อุบายลวงระบบเบรค อุบัติเหตุพิศวง
วัตถุประสงค์ของเรื่องนี้ คือต้องการให้ความรู้เกี่ยวกับระบบเบรครถยนต์ ผ่านวรรณกรรม โดยเนื้อหาของเรื่องนี้จะนำคุณไปร่วมติดตามการไขคดีอุบัติเหตุทางรถยนต์ที่มีเบื้องหลังบางอย่าง เพื่อค้นหากลอุบายที่คนร้ายใช้กับระบบเบรคของรถ และสืบหาตัวผู้อยู่เบื้องหลัง
Tags: สืบสวน,อุบัติเหตุ,เบรครถยนต์

ตอน: ไฟล์#6 อุบัติเหตุจำลอง

ตอนนี้ร้อยตำรวจเอกชิงชนะกำลังกุมขมับ

เบื้องหน้าผู้กองหนุ่มมีถังแกลลอนขนาดเล็กที่มีฉลากรูปรถยนต์และตราโลโก้ยี่ห้อผลิตภัณฑ์ของรถยนต์ซึ่งแตกต่างยี่ห้อกันอยู่ 2 แกลลอน หนึ่งแกลลอนสีเขียวทางซ้ายระบุฉลากเป็นยี่ห้อของน้ำมันเครื่องแต่ภายในกลับบรรจุของเหลวสีใสๆของน้ำมันเบรคที่ถูกถ่ายออกจากรถยนต์นายโอฬารเกินครึ่งแกลลอน ส่วนอีกแกลลอนสีเทาทางขวาฉลากที่ระบุพร่ามัวเพราะความเก่าตามกาลเวลา แต่ภายในบรรจุของเหลวสีดำข้นซึ่งก็คือน้ำมันเบรคเก่าเสื่อมคุณภาพอยู่เพียงหนึ่งในสี่ของแกลลอน น้ำมันเบรคทั้งสองแกลลอนนี้ได้มาจากการขยายผลตรวจค้นห้องพักจากปากคำของช่างน้อยที่ยอมรับสารภาพ...

“คุณลักลอบถ่ายน้ำมันเบรครถยนต์ผู้ตายเพื่ออะไร?”

“ผมลักลอบถ่ายน้ำมันเบรคของรถผู้ตายซึ่งมีสภาพดีออกแล้วใส่น้ำมันเบรคเก่าเข้าไปแทน จากนั้นเอาน้ำมันเบรคดีไปใส่ขวดเพื่อเอาไปขายในอินเตอร์เน็ต”

...สืบเนื่องมาจากคำรับสารภาพของช่างน้อยที่ให้การว่าตนเองได้ลักลอบถ่ายน้ำมันเบรคของรถยนต์นายโอฬารซึ่งยังมีคุณภาพดีเพื่อประกาศขายในโลกออนไลน์ แล้วบรรจุน้ำมันเบรคเก่าเก็บที่มีคุณภาพต่ำเคยผ่านการใช้งานมาแล้วเข้าไปแทน ซึ่งน้ำมันเบรคเก่าด้อยคุณภาพนี้ผลการทดสอบเบื้องต้นระบุว่ามีคุณสมบัติต่างๆรวมถึงจุดเดือดใกล้เคียงกับน้ำมันเบรคที่เหลือติดรถนายโอฬารก่อนหน้าหรือก็คือเป็นน้ำมันเบรคตัวเดียวกัน

ถ้าช่างน้อยสารภาพคำพูดเหล่านี้หรือมีการตรวจพบน้ำมันเบรคทั้ง 2 ถังแกลลอนนี้ ก่อนหน้าที่นายชาตรีจะส่งทนายมาขัดขวางการสอบสวน ร้อยตำรวจหนุ่มคงให้น้ำหนักและเชื่อถือคำสารภาพนี้แน่นอน แต่ภายหลังการช่วยเหลือจากนายชาตรี จู่ๆช่างหนุ่มผู้นี้ก็เดินมาหาตำรวจแล้วมาสารภาพเอง นำไปสู่การขยายผลตรวจค้นพบ 2 ถังแกลลอนน้ำมันเบรคโดยง่ายดาย ราวกับว่าช่างน้อยพยายามจะยอมรับเอาความผิดทุกอย่างไว้คนเดียวเพื่อไม่ให้สาวถึงผู้อยู่เบื้องหลัง ทำให้ผู้กองชิงชนะยิ่งสงสัยต่อนายชาตรีมากขึ้น และไม่เชื่อถือคำสารภาพของช่างหนุ่มเท่าที่ควร

เมื่อช่างน้อยให้การแบบนี้ ไม่ว่าผู้กองจะข่มขู่ด้วยการยกโทษทัณฑ์ที่ต้องได้รับจากการให้การเท็จและข้อหากระทำให้ผู้อื่นถึงแก่ความตายโดยไม่เจตนาอย่างไร หรือเสนอแนะช่องทางในการพ้นผิดโดยการจะกันตัวไว้เป็นพยานอย่างไร ช่างหนุ่มก็ยังยืนยันคำสารภาพเดิมว่าตนเองก่อการโดยลำพัง ไม่มีผู้หนุนหลัง ทุกอย่างกระทำไปเพื่อบรรเทาภาระหนี้สินที่ตนก่อไว้ แต่ร้อยตำรวจหนุ่มก็ยังไม่ยอมปักใจเชื่อ ด้วยเพราะพฤติกรรมอันผิดปกติที่เข้ามากีดขวางการสืบสวนของนายชาตรี จึงดึงให้ผู้กองจมอยู่ในวังวนของความไม่เข้าใจ

ดาบอุทัยกลับเข้ามาในห้องทำงานของร้อยตำรวจเอกพร้อมด้วยแก้วน้ำที่บรรจุน้ำแข็งกับน้ำอัดลมสีดำเข้มๆ

“น้ำเย็นๆครับ ผู้กอง” ดาบอุทัยยื่นส่งแก้วน้ำให้ผู้บังคับบัญชาพร้อมกับนั่งลงที่เก้าอี้หน้าโต๊ะทำงานของผู้กองหนุ่ม

“คือ เอ่อ... คือ อย่าหาว่าผมโง่เลยนะครับผู้กอง ผมไม่เข้าใจจริงๆครับว่า น้ำมันเบรคเก่าเก็บที่ช่างน้อยสับเปลี่ยนกับน้ำมันเบรครถของผู้ตายเดิมเนี่ย มันทำให้เบรคไม่สามารถใช้งานได้จนถึงกับเกิดอุบัติเหตุเลยหรือครับ?”

“ดาบจำเรื่องจุดเดือดน้ำมันเบรคและเรื่องน้ำมันเบรคเป็นสารชอบดูดความชื้นที่ผมเคยอธิบายได้มั้ย?” ผู้กองกล่าวแล้วหยุดคำพูดเพื่อสังเกตสีหน้าดาบ

“เรื่องจุดเดือดพอจำได้ครับ เพราะการเบรครถจะเกิดความร้อนสูงต้องถ่ายเท น้ำมันเบรคจึงต้องมีจุดเดือดที่สูงๆถึงจะดี” ดาบอุทัยตอบคำถามแล้วก็ยิ้มแหยๆ ผู้กองหนุ่มพอจะเดาความหมายยิ้มแหยๆนี้ของลูกน้องได้ว่า ‘จำได้แค่นี้แหละครับ’ ผู้กองหนุ่มจึงเริ่มอธิบายต่อ

“เพราะน้ำมันเบรคชอบดูดความชื้น และความชื้นทำให้จุดเดือดของน้ำมันเบรคลดลง ดังนั้น น้ำมันเบรคที่ใช้งานในรถยนต์มานานก็จะมีโอกาสได้สัมผัสกับความชื้นของอากาศผ่านทางรูอากาศที่ฝากระปุกน้ำมันเบรคบ้าง หรือได้สัมผัสกับน้ำโดยตรงเลยเมื่อมีการฉีดน้ำล้างรถ น้ำกระเด็นเข้ากระปุกน้ำมันเบรคบ้าง ตลอดจนถึงยางกันฝุ่นที่ชุดลูกสูบดิสก์เบรคเกิดสึกหรอหรือไม่แน่นแล้วไปขับรถลุยน้ำ ก็จะทำให้น้ำเข้าไปผสมกับน้ำมันเบรคได้โดยตรง โดยปกติน้ำมันเบรคจะดูดความชื้นในอากาศเข้ามาเจือปนประมาณ 1-2% ต่อปีอยู่แล้ว ถ้าอ้างอิงจากมาตราฐานน้ำมันเบรคเกรด DOT3 จากเริ่มต้นที่น้ำมันเบรคไม่มีความชื้นเลยจะมีจุดเดือด 205 องศาเซลเซียสหรือที่นิยมเรียกจุดเดือดแห้ง(Dry boiling point) และเมื่อมีความชื้นปน 3.7% โดยปริมาตรจะมีจุดเดือดเหลือเพียง 140 องศาเซลเซียสหรือที่เคยได้ยินว่าจุดเดือดเปียก(Wet boiling point) อย่างกรณีน้ำมันเบรคที่เหลือติดรถนายโอฬารวัดจุดเดือดได้เพียง 126 องศาเซลเซียส แสดงว่าเป็นน้ำมันเบรคเก่าที่เสื่อมสภาพผ่านการใช้งานมาแล้วจุดเดือดจึงลดลงมาก และลดลงมากกว่าจุดเดือดเปียกตามมาตราฐานอีก จึงเดือดได้ง่าย ไม่สามารถถ่ายทอดแรงเบรคได้ เบรคจึงไม่สามารถใช้การได้ ดังนั้นน้ำมันเบรคเก่าหรือน้ำมันเบรคที่ใช้งานมาแล้วจึงเสื่อมคุณภาพด้วยเหตุนี้”

ดาบอุทัยรับฟังแล้วก็อึ้งทึ่งในความรู้ของผู้กอง เริ่มคิดว่าถ้าอยู่กับผู้กองคนนี้ต่อไปอีกปีสองปีน่าจะ‘ดูดซับ’ความรู้จากผู้บังคับบัญชาไปเปิดอู่รถได้แน่นอน แต่ดาบก็มีไม้เด็ดที่จะมาอวดให้ร้อยตำรวจหนุ่มต้องอึ้งเหมือนกัน “ผู้กองครับ คือผมมีข้อมูลที่น่าสงสัยเรื่องนึงเกี่ยวกับบริษัทโอฬารดีเวลลอปเม็นท์ ซึ่งผมบังเอิญได้รู้มาจึงอยากจะแจ้งให้ผู้กองทราบ”

“ว่ามาเถอะดาบ เรื่องอะไรหรือ?”

“บริษัทโอฬารดีเวลลอปเม็นท์กำลังประสบปัญหาทางการเงินครับ” คำพูดของดาบอุทัยประโยคนี้สร้างความฉงนให้กับผู้กองขึ้นทันที

“ดาบรู้ได้ยังไง?”

“ผู้กองจำน้องพนักงานต้อนรับของบริษัทโอฬารดีเวลลอปเม็นท์ได้มั้ยครับ?”

ร้อยตำรวจหนุ่มทบทวนความทรงจำเพียงชั่วครู่ ก็นึกหน้าพนักงานต้อนร้บผู้อ่อนน้อม กิริยาอ่อนช้อยคนนั้นได้ “จำได้ หรือว่า...”

“น้องทิพย์ครับ น้องทิพย์เค้าบอกผมเอง” น้ำเสียงและสีหน้าของดาบอุทัยบ่งบอกถึงความภาคภูมิใจที่สามารถสืบหาข้อมูลให้ผู้กองได้ แม้ไม่แน่ใจว่าข้อมูลนี้จะมีประโยชน์ต่อการสืบสวนหรือไม่ แต่ดาบอุทัยก็ยังยิ้มอย่างภาคภูมิใจในความสามารถของตนที่สามารถดึงผู้หญิงให้เข้าหา ส่งผลให้ร้อยตำรวจหนุ่มถึงกับอมยิ้มไปด้วย เพราะเรื่องความสามารถเฉพาะตัวของดาบอุทัยด้านนี้ ผู้กองหนุ่มสู้ไม่ได้จริงๆ

เมื่อมีข้อมูลใหม่จากดาบอุทัย ร้อยตำรวจหนุ่มจึงใช้เป็นวัตถุดิบในการประมวลความคิด ถ้าเช่นนั้น นายชาตรีก็ยิ่งไม่มีเหตุผลที่จะใช้เป็นแรงจูงใจให้กำจัดนายโอฬารเพื่อแก่งแย่งบริษัทที่มีปัญหาเรื่องเงิน ส่วนเรื่องที่นายชาตรีได้ไปผูกสัมพันธ์กับบริษัทเคจีทีคอนสตรัคชั่นก็ไม่น่าสงสัยอีกต่อไป เพราะถ้ายิ่งแข่งขันกันก็จะยิ่งส่งผลให้มีการตัดราคากันเพื่อแย่งลูกค้า แต่ถ้าเป็นพันธมิตรกันอำนาจต่อรองราคาก็จะตกมาที่บริษัททั้งสอง

ผู้กองชิงชนะได้แต่ขบคิดต่อด้วยความสะทกสะท้อนใจ หรืออุบัติภัยที่เกิดขึ้นครั้งนี้มีจุดกำเนิดจากน้ำมันเบรคด้อยคุณภาพที่ถูกสับเปลี่ยน เพียงเพราะความโลภของช่างยนต์เพียงคนเดียวจริงหรือ? แต่ทำไมนายชาตรีถึงไม่อยากให้มีการสืบสวนถึงอุบัติเหตุครั้งนี้อีก?

คำถามมากมายก่อตัวขึ้นในห้วงความคิดของร้อยตำรวจหนุ่ม ในขณะที่หยดน้ำเริ่มเกาะข้างแก้วเครื่องดื่มสีดำตรงหน้าผู้กองหนุ่ม น้ำแข็งในแก้วเริ่มละลายลงทีละน้อย สีดำของน้ำอัดลมเริ่มเจือจาง พาลให้นายร้อยหนุ่มยิ่งคิดถึงน้ำมันเบรคเก่าที่เสื่อมสภาพเข้าไปอีก เขาจึงลงโทษมันด้วยการยกขึ้นดื่มเสียให้พ้นสายตา รสชาติของมันช่างฝืดฝาดไม่เข้มข้นเอาเสียเลย คงเป็นเพราะน้ำแข็งที่ละลายได้ทำลายคุณสมบัติของน้ำอัดลมสีดำ

จู่ๆร้อยตำรวจเอกชิงชนะเหมือนคิดอะไรบางอย่างออก สีหน้าของร้อยตำรวจหนุ่มแปรเปลี่ยนจากหมดอาลัยเป็นสดใสขึ้นทันตา ถ้าจะเทียบเพื่อให้เห็นภาพก็คงเปรียบใบหน้าของผู้กองหนุ่มเป็นหลอดไฟที่ได้ติดสว่างด้วยประกายความคิดบางอย่างขึ้นมาแล้ว

“ขอบคุณดาบ ขอบคุณน้ำอัดลมดำๆของดาบจริงๆ” ผู้กองหนุ่มลุกขึ้นยืนพูดพร้อมกับเขย่าแขนของดาบอุทัยด้วยแววตาที่ส่อประกายคล้ายหลอดไฟ ในขณะที่ดาบอุทัยเหม่อมองผู้บังคับบัญชาของตนด้วยสีหน้าสุดสงสัย

“ผมเข้าใจแล้ว” ใบหน้าของผู้กองแฝงไปด้วยคึกคัก “แต่ต้องพิสูจน์เรื่องหนึ่งเพื่อไขความกระจ่างถึงพฤติกรรมที่ผิดปกติคนๆหนึ่งก่อน” นายร้อยหนุ่มหยุดเล็กน้อยเพื่อเว้นจังหวะให้กับความตื่นเต้น ราวกับเรื่องที่กำลังจะพูดต่อไปเป็นเรื่องที่น่าสนใจที่สุดอย่างไม่เคยมีมา

“ผมจะจำลองเหตุการณ์อุบัติเหตุครั้งนี้ขึ้นอีกครั้ง”

โปรดติดตามไฟล์ต่อไป



TopSpeed
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 2 ก.ย. 2554, 12:25:36 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 2 ก.ย. 2554, 12:25:36 น.

จำนวนการเข้าชม : 1546





<< ไฟล์#5 จุดเดือดของน้ำมันเบรค   ไฟล์#7 กลอุบายของคนร้าย >>
เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account