อลวน ถนน หัวใจ (จบแล้ว)

Tags: ผู้แต่งยังไม่ได้กำหนด tags ของนิยายเรื่องนี้

ตอน: 23. “คุณก็บอกมาสักทีซิคะว่าคุณคือใคร”

23.

ที่หน้าห้องไอซียู รังสิตาเห็นญาติพี่น้อง รวมถึงบรรดาภรรยาบ้านเล็กบ้านใหญ่ของพี่ชายใหญ่ ยืนบ้างนั่งบ้าง จับกลุ่มกันบ้าง พูดคุยกันด้วยความปรองดองบ้างและมีเขม่นกันทางสายตาบ้าง หญิงสาวหันมาหาผู้ที่ได้ชื่อว่าสามี ในเวลานี้เธอจะแนะนำกับคนอื่น ๆ ว่าอย่างไร

เธอพร้อมที่จะกลายเป็นคนใฝ่ต่ำในสายตาของญาติแล้วอย่างนั้นหรือ หญิงสาวสูดลมหายใจเข้าปอดเต็มที่

“คุณหนู” เป็นเสียงของนมแสงที่ดังอยู่ด้านหลัง รังสิตากับโชคชัยรีบหันกลับไปหา ชั่วเพียงเห็นหน้าและแววตาตัดพ้อของนมแสง และด้วยรู้สึกผิดที่ตนเองเปลี่ยนไปในทางเสื่อมเสีย หญิงสาวก็โผเข้ากอด แล้วร้องไห้สะอึกสะอื้น

“เป็นอะไร ใครทำอะไรคุณหนู บอกนมแสงมา ใครทำอะไรคุณหนู” ปากถามว่าใคร แต่สายตานั้นปักมั่นไปเสียแล้วว่า ‘ไอ้หมอนี่มันทำร้ายคุณหนูใช่ไหม’

โชคชัยรีบหันซ้ายหันขวา เขากลัวการไม่ทันได้อธิบายอะไรมากกว่า แต่เมื่อลูกสมุนของเสี่ยสาธรบอกว่าไม่มีอะไรแล้ว มันก็น่าจะปลอดภัย

เมื่อญาติของรังสิตาเห็นว่ารังสิตามาปรากฏตัวพร้อมกับคนที่พากันหนีไป ต่างก็กรูกันเข้ามาหา โดยเฉพาะเจ๊ใหญ่ วินิตรา เมื่อมาถึงก็แหวใส่เธอทันที

“เป็นอย่างไร สิตา สะใจเธอแล้วซิ เพราะเธอคนเดียว เพราะเธอคนเดียว เสี่ยถึงได้เป็นอย่างนี้” ไม่เพียงแค่ระบายแต่เจ๊ใหญ่กรากจะเข้าไปทำร้ายร่างกายด้วย ดีที่โชคชัยขวางไว้ เขาจึงได้รับลูกหลงไปเต็ม ๆ

“นายใช่ไหมที่ให้ความร่วมมือ” เสียงตุ้บตั้บตอนชุลมุน ทำให้รังสิตาเลือดขึ้นหน้าทันที

“เจ๊ไม่มีสิทธิ์ไปทำแบบนั้นกับเขานะคะ” รังสิตาออกมาขวาง

“อ๋อ เสร็จมันไปแล้วซิ ถึงได้ออกมารับหน้าแทนมัน ใฝ่ต่ำ” เจ๊ใหญ่ประณามเธอ ทีนี้ลูกคู่อีก 9 คนรีบพากันพยักพเยิดหน้าให้ว่าเห็นด้วย แต่บางคนแม้จะดูเกรงใจด้วยไม่คุ้นเคย แต่เมื่อเธอเป็นต้นเหตุ ทำให้วิมานสวรรค์จะพังครืน การยืนยันคำว่า ‘ใฝ่ต่ำ’ นั้นจึงหลุดออกจากไรฟันมาด้วย

รังสิตาหน้าตึงทันที หญิงสาวเชิดหน้า แล้วก็เกาะแขนของโชคชัยอย่างให้รู้ว่า ตอนนี้เธอไม่ใช่สาวน้อยที่อยู่ในอาณัติของพี่ใหญ่หรืออาซ้ออีกแล้ว เธอมีสามีแล้ว คือเขา

เมื่ออวดดียืนยันสถานะของตัวเอง รังสิตาก็เอ่ยเสียงอย่างคนเคยใช้อำนาจว่า

“นมแสง พี่ใหญ่เป็นอย่างไรบ้าง”

“ยังมีหน้ามาถาม”

“หนูคุยกับนมแสง” รังสิตาสวนคืนอย่างไม่เกรงใจ หญิงสาวดึงมือชายหนุ่มไปหยุดที่หน้าห้องไอซียู ยกมือไหว้พี่ ๆ บางคนที่ไม่ได้มีท่ารังเกียจเธอ

“หมอบอกว่า ปอดอักเสบเนื่องจากสูดสำลัก ถ้าไม่มีโรคแทรกซ้อนก็ไม่อันตรายแต่ตอนนี้ยังไม่พ้นขีดอันตราย”

รังสิตาไปยืนมองลอดกระจกประตู

เห็นมีสายยางอยู่ที่ปากกับจมูกแล้วหล่อนก็นึกเห็นใจคนป่วยขึ้นมา เธอรู้ว่าการที่พี่ชายใหญ่เป็นอย่างนี้ก็เพราะเธอ ดีแต่ว่ามือของเธออยู่ในอุ้งมือใหญ่ของเขา ความหนาวเย็นของเครื่องปรับอากาศจึงไม่ทำให้เธอหนาวเหน็บถึงหัวใจ

“คืนนี้จะพักที่ไหน” เมียคนที่สองของพี่ชายถามขึ้นขณะสายตายังจ้องอยู่ที่มือของน้องสะใภ้ แม้จะนึกขวาง แต่นั่นก็คือการประกาศให้รู้ว่า หล่อนกับเขาเป็นอะไรกันแล้ว

และทุกคนก็รู้ว่าจะไม่มีงานวิวาห์ระหว่างรังสิตากับลูกชายพ่อเลี้ยงสมบูรณ์อย่างแน่นอน เมื่อไม่มี สิ่งที่ทุกคนหวาดกลัวก็จะเกิดขึ้น การเปลี่ยนแปลงในทรัพย์สิน ผลประโยชน์ที่เคยได้รับจะเปลี่ยนไป

รังสิตาหันมาหาโชคชัย เธอจะพาเขาเข้าบ้านในฐานะอะไร

คำว่า ‘คู่รัก’ กับคำว่า ‘สามี’ เธอจะใช้คำไหน แนะนำตัวเขากับญาติพี่น้อง

หญิงสาวนิ่งเงียบ มองนาฬิกาที่ข้างฝา ตีสองแล้ว.บรรดาเมียคนอื่น ๆ ของพี่ชายใหญ่เริ่มทยอยกันกลับด้วยเห็นว่าหมอคงยื้อยุดวิญญาณกับ ‘พญามัจจุราช’ ไว้ได้

โชคชัยดึงมือหญิงสาวมานั่งลงที่เก้าอี้รับรองด้านหน้าห้อง

“ดึกแล้วนะ คุณต้องพักผ่อน”

“ฉันจะแนะนำคุณกับญาติพี่น้องว่าอย่างไร”

“ยังไม่ต้องก็ได้ครับ

“คุณไม่โกรธฉันนะ”

“ก็เราทำไม่ถูกต้องนี่ครับ มันก็ต้องเป็นอย่างนี้” เขาเข้าใจในสาเหตุ

พี่สะใภ้ใหญ่ลงมานั่งข้าง ๆ พร้อมนมแสง

“แล้วทีนี้จะเอาอย่างไร” แม้อารมณ์ของนางจะดูเย็นลง แต่น้ำเสียงนั้นก็ยังบอกให้รู้ว่ายังไม่พอใจนัก

“เรื่องอะไร” เมื่อเขาอ่อนลงมาบ้าง รังสิตาจำต้องคุยด้วยน้ำเสียงดี ๆ

“เธอกับเขานะซิ” คนพูดปรายตาไปหาผู้ชายที่นั่งทำหน้านิ่งราวรูปสลักซึ่งเขาเองก็แสดงความเป็นเจ้าข้าวเจ้าของเธอเต็มที่เหมือนกัน

รังสิตาอ้ำอึ้ง อึกอัก ก็เพราะเธอไม่เคยรู้อะไรเกี่ยวกับตัวเขาเลย เธอก็เลยไม่มีคำตอบสำหรับเรื่องนี้ นึก ๆ ขึ้นมาแล้วก็อดโมโหตัวเองขึ้นมาไม่ได้

“เราจะแต่งงานกับครับ เสร็จธุระเรื่องเสี่ย ผมหมายถึงว่าถ้าเสี่ยออกจากโรงพยาบาลหรือว่า นั่นแหละ เราค่อยมาคุยกัน”

นมแสงอยากจะอ้าปากพูดบ้าง แต่เห็นทีจะไม่มีประโยชน์อะไร ด้วยคนของเราเสียให้เขาไปแล้ว ทีนี้ เขาจะชักพาไปทางไหนก็ต้องเป็นไป แล้วจะอยู่กันอย่างไร คนขับรถแท็กซี่กับดอกฟ้าผู้ไม่เคยหยิบจับงานอะไร ถ้าอยู่ด้วยกันไม่ได้ หรือมันพาคุณหนูไปลำบาก แค่คิดนมแสงก็สะท้อนในหัวอก


แม้ญาติพี่น้องจะรับรู้ แต่รังสิตาก็ไม่กล้าพาเขาเข้าบ้านอยู่ดี คืนนั้นโชคชัยจึงต้องไปพักโรงแรมกับลุงอินตา ส่วนเธอให้เขาขับรถมาส่งที่บ้านใหญ่กลางเมืองกาญจนบุรีพร้อมกับนมแสง

เมื่อลงจากรถรังสิตาเห็นสายตาละห้อยขอความเห็นใจ จริง ๆ เธอก็อยากนอนก่ายกอดกับเขาให้อบอุ่นใจ แต่ เมื่อนึกถึงความเหมาะสม รังสิตาจำต้องแข็งใจเดินตามนมแสงเข้าบ้านหลังใหญ่ปานคฤหาสน์

เมื่ออยู่กันตามลำพังนมแสงจึงถือโอกาสเสนอความคิดของตนต่อหญิงสาว

“แล้วจะไปกันรอดหรือคะ ได้ข่าวมาว่าเป็นแค่คนขับรถแท็กซี่”

“ก็หนูเป็นเมียเขาไปแล้ว”

“ใครรู้ที่ไหนล่ะคะ ทางที่ดี รีบชิ่งหนียังทัน กลับตัวยังทันนะคะ” นมแสงพยายามโน้มน้าวใจ

“กลับใจไม่ทันแล้วนมแสงหนูรักเขาไปแล้วด้วย”

“คุณหนู”

“จริง ๆ นะนมแสง หนูรักเขาไปแล้วด้วย ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นหนูก็ไม่กลัว”

“แต่คุณหนูไม่ใช่เด็ก ๆ แล้วนะคะ หัดมีสติบ้าง หัดนึกถึงอะไรที่มันยืดยาวบ้าง ความรักมันกินไม่ได้นะคะ เขาขับรถแท็กซี่ คุณหนูจะไปทำอะไร ทำงานออฟฟิศ อายเขาไหมคะมีผัวขับรถแท็กซี่ แล้วจะอยู่ด้วยกันอย่างไร ตัดไฟเสียแต่ต้นลมดีกว่าค่ะ”

นมแสงพูดไปแต่รังสิตาหาได้เชื่อฟัง หญิงสาวหลับฝันหวานไปด้วยความรู้สึกที่ว่าเขาก่ายกอดและกระซิบบอกรักเธอตลอดทั้งคืน


ประดิพัทธ์ไม่อยากจะเชื่อเลยว่า การตั้งใจแกล้งเอาจมูกลงไปปะทะใบหน้าเกลี้ยงเกลาเพียงชั่ววินาทีนั้น ทำให้จิตใจของเขาเปลี่ยนไป ใบหน้าของอินทราเข้ามาวนเวียนตลอดเวลาที่เขาขับรถกลับบ้าน

บ้านที่เริ่มมีฝุ่นจับตามมุม ต่าง ๆ เพราะเขาไม่มีเวลาดูแล หากแต่งงานกัน เธอคงมีหน้าที่ผลิตลูกให้กับเขา ส่วนแม่ยายคงกลายเป็นเพียงคนใช้บรรดาศักดิ์ และน้องชายของเธอ เขาจะส่งเสียให้เรียนหนังสือให้จบชั้นสูงกว่านั้น หากเขาไม่รักดีจริง ๆ ก็คงปล่อยออกไปตามยถากรรม

เขาไขกุญแจตู้ไปรษณีย์ที่มีเอกสารอัดแน่นอยู่ด้านใน เหมือนทุก ๆ เดือนที่บิลเรียกเก็บค่าบริการต่าง ๆ จะมาสลอนเตือนย้ำอยู่ตรงหน้า เขาถอนหายใจออกมา ค่าใช้จ่ายทั้งนั้นเลย แล้วจะหาจากที่ไหน การโต้ตอบนายพหลโดยการขอลาออกนั้นแม้จะสะใจ แต่ใจมันก็รอน ๆ รายได้หดหายไปหลายหมื่นบาท แถมรายการนั้นทำให้เขามีหน้ามีตาออกโทรทัศน์อยู่เรื่อย ๆ ทำให้คนไม่ลืม เพราะถ้าอาศัยละครเพียงอย่างเดียว ชื่อของเขาจะต้องตก งานจะไม่มี หากเขาแต่งงาน เขานึกถึงการงานด้านอื่น ๆ แต่มันก็เดินมาไกลเกินกว่าจะกลับไปตั้งต้นใหม่ได้แล้ว ส่วนใหญ่พวกดาราไปทำอะไรกันนะ

เขานึกถึงร้านอาหาร ซึ่งเคยหุ้นกับเพื่อนและเจ๊งไม่เป็นท่ามาแล้ว นึกถึงธุรกิจแฟรนไชน์สักตัว ตอนนี้เขาไม่ได้มีเงินระดับล้าน เงินระดับล้านเขามองออกไปยังรถเบนซ์คันที่จอดอยู่ มันกินน้ำมันน่าดู ตอนใช้บัตรเครดิตจ่ายอาจจะไม่รู้สึก แต่ตอนนี้เขาเริ่มรู้สึกแล้วว่ามันสิ้นเปลืองโดยเปล่าประโยชน์

เมื่อความกังวลในเรื่องที่ยังไม่เกิดเกิดขึ้น เขาจึงสลัดมันออกไปจากจิตใจไม่ยากนัก ค่ำคืนนั้นหลังจากอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า เขาก็เข้านอน รู้สึกว่ามันอ่อนเพลีย แต่ตากับเปิดโพลง ใบหน้าของอินทราเข้ามารบกวนจิตใจตลอดเวลา เป็นเพราะอะไรนะ หญิงสาวถึงไม่ได้อยากแต่งงานกับเขา เพราะนายโชคชัยอย่างนั้นหรือ

เมื่อข่มตาให้หลับไม่ได้ เขาตัดสินใจโทรหาปลายสายทันที

“คุณเป็นอย่างไรบ้าง” แม้จะเป็นเวลาตีสองแต่เสียงของโชคชัยยังใสแจ๋ว

“คุณยังไม่นอนอีกหรือ” ปลายสายถามกลับมา

“มีเรื่องกังวลอยู่ในใจครับ” ประดิพัทธ์ถอนหายใจออกมา คิดว่าจะเล่าความในใจให้อีกฝ่ายรับรู้ดีไหม แต่เพื่อต้องการให้ใจปลอดโปร่งเขาจึงต้องบอกเล่า

“คือ อินทราเธอไม่อยากแต่งงานกับผมน่ะครับ”

“ทั้งที่คุณบอกกับสื่อไปแล้วว่าจะรักษาชื่อเสียงของเธอ” โชคชัยทบทวนที่มาที่ไป

“ครับ ผมบอกกับสื่อไปอย่างนั้น”

“แล้วคุณบอกกับเธออย่างนั้นด้วย”

“ครับ”

“บ้าแล้วคุณประดิพัทธ์ ผมพอเดาได้แล้วทำไมเธอถึงไม่อยากแต่งงานกับคุณ”

“ผมคิดว่าเค้าชอบคุณ”

“ไม่ใช่หรอกครับ ชั่วไม่กี่วันคืนผมคงไปนั่งในใจเค้าไม่ได้หรอก”

“แล้วคุณเข้าไปนั่งในใจคุณรังสิตาได้หรือยัง”

“เอาเรื่องของคุณก่อน ผมกับรังสิตา เราเป็นคนคนเดียวกันแล้ว” โชคชัยสารภาพเพื่อปิดโอกาสอีกฝ่าย ประดิพัทธ์อึ้งไปก่อนจะค่อยตอบกลับมาว่า

“ไวไฟกันจังเลย บรรยากาศพาไปใช่ไหม” แล้วเขาก็เล่าถึงเหตุการณ์วันที่ตนเองนั่งเรือกลับมาพร้อมกับอินทรา จนกระทั่งมีเรื่องราวปลุกปล้ำกันในห้องพักให้โชคชัยได้รับรู้บ้าง

“ทำไมคุณทำอย่างนั้นกับเค้า รู้ไหมว่ามันเป็นวิธีที่ทุเรศและโบราณที่สุด เค้าอาจจะโกรธคุณเรื่องนั้นด้วยนะ

“ผมไม่ใช่คนฉลาดอย่างคุณนี่ เอาบรรยากาศช่วย”

“คุณก็หาบรรยากาศช่วยซิ แต่เอ ถามจริง ๆ เถอะ คุณจะแต่งงานกับเค้า คุณรักเค้าหรือครับ”

เจอคำถามเร่งเร้าเข้าไป ประดิพัทธ์อ้ำอึ้ง

“ตอนแรกผมก็ไม่ได้รู้สึกอะไรกับเด็กกะโปโล แต่เมื่อตอนหัวค่ำนี้เอง ผมแกล้งไปจูบเค้าเข้า ปรากฏว่า พอผมเงยหน้าขึ้น โลกมันเป็นสีชมพูขึ้นมาซะอย่างนั้น ผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่าแบบนี้เรียกว่าความรักหรือเปล่า”

“อย่างคุณไม่รู้จักความรัก ผมไม่อยากเชื่อเลย”

“ผมก็ไม่อยากจะเชื่อว่าคุณสองคนจะรักกันได้เพียงไม่กี่วันกี่คืน” ประดิพัทธ์สวนคืนบ้าง

“ผมรู้และ ที่อินทราไม่ยอมแต่งงานกับคุณก็เพราะว่า เค้าเชื่อว่าคุณไม่ได้แต่งเพราะรักเค้า คุณบอกเธอไปซิว่าคุณรักเค้ามาก”

“แล้วถ้าเค้าไม่แต่งเพราะไม่รักผมละครับ”

“มันเป็นหน้าที่ของเราที่จะทำให้เค้ารักได้หรือเปล่า ทำให้เค้ารักไม่ยากหรอกครับ แต่คุณต้องถามตัวเองว่าคุณรักเค้ามากแค่ไหน และยอมเสียสละความสุขส่วนตัวเพราะความรักได้มากแค่ไหนด้วย”

เวลาตีสามกว่าโชคชัยขออนุญาตวางสายไป แต่ประดิพัทธ์ยังนอนไม่หลับ เขาพลิกตัวไปมา จนกระทั่งถึงเวลาเช้า เขาก็ม่อยหลับลึกทีเดียว

(วันที่ 6)


อินทราชะเง้ออยู่ที่หน้าประตูห้องพักจนกระทั่งได้เวลาสามโมงเช้า หมอที่เข้ามาตรวจอนุญาตให้ออกจากโรงพยาบาลได้ หล่อนถามถึงค่ารักษาพยาบาล ทางเจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาลบอกว่าคุณประดิพัทธ์รับเป็นเจ้าของคนไข้ อินทราชะเง้ออยู่จนกระทั่งได้เวลา 10 โมงเช้าก็ยังไร้เงาของเขา หล่อนหันไปหาแม่ซึ่งนั่งดูทีวีพลางกินผลไม้อย่างอร่อยปากและมีความสุขกับแผนชีวิตใหม่ อินทรานึกถึงสภาพบ้านหลังนั้น แล้วมองกลับมายังสภาพแม่และน้องชายของตัวเอง ลำพังตัวหล่อนหิ้วกระเป๋าเข้าไปอยู่ในบ้านหลังนั้นคงไม่มีปัญหาอะไรตามมา หากแม่และน้องชายเข้าไปอยู่ด้วย

รับรองเลยว่าปัญหาร้อยแปดจะมาอย่างไม่จบสิ้นอย่างแน่นอน แม่เธอคงลืมตัว น้องเธอ ขนาดมีบ้านเล็ก ๆ ในสลัมมันยังไม่ได้เจียมตัวว่าจะไม่มีข้าวกรอกหม้อ วัน ๆ หาได้เรียนให้มันได้เกรดดี ๆ ออกจากบ้านไปก็เพียงหาแต่เรื่องสนุกโดยที่ไม่ได้คิดว่านั่นคือความเดือดเนื้อร้อนใจของชาวบ้าน ถ้าได้อยู่บ้านหลังใหญ่ มันคงเหลิงคิดว่าตัวเองเป็นลูกเศรษฐี

อินทราเข้าห้องน้ำ อาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า หล่อนออกไปที่เคาน์เตอร์พยาบาลถามถึงค่าใช้จ่ายของตัวเอง เจ้าหน้าที่รีบบอกค่าใช้จ่าย เมื่อเห็นว่าเธอสามารถจ่ายเองได้ หญิงสาวจังยื่นบัตรเอทีเอ็มที่สามารถชำระเงินได้

“ไปแม่” อินทราเปิดประตูกลับเข้ามาหาแม่และน้องชายที่แพ็กเสื้อผ้าใส่ถุงรอราชรถให้มาเกย

“ไปไหน”

“ไปวัดไง พาชัยวัฒน์ไปบวชให้พ่อ”

“แล้วเอ็งไม่รอคุณดาราเขาก่อนหรือ”

“โทรถามเขาแล้ว”

“ตอนไหน”

“ในห้องน้ำ” อินทราจำโกหก อันที่จริงตั้งแต่วิ่งออกมาจากรังสิตารีสอร์ตเธอยังไม่ได้เปิดโทรศัพท์มือถือเลย ยิ่งมามีข่าวแบบนี้รับรองเลยว่าเจ๊รติคงจะโทรตามจิกเธอตลอดเวลาเป็นแน่

“เขาไม่ว่าง ติดกองถ่าย ให้เราไปรอที่วัดแล้วจะตามไปหา” เมื่อโกหกจนแม่เชื่อแล้วเธอก็ถอนหายใจออกมา


ประดิพัทธ์ตื่นนอนในเวลาเกือบเที่ยงวัน เขารีบผุดลุกขึ้นนึกถึงว่าอินทราจะต้องออกจากโรงพยาบาล เขาก็รีบอาบน้ำแต่งตัว แต่เมื่อเขากำลังจะออกจากบ้านโทรศัพท์มือถือของเขาก็ดังขึ้น

“คุณพัทธ์ รับงานพิธีกรไหม แทนคุณถิระวัฒน์” ถ้าเป็นเมื่อก่อนเขาไม่รับงานแบบนี้เด็ดขาด เขาจะต้องเป็นคนที่ถูกเลือกก่อนเท่านั้น แต่ในเวลานี้หากเขาเลือกงาน ทุกอย่างมันจะจบสิ้น

“ครับ” เขาฟังถึงรูปแบบของงานคร่าว ๆ แล้วรีบเปลี่ยนทิศทางของรถไปยังที่หมายทันที

ด้วยกำลังเป็นข่าว เมื่อไปถึงงานนักข่าวก็กรูเข้ามาถามถึงวันเวลาที่จะจัดงานแต่งงานกับสาวสลัม ‘เจ้าสาวสลัม’ คำนี้ทำให้เขานึกขำมากกว่าคิดว่าเขาดูถูก

งานเสร็จสิ้นในเวลาหกโมงเย็นด้วยความชื่นมื่นของเขาและคนที่มาร่วมงาน เขารับเช็คแล้วกลับมาขึ้นรถด้วยความรู้สึกที่บอกไม่ถูก ‘ลักกี้อินเลิฟ ลักกี้อินเกมส์’ อย่างนั้นหรือ

เมื่อรถถึงโรงพยาบาลมีร้านดอกไม้สดตั้งอยู่ที่ริมถนน พอลงจากรถ แม่ค้าทักเขาว่าจะไปให้ว่าที่เจ้าสาวใช่ไหม เขาพยักหน้ารับ ทุก ๆ คนในประเทศใจจดใจจ่ออยู่กับงานวิวาห์ของเขา

แต่เมื่อเข้ากดลิฟท์ไปยังห้องที่เธอพักรักษาตัว พยาบาลประจำเคาน์เตอร์ก็รีบออกมาต้อนรับ

“มาหาคุณอินทราหรือคะ” ประดิพัทธ์พยักหน้ายิ้มแย้มแจ่มใส

“เค้าไปแล้วนี่คะ ออกไปกับแม่กับน้องตั้งแต่เที่ยงแล้วค่ะ”

“เค้าไปไหนรู้ไหมครับ” เขาถามกลับไปอย่างร้อนรน พยาบาลส่ายหน้าปฏิเสธ เขามองดอกไม้มือ ดอกไม้นี้เป็นดอกไม้ช่อแรกกับคำว่า ‘ความรัก’ แต่ทำไมเป็นอย่างนี้


“คุณโชคชัย คุณทำอะไรอยู่”

“ทำไมถามอย่างนั้นละครับ ผมเอ่อ” โชคชัยจะบอกได้อย่างไรว่า ตอนนี้นอนคุยกันอยู่กับเมียของตัวเอง ที่เป็นฝ่ายทนคิดถึงเขาไม่ไหว จึงโทรให้เขาไปรับให้มาอยู่ในโรงแรมด้วยกันตั้งแต่เช้าตรู่

“คืออินทราเธอพาแม่กับน้องหนีผมไปครับ ผมจะทำอย่างไรดี” ประดิพัทธ์รีบเล่าเรื่องร้อน ๆ ของตน

และก่อนหน้านั้น โชคชัยได้เล่าเรื่องของประดิพัทธ์กับอินทราให้รังสิตาได้ฟังคร่าว ๆ ไปแล้ว รังสิตาที่อยู่ในอ้อมกอดของเขาจึงมีอารมณ์ที่จะฟังเสียงของประดิพัทธ์ด้วย

“คุณก็ต้องตามหาเค้าให้พบ แล้วก็บอกรักเค้าก่อนจะขอเธอแต่งงานอย่างเป็นทางการ” โชคชัยสอนสวยให้ประดิพัทธ์ โดยมีสายตาวาว ๆ ของรังสิตายิ้มดุๆ อยู่ใกล้ ๆ

“ผมก็กำลังจะทำอย่างนั้น แต่ทำไมถึงเป็นอย่างนี้ก็ไม่รู้”

“ผมเอาใจช่วยคุณนะ เอ้อ คุณประดิพัทธ์ เรื่องงานของคุณมีปัญหาอะไรไหมครับ”

“ผมลาออกจากแมส มอร์นิ่งแล้วครับ”

“คุณจะหารายได้จากที่ไหน” เพราะตอนเกิดเรื่องประดิพัทธ์ร่ายอยู่เรื่อย ๆ ว่าเขาจะลำบากขนาดไหนหากไม่ได้กระเป๋าคืน ผลกระทบมันจะตามมามากมาย แต่นี่เขาออกจากงานแล้วเขาจะทำอะไรต่อไป

“ผมจะขายรถครับ แล้วหารถมือสองเก่า ๆ ขับ แล้วคิดว่าจะลองหาอะไรทำดู อาทิเช่น ซื้อแฟรนไชน์ร้านสะดวกซื้อ แบบนั้นล้านกว่าบาท แต่ถ้าซื้อแฟรนไชน์ร้านก๋วยเตี๋ยวก็ถูกหน่อย”

“คุณไม่คิดเปิดบริษัทผลิตรายการเองบ้างหรือครับ อินทราก็เรียนจบทางด้านนั้นมาน่าจะช่วยกันได้นะ”

“ทุนไม่มี” ประดิพัทธ์บอกตามตรง

“ใช้กี่ล้านครับ”

“สิบล้านขึ้นครับ ถึงจะเอาให้ดีได้”

“คุณอยากทำรายการประเภทไหนล่ะครับ”

“เกมส์โชว์ ผมถนัดแต่ผมก็อยากทำแนวอื่น ๆ ที่เสนอถึงวิถีชีวิตชาวบ้าน ๆน่ะ”

“คุณมีแผนอะไรอยู่ในหัวบ้างหรือ”

“เอาแบบที่คนอื่นไม่เดือดร้อนนะ” รังสิตาแทรกเข้าไป

“ทำให้เดือดร้อนหรือทำให้พบรัก” ประดิพัทธ์ถามคืน นึก ๆ ไปแล้ว นายโชคชัยนี่คงเป็นประเภทหนูตกถังข้าวสาร แต่ว่าเขาถามถึงเรื่องผลิตรายการไปทำซากอะไร แม้ไม่อยากเล่าแต่ประดิพัทธ์ก็ไม่อยากเก็บไว้ในใจ คนต้องมีความฝันแม้มันจะไปไม่ถึง แต่อย่างน้อยก็ได้คิดว่าชีวิตจะดีขึ้นได้นั้น ต้องทำอะไรและต้องเหน็ดเหนื่อยสักแค่ไหน

เมื่อรู้สึกว่าสบายใจ ประดิพัทธ์ก็ขออนุญาตไม่ขัดจังหวะของความสุข

“ซักไซ้เขา อย่างกับเป็นนายเงิน ให้เขาได้” รังสิตาค่อนแคะคนที่เธอนอนหนุนตัก

“ผมขอโทรหาอินทราหน่อยนะ” เขากดโทรศัพท์โทรออกทันที ปรากฏว่า ‘เลขหมายที่ท่านเรียกไม่สามารถติดต่อได้’

“เดาใจเด็กคนนี้ไม่ถูกจริง ๆ” โชคชัยเปรยออกมา

“เขารอคุณอยู่หรือเปล่า เขาคงคิดว่าคุณยังไม่มีใครแน่ ๆ” รังสิตาพยายามปรับน้ำเสียงให้เป็นปกติทั้งที่เขาก็ยืนยันแล้ว ไม่มีอะไรกับอินทรา

“จะว่าเวลาน้อยไปที่จะรัก แต่เราก็รักกันได้นะ”

“มันไม่เสมอไปทุกคู่หรอกค่ะ ที่ว่าเรารักกันจริง แท้ที่จริงแล้วเราก็ยังไม่ได้รู้จักกันดีพอ รู้ไหมว่านมแสงบอกกับฉันว่าอย่างไรบ้าง”

“ผมคิดว่าไม่แปลกที่นมแสงจะคิดไม่ดีกับผม

“คุณก็บอกมาสักทีซิคะว่าคุณคือใคร”

“ถ้าผมเป็นคนขับรถแท็กซี่จริง ๆ คุณจะว่าอย่างไร” โชคชัยถามคืน

“ถ้าคุณรักฉันและซื่อสัตย์ต่อฉันคนเดียว เรื่องรายได้ของคุณไม่ใช่ปัญหาหรอกค่ะ” รังสิตาเน้นชัดทุกถ้อยคำ เมื่อจ้องลึกไปในดวงตา เขาก็เชื่อว่ารังสิตาพูดความจริง



จุฬามณีเฟื่องนคร
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 14 ก.ย. 2554, 12:00:35 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 14 ก.ย. 2554, 12:00:35 น.

จำนวนการเข้าชม : 1813





<< 22.ห้องไอซียู   24. วันที่สิบสอง >>
คิมหันตุ์ 14 ก.ย. 2554, 12:31:09 น.
ทุกอย่างยังไม่เข้าที่เลยแฮะ. ว่างๆให้คุณโชคพาไปไหว้คุณป๋าที่เชียงใหม่สิจ๊ะจะได้รู้ว่าเป็นใคร. อิอิ


Zephyr 14 ก.ย. 2554, 18:50:37 น.
ก้ยังอลวนต่อไป แต่สิตาเธอเฉยๆแบบนี้ไปเถอะน่า แล้วจะดีเอง สักวันเดี๋ยวเธอก็รุ้เองล่ะ ว่านายโชตเป็นใคร แต่อย่าช็อกตายไปก่อนอ่ะ


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account