Valensole ลาเวนเดอร์...ที่รัก
ความรักระหว่าง 'วาลองโซล' หนุ่มฝรั่งเศสผู้ไม่เคยแพ้
กับ 'ลาเวนเดอร์' หรือ 'น้องลา' สาวญี่ปุ่น ผู้หญิงขี้แพ้
วาลองโซล คือ ดินแดนแห่งการเดินทางของลาเวนเดอร์
ที่ที่ลาเวนเดอร์บานสะพรั่งสวยงามแต่งแต้มผืนดิน
เป็นสีม่วงคราม...งดงามจับใจ
กับ 'ลาเวนเดอร์' หรือ 'น้องลา' สาวญี่ปุ่น ผู้หญิงขี้แพ้
วาลองโซล คือ ดินแดนแห่งการเดินทางของลาเวนเดอร์
ที่ที่ลาเวนเดอร์บานสะพรั่งสวยงามแต่งแต้มผืนดิน
เป็นสีม่วงคราม...งดงามจับใจ
Tags: แต่งก่อนจีบ ไสยศาสตร์ มนต์ดำ รักแท้
ตอน: บทที่ 5 บ้านร้างญี่ปุ่น (2)
ลาเวนเดอร์ที่เห็นเงาดำในส่วนของห้องครัวกับเสียงนกกระพือปีกบนชั้นสองตกใจถึงกับทำมือถือตกพื้น
แล้วรีบวิ่งเข้าไปในห้องครัว ก่อนจะถูกลมหอบใหญ่พัดตีหน้าแสกจนสลบล้มตึงไปกับพื้น
ตื่นขึ้นมาอีกครั้งก็พบว่าตนเองนอนบนพื้นเยียบเย็นในห้องครัวของบ้านร้างหลังเดิม มีไฟสีส้ม
ที่เธอเปิดทิ้งไว้ส่องแสงทำให้มองเห็นสิ่งต่างๆ รอบตัว ไม่แน่ใจว่าตัวเองหลับไปนานแค่ไหน
จึงเดินไปหามือถือที่ดับไปเพราะแบตเตอรี่หมด
พอเสียบสายชาร์ตเสร็จก็เปิดเครื่องเห็นว่าเป็นเวลาเที่ยงคืนแล้ว
และเธอยังไม่ได้กินอะไรเลย มีเพียงขนมปังก้อนนึง
ที่ติดกระเป๋ามา กับน้ำเปล่าเพียงขวดเดียว เดินไปเปิดตู้เย็นเก่าๆก็ไม่เจออะไรในนั้น
แถมยังมีกลิ่นอับชื้นขั้นรุนแรวออกมาจากตู้เย็นนี้อีก
นี่เธอต้องซื้อตู้เย็นใหม่หรือเนี่ย
และเมื่อเดินสำรวจภายในบ้านพร้อมกับทบทวนเรื่องที่เธอเพิ่งเจอไป
หญิงสาวก็ถึงกับส่ายหน้าอย่างหนักใจ เจ้าของที่ดูจะแรงกว่าที่คิด รับน้องแรงขนาดนี้
เธอเริ่มไม่แน่ใจแล้วสิว่า สองเดือนที่ต้องอยู่ที่นี่จะง่ายดายหรือยากลำบาก
แต่ดูไปแล้ว กว่าจะผ่านไปได้แต่ละคืน คงไม่ง่ายแน่ๆ
แม้ไม่อยากอยู่ร่วมกับสิ่งทำให้รู้สึกอึดอัด จนอยากหาวิธีไล่
แต่....เธอ....คือ...คนมาทีหลัง...จึงเหมือนว่าคืนนี้จะเริ่มต้นได้ไม่สวยนัก
มันกระสับกระส่าย อาจเพราะผิดที่ด้วยส่วนหนึ่ง...แต่ที่ก่อกวน
ความคิดและจิตใจเธอคือเสียงจากข้างบน เหนือขึ้นไปตรงบนหัวของเธอ
ที่ที่เธอใช้เป็นที่นอนหลับซึ่งเป็นห้องโถงกว้างๆ ในบ้าน โดยมีโซฟาเป็นที่นอน...
เธอก็ได้แต่มองเพดานแล้วฟังเสียงนกกระพือปีกอยู่บนชั้นบนนั้น...
ที่ฟังแล้วไม่น่าจะใช่นกตัวเล็กๆ
และไม่เข้าใจว่ามันจะกระพือปีกไปทำไมตั้งนานค่อนคืน...
และเธอก็เลือกที่จะเฉย ไม่ลุกขึ้นไปตอนนั้นเพื่อพิสูจน์อะไร
เพราะแค่สายตาตวัดไปทางโถงทางเดินที่ทอดตัวไปยังห้องอื่นๆ
ในบ้านหลังนี้ หัวจิตหัวใจของเธอก็ไม่สงบแล้ว...
หญิงสาวนอนเปิดไฟสลัวๆ เอาไว้...
รู้มั้ยในความสลัวราง เธอมักจะกลัวกับการเห็นเงาดำพาดผ่าน
วูบๆ วาบๆ ไปมาให้เห็น...ส่วนในความมืดสนิท เธอกลับไม่อยาก
เห็นจุดสีขาวๆ ที่ผุดขึ้นแล้วค่อยๆ ขยายใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ ....
ความสำคัญจึงไม่ได้อยู่ที่ว่ามันคือจุดสีอะไร...เพราะถ้า
บรรยากาศเป็นใจ มันก็เขย่าขวัญได้เท่าเทียมกัน...
คืนแรกผ่านไป เธอเลยโทรไปถามพี่มะลิเรื่องเสียงนั่น
"คงเป็นเสียงนกแหละ เมื่อวานก่อนสายจะหลุดไปพี่ยังได้ยินเสียงมันกระพือปีกเลย
นกมันคงมาขอพักอาศัยอยู่ด้วยแหละลา"
"แต่เสียงมันดังก้องไปทั้งบ้านเลยนะคะ ลาว่าลาจะขึ้นไปสำรวจดูข้างบนสักหน่อย"
"อย่าเลยลา อย่าไปยุ่งกะชั้นสองเลย"
"ยิ่งพี่ห้าม ลายิ่งอยากรู้"
"เธอน่ะ อยู่ๆ ไปให้ครบสองเดือน รอเดินทางไปไทยก็พอแล้ว
อย่าไปอยากรู้อะไรเลยนะลา พี่ขอล่ะ พี่ยังไม่อยากหาบ้านใหม่ให้เธอพักตอนนี้"
"ก็แค่ขึ้นไปสำรวจดูแค่นั้นเอง"
"คิดไรมาก นกมาอยู่ด้วย จะได้ไม่เหงามีนกส่งเสียงเป็นเพื่อน
ทำให้ตอนกลางคืนไม่เงียบเหงา...เกินไป อุ่นใจดีนะพี่ว่า"
หญิงสาวเห็นพี่เขามองโลกแง่ดี สวยใสไร้กังวลแบบนั้นก็ไม่อยากไป
สะกิดต่อมที่จะทำให้แกของขึ้น....ซึ่งสำหรับเธอการมองโลกในแง่ดีเป็นเรื่องที่ดี
หากนั่นไม่ใช่เป็นหลอกคนอื่น โดยเฉพาะเป็นไปเพื่อหลอกตัวเองไปวันๆ
อย่างน้อยมันควรที่จะตั้งอยู่บนพื้นฐานของความเป็นจริง...มิใช่มายาคติ...
และเธอไม่เชื่อว่ามันคือนก! เธอว่าเธอคำนวณน้ำหนักปีกที่ขยับนั่นได้นะ
นกนั่นต้องเป็นต้องนกเหยี่ยวหรือไม่ก็นกอินทรี
แล้วมันจะกระพือปีกไปทำไมตั้งค่อนคืน...เพื่อ???
ก็เลยอยากขึ้นไปดูให้แน่ใจ...
"ตอนกลางวันมันไม่อยู่หรอก มันออกไปหากิน"
"งั้นก็ขอขึ้นไปดูขนนกก็ยังดี อยากรู้ว่านกอะไร เล่นกระพือปีกค่อนคืนยังไงมันก็ต้อง
ทิ้งขนปีกไว้บ้างล่ะ"
"อย่าเพิ่งเลย พี่ว่าวันนี้เธอควรไปหาของกินมาตุนไว้ก่อนดีกว่า ไหนจะของจำเป็นอีก"
"ก็จริงของพี่ งั้นค่อยว่ากันอีกที"
"งั้นเดี๋ยวพี่จะบอกคนสนิทให้ว่า เธอปลอดภัยดีแล้ว ไม่ต้องเข้าไปแล้วก็แล้วกันนะ
ยังไงถ้ามีอะไรก็ติดต่อพี่ทันที"
"ได้ค่ะ ขอบคุณพี่มะลิมากๆ นะคะ"
คืนที่สอง....
คราวนี้มีเสียงแทรกเพิ่มเติมเข้ามา นั่นคือ เสียงเพดานที่เธอนอนมองอยู่มันเกิดลั่น...
แน่นอน...มันลั่นเพราะโดนเหยียบ และเธอนอนฟังเสียงเดินนั่นอยู่นานพอจะรู้ว่า
ไม่ใช่เท้านก...ไม่ใช่ตีนหนู..หรือสัตว์สี่เท้าแน่...
น้ำหนักที่ลงมันเน้นหนักๆ ทุกๆ ย่างก้าวอย่างจงใจ ตั้งใจ และดูจะเป็นฝ่าเท้าที่ใหญ่พอตัว....
เสียงนั่นเดินไปหยุดอยู่ตรง...เชิงบันไดที่จะลงมายังห้องโถง
ด้านล่างที่เธอนอนอยู่...
เสียงขาดหายไปตรงนั้น!
เธอสงสัยติดหมัด ใจนึงคิดว่าเป็นสิ่งลี้ลับที่อยู่ในบ้านนี้
ใจนึงกลัวเป็นโจรหรือคนที่แอบย่องขึ้นบ้านนี้มาด้อมๆ มองๆ พวกเธอ...
มันคิดไปได้ทั้งนั้น....
และเธอคิดว่า....ผู้หญิงไม่ควรอยู่ที่นี่ในทุกๆ กรณี!
และเธอต้องขึ้นไปชั้นบนให้ได้...เพื่อหา...บางอย่าง
...................โปรดติดตามตอนต่อไป.................................
ผ่านมา 5 ตอนแล้ว พระเอกยังไม่ออกโรงเลย 5555
เรื่องนี้มีพระเอกแน่นอนค่ะนักอ่านทุกคน เต่าโยจะรีบส่งพระเอกขี่ม้าขาวมาช่วยนางเอกในเร็ววันเลยค่ะ 555
แล้วรีบวิ่งเข้าไปในห้องครัว ก่อนจะถูกลมหอบใหญ่พัดตีหน้าแสกจนสลบล้มตึงไปกับพื้น
ตื่นขึ้นมาอีกครั้งก็พบว่าตนเองนอนบนพื้นเยียบเย็นในห้องครัวของบ้านร้างหลังเดิม มีไฟสีส้ม
ที่เธอเปิดทิ้งไว้ส่องแสงทำให้มองเห็นสิ่งต่างๆ รอบตัว ไม่แน่ใจว่าตัวเองหลับไปนานแค่ไหน
จึงเดินไปหามือถือที่ดับไปเพราะแบตเตอรี่หมด
พอเสียบสายชาร์ตเสร็จก็เปิดเครื่องเห็นว่าเป็นเวลาเที่ยงคืนแล้ว
และเธอยังไม่ได้กินอะไรเลย มีเพียงขนมปังก้อนนึง
ที่ติดกระเป๋ามา กับน้ำเปล่าเพียงขวดเดียว เดินไปเปิดตู้เย็นเก่าๆก็ไม่เจออะไรในนั้น
แถมยังมีกลิ่นอับชื้นขั้นรุนแรวออกมาจากตู้เย็นนี้อีก
นี่เธอต้องซื้อตู้เย็นใหม่หรือเนี่ย
และเมื่อเดินสำรวจภายในบ้านพร้อมกับทบทวนเรื่องที่เธอเพิ่งเจอไป
หญิงสาวก็ถึงกับส่ายหน้าอย่างหนักใจ เจ้าของที่ดูจะแรงกว่าที่คิด รับน้องแรงขนาดนี้
เธอเริ่มไม่แน่ใจแล้วสิว่า สองเดือนที่ต้องอยู่ที่นี่จะง่ายดายหรือยากลำบาก
แต่ดูไปแล้ว กว่าจะผ่านไปได้แต่ละคืน คงไม่ง่ายแน่ๆ
แม้ไม่อยากอยู่ร่วมกับสิ่งทำให้รู้สึกอึดอัด จนอยากหาวิธีไล่
แต่....เธอ....คือ...คนมาทีหลัง...จึงเหมือนว่าคืนนี้จะเริ่มต้นได้ไม่สวยนัก
มันกระสับกระส่าย อาจเพราะผิดที่ด้วยส่วนหนึ่ง...แต่ที่ก่อกวน
ความคิดและจิตใจเธอคือเสียงจากข้างบน เหนือขึ้นไปตรงบนหัวของเธอ
ที่ที่เธอใช้เป็นที่นอนหลับซึ่งเป็นห้องโถงกว้างๆ ในบ้าน โดยมีโซฟาเป็นที่นอน...
เธอก็ได้แต่มองเพดานแล้วฟังเสียงนกกระพือปีกอยู่บนชั้นบนนั้น...
ที่ฟังแล้วไม่น่าจะใช่นกตัวเล็กๆ
และไม่เข้าใจว่ามันจะกระพือปีกไปทำไมตั้งนานค่อนคืน...
และเธอก็เลือกที่จะเฉย ไม่ลุกขึ้นไปตอนนั้นเพื่อพิสูจน์อะไร
เพราะแค่สายตาตวัดไปทางโถงทางเดินที่ทอดตัวไปยังห้องอื่นๆ
ในบ้านหลังนี้ หัวจิตหัวใจของเธอก็ไม่สงบแล้ว...
หญิงสาวนอนเปิดไฟสลัวๆ เอาไว้...
รู้มั้ยในความสลัวราง เธอมักจะกลัวกับการเห็นเงาดำพาดผ่าน
วูบๆ วาบๆ ไปมาให้เห็น...ส่วนในความมืดสนิท เธอกลับไม่อยาก
เห็นจุดสีขาวๆ ที่ผุดขึ้นแล้วค่อยๆ ขยายใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ ....
ความสำคัญจึงไม่ได้อยู่ที่ว่ามันคือจุดสีอะไร...เพราะถ้า
บรรยากาศเป็นใจ มันก็เขย่าขวัญได้เท่าเทียมกัน...
คืนแรกผ่านไป เธอเลยโทรไปถามพี่มะลิเรื่องเสียงนั่น
"คงเป็นเสียงนกแหละ เมื่อวานก่อนสายจะหลุดไปพี่ยังได้ยินเสียงมันกระพือปีกเลย
นกมันคงมาขอพักอาศัยอยู่ด้วยแหละลา"
"แต่เสียงมันดังก้องไปทั้งบ้านเลยนะคะ ลาว่าลาจะขึ้นไปสำรวจดูข้างบนสักหน่อย"
"อย่าเลยลา อย่าไปยุ่งกะชั้นสองเลย"
"ยิ่งพี่ห้าม ลายิ่งอยากรู้"
"เธอน่ะ อยู่ๆ ไปให้ครบสองเดือน รอเดินทางไปไทยก็พอแล้ว
อย่าไปอยากรู้อะไรเลยนะลา พี่ขอล่ะ พี่ยังไม่อยากหาบ้านใหม่ให้เธอพักตอนนี้"
"ก็แค่ขึ้นไปสำรวจดูแค่นั้นเอง"
"คิดไรมาก นกมาอยู่ด้วย จะได้ไม่เหงามีนกส่งเสียงเป็นเพื่อน
ทำให้ตอนกลางคืนไม่เงียบเหงา...เกินไป อุ่นใจดีนะพี่ว่า"
หญิงสาวเห็นพี่เขามองโลกแง่ดี สวยใสไร้กังวลแบบนั้นก็ไม่อยากไป
สะกิดต่อมที่จะทำให้แกของขึ้น....ซึ่งสำหรับเธอการมองโลกในแง่ดีเป็นเรื่องที่ดี
หากนั่นไม่ใช่เป็นหลอกคนอื่น โดยเฉพาะเป็นไปเพื่อหลอกตัวเองไปวันๆ
อย่างน้อยมันควรที่จะตั้งอยู่บนพื้นฐานของความเป็นจริง...มิใช่มายาคติ...
และเธอไม่เชื่อว่ามันคือนก! เธอว่าเธอคำนวณน้ำหนักปีกที่ขยับนั่นได้นะ
นกนั่นต้องเป็นต้องนกเหยี่ยวหรือไม่ก็นกอินทรี
แล้วมันจะกระพือปีกไปทำไมตั้งค่อนคืน...เพื่อ???
ก็เลยอยากขึ้นไปดูให้แน่ใจ...
"ตอนกลางวันมันไม่อยู่หรอก มันออกไปหากิน"
"งั้นก็ขอขึ้นไปดูขนนกก็ยังดี อยากรู้ว่านกอะไร เล่นกระพือปีกค่อนคืนยังไงมันก็ต้อง
ทิ้งขนปีกไว้บ้างล่ะ"
"อย่าเพิ่งเลย พี่ว่าวันนี้เธอควรไปหาของกินมาตุนไว้ก่อนดีกว่า ไหนจะของจำเป็นอีก"
"ก็จริงของพี่ งั้นค่อยว่ากันอีกที"
"งั้นเดี๋ยวพี่จะบอกคนสนิทให้ว่า เธอปลอดภัยดีแล้ว ไม่ต้องเข้าไปแล้วก็แล้วกันนะ
ยังไงถ้ามีอะไรก็ติดต่อพี่ทันที"
"ได้ค่ะ ขอบคุณพี่มะลิมากๆ นะคะ"
คืนที่สอง....
คราวนี้มีเสียงแทรกเพิ่มเติมเข้ามา นั่นคือ เสียงเพดานที่เธอนอนมองอยู่มันเกิดลั่น...
แน่นอน...มันลั่นเพราะโดนเหยียบ และเธอนอนฟังเสียงเดินนั่นอยู่นานพอจะรู้ว่า
ไม่ใช่เท้านก...ไม่ใช่ตีนหนู..หรือสัตว์สี่เท้าแน่...
น้ำหนักที่ลงมันเน้นหนักๆ ทุกๆ ย่างก้าวอย่างจงใจ ตั้งใจ และดูจะเป็นฝ่าเท้าที่ใหญ่พอตัว....
เสียงนั่นเดินไปหยุดอยู่ตรง...เชิงบันไดที่จะลงมายังห้องโถง
ด้านล่างที่เธอนอนอยู่...
เสียงขาดหายไปตรงนั้น!
เธอสงสัยติดหมัด ใจนึงคิดว่าเป็นสิ่งลี้ลับที่อยู่ในบ้านนี้
ใจนึงกลัวเป็นโจรหรือคนที่แอบย่องขึ้นบ้านนี้มาด้อมๆ มองๆ พวกเธอ...
มันคิดไปได้ทั้งนั้น....
และเธอคิดว่า....ผู้หญิงไม่ควรอยู่ที่นี่ในทุกๆ กรณี!
และเธอต้องขึ้นไปชั้นบนให้ได้...เพื่อหา...บางอย่าง
...................โปรดติดตามตอนต่อไป.................................
ผ่านมา 5 ตอนแล้ว พระเอกยังไม่ออกโรงเลย 5555
เรื่องนี้มีพระเอกแน่นอนค่ะนักอ่านทุกคน เต่าโยจะรีบส่งพระเอกขี่ม้าขาวมาช่วยนางเอกในเร็ววันเลยค่ะ 555
yoraya
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 10 ม.ค. 2567, 19:54:47 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 10 ม.ค. 2567, 19:54:47 น.
จำนวนการเข้าชม : 117
<< บทที่ 4 บ้านร้างญี่ปุ่น | บทที่ 6 บ้านร้างญี่ปุ่น (จบ) >> |