Asylum
ปัณฑารีย์ ฑีฆะโชติ หญิงสาวชาวโลกตื่นขึ้นมาพบว่าตัวเองกำลังอยู่บนยานอวกาศของมนุษย์ต่างดาว การนอนหลับเพียงชั่วคืนเดียว เปลี่ยนสถานะจากมนุษย์คนหนึ่งให้กลายเป็นสินค้าผิดกฎหมาย เป็นสินค้ามีชีวิตเพื่อสนองตัณหาของเอเลี่ยน

ชีวิตเธอคงเหมือนตกนรก หากเธอไม่ได้ถูกส่งมาเป็นของกำนัลให้แก่ ไซเร็ค อิลราซาน นักธุรกิจเจ้าของกิจการโทรคมนาคมขนาดยักษ์ของดาราจักรเซเฟรัส หนุ่มชาวคีเรี่ยนหล่อเหลาหุ่นกระชากใจ เจ้าของดวงตาสีน้ำเงินเข้มเยือกเย็น มาดสุภาพอ่อนโยน แต่ร้อนแรงจนทำให้เธอชักจะหวั่นไหวมากขึ้นทุกที

เมื่อความสัมพันธ์เริ่มจะไปได้ดี ทั้งสองกลับต้องเผชิญกับการตามล่าเอาชีวิตโดยศัตรูที่มองไม่เห็น จนต้องตัดสินใจเสี่ยงชีวิตเพื่อกระชากตัวมันออกมาสู่แสงสว่าง ก่อนที่ใครคนใดคนหนึ่งจะมีอันเป็นไป!

Tags: ต่างดาว, เซเฟรัส, คีเรี่ยน, ไซเร็ค, แพน

ตอน: ตอนที่ 1


“ถ้าอย่างนั้นก็นัดประชุมคณะกรรมการผู้ถือหุ้นตามกำหนดเดิมนะครับ”

ชายหนุ่มร่างเพรียวเจ้าของผมบลอนด์ตัดสั้นจัดทรงสุภาพเรียบร้อยสมตำแหน่งผู้ช่วยฝ่ายบริหารผู้คล่องแคล่วมีระเบียบเอ่ยพลางบ ันทึกข้อความและคำสั่งต่างๆลงในคอมพิวเตอร์ขนาดเท่าฝ่ามือ การรวมตัวกันของแสงสีที่เปลี่ยนแปลงไปตามการเคลื่อนไหวแม้เพียงเล็กน้อยของร่างจำลองขนาดเท่าตัวจริงเบื้องหน้าสร้างความพอใจให ้คนมอง เมื่ออุปกรณ์การสื่อสารที่เพิ่งเปลี่ยนใหม่เป็นรุ่นล่าสุดตอบสนองอย่างสมบูรณ์แบบดังต้องการ

“ย้ำให้แน่ใจว่าว่าทุกคนจะเข้าประชุม ไม่ขาดคนใดคนหนึ่งไปอีก”

“คงไม่ต้องห่วงเรื่องนั้นหรอกครับ ไม่ว่าอย่างไร การทะเลาะกันเรื่องผลประโยชน์ก็น่าสนใจกว่าปัญหาในการจัดการระบบต่างๆอยู่แล้ว”

วาจาสุภาพแฝงแววถากถางนิดๆ ในน้ำเสียงราบเรียบของอีกฝ่ายส่งผลให้ริมฝีปากบางได้รูปสวยของคนฟังขยับเหยียดเป็นรอยยิ้มเยาะระคนขบขันเมื่อนึกถึงกลุ่มคนผู้ม ีสิทธิ์เข้าร่วมการประชุมที่กำลังจะมีขึ้นในอีกไม่กี่วันข้างหน้า ขณะดวงตาหลังแว่นใสไร้กรอบยังคงจับจ้องจอภาพบนผนังที่กำลังนำเสนอข่าวสารสำคัญต่างๆ ซึ่งเกิดขึ้นและดำเนินไปในดาราจักรเซเฟรัสแห่งนี้

“มีอะไรอีกไหม”

“คู่ค้าและลูกค้าของเราส่งข้อความกับของขวัญแสดงความยินดีที่ได้สัมปทานโครงการใหม่มาครับ ส่วนใหญ่ดาร์ยาตอบกลับไปแล้วก่อนขอลาหยุด แต่ก็มีบางส่วนที่คุณอาจจะต้องการตอบด้วยตัวเอง”

ศีรษะสีดำปนน้ำตาลพยักรับคำบอกเล่านั้นด้วยทราบดีว่าผู้ช่วยสาวคนเก่งสามารถจัดการกิจธุระต่างๆในสำนักงานได้อย่างเรียบร้อย เหมาะสม ในขณะที่คู่สนทนารับผิดชอบดูแลรายละเอียดทางด้านเทคนิคของเครือข่ายไปจนถึงผลการปฏิบัติงานของเจ้า หน้าที่แต่ละแผนก และรายงานขึ้นมาให้เขาเป็นคนพิจารณาจัดการด้วยตนเอง

“ผมจะตรวจดูหลังจากนี้ แล้วพรุ่งนี้คุณเข้าไปตรวจสอบโปรแกรมใหม่พร้อมผมด้วยนะ เวนเซล”

“ครับ เจ้านาย” ผู้ช่วยหนุ่มตอบรับแล้วขอตัวกลับไปทำงานต่อ ภาพจำลองสามมิติจึงดับวูบหายไปในพริบตาที่ผู้เป็นเจ้านายเอ่ยคำอนุญาต

ภายในห้องทำงานกว้างขวางเพียบพร้อมไปด้วยอุปกรณ์สำนักงานทันสมัยจึงมีเพียงร่างสูงเพรียวในชุดลำลองที่เป็นเสื้อคอเต่าแขนยา วสีเทาดำและกางเกงสีดำนั่งอยู่บนโซฟาหนานุ่มเนื้อลื่นเนียนสีเทาควันบุหรี่แต่เพียงลำพัง

“ปิดหน้าจอ”

สิ้นเสียงทุ้มต่ำจอภาพขนาดยักษ์ที่ฉายภาพข่าวสารหกช่องสัญญาณพร้อมกันก็ดับลงทันควัน ชายหนุ่มเจ้าของห้องผละจากโซฟาไปยังโต๊ะทำงานเพื่อตรวจสอบรายละเอียดในงานสำคัญส่วนต่างๆที่ผู้ช่วยฝ่ายบริหารคนเก่งส่งมาให้เม ื่อครู่

ไม่นานดวงตาสีน้ำเงินเข้มจัดละม้ายท้องฟ้ายามราตรีกวาดทวนเนื้อหาเป็นครั้งสุดท้ายก่อนสั่งปิดแฟ้มที่ลอยอยู่กลางอากาศเบื้อ งหน้า ร่องรอยแห่งความพึงพอใจปรากฏขึ้นบนริมฝีปากบางได้รูปสวยยามนึกถึงโครงการวางระบบโทรคมนาคมรุ่นใหม่ล่าสุดเพื่อเปลี่ยนแปลงการติ ดต่อสื่อสารขั้นพื้นฐานระหว่างดาวอาริออสและดาวเคราะห์อื่นๆ กว่าสองพันดวงในกาแล็กซีเซเฟรัสที่เพิ่งเซ็นสัญญาเสร็จสิ้นในวันก่อน หลังจากใช้เวลาเกินครึ่งปีล็อบบี้คณะปกครองของดาวแต่ละดวงจนสำเร็จ

ไซเร็คเคาะนิ้วเป็นจังหวะกับขอบโต๊ะทำงานไม้แท้สีน้ำตาลดำขณะสมองทบทวนแผนการอย่างคร่าวๆ แต่ความคิดที่ผุดขึ้นมาก็ถูกขัดจังหวะด้วยคำรายงานจากระบบเมนเฟรมคอมพิวเตอร์ของคฤหาสน์

“มีพัสดุส่งถึงคุณไซเร็คค่ะ ระบุชื่อผู้ส่งคือคุณเธรอน เซส ขณะนี้พัสดุรออยู่ในห้องนั่งเล่นแล้วค่ะ”

คิ้วเข้มพาดเฉียงของชายหนุ่มขมวดเข้าหากันขณะตรงไปยังห้องนั่งเล่นอย่างรวดเร็ว ปกติแล้วทั้งเขาและเธรอนจะส่งสิ่ง ของต่างๆให้อีกฝ่ายด้วยเครื่องเคลื่อนย้ายมวลสารประสิทธิภาพสูงเพราะสะดวกและรวดเร็วกว่าระบบการขนส่งพื้นฐานข้ามดวงดาวมาก นักธุรกิจหนุ่มจึงค่อนข้างแปลกใจที่วันนี้เพื่อนสนิทส่งของมาให้ด้วยช่องทางปกติ

และพัสดุบนพรมสีแดงเข้มทอลวดลายเถาไม้เลื้อยนั้นก็สร้างความประหลาดใจมากจนเผลอหยุดมอง

แคปซูลขนาดใหญ่สีเหลืองสดใสสำหรับขนส่งสิ่งมีชีวิตวางนอนอยู่กลางห้อง คิ้วเข้มขมวดเข้าหากันมากขึ้นเมื่อพยายามคาดเดาถึงพัสดุที่อยู่ภายใน สีแคปซูลบอกให้รู้ว่าภายในคือสิ่งมีชีวิตในตระกูลเลี้ยงลูกด้วยนม ดูจากขนาดบรรจุภัณฑ์ก็ไม่น่าจะใช่สัตว์เลี้ยงที่ถูกวางยาสลบและขนส่งด้วยวิธีนี้ ถ้าเป็นสิ่งของก็ดูจะสิ้นเปลืองเกินไปกับการเลือกใช้แคปซูลขนส่งราคาแพงซึ่งติดตั้งเครื่องผลิตอ็อกซิเจนและระบบปรับอุณหภูมิอั ตโนมัติไว้เพียบพร้อม พอนึกถึงอารมณ์ขันอันร้ายกาจที่สามารถยั่วยวนกวนอารมณ์ผู้อื่นให้เสียศูนย์ได้เป็นอย่างดีของเธรอนแล้วเขาก็ส่ายหน้าเลิกคิด

ร่างสูงเพรียวขนาด 6 ฟุต 2 นิ้วคุกเข่าลงข้างพัสดุที่ถูกส่งมาให้ ตั้งใจจะเปิดดูข้อมูลที่ถูกบรรจุไว้เพื่อแจ้งให้ผู้รับได้ทราบเกี่ยวกับสิ่งของภายในโดยใช้รหัสในซองที่แนบมาเป็นพิเศษ นิ้วเรียวยาวแตะหน้าจอคอมพิวเตอร์ระบบสัมผัสที่ฝังเป็นแนวระนาบเดียวกับพื้นผิวแคปซูลเพื่อให้สมองกลแสดงผลของสิ่งที่บรรจุอยู่ ภายในออกมา ทันทีที่ข้อมูลปรากฏนักธุรกิจหนุ่มก็ยิ่งประหลาดใจจนต้องกดหน้าจอซ้ำเผื่อระบบอิเล็กทรอนิกส์ในแคปซูลจะลัดวงจรจนทำให้การประมว ลผลผิดพลาดไป หากมันก็ยังยืนยันเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนแปลง

ปัณฑารีย์ ฑีฆะโชติ (คุณสามารถตั้งชื่อใหม่ได้ตามต้องการ)
ไทป์...B – ทวีปเอเชีย ดาวเคราะห์ ‘เอิร์ธ’ ในดาราจักรทางช้างเผือก
ผม...ดำ
ตา...ดำ
อายุ...23 ปี
สัดส่วน...36 – 26 – 36
ความสูง... 5 ฟุต 3 นิ้ว
สภาพร่างกาย...สมบูรณ์แข็งแรง อยู่ในวัยเจริญพันธุ์

ข้อมูลทางกายภาพของมนุษย์เพศหญิงจากดาราจักรทางช้างเผือกและรายละเอียดเกี่ยวกับคุณภาพยาเม็ดคุมกำเนิดที่แนบมาด้วยส่งผลให้ ไซเร็คแค่นเสียงในลำคอด้วยความหงุดหงิดพร้อมส่ายศีรษะไปมาราวกับตั้งใจสลัดความมึนงงออกไปจากสมอง ต้องยอมรับว่าคราวนี้เธรอนทำเอาเขาพูดอะไรไม่ออก คิดไม่ถึงว่าเพื่อนจะส่งของขวัญแสดงความยินดีชิ้นใหญ่มาให้ในรูปของหญิงสาวผู้เต็มเปี่ยมไปด้วยเลือดเนื้อและชีวิตจิตใจโดยไร้ซ ึ่งคำเตือนใดๆทั้งสิ้น

‘ยินดีด้วยนะที่เอาโครงการนั่นมาได้ ฉันเตรียมของขวัญไว้ให้นายแล้ว ใช้เวลาเลือกอยู่พักใหญ่เลยกว่าจะได้ รอรับอยู่ที่บ้านก็แล้วกัน’

ในฐานะเจ้าของกิจการโทรคมนาคมระดับแนวหน้าของกาแล็กซีจึงมักจะมีข่าวสารความลับต่างๆ ทั้งจากฝ่ายที่ควบคุมดูแลและต่อต้านกฎหมายผ่านเข้ามาให้รับรู้อยู่ตลอดเวลา ข่าวการประมูลหญิงสาวจากกาแล็กซีทางช้างเผือกที่จัดขึ้นเป็นประจำทุกสองปีของเฌอราสก็ผ่านเข้ามาในมือเช่นกัน ทว่าเขาไม่เคยสนใจการประมูลมนุษย์ด้วยเงินมหาศาลเพื่อตอบสนองความต้องการทางเพศสักนิด

แต่ในเมื่อ ‘สินค้า’ ของพวกใต้ดินกลายมาเป็นกรรมสิทธิ์ของเขาแบบนี้...

จะไม่สนคงไม่ได้แล้ว!

ชายหนุ่มพิมพ์คำสั่งปลดล็อคและเปิดหีบห่อบรรจุภัณฑ์ลงไปอย่างรวดเร็ว ในวินาทีต่อมาเสียงปลดล็อคก็ดังขึ้นก่อนฝาแคปซูลตรงกลางจะเลื่อนตัวออกจากกันทางด้านข้างเผยให้เห็นสิ่งที่อยู่ภายใน

หญิงสาวต่างดาวผิวขาวอมเหลืองนอนหลับลึกอย่างสงบอยู่กลางช่องว่างรูปร่างมนุษย์สีดำสนิทที่อยู่ภายในแคปซูล ไซเร็คโน้มตัวลงกวาดตาสำรวจร่างตรงหน้าด้วยความสนใจใคร่รู้ เรือนร่างอันอุดมสมบูรณ์ด้วยส่วนโค้งเว้าของสตรีเพศถูกปกปิดโดยชุดชั้นในสีเงินตัวจิ๋วซึ่งสามารถปรับขนาดให้พอดีกับรูปร่างผู้ สวมใส่ได้โดยอัตโนมัตินั้นบอกชัดถึงวัยสาวสะพรั่งตามข้อมูลที่บันทึกไว้

แต่พวกใต้ดินกลับพลาดที่จะบอกรายละเอียดอันมีชีวิตชีวาของหล่อนไปอย่างน่าเสียดาย

แม้จะหลับหากดวงหน้ารูปไข่ก็ประกาศถึงนิสัยรั้นของหล่อน คิ้วเข้มถูกกันออกบางส่วนให้ได้รูปโดยไม่คิดจะแต่งเพิ่มให้ยุ่งยาก แพขนตายาวงอนปกปิดดวงตาที่เป็นสีดำให้เขาได้สำรวจตามสบาย แต่ชายหนุ่มกลับอยากเห็นว่าถ้าอีกฝ่ายลืมตาขึ้นแล้วจะมีอารมณ์ชนิดในอยู่ภายในบ้าง เมื่อริมฝีปากอิ่มสีแดงระเรื่อดูนุ่มนวลปิดสนิทเข้าหากันละม้ายไม่พอใจอะไรบางอย่าง และผมสีดำซอยสั้นกุดแนบศีรษะแบบมาดมั่นเปิดเผยและจมูกโด่งรั้นนิดๆก็ยิ่งส่งเสริมให้ดูเอาแต่ใจมากขึ้นไปอีก

ลักษณะภายนอกของหญิงสาวต่างกาแล็กซีชวนให้นักธุรกิจหนุ่มขยับยิ้มด้วยความขบขันระคนอ่อนใจ เริ่มแน่ใจตอนนี้เองว่าเธรอนตั้งใจส่งสาวท่าทางดื้อรั้นเอาแต่ใจมาป่วนตนเองโดยเฉพาะ

บางทีอาจจะถึงเวลาแวะไปเยี่ยมเยือนและเล่าความแตกต่างระหว่างผู้หญิงสองประเภทที่เขาเกี่ยวข้องด้วยให้เพื่อนฟัง เผื่อจะหยุดความวุ่นวายที่อีกฝ่ายแกล้งส่งมากวนใจได้บ้าง...





ไอร้อนม้วนตัวขึ้นจากผิวน้ำลอยระเรื่อยสูงขึ้นเป็นสายยาวจนปัณฑารีย์นึกอยากลอยตามขึ้นไปบนฟ้าบ้าง ดวงตาสีนิลแสบร้อนเป่งบวมยังคงแดงก่ำหลังผ่านการร้องไห้มาอย่างหนัก หากความอุ่นของน้ำที่มีกลิ่นหอมละมุนและอาการอ่อนเพลียทั้งกายและใจชักชวนให้เธอหลับตาปล่อยวางสักพัก แม้จะอยากทำตามมากเพียงไรสมองกลับไม่ยอมหยุดคิดทบทวนเหตุการณ์ที่ส่งผลให้เธอมานอนแช่ตัวอยู่ในอ่างอาบน้ำในห้องกว้างใหญ่นี้แม ้แต่ครู่เดียว

เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นสดๆร้อนๆทั้งน่าอึดอัดและน่าละอายจนทำตัวไม่ถูก…

ขนาดจะอ้าปากพูดเพื่อกำจัดอารมณ์อันสับสนก็ยังไม่รู้ว่าควรจะพูดอะไรดี…

นาทีแรกที่ลืมตาตื่นขึ้นมาพบหน้าเพศตรงข้ามที่มีส่วนให้เกิดการค้ามนุษย์ขึ้น หญิงสาวก็ระบายอารมณ์ในแบบที่ไม่อาจทำได้บนยานอวกาศทันที

‘มนุษย์ต่างดาวมักมาก!’

ความโกรธหลั่งไหลออกมาจนเธอแทบจะสรรหาคำมาพูดไม่ถูก ดวงหน้าอ่อนเยาว์แดงก่ำเต็มไปด้วยอารมณ์อันรุนแรงชัดเจน และอีกฝ่ายก็คงจะตกใจที่เธอตวาดใส่หน้าจึงนิ่งงันไป เปิดโอกาสให้หญิงสาวชาวโลกได้รุกก่อนเพื่อชิงความได้เปรียบ ร่างอวบผุดลุกขึ้นยืนเต็มสัดส่วนโดยไม่สนว่าตนเองมีเพียงบิกินี่แนบเนื้อตัวจิ๋วปกปิดร่างไว้แบบหมิ่นเหม่เผยผิวขาวเหลืองนวลเน ียนเต่งตึงไร้ตำหนิ

‘เอเลี่ยนวิปริต! ไม่มีปัญญาหาผู้หญิงมาทำเมียแล้วรึไงถึงได้เที่ยวมาลักพาตัวคนเขาแบบนี้น่ะ! เลวที่สุด!’

หลังจากคำประกาศแปลกๆที่ได้ยินเมื่อตื่นขึ้นมา หญิงสาวก็ได้พบว่าตนเองกลายเป็นเหยื่อในการค้าเนื้อสดด้วยฝีมือของมนุษย์ต่างกาแล็กซี ผู้หญิงทุกคนที่ถูกลักพาตัวมาล้วนแล้วแต่มีรูปร่างหน้าตาสวยสดงดงามจนไม่อาจคิดเป็นอื่นนอกเหนือจากจุดมุ่ง หมายทางเพศ และสิทธิต่างๆก็ถูกล่วงละเมิดไปตั้งแต่ยังไม่รู้สึกตัวแม้จะถูกปฏิบัติด้วยอย่างดีในระดับหนึ่ง

เริ่มจากถูกจับเปลี่ยนเสื้อผ้าให้เป็นยูนิฟอร์มแบบเดียวกันหมดทั้งยังหลับ ตามมาด้วยการฝังชิพหรืออุปกรณ์บางอย่างที่ทำให้ฟังและพูดภาษาหลักของดาวต่างๆในกาแล็กซีเซเฟรัสได้คล่องแคล่วไม่มีติดขัดจนเธอห ลงเข้าใจผิดคิดว่ามนุษย์ต่างดาวสามารถพูดภาษาไทยได้ รวมถึงวิธีการตรวจร่างกายอย่างละเอียดทุกซอกมุมอันน่าอายที่สุดในชีวิตระหว่างเดินทางข้ามอวกาศมายังเซเฟรัส

และเธอก็ตัดสินได้ในทันทีที่กระบวนการต่างๆเสร็จสิ้นลงว่าการรับมือกับลูกค้าเอาแต่ใจที่มักจะขอเปลี่ยนรายละเอียดในเครื่อง ประดับที่ออกแบบให้นั้น ดีกว่าต้องกลายเป็นสินค้าในการประมูลของพวกมักมากทางเพศหลายเท่า!

ชายหนุ่มที่เธอไม่ได้สนใจสิ่งใดนอกเหนือไปจากความผิดร้ายแรงของเขาขมวดคิ้วพร้อมจ้องกลับด้วยดวงตาเป็นประกายกร้าว หากปัณฑารีย์มีความสนใจในตัวอีกฝ่ายน้อยกว่าความรู้สึกและอารมณ์ของตัวเองมาก ริมฝีปากอิ่มจึงระเบิดความโกรธแค้นและอัดอั้นตันใจต่อไป

‘ไม่นึกเลยนะว่าในอวกาศก็ยังมีไอ้พวกไร้ศีลธรรมจรรยาไม่นึกถึงหัวจิตหัวใจคนอื่นเขาอยู่ด้วย!’

เมื่ออีกฝ่ายอ้าปากทำท่าจะพูดบ้างเธอก็หูอื้อตาลายและจัดการตอบโต้ด้วยการง้างฝ่ามือตบหน้าเขาเต็มแรง!

เพี้ยะ!

ดวงหน้าคมสันของไซเร็คสะบัดตามแรงฝ่ามือที่ฟาดใส่แก้มซ้ายรวดเร็วจนไม่ทันได้ตั้งตัว พอตระหนักว่าเกิดอะไรขึ้นความโกรธก็ซัดกระหน่ำไปทั่วร่าง แม้ตอนแรกจะยังไม่เข้าใจว่าหญิงสาวต่างดาราจักรพูดถึงเรื่องอะไร แต่ในเมื่ออีกฝ่ายใช้อารมณ์และกำลังอย่างไร้เหตุผลเขาก็ไม่คิดจะยอมยืนนิ่งเป็นแอนดรอยด์ตอนรับคำสั่งให้เจ็บตัวอีก

‘เป็นอะไรของคุณน่ะ!? เป็นบ้าไปแล้วรึไง! มารยาทของทางช้างเผือกคงสอนให้ทำแบบนี้กับคนที่เพิ่งเจอกันสินะ!’

‘กับคนที่ใช้ผู้หญิงเป็นเครื่องมือระบายความใคร่น่ะไม่จำเป็นต้องรักษามารยาทด้วยหรอก!’

ปัณฑารีย์ตะโกนใส่หน้าเขาเสียงลั่น ดวงหน้างามแดงก่ำและนัยน์ตาสีนิลวาววับอย่างไม่สบอารมณ์มองไซเร็คราวกับจะกินเลือดกินเนื้อเขาให้หมดในคำเดียว

‘แล้วที่นี่มันที่ประเภทไหนกันล่ะถึงได้เลือกซื้อผู้หญิงมาบำรุงบำเรอตัวเองได้ตามสบายน่ะ ฟังให้ชัดๆเลยนะ ฉันไม่ได้เต็มใจหรือต้องการจะมาที่นี่หรือกาแล็กซีไหนๆนอกจากกลับบ้านเลยสักนิด!’

‘ถ้างั้นก็กลับไปสิ!” ไซเร็คเอ่ยเสียงต่ำพลางมองหญิงสาวด้วยแววตาเยียบเย็นไม่แยแสขณะข่มอารมณ์ที่คุโชนขึ้นมาในใจ ตั้งแต่เติบโตขึ้นมาเป็นหนุ่มยังไม่มีผู้หญิงคนไหนแสดงกิริยาท่าทางรังเกียจเดียดฉันท์เขามาก่อน ไม่จำเป็นที่เขาจะต้องยอมให้ตนเองตกเป็นฝ่ายรองรับอารมณ์ของมนุษย์ต่างดาวสติแตกคนนี้เลยสักนิด ในเมื่อเธรอนเป็นคนส่งหล่อนมาให้ในฐานะของขวัญแสดงความยินดี เขาก็ย่อมกำจัดหล่อนออกไปจากชีวิตได้หากไม่ต้องการ ‘กลับไปได้เลย ผมไม่เหนี่ยวรั้งคุณไว้หรอก!’

‘อ๋อ! ฉันไปแน่! ไม่อยู่ให้เสื่อมราศีเด็ดขาด!’

หญิงสาวสะบัดหน้าตรงดิ่งไปยังประตูด้วยอารมณ์ร้อนแรงที่เผาผลาญอยู่ในจิตใจ สองเท้าเปล่านำเธอออกมาจากคฤหาสน์หลังงามอย่างรวดเร็วโดยมิได้สนใจว่ากำลังเดินไปยังทิศทางใดหรือพื้นใต้ฝ่าเท้าจะเป็นเช่นไร สัญชาตญาณพาร่างกึ่งเปลือยเดินไปบนถนนเบื้องหน้าซึ่งมีสวนสวยอยู่สองข้างทาง สมองทำงานอย่างรวดเร็วยามนึกถึงสิ่งที่พบเห็นมาบนยานอวกาศไคม่าหกสิบห้าไม่ยอมหยุด

ระยะเวลาที่อยู่ในยานอวกาศทำให้เธอได้รู้ว่ายังมีผู้หญิงกว่าร้อยคนจากทั่วโลกถูกลักพาตัวมาพร้อมกัน จากการสังเกตและการสนทนาฆ่าเวลากับบางคนบอกชัดว่ารูปโฉมและสติปัญญาของหญิงสาวแต่ละคนล้วนถูกคัดสรรมาแล้วว่าจะสร้างความพึงพอใ จแก่เพศตรงข้ามได้อย่างแน่นอน เมื่อตกอยู่ภายใต้สภาพถูกคุมขังถูกลิดรอนสิทธิเสรีภาพอันพึงมีแล้วเธอก็อดเยาะความหวังของมนุษยชาติมิได้

ความหวังที่จะค้นพบดาวเคราะห์ที่มีสภาพแวดล้อมพอเหมาะสำหรับการอยู่อาศัยของมนุษย์เพื่อเก็บไว้เป็นบ้านแห่งที่สอง จะกลายเป็นความหวั่นเกรงหากต้องเป็นเพียงของเล่นยามว่างอันมีฐานะต่ำต้อยยิ่งกว่าพลเมืองชั้นสองในสายตาเจ้าของถิ่นฐานเดิม!

หญิงสาวชาวโลกยังคงเดินต่อไปโดยมิได้รับรู้ว่ากำลังมุ่งหน้าไปแห่งหนใด นัยน์ตาสีนิลเป็นประกายวาววับพร้อมจะจ้องใครก็ตามที่เข้ามาขวางทางให้มอดไหม้กลายเป็นจุณ หากความอัดอั้นตันใจที่ระเบิดออกไปแล้วยังไม่ยอมห่างหายไปไหน เอาแต่วนเวียนอยู่ในอกจนร้อนเร่าไปทั้งใจ ทว่าฝ่ามือทั้งสองข้างกลับเย็นเฉียบไร้สีเลือดตรงข้ามกับอารมณ์อย่างสิ้นเชิง

สติกลับมาอยู่กับอีกครั้งเมื่อรู้สึกว่ามีบางอย่างตกใส่ศีรษะ พอหยุดเดินเงยหน้าขึ้นมองก็เห็นป่าโปร่งเต็มไปด้วยต้นไม้น้อยใหญ่หลากหลายสายพันธุ์ที่ไม่เคยเห็นมาก่อนในชีวิตรายรอบกาย สายฝนโปรยปรายลงมาจากก้อนเมฆหนาหนักสีเทาดำทำให้ภาพเบื้องหน้าเลือนรางคล้ายถูกบดบังด้วยม่านขาว และหยาดน้ำสีขาวใสไหลลงจากเส้นผมก็พาเอาความโกรธและน้ำตาร่วงหล่นลงมาพร้อมกัน

กลับบ้านไม่ได้!

ปัณฑารีย์ยืนนิ่งอยู่กลางฝนซึ่งเทลงมาหนักขึ้นทุกที ความเป็นจริงที่กระแทกเข้าใส่อย่างไม่ปราณีหยุดการเคลื่อนไหวทุกอย่าง เริ่มหอบหายใจหนักๆขณะพยายามจะอัดอากาศหายใจเข้าไปในปอดที่ทำท่าว่าจะระเบิดจากการตระหนักถึงสภาพน่าสมเพชเวทนาของตนเอง ทว่าก็ต้องยอมแพ้เมื่อกระแสอารมณ์อันปั่นป่วนพลุ่งพล่านเกินกว่าจะห้ามได้

เธอไม่มีที่ให้กลับ...

ดินแดนแห่งนี้ไม่มีสถานที่ให้เธอกลับ!

หัวใจหนักอึ้งจนร่างกายไร้เรี่ยวแรงจะขยับหาที่หลบฝน ดวงตาพร่ามัวด้วยสายฝนสาดซัดและน้ำตาที่พรั่งพรูออกมาไม่ยอมหยุด ลำคอตีบตันเหมือนจุกไปด้วยก้อนแข็งๆจนมีเพียงเสียงสะอื้นลอดออกมาท่ามกลางความแปรปรวนของธรรมชาติ ร่างเล็กค่อยๆทรุดลงด้วยความร้าวรานแสนสาหัส

ไม่รู้ว่านานแค่ไหนที่นั่งร้องไห้อยู่ตรงนั้นตามลำพัง รู้สึกตัวอีกทีก็เห็นผู้ชายคนเดิมวิ่งเข้ามาหาแล้วช้อนร่างเธอขึ้นมาอุ้มไว้แนบอก

‘ทำไมถึงไม่หาที่หลบ!? ตากฝนแบบนี้เดี๋ยวก็ไม่สบายกันพอดี!’

น้ำเสียงหงุดหงิดเอ็ดลั่นฝ่าเสียงฝนที่ดังอยู่รอบกายขณะพาเธอไปยังพาหนะที่จอดอยู่ข้างๆ พอหญิงสาวเงยหน้าขึ้นมองก็เห็นดวงหน้าคมสันเต็มไปด้วยความไม่พอใจเช่นเดิม

หากคราวนี้แววตาของเขาเปลี่ยนไป...

นัยน์ตาสีน้ำเงินเข้มจัดเต็มไปด้วยอารมณ์อันหลากหลายอย่างที่คนมองคาดไม่ถึง ความห่วงใย ไม่พอใจ และเกรี้ยวกราด ฉายชัดไม่มีปิดบัง ปัณฑารีย์ได้แต่นิ่งงันไปด้วยความประหลาดใจกับการปรากฏตัวของเขา

ไซเร็คยิ่งหงุดหงิดเมื่อรู้สึกว่าร่างในอ้อมแขนผิวเนื้อเย็นเฉียบจนสั่นสะท้านไปทั้งตัว ชายหนุ่มรีบถอดเสื้อตัวนอกออกคลุมไหล่ที่เปียกโชกตั้งแต่ศีรษะจรดเท้าก่อนจับหญิงสาวมานั่งเบียดบนตักเพื่อแบ่งปันไออุ่นให้ หันไปออกคำสั่งกับระบบควบคุมยานพาหนะอัตโนมัติแล้วปล่อยให้นำเขากลับสู่ตัวบ้าน ระหว่างนั้นก็คว้ามือเล็กนุ่มขึ้นมาถูพลางเป่าลมหายใจร้อนๆขจัดความหนาวเย็นออกไปเท่าที่จะทำได้

‘คุณบ้าไปแล้วรึไง! เดินเท้าเปล่าไปไกลขนาดนั้นได้ยังไง! ฝนตกหนักก็ไม่หาที่หลบ คิดบ้างรึไหมว่าตัวเองอาจจะแพ้น้ำบนดาวดวงนี้หรือไม่อาจจะถูกฟ้าผ่าใส่ ให้ตายสิ!’

ประสาทสั่งการเคลื่อนไหวในสมองหญิงสาวชาวโลกหยุดทำงานจึงมีเพียงดวงตาที่มองตามพฤติกรรมของอีกฝ่ายอย่างไม่ค่อยเข้าใจนัก น้ำตาค่อยๆหยุดไหลจากดวงตาสีนิลเมื่อมองตามอีกฝ่ายไปทุกการกระทำและคำพูดจนกระทั่งเขานำเธอกลับเข้าไปในบ้านอีกครั้ง ไม่มีเสียงคัดค้านหรือห้ามปรามแม้สักคำเมื่อชายหนุ่มถอดชุดว่ายน้ำออกพ้นร่างก่อนหย่อนเธอลงในอ่างอาบน้ำที่เต็มไปด้วยน้ำอุ่นแ ละฟองสบู่ลอยฟ่องแล้วหายลับไปจากห้อง ปล่อยให้มนุษย์ต่างดาราจักรสาวอยู่ตามลำพังจนสามารถทบทวนสถานการณ์ได้ครบทุกเรื่อง

และปัณฑารีย์ก็ไม่เข้าใจเลยว่าทำไมเขาจึงพากลับมาที่นี่อีกหลังจากไล่เธอไปแล้ว...

เปลือกตาหลุบต่ำแทบกลายเป็นหลับตายามหญิงสาวชาวโลกถอนใจยาวลึกด้วยยังมองไม่เห็นหนทางใดในยามเคว้งคว้างสับสนเช่นนี้ ได้แต่วักน้ำอุ่นขึ้นมารดร่างหวังขับไล่ความเครียดกังวลให้หลุดออกไปก่อนรีบขยับลดร่างลงไปจนเหลือเพียงช่วงบ่าโผล่ขึ้นเหนือฟอ งสบู่เมื่อได้ยินเสียงประตูและฝีเท้าดังเป็นจังหวะใกล้เข้ามา

“หายหนาวแล้วสินะ” ชายหนุ่มกลับเข้ามาอีกครั้งพร้อมกับถ้วยที่มีควันลอยกรุ่น เสื้อคอเต่าแขนยาวสีเทาดำและกางเกงที่แห้งสนิทบอกให้รู้ว่าเขาไปเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนนำเครื่องดื่มเข้ามาให้ “ดื่มสิ แล้วจะรู้สึกดีขึ้น”

ปัณฑารีย์ยื่นมือไปรับถ้วยบรรจุของเหลวสีน้ำตาลข้นจากมือใหญ่มาจิบทดสอบรสชาติอย่างว่าง่าย กลืนลงคอไปอึกใหญ่เมื่อพบว่ารสชาติคล้ายช็อกโกแลตร้อนที่บ้านเกิด รสชาติกลมกล่อมหวานหอมละมุนละไมส่งผลให้หญิงสาวรู้สึกผ่อนคลายจนสามารถเอนพิงขอบอ่างแม้จะมีชายหนุ่มแปลกหน้ายืนอยู่ในห้องด้วย นัยน์ตาสีนิลแสบร้อนลอบมองเขาเหนือปากถ้วยก็เห็นร่างสูงใหญ่มองมาด้วยแววตาใคร่ครวญลึกซึ้ง หากท่ายืนพิงกำแพงปล่อยตัวตามสบายของอีกฝ่ายก็ทำให้เธอจิบเครื่องดื่มอีกอึกก่อนถามถึงข้อข้องใจด้วยความอ่อนล้าทั้งกายและใจ

“ทำไมถึงพาฉันกลับมาที่นี่ล่ะ ฉันด่า แถมยังตบคุณด้วยนะ”

ชายหนุ่มวัยยี่สิบเก้าปีนิ่งมองหล่อนอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะเดินมานั่งบนขอบอ่างปราศจากท่าทีคุกคามให้รู้สึกหวาดผวา ปลายนิ้วเรียวยาวได้รูปที่หญิงสาวเพิ่งจะรู้ว่าอบอุ่นขนาดไหนปัดเส้นผมสั้นกุดเปียกลู่แนบหน้าผากเนียนมิให้เกะกะดวงหน้าซีดเซี ยวอย่างอ่อนโยน น้ำเสียงทุ้มต่ำนุ่มนวลหลุดออกมาจากริมฝีปากบางยามที่คิดว่าจะไม่ได้รับคำตอบแล้ว

“คุณไม่มีที่ไปไม่ใช่หรือ...”

น้ำตาที่หยุดไปครู่ใหญ่ไหลรินลงมาอีกรอบ...

หากคราวนี้ความอบอุ่นจากมือใหญ่ที่ลูบศีรษะอยู่อย่างแผ่วเบาแทรกผ่านไปถึงหัวใจ...





ร่างสูงเพรียวมองทิวทัศน์นอกหน้าต่างขณะปล่อยให้ยานพาหนะรุ่นใหม่ล่าสุดซึ่งเต็มไปด้วยเทคโนโลยีและความสะดวกสบายใช้ระบบขับเ คลื่อนอัตโนมัตินำเจ้าของกลับที่พำนักนอกเมือง หากอาคารสูงระฟ้ารูปทรงต่างๆและยวดยานพาหนะเก่าใหม่ที่กำลังสัญจรไปมาในช่องทางจราจรกลางอากาศไม่สามารถดึงความสนใจของชายหนุ่ม ได้ กระทั่งรายงานหุ้นที่เปิดดูอยู่ทุกวันก็ไร้ความหมายในยามนี้

‘ถ้าไม่ถูกใจก็ส่งกลับมาหาฉันได้เลย ที่นี่มีงานให้แม่สาวต่างดาวนั่นทำอยู่แล้ว ว่าแต่แกจะไม่ทดลองใช้ดูก่อนรึไง ถึงยังไงที่อาริออสนั่นก็ไม่มีสาวให้แกได้สนุกสักเท่าไรนี่นา อย่าปฏิเสธให้เสียเวลาเลยน่า ครั้งที่แล้วฉันเจอแต่พวกปลาตายแช่แข็งทั้งนั้น ทรมานฉิบหาย แม่สาวคนนี้น่ะ ฉันเช็คแคตตาล็อกแล้วสั่งซื้อไปก่อนเอธานจะจัดประมูลมาให้แกด้วยตัวเองเลยนะไซเร็ค แกเองก็รู้นี่ว่ามันเขี้ยวแค่ไหน ถ้าของไม่มีคุณภาพหรือยังไม่ถึงเวลาเปิดตัวไม่มีวันยอมปล่อยออกมาหรอก ถึงไม่ใช่แบบที่แกชอบ แต่ลองดูสักหน่อยก็ไม่เสียหายนี่’

คำพูดของเธรอนยังคงวนเวียนอยู่ในสมองไซเร็คแม้จะตัดการติดต่อไปนานแล้วก็ตาม นึกถึงทีไรก็นึกอยากจะอัดเจ้าเพื่อนตัวดีโทษฐานแส่เรื่องส่วนตัวของเขามากเกินควร ถึงแม้ชนพื้นเมืองเพศหญิงของดาวอาริออสจะมีความต้องการทางเพศต่ำราวกับหุบเหวใต้ทะเลลึกจนส่งผลให้ปัจจุบันมีประชากรที่เกิดด้ว ยวิธีการธรรมชาติน้อยมาก แต่เขาก็สามารถตอบสนองความต้องการด้านนี้ของตนเองได้จากสาวสวยในสังคมหรือโสเภณีชั้นสูงระหว่างการเดินทางไปติดต่อธุรกิจยังดาว เคราะห์ดวงอื่นๆ ไม่มีความจำเป็นที่จะมีนางบำเรอหรือคู่รักเก็บไว้ในบ้านแบบนี้เลย

และข้อเท็จจริงที่ว่าสายเลือดอันเข้มข้นของชาวคีเรี่ยนในกายเรียกร้องขอการปลดปล่อยทางกายบ่อยครั้ง คอยกระตุ้นเตือนยามได้พบเพศตรงข้ามที่มีลักษณะต้องใจอยู่เสมอไม่อาจทำให้เขาเลือกทางสะดวกโดยการยอมให้หญิงสาวต่างดาวอาศัยอยู่ ที่บ้านได้ ความต้องการความเป็นส่วนตัวที่หาได้ยากยิ่งในปัจจุบันยังคงมีอยู่ตลอดเวลาจนไม่อยากจะให้ผู้ใดล่วงล้ำ หากการส่งปัณฑารีย์คืนเพื่อนก็ไม่ต่างอะไรกับการผลักไสหล่อนให้กลายเป็นเครื่องรองรับอารมณ์ทางเพศแบบที่เจ้าตัวไม่ปรารถนา

ที่สำคัญ...สินค้ามีชีวิตที่นำเข้าจากกาแล็กซีอื่นไม่สามารถส่งคืนหรือเปลี่ยนได้!

กฎข้อนี้เป็นที่รู้กันดีในหมู่ผู้คนที่ใช้บริการของตลาดมืดผิดกฎหมายดาราจักร และทุกคนก็ปฏิบัติตามโดยไม่มีข้อโต้แย้งใดๆในเมื่อความต้องการสินค้าผิดกฎหมายพวกนี้มีอยู่ตลอดเวลา ตราบเท่าที่ยังมีทรัพย์สินมากมายมหาศาลให้ใช้แลกเปลี่ยนได้ไม่ติดขัด

ทว่าความเบื่อหน่ายสามารถเปลี่ยนแปลงทุกสิ่งได้...

สินค้ามีชีวิตอาจจะถูกเปลี่ยนมือไปเรื่อยๆโดยขึ้นอยู่กับอารมณ์ของผู้เป็นเจ้าของ บางครั้งอาจขายกลับคืนให้กลุ่มใต้ดินซึ่งจะขายหญิงสาวเหล่านี้ต่อให้กับชนเผ่าพื้นเมืองของระบบดาวเคราะห์ที่ยังไม่พัฒนาแถบรอบ นอกดาราจักร แต่ก็มีพวกที่ทิ้งสาวต่างดาวให้เผชิญชะตากรรมโดยไม่เหลียวแลแล้วไปซื้อหาคนใหม่มาสนองตอบความต้องการอีกเช่นกัน

การเอาตัวรอดในดินแดนที่ไม่รู้จักนั้นไม่ใช่เรื่องง่ายหากผ่านเข้ามาในกาแล็กซีอย่างผิดกฎหมาย หลายๆคนจึงยึดสิ่งที่เคยทำมาเป็นอาชีพเพื่อให้สามารถดำรงชีวิตอยู่ได้ต่อไป...

และเขาก็เป็นคนหนึ่งที่เคยใช้บริการเหล่านั้นมาแล้ว…

นัยน์ตาสีน้ำเงินเข้มจัดละม้ายท้องฟ้ายามราตรีหรี่ลงเมื่อนึกถึงสตรีเพศที่เคยผ่านเข้ามาเป็นครั้งคราวในชีวิต รู้มาว่าในอดีตพวกหล่อนเคยมีชีวิตอันหอมหวานงดงามก่อนที่จะต้องมีสภาพน่าสมเพชแบบนั้น แต่เขาก็จำได้เพียงรางเลือนเพราะไม่เคยสนใจฟังคำบอกเล่าฆ่าเวลานั้นอย่างจริงจัง ส่วนพวกหล่อนเองก็ไม่คิดจะสร้างความไม่พอใจให้จนเขาไม่เรียกใช้บริการอีก

พอนึกถึงดวงหน้าขาวซีดและแววตาหวาดหวั่นไม่มั่นใจในอนาคตของตัวเองราวกับเด็กหลงทางที่เห็นในห้องอาบน้ำเมื่อวานก็เริ่มหนัก ใจ ปัณฑารีย์อ่อนเยาว์กว่าผู้หญิงพวกนั้นทั้งรูปร่างหน้าตาและจิตใจ หากปล่อยออกไปก็ไม่รู้ว่าจะเอาตัวรอดได้มากแค่ไหน ด้วยท่าทางดื้อรั้นเอาแต่ใจแบบนั้นเขามองไม่เห็นโอกาสที่หล่อนจะสามารถประกอบอาชีพเดียวกับหญิงสาวคนอื่นๆได้ และไม่มีทางที่จะย้ายหล่อนไปอยู่ที่อื่นโดยปราศจากคนที่ไว้ใจได้คอยดูแลแม้เขาจะมีที่พักอยู่ในครอบครองหลายสิบแห่งก็ตาม

“ถึงบ้านแล้วค่ะคุณไซเร็ค” เสียงหวานจากโปรแกรมคอมพิวเตอร์ดังขึ้นเมื่อยานพาหนะจอดเทียบชานบันไดหน้าคฤหาสน์เตือนให้ชายหนุ่มรู้สึกตัว

ไซเร็คสาวเท้าเข้าบ้านพลางมองหาร่างเล็กที่น่าจะอยู่อย่างสงบเสงี่ยมตามที่เขาสั่งไว้ก่อนออกไปทำงาน เดินหาหญิงสาวชาวโลกตามห้องต่างๆจนพบหล่อนกำลังนั่งแช่ขาอยู่ริมสระว่ายน้ำ นัยน์ตาสีดำมองไปยังสวนในบ้านที่จัดไว้อีกฟากสระด้วยแววตาที่ทำให้คนเห็นชะงักฝีเท้า ชายหนุ่มรู้สึกราวกับตนเองได้สัมผัสบรรยากาศอ้างว้างเศร้าซึมที่ห้อมล้อมเรือนกายบอบบาง ชายเสื้อคลุมอาบน้ำสีครีมที่เขายกให้สวมแทนชุดว่ายน้ำแตะระผิวน้ำในสระสร้างวงน้ำกว้างยามหล่อนขยับตัว อาการแกว่งขาเล่นในน้ำทำลายความเงียบช่วยให้ชายหนุ่มออกปากทักทายได้โดยไม่รู้สึกว่ากำลังล่วงล้ำความเป็นส่วนตัวมากนัก

“อยากเล่นน้ำหรือแพน” หนุ่มชาวคีเรี่ยนทักหญิงสาวที่เขาสมัครใจเรียกชื่อเล่นซึ่งออกเสียงง่ายกว่าชื่อจริงของหล่อนโดยไม่หวังคำตอบ ความกังวลหม่นหมองในสีหน้าของปัณฑารีย์ขณะหันมาบอกให้รู้ว่าหล่อนยังไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรกับตนเองดี “อยู่ที่นี่ทั้งวันเป็นยังไงบ้าง เย็นนี้กินอะไรบ้างหรือยัง”

“กลับมาแล้วเหรอ” หญิงสาวต่างดาวทักพลางผุดลุกขึ้น พยายามเกลื่อนอารมณ์บนดวงหน้าเท่าที่จะทำได้ด้วยรอยยิ้มฝืดฝืนและแววตาแห้งผาก หากความรู้สึกกลับไม่เป็นใจด้วยอีกฝ่ายจึงได้เห็นท่าทางอึดอัดขัดข้องทำอะไรไม่ถูก

“หิวหรือเปล่า” เจ้าของบ้านถามเสียงนุ่มเบา ระวังมิให้อากัปกิริยากระทบความรู้สึกของหญิงสาวจนหวั่นวิตกมากไปกว่าที่เป็นอยู่ พอหล่อนพยักหน้าเขาจึงหันหลังกลับเดินนำไปยังห้องอาหารเล็กที่ใช้เป็นประจำ “ปกติเวลาอยู่คนเดียวผมจะใช้ห้องนี้ ถ้ามีแขกมาก็จะเปิดห้องใหญ่”

คนเดินตามกะพริบตาปริบกับคำบอกเล่าอันน่าจะเป็นเรื่องส่วนตัว แต่เรื่องหนักอึ้งในใจที่กำลังรอให้แก้ไขอยู่นั้นสำคัญกว่ารายละเอียดในชีวิตประจำวันของอีกฝ่ายมาก วิธีตอบรับคำพูดของชายหนุ่มจึงมีเพียงการรับคำในลำคอเพียงอย่างเดียว

นักธุรกิจหนุ่มหันขวับมายืนนิ่งมองหน้าปัณฑารีย์จนเธอรู้สึกตัว คิ้วเรียวเลิกขึ้นสูงแทนคำถามยามหญิงสาวจ้องเขากลับเงียบๆ ดวงตาสองคู่จ้องมองซึ่งกันและกันจนหญิงสาวเป็นฝ่ายทนไม่ไหวต้องเอ่ยปากออกมาเอง

“คุณอยากจะพูดอะไรก็พูดสิ”

“ความเงียบไม่ได้ทำให้สถานการณ์ดีขึ้นหรอก”

นัยน์ตาสีน้ำเงินเข้มจัดเยือกเย็นมองอย่างสงบจนปัณฑารีย์ไม่อาจเหมาเอาได้ว่าเขากำลังยั่วโมโหเธออยู่ แถมผู้ชายตรงหน้าก็แสดงให้เห็นแล้วว่าเขามิใช่ยักษ์มารไร้หัวใจ เพราะหากอีกฝ่ายเป็นคนใจดำไร้ศีลธรรมไม่มีความเห็นใจผู้อื่น ของกำนัลอย่างเธอคงไม่มีทางรอดมือเขามาได้จนถึงตอนนี้ คนที่สมควรจะโดนกล่าวโทษก็คือผู้ชายใจดำที่เห็นผู้หญิงเป็นของเล่นอย่างเพื่อนของไซเร็คต่างหาก

มือใหญ่ถอดเสื้อสูทสีดำลายทางออกแล้วคลายเนคไทพลางมองหล่อนไม่ละสายตา แววตาสงสัยที่มองสบมาทำให้เขาตัดสินใจพูดต่อในเรื่องที่สำคัญที่สุดสำหรับหญิงสาว

“ถึงคุณจะไม่เต็มใจมาที่นี่หรือว่าไม่ชอบใจมากแค่ไหนที่ต้องกลายมาเป็นแบบนี้ ก็ทำอะไรมากไปกว่านี้ไม่ได้อยู่ดี แทนที่จะเอาแต่เงียบ เรามาคุยกันว่าจะเอายังไงกันต่อไปดีกว่า นั่งสิ”

“ฉันอยากกลับบ้าน” ปัณฑารีย์นั่งลงตามเขาพร้อมเอ่ยสิ่งที่ติดค้างอยู่ในใจ ดวงหน้าสวยเก๋ปรากฏแววมุ่งมั่นเอาจริงเอาจังจนคนมองสะท้อนใจเพราะรู้ถึงความเป็นไปได้อันริบหรี่ที่หล่อนจะได้กลับดาวเคราะห์บ้ านเกิดตามที่หวัง ชายหนุ่มรับผ้าร้อนมาเช็ดมือพลางสั่งอาหารกับแอนดรอยด์รับใช้หน้าตาเหมือนมนุษย์ที่เข้ามารอคำสั่งอยู่นานแล้วก่อนหันกลับมาอีก ครั้งเมื่อหญิงสาวถามย้ำ

“มีทางที่ฉันจะได้กลับบ้านไหม”

“หนทางน่ะมี แต่เป็นไปไม่ได้สำหรับคุณ”

สิ่งที่ชายหนุ่มบอกส่งผลให้คนฟังรู้สึกคล้ายถูกลูบหลังก่อนโดนตบหัวเอาดื้อๆ ทั้งที่มีความหวังว่าจะได้กลับบ้านเขากลับบอกว่าเป็นไปไม่ได้ ไม่ว่าอย่างไรก็ไม่ยุติธรรมสำหรับคนที่ต้องมาต่างดาวโดยไม่เต็มใจเลยสักนิด แต่พอเธอจะถามเขาก็รีบยกมือห้ามไม่ให้พูด

“ผมกำลังจะอธิบายให้ฟังว่ามันจะเป็นไปไม่ได้เพราะอะไร” ไซเร็คยกเครื่องดื่มขึ้นมาจิบขณะเลือกหาคำพูดที่จะทำให้แม่สาวต่างดาวยอมรับได้โดยไม่มีปฏิกิริยาตอบสนองทางอารมณ์รุนแรงมากนัก

“ฟังนะ ถึงการเดินทางในอวกาศจะเป็นเรื่องง่ายสำหรับที่นี่ แต่ค่าใช้จ่ายก็สูงพอสมควร สำหรับมนุษย์ต่างดาวที่มาจากกาแล็กซีที่ไม่เคยมีการติดต่อสื่อสารหรือมีความสัมพันธ์อย่างเป็นทางการกับเซเฟรัสเหมือนคุณ กระบวนการติดต่อเพื่อขอให้ได้รับการส่งกลับบ้านน่ะมันยากยิ่งกว่าล็อบบี้คณะปกครองเสียอีก เป็นไปได้ว่ากว่าจะรู้ผลคุณก็แก่ตายอยู่ที่นี่แล้ว อีกอย่าง...”

เสียงทุ้มต่ำเงียบหายไปไม่พูดต่อแม้เธอแสดงออกนอกหน้าว่ากำลังสนใจอย่างที่สุดกระตุ้นให้ชักรู้สึกหงุดหงิด มือเล็กนุ่มจึงคว้าข้อมือหนาเขย่าแรงๆเร่งให้เขาพูดต่อไปให้หมดเรื่องค้างคาใจสักที

“อีกอย่างที่ว่ามันอะไรล่ะ บอกมาเร็วๆสิ”

“คุณถูกนำตัวเข้ากาแล็กซีมาอย่างผิดกฎหมาย ที่เซเฟรัสนี่มีกฎหมายห้ามการค้ามนุษย์จากต่างกาแล็กซีอย่างเด็ดขาด ถ้ามีการละเมิด คนที่นำคุณมาจะต้องรับผิดชอบ ทั้งบทลงโทษและการส่งคุณกลับดาวบ้านเกิด และคณะปกครองของดาวดวงที่คุณพักอาศัยอยู่จะไม่รับผิดชอบในตัวคุณไม่ว่าจะในกรณีใดๆทั้งสิ้น เพราะถือว่าเป็นสิ่งที่ผู้กระทำผิดจะต้องแก้ไขปัญหาเองทั้งหมด”

ปัณฑารีย์ขบริมฝีปากล่างพร้อมพยักหน้ารับคำอธิบายของอีกฝ่ายอย่างจำใจ แม้จะฟังดูโหดร้ายเกินไปสำหรับการเพิกเฉยไม่สนใจไยดีมนุษย์ต่างดาวที่ถูกลักพาตัวเข้ามาในกาแล็กซี หากค่าใช้จ่ายระดับที่สามารถส่งเธอกลับไปยังโลกได้ก็เป็นปัญหาที่ผู้ไม่เกี่ยวข้องไม่ต้องการจะแบกรับไว้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกรณีของคู่สนทนาซึ่งได้ตัวเธอมาจากเพื่อนในฐานะของขวัญแสดงความยินดี

แต่ความไม่ยุติธรรมนั้นก็ยังกัดกินความรู้สึกของหญิงสาวอยู่ดี…

ชายหนุ่มสังเกตท่าทีห่อเหี่ยวหมดหวังของสาวต่างดาวอย่างเงียบๆ อากัปกิริยารับรู้และตอบสนองต่อคำบอกเล่าทำให้เขาตัดสินใจเสนอความคิดเห็นที่มีอยู่ในใจให้หล่อนเลือก เพราะถึงอย่างไรก็ไม่มีทางออกที่ดีไปกว่านี้ให้แล้ว

“ในเมื่อคุณกลับไม่ได้ จะอยู่ที่นี่ไปก่อนไหม ถึงยังไงก็ไม่มีที่ไปอยู่แล้วนี่”

“แล้วคนอื่นที่กลับไปไม่ได้เขาทำยังไงกันล่ะ ถ้าไม่ได้อยู่กับคนที่ซื้อมาน่ะ” หญิงสาวย้อนถามด้วยความสงสัยใคร่รู้ ข้อ บังคับทางกฎหมายที่เขาบอกมานั้นมิได้ระบุว่าคนที่ไม่ได้กลับบ้านเกิดจะมีสถานะหรือความเป็นอยู่อย่างไร บางทีคำตอบของมันอาจจะกลายเป็นหนทางใหม่สำหรับเธอก็เป็นได้

“บางคนโชคดีหน่อยก็ได้รับการสนับสนุนจากคนที่ซื้อไปให้มีอาชีพทำงานเลี้ยงตัวได้ แต่บางคน...” นักธุรกิจหนุ่มเว้นช่วงไปแวบหนึ่งยามนึกถึงผู้หญิงที่เขาเคยพบก่อนจะพูดต่ออย่างรวดเร็ว “กลายเป็นพวกมิจฉาชีพหรือโสเภณี”

นัยน์ตาสีนิลคู่งามเบิกกว้างเมื่อได้รับทราบความจริงที่กลายเป็นหมัดอัปเปอร์คัตสอยเข้าปลายคางจนสติหายวับในพริบตาต้องเป็น นางบำเรอให้ผู้ชายต่างดาวก็ถือว่าเหลือรับแล้ว ความคิดว่าอาจจะต้องขายเรือนร่างเพื่อปากท้องทั้งที่ก่อนหน้านี้เคยมีอาชีพน่าพึงพอใจและเป็นที่ยอมรับในสังคมมาก่อนยิ่งกระพือ ความโกรธที่มีต่อคนลักพาตัวเธอมาให้เดือดมากขึ้น

“ทำไมต้องเป็นโสเภณีด้วยล่ะ!? อาชีพอื่นมีเยอะแยะทำไมไม่ไปทำ หรือว่ามีการกีดกันทางอาชีพอีก” น้ำเสียงอ่อนระโหยตอนแรกบัดนี้ดังลั่นด้วยโทสะร้อนแรง ดวงตาวาววับสีดำเป็นประกายแข็งกร้าวชัดแจ้งจนคนเห็นไม่อาจตีความเป็นอย่างอื่นได้

“อาชีพสำหรับคนต่างดาราจักรที่เข้าเมืองผิดกฎหมายไม่ได้มีให้เลือกมากมายนักหรอกนะ” ไซเร็คเอ่ยเสียงราบเรียบพอกับสีหน้าสงบนิ่งไม่เผยอารมณ์ความรู้สึกใด “การใช้ชีวิตในสถานที่ที่ไม่คุ้นเคยและไม่มีคนรู้จัก มันยากแค่ไหน ตัวคุณเองน่าจะเริ่มรู้แล้ว ไม่ว่าใครก็ต้องดูแลตัวเองกันทั้ง
นั้น"

ข้อเท็จจริงจากปากของชายหนุ่มแช่แข็งอารมณ์ความรู้สึกของปัณฑารีย์ไว้ได้ทันที เมื่อวานนี้เองที่เธอรู้สึกโดดเดี่ยวเดียว ดายช่วยตัวเองไม่ได้ราวกับเป็นแมลงตัวน้อยที่ถูกเอามาปล่อยไว้ในผืนป่ากว้างใหญ่ไพศาล จิตใจอ้างว้างหนาวเหน็บจนนึกอยากตายไปให้พ้นจากสภาพรันทดท้อไร้ทางออกที่ไม่เคยรู้สึกมาก่อนในชีวิต หากจำเป็นเธอก็คงตัดสินใจทำในสิ่งที่ผู้หญิงจะสามารถทำได้เพื่อเอาตัวรอดเช่นกัน

ท่าทางกลัดกลุ้มคิดมากของหญิงสาวตกอยู่ใต้สายตาช่างสังเกตของไซเร็คไม่เปลี่ยนแปลง สิ่งที่เขาอธิบายให้สาวชาวโลกฟังเป็นความจริงพอๆกับส่วนที่ไม่คิดจะบอกให้หล่อนทราบ อันที่จริงหนทางกลับดาวเคราะห์มิได้มีเพียงวิธีเดียว แต่มีความเป็นไปได้สูงว่ามันจะก่อความวุ่นวายยุ่งเหยิงให้ชีวิตเขามากยิ่งขึ้นถ้าตัดสินใจลงมือทำ

กฎเกณฑ์อีกข้อสำหรับกรณีนี้ระบุไว้ว่า ผู้ที่มีมนุษย์ต่างกาแล็กซีจากการลักลอบเข้าดาราจักรในครอบครองต้องรับผิดชอบในกรณีที่ไม่สามารถติดตามสืบหาผู้ทำผิดที่แท้จริง ได้ ค่าใช้จ่ายในการส่งหล่อนกลับและค่าปรับมิได้สูงพอจะสร้างความเดือดร้อนใดแก่ทรัพย์สินส่วนตัวของเขา ทว่าชื่อเสียงภาพพจน์ที่สร้างมาจะต้องเสียหายหากมีข่าวน่ารังเกียจประเภทนี้แพร่ออกไป

แต่บุคคลที่จะเดือดร้อนมากที่สุดในเรื่องนี้ก็คือเธรอน!

แม้เขาจะไม่ปริปากถึงวิธีการได้ตัวหญิงสาวชาวโลกผู้นี้มาก็ยังเป็นไปไม่ได้ที่เพื่อนสนิทตัวแสบจะรอดจากข้อหาสำคัญในฐานะที่ เป็นคนส่ง ‘ของขวัญ’ มากำนัล เพราะในปัจจุบันเขามีผู้คนที่คอยติดตามสอดส่องความเป็นไปทางธุรกิจและชีวิตส่วนตัวแทบจะตลอดเวลา และถึงแม้เพื่อนสนิทจะมีชื่อเสียงฉาวโฉ่จากข่าวคราวในด้านลบจนถือเป็นเรื่องปกติในชีวิตประจำวันเช่นเดียวกับข่าวพยากรณ์อากาศใ นแต่ละเขตพื้นที่ ชายหนุ่มก็ไม่ต้องการให้เธรอนต้องมาวุ่นวายกับปัญหาที่สามารถจัดการได้อย่างง่ายดายนี้

แถมทางเลือกสุดท้ายที่เป็นไปได้นั้นก็เป็นสิ่งที่เขาไม่ปรารถนาจะเข้าไปยุ่งเกี่ยวด้วยเลยแม้แต่น้อย…

การติดต่อผู้นำหนึ่งในหกตระกูลของกลุ่ม ’เครส’ ซึ่งเป็นผู้ลักพาหญิงสาวตรงหน้ามาจากบ้านเกิดเพื่อให้นำหล่อนกลับไปส่งที่เดิมนั้นสามารถทำได้ไม่ยาก เงินจำนวนมหาศาลที่มีอยู่อำนวยให้เขาเปิดประตูทุกบานได้ทุกเวลาตามต้องการไม่ว่าที่แห่งนั้นจะสว่างไสวหรือมืดมิดสักเพียงใด หากหนทางนี้จะทำให้ตนเองต้องเข้าไปข้องเกี่ยวกับบุคคลที่พยายามเว้นระยะห่างทั้งด้านสังคมและส่วนตัวอย่างปฏิเสธมิได้

มันไม่ใช่สิ่งที่เขาจะยอมทำเพียงเพื่อช่วยเหลือผู้หญิงแปลกหน้าแน่!

ชายหนุ่มนั่งรับประทานอาหารที่หุ่นยนต์รับใช้ยกมาเสิร์ฟไปเรื่อยๆท่ามกลางความเงียบ รู้ดีว่าการปล่อยให้หล่อนพิจารณาเอาเองจะดีกว่าพยายามชักชวนหรือสนับสนุนมาก เพราะถึงจะสงสารเห็นใจอย่างไรเขาก็ยังไม่เต็มใจจะอยู่ร่วมบ้านกับใครอยู่ดี

ระหว่างที่เจ้าของบ้านจัดการกับอาหารมื้อเย็นตรงหน้าปัณฑารีย์ก็แอบมองเขาไปพร้อมกัน ข้อเสนอของชายหนุ่มดีเกินกว่ามนุษย์ต่างดาวพลัดถิ่นอย่างเธอจะคาดหวังได้ และความจริงที่รับรู้ตั้งแต่เมื่อวานว่าตนเองมิได้เป็นอะไรมากไปกว่าของขวัญที่เพื่อนส่งมาให้ก็ช่วยเพิ่มพูนความรู้สึกดีที่มี ต่อไซเร็คมากกว่าเดิม

แต่เธอจะเชื่อใจเขาได้มากแค่ไหนกัน?

“แล้ว...ถ้าฉันอยู่ที่นี่...จะเป็นยังไงต่อล่ะ”

มือใหญ่ที่กำลังส่งอาหารเข้าปากหยุดนิ่งก่อนดวงตาสีเข้มสวยหลังแว่นใสจะเบนมาทางหญิงสาว สีหน้ากังวลกึ่งลังเลของหล่อนบอกชายหนุ่มว่าเจ้าตัวไม่แน่ใจว่าสถานะของตนเองจะเป็นเช่นไรในบ้านของเขา ริมฝีปากบางขยับมุมปากยิ้มเครียดเมื่อคิดถึงบทสนทนาที่คุยกับเธรอนเมื่อกลางวัน

“ขึ้นอยู่กับคุณ”




TBC.





มาโพสต์ต่อแล้วนะคะ ก็หวังว่าเพื่อนที่แวะเข้ามาอ่านจะชอบเรื่องนี้บ้าง

หากเป็นไปได้ ก็อยากจะเห็นคอมเมนต์ของทุกคนค่ะ ^^






ปุณณารมย์
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 18 ก.ย. 2554, 09:57:01 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 19 ก.ย. 2554, 10:45:00 น.

จำนวนการเข้าชม : 1567





<< Prologue   ตอนที่ 2 >>
แล่นแต๊ 18 ก.ย. 2554, 13:56:22 น.
แปลกดีค่ะ


คิมหันตุ์ 18 ก.ย. 2554, 14:49:17 น.
สนุกดีค่า..มารอติดตาม..ฉากเลิฟซีนตัดออกเลยหรือคะ?
ปรับให้พอดีกับแนวทางของเว็บนี้ก็ได้นะคะ ถ้าตัดออกอาจเสียอรรถรสไป...ห้าห้าาา (แอบหื่น)
ปล.ตอนนี้มายาวได้ใจมากๆค่ะ ^ ^


ปุณณารมย์ 21 พ.ย. 2554, 11:36:58 น.
แล่นแต๊
ขอยคุณค่ะ หากติดตามอ่านต่อไปก็จะดีใจมากเลยค่ะ ^^

คิมหันตุ์
ตัดออกเป็นบางส่วนน่ะค่ะ เพราะจะโพสต์ทั้งหมดคงไม่เหมาะ และปรับก็คงไม่เวิร์ค ลองดูแล้วกันค่ะว่าโอเครึเปล่า


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account