สเน่หานางรำ
เธอทำให้เขาร้อน...อยากได้อยากครอบครอง แค่เห็นเธอร่ายรำ นิโคไล กาซิยาส ก็ปราถนาจินตนาการไปว่าถ้าได้นางรำแสนสวยคนนั้นมามาร่ายรำบิดเร้าอยู่ใต้ร่างเขามันจะวิเศษแค่ไหน
(เรื่องนี้มีแค่ความเร้าร้อน....ร้อน...และร้อน เพราะฉะนั้น 20++ ฮับ) >___< (รอตีพิมพ์กับ สนพ.สื่อวรรณกรรม ค่ะ)
Tags: ผู้แต่งยังไม่ได้กำหนด tags ของนิยายเรื่องนี้

ตอน: บทที่ 2



บทที่ 2

ร่างสูงที่กำลังร้อนรุ่มเต็มไปด้วยความต้องการใช้เท้าตวัดเศษผ้าที่อยู่มุมห้องมากองรวมกัน ก่อนจะวางร่างบางที่ยังคงมึนงงมัวเมากับรสจูบหวาบหวามลงเบา ๆ ยันกายขึ้นถอดเสื้อยืดสะบัดทิ้งโดยไม่มองว่ามันจะตกไปอยู่ตำแหน่งไหน ตามด้วยกางเกงยีนส์ แต่ก่อนที่จะตามด้วยปราการสุดท้ายร่างบางที่นอนปรือตามองอย่างงง ๆ อยู่นั้นก็เริ่มได้สติ

คนึงนิจกรีดเสียงร้องพร้อมกับลุกพรวดขึ้นทันทีที่เห็นร่างสูงเกือบเปลือยตรงหน้า สติที่กระเจิดกระเจิงกลับเข้ามาอีกครั้ง หญิงสาวรีบลุกขึ้นหวังจะหนีให้พ้นจากอันตรายตรงหน้า หากแต่ก็ช้ากว่าร่างสูงที่โถมเข้าหา

“กรี๊ด!! ปล่อยฉันนะ!! ไอ้บ้า ช่วยด้วย!! ชะ อื้อ ๆ !! ”

เสียงกรีดร้องตะโกนของความช่วยเหลือขาดหายเมื่อถูกริมฝีปากร้อนทาบทับลงมาอีกครั้ง มือบางที่ยกขึ้นทุบตีถูกรวบตรึงไว้เหนือศรีษะด้วยมือหนาเพียงข้างเดียว

“อย่าดิ้นน่า แล้วคุณจะชอบมัน ผมมั่นใจว่ามันจะดีกว่าทุกครั้งที่คุณเคยผ่านมา” เสียงพร่าเอ่ยบอกชิดริมฝีปากเมื่อถอนริมฝีปากออกมาเพื่อให้คนใต้ร่างได้หายใจ มืออีกข้างก็สอดเข้าไปเคล้าคลึงความนุ่มยุ่นอีกครั้ง

“ไม่!! ได้โปรด ฉันยังไม่...อื้อ...”

แต่เขาไม่เปิดโอกาสให้เธอได้พูดมากไปกว่านั้น ริมฝีปากร้อนบดจูบลงไปอีกครั้ง ครั้งนี้เนินนานและเร้าร้อนตามแรงอารมณ์ที่โหมกระพือขึ้นจนถึงขีดสุด และก็เป็นอีกครั้งที่คนึงนิจพ่ายแพ้ต่ออำนาจและอารมณ์พิศวาสที่อีกฝ่ายปลุกปั่นขึ้นมา

เสียงครางเริ่มเล็ดรอดออกมาจากริมฝีปากบาง พร้อมกับแรงขันขืนที่หายไปแทนที่ด้วยการแอ่นกายหยัดขึ้นรับการสัมผัส เมื่อชายเสื้อยืดถูกถลกขึ้นไปเหนือทรวงอกพร้อมกับบราเซียสีหวาน และริมฝีปากร้อนที่ไล่เลื่อนลงมาครอบครองยอดทรวงสีหวานอยากหิวกระหาย...เมื่อร่างบางไร้การต้านทาน นิโคไลก็ดึงสิ่งกีดขวางความงามออกไปให้พ้นจากร่างบาง เสื้อยืดตัวสวยถูดดึงออกให้พ้นศรีษะ ตามด้วยกางเกงผ้าทอขาสามสวนสีน้ำตาลเข้ม และซับในตัวน้อย

ชายหนุ่มหยัดกายขึ้นกวาดสายตามองความงานพิสุทธิ์ตรงหน้าอย่างตกตะลึง สวย...นิโคไลครางในใจ หลับนอนกับผู้หญิงมาก็เยอะจนนับไม่ไหว หากแต่เขาไม่เคยเห็นผู้หญิงคนใหนงดงามเทียบเท่าผู้หญิงคนนี้เลยสักครั้ง เธอสวยงาม

โดยเฉพาะเมื่อกำลังบิดกายด้วยความเสียวสะท้านอยู่ใต้ร่างเขาในตอนนี้

ในใจเขาอยากจะชื่นชมความงามตรงหน้าให้เนินนานกว่านี้ หากความปราถนาที่ลุกโชนจนร่างกายปวดร้าวไปหมดทำให้เขาไม่อาจรอไปได้นานกว่านี้...นิโคไลก้มลงหาความหอมหวานตรงหน้าอีกครั้ง ก่อนที่จะลากฝ่ามือร้อน ๆ ลงตามสีข้าง เรื่อยลงไปถึงต้นขาด้านใน

ร่างบางสะดุ้งพลางส่งเสียงครางด้วยความเสียวซ่าน เมื่อปลายนิ้วแกร่งปัดป่ายเผ่วเบา พร้อมกับที่ริมฝีปากร้อนละจากทรวงอกอิ่มเลื่อนลงลากไล้ตามไป...นิโคไลครางกระหึ่มกับความหอมหวานที่ได้ลิ้มลอง เขาอยากจะครอบครองเธอจนแทบจะทานทนอีกต่อไปไม่ไหว หากแต่ก็ต้องทนอีกนิดเพราะอยากจะทำตามที่บอกไว้เมื่อครู่ว่าเขาจะทำให้เธอรู้สึกดูยิ่งกว่างครั้งไหน ๆ ที่เคยมีกับผู้ชายคนอื่น

ผู้ชายคนอื่น ? นิโคไลคำรามลั่นเมื่อนึกถึงว่าหญิงสาวที่กำลังร้องครวญครางอยู่ใต้ร่างเขาคนนี้เคยพานพบประสบการณ์มากับใครก่อนหน้าเขา คนอย่างเขาต้องดีที่สุดไม่ว่าเรื่องไหน และครั้งนี้ก็เหมือนกันเธอจะต้องจดจำและประทับใจกับสัมผัสของเขาไปชั่วชีวิต!!

จนในที่สุดเสียงหวานก็กรีดร้องดังก้องพร้อมกับร่างกายที่เกร็งสะท้าน เมื่อพานพบกับความรู้สึกที่ไม่เคยพบเจอมาก่อนในชีวิต มันทรมานหากแต่หอมหวานชวนลุ่มหลงอยู่ในตัว...คนึงนิจนอนหอบหายใจถี่หลับตาลงอย่างเหนื่อยหอบ หากก็ต้องสะดุ้งในอีกไม่กี่วินาทีหลังจากนั้นเมื่อเขาจับตรึงสะโพกเธอไว้ แนบชิดเข้ามาจนเธอรับรู้ถึงกระแสความร้อนจากบางสิ่งที่สัมผัสกับส่วนบองบางที่สุด ใบหน้างามตื่นตะหนกเมื่อลืมตาขึ้นมาเห็นว่าเขากำลังจะ...

“...อย่า...ได้โปรด...” วอนขอแม้จะรู้ว่าไม่มีหวังก็ตาม น้ำตาไหลรินออกจากตาคู่หวาน พยายามจะถอยสะโพกหนีหากติดที่มือหนาแข็งแกร่งที่ตรึงเอาไว้
“อย่าเอาเปรียบกันสิคนสวย คุณมีความสุขแล้วที่นี้ก็ถึงตาผมบ้างสิ” เขาไม่คิดจะทำตามและเสียเวลาพูดให้มากกว่านี้อีกต่อไป มือหนากดตรึงเธอไว้ จากนั้นนิโคไลก็เคลื่อนกายแกร่งเข้าหา

และเพราะอารมณ์ที่พุ่งสูงเหมือนสายน้ำที่เชี่ยวกราก ทำให้นิโคไลไม่สามารถรอช้าได้อีกต่อไป เขานำพาตัวเองเข้าหาร่างบางในคราเดียว เพราะคิดเองว่าหญิงสาวสวยงดงามขนาดนี้คงไม่ครองพรมจารีย์มาจนถึงเขาเป็นแน่ แม้จะไม่รุนแรงหากแต่ก็ไม่เบานักสำหรับคนไร้ประสบการณ์อย่างคนึงนิจ บวกกับความเร็วที่พุ่งเข้าหาคราวเดียวดั่งปลายมีดแหลมคมที่พุ่งเข้าใส่ ทำให้หญิงสาวกรีดเสียงร้องด้วยความเจ็บปวด ใบหน้าส่ายไปมาพลางดิ้นเร้าให้หลุดพ้นจากความทรมานที่ได้รับ

“โอ้ พระเจ้า!!” ส่วนนิโคไลเขาชะงักค้างนิ่งตะลึงในสิ่งที่ได้รับรู้ถึงกับร้องหาพระผู้เป็นเจ้า แต่ก็ตะลึงได้ไม่นานเมื่อร่างบางใต้ร่างดิ้นเร้าถอยหนีจนเสียดสีกายเขาจนแทบจะแตกหักเสียเดี๋ยวนั้น

ชายหนุ่มใช้สองแขนกอดรัดร่างบางที่กำลังดิ้นรนอย่างบ้าคลั่งเอาไว้แนบแน่น ตรึงเธอไว้ด้วยร่างหนาใหญ่ของตนเอง บีบบังคับให้เธอหยุดนิ่ง มีเพียงเสียงสะอื้นให้ได้ยิน

“...ขอโทษ ผมขอโทษ...อยู่นิ่ง ๆ นะ มันจะดีขึ้นคนดี” เสียงนุ่มทุ้มเอ่ยปลอบพร้อมกับจุบพิตซับน้ำตาจนทั่วใบหน้างาม นิโคไลไม่รู้ตัวว่าน้ำเสียงและการกระทำของเขาอ่อนโยนอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน

นิโคไลเฝ้าวนจูบซับน้ำตาจนแห้งเหือด เขามองใบหน้างามที่แดงก่ำ ดวงตาคู่หวานสีน้ำตาลอ่อนมองสบเขาด้วยแววตาไหวระริก เขาจูบริมฝีปากอิ่มหนัก ๆ ก่อนที่จะเริ่มขยับสะโพกสอบอย่างช้า ๆ และเร่งจังหวะขึ้นเรื่อย ๆ

“อย่าเกร็ง...รีแล็กซ์กับมันคนดี...แล้วคุณจะรู้สึกวิเศษที่สุด...”

เขาบอกเสียงพร่าขณะเร่งจังหวะของสะโพกสอบหนักหน่วงยิ่งขึ้น มือหนาที่ตรึงสะโพกผายไว้ในตอนแรกนำพาสอนสั่งให้อีกฝ่ายรู้จักการโต้ตอบ และเมื่อเธอทำตามอย่างน่ารักนิโคไลก็ครางกระหึ่มอย่างพอใจพลางเร่งถาโถมเข้าหาอย่างบ้าคลั่ง ไปตามจังหวะเสียงระรัวของกลองสะบัดชัยที่ดังก้องมาตามสายลม เสียงหวีดร้องและเสียงคำรามอย่างสุขสมเมื่อเขาพาเธอปีนป่ายไปคว้าดวงดาวได้สำเร็จดังก้องจนน่ากลัวว่าจะมีใครได้ยิน หากไม่มีเสียงกลองและฉิ่งฉาบจากเวทีการแสดงของทางร้านในดังกลบและจบลงในจังหวะสุดท้ายในนาทีเดียวกัน

++++++++++

“ มันไปไหนของมันวะไอ้เวรนิคนี่ หรือตกส้วมตายไปแล้ว ให้ตายสิ ”

พีรพัทรยืนเท้าเอวบ่นพึมพัมอย่างหัวเสียอยู่หน้าห้องน้ำ เมื่อนั่งรอเพื่อนสลับกลับลุกมาดูที่ห้องน้ำจนกระทั่งการแสดงจบลงก็ไม่เห็นวี่แววเพื่อนตัวดีแม้แต่เงา โทรหาก็ไม่ยอมรับสาย จนตอนนี้แขกคนอื่นเขากลับกันไปเกือบจะหมดแล้ว เหลือแขกต่างชาติไม่กี่คนที่ยืนถ่ายรูปกับนางรำและนักแสดงคนอื่น ๆ

“เดี๋ยวพ่อทิ้งไว้ที่นี่เสียหรอก แล้วนี่ทำไมวันนี้คุณน้ำค้างไม่ออกมาให้ถ่ายรูปวะเนี่ย” นอกจากจะหงุดหงิดและเป็นห่วงเพื่อนสนิทที่เพิ่งมาเหยียบเชียงใหม่วันแรกและครั้งแรกแล้ว พีรพัทรก็อารมณ์เสียที่มองหาหญิงสาวที่เขาถูกใจไม่เจอ

คงไม่ใช่ว่าคุณน้ำค้างถูกไอ้นิคลากไปแล้วหรอกนะ

คิดในใจไปก็สะดุ้งกับความคิดของตัวเอง เพราะนึกสังหรณ์ใจแปลก ๆ ก่อนที่จะเบื่อและเอียนผู้หญิงนิโคไลเพื่อนเขามันก็ใช่ย่อยเสียที่ไหน ถึงไม่ได้เจ้าชู้เพลล์บอยอย่างเขา หากแต่เพื่อนเขาก็ใช่ว่าจะไม่ร้ายเสียเมื่อไหร่ หากเจอใครถูกใจนิโคไลจะทำทุกวิถีทางให้ได้ครอบครอง ไม่สนใจว่าอีกฝ่ายจะมีเจ้าของอยู่หรือไม่ แต่จริง ๆ จะว่าไปเขาก็ไม่เคยเห็นผู้หญิงที่ไหนจะปฏิเสธหมดนั่นเลยสักคน มีแต่จะทิ้งแฟนวิ่งเข้าใส่เสียมากกว่า ก็อย่างว่านักธุรกิจมีทอง ฐานะร่ำรวยติดอันดับต้น ๆ ของสเปน มีหรือที่ใครจะไม่อยากได้

แล้วคุณน้ำค้างล่ะ จะรอดหรือ เธอจะเป็นเหมือนผู้หญิงคนอื่น ๆ หรือเปล่า ?

พีรพัทรคิดอย่างหวั่นใจพลางบอกตัวเองว่าเขาคงต้องเปลี่ยนเป้าหมายไปหาสาวคนอื่นเสียแล้ว เพราะลองนิโคไลสั่งมาแบบนั้น คงไม่แคล้วผู้หญิงที่เขาหมายปองมาเกือบปีคงได้ตกเป็นของไอ้โหดนั่นแน่นอน

“เอาวะ ปลงก็ได้ เอาน้องเอื้องก็ได้วะ” บอกตัวเองก่อนจะเดินกลับไปที่รถ ตั้งใจไว้ว่าจะรอเพื่อนตัวดีที่หายเข้ากลีบเมฆไปอีกยี่สิบนาที ถ้านิโคไลไม่กลับไปที่รถเขาก็จะทิ้งมันไว้ที่นี่แหละ…ข้อหาทำให้เขาอกเดาะ!!

++++++++++

ส่วนคนที่กำลังจะถูกเพื่อนทิ้งกำลังหอบหายใจถี่ซบอยู่กับซอกคอหอมกรุ่นอย่างเหนื่อยอ่อน นิโคไลยันกายขึ้นมองใบหน้างามที่หอบหายใจไม่ต่างจากเขา ก่อนจะกดจูบลงบนริมฝีปากอิ่มเบา ๆ และกำลังจะมากกว่านั้นหากมือบางไม่ยกขึ้นผลักไสเขาเสียก่อน

“ลุกออกไปจากตัวฉัน...”

แม้เสียงจะเบาราวกระซิบหากแต่เต็มไปด้วยความราบเรียบเย็นชา ใบหน้างามผินกลับมามองสบตาคมอย่างไม่คิดจะหลบอีกต่อไป...จะหลบจะกลัวไปทำไมอีก ในเมื่อตอนนี้เธอไม่เหลืออะไรให้ต้องเกรงกลัวอีกต่อไป

ใบหน้าคมที่เจือรอยยิ้มอิ่มเอมใจเรียบนิ่งขึ้นทันทีที่ได้ยิน อารมณ์หวาบหวามที่หลงเหลืออยู่ถูกแทนที่ด้วยความไม่พอใจเมื่อได้รับปฏิกิริยาที่เหมือนรังเกลียดจากอีกฝ่าย ทั้ง ๆ ที่เขากับเธอเพิ่งจะผ่านช่วงเวลาแห่งความสุขมาด้วยกันแท้ ๆ แต่เมื่อนึกไปว่าหญิงสาวคงจะโกรธที่เขาทำให้ครั้งแรกของเธอเจ็บปวด ความกรุ่นโกรธของชายหนุ่มก็จางหายไป

“โกรธที่ผมทำให้คุณเจ็บหรือ” นิโคไลถามเสียงนุ่ม ก่อนจะพลิกกายลงนอนข้าง ๆ ใช้แขนโอบกอดร่างบางไว้เมื่อเธอทำท่าจะลุกหนี “อย่าเพิ่งลุกซี่ นอนพักสักหน่อยเดี๋ยวผมอุ้มพาไปส่งที่บ้าน ว่าแต่คุณชื่ออะไรนะ อะไรน้ำ ๆ “ เขากอดรัดเธอไว้ให้นอนนิ่งแนบอก ขณะผินกายตระกองกอด แล้วถามชิดแก้มนวล

“ปล่อยฉัน ขอร้องล่ะ...คุณจะเอาอะไรอีก อย่างได้ร่างกายฉันตอบแทนที่ช่วยเหลือคุณก็ได้ไปแล้ว มันก็น่าจะเพียงพอแล้วไม่ใช่หรือ” เมื่อดิ้นรนไปก็ไร้ประโยชน์ คนึงนิจจึงนอนนิ่งปล่อยให้เขากอดอยู่อย่างนั้น พลางใช้วาจาเอ่ยถาม

“อย่าคิดอย่างนั่นสิ คิดว่าเราต่างก็มีความสุขไม่ดีกว่าหรือ ผมรู้ว่าคุณเองก็ชอบมันใช่ไหม” คำถามของเขาทำให้คนึงนิจหน้าแดงก่ำทั้งจากความอายและความโกรธ

เธอปฏิเสธได้ไม่เต็มปากนักว่าที่เขาพูดมามันผิด เพราะเธอเองสุดท้ายก็ตอบรับเขาอย่างลืมอาย

“ผมชื่อนิโคไลเรียกสั้น ๆ ว่านิคก็ได้ แล้วคุณล่ะ น้ำ อะไร ?” ถามไปอารมณ์บางอย่างก็เริ่มก่อตัวขึ้นอีกครั้ง มือหนาจึงเริ่มลากไล่ปลายนิ้วจากแผ่นหลังลงไปหาสะโพกผาย กอบกุมเคล้นคลึง ใบหน้าคมก็โน้มลงหาริมฝีปากอิ่มที่หวานล้ำจนเขาติดใจ

“อย่านะ!! “ มือบางผลักใบหน้าคมที่โน้มเข้าหาอย่างแรง ต่อด้วยการข่วนเล็บทั้งห้าบนซีกหน้า ตามด้วยเสียงตวาดลั่น “ไปให้พ้นนะไอ้บ้า!! เอามือสกปรกออกไปจากตัวฉันเดี๋ยวนี้นะ !! “

“สกปรก ?” นิโคไลทวนคำเสียงเย็น ตอนนี้เขาเริ่มโมโหเข้าจริง ๆ แล้ว และเมื่อโมโหน้ำเสียงนุ่มทุ้มน่าฟังก็เลือนหายแปรเปลี่ยนเป็นความแข็งกระด้างและเย็นชา

“หึ แต่มือสกปรกของผมก็ทำให้คุณครางเป็นลูกแมวไปแล้วเมื่อกี้” เขาแสยะยิ้มส่งให้อย่างน่าเกลียด ก่อนจะลุกขึ้นยืน คว้าเสื้อผ้าที่ถูกเหวี่ยงทิ้งระเกะระกะขึ้นมาสวมใส่ลวก ๆ สายตาคู่คมก็ไม่ยอมละจกร่างบางที่ลุกขึ้นนั้งคว้าเศษผ้าใกล้ตัวคลุมร่างกายเปลือยเปล่าเอาไว้

นิโคไลรู้สึกกรุ่นโกรธผู้หญิงตรงหน้าที่กล้าด่าว่าเขาว่าสกปรก คำ ๆ นี้ไม่เคยมีผู้หญิงคนไหนหรือใครกล้าใช้ต่อว่าเขา ชายหนุ่มล้วงกกระเป๋าสตางค์หนังสีดำแบรนดังออกมาจากกระเป๋ากางเกงยีนส์ หยิบแบงค์ดอลล่าปึกใหญ่ที่ใส่ไว้ในกระเป๋าสตางค์ทั้งหมดออกมาโยนใส่ร่างบางที่นั่งกอดเข่าซบหน้าตัวเองนิ่ง เงินปึกใหญ่ปลิวสะพัดล่วงหล่นตกอยู่รอบตัวร่างบางอย่างเศษกระดาษไร้ค่า

“เงินนี่คงพอสำหรับความสาวที่หอมหวานของคุณ”

และนั่นเป็นประโยคสุดท้ายก่อนที่คนึงนิจจะได้ยินเสียงเปิดและปิดประตูดังโครม ใบหน้างามที่บัดนี้เต็มไปด้วยน้ำตาแห่งความเสียใจที่ความสาวที่เฝ้าเพียรถนอมกลับมาถูกผู้ชายเลว ๆ ที่ไม่รู้จักช่วงชิงไปเงยขึ้นจากเข่า แผ่นกระดาษที่ติดค้างอยู่บนแขนล่วงลงบนพื้นทำให้สายตาคู่หวานที่แดงช้ำเหลือบมองตาม ริมฝีปากอิ่มเม้มเข้าหากันแน่นเมื่อเห็นว่าแผ่นกระดาษที่ว่านั้นคืออะไร ยิ่งเมื่อมองไปรอบกายน้ำตาก็ยิ่งไหล มือบางหยิบเงินทั้งหมดฉีกทิ้งอย่างไม่คิดเสียดายสักนิด ในใจพร่ำสาปแช่งผู้ชายสารเลวที่ทิ้งรอยราคีไว้ให้เธอ

++++++++++

“ ไอ้แพท นั่นแกจะกลับโดยไม่รอฉันเลยหรือไง ”

พีรพัทรชะงักมือที่กำลังจะเปิดประตูรถหันขวับไปข้างหลังทันทีที่ได้ยินเสียงห้วนสั้นอย่างคนที่อารมณ์เสียสุด ๆ ของคนที่เขานั่งรอยืนรอและเดินเล่นรอพร้อม ๆ กับกดโทรศัพย์หาทุก ๆ ห้านาทีมาเกือบครึ่งชั่วโมง จากตอนแรกที่ตั้งใจจะรอไอ้เพื่อนตัวดีแค่สิบห้านาทีแต่เขาความเป็นห่วงที่มีทำให้ตัดใจทิ้งเพื่อนรักเอาไว้ไม่ได้

“ไอ้เวรนิค!! แกไปไหนมาฮะ ฉันโทรตามแกจนมือจะหงิกอยู่แล้วทำไมแกไม่รับโทรศัพท์วฮะ!! “ พีรพัทรตวาดเสียงถาม แต่เมื่อร่างสูงใหญ่ของเพื่อนสนิทเดินเข้ามาใกล้คำพูดต่อว่าด่าทอที่คิดเอาไว้เป็นกลับกลายเป็นน้ำเสียงตกใจเมื่อเห็นใบหน้าเพื่อนสนิทเป็นรอยยาวห้ารอยที่เลือดกำลังซึมออกมา “เฮ้ย ไอ้นิค นั่นหน้าแกไปโดนอะไรมาวะ”

คำถามของเพื่อนยิ่งทำให้อารมณ์ของนิโคไลคุกรุ่นขึ้น มือหนายกมือขึ้นลูบแก้มสากพลางกระหวัดคิดไปถึงคนที่ฝากรอยเล็บเจ็บ ๆ คัน ๆ นี้ไว้ให้เขา

“อย่าถามมาก กลับกันได้แล้ว ฉันเหนื่อย!! “ บอกเพื่อนเสียงห้วน พลางเดินไปเปิดประตูฝั่งตรงข้ามคนขับขึ้นไปนั่งกอดอกหลับตาพิงศรีษะกับเบาะ ปิดกั้นการสนทนาใดใด

แต่มีหรือที่คนอย่างพีรพัทรจะหยุด เขาคุ้นชินกับท่าทางเย็นชาน่ากลัวของนิโคไลมาเป็นสิบปี ดังนั้นแค่นี้ไม่ทำให้พีรพัทรกลัวเกรงแต่อย่างใด ดังนั้นเมื่อตามขึ้นไปนั่งฝั่งคนขับแล้วเขาก็เอ่ยถามในสิ่งที่อยากรู้ทันที

“เดี๋ยวสิวะ ตอบคำถามมาก่อน แกไปไหนไปทำอะไรมา ทำไมถึงได้แผลเหมือนถูกแมวข่วนมาอย่างนี้ แล้วทำไมแกถึงได้ดูหมดเรี่ยวหมดแรงขนาดนี้วะ ไปออกกำลังกายกับใครมาหรือไง”

ดวงตาสีดำรัตติกาลลืมขึ้นมองเพื่อนอย่างหงุดหงิด “แกจะอยากรู้ไปทำไม ออกรถสักทีสิวะ ฉันบอกว่าเหนื่อยไง”

“แล้วแกไปทำอะไรถึงเหนื่อยฮะ” พีรพัทรก็ไม่ยอมแพ้ ยังคงเซ้าซี้จนกว่าจะได้คำตอบ จนอีกฝ่ายทนไม่ไหวยันตัวนั่งตรง ตวาดกลับไปเสียงห้วน

“ฟัดกับผู้หญิงมา ที่นี้จะหุบปากได้หรือยังฮะ ขืนเซ้าซี้พูดมากอีกฉับเอาปืนกรอกปากแกแน่ไอ้แพท” ไม่ขู่เปล่านิโคไลดึงปืนออกมาวางโครมตรงคอนโซนรถ

“อะ เอ่อๆ เงียบก็ได้วะ แต่พรุ่งนี้แกต้องเล่ามาให้หมดนะโว้ย” เมื่อหายอึ้งจากคำตอบก็ตอบรับอย่างเสียไม่ได้ แม้ในใจจะสงสัยเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่งกับคำตอบของเพื่อนก็ตาม

แต่ไอ้นิคมันไม่ใช่คนชอบพูดโกหกนี่นา แต่มันจะไปฟัดกับผู้หญิงที่ไหนกัน ? พีรพัทรตั้งคำถามในใจร้อยแปด หมายมั้นเอาไว้ว่าพรุ่งนี้เขาต้องซักไอ้เพื่อนตัวดีในกระจ่างให้ได้

……………………………………………


28/9/2011

เรื่องนี้พระเอกค่อนข้างหื่นมากมาย อาจจะไม่ถูกใจหลาย ๆ คน
ถ้าชอบแนวหวาน ๆ ก็ติดตามนายหัวคเชนทร์ที่ **ทะเลร้อนซ่อนสิเน่หา** ได้ค่ะ >__<



ลัลลดา
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 28 ก.ย. 2554, 16:08:02 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 28 ก.ย. 2554, 16:08:02 น.

จำนวนการเข้าชม : 3215





<< ตอนที่ 1   ตอนที่ 3 (50%) >>
anOO 28 ก.ย. 2554, 16:56:50 น.
นายนิคทำเสียเรื่องหมดตั้งแต่ต้นเลย


ลัลลดา 28 ก.ย. 2554, 17:57:10 น.
เริ่มไม่ชอบพระเอกแล้วใช้ม้า อิอิ
อย่าเพิ่งน้า ติดตามต่อ ๆ ไปก่อนเน้อ >___<

ลัลลดา


น้องแสตมป์ 28 ก.ย. 2554, 18:01:14 น.
เลวได้อีก


ann 28 ก.ย. 2554, 19:01:35 น.
ดีจังมีให้อ่าน 2 แนวเลย อิอิ ชอบทั้ง 2 เรื่องเลยค่ะ รอซื้ออยู่น้า ถ้าออกก็มาบอกกันมั่ง


wind 28 ก.ย. 2554, 20:16:30 น.
พระเอกเลวอะ


violette 29 ก.ย. 2554, 02:41:18 น.
พระเอกเลวจริงด้วยง่า
ไปตามนายหัวดีกว่า อิอิ


หมูอ้วน 30 ก.ย. 2554, 06:26:37 น.
รอตอนต่อไปค่ะ


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account