อุบายลวงระบบเบรค อุบัติเหตุพิศวง
วัตถุประสงค์ของเรื่องนี้ คือต้องการให้ความรู้เกี่ยวกับระบบเบรครถยนต์ ผ่านวรรณกรรม โดยเนื้อหาของเรื่องนี้จะนำคุณไปร่วมติดตามการไขคดีอุบัติเหตุทางรถยนต์ที่มีเบื้องหลังบางอย่าง เพื่อค้นหากลอุบายที่คนร้ายใช้กับระบบเบรคของรถ และสืบหาตัวผู้อยู่เบื้องหลัง
Tags: สืบสวน,อุบัติเหตุ,เบรครถยนต์

ตอน: ไฟล์#7 กลอุบายของคนร้าย

ที่ศูนย์การทดสอบสมรรถภาพรถยนต์แห่งหนึ่ง

“เป็นที่ทราบกันดีนะครับว่า อุบัติเหตุของคุณโอฬารเกิดจากระบบเบรคขัดข้อง” ร้อยตำรวจเอกชิงชนะหยุดเล็กน้อยก่อนจะกวาดสายตาไปยังผู้ฟังรอบๆ ซึ่งนอกจากจะมีเจ้าของบริษัทเคจีทีคอนสตรัคชั่น,พนักงานระดับผู้บริหารของบริษัทโอฬารดีเวลลอปเม็นท์หลายท่านรวมถึงนายชาตรีแล้ว ยังมีภรรยาสาวของนายโอฬารอีกด้วย ใบหน้าของจงรักดูสดชื่นขึ้นกว่าวันก่อนที่งานศพ แต่ยังคงเหลือร่องรอยของการร้องไห้อย่างหนักซึ่งถูกทิ้งไว้บนขอบตาช้ำๆของเธอ แต่เมื่อสังเกตที่นายชาตรี ผู้กองหนุ่มกลับสัมผัสได้ถึงอารมณ์ความโกรธขึ้งและเคียดแค้นแฝงอยู่ในแววตาของชาตรีที่จ้องมาที่ผู้กอง ภายใต้สีหน้าภายนอกที่ดูเรียบเฉย เย็นชา ไม่ยี่หระต่อทุกเรื่องราว ไร้ความรู้สึกใดๆเหมือนเดิม

“แต่จากการสอบสวนจึงพบว่าอุบัติเหตุครั้งนี้ไม่ใช่เหตุสุดวิสัยอันเกิดจากความบกพร่องของเครื่องจักร หากแต่อุบัติเหตุครั้งนี้เกิดจากการวางแผนและดำเนินการโดยฝีมือมนุษย์เพื่อจงใจให้เกิดอุบัติเหตุ ดังนั้นผมจึงเรียนเชิญทุกท่านซึ่งมีส่วนเกี่ยวข้องกับคุณโอฬารมาเพื่อท่านได้เห็นเทคนิคและกลอุบายที่คนร้ายใช้ในการก่อให้เกิดอุบัติเหตุผ่านรถยนต์คันนี้” เมื่อพูดจบผู้กองก็เดินไปที่รถยนต์ด้านหลังซึ่งเปิดฝากระโปรงอยู่ ก่อนที่จะใส่บางอย่างจากภาชนะปิดทึบที่อยู่ใกล้ๆลงไปที่กระปุกหนึ่งในห้องเครื่องรถยนต์อย่างรวดเร็วแล้วจึงปิดฝากระโปรงทันที จากนั้นดาบอุทัยก็เข้านั่งในตำแหน่งที่ของคนขับ แล้วรถยนต์ก็ถูกยกตัวอยู่โดยแท่นลิฟต์ไฮดรอลิค ส่วนที่คู่ล้อหลังก็มีช่างรถยนต์ยืนประจำอยู่ข้างๆล้อละคน

“แล้วคนร้ายคือใครครับ ทำไมไม่แถลงข่าวถึงการจับกุมคนร้าย ประกาศชื่อคนร้าย แต่กลับมาโชว์เทคนิคที่คนร้ายใช้?” ลูกน้องของนายชาตรียิงคำถามขัดจังหวะการสาธิตของผู้กอง เมื่อเห็นว่าผู้กองกระทำสิ่งที่ผิดปกติวิสัยของตำรวจที่ควรจะต้องแถลงข่าวเปิดโปงโฉมหน้าคนร้าย แล้วค่อยให้คนร้ายมาทำแผนประกอบคำรับสารภาพแสดงให้เห็นวิธีการที่คนร้ายใช้ก่อเหตุ

“ใจเย็นๆครับ ผมขอเปิดเผยให้เห็นกลอุบายที่คนร้ายใช้ก่อนเพื่อเป็นการปูพื้นก่อนจะประกาศเรื่องคนร้ายต่อไป” เมื่อได้ยินคำถามและท่าทีของลูกน้องนายชาตรีเช่นนี้ ร้อยตำรวจหนุ่มกลับไม่มีท่าทีแปลกใจเท่าไร

“ในเมื่อผู้กองต้องการเปิดเผยวิธีการที่คนร้ายใช้ก่อเหตุ ทำไมไม่เรียนเชิญสื่อมวลชนมาร่วมสังเกตุการณ์ด้วยล่ะคะ” เมื่อเสียงใสๆของจงรักกังวาลขึ้น ทุกสายตาล้วนจับจ้องไปที่เธอ แต่กลับมีแววตาคู่หนึ่งจับจ้องมองเธอด้วยความซึมเซา คล้ายงมงาย เจ้าของสายตาคู่นั้นกลับเป็นของคนที่สีหน้าดู‘ตายด้าน’ แต่ตอนนี้กลับแสดงความรู้สึกมากมายเพียงเพราะคำพูดของผู้หญิงเพียงคนเดียว คนๆนั้นคือนายชาตรีนั่นเอง

“วัตถุประสงค์ของผมในวันนี้ เพียงต้องการให้ทุกท่านในที่นี้ซึ่งมีส่วนเกี่ยวข้องกับคุณโอฬารได้รับทราบกลอุบายที่คนร้ายใช้ ส่วนการเชิญสื่อมวลชนมาสังเกตุการณ์จะดำเนินการในวันอื่นครับ” ผู้กองกวาดสายตาไปยังผู้ฟังรอบๆอีกครั้งเหมือนเป็นการสำรวจว่ามีใครต้องการจะสอบถามอะไรอีกหรือไม่ “เมื่อไม่มีใครจะสอบถามอะไรอีก ผมขอเข้าเรื่องเลยนะครับ”

“รถยนต์คันนี้เป็นรถรุ่นและยี่ห้อเดียวกับรถของคุณโอฬาร อีกทั้งอายุการใช้งานก็ใกล้เคียงกันจึงเหมาะแก่การนำมาใช้นำเสนอกลอุบายของอุบัติเหตุ โดยรถยนต์ของคุณโอฬารใช้น้ำมันเบรค DOT3 และเป็นแบบดิสก์เบรคทั้ง 4 ล้อ เช่นเดียวกับรถคันนี้” เมื่อพูดจบแล้วร้อยตำรวจหนุ่มจึงหันไปที่ดาบอุทัยบนรถแล้วพูด “เริ่มได้เลยครับดาบ”

เสียงคำรามของเครื่องยนต์ดังขึ้นมาทันทีที่ดาบอุทัยเริ่มทำการสตาร์ทรถ ล้อคู่หน้าหมุนไปตามแรงที่ถูกถ่ายทอดมาจากเครื่องยนต์ ส่วนล้อคู่หลังไม่มีการเคลื่อนไหวแสดงว่าเป็นรถขับเคลื่อนล้อหน้า

“เมื่อเริ่มขึ้นทางด่วน รถยนต์ของคุณโอฬารก็ยังใช้งานเบรคได้เพราะรถหยุดรถจ่ายค่าทางด่วนได้ปกติดี” เมื่อรถเริ่มทำความเร็วได้ที่ความเร็วต่ำระดับหนึ่งนายร้อยหนุ่มก็โบกมือลงเพื่อเป็นการส่งสัญญาณให้ดาบอุทัยทำการเบรค

ดาบอุทัยเปิดประตูด้านคนขับออกเพื่อต้องการให้เห็นว่าได้เหยียบเบรคจริง ล้อคู่หน้าที่หมุนวนอยู่กลางอากาศก็หยุดหมุนลงตามจังหวะเดียวกับดาบอุทัยเหยียบเบรค ส่วนช่างรถยนต์ทั้งสองก็ทำการโยกหมุนล้อคู่หลังซึ่งเมื่อช่างออกแรงหมุนก็ไม่สามารถหมุนได้เช่นกัน แสดงให้เห็นว่าล้อหลังทั้งสองไม่สามารถหมุนได้จากการทำงานของเบรค

“ทุกท่านคงเห็นแล้วนะครับว่าขณะนี้เบรคของรถยนต์ก็ยังสามารถใช้งานได้ดี” ร้อยตำรวจหนุ่มชูมือให้สัญญาณอีกครั้งช่างรถยนต์ทั้งสองก็ถอยห่างกลับมายืนประจำตำแหน่งเดิม ส่วนดาบอุทัยก็ปล่อยเท้าจากแป้นเบรค ล้อคู่หน้าจึงเริ่มหมุนทำงานอีกครั้ง

“เมื่อรถยนต์ของคุณโอฬารขับมาได้สักระยะ จึงเพิ่มความเร็วขึ้น” ล้อหน้าทั้งสองหมุนวนด้วยความเร็วมากขึ้นตามการกดเท้าลงที่คันเร่งมากขึ้นของดาบอุทัย และเริ่มมีกลิ่นเหม็นไหม้จางๆโชยออกมาจากล้อ

“และที่ความเร็วสูงนั้น ฝนก็ตกลงมาอย่างหนัก ขณะที่คุณโอฬารกำลังเข้าโค้ง จึงต้องลดความเร็วและเหยียบเบรค” ดาบอุทัยทำการหักเลี้ยวพวงมาลัยแล้วล้อคู่หน้าก็หักเลี้ยวตาม จากนั้นดาบตำรวจก็ผ่อนคันเร่งเพื่อลดความเร็วและกดเท้าลงที่แป้นเบรคแต่ปรากฎว่าล้อหน้าก็ยังคงหมุนไม่มีทีท่าว่าจะหยุดหรือชะลอลงตามการเหยียบเบรคของดาบอุทัยแต่อย่างใด แม้ดาบอุทัยจะเพิ่มแรงกดลงที่แป้นเบรคไปจนสุด ล้อหน้าทั้งสองก็ยังหมุนด้วยความเร็วระดับเดิม ส่วนล้อคู่หลังก็เช่นกันช่างรถยนต์ทั้งสองสามารถทำการโยกหมุนล้อได้โดยง่าย ล้อหมุนได้อิสระไม่มีปฏิกิริยาจากระบบห้ามล้อเลย

เสียงวิพากษ์วิจารณ์ก่อตัวขึ้นทันทีเมื่อพบว่าเบรคไม่สามารถใช้งานได้จริงๆทั้งๆที่เมื่อครู่ยังใช้งานได้ปกติ

“สาเหตุของอุบัติเหตุครั้งนี้นอกจากมีสาเหตุจากระบบเบรคแล้ว ยังเกิดจากพฤติกรรมของผู้ขับที่ขับรถด้วยความเร็วสูงประกอบกับฝนที่ตกลงมาอย่างหนัก รถจึงเสียการควบคุมก่อนจะพุ่งตกลงจากทางด่วน หากคุณโอฬารขับรถช้าๆอุบัติเหตุครั้งนี้อาจจะไม่เกิดขึ้น” ผู้กองชิงชนะโบกมือให้สัญญาณอีกครั้ง ดาบอุทัยจึงเริ่มลดความเร็วของรถลงเรื่อยๆจนมาถึงที่ความเร็วต่ำแล้วจึงดับเครื่อง ลิฟต์ไฮดรอลิคทำการยกรถลงอย่างนิ่มนวล ในขณะที่กลิ่นเหม็นไหม้จากล้อกลับรุนแรงขึ้นทุกที

“ทุกท่านคงได้กลิ่นเหม็นไหม้นี้ มันคือกลิ่นของน้ำมันเบรคไหม้ เพราะน้ำมันเบรคไหม้หรือน้ำมันเบรคเดือดกลายเป็นไอ รถยนต์คุณโอฬารจึงไม่สามารถใช้งานเบรคได้” ผู้กองหนุ่มหยุดเล็กน้อยก่อนที่จะกล่าวต่อด้วยแววตาวาววับ “น้ำมันเบรครถยนต์ของคุณโอฬารมีจุดเดือดที่ประมาณ 205 องศาเซลเซียส ซึ่งไม่น่าจะเดือดได้ง่ายๆ แต่สาเหตุที่น้ำมันเบรคเดือดนั้นมาจากการกระทำของคนร้าย และการกระทำของช่างยนต์ของศูนย์บริการที่คุณโอฬารใช้บริการเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องก่อนเกิดเหตุ 1 สัปดาห์”

“ผมเริ่มไม่เข้าใจแล้ว ถ้าอย่างนั้นจะเป็นการจงใจให้เกิดอุบัติเหตุจากการกระทำของใครกันแน่?” เจ้าของบริษัทเคจีทีคอนสตรัคชั่นตั้งคำถามแทรกขึ้นมาทันที

“ตอนแรกผมเข้าใจว่าคนร้ายเป็นผู้จ้างวานช่างรถยนต์ที่ศูนย์บริการที่คุณโอฬารใช้บริการประจำให้ทำการสับเปลี่ยนน้ำมันเบรคที่ยังคุณภาพดีของรถคุณโอฬารออกแล้วใส่น้ำมันเบรคเสื่อมสภาพเข้าไปแทน แต่จากการสอบสวนจึงพบว่าช่างยนต์ที่สับเปลี่ยนน้ำมันเบรคนั้น ก็เพียงต้องการลักลอบถ่ายน้ำมันเบรคสภาพดีเพื่อนำไปขายด้วยความละโมบส่วนตัว ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับคนร้ายเลย”

“ถึงแม้น้ำมันเบรคเสื่อมสภาพที่ช่างยนต์ใส่ไปแทนนั้นมีจุดเดือดต่ำกว่าน้ำมันเบรคเดิมของรถคุณโอฬารก็จริง แต่ก็ยังไม่ต่ำพอที่จะเดือดง่ายๆ แต่ถึงอย่างไรการกระทำของช่างยนต์คนนี้แม้ไม่ได้มีผลโดยตรงให้เกิดอุบัติเหตุ แต่ก็มีส่วนเสริมช่วยให้เป้าประสงค์ของคนร้ายที่ต้องการให้อุบัติเหตุสัมฤทธิ์ผลมีมากขึ้น โดยที่ช่างยนต์และคนร้ายไม่มีส่วนเกี่ยวโยงกันเลย ผมคิดว่าบางทีตอนนี้คนร้ายอาจจะเพิ่งทราบก็ได้นะครับว่าแผนการที่ตนได้วางไว้ มีแรงเสริมจากความโลภของช่างยนต์คนนี้ช่วยให้แผนการสำเร็จได้”

“ผู้กองพูดลักษณะนี้ แสดงว่าคนร้ายอยู่ในกลุ่มพวกเราหรือ?” ผู้บริหารบริษัทโอฬารดีเวลลอปเม็นท์คนหนึ่งเอ่ยถาม

“ถูกต้องครับ” คำตอบสั้นๆของร้อยตำรวจหนุ่ม แต่กลับสร้างบรรยากาศชวนขนลุกให้กับทุกคนที่ไม่คาดคิดมาก่อนว่าตนเองจะตกเป็นผู้ต้องสงสัย อีกทั้งคนร้ายยังอยู่ใกล้ๆกับตนด้วย

“สิ่งที่คนร้ายใช้ในการก่อเหตุนอกจากจะยากต่อการตรวจสอบแล้ว ยังมีผลให้น้ำมันเบรคเดือดได้ง่ายขึ้นอีกด้วย เพราะสิ่งที่คนร้ายใช้เป็นเครื่องมือในการก่อให้เกิดอุบัติเหตุ ก็คือ...” นายร้อยหนุ่มหยิบบางอย่างจากถ้วยภาชนะปิดทึบนั้นออกมา สิ่งนั้นเป็นก้อนโปร่งใสไม่มีสีและมีไอเย็นระเหยออกมา สิ่งนั้นก็คือ ก้อนน้ำแข็ง!

“ด้วยก้อนน้ำแข็งที่คนร้ายใส่ในกระปุกน้ำมันเบรคก่อนออกรถ จะมีผลให้น้ำมันเบรคตอนแรกที่มีอุณหภูมิยังไม่สูง น้ำแข็งจึงยังไม่ละลายแถมช่วยลดอุณหภูมิของน้ำมันเบรคอีกต่างหาก ทำให้เบรคยังใช้งานได้ดี แต่เมื่อคุณโอฬารขับไปเรื่อยๆอุณหภูมิในห้องเครื่องสูงขึ้นและมีการใช้งานเบรคจึงส่งผลให้น้ำมันเบรคมีอุณหภูมิสูงขึ้นเรื่อยๆจนน้ำแข็งละลายกลายเป็นน้ำ น้ำมันเบรคเป็นสารดูดซับความชื้น น้ำที่ละลายจึงเจือปนกับน้ำมันเบรคส่งผลให้จุดเดือดของน้ำมันเบรคซึ่งเป็นน้ำมันเบรคด้อยคุณภาพจุดเดือดไม่สูงอยู่ก่อนแล้ว จุดเดือดจึงยิ่งลดลงไปอีกยิ่งคุณโอฬารเหยียบเบรคก็ยิ่งเร่งให้น้ำมันเบรคให้เดือดขึ้นเกิดเป็นฟองอากาศมากมายในท่อน้ำมันเบรค แรงเบรคจึงไม่สามารถส่งถึงชุดห้ามล้อได้ น้ำแข็งที่ละลายเป็นน้ำได้ทำลายคุณสมบัติของน้ำมันเบรคไป นี่คือเหตุผลที่ระบบเบรคจะปกติดีเมื่อเริ่มขับรถแต่จะไม่สามารถใช้งานได้เมื่อขับไปสักระยะ”

“แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นอุบัติเหตุจะไม่รุนแรงเลย หากคุณโอฬารไม่ขับรถเร็ว และไม่ขึ้นทางด่วน เพราะถ้าขับช้าๆแม้เบรคไม่อยู่รถยนต์ก็คงพุ่งชนข้างทางหรือรถยนต์ใกล้เคียงด้วยความเร็วต่ำเสียหายไม่มาก แต่คนร้ายล่วงรู้พฤติกรรมการขับรถของคุณโอฬารที่ชอบขับรถเร็ว มักใช้ทางด่วนเป็นประจำ คนร้ายจึงใส่น้ำแข็งลงในกระปุกน้ำมันเบรคของรถคุณโอฬารก่อนขับออกมาจากบ้าน เพื่อให้เดินทางไปพบจุดจบด้วยตัวเอง”

“เพราะคนร้ายก็คือคุณนั่นเอง คุณจงรัก!”

โปรดติดตามไฟล์ต่อไป



TopSpeed
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 5 ก.ย. 2554, 14:20:04 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 5 ก.ย. 2554, 14:20:04 น.

จำนวนการเข้าชม : 1559





<< ไฟล์#6 อุบัติเหตุจำลอง   ไฟล์#8 การเดินทางของน้ำตา >>
เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account