคะ"

"ไม่อ่ะ พี่กลัวทำลูกเค้าตก เดี๋ยวจะชดใช้คืนไม่ได้"

"พี่ฆินทร์ก็คิดมาก อย่ากังวลเรื่องนี้ไปเลย ไอซ์จะช่วยพี่ฆินทร์ชดใช้คืนให้เองค่ะ"

"ฮึๆๆๆ ชดใช้คืนยังไงครับ"

"ก็ยกลูกเราให้พี่กีสแทนไง" พูดจบปุ๊บก็นึกขึ้นได้ ก่อนจะรีบงับปากตัวเองไม่ให้พูดต่อ
จากนั้นก็หันหน้าเข้าหาฝาผนังห้อง แล้วมุดหน้าลงไป อยากจะฝังหน้าแดงๆ ร้อนๆ นี้ลงไปในฝาผนังจริงๆ เลย
เมื่อกี้เธอพูดอะไรออกไปนะ

ในขณะที่ขุนพลไม่รับรู้สิ่งใดแล้วนอกจากจ้องมองใบหน้าลูกชาย
ที่เขาเฝ้ารอคอยมาตลอดอย่างมีความสุข อิ่มเอมใจ ก่อนจะหันไปทางบิลกีส
อยากจะขอบคุณเธอสักล้านครั้งให้สมกับความรักความจริงใจและความอดทนอันมากมาย
ที่เธอมีต่อเขามาโดยตลอด นับวันเขายิ่งรู้สึกรักเธอจนตอนนี้เขามิอาจคำนวณนับได้อีกแล้วว่ารักเธอ
มากขนาดไหน

"เป็นไงบ้างคะ สุดยอดไปเลยใช่มั้ยพี่ไนค์" ดุจมณีเข้ามาใกล้พี่ชายแล้วก้มลงมองหลาน
ที่นอนอยู่ในอ้อมอกอันกว้างใหญ่ของคนเป็นพ่อ แล้วใช้นิ้วชี้เขี่ยแก้มย้วยนั้นเบาๆ อย่างมันเขี้ยว
ระคนเอ็นดู

"กลับบ้านเถอะไอซ์ ทางนี้ไว้พี่จัดการเอง จะได้พักผ่อนกัน เหนื่อยกันมาทั้งวันแล้วไม่ใช่หรือ"

ดุจมณีทำหน้ากระเง้ากระงอด ไม่อยากจากหลานไป อย่างน้อยก็อยากรอให้บิลกีสตื่นก่อน

"กว่าพี่กีสเราจะตื่นก็อาจจะตอนเช้าก็ได้" ว่าแล้วก็หันไปทางฆินทร์ที่ตอนนี้นั่งหลับอยู่บนโซฟา
ไปเสียแล้ว

"งั้นก็ได้ค่ะ พี่ฆินทร์เองจะได้พักผ่อนด้วย คงจะเหนื่อยล้ามากจริงๆ ถึงได้หลับไปทั้งอย่างนั้น"

"พรุ่งนี้ค่อยมาอีกก็ได้ ไปพักผ่อนเถอะ เดี๋ยวพี่เองก็จะของีบสักหน่อยด้วย"

"แล้วไอซ์จะมาเยี่ยมนะคะพรุ่งนี้" แล้วก็หันไปทางหลานชายแล้วบอกลา

"อาไปก่อนนะครับคนดีของอา แล้วพรุ่งนี้อาจะมาหา" จากนั้นจึงได้ไปนั่งข้างๆ ฆินทร์
ลูบแขนเขาเบาๆ ปลุกเขาให้กลับบ้านด้วยกัน ชายหนุ่มตื่นขึ้นมาแล้วร่ำลาขุนพล
ก่อนจะหาอะไรร้อนๆ ดื่มก่อนขับรถกลับบ้าน

.................โปรดติดตามตอนต่อไป......................

ตอนหน้าก็ตอนจบแล้วนะคะ ขอกำลังใจให้เต่าโยหน่อยน้าาาาา












yoraya
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 8 พ.ย. 2566, 23:17:46 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 8 พ.ย. 2566, 23:18:33 น.

จำนวนการเข้าชม : 139





<< บทที่ 23 ความงาม   ตอนจบ อัรรอยฮาน >>
เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account