ทะเลร้อนซ่อนสิเน่หา
เพียงแรกพบสบตา...เขา...คเชนทร์ อัครา นายหัวแห่งเกาะยาตราก็เกิดอาการอยากจะเก็บนางฟ้าหน้าหวานปานจะหยดคนนั้นกลับไปใส่กรงทองเป็นสมบัติส่วนตัวของตัวเองเสียแล้ว แต่จะทำยังไงเมื่อสาวเจ้าไม่ยอมเล่นด้วยเพราะเขาเผลอไปทำตัวให้เธอเกลียดขี้หน้าเข้า งานนี้จากนายหัวหนุ่มผู้เคร่งขรึมจีบสาวไม่เป็น ก็ถึงกับต้องลงทุนงัดทุกกระบวนความมาต้อนสาวหน้าหวานให้ยอมรับรักเขาให้จงได้

เธอ...น่ารัก สาวนักออกแบบที่เดินทางไปพักผ่อนสมองที่บ้านเกิดเพื่อนรัก แต่ครั้งแรกที่พบเจอหนุ่มโหดหน้าตาอย่างกับมหาโจรที่ร่วมเดินทางไปบนรถทัวร์คันเดียวกัน เขาก็จาบจ้วงถึงเนื้อถึงตัวเธอเสียแล้ว ซ้ำยังตามติดเดี๋ยวกอดเดี๋ยวหอมจนเธอผวา ยิ่งเมื่อมารู้ว่าเขาเป็นคนเดียวกับพี่ชายเพื่อนรักที่เคยปฏิเสธอย่างไร้มารยาทห้ามให้เธอไปวุ่นวายที่เกาะยาตราสุดรักสุดหวงของเขา เธอก็นึกไม่ชอบขี้หน้าเขามากขึ้นไปอีก

แต่ยิ่งไม่ชอบเขาก็ยิ่งตื้อ ยิ่งปฏิเสธเขาก็ยิ่งรุก จนใจน้อย ๆ ที่เคยหนักแน่นเริ่มสั่นไหว แล้วสุดท้ายน่ารักจะทำอย่างไรเมื่อถูกมหาโจรหน้าหล่ออย่างคเชนทร์รุกหนักจนหัวใจปลิวหายไปอยู่ในมือเขาในที่สุด
(รอตีพิมพ์กับ สนพ.แสนรัก ในเครือไลต์ ออฟ เลิฟ ค่ะ)
Tags: ผู้แต่งยังไม่ได้กำหนด tags ของนิยายเรื่องนี้

ตอน: ตอนที่ 2...ตามติด

เอาหนูน่ารักกับนายหัวคเชนทร์มาเสริฟแล้วค้า



นายหัวเรารุกเรื่อย ๆๆๆ อิอิ



หวังว่ารีดเดอร์จะชอบนะคะ >_____<


ปล...ที่ถามว่าเรื่องนี้จะตีพิมพ์หรือเปล่า...ออกกับ สนพ.แสนรัก ในเครือไลต์ ออฟ เลิฟ ค่ะ คงจะเร็ว ๆ นี้แหละค้า
นามปากกา **แก้วจอมขวัญ** ค้า ^__________________^

+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++



บทที่ 2...ตามติด



ริมฝีปากภายใต้เคราที่รกครึ้มยกยิ้มขึ้นทันที ที่เห็นร่างบางของนางฟ้าหน้าตุ๊กตาของตนเองนั่งหลังตรงจ้องเขม็งไปที่ทางเข้าออกของล๊อปบี้โรงแรมระดับสามดาวเล็ก ๆ กลางเมืองกระบี่



คเชนทร์ก้าวขาออกจากลิฟท์ที่อยู่ทางด้านหลังของร่างบางที่เขากำลังเดินตรงเข้าไปหา แค่เห็นเพียงแผ่นหลังเขาก็จดจำได้ทันทีว่าเป็นเป้าหมายที่ตัวเองกำลังต้องการอยากจะได้ไปเป็นสมบัติส่วนตัว แม้ว่าหญิงสาวจะเปลี่ยนเสื้อผ้าอยู่ในชุดใหม่ที่แต่งต่างกับตอนแรกเจอก็ตาม



“อยากเจอผมมากถึงกับต้องมานั่งรอเลยหรือคุณ” เสียงทุ้มดังชิดใบหูเพราะคนพูดตั้งใจโน้มใบหน้าลงไปใกล้



“นี่คุณ !! “ น่ารักหันขวับมาตามเสียงอย่างตกใจ และก็ต้องผงะหนีแทบไม่ทันเมื่อใบปลายจมูกของตัวเองเกือบจะชนเข้ากับแก้มสากที่รกไปด้วยเคราครึ้มของอีกฝ่าย “คุณเข้ามาทางไหน ทำไมฉันไม่เห็น ในเมื่อ...” ในเมื่อเธอนั่งจ้องทางเข้าออกล๊อปบี้ตาแทบไม่กระพริบ



ที่ต้องลงมานั่งรอ แถมคอยจ้องว่าเมื่อไหร่มหาโจรหน้าดุจะมาเสียที ไม่ใช่เพราะว่ามีจิตพิศวาสอยากจะเจออย่างที่เขาว่า แต่เป็นเพราะเธอกลัวว่าเขาจะตามขึ้นไปหาเธอถึงห้องน่ะสิ จะไม่ให้กลัวได้ยังไงแค่ได้ยินอีกฝ่ายบอกว่ารู้ว่าเธอพักอยู่ที่ไหน เธอก็รู้ได้ทันทีว่าเขาต้องตามเธอมาตั้งแต่สถานีขนส่งเป็นแน่ ทำตัวเหมือนสโตรกเกอร์อย่างนี้ ไม่ต้องเดาเลยว่าถ้าเธอไม่ลงมานั่งรอเขาที่นี่ ผู้ชายหน้าเหมือนมหาโจรคนนี้จะต้องขึ้นไปหาเธอบนห้องพักอย่างไม่ต้องสงสัย



“จะบอกว่าในเมื่อคุณมานั่งจ้องทางเข้าออกเป็นชั่วโมงแล้วอย่างนั้นน่ะเหรอ” คเชนทร์ถามกลับอย่างรู้ทัน ก่อนจะพูดทวงสัญญาที่ทำให้อีกฝ่ายลุกพรวดทำท่าจะวิ่งหนี “ไหนล่ะ จูบจนขาดใจที่คุณว่าจะมอบให้ทันทีที่เห็นหน้าผมน่ะ”



“ยะ อย่ามาพูดจาแบบนี้กับฉันนะ ไม่เห็นเหรอว่าคนเยอะแยะ ถ้าฉันร้องคำเดียวคุณได้เข้าซังเตแน่” น่ารักหันซ้ายหันขวา นึกโล่งใจที่ในล๊อปบี้เล็ก ๆ แห่งนี้ยังพอมีพนักงานและแขกคนอื่นอยู่อีกสี่ห้าคน “นี่มือถือของคุณ ทีนี้ก็คืนของฉันมาได้แล้ว แล้วฉันจะไม่เอาเรื่องที่คุณขโมยของฉันไป เอามาสิ” เมื่อยื่นโทรศัพย์ของอีกฝ่ายที่สลับกับตัวเองคืนให้ไป ก็แบมือไปตรงหน้าร่างสูงที่ยืนกอดอกจ้องหน้าตัวเองอยู่ และสายตาคมกริบที่ทอประกายหวานเชื่อมของเขาก็ทำให้น่ารักต้องหลบสายตา



คเชนทร์ยิ้ม พลางคิดว่าเป็นรอบที่เท่าไหร่แล้วตั้งแต่ที่เจอกับสาวหน้าหวานตรงหน้าที่ทำให้เขายิ้มได้ตลอดเวลา ยิ้มจนอาลีลูกน้องคนสนิทแปลกใจถึงขนาดขอตามมาดูสาเหตุของอาการผิดปกติของเขาด้วย และตอนนี้เขาก็เห็นว่าเจ้านั่นยืนทำตาโตอ้าปากค้างอยู่ตรงทางเข้าทันทีที่เห็นเขาเดินเข้ามาหาผู้หญิง



“ก็คุณพูดเองว่าจะกระโดดจูบผมทันทีที่เราเจอกันอีกครั้ง ผมก็แค่เตือนความจำให้เท่านั้น” เขายื่นมือไปรับมือถือของตัวเองกลับมา แล้วจับมือเล็ก ๆ นั้นไว้ และเมื่อเธอชักมือหนีเขาก็บีบไว้แน่น “แต่เพิ่งรู้นะว่าคนกรุงเทพเป็นคนไม่รักษาคำพูด” แกล้งว่าและเมื่อเห็นใบหน้าหวานเงยขึ้นมาถลึงตาใส่ก็หลุดหัวเราะออกมาจนได้ จากนั้นก็ลากร่างบางให้เดินตาม



“นี่ !! จะทำอะไรของคุณน่ะ มาจับมือฉันทำไม ปล่อยนะ !! “เสียงที่ไม่เบานักทำให้แขกสองสามคนที่นั่งอยู่ไม่ไกลหันมามองอย่างสนใจ แต่เมื่อได้ยินคำพูดตอบกลับจากฝ่ายชายก็พากันยิ้มพลางคิดว่าคงเป็นคู่รักที่กำลังงอนกันมากกว่า



“น่า ผมหิวแล้ว อย่าเพิ่งมางอนอะไรกันตอนนี้เลยนะ เมื่อคืนอยู่กับคุณทั้งคืนไม่ได้กินอะไรเลย ไปหาอะไรกินกันก่อนแล้วค่อยกลับมาทะเลาะกันใหม่ ปะ” คำพูดกำกวมของเขาทำให้น่ารักหน้าร้อนผ่าว ยิ่งพอหันไปมองรอบ ๆ เห็นใบหน้ายิ้ม ๆ ของทั้งพนักงานและแขกคนอื่น ๆ ใบหน้าหวานก็ขึ้นสีระเรื่อ ทำอะไรไม่ถูกได้แต่ปล่อยให้มหาโจรหน้าดุลากออกจากโรงแรมไป



“นะ นายหัว แล้วผม...เอ่อ...” อาลีเรียกเจ้านายแต่เมื่อไม่ได้รับความสนใจก็ได้แต่ยกมือขึ้นเกาหัวตัวเอง มองตามแผ่นหลังของเจ้านายหนุ่มที่ลากสาวน้อยหน้าหวานราวกับตุ๊กตาขึ้นรถที่จอดอยู่หน้าโรงแรมขับออกไป



ใช่นายหัวจริง ๆ หรือวะนั่น สึนามิท่าจะเข้าถล่มกระบี่ นายหัวถึงได้เข้าหาผู้หญิงก่อน แถมยังมียิ้มมีหัวเราะ ไม่ได้การแล้วเรื่องนี้ต้องขยายให้นายแม่กับคุณภัทรรู้เสียแล้ว อาลีหนุ่มใต้หน้าคมรีบล้วงโทรศัพท์ออกมาจากกระเป๋ากางเกง ก่อนจะกดหาปลายสายเพื่อรายงานข่าวและปรากฏการณ์แปลกประหลาดของเจ้านายตัวเองให้เจ้านายอีกสองคนได้รู้



เกาะยาตราเห็นท่าจะมีนายหญิงก็คราวนี้แหละเว้ยเฮ้ย



++++++++++



“เอ้า ลงมาเสียทีสิคุณ เร็ว ๆ ผมหิว หรือจะให้ผมอุ้มลงรถ”



คเชนทร์พูดขึ้นหลังจากขับรถมาจอดหน้าร้านอาหารเล็ก ๆ บริเวณอ่าวนาง ชายหาดที่เป็นที่ชื่นชอบของนักท่องเที่ยวหลายต่อหลายคน ร่างสูงที่อยู่ในชุดใหม่หลังจากอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จแล้วแต่หากยังคงคอนเซปเสื้อยืดกางเกงยีนส์สีดำเหมือนเดิม แต่ครั้งนี้ไม่มีหมวกแก๊ปสีดำเข้าชุดเหมือนในตอนแรก เผยให้เห็นผมที่หยักโศกน้อย ๆ สีดำสนิทยาวระต้นคอ ยิ่งส่งให้ภาพลักษณ์ของชายหนุ่มดูเข้มดุดันเข้าไปอีก และขณะนี้น่ารักก็เริ่มรู้สึกไม่ปลอดภัยเข้าไปทุกทีขณะที่มองหน้าคนที่ยืนเท้าศอกกับประตูรถฝั่งที่เธอนั่งอยู่



“แล้วฉันจะลงไปยังไงล่ะ คุณเล่นมายืนขวางอยู่อย่างนี้น่ะ ถอยไปสิ” เมื่อคิดว่าลงไปคุยกับเขาด้านนอกน่าจะดีกว่าอยู่ในที่แคบ ๆ อย่าในรถนี่ ก็บอกเสียงห้วนแต่แล้วก็ต้องนั่งตัวแข็งเมื่ออีกฝ่ายโน้มตัวลงมาปลดเข็มขัดนิรภัยให้ แล้วยังเหมือนจะจงใจแนบใบหน้าที่รกด้วยเคราเข้าใกล้ใบหน้าของเธออีกด้วย



“เอ้า ลงมาได้แล้ว” คเชนทร์บอกหลังจากยืดตัวกลับมายืนตรง พลางถอยห่างเปิดทางให้ร่างบางลงจากรถ เมื่อกี้เขาเกือบจะอดใจไม่ไหวกดจมูกลงซีกแก้มนวลที่หอมกรุ่นนั่นแล้วเชียว



บ้าชะมัด เขากลายเป็นคนหื่นกาม ฉวยโอกาสแบบนี้ไปตั้งแต่เมื่อไหร่กัน



นายหัวหนุ่มต่อว่าตัวเองในใจ สายตาคู่คมก็ไม่ยอมละไปจากใบหน้าหวานละมุนของคนที่ตัวเองตั้งฉายาให้ว่านางฟ้าหน้าตุ๊กตาแม้แต่น้อย



“ขอบคุณ แต่คราวหลังไม่ต้อง ฉันทำเองได้ ไม่ได้เป็นง่อย” เอ่ยขอบคุณพร้อมกับพูดประชดไปพร้อมกับใบหน้าที่แดงระเรื่อ “แล้วหิวไม่ใช่เหรอ เดินนำไปสิ จะได้รีบกินรีบกลับ อ่อ แล้วขอบัตรประชาชนกับโทรศัพย์ฉันคืนด้วยได้ไหม”



“บอกแล้วไงว่ากินข้าวเสร็จก่อนค่อยคุยกัน” แล้วมือหนาก็เอื้อมมาจับมือบางจูงเดินไป เมื่อเธอดึงมือออกเขาก็สอดนิ้วทั้งห้าเข้าประสานล๊อคไว้เสียเลย ปล่อยให้แม่นางฟ้าหน้าตุ๊กตาส่งเสียงฮึดฮัดไม่พอใจไปตลอดทางจนถึงร้านอาหาร



“สวัสดีครับลุง ขายดีไหมวันนี้”



เมื่อเข้าไปในร้านอาหารขนาดไม่ใหญ่ไม่เล็กแต่มีลูกค้าแน่นเกือบจะไม่มีโต๊ะว่าง คเชนทร์ก็เอ่ยทักทายเจ้าของร้านอย่างเป็นกันเองเป็นภาษาท้องถิ่น เขารู้จักสนิทสนมกันดีกับเจ้าของร้านและพนักงานที่นี่ เพราะมาเป็นลูกค้าประจำตั้งแต่ร้านเปิดเป็นสิบ ๆ ปีเข้าไปแล้ว



“อ้าว นายหัวเชนทร์ ไปไงมาไงครับนี่ นานเป็นเดือนแล้วนะที่ไม่ได้มาอุดหนุนลุง นึกว่าเบื่อรสชาดอาหารฝีมือลุงเสียแล้ว” ชายวัยกลางคนเจ้าของร้านทักกลับอย่างดีใจเป็นภาษาท้องถิ่นเช่นเดียวกัน เมื่อหันมาตามเสียงแล้วพบว่าเป็นคนคุ้นเคย ก่อนที่สายตาจะมองหญิงสาวตัวเล็กหน้าหวานละมุนที่ยืนอยู่ข้าง ๆ ร่างสูง “...แล้วนี่ อย่าบอกนะครับว่านายหญิงของเกาะมาหยา สวยน่ารักเหมาะสมกับนายหัวจริง ๆ แต่ไม่ใช่นายหัวตอนที่มีหนวดเคราเต็มหน้าอย่างตอนนี้นะครับ” ประโยคสุดท้ายพูดแซวกลั้วหัวเราะ คนถูกแซวเองก็หัวเราะตามไปด้วยพลางยกมือขึ้นเกาท้ายทอยอย่างเขิน ๆ



“ก็...ยังไม่ถึงขนาดนั้นหรอกลุง คงต้องรอดูต่อไป” ตอบอีกคนแต่สายตาคมกลับหันไปมองใบหน้าหวานของสาวข้างกายที่ยืนทำหน้างงเพราะฟังภาษาท้องถิ่นไม่เข้าใจ “ฟังภาษาใต้ไม่ออกเหรอคุณ ถึงได้ทำหน้างงหน้ามึนอย่างนั้นน่ะ นี่ลุงเพิ่มเจ้าของร้านนี้ ลุงแกทำอาหารอร่อยนะ “ แกล้งแซวไปทั้ง ๆ ที่แน่ใจว่าน่ารักคงฟังไม่เข้าใจ และก็เพราะเหตุนี้ที่ทำให้เขากล้าที่จะตอบคำถามลุงเพิ่มไปตรง ๆ เพราะถ้าน่ารักฟังออกป่านนี้เธอคงจะสะบัดมือแล้ววิ่งหนีหายไปเพราะความกลัวและคิดว่าเขาเป็นโรคจิตแล้วแน่ ๆ



“เอ่อ สวัสดีค่ะลุงเพิ่ม หนูชื่อน่ารักค่ะ” น่ารักยกมือไหว้สวัสดีพร้อมส่งรอยนิ้มหวานไปให้ จนร่างสูงที่ยืนอยู่ข้าง ๆ แต่สายตามองจ้องใบหน้าหวานอยู่ตลอดเวลาเห็นแล้วตาพร่า พลางคิดในใจว่ามันจะดีแค่ไหนถ้ารอยยิ้มหวานของเธอเมื่อกี้เป็นของเขาแต่เพียงผู้เดียว



“สวัสดี ๆ แหม่ พ่อแม่ช่างตั้งชื่อนะหนู ทั้งชื่อทั้งหน้าเข้ากันดีเหลือเกิน แบบนี้นายหัวไม่หวงแย่รึ ระวังหน่อยนะนายหัวแกยังไม่เคยมีแฟน อาจจะหวงจะหึงรุนแรงไปสักหน่อย ใช่ไหมนายหัว” ลุงเพิ่มเอ่ยแซวติดสำเนียงท้องถิ่นหน่อย ๆ จากนั้นก็หันไปถามคเชนทร์ที่ยืนส่ายหัวอยู่ข้าง ๆ ร่างบาง ขณะที่น่ารักทำหน้าเหรอหราก่อนจะละล่ำละลักปฏิเสธ



“มะ ไม่ใช่นะคะลุง หนูกับหมอนี่ เอ่อ กับคุณคเชนทร์ไม่ได้เป็นแฟนกันนะคะ เราเป็นแค่ เอ่อ เป็น...” เป็นอะไรดีหว่า น่ารักคิดหาคำพูดไม่ออก จะให้บอกว่าเป็นคนรู้จักหรือเป็นเพื่อนก็ไม่ใช่ จะบอกว่าไม่รู้จักกันก็ไม่เชิงอีกเพราะก็รู้จักมาได้สิบกว่าชั่วโมงแล้ว แม้จะเกิดจากเหตุการณ์บังคับก็เถอะ



“น่ารักเขาจะบอกว่าเราเป็นมากกว่านั้นนะลุง” ขณะที่น่ารักกำลังคิดหาคำจำกัดความสัมพันธ์ คเชนทร์ก็ชิงตอบขึ้นเสียก่อน “ลุงไปทำอาหารเถอะครับ บอกตรง ๆ ตอนนี้ผมหิวมาก”



หลังจากนั้นก็หันไปบอกรายการอาหาร แล้วลากร่างบางให้เดินไปที่โต๊ะประจำที่ทางร้านมักจะไม่ให้ลูกค้าคนอื่นนั่ง ทำให้ทุกครั้งที่มาไม่ว่าลูกค้าจะแน่นแค่ไหนแต่ก็มีโต๊ะว่างสำหรับนายหัวคเชนทร์ทุกเวลา



“นี่คุณ จะบ้าเหรอ !! ไปพูดให้ลุงแกเข้าใจผิดแบบนั้นได้ยังไง” เสียงหวานเหวขึ้นทันทีกับคำพูดกำกวม ของเขาก่อนหน้านี้ “เราไม่ได้รู้จักกันเสียหน่อยนะ คุณจะมาลากฉันไปนั่นไปนี่อย่างนี้ได้ยังไง หรือทำแบบนี้กับคนแปลกหน้าบ่อย ๆ “



“โอเค คำถามแรกลุงแกไม่เข้าใจผิดหรอก แกก็คงดูออกนั่นแหละว่าเราเป็นอะไรกัน” เหมือนจะอธิบายแต่ฟังดูดี ๆ ความหมายก็ยังกำกวมเหมือนเดิม “ส่วนคำถามที่สอง ใครว่าเราไม่รู้จักกัน เมื่อคืนก็อยู่ด้วยกันทั้งคืนจนผมเพลียไปหมดแล้วเนี่ย” มือหนายกขึ้นใช้กำปั้นทุบไหล่หนัก ๆ บอกให้รู้ว่าเขาทั้งเหนื่อยทั้งเพลียจริง ๆ “แล้วสุดท้ายคำถามที่สาม คุณเป็นผู้หญิงคนแรกที่ผมอยากจะฉุด อ่อ หมายถึงลากไปไหนมาไหนด้วยน่ะ ผมไม่เคยทำอย่างนี้กับผู้หญิงที่ไหนมาก่อน นอกจากแม่กับน้องสาว” ซึ่งเขาก็ยังงงและไม่เข้าใจตัวเองอยู่นี่แหละ คเชนทร์ต่อในใจ



“ฉันไม่ได้หมายความว่าแบบนั้น ที่ฉันถามน่ะหมายถึง เอ่อ ช่างมันเถอะ พูดไปเดี๋ยวคุณก็ร่ายยาวอีก กิน ๆ เข้าไปสิเนี่ยผัก กินรองท้องไปเผื่อจะได้หายหิวแล้วสติดีเหมือนคนปกติเขามั้ง” จานผักถูกดันไปตรงหน้าคนที่นั่งฝั่งตรงข้าม น่ารักคิดว่าเถียงไปพูดไปคนตรงหน้าก็คงไม่ฟัง เพราะเท่าที่รู้จักเขามาหนึ่งวันเต็ม ๆ เธอค่อนข้างแน่ใจว่ารู้จักนิสัยของเขาเกือบทั้งหมดเชียวล่ะ หนึ่งในนั้นก็นิสัยไม่ยอมฟังใครจะเอาแต่ความคิดของตัวเองเป็นใหญ่นี่แหละ



จากนั้นน่ารักก็เงียบ ทำทีเป็นหันหน้าออกไปมองทางทะเลที่ตอนนี้พระอาทิตย์กำลังจะลับขอบฟ้า มันเป็ฯภาพที่สวยงามตรึงตาจนอารมณ์ขุ่นมัวเพราะถูกผู้ชายแปลกหน้าตามติดเริ่มผ่อนคลายหายไป ริมฝีปากจิ้มลิ้มสีเชอรี่แย้มยิ้มบาง ๆ



คเชนทร์มองใบหน้าหวานซึ้งที่หันข้างให้ ลำแสงสีทองที่สาดกระทบก่อให้เกิดมิติและการหักเห ทำให้ผู้หญิงตรงหน้าของเขาดูเหมือนนางฟ้าที่มีแสงทองระยิบระยับอยู่รอบกายจริง ๆ ตาคู่คมมองภาพสาวงามตรงหน้าอย่างไม่อาจถอนสายตาให้ออกห่างได้ จวบจนกระทั่งพนักงานนำอาหารมาเสริฟนายหัวหนุ่มถึงได้หลุดออกจากพะวังความสวยงามตรงหน้า คเชนทร์หันไปเอ่ยขอบคุณพนักงานเบา ๆ ก่อนจะหันกลับไปมองภาพนางฟ้าตรงหน้าอีกครั้ง ล้วงมือถือของตัวเองที่ได้คืนมาก่อนหน้านี้ขึ้นมาถ่ายภาพความงามตรงหน้าเก็บไว้



จากนั้นไม่นานเมื่อแสงอาทิตย์ลาลับขอบฟ้าไป น่ารักจึงได้หันกลับมาและก็สบเข้ากับนัยน์ตาสีสนิมเหล็กที่ทอประกายหวานเชื่อม จนต้องเสหลบสายตาลงมองและให้ความสนใจอาหารตรงหน้าแทน และเมื่อเสียงทุ้มบอกให้ลงมือทานอาหารน่ารักก็ได้แต่พยักหน้าเบา ๆ โดยไม่เงยขึ้นมามองคนพูดด้วยซ้ำ ก่อนจะตั้งหน้าตั้งตาทานอาหารเหมือนหิวเสียเต็มประดา



ระหว่างทานอาหาร คนที่บอกว่าหิวกลับเอาแต่นั่งกอดอกมองและคอยบริการรินน้ำใส่แก้วให้คนที่บอกว่าไม่หิวที่ตอนนี้กลับตักเอา ๆ ใบหน้าหวานแดงก่ำเพราะความเผ็ดจากเครื่องแกงปักษ์ใต้ที่ตัวเองไม่คุ้นเคย น่ารักตักแกงเข้าปากคำตามด้วยน้ำคำ น้ำตาปริมขอบตาจนคนมองอมยิ้มด้วยความเอ็นดู



“นี่คุณ ถ้ามันเผ็ดขนาดนั้นคุณจะฝืนกินไปทำไม สั่งอย่างอื่นไหมเดี๋ยวผมสั่งอาหารจืด ๆ ให้” คเชนทร์บอกไปเป็นรอบที่สาม มือก็คอยรินน้ำเปล่าเย็น ๆ เติมให้



“ไม่ ๆ ไม่ต้อง ฉันชอบกิน อร่อยดี” ตอบไปก็สูดปากตามไปด้วย ถึงจะทรมานเพราะความเผ็ดแต่หากรสชาดที่อร่อยทำให้ไม่สมารถหยุดทานได้ “โอ๊ย คุณขอน้ำ ๆ เร็ว ๆ สิ อย่าเอาแต่มองหน้าฉันได้ไหม กินไปสิคุณน่ะหรือถ้าไม่กินก็คอยมองแก้วน้ำฉันสิ ถ้าน้ำพร่องแล้วก็เติมด้วย อย่าให้ขาดตอน โอ๊ย เผ็ด ๆ “ ออกคำสั่งพลางยกมือชี้หน้า ช่องว่างระยะห่างที่พยายามสร้างขึ้นในตอนแรกเริ่มเหือดหาย ทำตัวเหมือนอีกฝ่ายเป็นคนสนิทคุ้นเคยก็ไม่ปาน ซึ่งมันก็ทำให้คเชนทร์รู้สึกดีและเต็มใจให้บริการตามคำสั่ง



“ผมว่าคุณพอเถอะ เดี๋ยวท้องไส้ได้พังกันพอดี ค่อย ๆ กินไปวันละนิดให้คุ้นเสียก่อนจากนั้นผมจะไม่ห้ามเลย” เมื่อเห็นน้ำตาที่ปริ่มขอบตาในตอนแรกหยดลงมาคเชนทร์ก็เอ่ยห้ามจริงจัง พร้อมกับดึงช้อนออกจากมือบาง จากนั้นก็เลื่อนถ้วยไอศครีมที่สั่งมาเตรียมไว้ไปแทนที่ “เอ้า ผมสั่งไอศครีมมาให้ กินเสีย แล้ววันหลังค่อยมากินกันใหม่ ยังไงคุณก็คงจะได้กินจนเบื่อนั่นแหละน่า”



“กินจนเบื่ออะไรกันล่ะ ฉันมาเที่ยวแค่อาทิตย์เดียวเดี๋ยวก็ต้องกลับกรุงเทพแล้ว แล้วอยู่กรุงเทพจะหาอาหารใต้รสชาดแท้ ๆ แบบนี้ได้ที่ไหนกันล่ะ” คนที่ไม่รู้ความนัยว่าอีกฝ่ายหมายความตามที่พูดว่าตอบกลับไปน้ำเสียงฉุน ๆ ที่ถูกแย้งอาหารโปรดไป



“ก็ไม่แน่ คุณอาจจะไม่ได้กลับก็ได้นี่” ยังคิดอีกหรือไงว่าเขาจะปล่อยให้กลับไปง่าย ๆ นายหัวหนุ่มหมายมาดในใจ พลางสมองก็เร่งคิดหาวิธีที่จะทำให้ได้สาวหน้าหวานที่ตัวเองถูกใจไปไว้ที่เกาะส่วนตัวให้ได้



“คุณหมายความว่ายังไง” พอเริ่มหายเผ็ดก็เริ่มระแวงอีกฝ่าย เธอลืมคิดไปได้ยังไงกันนะว่าตาบ้ามหาโจรนี่เป็นบุคคลที่ไม่น่าไว้วางใจ



“ไปกันเลยไหม เดี๋ยวผมต้องไปธุระสักหน่อย” คเชนทร์เปลี่ยนเรื่องเพราะไม่อยากจะพูดอะไรให้อีกฝ่ายตั้งแง่กับเขามากไปกว่านี้อีก จากนั้นก็ลุกขึ้นเดินไปจ่ายเงิน กล่าวลาเจ้าของร้าน แล้วเดินนำออกจากร้านไปที่รถ



“นี่แล้วบัตรกับโทรศัพย์ฉันล่ะ” น่ารักถามเมื่อเดินมาถึงรถแลนด์โรเวอร์สีดำคันใหญ่ “เอาของฉันคืนมาสิ แล้วเดี๋ยวฉันกลับโรงแรมเองคุณมีธุระนี่”



“ขึ้นรถก่อน” คเชนทร์บอกพลางเปิดประตูรถให้ และเมื่ออีกฝ่ายทำท่าจะปฏิเสธก็ส่งสายตาดุไปให้ ทำให้น่ารักจำใจขึ้นไปนั่งเป็นตุ๊กตาหน้ารถเหมือนเดิม ไม่ใช่กลัวแต่เป็นเพราะเขาไม่ยอมคืนของให้เธอ ปลอบใจตัวเองว่ารออีกนิดเดี๋ยวถึงโรงแรมแล้วเขาก็คงจะคืนให้



แต่ความหวังของน่ารักก็ต้องสลายเมื่อคเชนทร์ไม่ได้ขับรถกลับโรงแรมในทันที ชายหนุ่มขับรถวนรอบ ๆ เมืองกระบี่ จอดแวะเที่ยวตามแหล่งท่องเที่ยวต่าง ๆ พอน่ารักค้านเขาก็ลากให้ตามไปจนได้ จนสุดท้ายความตื่นตาตื่นใจกับสถานที่ท่องเที่ยวต่าง ๆ แม้ว่าตอนนี้จะเป็นตอนกลางคืนแต่ความที่เพิ่งเคยมาเป็นครั้งแรก ก็ทำให้น่ารักลืมตัวอีกครั้ง หญิงสาวเที่ยวเล่น ถ่ายรูป อย่างสนุกสนาน บางทียังมีลืมตัวเผลอพูดจาไพเราะเป็นกันเองกับคนที่บังคับพามาอีกด้วย



กว่าที่คเชนทร์จะขับรถพาน่ารักกลับโรงแรมเวลาก็ล่วงเลยเข้าไปเกือบสี่ทุ่ม และเมื่อพากันเดินเข้ามาในล๊อปบี้ และมาหยุดยืนที่หน้าลิฟท์ ร่างบางก็หันไปเอ่ยประโยคเติมที่วันนี้พูดไปหลายต่อหลายครั้งแล้ว



“ที่นี้ก็คืนบัตรกับโทรศัพย์ฉันมาเสียทีคุณคเชนทร์” มือบางยื่นไปตรงหน้าของอีกฝ่าย และครั้งนี้คเชนทร์ก็ส่งโทรศัพท์ของหญิงสาวคืนให้รัแต่โดยดี น่ารักยิ้มอย่างดีใจเมื่อครั้งนี้เขาไม่อิดออดยืดเยื้ออีกต่อไป “แล้วบัตรประชาชนฉันล่ะ” แล้วรอยยิ้มของหญิงสาวก็ต้องหายไปแล้วแทนที่ด้วยใบหน้าบึ้นตึง เมื่อได้ยินคำตอบจากอีกฝ่าย



“ยังไม่ให้ ผมจะเก็บไว้ให้”



“นี่คุณ !! จะเก็บไว้ให้อะไรอีก ยังไงเราก็จะไม่ได้เจอกันอยู่แล้ว เอาของฉันคืนมานะ !! “ ในใจน่ารักก็เริ่มสังหรณ์ใจแปลก ๆ ว่ามหาาโจรหน้าดุคนนี้อาจจะไม่ยอมหายไปจากชีวิตเธอง่าย ๆ และคำตอบของเขาก็ยืนยันลางสังหาณ์เธอได้เป็นอย่างดี



“ใครว่าเราจะไม่ได้เจอกันอีกล่ะ ยังไงก็ต้องเจอกัน...ทุกวัน” ใบหน้าที่รกไปด้วยหนวดเคราก้มลงไปใกล้ “...ผมยังไม่ได้บอกคุณใช่ไหมว่า...ผมก็พักอยู่ที่โรงแรมนี้เหมือนกัน แถมยังห้องติดกับห้องของคุณด้วยนะ” พลางมือหนาก็ยื่นไปกดลิฟท์



จากนั้นนายหัวหนุ่มก็ลากแขนสาวน้อยที่ยืนตะลึงกับคำพูดของเขาเข้าไปในลิฟท์ กดชั้นที่พักของทั้งคู่ พาเธอไปส่งจนถึงหน้าห้องพัก บอกราตรีสวัสดิ์ แล้วตัวเองก็เดินเข้าไปในห้องพักที่อยู่ติดกัน จัดการอาบน้ำชำระร่างกายแล้วทรุดนั่งพิงหัวเตียง เอื้อมมือไปยังกระเป๋าสตางค์หนังสีคำที่วางไว้ตรงโต๊ะข้างเตียง หยิบบัตรของนางฟ้าที่อยู่ข้างห้องออกมาดูพร้อมยกยิ้มเมื่อย้อนกลับไปถึงเหตุการณ์ที่เจอกันครั้งแรกระหว่างเขากับเธอ



น่ารัก...ชื่อนี้เหมือนเขาเคยได้ยินจากที่ไหนมาก่อนกันนะ...



..........................................................................

29/9/2011







ลัลลดา
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 30 ก.ย. 2554, 00:36:09 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 30 ก.ย. 2554, 00:41:49 น.

จำนวนการเข้าชม : 2509





<< ตอนที่ 1...นางฟ้ากับมหาโจร   ตอนที่ 4..อาการหนัก..(100%) >>
น้องแสตมป์ 30 ก.ย. 2554, 06:43:21 น.
น่ารักอ่ะ


Canopus 30 ก.ย. 2554, 08:37:31 น.
นายหัวน่ารักดี


ชัญญานุช 30 ก.ย. 2554, 09:44:19 น.
น่ารักมากค่ะ ชอบ ชอบ


หมูอ้วน 30 ก.ย. 2554, 12:34:42 น.
ฮากระจายเลยค่ะ ตอนที่หนูน่ารัก ให้นายหัวเติมน้ำให้ อย่าได้พร่องเชียวนะ หุหุหุ


anOO 30 ก.ย. 2554, 15:11:05 น.
น่ารักมากมาย ถ้านายหัวเอาเรื่องนี้ไปปรึกษาน้องสาวล่ะก็ จบเรื่อง!!!


nutcha 30 ก.ย. 2554, 22:21:10 น.
น่ารักดีคะ อ่านไปยิ้มไป


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account