ในชุดภารกิจรัก เรื่องราชนาวีที่รัก

Tags: ทหารเรือ นักเขียน

ตอน: 3."พี่ต้นกล้า"

สวัสดีครับเพื่อนนักอ่านที่รัก..

บ้านผมที่นครสวรรค์น้ำไม่ท่วมตามเทรนด์ครับ เพราะว่า ส่วนหนึ่งเทศบาลนครนครสวรรค์มีประสบการณ์น้ำท่วมเมือง ก็เลยทำตลิ่งป้องกันไว้ น้ำเลยไม่เข้าเมืองแต่ที่อื่นรอบๆ ท่วมหมด ปีนี้น้ำเยอะจริง ๆ อำเภอ จังหวัด ที่ตั้งอยู่ริมแม่น้ำท่วมกัีนหมด เส้นเอเซีย ขาเข้ากทม. ฝั่งขวามือน้ำปิ่มถนนเลยทีเดียว // แล้วบ้านผมตั้งอยู่บนเขาครับ ถ้าน้ำเข้าเมืองได้ก็ปลอดภัย แต่ว่า ก็สงสารผู้ประสบภัยเหมือนกัน ดูข่าวแล้วเศร้า..ใจเขาใจเรา..

...

สำหรับ ราชนาวีที่รัก เช่นเดิมว่า จะโพสต์เพียงสัปดาห์ละตอนนะครับ จะได้อยู่ด้วยกันนาน เพราะเรื่องนี้จะได้ตีพิมพ์ก็งานหนังสือปีหน้าโน่นแนะ...สำหรับใครที่พอมีความรู้เรื่องทหารเรือเห็นอะไรผิดจากความเป็นจริงไปก็บอกผมได้นะครับจะได้แก้ไขให้ถูกต้อง เพราะว่าเรื่องนี้ ได้ข้อมูลจากเอกสารเป็นส่วนใหญ่ เพราะคนที่เขาให้รบกวนผมก็เกรงใจเขามากครับ..

ขอบคุณจากทุก ๆ กำลังใจนะครับ....


3.

เมื่อขับรถพาแพรวพรรณออกมาจากบ้านหลังใหญ่กึ่ง ๆ ออฟฟิศที่ตั้งอยู่มุมหนึ่งในพื้นที่ของลานตากพืชไร่โดยมีโกดังใหญ่ใช้เป็นที่เก็บพืชผลทางการเกษตรกับเก็บรถบรรทุกนับสิบคัน ได้แล้ว หิรัญญาก็เป่าลมจากปากอย่างโล่งอก

..เพราะตั้งแต่เมื่อวานตอนเย็น รวมถึงเมื่อคืนเกือบครึ่งคืน มาจนถึงตอนเช้า พ่อแม่ของแพรวพรรณได้ซักไซ้ไล่เรียง สอบถามถึงบ้านช่องห้องหับที่แพรวพรรณจะไปเก็บตัวเขียนนิยายชุด ซึ่งแพรวพรรณไม่ได้บอกกับพ่อแม่หรอกว่าเป็นเรื่องทหารเรือ บอกแต่ว่า พื้นครอบครัวของตัวละครเป็นคนลุ่มน้ำบางประกง ดังนั้นแพรวพรรณจะต้องไปซึมซับวิถีของคนในถิ่นดินดำน้ำชุ่มอุดมสมบูรณ์ เพื่อให้ความคิดตกผลึก..ได้อารมณ์ของฉากอย่างแท้จริง..

พ่อกับแม่ของแพรวพรรณง้างปากจะพูดถึงเหตุผลที่จะไม่ให้แพรวพรรณเดินทางออกจากบ้านแต่หิรัญญาก็ปิดทุกช่องทางปัญหานั้นชนิดเหงื่อแอบไหลออกหนังหัวทั้งที่แอร์ในบ้านของแพรวพรรณเย็นฉ่ำ..

“ใจหนึ่งฉันก็อยากอิจฉาเธอจังมีคนรักไม่รู้จักกี่คน แต่อีกใจ เป็นสาวแก่ มีฐานะแบบนี้ดีกว่า อิสระ จะไปไหนก็ได้ไป”

“ไม่ต้องนินทาพ่อแม่พี่ชายของแพรวเลยนะ..” ค้อนให้คนขับรถซึ่งแต่งตัวด้วยกางเกงสะดอผ้าฝ้ายพันทับเสื้อยืดสีขาวที่สกรีนคำว่า ‘ตลาดบ้านใหม่ฉะเชิงเทรา’ แล้ว แพรวพรรณก็ค้นกระเป๋าหาแว่นกันแดดมาคาดปิดดวงตาคมเพราะรถวิ่งย้อนแสง..

พอรถแล่นออกจากบ้านมาได้ไม่เท่าไหร่ ร้านของฝากซึ่งเน้นที่ขนมโมจิเป็นขนมเลื่องชื่อของเมืองนครสวรรค์ก็แสดงป้ายใหญ่ให้เห็นอยู่ตรงหน้า

“แวะ ซื้อขนมไปฝากพี่เขาหน่อย”

“ไม่” หิรัญญาตอบเสียงห้วน ๆ กลับมา..

“ทำไมอ่ะ” น้ำเสียงของแพรวพรรณเปลี่ยนเป็นออดอ้อน.

“อีกตั้งสองวันกว่าเธอจะไปสัตหีบ ขนมขึ้นราพอดี แล้วอีกอย่าง อีตาผู้การเรือเร่ ก็คงเบื่อไอ้โมจินี่แย่แล้ว”

ประวัติความเป็นมาของพี่ต้นกล้า แพรวพรรณได้เล่าให้หิรัญญาฟังอย่างละเอียดตามที่จำความได้..และคืนวันพฤหัสบดี กับคืนวันศุกร์แพรวพรรณต้องอยู่ที่ฉะเชิงเทรา วางแผนงานกับเพื่อน ๆ รอเวลานัดหมาย ส่วนวันเสาร์อาทิตย์ซึ่งเป็นวันว่างของผู้การหนุ่ม หิรัญญาต้องขายกาแฟต้อนรับนักท่องเที่ยว ดังนั้น แพรวพรรณจึงขอให้นาทีไปเป็นเพื่อน และอีกอย่างแพรวก็ยังไม่ไว้ใจพี่ต้นกล้าเท่าไหร่ เพราะฟังจากคารมแล้ว ความเจ้าชู้ยักษ์ของเขามีอยู่ไม่น้อย และการพานาทีไปด้วยนั้นก็เป็นการสงวนทีท่าของเธอเอาไว้ก่อน..เพราะแพรวพรรณก็ไม่มั่นใจนักว่า ถ้าได้เห็นหน้าอันหล่อเหลาของเขา ใจของเธอจะสั่นไหวถึงเพียงไหน..

และไอ้ของฝากจำพวกขนมในท้องถิ่น ก็ถือเป็นธรรมเนียมที่เธอปฏิบัติมาตั้งแต่ต้องเข้าไปติดต่องานในสำนักพิมพ์ กับตอนที่ไปเซ็นหนังสือให้แฟนคลับ ขนมของฝากเหล่านี้จะมีติดมือไปฝากน้อง ๆ พนักงานกับเพื่อนนักเขียน จนทุกคนรู้ว่า ถ้าเห็นหน้าแพรวพรรณก็จะต้องได้กินขนมโมจิ..

“ตอนนี้เขามีไดฟูกุแล้วจ้ะ แพงกว่า อร่อยกว่า ไฮโซกว่า”

“ไปหาซื้อขนมที่ตลาดบ้านฉันไป..เอารายได้ไปให้จังหวัดชั้นบ้าง”

“ได้รางวัลจากสภาวัฒนธรรมจังหวัดมานี่ ...หายใจเข้าออกเป็นแต่ฉะเชิงเทราเลยนะ” ด้วยพื้นเพเป็นคนฉะเชิงเทรา งานเขียนของหิรัญญาส่วนมาก จึงใช้ฉากที่นั่นเป็นพื้นให้ตัวละคร และเรื่อง ‘แรงรักแรงแค้น’ ละครพีเรียดผ้าถุง ฉากบางคล้าลุ่มน้ำบางปะกง ซึ่งเป็นละครโด่งดังมาก ก็สร้างชื่อให้กับจังหวัดเป็นอย่างมาก ดังนั้นสภาวัฒนธรรมจังหวัดจึงได้มอบโล่ประกาศเกียรติคุณให้..

และโล่นั้นก็ตั้งอยู่ในตู้โชว์ในร้าน พร้อมกับหนังสือผลงานทั้งหมด..

และความสำเร็จของนักเขียนรุ่นพี่คนนี้ก็เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้แพรวพรรณอยากพัฒนาผลงานตัวเองให้มีแก่นสารลึกซึ้งยิ่ง ๆ ขึ้นไป...

สองสาวหยอกล้อกันจนกระทั่งหิรัญญาเลี้ยวรถรถเก๋ง Honda รุ่น Jazz ของตนเข้าไปในสถานีบริการน้ำมัน แพรวพรรณใช้บัตรเครดิตรูดจ่ายค่าน้ำมัน หลังจากนั้นทั้งสองก็พากันเข้าร้านขายกาแฟสด เพราะหิรัญญานั้นติดกาแฟเป็นอย่างมาก ส่วนแพรวพรรณสั่งโกโก้เย็น และระหว่างที่นั่งรอกาแฟอยู่นั้น ก็มีชายหญิงวัยกลางคนผลักประตูเข้ามา หลังสั่งกาแฟผู้ชายก็ถามน้องพนักงานว่า..

“ศาลกรมหลวงชุมพรนี่ไปอีกไกลไหม”..


อันที่จริงแพรวพรรณก็ไม่ค่อยได้ใส่ใจกับเรื่องไหว้เจ้า ไหว้บรรพบุรุษ ไหว้พระภูมิเจ้าที่ อย่างที่ป๊ากับแม่ปฏิบัติกันเป็นอาจิณ แต่ครั้งนี้ หิรัญญาเป็นคนนำเธอเข้ามายังศาลกรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ ‘องค์บิดาของทหารเรือไทย’แพรวพรรณจึงต้องปฏิบัติตามคำแนะนำต่าง ๆ ที่หิรัญญาได้บอกกับเธอ..

“จะเขียนเรื่องทหารเรือ ก่อนอื่นก็ต้องมาบอกมากล่าวกับท่านก่อน เรื่องยากจะได้เป็นเรื่องง่าย ความคิดดี ๆ จะได้หลั่งไหลออกมา..เธออาจจะไม่เชื่อตามประสาคนรุ่นใหม่ แต่ทุกครั้งที่พี่ทำงานหรือเปิดเรื่องใหม่ที่ต้องมีการเกี่ยวข้องกับบรรพชน ลำน้ำ ท้องนา พี่จะบอกกล่าวกับท่านทั้งหลาย ถ้าเขียนเรื่องท้องนา พี่ก็บอกแม่ธรณี แม่โพสพ แม่คงคา ผีปู่ย่าตายาย เจ้าที่ เจ้าทาง เจ้าท่า ให้เปิดทางให้พี่ทำงานได้อย่างสะดวกฯ เชื่อไหมว่า บางทีพี่ยืนขายกาแฟอยู่ดี ๆ ก็มีใครจากที่ไหนไม่รู้ มาเล่านั้นเล่านี้ให้พี่ฟัง จนกระทั่งพี่สามารถทะลุปมปัญหาบางปมไปได้..ครั้งนี้ก็เช่นกัน เธอขอพรท่าน บอกท่านไปว่า เราต้องการทำงานชิ้นนี้เพื่อยกย่องทหารเรือไทย เพื่อให้ลูกหลานชาวไทยได้ทราบเกียรติประวัติของท่าน ให้รู้ว่าท่านเป็นบุคคลสำคัญคนหนึ่งของสยามประเทศฯ คนไทยจะต้องไม่ลืมท่าน”

แพรวพรรณอยากจะค้านว่า พล็อตเรื่องของเธอไม่ได้ย้อนยุคหรือเกี่ยวกับท่านสักเท่าไหร่ และเรื่องยกย่องทหารเรือไทยอะไรนั่นเธอก็ยังนึกอะไรไม่ออกด้วย..แต่การนิ่งฟังและการปฏิบัติตามไปก่อน ก็ไม่ใช่เรื่องเสียหายอะไร

..แพรวพรรณจุดธูป เทียน ที่ได้มาจากด้านหน้าศาล..หลับตาแล้วนึกถึงท้องทะเลกว้างใหญ่..แต่เธอนึกอะไรไม่ออก จนกระทั่งเธอต้องนึกถึงเรือที่เคยพาเธอไปดำน้ำดูปะการัง มันไม่ใช่เรือรบ เพราะเธอไม่คุ้นกับมัน แม้แต่หน้าของพี่ต้นกล้า เธอก็นึกออกแต่เฉพาะตอนที่เขายังเป็นเด็ก..

แพรวพรรณลืมตาขึ้นมา..จ้องหน้ารูปหล่อของท่าน แล้วพึมพำเบา ๆ อย่างที่หิรัญญาได้แนะนำไว้

“ขอให้งานเขียนของลูกเรื่อง ‘ร.รัก ร. เรือ’ นี้ผ่านไปได้โดยง่ายด้วยเถิด..ขอให้งานชิ้นนี้เป็นที่ชื่น
ชอบของมหาชน ให้นิยายขายดีพิมพ์ซ้ำซาก...และก็ขอให้พี่ต้นกล้า..ยังเป็นโสดด้วยเถิด..”

ตรงท้ายประโยคแม้เสียงจะเบากว่าถ้อยคำข้างต้น แต่มันก็ทำให้แพรวพรรณรู้สึกสดชื่นขึ้นมา..ถ้าพี่หิรัญญารู้ว่า เธอรู้สึกดีกับเสียงของพี่ต้นกล้าเป็นอย่างมาก พี่หิรัญญาจะต้องว่าเธอบ้าผู้ชายแน่ ๆ

เสียงประทัดที่ด้านหลังศาลดังปึงปังอยู่นาน แพรวพรรณรู้สึกตกใจอยู่ไม่น้อย แต่ที่เธอคาดไม่ถึงนั่น
ก็คือ พอเสียงประทัดสงบลง หูของเธอก็ยินเสียงจากคณะใหม่ที่กำลังจะเข้ามากราบพระรูปองค์กรมหลวงฯ

“พ่อ ยกขา ก้าวเดิน..อึ๊บ ๆ..เก่ง ๆ ..ขอเก้าอี้ให้คนแก่หน่อยนะ นั่งคุกเข่าไม่ได้..”

แพรวพรรณกับหิรัญญาหันไปทางต้นเสียง ก็พบคนนับสิบคนประกอบด้วยชายหญิงพากันช่วยประคับประคองชายวัยชราเข้ามา..

แน่นอนว่าหิรัญญายิ้มต้อนรับคนเข้ามาใหม่อย่างเป็นมิตรในทันที แต่แพรวพรรณนั้นเธอไม่ค่อยมักคุ้นกับชาวบ้านแบบนี้ หญิงสาวจึงพยักหน้าชักชวนกันให้ลุกขึ้น

“โอ้ ตาอายุเท่าไหร่ยังแข็งแรงอยู่เลย” หิรัญญาทักทายเสียงดังกลับไป แพรวพรรณจึงต้องยิ้ม แหย ๆ ให้กับตาของบรรดาลูกหลานของตาที่อยู่รอบ ๆ ตัวตาไปด้วย..

“ตอบอีหนูมันไปสิพ่อ”

พอลูกสาวบอกเสียงดังขึ้นอีกนิด ตาก็ตอบเสียงแหบแห้งมาว่า

“เอ็ด ซิบ แอด”

“เจ็ดสิบแปดแล้ว..ยังแข็งแรงอยู่เลย ...อยู่ให้ได้ร้อยปีนะตา”

“ไอ้เอา..ไอ้ไหวแอ้ว..”

ขณะนั้นคนอื่น ๆ ก็พากันระดมขนของที่จะสักการะกรมหลวงชุมพรมเข้ามาด้านใน..หิรัญญานักเขียนใหญ่ซึ่งวิสัยชอบสอดรู้สอดเห็นมีส่วนร่วมกับเรื่องของชาวบ้านจึงต้องกระซิบถาม ผู้หญิงวัยกลางคนที่ดูเป็นผู้นำคนทั้งกลุ่มว่า..

“ทำอะไรกันคะ”

“แก้บน..ตาแกไม่สบาย ป้าบนกับกรมหลวงท่านไว้..วันนี้เลยพามาแก้บนซะ..”

คุยกันอีกสองสามประโยค แพรวพรรณก็พยักหน้าให้หิรัญญาขอตัว..และพอเดินมายังไม่ทันจะพ้นจากห้องโถง..หูของแพรวพรรณก็ได้ยินเสียงป้าคนนั้นคุยโทรศัพท์กับใครบางคน..ซึ่งถ้ามันไม่ใช่เรื่องบังเอิญ ทั้งสองสาวก็ยินป้าคนนั้นพูดว่า

‘ต้นกล้า แม่พาตามาแล้วลูก ต้องทำอย่างไรบ้าง...ของที่บอกไว้ได้ครบหมด..อืม ๆ คุยกับตาหน่อยนะลูก เสียงดัง ๆ หน่อยนะ....พ่อ ๆ ต้นกล้ามันคุยด้วย..”


บ้านไม้เรือนแถวของหิรัญญานั้นอยู่ในบ้านใหม่ ซึ่งเป็นตลาดร้อยปีตั้งอยู่ริมแม่น้ำบางประกง รถเก๋ง Honda คันงาม จึงต้องจอดอยู่ที่ลานรับฝากรถด้านนอก และเมื่อรื้อของจะใช้ในวันสองวันออกมาจากกระเป๋าเดินทางใบใหญ่.. แพรวพรรณก็ไปยืนอยู่เกาะลูกกรงระเบียงที่อยู่หลังบ้าน มองไปยังฝั่งตรงกันข้าม ซึ่งมีต้นจากขึ้นอยู่ริมแม่น้ำเรียงรายสลับกับบ้านเรือน ความเขียวสดของมันพาให้รู้สึกสบายตา ผิดกับที่บ้านของเธอซึ่งรอบ ๆ บ้านนั้นมีแต่ลานซีเมนต์ความร้อนระอุจะแผ่กระจายเข้ามาในบ้านที่ติดแอร์จนเย็นฉ่ำ นอกจากนั้นสายลมร้อน ๆ นั้นก็ยังมีฝุ่นละอองหอบความระคายเคืองที่เกิดจากฝุ่นควันรถบรรทุกที่วิ่งเข้าออกอยู่ตลอดเวลา..

และความร่ำรวยของเธอกับความเป็นผู้หญิงก็แบ่งแยกเธอออกจากโลกรอบ ๆ ตัว เพราะผู้เป็นแม่เห็นว่า พวกคนงานและครอบครัวนั้นเป็นคนอีกชนชั้น ซึ่งเธอไม่ควรไปเกี่ยวข้องด้วย ทางออกของความเหงาจึงเป็นที่มาให้เธอต้องพึ่งพาเพื่อนจากสังคมโซเชี่ยลเน็ตเวิร์ก และพอย่างเข้าปี 2554 แพรวพรรณก็รู้สึกว่า ความเหงาที่ซ่อนตัวอยู่นั้นมันขยายตัวใหญ่ ๆ ขึ้น ๆ จนเธอรู้สึกกลัวกับความรู้สึกของตัวเอง กลัวว่าจะยินยอมพร้อมใจแต่งงานกับคนที่ป๊ากับแม่ได้เลือกไว้ให้..

แต่ว่า เวลานี้ เธอรู้สึกว่าตัวเองมีความหวัง..รู้สึกว่า การดิ้นรนออกจากบ้านในครั้งนี้ และในโอกาสข้างหน้านั้น มันจะทำให้เธอได้พบกับอิสรภาพที่เธอฝันถึงอย่างแท้จริง..

“แพรว โทรศัพท์ดัง”..เสียงของพี่หิรัญญาที่ดังจากชั้นบนปลุกให้แพรวพรรณหันหลังและเงยหน้าขึ้นไปยังหน้าต่าง..

“ไม่ใช่ผู้การนาวินต้าหรอกย่ะ....ของนายนาที..เพื่อนสาวของเธอ” หิรัญญานั้นคุ้นเคยกับนาที เพราะทุกครั้งที่แพรวพรรณมางานสัปดาห์หนังสือที่จัดขึ้น ณ ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ นาทีก็จะต้องแวะมาหาหรือไม่ ก็ช่วงกลางคืน เขาจะพาแพรวพรรณกับเพื่อน ๆ ออกท่องราตรี และบ่อยครั้งที่แพรวพรรณกับหิรัญญาถือโอกาสใช้คอนโดของนาทีเป็นที่พักค้างในกรณีที่เจ้าของห้องไม่มีคนสำคัญอยู่ด้วย..

และหิรัญญาก็เป็นหนึ่งในเพื่อนไม่กี่คนที่รู้ว่า นาทีนั้นคือ ‘เพื่อนสาว’ ของแพรวพรรณ หาใช่แฟนหนุ่มอย่างที่คนเคยเห็นรูปทั้งคู่ในเว็บ faccbook เอาไปพูดกัน..




------------------
กำหนดการที่จะอยู่สัตหีบของแพรวพรรณนั้นกินเวลาถึง 9 วัน โดยเสาร์-อาทิตย์แรกนี้ นาทีจะอยู่ด้วย ส่วนวันจันทร์-วันศุกร์ หิรัญญาซึ่งไม่ได้เปิดร้านขายของก็จะมาอยู่เป็นเพื่อน กับส่วนหนึ่งหิรัญญาก็ถือโอกาสมาพักผ่อน แต่ด้วยอาชีพนักเขียน การพักผ่อนหรือการทำงานบางครั้งมันก็แยกจากกันไม่ได้..

และเสาร์อาทิตย์สุดท้ายที่แพรวพรรณยังอยู่สัตหีบ ถ้าไม่มีอะไรสำคัญเข้ามาเสียก่อนหิรัญญาก็จะอยู่ด้วยและจะขับรถกลับไปส่งแพรวพรรณที่บ้าน ตามที่ได้รับปากกับแม่ของหญิงสาวไว้..

“คิดอะไรอยู่หรือแพรว..” นาทีเอ่ยปากถามเมื่อเห็นว่า แพรวพรรณนั่งเงียบ หลังจากที่รถออกจากฉะเชิงเทรามาแล้ว..แพรวพรรณหันไปมองหน้าเพื่อนชายซึ่งขับรถมาหาเธอที่บ้านของพี่หิรัญญาตั้งแต่เมื่อคืน โดยอ้างว่าอยู่ที่ห้องตามลำพังก็ ‘เหงา’..สู้มา ‘เม้าท์’กับเธอและคนฝีปากกล้าอย่างพี่หิรัญญาไม่ได้..

และเมื่อคืนพี่หิรัญญากับนาทีก็ดวลเบียร์ไฮเนเก้นกันไปครึ่งโหล แต่ว่าพอพระอาทิตย์ขึ้น นาทีก็ลุกจากที่นอนมาอาบน้ำแต่งตัวยืนจิบกาแฟร้อนริมน้ำรอเธอเหมือนกับว่าเมื่อคืนเขากินน้ำเปล่า..

“คิดพล็อต”

“อย่าลืมให้มีเกย์ติดไปด้วยนะ..”

“จ๊ะ..ทหารเรือเป็นเกย์ ..แล้วแพรวจะรับผิดชอบอารมณ์สาว ๆ นักอ่านไหวไหม” แพรวพรรณประชดให้

“มันก็มีอยู่ทุกวงการแหละ”

“แต่แพรวไม่เคยเขียน..”

“ก็เอาซะเรื่องนี้..”

“คิดดูก่อน..คนอ่านนิยายมีแต่สาว ๆ ทั้งนั้น มีอยู่เรื่องหนึ่งพี่หิรัญญาให้ตัวละครสุดหล่อน่า หลงใหลเสร็จเกย์แอ๊บแมน ที่เฝ้าตามจีบส่งเสียดูแล..มีคนอ่านคอมเม้นท์ว่าเสียของ..”

พอแพรวพรรณบ่ายเบี่ยง นาทีจึงต้องเปลี่ยนเรื่องคุย..

“แล้วนี่โทรบอกเขาหรือยัง ว่าเธอออกเดินทางมาแล้ว”

“ไม่กล้า” ไม่กล้าเพราะตั้งแต่วันที่นัดหมายเขาได้แล้ว เขาก็ไม่เห็นโทรกลับมาคุยกับเธออีกเลย เธอเองจะอ้างงานนี้โทรเซ้าซี้กลับไป ก็ดูจะเสนอเนื้อตัว..และอีกอย่าง แพรวพรรณก็มั่นใจว่า ชายชาติทหารต้องรักษาคำพูด..แต่ว่าการที่เขาไม่โทรกลับมาหาเธอตลอดห้าวันที่ผ่านมาก็แสดงว่า เขาหาได้สนใจเสียงเพราะ ๆ ของเธอเลยสักนิด และถ้าไม่สนใจเธอก็แสดงว่าเขา ซึ่งดูท่าว่าจะเจ้าชู้อยู่ไม่น้อยก็คงมีหวานใจอยู่แล้ว..

“อ้าว..แล้วถ้าเราไปแล้วไม่เจอเขาละ หรือถ้าเขาลืมนัด”

“คงไม่ลืมหรอก วันนั้นนัดกันแล้ว เขาบอกว่า เสาร์อาทิตย์นี้สะดวกแน่นอน ไม่ได้ออกเรือ”

“แล้วเสาร์อาทิตย์แบบนี้เขาไม่อยู่กับแฟนเขาเหรอ”

“ก็ไม่แน่ แต่หนึ่งอย่าลืมนะว่า แพรวให้หนึ่งมาเล่นบทเพื่อนคนพิเศษ อย่าเผลอค้อน เผลอพูดแกฉัน ๆ เผลอไปจ้องหน้าอีตาผู้การเรือเข้าละ เดี๋ยวเขาจะสงสัย..”

“รีบกันท่าเลยนะ..แล้วถ้าเขาใช่พวกหนึ่งละ..”

“ก็กินกันไปสิ แพรวจะมีปัญหาอะไร..”

“แล้วถ้าเขาจีบแพรวขึ้นมา แพรวจะทำอย่างไร”

“ทำอย่างไร..”ว่าพลางแพรวพรรณก็ดึงกระจกจากกระเป๋าสะพายขึ้นมาสำรวจดูใบหน้าของตัวเองให้เพื่อนชาย หาคำตอบให้กับคำถามนั้นเอง..

“หนึ่ง แกว่าฉันสวยไหม”

“ไหนแกบอกว่าห้ามแกฉันไง”

“ก็มันลืมนี่..เอาใหม่ ๆ หนึ่ง หนึ่งว่าแพรวสวยไหม..” ไม่ใช่แค่ถามแต่แพรวพรรณทำเสียงเหมือนหญิงสาววัยรุ่นออดอ้อนชายคนรักโดยตาทั้งสองข้างก็กระพริบถี่ ๆ ไปด้วย..

“แกก็น่าจะรู้คำตอบดีอยู่แล้ว”

“หนึ่งอ่ะ..ไม่รับมุกเลย...”

“เก็บไว้ไปถามอีตาผู้การนั่นเถอะ..แต่บอกตรง ๆ นะ หนึ่งจินตนาการความหล่อของพี่ต้นกล้าของแพรวไม่ออกจริง ๆ เค้าหล่อขนาดไหน มันถึงทำให้แพรวนึกอยากจะลงจากคานเสียได้”

“หล่อกว่าหนึ่งแล้วกัน..และที่สำคัญ..แพรวเองก็สวยคู่ควรกับเขาอยู่นะ”...

“ทำเป็นระริกระรื่น ถ้าเขามีเมียคาโด่อยู่แล้ว จะปั้นหน้าไม่ถูก...”

“แพรวก็ยังไม่ได้คิดว่าเขาจะเป็นโสดเลยสักนิด..”

“แล้วจะเพ้อถึงเขาทำไม”

“มันเป็นความสุขอ่ะ..มัน มัน รู้สึกว่าตัวเองย้อนกลับไปเป็นเด็ก จะเรียกว่าอะไรดีละคือ มันซ่อนอยู่อ่ะ พอแพรวเห็นรูปพี่เค้าวันนั้น แพรวก็.... ไม่รู้สิ..แพรวรู้แต่ว่า แพรวต้องเจอกับพี่เขาสักครั้ง..แล้วแพรวจะได้คำตอบทั้งหมดเอง”


และนาทีที่แพรวพรรณลุ้นระทึกก็มาถึง พี่ต้นกล้า โทรเข้ามาหาเมื่อรถของนาทีแล่นเข้าเขตจังหวัดชลบุรี พอเห็นเบอร์ของเขาแพรวพรรณก็ทำท่าเหมือนปลากระดี่ได้น้ำก่อนตั้งสติกดรับสายของเขาพร้อมกับเสียงที่ดัดจริตเสียจนนาทีเบ้หน้าพลางอมยิ้มขำ..

นาทีขำเพราะที่ผ่านมาแพรวพรรณไม่เคยมีทีท่าหลงใหลได้ปลื้มใคร ผู้ชายที่เขาเคยสะกิดให้แพรวพรรณดู เจ้าหล่อนก็บอกว่า ‘งั้น ๆ’และบางครั้งก็ยังถามเขาว่า ‘หนึ่งเห็นว่ามันหน้าตาดีได้อย่างไง’ ขนาดคนที่พ่อกับแม่หมายมั่นปั้นมือจะให้ได้ลงเอยกันซึ่งเป็นถึงนักเรียนนอก แพรวพรรณกลับไม่เคยแสดงสนใจเลยสักนิด พอถามก็ตอบว่า ‘แพรวไม่ชอบการแต่งงานแบบคลุมถุงชน’

แต่ว่าพี่ต้นกล้าคนนี้ ตั้งแต่วันนั้นแพรวพรรณก็เล่าเรื่องในอดีตด้วยน้ำเสียงปลาบปลื้มอยู่บ่อย ๆ จนเมื่อคืนพี่หิรัญญายังแซวว่า ‘ไอ้รักกันตั้งแต่เด็ก ๆ นึกว่าจะมีแต่ในนิยายเรื่อง คำมั่นสัญญา กับ พี่เลี้ยง ของคุณหญิงทมยันตีซะอีก..’

แต่อาการของแพรวพรรณในครั้งนี้มันฟ้องออกมาอย่างนั้น แต่ที่มันต่างกันกับอมตะนิยายสองเรื่องนั้น ก็คือ แพรวพรรณจำไม่ได้ว่า เคยได้คุยกับพี่ต้นกล้าบ้างหรือเปล่า..

งานนี้ก็สรุปว่า ในกล่องความทรงจำของแพรวพรรณมีพี่ต้นกล้าเพียงคนเดียว..

-------------
และอีกไม่กี่นาที พี่ต้นกล้าสุดหล่อก็จะปรากฏขึ้นในสายตาของคนทั้งสอง..แพรวพรรณที่นั่งอยู่ในรถที่จอดอยู่ในลานจอดของห้างโลตัสหันซ้ายหันขวา..นาทีนั้นลงจากรถไปยืนบิดขี้เกียจ โดยท้องก็ร้องหาอาหาร เพราะเมื่อเช้ากินเพียงกาแฟสดของพี่หิรัญญาเพียงแก้วเดียว..

“โทรตามเขาสิ..เลยเวลานัดมาสิบนาทีแล้วนะ” นาทีแกล้งพูดเพื่อให้คนที่กำลังจะมาดูแย่ลง แพรวพรรณก้มมองนาฬิกาที่ข้อมือตนเอง ความตื่นเต้นทำให้เธอต้องลงจากรถมายืนคู่กับนาที และสัญชาตญาณของนักเขียนอย่างหนึ่งก็คือเก็บข้อมูล..

ห้างโลตัส โบถส์คริสต์...ก่อนจะถึงที่นี่ก็มีป้ายบอกหน่วยงานของทหารเรือมากมาย..แต่เธอก็ไม่ได้ดึงปากกากับกระดาษมาจดไว้เพราะคิดว่าจะต้องอยู่ที่นี่อีกหลายวัน..

แพรวพรรณหันซ้ายหันขวา จนกระทั่งไปสะดุดกับเส้นผมของนาทีที่ติดอยู่บนไหล่ และด้วยนาทีสวมเสื้อเชิ้ตแขนยาวสีขาวมีรูปหัวใจดวงเล็ก ๆ สีแดงแต่งแต้มอยู่ห่าง ๆ เส้นผมสีดำสองสามเส้นจึงเด่นชัด..และด้วยความสนิทสนมกันทำให้แพรวพรรณถือวิสาสะใช้มือปัดเส้นผมนั้นให้พ้นจากเสื้อ หลังจากนั้นก็บังคับให้นาทีนั้นหมุนตัวเพราะต้องการดูว่าที่ด้านหลังมีเส้นผมร่วงหล่นติดอยู่หรือไม่..

“ผมร่วงเพียงเส้นเดียวไม่ช้าอาจจะมีปัญหา..” แพรวพรรณแกล้งเย้า..

“มันร่วงอย่างเดียวที่ไหน หงอกก็มีไม่น้อย..” นาทีใช้มือขวาลูบจากท้ายทอยขึ้นไปข้างบน เผยให้เห็นว่า ภายใต้เส้นผมสลวยของเขานั้นมีผมสีขาวแซมอยู่ไม่น้อย..

“จ้างแพรวถอนเปล่า..”

“ค่าจ้างเท่าไหร่”

“ก่อนหน้านั้น เห็นป้านงจ้างคนงานพม่าสิบเส้นบาท..”

“ตอนนี้ละ”

“ตอนนี้จ้างถอนผมดำทิ้ง..”

ว่าแล้วแพรวพรรณก็ขำกับมุกตลกของตัวเอง โดยหารู้ไม่ว่าที่ด้านหลังของตัวเองนั้น มีนายทหารร่างสูง สวมเสื้อเชิ้ตลายผ้าขาวม้าสีดำดำตัดกับสีเหลืองพับแขนไปถึงข้อศอกนุ่งกางเกงยีนส์ขาเดฟตามสมัยนิยมกับรองเท้าหนังหัวแหลมสีน้ำตาลยืนกอดอกฟังอยู่..

และนาทีที่เป็นฝ่ายหลังหน้ากลับมาหาแพรวพรรณก็ต้องร้องเสียงหลง..(ดีแต่ว่าเป็นเสียงห้าว ๆ )

“เฮ้ย ..”

แพรวพรรณรีบหันหลังไปตามสายตาของเพื่อน..และนาทีนั้น โลกที่กำลังหมุนไปอย่างช้า ๆ ก็พลันหยุดลง.. ผู้ชายนับหมื่นนับพันคนที่ผ่านเข้ามาในชีวิต ดารานักร้องมากมายที่เคยเห็นว่าหน้าตาหน้าดูชม ตัวละครที่ได้ชื่อว่าพระเอกที่ได้บรรยายความสมบูรณ์ของหน้าตาและสรีระสิบกว่าเรื่อง หาได้งดงามเข้าตาเท่าใบหน้าของพี่ต้นกล้าคนที่จู่ ๆ ก็หวนกลับมาทำให้หัวใจของเธอพองโตถึงเพียงนี้..

“พี่ต้นกล้า..” แพรวพรรณอุทานเบา ๆ ก่อนที่ร่างจะซวนเซจนนาทีกับพี่ต้นกล้า ต้องรีบเข้าช่วยกันประคอง..





จุฬามณีเฟื่องนคร
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 25 ก.ย. 2554, 15:48:05 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 25 ก.ย. 2554, 21:08:39 น.

จำนวนการเข้าชม : 4595





<< 2.“ไอ้ต้นกล้า มันมาเกี่ยวอะไรด้วย”   4.“ขอโทษนะคะ ผู้หญิง มันก็ต้องนิดนึง” >>
แล่นแต๊ 25 ก.ย. 2554, 16:38:58 น.
อยากอ่านต่อ~~


ann 25 ก.ย. 2554, 17:09:43 น.
จบซะงั้น รอลุ้นให้เจอกันตั้งนาน โธ่เอ๊ย มาเจอกันตอนจบตอนอีก กำ 5555+


ทองหลาง 25 ก.ย. 2554, 17:20:27 น.
ตามต่อไป


แว่นใส 25 ก.ย. 2554, 17:44:14 น.
ตกใจหมดเลย


ป้าพร 25 ก.ย. 2554, 20:34:09 น.
รอ...ค่ะ


morisa 25 ก.ย. 2554, 20:55:09 น.
ชอบชื่อเรื่อง "ร.รัก ร.เรือ" อ่ะเฟื่อง ขอนะ

สนุก น่าติดตามมากเลย





join 25 ก.ย. 2554, 23:01:13 น.
โอ้ววว อิจฉาแพรวมีผู้ชายสองคนช่วยประคอง ถึงอีกคนจะไม่แมนก็เถอะ อิจฉาๆๆๆๆ


Pat 25 ก.ย. 2554, 23:54:32 น.
อิอิ อะไรจะตะลึงในความหล่อพี่ต้นกล้าขนาดนั้น


Zephyr 26 ก.ย. 2554, 17:04:41 น.
มาไม่ให้สุ้มเสียงเลยพี่ต้นกล้า ตกใจหมด


ธีร์จุฑา 19 ต.ค. 2554, 21:49:09 น.
พี่จ๋า...มีตลาดบ้านใหม่ด้วย ดีใจจัง บ้านหนูๆ^^


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account