อรุณสวัสดิ์หัวใจ # ชอนตะวัน (จบแล้ว)
ความรักก่อให้เกิดความทุกข์ และรักที่เป็นไม่ได้ทุกข์ยิ่งกว่า
ตากับยายหล่อหลอมให้หลานสาวมีวิธีคิดอย่างคนพอเพียง
แต่บุญก็พา วาสนาก็ส่ง ให้เธอเป็นไปเกินกว่าที่ใจปรารถนา..

ไกล สุดเอื้อมมือถึง ไกล อยู่ถึงฟ้ากั้น
ไกล ไปหลายคืนวัน ไย รักมิกรายจากใจ

รักคือการแบ่งปัน รักคือการห่วงใบ รักคือการเสียสละ และรักคือการช่วยเหลือ

"ฉันไม่ได้แย่งเธอมาจากใคร เพียงแต่ว่าฉันทำตามที่ใจฉันเรียกร้องเท่านั้น
ถึงฉันจะเหลวไหลไปตามประสา แต่วันหนึ่งฉันก็รู้ว่าฉันควรหยุดที่ใคร"..

ดุจบ่วง ร้อยรัด ดวงใจ
ยิ่งแก้ ยิ่งพันใจ ยุ่งเหยิง
ยิ่งหนี ยิ่งตามติด ยากหลบ
พบคน ที่หัวใจ วางไว้ ใช่เลย

"ฉันรักเธอตั้งแต่เห็นหน้า เมื่อได้อยู่ใกล้ ๆ ได้เห็นเนื้อแท้จากข้างใน ฉันก็รักเธอยิ่งขึ้น หัวใจของฉันเพรียกหาผู้หญิงดีพร้อมคนหนึ่ง แล้วฉันจะปล่อยเธอไปได้อย่างไร"
Tags: โรแมนติกดราม่า

ตอน: ตอนที่ 8

8

“บัว บัว บัว”

“ค่า” เสียงเรียกนั้นดังมาจากข้างบน เสียงที่ตอบอยู่ข้างล่างจึงต้องดังกว่าปกติ เพราะต้องการส่งสัญญาณให้ ทุก ๆ คนได้รู้ว่า เธอไม่ได้แอบขึ้นไปรับใช้ตามหน้าที่

“ขึ้นมาบนนี้หน่อย คือฉันทำน้ำหกลงพื้นน่ะ”

คุณอารักษ์ ชะโงกหน้าลงมาเรียก สายบัวเหลียวซ้ายแลขวา กล้า ๆ กลัว ๆ คุณชวนชมก็ออกไปเที่ยวเสียด้วย ส่วนเด็กส้มเช้ง หายไปไหนก็ไม่รู้ อาจจะขลุกอยู่ที่บ้านหลังใหญ่ ตามนิสัยแจ๋นไปทั่ว

“เร็วนะ” เร่งเร้า


สายบัวค่อย ๆ ย่องขึ้นไปแล้วเปิดประตูห้อง ในมือมีผ้าขี้ริ้วอยู่ด้วย หากมีอะไรเกิดขึ้น หญิงสาวนึกถึงแต่หน้าหมอโกมุท

“ตรงนั้นน่ะ” คุณอารักษ์ ชี้นิ้วไปที่มุมห้อง

ไม่น่าที่น้ำจากแก้วซึ่งตั้งอยู่ที่หัวเตียงจะมาหกตรงมุมห้องนั้นได้

ขณะเดินไปทรุดนั่งลงตรงบริเวณนั้น ใจสายบัวเต้นไม่เป็นส่ำ

“เออตกลงเรียนใกล้จบหรือยัง” คุณอารักษ์ชวนคุยประหนึ่งไม่เคยมีเรื่องกันมาก่อน น้ำเสียงนั้นสุภาพเกินกว่าที่สายบัวเคยได้ยินมาตลอดเวลาสองปี

“อีก 60 หน่วยกิต” ตอบให้คิดเอง

“แล้วใกล้หรือยังล่ะ” ดูมีอารมณ์ขุ่นขึ้น ตามนิสัยคนเอาแต่ใจตัว

“ถ้าตั้งใจเรียนนะคะ ก็ไม่เกิน 3 เทอม ประมาณปีครึ่ง”

“จบแล้วจะไปไหนหรือ จะออกจากที่บ้านหรือเปล่า” น้ำเสียงกระเส่าลง

พอดีกับที่สายบัว เช็ดน้ำจนแห้ง กำลังจะเปิดประตูออกไป

“คุณชวนชมไม่ได้บอกรึ ถ้าใช้งานแล้ว ให้ถามก่อนว่า มีอะไรให้ทำอีกไหม”

สายบัวเชิดหน้าขึ้นนิดหนึ่งแล้วก็ถอนหายใจออกมา

“ค่ะ มีอะไรให้ทำอีกไหมคะ”

“ไม่มีหรอก แค่อยากคุยด้วยก็เท่านั้น” น้ำเสียงไว้ตัวจนสายบัวรู้สึกได้ เป็นธรรมดา อาจเคยมีผู้หญิงมางอนง้อ ต้องการนอนด้วยตามสไตล์ผู้หญิงสมัยใหม่

รักใคร่ ถูกใจกัน ก็ไปพลีร่างกายให้ตามโรงแรม หรือไม่ก็บนรถยนต์คันโก้ สมดั่งประสงค์แล้วก็ต่างคนต่างไป ไม่มีวันใช่เธออย่างแน่นอน

“มีแฟนหรือยัง”

สายบัวทำหน้าปั้นยากกับคำถามนี้

“มีแล้วค่ะ เด็กรามด้วยกัน”

“เคยเห็นเดินควงกันหน้าราม” สายบัวรู้สึกแปลกที่เขาเห็นแต่ก็ขุ่นใจกับคำพูดของเขา

“เคยมีอะไรกันหรือยัง”

สายบัวฉุนกึกกับคำถามนั้น นี่เธอดูก๋ากั่นกร้านโลก ขนาดนั้นเชียวหรือ

“ขอตัวก่อนนะคะ มีงานที่ยังต้องทำอีกเยอะ” พูดจบสายบัวบิดลูกบิด แต่ช้ากว่าที่อารักษ์ลุกขึ้นมาดึงแขนไว้

“ฉันขอโทษ” น้ำเสียงของเขากระเส่าลงกว่าเดิมอีก คล้ายจะกระซิบ สายบัวขืนต้นแขนไว้เล็กน้อย

“ปล่อยฉันไปเถอะค่ะ ยังมีงานสำหรับคนรับใช้อีกเยอะแยะรออยู่ข้างล่าง” น้ำเสียงของสายบัวแข็งขึ้น ใจนั้นพร้อมสู้เต็มที่หากเขาโอบรัดหวังกระทำมิดีมิร้าย

“รู้ไหมว่าเธอโตเป็นสาวแล้ว สวยด้วย”

“ปล่อยค่ะ” เสียงของสายบัวดังขึ้นกว่าเดิมอย่างขาดความเกรงกลัว

เมื่อคุณอารักษ์ปล่อยแขนแล้ว เมื่อพ้นจากห้องนั้นมาได้แล้ว สายบัวแทบจะวิ่งลงจากชั้นบน



“เป็นอะไรหน้าตาตื่น”

คุณอาภัสวรรณ นั่งไขว่ห้างกอดอก สายตามองอย่างจับผิด แต่คงไม่ทำให้ความผิดนั้นกลายเป็นเรื่องใหญ่แน่ เพราะถ้าสองพี่น้องนี้รู้กัน ก็เท่ากับว่าเธอนั้นเป็นเหยื่อ

สายบัวนั่งคุกเข่าลงตามฐานะตน ใจนั้นยังเต้นตูมตาม หูเงี่ยฟังคำของคุณอาภัสวรรณ นางเอกผู้แสนดีชื่อดังของเมืองไทย หากพูดไม่ดีนิดเดียวเธอพร้อมเก็บผ้าออกจากบ้านหลังนี้แน่นอน ศักดิ์ศรีของเธอมีจะมาย่ำยี่ประหนึ่งนางทาสไม่ได้เด็ดขาด!

“วันนี้ฉันจะมีแขกมาที่บ้าน คุณชวนชมเธอไม่อยู่ ป้าละเอียดกับลุงสะอาดก็ออกไปกับคุณแม่ เธอช่วยรับรองแขกฉันหน่อยแล้วกัน”

แล้วคุณอาภัสวรรณก็สั่งเมนูสำหรับอาหารว่างมื้อก่อนเที่ยง

“ทำได้ไหม ง่าย ๆ”

“ทำได้ค่ะ”

“ระวังตัวไว้หน่อยแล้วกัน พี่ชายคนดีของฉัน มักมากในกาม ไม่รู้จักอิ่มจักพอหรอก ที่เตือนเพราะเห็นว่าเป็นผู้หญิงด้วยกัน ถ้ายังไม่พลาด ก็น่าจะหาทางขยับขยายออกไปจากบ้านซะ”

เหมือนถูกตบหน้า สายบัวยืนจัดอุปกรณ์ถ้วยชามต้อนรับบรรดาแขกของคุณอาภัสวรรณด้วยน้ำตานองหน้า อย่างไรเสีย คุณอาภัสวรรณก็เข้าใจหัวอกลูกผู้หญิงด้วยกัน



แล้วแขกที่ว่าก็มากันเป็นคณะ ถ่ายทำภาพ ทุกซอกมุมของบ้าน ที่คุณชวนชมพยายามปัดกวาดเช็ดถู เพื่อรอให้มีวันที่ใครต่อใครได้เห็น

“น้อง คือ ถามจริงเถอะ เป็นคนรับใช้รึ”

“ค่ะ” ตอบสั้น ๆ ดูทื่อ ๆ โง่ ๆ

“หน่วยก้านดีนี่ สูงเท่าไหร่”

“ค่ะ” น้ำเสียงนั้นทำให้คนฟังมีโมโหแน่

“ฉันถามว่าเธอสูงเท่าไหร่” ผู้ชายที่ใส่แว่นกรอบสีดำหนา กับทรงผมซอยสั้นใส่น้ำมันจนเป็นเงาขึ้นเสียง

“174 ค่ะ”

“น้ำหนักล่ะ”

“48”

“รู้ไหม เพอเฟคมาก รู้ไหมฉันเป็นใคร”

“ไม่รู้” น้ำเสียงสั้น ๆ ห้วน ๆ ไม่ใส่ใจ

ได้ยินคำตอบ คนถามมีสีหน้าไม่พอใจอีก

“ปากดีด้วยนะ” สายบัวยิ้มให้ที่มุมปากแล้วค้อนให้หนึ่งที

“พี่ต้นคะ อ้าวมาทำอะไรอยู่ตรงนี้คะ” น้ำเสียงคนถามดูไม่ค่อยจะพอใจนัก

“เด็กในบ้านน้องวรรณหรือครับ”

คุณอาภัสวรรณสงบคำให้เกียรติ สายบัวจึงต้องรับเสียเอง

“ค่ะ คนรับใช้”

“โอเค หมดกัน” คนใส่แว่นตาดำผมสั้นเซทจนเยิ้มทำท่ายกไหล่ผายมือดูน่าหมั่นไส้

“ไปกันเถอะค่ะ พี่ช่างกล้องจะให้วรรณทำท่าอะไรก็ไม่รู้ วรรณไม่อยากทำ “

คุณอาภัสวรรณกับคุณต้นออกไปแล้ว สายบัวถอนหายใจออกมา ไม่ใช่ครั้งแรกที่ถูกทาบให้ไปทำอะไรสักอย่างในวงการบันเทิง เธอไม่เคยอยากเป็นอะไรนอกจาก นางสาวสายบัว เพียรกสิกรรม แต่ครั้งนี้เธอแค่รู้สึกอยากเป็นให้ดีกว่าที่เป็นอยู่

ก่อนจะกลับ สายบัวได้รับนามบัตร ดูจริงใจ ท้าทายเธอเล็ก ๆ

“โทรหาพี่ได้นะน้อง พี่ชอบลุคอย่างน้องที่สุด ซู๊ดหยอด!”

พี่ต้นแอบมายื่นให้ แขกของคุณอาภัสวรรณกลับไปพร้อมกับเจ้าตัว ในบ้านนั้นจึงยังเหลือคุณอารักษ์ ผู้คงรอคอยให้เหยื่อติดกับ

“สายบัว”

“ขา”

คนร้องเรียกนั่งอยู่บนโซฟา ในห้องโถงจึงดูปลอดภัยกว่าอยู่ในห้องนอน

“เพื่อนฉันจะมากินเหล้า ช่วยจัดที่ริมสระน้ำหน้าบ้านไว้ให้ด้วย”

“กี่คนคะ”

“3 คน”

ถอยมาแล้ว สักพักจึงได้ยินเสียงรถ สายบัวไปแอบดู เห็นว่าหน้าตาหล่อเหลาเหมือนผู้ชายจากแมกกาซีนสำหรับผู้ดีทุกคน

“เฮ้ย ว่าไงๆ เรียบร้อยหรือยัง” อีกคนท่าจะปากเปราะ แต่อีกคนปากเปราะกว่า

“สมภารไม่กินไก่วัดโว้ย” แม้จะเลี่ยงแต่เธอก็รู้

อารมณ์ขุ่นกลับมาอีกรอบ ดีแต่ที่คุณอารักษ์ไม่พูดว่าอะไร แต่เมื่อเธอเดินกลับออกมาแล้ว

“เล่นตัวว่ะ คงไม่ยอมง่าย ๆ”

“ก็ตื่นเต้นดีไม่ใช่รึ เอ็งถึงได้ชวนพวกข้ามาดื่มที่นี่”

“อยากจะเล่นเกมส์โชว์ก็ว่ามาเถอะ”

“ตกลงเท่าไหร่ พวกข้าเอาว่าไม่ได้แล้วกัน เอ็งจะได้มีแรงฮึดสู้”

สายบัว ใจเต้นไม่เป็นส่ำ จะทำอย่างไรกับไอ้พวกนี้จึงจะสาสมกับที่มันมองผู้หญิงเป็นอย่างนั้น

“บัวได้หรือยังกับแกล้ม” เมื่อแอบคุยกันเรื่องเธอแล้วก็เรียกใช้เอาเสียอีก สายบัวจิกเล็บจนเจ็บมือ

“ได้แล้วค่ะ” สายบัวยกอาหารชื่อ ‘หมูทอดกระเทียมพริกไทย’ ไปให้

“ฝีมือดีว่ะไม่แพ้ของป้าละเอียดเลย มีเสน่ห์ปลายจวักเสียด้วยเว้ย เอาเพื่อนกูอยู่ซะมั้ง” คำนัยนั้นสายบัวรู้ว่าหมายถึงอะไร

“น้องบัวครับ รู้ตัวไหมว่ายิ่งโตก็ยิ่งสวย พี่ชักอยากลงสนามแข่งด้วยแล้วซิ”

สายบัวที่ยืนคอยรับใช้อยู่เริ่มปั้นหน้าไม่ถูก แต่ใจของเธอนั้นเดือดอย่างกับหม้อน้ำบนเตาแก๊ส

“หยุดพล่ามได้แล้ว”

“ปกป้อง เอ้ยปกป้อง”

“ไปบัว ไปนอนปะ ไม่มีอะไรแล้วเดี๋ยวที่เหลือฉันจัดการเอง” สายบัวถอนหายใจโล่งอก แต่ขณะหันหลังกำลังจะก้าวขา ปากใครบางคนก็ยังไม่หยุดพล่าม

“ให้ไปนอนรอที่ไหนว้า”

สายบัวอยากจะเอาถาดในมือเขวี้ยงไปกลางวงให้มันรู้แล้วรู้รอดไปเสียจริง

ดึกทีเดียวกว่าเพื่อน ๆ คุณอารักษ์จะกลับออกไป เมื่อคุณอารักษ์ขึ้นห้อง สายบัวจึงรู้สึก โล่งอก

“พี่สายบัว”

“อะไรส้มเช้ง”

“คุณอารักษ์ให้มาเรียก”

“บอกว่าพี่ออกไปข้างนอกแล้วกัน”

ส้มเช้งหายไปสักพัก สายบัวรีบออกจากห้องไปหลบอยู่หลังพุ่มไม้ ส้มเช้งเดินตามหาร้องเรียกแบบเสียงไม่ดังมาก

“ไปจริง ๆ หรือวะ สนใจส้มเช้งหน่อยไม่ได้” หญิงสาวทำท่ากระฟัดกระเฟียด เมื่อขึ้นไปรายงาน สักพัก สายบัวก็ได้ยินเสียงสตาร์ทเครื่องยนต์รถ ก่อนจะออกตัวแบบกระชากบอกให้รู้ว่ามีโมโห

ที่ที่คิดว่าปลอดภัย แต่สำหรับผู้หญิงภัยมีอยู่ทุกที่


เมื่อคุณอารักษ์ขับรถออกไปแล้ว สายบัวก็ออกมาจากที่ซ่อนแล้วเดินเตร็ดเตร่ไปทางหลังบ้าน เธอรู้สึกว่าโลกของเธอที่นี่มันช่างโหดร้ายขึ้นเรื่อย ๆ หากเธอพลาดท่าเสียทีให้ผู้ชายอย่างคุณอารักษ์มันจะเป็นอย่างไร คงเป็นได้แค่ของเล่นเพียงชั่วครู่ชั่วยาม พอเบื่อแล้วเขาก็ผลักใส เหมือนกับที่วิลาวัลย์เคยเล่าให้ฟัง

“พอใจกันประเดี๋ยวประด๋าวบัว พอเบื่อเราแล้วก็เลิกไป สักวันนะ ถ้าวิทำงานประจำมีเงินมากพอ วิก็จะเลิกปะเหลาะผู้ชายมีเงิน แล้วตั้งหน้าตั้งตาเป็นคนดี รอใครสักคนที่รักเราจริง ๆ และไม่สนใจกับอดีตของเรา”

ผู้ชายอย่างคุณอารักษ์กับเพื่อน หรืออย่างคุณหมอกมลบางทีก็ทำให้ผู้หญิงเสียคน ทุกคนต้องการเงิน หากมีเงินมากองอยู่ตรงหน้า ท้องมันร้องแล้วผ้าจะไม่หลุดออกไปได้อย่างไร สายบัวนึกถึงวันคืนที่ล่วงไปของตน แล้วเธอก็ถอนหายใจออกมา โชคดีอย่างที่วิลาวัลย์ว่าไว้แล้ว เพราะเธอมีคุณชวนชม มีบ้านหลังนี้ทำให้กินอิ่มนอนหลับรู้สึกว่าปลอดภัยเธอก็เลยมี ‘โอกาส’ ทำอะไรดี ๆ เพื่ออนาคต

ขณะที่สายบัวกำลังเงยหน้าดูพระจันทร์ที่ทอแสง แล้วคุณอารักษ์ก็ขับรถกลับเข้าบ้านมา สายบัวแปลกใจ ไม่อยากจะเชื่อสายตัวเอง

ถึงแม้เขาจะขึ้นชื่อว่าเจ้าชู้ไก่แจ้ แต่เขาก็ไม่เคยพาผู้หญิงเข้ามาป้วนเปี้ยนในบ้านสักคน เธอเคยนำเรื่องนี้ไปเล่าให้วิลาวัลย์ฟัง

‘ผู้ชายบางคนเขาก็มาหาที่ระบายกับผู้หญิงอย่างว่าไงสายบัว ไม่จำเป็นต้องติดพันกันให้ยืดเยื้อหรอกแค่พอใจครั้งคราว ที่คอนโด ม่านรูด แล้วก็จบ ฉันว่าเขาดีนะที่ไม่มีข่าวกับใครอยู่คนเดียว’

‘แต่ก็มีข่าวว่าคาสโนว่าเรียกพี่’

‘ประสบการณ์เยอะดีไม่ชอบเหรอ’

‘บ้า’

‘ไม่แน่นะบัว เก่งตำราเก่งเรื่องบนเตียงคนไข้อย่างคุณหมอสุดหล่อของเธอ บางทีเรื่องบนเตียงนอนอาจจะไม่ได้เรื่องก็ได้'

เมื่อเห็นว่าเธอปล่อยใจกับอากาศตรงนั้นจนรู้สึกสบายใจแล้วสายบัวก็ค่อย ๆ เดินกลับมาที่บ้าน แล้วเธอก็พบว่าคุณอารักษ์ยังคงนั่งสูบบุหรี่ ชมจันทร์อยู่บนเก้าอี้ แววตานั้นเป็นประกายคล้ายจะค้นหาอะไรบางอย่างจากดาวที่สูงอยู่บนฟ้า สายบัวค่อย ๆ เลี้ยวหลบพุ่มไม้ เพื่อค่อย ๆ เลาะกลับห้องของตน

“บัว” เขาเรียกชื่อเธอเบา ๆ อีกครั้ง สายบัวสะดุ้งโหยง

“กินขนมไหม ฉันออกไปซื้อช็อคโกแล็ตมา มีเยอะเชียว” เขาผายมือมายังกล่องช็อคโกแลตที่วางอยู่บนโต๊ะด้านข้าง สายบัวทำหน้าเจื่อน ๆ แล้วก็ค่อย ๆ เร้นกายออกจากบริเวณนั้น การทำแบบนั้นจึงส่งผลให้คุณอารักษ์ยิ้มกับลมกับแล้งและจันทร์ที่กระจ่างฟ้า



“น้องบัวคนสวยของพี่หรือครับ”

“ใครหรือคะ” สายบัวทำเสียงแปลกใจกับถ้อยสำเนียงอันไม่คุ้นเคย

“พี่ต้นไง ที่น่าตาดี ๆ ดูน่ากินน่ะ”

“เอาเบอร์ของบัวมาได้อย่างไร” อยากจะขำกับสำบัดสำนวนแต่ก็จำต้องสะกดไว้

“เหอะ ตอนนี้พี่นั่งรออยู่ที่ลานพ่อขุน เห็นอยู่นะว่ายืนอยู่ตรงไหน มองมาทางองค์พ่อขุนนะ ที่เก้านาฬิกา เห็นไหม รถสีเหลืองมะนาวเปรี้ยวจี๊ดจ๊าด นั่นแหละพี่เอง มาหาพี่หน่อยมีอะไรเสนอเพื่อให้น้องสนอง มาเร็วนะอย่าให้พี่คอยจนมีฮอร์โมน”

สายบัวพาร่างประเปรียวฉ่ำเหงื่อผ่าแสงแดดเปรี้ยง ๆ มาหา เปิดประตูเข้าไปนั่งพักเหนื่อยท่ามกลางแอร์เย็นฉ่ำ

“พี่เป็นผู้จัดการของน้องอาภัสวรรรณ นางเอกชื่อดังของเมืองไทย”

“รู้แล้วค่ะ”

“ว่างไหม ออกไปหาอะไรอร่อย ๆ กินกัน แล้วก็เม้าท์ให้มันสะใจ”

“ตรงนี้ก็ได้ค่ะ” สายบัวรู้สึกว่าแค่ในรถที่ติดแอร์นี่ เธอก็อึดอัดจะแย่ หากไปที่อื่นเธอคงแพ้อย่างราบคาบกับถ้อยเจรจาที่จะพูดเป็นแน่

“โอเค พี่เริ่มเลยนะ” พูดจบสายตาก็จ้องอยู่ที่วงหน้าและเส้นผมดกดำยาวสลวยถึงกลางหลังของสายบัว

“ผมน้องบัวสวย หน้าก็แบบไทย ๆ สนไหม เทสต์หน้ากล้องนิดนึง มีงานโฆษณาแชมพูยี่ห้อบ้าน ๆ ลองเล่นไหม เงินดีนะ หกหลักทีเดียว”

สายบัวทำท่าครุ่นคิด เงินหกหลัก ถ้าซื้อที่ดินที่บ้านนอกได้เกือบสิบไร่ทีเดียว แต่ถ้าเก็บไว้ เธอก็จะมีเงินไว้ลงทุน

“พี่จะปั้นบัวขึ้นหรือคะ แค่คนรับใช้ อีกอย่างคุณอาภัสวรรณเธอคงไม่พอใจ”

“คิดมากไปได้ มันสิทธิ์ส่วนตัวนะน้อง” พี่ต้นทำท่าอารมณ์เสีย

“ขอถามผู้ใหญ่ก่อนแล้วกัน”

“คุณชวนชมนะหรือ เยสแล้วจ้ะ”

“พี่ต้น”

“เรียบร้อยแล้ว ส่วนคุณอาภัสวรรณก็ว่าแล้วแต่เธอจะตัดสินใจ เอาเถอะน่ะสายบัว ก้านบงกชของฉัน โอกาสไม่ได้มีมาง่าย ๆ นักหรอก เธออยากเป็นแค่เด็กในบ้านเท่านั้นหรอกรึ ชีวิตถ้ามีบันไดทองให้เธอก้าวเธอก็น่าจะเดินนะ แล้วอีกอย่างคนระดับพี่นี่ ใช่ว่าจะลดตัวเลือกใครมาอยู่ในสังกัดได้ง่าย ๆ นะ น้องน่ะยิ่งกว่าถูกหวยรางวัลที่หนึ่งอีกรู้ตัวไว้ด้วย”

สายบัวครุ่นคิดกับคำพูดเอาบุญเอาคุณนั่น น้าดาวเรืองให้เธอมากรุงเทพก็เพื่อโอกาสไม่ใช่รึ

“สายบัวโทรศัพท์กลับไปหาคุณชวนชม เพื่อขอคำยืนยันก่อนแล้วกัน ไม่อยากถูกหลอก”

“เชอะ แม่นี่ สมกับที่ได้ยินคำร่ำลือมาเชียวว่าคุณชวนชมปลุกปั้นมากับมือ ก็เลยปากร้ายได้พอ ๆ กัน แต่ ร้าย ๆ อย่างนี้อีต้นชอบ เอาซิยะ รีบโทรซิ เสียเวลาทำงานของพี่”

เมื่อสายบัวกดโทรศัพท์มือถือและแจ้งจุดประสงค์ของพี่ต้นแล้ว คุณชวนชมก็ทำเสียงเป็นปกติคล้ายกับว่ามีการพูดคุยกันมาก่อนหน้านั้นแล้วจริง ๆ

“โอเค ถ้าวาสนามันจะพาเธอในทิศทางนั้นมันก็น่าลองไม่ใช่รึสายบัว ถ้าฉันยังสาวอย่างเธอ ฉันไม่ให้ยัยต้น ถ่อไปหาเธอถึงที่โน่นหรอก”

สายบัววางโทรศัพท์แล้วยิ้มให้กับคนร่างชายแต่หัวใจเป็นผู้หญิง

“อันดับแรก เธอจะต้องแปลงโฉมตัวเองเป็นนางฟ้าของฉาน” ไม่เฉพาะคำพูดแต่ท่าทางของพี่ต้นนั้นทำให้สายบัวนึกขำ แต่ขำอย่างไร เธอก็นึกถึงเงินที่จะต้องใช้จ่ายในการทำให้สวยอยู่ดี

“แต่บัวไม่มีเงิน” จริง ๆ เธอมี ทั้งเงินเก่าและเงินค่าเช่าที่ดินที่ป้าโอนใส่ธนาคารมาให้ ยังไม่รวมเงินเดือนที่เธอเก็บหอมรอบริบ ที่ใช้จ่ายในช่วงหลัง ๆ ก็มาจากเงินขายภาพกับเงินที่คุณชวนชมหยิบยื่นให้

“แหม แม่นี่ หัวเร็วจริง ๆ เลย เออ ๆ ทุกบาททุกสตางค์เกี่ยวกับเธอ ฉันจะเป็นคนออกค่าใช้จ่ายทั้งหมด หากเธอได้งานนี้ ฉันหักเปอร์เซ็นต์นายหน้า และก็จะเป็นผู้จัดการคอยหางานให้เธอต่อไป แต่ถ้าเธอไม่ได้ ฉันก็คิดเสียว่า เล่นแต่งตัวตุ๊กตาก็เท่านั้น เธอโอเค้”

“ค่า”


เมื่อผลักประตูออกมาจากร้านเสริมสวยชื่อดังลูกเป็ดขี้เหร่ ก็กลายเป็นเจ้าหญิงผู้เลอโฉมที่ใครเห็นก็ต้องเหลียวกลับมามอง ผมเส้นสีดำยาวที่เคยมัดรวบ ๆ ไว้หรือปล่อยสยายเป็นบางครั้ง บัดนี้ถูกตัดแต่งพอให้เป็นทรง หมักและอบไดร์จนสลวยเงางาม ใบหน้าที่ไร้เครื่องสำอางก็นวลเนียนด้วยผงขัดกับครีมรองพื้นแป้งเนื้อดี เสื้อผ้าเพียงเสื้อยืดราคาร้อยเก้า ๆ ของเด็กกะโปโล เปลี่ยนเป็นเสื้อแบบสตรีสีชมพูอ่อนเผยไหล่ระหงกางกางขายาวถึงน่องรัดชายติดกระดุมสีชมพูสด ทำให้เห็นปลีน่องที่โผล่ผ้าออกมารับกับรองเท้าคู่งาม

ก่อนจะออกจากร้าน พี่ต้นร้องกรี๊ดกร๊าดประหนึ่งว่าเธอผ่านการคัดเลือดจนถ่ายแบบเสร็จและได้เงินค่าตัวมาแบ่งกันเรียบร้อยแล้ว

“นางฟ้าของฉาน โอ้ว ปะ กลับแล้น แต้งคิวนะคะน้องสาวของพี่ทุก ๆ คน เอาไว้ถ้าสำเร็จสมดั่งใจหมาย เจ๊จะมาปิดร้านนี้แล้วยกเครื่องใหม่ทั้งตัว ช่วย ๆ กันให้เจริญ ๆ ยิ่งขึ้นแน่นอน ไปน้องบัว”

ขณะจะก้าวขาออกจากหน้าร้านหรูหรากลางห้างดัง

“อ้าวคุณอารักษ์ โลกกลมจริง ๆ” คนที่พี่ต้นร้องทัก ยืนยิ้มกรุ้มกริ่ม มือล้วงประเป๋ากางเกงทรงมอสกาย สายตานั้นจับอยู่ที่ ‘ว่าที่’ นางแบบยาสระผมคนใหม่ไม่วางตา

สายบัวยิ้มเจื่อน ๆ ให้ ไม่ได้อยากนึกทักด้วยคำว่าอะไร เพราะเธอก็ไม่รู้เหมือนกันว่าระหว่างเธอกับเขาความสัมพันธ์คือเจ้านายหรือผู้ชายที่คอยจ้องผลาญความสาวของเธอ

คุณอารักษ์ไม่พูดไม่จาอะไร เพียงแต่ยิ้ม ๆ แล้วก็ตบไหล่พี่ต้นเป็นเชิงว่า ‘รู้กัน’

พี่ต้นลากสายบัวมาอีกทาง

“เพิ่งอกหักมา” พี่ต้นเป็นฝ่ายพูดเสียเอง สายบัวไม่ซักไซ้ เพราะคำว่า ‘อกหัก’ ของพวกเขาก็คือ คำว่า ‘เข้ากันไม่ได้’ ‘ไม่ใช่’ และกำลังจะหาคนใหม่นั่นเอง

“ไม่สนใจคุณอารักษ์ บ้างเหรอ อยู่บ้านเดียวกันมาตั้งนาน” คำถามจากปากที่จีบไปมานั้นดูไม่ได้คิดก่อนพูดเลยสักนิด

“พี่ต้น”

“หล่อลากจริง ๆ เล้ย สาว ๆ เห็นแล้วเหลียวหลังเกือบทุกราย พี่เป็นเธอนะบัว อุ้ย! ไม่พูดดีกว่า อย่าทำหน้าอย่างนั้นซิ ยิ้มไว้ อย่างไรงานนี้เธอจะต้องได้อย่างแน่นอน”

“พี่ต้นมั่นใจ”

“ทำไมจะไม่มั่นใจล่ะ ก็เด็กของพี่สวยซะขนาด เออตกลงเปลี่ยนชื่อดีกว่าไหม ชื่อสายบัว มันบ้านเกินไป พี่ว่ามันน่าจะตกเพราะชื่อนี่แหละ”

“ก็พี่พูดเองไม่ใช่หรือว่าเป็นโฆษณายาสระผมยี่ห้อบ้าน ๆ ถ้าชื่อนาตาลี เจสิก้า โมนาลิซ่า อะไรนั่นมันจะได้ไหม แล้วอีกอย่างพี่ต้น หน้าอย่างบัว ชื่ออย่างนั้น ใครเขาจะเชื่อ เอาชื่อจริงนามสกุลจริงนี่แหละดีแล้ว”

“เออ ๆ ตามใจแล้วกัน แล้ววันหลังดังแล้วมีคนมาล้อชื่อเชย ๆ แบบนี้อย่ามาว่าเจ๊คนสวยแล้วกัน อะอะ อุ้ยไม่ได้ซิ” ว่าแล้วพี่ต้นก็หยุดแล้วจับตัวสายบัวให้หยุดตาม

“มันเดินเหมือนตามฟาย” พี่ต้นตั้งใจออกเสียงควายให้เป็นฟายเพื่อให้ดูสุภาพขึ้นมาแต่ถึงกระนั้นมันก็ยังมีความหมายถึง ‘ควาย’ สัตว์ที่ใช้กำลังไถนาปลูกข้าวให้คนไทยได้กินมาแต่โบราณ แต่หาได้มีใครสำนึกบุญคุณไม่ น่าเห็นใจ ‘ควาย’ เสียจริง

“บัวดูพี่นะ”แล้วพี่ต้นก็เดินไปข้างหน้าด้วยท่าทางของนางแบบบนแคทวอร์คโดยไม่ได้สนใจสายตาของใคร ๆ มากมายที่มองมาแล้วขำกริ๊ก ๆ เลยสักนิด

“หนึ่ง สอง สาม หนึ่ง สอง สาม นับจังหวะในใจอย่างนี้ แล้วก็บิดอย่างนี้”

สายบัวอยากจะแทรกแผ่นดินหนีเสียให้ได้ เพราะท่าของพี่ต้นเมื่อถึงที่หมายแล้วหมุนนั้นดูประหนึ่งนางแบบมืออาชีพกลางแคทวอร์คแบบในทีวีที่เธอเคยเห็นทีเดียว

“อ้าวบัว” แล้วสายบัวก็ทำอย่างที่คิดไว้ได้จริง ๆ พอพี่ต้นหันมาแล้วไม่เจอะคนในคอนโทรลก็รีบโบกไม้โบกมือให้คนอื่น ๆ แล้วรีบแจ้นตามสายบัวที่เห็นหลังอยู่ไว ๆ



จุฬามณีเฟื่องนคร
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 10 เม.ย. 2554, 10:58:00 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 10 เม.ย. 2554, 10:58:00 น.

จำนวนการเข้าชม : 2181





<< ตอนที่ 7   ตอนที่ 9 >>
เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account