ทะเลร้อนซ่อนสิเน่หา
เพียงแรกพบสบตา...เขา...คเชนทร์ อัครา นายหัวแห่งเกาะยาตราก็เกิดอาการอยากจะเก็บนางฟ้าหน้าหวานปานจะหยดคนนั้นกลับไปใส่กรงทองเป็นสมบัติส่วนตัวของตัวเองเสียแล้ว แต่จะทำยังไงเมื่อสาวเจ้าไม่ยอมเล่นด้วยเพราะเขาเผลอไปทำตัวให้เธอเกลียดขี้หน้าเข้า งานนี้จากนายหัวหนุ่มผู้เคร่งขรึมจีบสาวไม่เป็น ก็ถึงกับต้องลงทุนงัดทุกกระบวนความมาต้อนสาวหน้าหวานให้ยอมรับรักเขาให้จงได้

เธอ...น่ารัก สาวนักออกแบบที่เดินทางไปพักผ่อนสมองที่บ้านเกิดเพื่อนรัก แต่ครั้งแรกที่พบเจอหนุ่มโหดหน้าตาอย่างกับมหาโจรที่ร่วมเดินทางไปบนรถทัวร์คันเดียวกัน เขาก็จาบจ้วงถึงเนื้อถึงตัวเธอเสียแล้ว ซ้ำยังตามติดเดี๋ยวกอดเดี๋ยวหอมจนเธอผวา ยิ่งเมื่อมารู้ว่าเขาเป็นคนเดียวกับพี่ชายเพื่อนรักที่เคยปฏิเสธอย่างไร้มารยาทห้ามให้เธอไปวุ่นวายที่เกาะยาตราสุดรักสุดหวงของเขา เธอก็นึกไม่ชอบขี้หน้าเขามากขึ้นไปอีก

แต่ยิ่งไม่ชอบเขาก็ยิ่งตื้อ ยิ่งปฏิเสธเขาก็ยิ่งรุก จนใจน้อย ๆ ที่เคยหนักแน่นเริ่มสั่นไหว แล้วสุดท้ายน่ารักจะทำอย่างไรเมื่อถูกมหาโจรหน้าหล่ออย่างคเชนทร์รุกหนักจนหัวใจปลิวหายไปอยู่ในมือเขาในที่สุด
(รอตีพิมพ์กับ สนพ.แสนรัก ในเครือไลต์ ออฟ เลิฟ ค่ะ)
Tags: ผู้แต่งยังไม่ได้กำหนด tags ของนิยายเรื่องนี้

ตอน: ตอนที่ 1...นางฟ้ากับมหาโจร



บทที่ 1...นางฟ้ากับมหาโจร



บรรยากาศในช่วงเวลาเกือบห้าโมงเย็นของกรุงเทพมหานครไม่ได้แตกต่างมากนักกับช่วงเวลากลางวัน เพราะยังคงร้อยอบอ้าว จนผู้คนที่เดินขวักไขว่ภายในสถานีขนส่งสายใต้ต่างก็ยกมือขึ้นมาปาดเหงื่อ บ้างก็ใช้กระดาษหนังสือพัดบรรเทาความร้อน เช่นเดียวกับร่างบอบบางในชุดเสื้อยืดสีชมพูสกรีนลายรูปการ์ฟีลตัวการ์ตูนที่โปรดปรานกับกางเกงยีนส์ขาเดฟสีซีด มีเจคเก็ตยีนส์สีเดียวกันพันรอบเอวกิ่วไว้หลวม ๆ สะพายกระเป๋าสีน้ำตาลใบโตเกือบเท่าตัว อีกมือก็หิ้วกระเป๋าเสื้อผ้าใบเล็กที่ยังคงมีลวดลายเป็นหน้าของเจ้าเหมียวอ้วนการ์ฟีลตัวเดิมที่เพิ่งจะก้าวลงจากระแทกซี่หน้าสถานีขนส่ง



ทำไมคนเยอะอย่างนี้นะ แล้วตั๋วจะยังมีเหลือไหมเนี่ย...



ปากจิ้มลิ้มสีเชอรี่ขมุบขมิบบ่นกับตัวเองเบา ๆ เมื่อเห็นผู้คนเดินกันขวักไขว่ พร้อมกับเสียงตะโกนเรียกผู้โดยสารของพนักงานขายตั๋วของแต่ละบริษัท ทำให้บรรยากาศยิ่งดูร้อนอบอ้าวมากขึ้นกว่าเดิม ร่างบางรีบสาวเท้าเข้าไปในตัวอาคารที่คับคั่งไปด้วยผู้คน ทั้งผู้โดยสารที่นั่งรอเวลารถออกและคนที่มาส่ง คนที่มารอซื้อตั๋ว ตากลมโตที่ดูเหมือนจะเป็นจุดเด่นที่สุดบนใบหน้าจิ้มลิ้มก้มลงมองกระดาษในมืออีกครั้ง ก่อนจะเดินไปยังช่องขายตั๋วตามที่ได้จดมาจากเพื่อนรัก



“มีตั๋วไปกระบี่ของวันนี้เหลืออยู่ไหมคะ” เสียงหวานเอ่ยถามพนักงานร่างท้วม พร้อมกับส่งยิ้มหวานไปให้ตามความเคยชินเวลาที่คุยหรือขอความช่วยเหลือจากใคร



“มีจ้า กี่ที่จ๊ะหนู”



“ที่เดียวค่ะ ขอรอบที่เร็วที่สุดนะคะ” ตอบกลับแล้วก็ลอบถอนหายใจออกมาเบา ๆ เมื่อยังโชคดีมีตั๋วไม่ต้องมาเก้ออย่างที่กังวลก่อนหน้านี้



“งั้นเที่ยวต่อไปเลยหนู วิ่งไปทันไหมล่ะ อีกสามนาที” คนขายร่างท้วมเลยหน้าขึ้นถามหลังจากเช็คให้ตามความต้องการของลูกค้า “ถ้าเอาก็บอกชื่อมาให้ป้าเลยลูก”



“สามนาที...โอเคค่ะ ชื่อน่ารักคะ นี่คะเงิน” ทำท่าคิดเพียงไม่กี่วิเพื่อประเมินความสามารถในการวิ่งของตัวเอง จากนั้นก็ตอบกลับ บอกชื่อพร้อมกับส่งเงินแบงค์พันให้ในทันทีโดยไม่คิดจะถามราคา



พนักงานขายตั๋วร่างท้วมนิ่งไปชั่วครู่กับชื่อของลูกค้า จากนั้นก็จัดการเขียนรายละเอียดลงบนตั๋วโดยสารให้อย่างเร็วรี่ ปากก็พูดแซวไปด้วย



“พ่อแม่เข้าใจตั้งชื่อเนอะ เหมาะกับตัวเชียว เอ้า นี่จ๊ะตั๋ว อีกหนึ่งนาทีรีบวิ่งไปเลยแม่หนู เลี้ยวซ้ายช่องสิบแปดนะ”



เมื่อกล่าวขอบคุณพร้อมกับยื่นมือไปรับตั๋วโดยสารเรียบร้อย ก็ก้มลงคว้ากระเป๋าที่วางไว้แล้วออกวิ่งสุดฝีเท้าไปตามทางที่คนขายตั๋วบอกทันที...มีเวลาไม่ถึงนาทีถ้าไปไม่ทันก็คงต้องนั่งรอรถเที่ยวต่อไปอีกนาน หรือไม่ก็อาจจะเป็นอีกวันเลยทีเดียว คิดได้อย่างนั้นก็รีบเร่งฝีเท้าพลางสอดส่ายสายตามองหาป้ายหมายเลขตามที่พนักงานขายตั๋วบอกมา



++++++++++



เจอเสียทีช่องที่สิบแปด...



เสียงถอนหายใจหนัก ๆ ดังออกมาจากร่างสูงของชายหนุ่มที่ใบหน้ารกครึ้มไปด้วยหนวดเครา จากนั้นขายาวก็รีบก้าวไปข้างหน้าจุดหมายคือรถทัวร์วีไอพีที่คนขับกำลังขึ้นนั่งประจำที่



“ให้ตายสิวะ เหลืออีกตั้งสิบกว่าวิ มันจะรีบออกไปทำไมนักหนา” เสียงห้าวพึมพัมพลางก้าวเร็ว ๆ มือข้างหนึ่งยกขึ้นเหนือศรีษะเป็นสัญญาณบอกพนักงานที่หันมามองพอดีว่าให้รอด้วย พนักงานหน้าเข้มพยักหน้าให้ก่อนจะหันไปตะโกนบอกลูกพี่



“เฮ้ย !! / อุ๊ย !!...อุ๊บ !!“



สองเสียงอุทานประสานกัน ตามมาด้วยเสียงที่เงียบหายเหมือนปากถูกปิดไว้ เมื่อร่างสูงที่กำลังก้าวเดินอย่างเร่งรีบถูกแรงปะทะที่ทั้งแรงและเร็วจากด้านข้าง ทำให้เซไปพร้อม ๆ กับสิ่งที่พุ่งเข้ามาปะทะ ก่อนจะถูกมือปริศนาดึงขยุ้มเสื้อยึดด้านหน้าไว้จนล้มลงไปพร้อมกับเจ้าของมือ...



ร่างสูงล้มลงไปนั่งคร่อมร่างบางที่คงจะหงายหลังหัวฟาดพื้นซีเมนต์ไปแล้ว ถ้าไม่ใช้มือดึงเสื้อของคู่กรณีไว้ ทำให้ตอนนี้สองร่างแทบจะแนบชิด มีเพียงนัยน์ตาสีดำสนิทกับสีสนิมเหล็กสองคู่เท่านั้นที่มองจ้องกันอยู่ในระยะใกล้...ใกล้มาก ๆ เพราะว่าริมฝีปากจิ้มลิ้มสีเชอรี่กับริมฝีปากบางเฉียบกำลังประกบกันอยู่เหมือนใครเอาแม่เหล็กต่างขั่วไปติดไว้ !!



คนรอบข้างอึ้ง สองคนที่ยังคงนิ่งอยู่ในท่าเดิมกนั้นยิ่งอึ้งกว่า ไม่มีใครขยับหรือทำอะไรแม้แต่น้อย เอาแต่จ้องตากันเหมือนอยู่ในม่านมนต์ตราอย่างไรอย่างนั้น



จนกระทั่ง...



“เอ่อ...ไปจูบกันต่อบนรถได้มั๊ยพี่ คือเลยเวลารถออกมาหลายนาทีแล้ว...” เสียงลังเลจากพนักงานที่เพิ่งจะหายจากอาการอึ้งดังขึ้น เรียกสติของคนสองคนให้กลับเข้าร่าง



“เฮ้ย !! “ คเชนทร์ อัครา อุทานเสียงหลงอีกครั้ง เมื่อถูกมือเล็ก ๆ ที่ตอนแรกดึงกระชากเขาให้ล้มลงมาด้วยผลักสุดแรงจนหงายหลัง ดีที่เขาเอามือยันพื้นไว้ได้ทัน “ทำบ้าอะไรของคุณเนี่ย ให้ตายสิวะ” สบถอย่างหัวเสีย จากนั้นก็ยันตัวลุกขึ้นยืน เก็บกระเป๋าเป้ของตนเองขึ้นสะพายบ่า ก่อนจะหันไปเผชิญหน้ากับคู่กรณีที่ทำให้ตัวเองวุ่นวายและเสียเวลา



คำพูดที่หมายจะต่อว่ากลับสะดุดกึกพร้อมกับตาคู่คมสีสนิมเหล็กที่ทอประกายกร้าวอ่อนแสงลงไปอย่างไม่รู้ตัว เมื่อหันมาเจอกับใบหน้ารูปหัวใจเล็ก ๆ ล้อมกรอบด้วยผมยาวสยายสีดำดั่งแพรไหมสีเดียวกับดวงตากลมโตหวานหยด ที่ทำให้เขาแทบหยุดหายใจเมื่อสบสายตาด้วยก่อนหน้านี้ ไหนจะจมูกโด่งรั้นเล็ก ๆ ปากจิ้มลิ้มสีหวานนั่นอีก...



คนหรือตุ๊กตา ?...หรือจะเป็นนางฟ้า?



คเชนทร์ไล่สายตามองเรื่อยลงมา จากใบหน้าจิ้มลิ้มหวานหยดสู่ลำคอระหง ลาดไหล่และเรียวแขนบอบบาง หญิงสาวตรงหน้าเขามีผิวขาวใสเหมือนจะเรืองแสงได้ ทุกสิ่งทุกอย่างที่ประกอบเป็นเธอดูบอบบางหน้าทะนุถนอมไปหมด เขาไม่เคยพบเจอผู้หญิงที่ให้ความรู้สึกอยากจะปกป้องคุ้มครองดูแลเหมือนเธอคนนี้เลยสักครั้ง



และไม่เคยมีสักครั้งในชีวิตหนุ่ม ที่เขาจะหัวใจกระตุกเพียงแค่แรกพบสบตากับผู้หญิง...กระตุกแล้วก็เต้นรัวเร็วเหมือนจะหลุดออกจากอก





ส่วนทางด้านน่ารักเม้มปากอย่างไม่ชอบใจ ใบหน้าหวานงอง้ำ เมื่อมองตามสายตาสีสนิมเหล็กคู่นั้นที่กวาดมองตัวเองตั้งแต่หัวจรดเท้า หน้าตารกรุงรังเต็มไปด้วยหนวดเคราเหมือนมหาโจรแบบนี้คงไม่ใช่ว่ากำลังคิดประเมินจะฉุดเธอเพราะติดใจจูบเมื่อครู่หรอกนะ เมื่อคิดมาถึงตรงนี้ก็รู้สึกหวาด ๆ เพราะผู้ชายตรงหน้าเธอตัวโตยังกับตึก ไว้หนวดไว้เครารกหน้ารกตา ทั้งใบหน้าคงจะมีแต่ดวงตาของเขานั่นแหละที่โดดเด่นที่สุด เขามีดวงตาคมกริบสีสนิมเหล็กที่สวยที่สุดเท่าที่เธอเคยเห็นมา ยิ่งตอนที่เขาเลิกสำรวจตัวเธอแล้วเปลี่ยนเป็นมองสบตาเธออย่างตอนนี้ สายตาเขาทอประกายหวานเชื่อมน่ามอง มันสวยไม่เข้ากับหน้าตาแบบมหาโจรของเขาเลยจริง ๆ



“คุณสองคนจะสำรวจกันอีกนานมั๊ยครับ แล้วตกลงใช่คุณคเชนทร์กับคุณน่ารักหรือเปล่า ถ้าใช่ก็ขึ้นรถเสียทีเถอะ ผู้โดยสารคนอื่นเขารอกันอยู่นานแล้ว”



เสียงพนักงานแทรกขึ้นอีกครั้งอย่างเหลืออด ทำให้น่ารักถอนสายตาออกจากดวงตาคู่คมสีสนิมเหล็ก ตวัดหันไปมองพนักงานหน้าเข้มจนอีกฝ่ายหน้าแดงจนดำเมื่อเห็นใบหน้าหวานชัด ๆ จากนั้นก็ก้มลงเก็บประเป๋าเสื้อผ้าของตัวเองแล้วเดินผ่านร่างสูงขึ้นรถไป...คเชนทร์ก็ทำแบบเดียวกัน ผิดแต่ว่าตาคู่คมของเขายังมองตามร่างบางที่ก้าวขึ้นรถไปอยู่ตลอดเวลา ก่อนที่จะยื่นตั๋วในมือให้พนักงานแล้วก้าวขึ้นรถตามไป



“ที่นั่งยี่สิบเอ็ดยี่สิบสอง แถวหลัง ๆ เลยนะครับ...ตกลงเป็นแฟนกันใช่ไหมครับพี่ ผมล่ะอิจฉาพี่ชะมัด แฟนพี่น่ารักมาก ๆ สมชื่อเลย” ตอนท้ายพนักงานหน้าเข้มทำหน้าเพ้อแอบกระซิบกับผู้โดยสารร่างยักษ์หน้าดุที่เต็มไปด้วยหนวดเครา ตอนแรกเขาก็นึกว่าทั้งสองคนบังเอิญชนกันจนเกิดเหตุการณ์หวาบหวิวเสียอีก แต่ดูจากสายตาที่มองสบกันแล้วและที่นั่งก็ยังคู่กันอีก ก็คงไม่ต้องสงสัยล่ะว่ามาด้วยกัน



น่าเสียดายผู้หญิงชะมัด น่ารักเสียขนาดนั้นดันมาเอาผู้ชายร่างยักษ์หน้าดุเป็นแฟนเสียนี่



คเชนทร์ไม่ตอบ แต่มุมปากยกยิ้มนิด ๆ พลางเดินตรงไปยังที่นั่งที่บัดนี้ที่นั่งริมหน้าต่างของเขาถูก ‘ แม่นางฟ้าหน้าหวาน ’ ยึดครองไปเสียแล้ว ชายหนุ่มมองเจ้าของใบหน้า ‘ น่ารัก ’ ที่ช่างเหมาะเจาะกับชื่อของเจ้าตัวเสียเหลือเกินนอนหลับตาพริ้มพิงศรีษะกับเบาะที่นั่ง เห็นอย่างนั้นคเชนทร์เลยไม่คิดจะปลุก เขาทรุดนั่งตรงที่นั่งข้าง ๆ เอนเบาะให้อยู่ในตำแหน่งเดียวกับเบาะข้าง ๆ แล้วพิงศรีษะกับเบาะหันหน้าไปมองใบหน้า ‘ นางฟ้าหน้าหวาน ’ อย่างสำรวจอีกครั้ง



อย่างน้อยการนั่งรถทัวร์กลับบ้านครั้งแรกในรอบสิบกว่าปีก็ไม่น่าเบื่ออย่างที่คิด



ปกติแล้วคเชนทร์จะขับรถส่วนตัวในการเดินทางไปมาระหว่างกระบี่กับกรุงเทพ แต่ครั้งนี้เกิดเหตุสุดวิสัยรถคู่กายของเขาเกิดเสียในช่วงเช้าของวันนี้ขณะกำลังจะเดินทางกลับกระบี่ เขาไม่สามารถอยู่รอจนกว่ารถจะซ่อมเสร็จเพราะมีธุระต้องจัดการด่วนพรุ่งนี้ ตอนแรกเขาจะนั่งเครื่องกลับแต่ก็โชคร้ายที่ตั๋วดันหมดจนถึงพรุ่งนี้บ่าย ก็เลยต้องใช้บริการรถทัวร์ที่เขาจำไม่ได้แล้วว่าเคยขึ้นครั้งสุดท้ายเมื่ออายุเท่าไหร่



ตอนที่มาถึงขนส่งเขารู้สึกหงุดหงิดแทบจะขอยืมรถเพื่อนรักที่มาส่งขับกลับเสียให้รู้แล้วรู้รอด ทันทีที่เห็นผู้คนแออัดในบรรยากาศร้อนแสนร้อนของกรุงเทพ จนต้องสั่งให้ตัวเองใจเย็น ๆ ขึ้นไปนั่งบนรถที่มีแอร์เย็นฉ่ำก็คงจะดีขึ้น แล้วตอนนี้มันก็ยิ่งกว่าดี เพราะนอกจากแอร์เย็นฉ่ำของรถปรับอากาศวีไอพีแล้วยังมี ‘ วิว ’สวยน่ามองช่วยให้จิตใจชุ่มชื่นอีกต่างหาก



คิดมาถึงตรงนี้คเชนทร์นายหัวหนุ่มเจ้าของ ‘ เกาะยาตรา ’ เกาะส่วนตัวที่ทำสัมประทานรังนกรายใหญ่ของภาคใต้ก็ยิ้มขำกับความคิดของตัวเอง ไม่เคยมีสักครั้งที่เขาจะมองและให้ความสนใจผู้หญิงเป็นจริงเป็นจังเหมือนร่างบางที่นั่งข้าง ๆ นี่ เขาไม่ชอบผู้หญิง ผู้หญิงสำหรับเขานอกจากมารดากับน้องสาวคนเดียวที่เขารักยิ่งกว่าแก้วตาดวงใจแล้ว ล้วนแต่น่ารำคาญและเป็นสิ่งมีชีวิตที่เขาพยายามหนีให้ห่างที่สุด ถึงขนาดบอกลาแสงสีไปปักหลักเป็นชาวเกาะ ใช้ชีวิตอยู่กับผืนทะเลและแสงแดด นาน ๆ ทีถึงจะเข้าไปดูแลกิจการโรงแรมช่วยน้องสาวสักครั้ง แต่ตอนนี้เขากำลังมีความรู้สึกอยากจะได้แม่นางฟ้าหน้าหวานที่นั่งข้าง ๆ นี้เพคใส่กระเป๋าเอากลับไปที่เกาะส่วนตัว แล้วขังไว้ในกรงทองเหมือน ‘ เจ้าชะเอม ’ นกแก้วตัวน้อยที่เขาเลี้ยงไว้ดูเล่นคลายเหงา



นายหัวหนุมมาดขรึมที่ไม่เคยสนใจสาวใดมาก่อนยื่นหน้าเข้าไปใกล้ใบหน้าหวานจิ้มลิ้มอีกนิด ตาคู่คมสีสนิมเหล็กกวาดมองทั่วโดยเฉพาะปากจิ้มลิ้มสีเชอรี่ ที่เขาเดาว่ามันคงแดงระเรื่อตามธรรมชาติมากกว่าจากการแต่งแต้มลิปติค ใบหน้าคมที่รกไปด้วยหนวดเคราโน้มเข้าไปใกล้เรื่อย ๆ อย่างต้องมนต์ จนคนที่หลับหลับตาแต่ไม่ได้หลับจริง ๆ เพียงแค่อยากพักสายตาเท่านั้นรับรู้ถึงลมหายใจร้อน ๆ ที่เป่ารดใบหน้า น่ารักย่นคิ้วเรียวสวยเข้าหากัน เธอกำลังรู้สึกอึดอัดเหมือนมีเงาทะมึนครอบคลุมอยู่ แล้วยังลมร้อน ๆ ที่เป่ารดใบหน้าเป็นจังหวะสม่ำเสมอนี่อีก จะว่าแอร์ก็ไม่น่าจะใช่ ตากลมโตลืมขึ้นพรึบเพื่อมองที่มาของเงาทะมึนและสายลมร้อนที่ทำให้อึดอัด



“กะ...อุ๊บ!! “ ทันทีที่เปิดเปลือกตาขึ้น สิ่งแรกที่พุ่งเข้าสู่สายตาของน่ารักก็คือ ใบหน้าของมหาโจรที่เพิ่งจะผ่านอุบัติเหตุหวาบหวามร่วมกันต่อหน้าคนนับสิบมาหยก ๆ ในระยะใกล้แสนใกล้ ด้วยความตกใจน่ารักตั้งท่าจะกรีดเสียงร้อง แต่มือหนาของหมาโจรที่ผละใบหน้าออกอย่างตกใจที่เห็นคนที่หลับตาอยู่ลืมตาขึ้นมาไม่บอกกล่าวก็ยกขึ้นมาปิดครึ่งปากครึ่งจมูกของหญิงสาวไว้เสียก่อน



“อื้อ ๆ อ่อย อั๋น อ๊ะ” ใบหน้าเล็ก ๆ ส่ายไปมาอย่างต้องการอิสระ พร้อมกับเสียงพูดที่ฟังไม่เป็นคำ



“โอเค ผมจะปล่อยแต่คุณห้ามร้องเสียงดังให้คนอื่นแตกตื่นนะ ไม่งั้นผมจูบคุณแน่” คเชนทร์พูดขู่เสียงเข้ม เขาเองก็ตกใจไม่น้อยที่อยู่ ๆ คนที่คิดว่าหลับกลับลืมตาขึ้น และตอนนี้เขาเองก็เพิ่งรู้ว่าตัวเองทำตัวเหมือนคนโรตจิตเข้าไปทุกที “เข้าใจนะ ถ้าคุณร้องผมจูบ” สำทับอีกครั้ง ก่อนจะค่อย ๆ คลายมือออกเมื่อเห็นใบหน้าเล็ก ๆ ของนางฟ้าหน้าตุ๊กตาพยักหน้ารับคำ



“ชะ...อื้อ !! “ แต่คนที่รับคำกลับผิดคำพูด เมื่อได้รับอิสระปุ๊บน่ารักก็อ้าปากร้องขอความช่วยเหลือทันที แต่ก็ช้าไปกว่าอีกคนที่เตรียมระวังไว้อยู่แล้ว ดังนั้นเมื่อปากจิ้มลิ้มเผยอขึ้นเพียงนิด ริมฝีปากบางเฉียบก็ฉกวูบทาบทับลงไปปิดกั้นเสียงร้องทันที



น่ารักหัวหมุนหูอื้อตาลายไปหมด เมื่อจูบครั้งนี้ไม่ได้เหมือนอุบัติเหตุก่อนหน้านี้ เพราะครั้งนี้อีกฝ่ายไม่ได้เพียงแค่แตะปากกับเธอเพราะความตกใจ แต่เขาตั้งใจจูบแบบกระชากวิญญาณ หนำซ้ำยังใช้ฝ่ามือกดท้ายทอยของเธอบังคับให้อยู่นิ่งเพื่อรับจูบของเขาอีกต่างหาก



จากที่คิดเพียงว่าจะใช้ริมฝีปากแตะเพื่อให้หญิงสาวหยุดเสียงกรีดร้องที่จะทำให้คนอื่น ๆ บนรถแตกตื่น คเชนทร์ก็ลืมจุดประสงค์หลัก เพราะเพียงแค่ริมฝีปากของเขาแตะเข้ากับริมฝีปากอิ่มของเธอ เขาก็เกิดความรู้สึกอยากลองลิ้มรสว่าปากจิ้มลิ้มสีสวยนี้จะให้รสชาดหวานล้ำอย่างที่คิดหรือเปล่า ดังนั้นแทนที่จะประกบปากเพื่อปิดกั้นเสียงร้องเฉย ๆ คเชนทร์กลับเริ่มต้นขบเม้มกลีบปากบางเบา ๆ บังคับให้เธอเผลอเผยอปากเปิดรับให้เขาได้เข้าไปหาความหวานจากภายใน และเมื่ออีกฝ่ายอ้าปากจะต่อว่าผลักไสก็เป็นการเปิดโอกาสทองให้ลิ้นร้อนได้ลุกล้ำเข้าไปควานหาความหวานในโพรงปากเล็ก ๆ คเชนทร์เฝ้าจูบหาความหวานเนินนานอย่างคนที่ไม่เคยพานพบของหวานเลิศรสมาก่อนในชีวิต



ให้ตายสิ...จูบของแม่นางฟ้าหน้าหวานนี่มันให้ความรู้สึกดีขนาดนี้เชียวหรือ



นายหัวหนุ่มถามตัวเองในใจ ไม่ใช่ว่าไม่เคยจูบกับผู้หญิง มากกว่านี้ก็เคยมาแล้ว เพียงแต่มันนานมากจนเขาจำไม่ได้ว่าครั้งสุดท้ายที่ตัวเองข้องเกี่ยวกับผู้หญิงผ่านมากี่วันกี่เดือนหรืออาจจะเป็นปี และสำหรับผู้หญิงที่ทำให้หัวใจเขากระตุกอย่างสาวน้อยหน้าหวานปานจะหยดนี้ จูบของเธอให้ความรู้สึกหวานละมุนยิ่งกว่าครั้งไหน ๆ ต่างกันลิบลับกับการแตะปากกันก่อนหน้านี้ ยิ่งจูบนานเท่าไหร่เขาก็ยิ่งติดใจ จนอยากจะ...





...แต่เราก็หากันจนเจอ...มันนานแค่ไหนที่คอยเธอมา...รู้สึกไหมว่าชีวิตคุ้มค่า.....





เสียงเพลงรักหวานซึ้งที่ดังมาจากกระเป๋าสะพายใบโตของคนที่กำลังจะขาดอากาศหายใจจากจุบพิตกระชากวิญญาณ ทำให้คเชนทร์ชะงักก่อนจะยอมถอนริมฝีปากออกมาในที่สุด ตาสีสนิมเหล็กมองใบหน้าหวานที่แดงก่ำ ตากลมโตสีดำสนิทที่สวยที่สุดเท่าที่เขาเคยเห็นมานั้นมองหน้าเขาอย่างงุงงในทีแรกแล้วเปลี่ยนเป็นโกรธเคือง ริมฝีปากบางเม้มเข้าหากันจนเป็นเส้นตรง ก่อนที่เธอจะถลึงตามองจ้องหน้าเขาอย่างที่เจ้าตัวคงคิดว่าดุและทำให้คนมองกลัวเกรง แต่หารู้ไม่ว่าสำหรับเขาแล้วท่าทางของเธอตอนนี้น่ารักเหมือนลูกแมวตัวน้อย ๆ ที่กำลังพองขนขู่เสียมากกว่า



“ตกลงจะไม่รับโทรศัพท์...แต่จะต่อจากเมื่อกี้แทน ? “ เขาถามเสียงเรียบทั้งที่ในใจนั้นแอบยิ้ม น่ารักตวัดสายตาใส่ก่อนจะล้วงโทรศัพท์มือถือจากกระเป๋าออกมากดรับ พลางหันหลังให้คนที่นั่งข้าง ๆ



“ว่าไงจ๊ะที่รัก” หญิงสาวกรอกเสียงหวานลงไปทันทีหลังจากกดรับ “ตอนนี้เค้าขึ้นรถเที่ยวห้าโมงครึ่ง คงจะไปถึงกระบี่ประมาณตีสี่ตีห้านี่แหละ...อ้าว ตัวไม่ได้อยู่ในเมืองหรอกเหรอวันนี้อะ...ก็ตอนแรกก็ว่าจะไปพรุ่งนี้ตามที่นัดกันไว้นั่นแหละแต่เค้าอยากจะไปเซอร์ไพร์ตัวนี่นา...ไม่เป็นไร ๆ รอพายุสงบก่อนตัวเองค่อยออกมารับเค้าดีกว่า เดี๋ยวตาแก่พี่ชายตัวจะยิ่งไม่ชอบขี้หน้าเค้ามากขึ้นไปอีกพาลไล่เค้ากลับล่ะยุ่งกันพอดี ยังไงเค้าหาโรงแรมแถวนั้นพักเอาก็ได้แล้วค่อยเจอกัน...ไม่อะไม่ต้องให้ใครมารับแทนหรอก เอาน่า โรงแรมของตัวยังไงเค้าก็ไปพักแน่นอนอยู่แล้ว แต่ขอหลังจากที่เจอกันก่อนแล้วกัน ไม่อยากไปตอนนี้ โอเคนะ เดี๋ยวโทรคุยกันอีกที...จ้าคิดถึงเหมือนกัน เดี๋ยวเจอกันจะกระโดดจุ๊บซ้ายจุ๊บขวาเลย” หลังจากวางสายก็ทำการปิดเสียงก่อนจะเก็บโทรศัพท์ไว้ในกระเป๋าสะพายตามเดิม จากนั้นก็นั่งยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ลืมไปว่ายังมีเรื่องค้างคาที่ต้องสะสางกับโจรปล้นจูบที่นั่งเบาะข้าง ๆ



มีคนรักแล้วอย่างนั้นหรือ ? คนที่ตั้งใจฟังบทสนทนารู้สึกใจหายแปลก ๆ เมื่อคิดว่าผู้หญิงคนแรกที่ตัวเองนึกถูกใจมีคนรักเสียแล้ว คเชนทร์เหลือบตามองร่างบางที่นั่งยิ้มน้อยยิ้มใหญ่อยู่เบาะข้าง ๆ พลางคิดอย่างไม่เข้าใจตัวเองว่าเขาเป็นอะไรไป ทำไมถึงได้นึกสนใจผู้หญิงแปลกหน้าที่เพิ่งเจอกันมากขนาดนี้ แต่จะให้ทำเฉยปล่อยผ่านเลยไปหัวใจมันก็รู้สึกวูบ ๆ โหวง ๆ



เอาวะ มีแฟนก็มีไปสิ ก็ไม่ได้จะเอาแฟนเธอสักหน่อยนี่นะ เขาจะเอาแม่นางฟ้าหน้าหวานนี่ต่างหาก !!



เมื่อคิดตัดสินใจแล้วว่า ไหน ๆ ผู้หญิงข้าง ๆ ก็เป็นคนแรกที่ตัวเองนึกถูกใจจนอยากได้ไปเป็นสมบัติส่วนตัว นายหัวหนุ่มก็ไม่สนแล้วว่าหญิงสาวจะเป็นแฟนหรือคนรักของใคร...ก็เขาอยากได้ !!



“คุณชื่อน่ารักเหรอ”



เสียงทุ้มราบเรียบของคเชนทร์ปลุกน่ารักที่ยังคงนั่งยิ้มอยู่หันมามอง ก่อนที่ตากลมโตคู่หวานจะโตขึ้นไปอีกเมื่อนึกได้ว่าข้างกายตัวเองมีตัวอันตรายอยู่



“บอกไว้ก่อนนะ...ถ้าคุณร้องผมจูบ !! ” คเชนทร์ยกปลายนิ้วชี้ขึ้นแตะริมฝีปากสีเชอรี่ที่ตัวเองได้ลิ้มลองไปแล้วว่าหวานแค่ไหนเบา ๆ เมื่อคนที่หันมาทำตาโตอ้าปากเหมือนจะพูดอะไร “แล้วถ้าผมจูบอีกครั้ง รับรองเลยว่าคุณได้ขาดใจตายคาจูบของผมแน่”



คำขู่ของเขาทำให้คนฟังเด้งศรีษะถอยห่างอย่างรวดเร็วจนโขกเข้ากับกระจกรถดังโป๊ก น่ารักยกมือขึ้นปิดปากตัวเองไว้แน่น



“อย่านะ !! ฉันไม่ร้องหรอก ไม่ร้อง สัญญาเลย” เสียงหวานบอกงึมงัมเพราะไม่กล้าเอามือออกจากปาก กลัวโจรข้าง ๆ จะปล้นจูบเป็นรอบที่สอง ก่อนจะสั่งเสียงเขียว “คุณเอาหน้าออกไปไกล ๆ ได้ไหมเนี่ย” ถ้าหล่อเหมือนพระเอกหนังเกาหลีจะไม่ว่าสักคำ นี่อะไรหน้ายังกับมหาโจร คงไม่ใช่พวกก่อการร้ายที่แฝงตัวมาเพื่อวางระเบิดหรือดักปล้นรถทัวร์หรอกนะ น่ารักต่อว่าและใส่ความในใจ พลางใช้สายตาสำรวจคนข้าง ๆ อย่างละเอียดอีกครั้ง



“คุณเป็นพวกโจรก่อการร้ายหรือเปล่าน่ะ” เผลอถามออกไปอย่างใจคิด เลยรีบยกมือขึ้นปิดปากอีกรอบ



“โจร ? ผมน่ะหรือ” คเชนทร์ยกนิ้วชี้หน้าอกตัวเองประกอบคำถาม “ผมดูเหมือนโจรก่อการร้ายขนาดนั้นเชียว” พลางก้มลงมองตัวเอง เสื้อยึดกางเกงยีนส์สีดำทั้งชุด แถมด้วยหมวกแก๊ปสีดำอีก แล้วยังเคราที่ปล่อยรกเพราะไม่มีเวลาโกนมาเกือบสองอาทิตย์ “ก็...คงอย่างนั้นล่ะมั้ง เพราะฉะนั้นคุณอย่าได้พูดผิดหูหรือทำให้ผมโมโหเชียว ไม่งั้นผมปาดคอคุณตายคาเบาะนี่แน่” เมื่อมองแล้วเห็นว่าตัวเองคงเข้าข่ายโจรอย่างที่ถูกกล่าวหา ก็รับสมอ้างพลางเอ่ยขู่ หากแต่ดวงตาคู่คมกลับพราวระยับ



“อย่ามาโกหก ฉันไม่เชื่อหรอก แล้วลองมาปาดคอฉันสิ จะแทงลูกตาด้วยปากกานี่เลย” เถียงกลับทันควันโดยลืมไปว่าตอนแรกตัวเองแท้ ๆ ที่เป็นคนกล่าวหา จากนั้นก็ขู่กลับพลางล้วงเอาปากกาในกระเป๋าสะพายขึ้นมาชี้หน้าขู่



“ทำไมล่ะ คุณจะบอกว่าผมหน้าตาดีเกินกว่าจะเป็นโจรงั้นหรือ” คเชนทร์เย้ากลับอย่างอารมณ์ดี มุมปากยกยิ้มขำกับท่าทางขู่ฟ่อเหมือนแมวน้อย นอกจากไม่กลัวแล้วเขายังรู้สึกดีอย่างบอกไม่ถูกที่ได้ต่อปากต่อคำกับนางฟ้าหน้าตุ๊กตาคนนี้ นี่ถ้าคนที่สนิทกับเขามาเห็นท่าทางของเขาตอนนี้ มีหวังได้งงกันเป็นแถว ๆ แน่ คเชนทร์คิดในใจก่อนจะมองจ้องเข้าไปในดวงตาสีดำสนิทตรงหน้าแล้วเอ่ยต่อ “แล้วไอ้ปากกาจิ๋วนั่นน่ะ คิดหรือว่าจะช่วยคุณได้ ลองดูไหม ถ้าคุณแทงลูกตาผมไม่ได้ให้ผมจูบคุณอีก...จนกว่าจะพอใจ”



“ไอ้มหาโจร !! “ มือบางที่ถือปากกาด้ามจิ๋วอยู่เงื้อขึ้นอย่างลังเลว่าจะทำหรือจะหยุดดี ก็คำขู่ของเขามันน่ากลัวน้อยเสียเมื่อไหร่



“เบา ๆ สิคุณ รบกวนคนอื่นเขา เดี๋ยวคนเขาจะหาว่าเรารักกันรุนแรง ก่อนขึ้นรถก็โชว์ไปรอบหนึ่งแล้วนะ” พูดแล้วก็ต้องกลั้นยิ้มไว้แทบแย่ เมื่อเห็นอีกฝ่ายมองเขาตาค้าง อ้าปากพะงาบ ๆ เหมือนอยากจะพูดอะไร



ให้ตายสิ ยิ่งเห็นยิ่งถูกใจ ยิ่งได้พูดคุยยิ่งอยากได้กลับไปเก็บไว้ที่เกาะ !!



“เงียบไปเลยนะ ฉันจะไม่คุยกับคนแปลกหน้าอย่างคุณอีก” บอกอย่างหงุดหงิด ทั้งตัวเขาและตัวเองที่รู้สึกหน้าร้อนไปกับคำพูดของมหาโจรข้าง ๆ “แล้วก็นั่งที่ของคุณไปนะ ห้ามล้ำเส้น ไม่งั้นฉันจะ...” ยกนิ้วชี้หน้าอีกฝ่าย พลางหันซ้ายหันขวาว่าจะยกอะไรมาขู่อีกฝ่ายดี



“จะอะไร” นายหัวหนุ่มที่วันนี้เกิดคึกผิดวิสัยเงียบขรึมรำคาญผู้หญิงของตนเองยังตามติด ถามไม่เลิก



“เอ๊ะ !! ก็บอกแล้วว่าไม่คุยกับคนแปลกหน้าท่าทางเหมือนมหาโจรอย่างคุณไง อุ๊ย !! เอ่อ นั่นแหละ เข้าใจนะ” หลุดปากต่อว่า ก่อนจะรีบยกมือขึ้นปิดปากเพราะกลัวจะถูกอีกฝ่ายเอาคืนด้วยวิธีการเดิม ๆ จากนั้นก็สะบัดหน้าออกไปมองข้างทาง บอกเป็นนัยว่าไม่ต้องการจะเสวนาด้วย



แต่นายหัวหนุ่มเจ้าของเกาะยาตราอย่างคเชนทร์มีหรือจะยอม ในเมื่อเขาตั้งใจและตัดสินใจแน่วแน่แล้วว่าจะเอาแม่นางฟ้าหน้าตุ๊กตาคนนี้กับไปเก็บที่เกาะให้ได้



“แล้วนี่คุณไปทำอะไรที่กระบี่ เที่ยวหรือทำธุระ” คเชนทร์ถามอย่างชวนคุย ทั้ง ๆ ที่ไม่ใช่นิสัยของตนเองสักนิด แต่กลับผู้หญิงหน้าหวานคนนี้ทำให้เขาไม่เป็นตัวของตัวเองเอาเสียเลย



แต่เมื่ออีกฝ่ายยังคงเงียบ สองตามองแต่ข้างทาง มุมปากของนายหัวหนุ่มก็กระตุกยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์ ก่อนจะชะโงกหน้าเข้าไปใกล้จนเกือบจะชิดแก้มนวล จนน่ารักหันขวับเมื่อรู้สึกถึงไอร้อนที่แผ่เข้ามา แล้วก็ต้องผงะเอนศรีษะหนีเมื่อปลายจมูกของตัวเองแตะเข้ากับปลายจมูกโด่งเป็นสันของอีกฝ่าย แต่ก็ขยับหนีไปได้ไม่มากนักเพราะติดกระจกหน้าต่างรถ



“ชอบให้เราคุยกันใกล้ ๆ แบบนี้มากกว่าก็ไม่บอก” เสียงนุ่มทุ้มที่ขัดกับภาพลักษณ์ภายนอกที่ดุดันเหมือนมหาโจร กับลมหายใจร้อน ๆ ที่เป่ารด ทำให้น่ารักหลับตาปี๋ เม้มปากแน่น “กลัวผมจูบเหรอ หรือกำลังรอให้จูบอยู่...” คเชนทร์ถามยิ้ม ๆ เมื่อเห็นท่าทางน่ารักสมชื่อของสาวเจ้า



“ปะ เปล่านะ ถอยไปนะถอยไป ไม่งั้นฉันกรี๊ดร้องให้คนช่วยจริง ๆ นะ” ขู่ไปแต่กลับไม่ยอมลืมตา



“ก็ตามใจ ผมก็แค่ทำตามที่บอกไปเมื่อกี้ว่า...คุณร้องผมจูบ...” แกล้งลากเสียงยาวตรงคำสุดท้าย แล้วถูปลายจมูกตัวเองกับปลายจมูกเล็ก ๆ ไปมาอย่างยั่วเย้า



“ก็ได้ ๆ ฉันยอมแล้ว ๆ คุยช่วยเอาหน้าคุณไปห่าง ๆ ก่อนได้ไหม” พยายามพูดแบบไม่ขยับริมฝีปากมากนัก เพราะแค่ขยับนิดเดียวริมฝีปากของเธอก็สัมผัสเข้ากับริมฝีปากร้อนของอีกฝ่ายแล้ว “คุณต้องการอะไรว่ามาซิ” ถามหลังจากลืมตาขึ้นเมื่อเขายืดตัวกลับไปนั่งที่เดิม แต่ยังหันหน้ามาจ้องหน้าเธอเขม็ง



“ ต้องการคุณ !! ” คเชนทร์พูดชัดถ้อยชัดคำ ย้ำความต้องการของตนให้อีกฝ่ายรู้



“วะ ว่าไง...นะ...” แน่แล้ว...หมอนี่เป็นโจรโรคจิตจริง ๆ ด้วย มันวันซวยอะไรของเธอกันนะ แล้วนี่เธอจะทำยังไงจะรับมือกับมหาโจรโรคจิตยังไงดี น่ารักได้แต่โอดครวญในใจหลังจากได้ยินความต้องการของอีกฝ่าย “คะ คุณอย่าล้อเล่นแบบนี้สิ ฉันรู้นะว่าถึงหน้าตาคุณจะเหมือนมหาโจร เอ่อ คือฉันหมายถึงดูดุไปบ้าง แต่ความจริงแล้วคุณเป็นคนดีใช่ไหมล่ะ เนอะ” พยายามฉีกยิ้มหวานส่งไปให้



จากตำราเจอโรคจิตเราต้องอย่ากลัวเดี๋ยวมันจะได้ใจนี่นะ



“เนี่ย ฉันว่านะเดี๋ยวถึงกระบี่แล้วคุณค่อยไปเที่ยวที่อย่างว่า คือฉันหมายถึงที่ที่มีผู้หญิงสวย ๆ เยอะ ๆ น่ะ ทั้งสวยทั้งเอ็กซ์ อย่ามาอยากได้ฉันเลย ฉันน่ะทั้งผอมทั้งแห้ง เตี้ยด้วย ไม่อึ๋มด้วยนะ แล้ว...” พยายามจะสาธยายคุณสมบัติแย่ ๆ ของตนเองให้อีกฝ่ายรู้เผื่อเขาจะเปลี่ยนใจ แต่ก็ถูกมือหนายกขึ้นทำสัญญาณให้หยุด



“คุณกำลังคิดลึกอะไรน่ะ ผมแค่ต้องการให้คุยเป็นเพื่อนคุยกับผมหน่อยเท่านั้นเอง” เขาขยายคำพูดหลังจากที่พูดจากำกวมชวนให้คิดลึกไปแล้ว ทั้งที่ในใจจริง ๆ นายหัวหนุ่มจะหมายความตามนั้นจริง ๆ ก็เถอะ



“ตะ แต่ฉันง่วงมาก ๆ เลย อยากนอนพัก คุณหันไปคุยกับพี่คนนั้นสิ” ไม่ได้ง่วงไม่ได้อยากจะพักอย่างที่บอก แต่ที่อ้างก็เพราะไม่อยากเสวนากับผู้ชายโรคจิต พลางพยักเพยิดให้เขาหันไปคุยกับผู้โดยสารผู้ชายที่นั่งดีกฝั่งนึง



เกิดนายมหาโจรเกิดติดใจเธอขึ้นมา พอเขาปล้นรถทัวร์เสร็จแล้วฉุดเธอไปด้วยจะทำยังไง



น่ารักยังคงมองผู้ชายหน้าดุข้าง ๆ อย่างหวาด ๆ ไม่หยุดความคิดกล่าวหาว่าอีกฝ่ายเป็นโจรก่อการร้ายแฝงตัวขึ้นมาเพื่อปล้นรถทัวร์



“ผมไม่ชอบคุยกับผู้ชาย อยากคุยกับคุณมากกว่า” เพิ่งจะครั้งแรกนี่แหละที่เขานึกอยากจะคุยกับผู้หญิงนอกจากมารดากับน้องสาว คเชนทร์บอกต่อในใจ “แล้วนี่ก็เพิ่งจะหกโมงเย็น คุณจะรีบนอนไปทำไม คุยกันไปนี่แหละ ง่วงมาก ๆ ก็หลับไปเลย แต่ถ้าไม่อยากคุยเป็นเพื่อนผมก็ตามใจแต่เกิดอะไรขึ้นหลังจากคุณหลับผมไม่รับผิดชอบนะ”



“อะ อะไร เกิดอะไร คุณจะทำอะไรฉัน” ถ้าเธอตะโกนขอความช่วยเหลือจากผู้โดยสารคนอื่น ๆ ตอนนี้ เขาจะปาดคอเธออย่างที่พูดจริง ๆ หรือเปล่านะ



น่ารักหันซ้ายหันขวา แต่ก็พบว่าผู้ดดยสารเกือบทั้งรถไม่มีใครให้ความสนใจเธอกับเขาเลยสักนิด ต่างคนก็ต่างอยู่กับกิจกรรมส่วนตัวของตนเอง บางคนก็ฟังเพลงจากไอพอด บางคนก็คุยโทรศัพย์ บางคนที่มาด้วยกันก็หันหน้าคุยกันเบา ๆ ถ้าจะมีใครเผลอมองมาทางเบาะที่นั้งของเธอกับผู้ชายข้าง ๆ นี้บ้าง พวกเขาก็คนจะคิดเหมือนกันว่าเธกับเขาคงจะกำลังพูดคุยสนทนากันตามประสาคนรู้จักกันนั่นแหละ



“อยากรู้คุณก็ลองหลับดูสิ” เขาท้า แต่น่ารักกลับส่ายหน้าหวือ



“ไม่ล่ะ จริง ๆ คุยกับคุณฉันก็เริ่มหายง่วงบ้างแล้ว อยากคุยคุณก็พูดมาสิ” เธอไม่ได้กลัวหรอกนะ ปกติแล้วเห็นเธอตัวเล็ก ๆ อย่างนี้แต่ก็มีวิชาป้องกันตัวที่เก่งไม่แพ้ใครเหมือนกัน เพียงแต่ตอนนี้เธอกำลังเสียเปรียบเพราะนั่งอยู่ในที่แคบ ๆ ชิดกระจก จะทำอะไรก็เลยไม่ถนัดเท่านั้นเอง น่ารักแก้ตัวให้ตัวเองในใจที่ตอนนี้หัวใจเริ่มเต้นรัว มือก็เริ่มสั่นนิด ๆ



“งั้นก็เริ่มจากการแนะนำตัวกันก่อนเป็นไง ผมชื่อคเชนทร์ เรียกเชนทร์สั้น ๆ ก็ได้ ส่วนคุณน่ารักใช่ไหม มีชื่อเล่นหรือเปล่าหรือชื่อนี้เลย” นายหัวหนุ่มเริ่มซักประวัติ และตั้งใจจดจำทุก ๆ รายละเอียดที่ได้ยิน



“ชื่อเดียวกันนี่แหละ” ความจริงเธอมีชื่อเล่น แต่เรื่องอะไรจะบอกนายมหาโจรนี่กัน เพราะเดี๋ยวถึงกระบี่เธอก็จะบอกศาลา ทำบุญกรวดน้ำไปให้อยู่แล้ว



“โอเค...คุณ...น่ารัก...” คเชนทร์รำพึงกับตัวเองมากกว่าจะพูดกับคนข้าง ๆ แต่คำพูดของเขาก็ทำให้ใบหน้าหวานร้อนผ่าว เริ่มขึ้นสีแดงระเรื่อ ทั้ง ๆ ที่เป็นชื่อของตัวเองแต่พอออกมาจากปากคนข้าง ๆ มันกลับให้ความรู้สึกแตกต่างจากที่เคยได้ยินคนอื่น ๆ เรียกกัน และอาการของสาวหน้าหวานทำให้คนที่จ้องมองอยู่ตลอดเวลาอย่างคเชนทร์ก็ยิ้มพอใจกับปฏิกิริยาที่ได้รับ



จากนั้นนายหัวหนุ่มที่พูดไม่ค่อยเก่ง กลับสรรหาคำพูดมาถามและหลอกล่ออีกฝ่ายเพื่อให้ได้รับข้อมูลที่ตัวเองต้องการ ไม่ว่ารถทัวร์จะแวะจอดพักระหว่างทางคเชนทร์ก็ตามติดเป็นเงาตามตัว ฝ่ายน่ารักก็เริ่มตอบกลับแบบเบลอ ๆ เมื่อเวลาผ่านไปหลายชั่วโมงเข้า แม้จะง่วงเมื่อถึงเวลานอนแต่ก็ไม่กล้าหลัวตาลง เพราะกลัวคำขู่ก่อนหน้านี้ จนสุดท้ายอีกไม่ถึงครึ่งชั่วโมงที่รถทัวร์จะนำผู้โดยสารไปสู่จุดหมาย ตากลมโตที่หรี่ปรือมาตลอดทางก็ปิดลงเพราะทนความง่วงและเพลียอีกต่อไปไม่ไหว ซึ่งคเชนทร์เองก็ไม่คิดจะท้วงหรือแกล้งอะไรอีก เขาปล่อยให้ร่างบางหลับตาลงเข้าสู่นิทราอย่างที่ต้องการ ส่วนตัวเองแม้จะรู้สึกเพลียนิด ๆ ที่ไม่ได้นอนเลยตลอดทั้งคืนแต่กลับมีความสุข และกำลังคิดแผนการว่าจะทำยังไงให้ได้เจอกับนางฟ้าหน้าตุ๊กตาคนนี้อีกหลังจากที่รถถึงที่หมาย เพราะเขาแน่ใจว่าน่ารักจะต้องกระโจนหนีเขาทันทีที่ลงจากรถ



แล้วเขาจะทำยังไงดี จะทำยังไงให้ได้เธอไปเก็บไว้ที่เกาะ? เพราะตอนนี้จากแค่ถูกใจเริ่มกลายเป็นชอบ คเชนทร์เองก็ตกใจกับความรู้สึกของตัวเองที่มีต่อน่ารักไม่น้อยที่เปลี่ยนไปเร็วในช่วงเวลาแค่สิบกว่าชั่วโมง ตาคู่คมสีสนิมเหล็กเหลือบมองกระเป๋าสะพายสีน้ำตาลใบโตที่น่ารักนำมาวางกั้นกลางระหว่างเขากับเธอ พลางความคิดหนึ่งก็ผุดขึ้น นายหัวหนุ่มจัดการทำทุกอย่างแบบเงียบกริบที่สุดโดยที่ร่างบางที่เป็นเจ้าของไม่มีโอกาสได้รู้แม้แต่นิด จากนั้นร่างสูงก็แอนศรีษะพิงกับเบาะที่นั่ง หลับตาลงรอเวลาอย่างเป็นสุข



++++++++++



6 โมงเช้า – สถานีขนส่งจังหวัดกระบี่



อาจจะเพราะกระบี่เป็นเมืองท่องเที่ยวที่จะรับความนิยมและสนใจจากนักท่องเที่ยวไม่น้อยไปกว่าภูเก็ตหรือจังหวัดอื่น ๆ ทางภาคใต้ ทำให้จำนวนรถทัวร์และจำนวนผู้โดยสารในช่วงเวลาเช้า ๆ อย่างนี้หนาแน่นไม่แพ้สถานีขนส่งที่กรุงเทพ



คเชนทร์ส่งมือให้ร่างบางที่ยังทีท่าทางสะลึมสะลือขณะที่กำลังจะก้าวลงจากรถทัวร์ หากศรีษะเล็ก ๆ นั่นก็ยังส่ายเบา ๆ อย่างปฏิเสธ แม่สติจะไม่เต็มร้อยเพราะความง่วง หากแต่น่ารักก็ยังพอรู้อยุ่ว่าผู้ชายตรงหน้านี่เป็นบุคคลที่เธอสมควรจะอยู่ให้ห่าง คเชนทร์พยักหน้าไม่ดึงดันต่อปล่อยให้เธอก้าวขาลงมาเองโดยที่ตัวเขาเพียงแค่คอยระวังอยู่ด้านหน้าเท่านั้น



“คุณจะไปไหน ให้ผมไปส่งไหม” เขาถามหลังจากที่ร่างบางลงมายืนโงนเงนสะลืมสะลืออยู่ข้าง ๆ รถทัวร์เพื่อรอรับกระเป๋า อีกฝ่ายเหลือบตาที่ปรือจนแทบจะปิดนั้นมามองหน้าเขานิด ๆ ก่อนจะยกมือขึ้นโบกทำท่าปฏิเสธ พลางเดินไปยังจุดรถโดยสารหลังจากรับกระเป๋าจากพนักงานแล้ว โดยที่ร่างสูงของนายหัวหนุ่มก้าวเท้าเดินตามไปติด ๆ



“ให้ผมไปส่งเถอะน่า คุณจะเดินไม่ไหวอยู่แล้วนะนั่น ผมเป็นคนที่นี่คุณจะไปไหนก็แค่บอกมา” นอกจากอยากจะรู้ว่านางฟ้าหน้าตุ๊กตาคนนี้พักอยู่ที่ไหนแล้ว คเชนทร์ก็นึกเป็นห่วงด้วยเพราะสภาพของน่ารักตอนนี้ดูเหมือนจะสลบได้ในทุกวินาที



“ไม่ ๆๆ ฉันไปเองได้ ลาล่ะนะ ลาขาดเลยนะ อย่าได้พบเจอกันอีกเลย...สาธุ” น่ารักบอกลามหาโจรหน้าดุที่เป็นสาเหตุให้ตัวเองสะลืมสะลืออยู่ในตอนนี้ ก่อนจะยกมีขึ้นพนมกลางอกอธิฐานให้หลุดพ้นจากมหาโจรตรงหน้า พลางทำท่าจะเดินหนี หากนายหัวหนุ่มก็ยังตามติด



“ไม่อยากเจอผมขนาดนั้นเลยหรือ...แล้วถ้าเราเจอกันอีกครั้งล่ะคุณจะทำไง” คเชนทร์เดินตามไปพลางส่งเสียงถามไป แต่อีกฝ่ายก็ไม่ยอมตอบเอาแต่ตั้งหน้าตั้งตาเดิน คนที่ไม่อยากหลุดออกจากความสนใจเลยเซ้าซี้ถามต่อ “แล้วถ้าเจอล่ะ คุณจะทำยังไง”



“ถ้าเจอกันอีก ฉันจะกระโดดจูบคุณให้ขาดใจตายเลยเอ้า !! “ ใบหน้าเล็ก ๆ หันกลับมามองอย่างเหลืออด ก่อนจะบอกเสียงดังแล้วเชิดหน้าขึ้นอย่างมั่นใจ จากนั้นนางฟ้าหน้าตุ๊กตาของนายหัวคเชนทร์ก็หันหลังก้าวฉับ ๆ เดินออกไปทันทีไม่คิดจะฟังคำลาหรือคำพูดใดใดหน้าคู่สนทนา



คเชนทร์หัวเราะเบา ๆ ทันทีที่ได้ยินคำตอบ พลางก้าวเดินตามไปห่าง ๆ อย่างเป็นห่วง...อยากรู้จริง ๆ ว่าถ้าถึงเวลานั้นมาแม่นางฟ้าฟน้าตุ๊กตาของเขาจะยังทำหน้าเชิดแบบนี้อยู่อีกหรือเปล่า และเมื่อสายตาสีสนิมเหล็กเหลือบไปเห็นลูกน้องที่มารอรับก็ส่งสัญญาณมือให้นำรถมารับข้างหน้าที่เขากำลังเดินไป จากนั้นก็มองตามร่างบอบบางของน่ารักอย่างไม่คลาดสายตา



“ตามรถโดยสารนั่นไปห่าง ๆ “ คเชนทร์ออกคำสั่งกับลูกน้องทันทีที่ก้าวขึ้นนั้งข้างคนขับ ก่อนจะย้ำอีกครั้งเมื่อเห็นลูกน้องหันมามองหน้างง ๆ “เร็วสิวะอาลี เห็นมั๊ยนั่นรถออกไปไกลแล้ว”



“อะ เอ่อ ครับ” อาลีลูกน้องคนสนิทรับคำอย่างงง ๆ ก่อนจะออกรถขับตามรถโดยสารข้างหน้าไปตามคำสั่งของเจ้านาย “แล้วนายหัวจะตามรถโดยสารไปทำไมครับ” กลับมาจากกรุงเทพคราวนี้นายหัวเชนทร์ไปกินอะไรผิดสำแดงมาหรือเปล่า ถึงได้มีท่าทางแปลก ๆ อย่างนี้ เอาแต่นั่งจ้องท้ายรถโดยสารตาไม่กระพริบ มันมีอะไรน่าสนใจหนักหนานอกจากหญิงวัยกลางคนรูปร่างอวบจนอ้วนกับผู้โดยสารชายหญิงเกือบเต็มรถ อาลีมองหน้านายหัวหนุ่มพลางคิดอย่างไม่เข้าใจ



“ตามไปเถอะน่า ห่าง ๆ นะอย่าให้คนบนรถรู้ล่ะ” ตอบไปสายตาก็จ้องร่างบางที่นั่งกอดกระเป๋าเสื้อผ้าอยู่ตรงกลาง ๆ ที่ถ้าไม่สังเกตดี ๆ ก็คงจะมองไม่เห็นเพราะน่ารักของเขาตัวเล็กเหลือเกิน



น่ารักของเขา...ฟังดูเข้าท่าแฮะ



ริมฝีปากหยักลึกกดยิ้มไปตลอดทางที่ตามรถโดยสารข้างหน้าไป จนกระทั่งไม่นานร่างบางก็ลงจากรถเมื่อถึงที่หมาย น่ารักเงยหน้ามองป้ายโรงแรมขนาดเล็กที่ถามเอาจากคนขับรถก่อนจะหน้านี้อีกครั้ง จากนั้นก็เดินเข้าไปติดต่อห้องพัก แต่เมื่อจะเอาบัตรประจำตัวประชาชนออกมาให้ทางโรงแรมกรอกรายละเอียดก็ปรากฏว่าบัตรที่ตัวเธอแน่ใจว่าได้ใส่ไว้ในช่องหน้าสุดของกระเป๋าสะตางค์ แต่ตอนนี้กลับไม่มีแม้แต่เงา น่ารักดึงเอกสารบัตรต่าง ๆ ออกมาจากกระป๋าสะตางค์จนหมด แทบจะเขย่ากระเป๋าสะตางค์เสียด้วยซ้ำแต่ก็ไร้วี่แวว จนต้องใช้ใบขับขี่ที่เป็นเอกสารทางราชการใบเดียวที่เหลืออยู่ส่งให้พนักงานโรงแรมแทน ยังดีที่เป็นโรงแรมขนาดเล็กทำให้ไม่เคร่งครัดอะไรมากนัก ในใจน่ารักก็นึกแล้วนึกอีกว่าเผลอไปลืมเอกสารสำคัญไว้ที่ไหน หากแต่ก็นึกไม่ออก ยังไงเธอก็แน่ใจว่าไม่เคยนำออกจากกระเป๋าสตางค์ไปไว้ที่อื่นแน่นอน



เมื่อจัดการจ่ายเงินด้วยหัวใจว้าวุ่นปนสงสัย ก็รีบขึ้นไปห้องพักเพื่อเช็คดูอีกที พอเข้ามาในห้องพักก็เททุกอย่างในกระเป๋าสะพายลงกลางเตียง เช็คอย่างละเอียดก็ไม่พบ เมื่อคิดไม่ตกก็หยิบมือถือเครื่องเล็กสีดำขึ้นมาหมายจะกดโทรไปหาเพื่อนรัก แต่พอกดหน้าจอปุ๊บก็ขมวดคิ้วอย่างสงสัยเมื่อพบว่าภาพหน้าจอที่ควรจะเป็นรูปของเธอเองกลับกลายเป็นรูปทะเลสีครามที่ทอประกายระยิบระยับล้อแสงอาทิตย์อย่างสวยงาม พอลองกดหารายชื่อของเพื่อนรักก็ไม่พบ มีแต่รายชื่อที่ไม่รู้จักทั้งนั้น มือบางพริกโทรศัพย์มือถือไปมาจ้องมองเหมือนเป็นสิ่งประหลาด ก่อนจะยกมือขึ้นตบศรีษะตัวเองแรง ๆ เพราะนึกว่ายังเบลออยู่ แต่ผลที่ได้ก็ยังเหมือนเดิม โทรศัพท์ก็ยังเป็นโทรศัพท์สีดำเครื่องเดิมของเธอ ต่างกันก็เพียงแต่ข้อมูลในเครื่องเท่านั้นที่เป็นของใครที่ไหนก็ไม่รู้



ขณะกำลังคิดอย่างไม่เข้าใจอยู่นั้น โทรศัพท์ในมือก็ส่งเสียงเตือนว่ามีข้อความใหม่เข้ามา น่ารักถึงกับตาโตเพราะเบอร์ที่ส่งข้อความเข้ามาเป็นเบอร์ของเธอเอง...ไม่รอช้า มือบางรีบกดข้อความดูทันที แล้วก็แทบจะกรีดร้องออกมากับข้อความที่เห็น





สงสัยว่าโทรศัพท์ของคุณกับผมจะสลับกันนะ แล้วบัตรประชาชนของคุณก็คงอยากจะเปลี่ยนที่อยู่ เพราะตอนนี้มันมานอนเล่นอยู่ในกระเป๋าสตางค์ของผมแทน – คเชนทร์





น่ารักไม่รอช้ากดโทรออกหาเบอร์ตัวเองทันที ตาบ้าหน้ามหาโจรนั่นมาแอบสับเปลี่ยนโทรศัพย์กับเธอตั้งแต่เมื่อไหน หน้าเหมือนโจรแล้วยังมาทำตัวเป็นโจรจริง ๆ อีก น่ารักบ่นเจริญพรได้ไม่นานปลายสายก็กดรับเหมือนจะรอโทรศัพย์จากเธออยู่ก่อนแล้ว



“นี่คุณขโมยบัตรประชาชนกับมือถือฉันเหรอฮะ ไอ้มหาโจร !!” น่ารักกรอกเสียงเขียวลงไปทันทีที่อีกฝ่ายกดรับ มันน่านัก นี่ถ้าอยู่ต่อน่านะ เธอจะ...จะ...



( ขโมยที่ไหน คุณทำตกไว้เองต่างหาก ) อีกฝ่ายให้เหตุผลที่ฟังไม่ขึ้นสักนิด



“ทำตก ? อ้อ เพิ่งรู้นะเนี่ยว่าเวลาทำของตกแล้วคนเก็บได้จะใจดีเอาของตัวเองมาสลับคืนให้แทนน่ะ” ถ้าคเชนทร์เห็นหน้านางฟ้าหน้าตุ๊กตาของเขาในตอนนี้ก้อาจจะเปลี่ยนฉายาให้เธอใหม่ก็เป็นได้ น่ารักถลึงตาใส่โทรศัพย์ในมือจนตาแทบจะถลน “เอาของฉันคืนมาเลยนะ คุณอยู่ที่ไหนตอนนี้ ฉันจะไปเอา !!”



( ตอนนี้ผมไม่ว่างน่ะ กำลังจะนอนพัก ไว้เย็น ๆ หรือไม่ก็พรุ่งนี้แล้วกัน ผมจะโทรบอกอีกที โอเคนะ ) คนที่บอกว่าไม่ว่างนั้นกำลังนั่งพิงเบาะอยู่ตรงที่นั่งข้างคนขับในรถที่จอดชิดถนนหน้าโรงแรมนั่นเอง โดยที่ลูกน้องอย่างอาลีหันมามองใบหน้าที่รกด้วยเคราครึ้มแต่มีรอยยิ้มประดับอยู่ตลอดการสนทนาของนายหัวหนุ่มตาโต



นายหัวคุยกับใครวะ มียิ้มด้วยเว้ยเฮ้ย



“ไม่ !! ฉันจะเอาของฉันคืนตอนนี้ บอกมานะว่าคุณอยู่ที่ไหน” ไอ้บ้า ไอ้มหาโจร อย่าให้เจอนะ



( ไม่ต้องใจร้อนอยากจะเจอผมขนาดนั้นหรอกน่า เอาเป็นว่าเย็น ๆ ผมจะเอาไปให้ที่โรงแรมแล้วกัน แค่นี้นะ ) แม้ใจอยากจะคุยแต่คเชนทร์ก็ต้องทำทีเป็นเก๊กไม่ต้องการ เพราะยังไงต่อจากนี้เขาก็จะได้คุยกับเธอไปอีกนาน



( อ่อ แล้วคุณอย่าลืมที่พูดไว้ล่ะ ว่าเจอหน้ากันอีกครั้ง...จะจูบผมจนขาดใจ )

+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

28/9/2011

ขอฝากนายหัวคเชนทร์ไว้ในอ้อมกอดของรีดเดอร์ทุกคนด้วยนะคะ >__<



ลัลลดา
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 27 ก.ย. 2554, 22:32:08 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 27 ก.ย. 2554, 22:32:08 น.

จำนวนการเข้าชม : 2704





<< บทนำ   ตอนที่ 2...ตามติด >>
ann 27 ก.ย. 2554, 22:56:04 น.
ตอนนี้ยาวจุใจเลยจ้า ดีใจที่ได้อ่านวันนี้น้า มาต่อเร็วๆเน้อ


Canopus 28 ก.ย. 2554, 00:25:43 น.
สนุกดีน่าติดตาม นายหัวน่ารักช่างแกล้ง


น้องแสตมป์ 28 ก.ย. 2554, 06:02:28 น.
แหมมมมม เจอกันปุ๊ปก้อจุ๊บกันปั๊ปเลยน้าาา


คนเหงา 28 ก.ย. 2554, 08:09:42 น.
แค่ตอนแรกก็สนุกล่ะ รออยู่นะจ๊ะ


nutcha 28 ก.ย. 2554, 11:18:24 น.
สนุกดีคะ


anOO 28 ก.ย. 2554, 15:47:43 น.
ท่าทางน่ารักจะตามเกมส์นายหัวไม่ทันเลยนะ


lnefficient 28 ก.ย. 2554, 19:53:08 น.
สนุกค่ะ รออ่านตอนต่อไป


หมูอ้วน 29 ก.ย. 2554, 06:00:30 น.
น่ารักดีค่ะ นายหัวเจ้าเล่ห์มาก


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account