กลรัก สลับหัวใจ
เมื่อเพื่อนสาวจอมยุ่ง จับผลัดจับพลูให้เธอนัดไปดูตัวกับคาสโนว่าหนุ่มแลกกับค่าจ้างหนึ่งหมื่น ม่านนทีจึงยอมเซย์เยส แปลงร่างเป็นนางซินวางแผนตัดสัมพันธ์แทนเพื่อนสาวเสียดิบดี แต่ที่ไหนได้เขาทั้งหล่อ เท่ แถมยังมีรอยยิ้มบาดใจ ทำเอาเธอชักหวั่นไหวซะแล้วสิ
Tags: รักโรแมนติก,รักหวานๆ,รักใส ๆ

ตอน: ตอนที่ 12 พยศรัก

บทที่ 12
พยศรัก

“คุณมาทำอะไรแถวนี้คะ” ความมืดสลัว เกือบทำให้เธอเกือบมองไม่เห็นหน้าเขา

เตชิตจ้องมองม่านนทีอยู่นานแล้ว ใบหน้าคมคายไม่ปรากฏรอยยิ้มเหมือนทุกครั้ง หากแต่แลดูเคร่งขรึมกว่ายามปกติ ร่างสูงสมส่วนภายใต้เสื้อสูทสีน้ำตาลเข้มคลุมทับเสื้อเชิ้ตด้านในที่ผูกเนคไทเอาไว้หลวม ๆ ช่วยเสริมบุคลิกเขาให้สุขุมโดดเด่น หล่อเหลามากยิ่งขึ้นกว่าเดิม

“ผมขับรถมารอคุณตั้งแต่ช่วงก่อนหัวค่ำ ไม่คิดเลยนะครับว่าคุณจะเลิกงานดึกขนาดนี้” ชายหนุ่มเอ่ยเสียงเรียบ

ม่านนทีไม่นึกว่าจะเจอเขา จึงพลอยทำให้พูดไม่ออก

“บังเอิญ มีงานด่วนเข้ามาก็เลยเลิกดึกน่ะค่ะ” เธอถามอย่างไม่แน่ใจ

เตชิตเหยียดยิ้มบนเรียวปาก ดวงตาจับจ้องอยู่ที่เธอนิ่ง “งานด่วน...หรืออย่างอื่นกันแน่ครับ”

วาจาที่ฟังดูไม่คุ้นเคย ทำให้เธอรู้สึกแปลก ๆ

“มีอะไรหรือเปล่าคะ คุณเตชิต”

ร่างสูงภายใต้ชุดสูทสีเข้มเดินเข้ามาใกล้ ดวงตาสีน้ำตาลทอประกายบางอย่าง ที่ทำให้ม่านนทีรู้สึกอึดอัด

“รู้หรือเปล่าว่าหลายวันนี้ผมพยายามติดต่อคุณมากแค่ไหน แต่คุณกลับไม่ยอมรับโทรศัพท์ผมเลยสักครั้ง แล้วจะให้ผมทนเฉยอยู่ได้ยังไง” เขากล่าวอย่างชัดถ้อยชัดคำ

“เอ่อ...” หญิงสาวไม่กล้าสบตา “ช่วงนี้ฉันงานยุ่งมาก ต้องอยู่ทำงานดึกทุกคืนทำให้ไม่มีเวลารับโทรศัพท์น่ะค่ะ”

“คุณจงใจหลบหน้าผมอย่างนั้นสินะ”

ประโยคดังกล่าว ส่งผลให้ม่านนทีอึ้งไปชั่วขณะ

“หมายความว่ายังไงคะ”

เตชิตยิ้มหยัน ระหว่างที่เขายืนคอยเธอ ชายหนุ่มมองเห็นทุกอย่าง รวมไปถึงฉากที่ม่านนทีกับผู้จัดการหนุ่มทำท่าสนิทสนม หัวเราะหยอกล้อกันอย่างมีความสุขต่อหน้าต่อตา โดยไม่แคร์สายตาใครต่อใคร

ภาพดังกล่าวแตกต่างไปจากที่เขาคิดเอาไว้อย่างสิ้นเชิง ทั้งที่เตชิตอุตส่าห์ขับรถตระเวนหาจนกระทั่งรู้ที่ทำงานของหญิงสาว และยืนคอยเธออยู่นานหลายชั่วโมงด้วยความเป็นห่วง ด้วยเกรงว่าเธออาจคิดมากเรื่องสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าร่มเกล้า

แต่ที่ไหนได้...

กลับกำลังยิ้มหัวเราะอย่างมีความสุข กับผู้ชายสองต่อสอง

“ผมคงเป็นฝ่ายคิดมากไปเองที่เป็นห่วงคุณ แต่ดูจากเหตุการณ์เมื่อครู่นี้ คุณคงมีคนช่วยปลอบใจแล้วสินะ”

“คุณเตชิต” ม่านนทีขมวดคิ้วไม่พอใจ “เสียมารยาทเกินไปแล้วนะคะ”

ร่างบางรู้สึกผิดหวังนิด ๆ ที่เตชิตแสดงท่าทางไม่สุภาพออกมาให้เห็น แต่เธอคงลืมไปว่าเขาเองก็เป็นผู้ชายเต็มตัว เวลาถูกยั่วโมโหให้โกรธ ก็อาจแสดงอารมณ์ส่วนลึกออกมาให้เห็นได้เช่นกัน

“โกรธที่ผมพูดความจริงหรือครับ” ชายหนุ่มหยัดยิ้ม

“ฉันโกรธเพราะคุณทำตัวเหมือนเด็กต่างหาก”

พูดจบม่านนทีก็หมุนตัวเดินตรงไปที่รถ เตชิตก้าวยาว ๆ เพียงไม่กี่ก้าวก็ถึงตัวเธอ ร่างสูงเอื้อมมือคว้าแขนเรียวเอาไว้ ออกแรงดึงเข้ามาหาตัวโดยแรง จนม่านนทีตัวปลิวเข้าสู่อ้อมอกหนาอย่างง่ายดาย

“อ๊ะ”

“จะรีบไปไหน อยู่คุยกับผมก่อนสิ” เตชิตออกแรงรัดร่างบางเอาไว้ จนใบหน้าของทั้งคู่อยู่ห่างกันไม่ถึงคืบ

แก้มเนียนร้อนจัด ก่อนเปลี่ยนเป็นสีแดงระเรื่อ ดวงตาจ้องประสานกันในความมืดสลัว ใกล้ชิดมากเสียจนสัมผัสได้ถึงลมหายใจร้อนระอุ ราดรดบริเวณหน้าผากและเส้นผม

“คุณเตชิต จะทำอะไรคะ” หญิงสาวยกมือขึ้นดันเขา แต่เตชิตกลับออกแรงรัดมากยิ่งขึ้น “ปล่อย”

“อยู่กับผมรังเกียจมากนักหรือ ทีเวลาอยู่กับผู้ชายคนเมื่อกี้ ยังเห็นทำท่าหัวเราะหยอกล้อกันอย่างมีความสุขได้เลย”

เตชิตยิ้มหยัน ดวงตาคมดุเป็นประกาย ใบหน้าหล่อเหลาปราศจากรอยยิ้มอ่อนโยนเหมือนเช่นเคย ท่าทีที่เปลี่ยนไปเป็นคนละคน ทำให้ม่านนทีรู้สึกกลัวขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก ร่างบางพยายามหนีออกห่าง เตชิตจึงออกแรงดันเธอจนติดข้างประตูรถพร้อมกับโน้มใบหน้าลงไปหา

“คุณเตชิต” ม่านนทีรีบเบี่ยงหน้าหลบ

อารมณ์โกรธผสานกับความรู้สึกที่เก็บซ่อนเอาไว้ ทำให้เขาเผลอแสดงความไม่พอใจออกไป หญิงสาวดิ้นขลุกขลักอยู่ในอ้อมแขน ผินหน้าหนีริมฝีปากร้อนระอุที่ปัดไล้อยู่บนพวงแก้ม

“อย่าทำบ้า ๆ นะ”

เสียงตะโกนทำให้ชายหนุ่มได้สติ คลายมือออกจากร่างบางช้า ๆ

“ผมขอโทษ” เตชิตกระซิบเสียงแหบพร่า

ม่านนทีรีบผลักเขาออกห่าง “หยาบคาย ไม่คิดเลยว่าคุณจะเป็นคนแบบนี้”

หญิงสาวจ้องหน้าเตชิตอย่างกล่าวหา ใบหน้าคมคายเพียงแต่ระบายลมหายใจออกมาช้า ๆ หากไม่ใช่เพราะเธอแสดงท่าทางรังเกียจออกมาก่อน เขาก็คงไม่ทำอะไรบุ่มบ่ามแบบนี้เหมือนกัน

เตชิตลดมือลงเปิดประตูรถออกกว้าง

“เชิญครับ” น้ำเสียงฟังดูคล้ายกับการบังคับ มากกว่าเชื้อเชิญ

“ทำไมฉันต้องไปกับคุณด้วย”

“คุณจะเข้าไปนั่งดี ๆ หรือจะให้ผมอุ้มเข้าไปเลือกเอา” เตชิตพูดหน้าตาเฉย

หญิงสาวโกรธจนพูดไม่ออก

“อย่ามาล้อเล่นนะ”

“ผมพูดจริง แต่ถ้าคุณอยากลองสักครั้งก็ได้นะ” ชายหนุ่มย้ำชัด ท่าทางไม่บ่งบอกสักนิดว่ากำลังล้อเล่น “ผมจะนับหนึ่งถึงสาม ถ้าคุณยังไม่ยอมเข้าไปนั่งผมก็จะทำจริง ๆ เหมือนกัน”

“นี่คุณ...”

“หนึ่ง..สอง”

แทบไม่ต้องรอให้เขานับถึงสาม ร่างบางก็รีบเผ่นเข้าไปนั่งบนเบาะข้างคนขับอย่างรวดเร็ว เตชิตถอนหายใจยาวดันบานประตูปิดลงเบา ๆ เดินอ้อมเข้าไปประจำฝั่งคนขับ สตาร์ทเครื่องขับรถยนต์ออกสู่ท้องถนนอย่างเชื่องช้า

ม่านนทีนั่งนิ่งไม่ยอมพูดจา หันหน้าหนีออกไปนอกหน้าต่างราวกับเตชิตไม่มีตัวตน ไม่ช้าเธอก็ต้องแปลกใจ เมื่อพบว่าทิวทัศน์รอบข้างเปลี่ยนไปจากเดิม ราวกับว่าอีกฝ่ายจงใจขับรถออกสู่นอกเขตตัวเมือง

“คุณจะพาฉันไปไหนคะ” ม่านนทีกลั้นใจถามออกไป

“กลัวผมด้วยหรือ”

ใบหน้าคมคายยิ้มน้อย ๆ หักเลี้ยวพวงมาลัยออกสู่เส้นทางที่ม่านนทีไม่รู้จัก หญิงสาวมองออกไปนอกหน้าต่างแล้วก็ต้องหน้าแดงจัด เมื่อแลเห็นป้ายโรงแรมขนาดใหญ่วิ่งผ่านด้านข้าง

“กรุณาจอดรถให้ฉันลงด้วยค่ะ” ม่านนทีหันมาออกคำสั่ง ด้วยความโกรธ “ถ้าคุณไม่จอด ฉันจะร้องตะโกนให้คนช่วยจริง ๆ ด้วย”

“เสียใจด้วยครับ กระจกรถคันนี้เป็นระบบอัตโนมัติ”

“คุณเตชิต”

ม่านนทีทำท่าจะเปิดประตูรถ แต่ชายหนุ่มเอื้อมมือมาคว้าแขนเธอไม่ยอมปล่อย หญิงสาวใจเต้นแรง เมื่อจู่ ๆ เตชิตก็เลี้ยวรถยนต์เข้าไปในซอยแห่งหนึ่งในย่านสถานเริงรมย์เต็มไปด้วยแสงสี ม่านนทีได้แต่หลับตาแน่นเมื่อรถจอดสนิท ในใจนึกหวาดกลัวเขาอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน

“ลืมตาได้แล้วครับ” เสียงทุ้มนุ่มกระซิบข้างริมหู ส่งผลให้ม่านนทีสะดุ้งลืมตาถอยห่างออกมาทันที

“อย่าเข้ามานะ” หญิงสาวดิ้นรนเป็นพัลวัน เป็นตายยังไง เธอก็ไม่ยอมเข้าไปสถานที่แบบนั้นกับเขาเป็นอันขาด “ปล่อยฉัน”

ม่านนทีทำท่าร้องตะโกน เตชิตจึงรั้งร่างบางเข้าไปใกล้พร้อมกับเรียกชื่อเธอดัง ๆ

“คุณน้ำ”

หญิงสาวลืมตาขึ้นช้า ๆ สองหูได้ยินเสียงคลื่นน้ำพัดพาเข้าสู่ฝั่งเป็นระลอก ทำให้รู้ความจริงว่าสถานที่ที่เตชิตพามาคือลานจอดรถริมแม่น้ำเจ้าพระยา เป็นจุดชมวิวที่สามารถมองเห็นแสงไฟพราวระยับของเมืองยามค่ำคืน ได้อย่างสวยสดงดงาม

“ที่นี่มัน...” ม่านนทีกระซิบแผ่ว

“จุดชมวิวริมแม่น้ำเจ้าพระยาไงครับ ผมอยากชวนคุณมาที่นี่ตั้งนานแล้ว แต่ไม่มีโอกาสสักที” เตชิตเฉลย ดวงตาเป็นประกาย

ม่านนทีนิ่งอึ้งไปชั่วขณะ

“ขอโทษค่ะ ตอนแรกฉันคิดว่าคุณจะ...เอ่อ” หญิงสาวหน้าแดง รู้สึกอายในความคิดอย่างบอกไม่ถูก

“คิดว่าผมจะพาคุณเข้าโรงแรมใช่ไหม” ใบหน้าคมคายกล่าวอย่างรู้ทัน “วางใจได้ ผมจะไม่ทำแบบนั้นเด็ดขาด”

“...ค่อยโล่งใจหน่อย” ม่านนทีรำพึงเสียงเบาจนแทบไม่ได้ยิน

เตชิตมองเธอด้วยแววตาเป็นประกาย

“นอกเสียจาก...คุณจะเต็มใจ”

ถ้อยคำสั้น ๆ แต่ย้ำชัด ทำเอาคนฟังถึงกับสะดุ้ง ยกกำปั้นขึ้นทุบบ่ากว้างแรง ๆ

“คนบ้า ไม่มีวันซะหรอก”

เตชิตหัวเราะในลำคอ ยกแขนขึ้นปัดป้องกำปั้นเล็ก ๆ ที่กำลังทุบเอา ทุบเอาด้วยความโกรธ ร่างสูงรวบจับข้อมือบางเอาไว้พร้อมกับดึงเข้าหาตัว ทำเอาม่านนทีเข้าไปอยู่ในอ้อมกอดชายหนุ่มอย่างไม่ตั้งใจ หญิงสาวดิ้นขลุกขลัก แก้มเนียนเปลี่ยนเป็นสีชมพูระเรื่อ

“ปล่อยนะ คนฉวยโอกาส” เธออ้าปากต่อว่า หลังจากถูกกอดถึงสองครั้งในคืนเดียว

“ช่วยไม่ได้ คุณน้ำอยากปิดบังผมก่อนทำไม” เขาเอ่ยน้ำเสียงจริงจัง

“คุณพูดเรื่องอะไร”

เตชิตจ้องลึกเข้าไปในดวงตาคู่สวย พยายามค้นหาคำตอบที่อีกฝ่ายพยายามปิดบังเอาไว้ ความจริงเขาต้องการได้ยินจากปากของม่านนทีเองมากกว่า แต่ในเมื่อเธอไม่ยอมเปิดใจให้ เตชิตจึงจำเป็นต้องหาวิธีคาดคั้นด้วยตัวเอง

“ทำไมคุณถึงไม่ยอมบอกผม เรื่องสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าร่มเกล้า”

ม่านนทีตกใจ “คุณ...ทราบได้ยังไงคะ”

“วันนี้ผมเข้าไปที่นั่นมา ครูวิภาอธิบายเรื่องทั้งหมดให้ผมฟังหมดแล้ว บอกผมซิคุณน้ำ...ว่าทำไมคุณเอาแต่เก็บเงียบ ไม่ยอมปรึกษาผมสักคำ” ร่างสูงออกปากตำหนิ

“คุณเตชิต”

“รู้หรือเปล่าว่าผมเป็นห่วงคุณแค่ไหน ครูวิภาเล่าว่าคุณเอาแต่ทำงานหามรุ่งหามค่ำ เพื่อเก็บเงินไถ่ที่ ผู้หญิงตัวคนเดียวจะทำรับผิดชอบไหวได้ยังไง”

ม่านนทีเม้มเรียวปากเข้าหากันอย่างไม่ชอบใจนัก รู้ดีว่าเงินหนึ่งล้านไม่ใช่จะหากันได้ง่าย ๆ แต่ที่ไม่อยากได้ยินที่สุด ก็คือคำพูดเชิงดูถูกนี่แหละ

“แต่ฉันก็กำลังทำอยู่นี่ไงคะ แล้วก็มั่นใจว่าต้องสำเร็จด้วย” เธอตอบอย่างมั่นใจ

เตชิตถอนหายใจยาว ดูเหมือนว่าอีกฝ่ายจะเข้าใจกันคนละความหมาย

“ผมรู้ว่าคุณทำได้ แต่ไม่อยากเห็นคุณต้องแบกรับภาระมากเกินไปต่างหาก ผมอยู่ข้างเดียวกับคุณนะคุณน้ำ และยินดีช่วยเหลือทุกวิถีทาง ขอเพียงคุณเอ่ยปาก”

เตชิตทำท่าจะอาสา แต่หญิงสาวชิงขัดขึ้นเสียก่อน

“ขอบคุณค่ะที่เป็นห่วง แต่ฉันดูแลตัวเองได้”

“คุณน้ำ”

“ขอโทษนะคะคุณเตชิต แต่ฉันรู้ดีว่ากำลังทำอะไรอยู่ สถานเลี้ยงเด็กกำพร้าร่มเกล้าถือเป็นบ้านหลังที่สองของฉัน และจะไม่ยอมปล่อยให้มันหลุดมือไปเด็ดขาด”

เธอกล่าวอย่างถือทิฐิ ไม่คิดออกปากขอความช่วยเหลือจากใคร

“เพราะฉะนั้น คุณไม่จำเป็นต้องเดือดเนื้อร้อนใจหรอกค่ะ”

คิ้วเข้มขมวดเข้าหากันทันที

“คุณพูดว่ายังไงนะ” เขาถามน้ำเสียงกรุ่นโกรธ

ม่านนทียกมือขึ้นดันร่างหนาออกห่าง ตั้งใจเอาไว้แล้วว่าจะไม่ยอมรับการช่วยเหลือใด ๆ จากเตชิต เพราะน้ำใจที่เขาหยิบยื่นให้กับสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าร่มเกล้า ก็มากมายเกินพออยู่แล้ว

“ฉันรู้ค่ะว่าคุณเป็นคนมีน้ำใจ แต่ไม่อยากให้เรื่องนี้ต้องกลายเป็นภาระมาสู่คนนอกที่ไม่เกี่ยวข้อง แรกเริ่มเดิมทีคุณเองก็ไม่มีส่วนยุ่งเกี่ยวกับเรื่องในชุมชนอยู่แล้ว เพราะฉะนั้นปล่อยให้พวกเราแก้ปัญหากันเองดีกว่า”

ใบหน้าคมคายเข้มขึ้นตามสภาวะอารมณ์ เรียวปากเหยียดโค้งที่มุมปาก หลังจากรู้ว่าอีกฝ่ายเห็นตนเป็นเพียง ‘คนนอก’ ที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใด ๆ

“คนนอกงั้นหรือ” เตชิตกล่าวทวน “แปลว่าในสายตาของคุณ เห็นผมเป็นเพียงคนนอกที่ไม่มีความหมายใด ๆ เลยสินะ”

“เข้าใจผิดแล้วค่ะคุณเตชิต ฉันเพียงแต่...อ๊ะ”

ขาดคำเบาะนั่งของม่านนทีก็ถูกผลักหงายลงไปด้านหลัง ก่อนที่ร่างบางจะถูกผลักให้เอนกายตามลงไปในอีกไม่กี่วินาทีต่อมา เตชิตใช้ฝ่ามือกดไหล่บางลงกับพนักพิง โดยมีร่างสูงแนบชิดตามลงมาติด ๆ ม่านนทีอุทานด้วยความตกใจ ยกมือขึ้นดันเขาออกห่าง ชายหนุ่มจึงรวบจับข้อมือบางไว้ด้วยกัน พร้อมกับโน้มใบหน้าลงไปหา

“คุณเตชิต จะทำอะไรคะ”

“ผมจะทำให้คุณแน่ใจ ว่าผมไม่ได้คิดที่จะเป็นเพียงคนนอกน่ะสิ” เตชิตเอ่ยน้ำเสียงเย็นชา ยกมือข้างที่เหลือขึ้นคลายเนคไทออกช้า ๆ ดวงตาเป็นประกายคมดุก่อนโน้มเรียวปากลงไปหาเธอในระยะประชั้นชิด

“คุณเตชิต”

ม่านนทีพยายามเบี่ยงหน้าหนี แต่ก็ไม่พ้นเมื่อเตชิบีบคางมน บังคับให้หญิงสาวเงยหน้าขึ้นรับจุมพิตอย่างไม่อาจหลีกเลี่ยง ริมฝีปากร้อนระอุบดเบียดจนไร้ช่องว่าง ร่างบางพยายามดึงมือออกจากฝ่ามือใหญ่แต่ก็ไร้ผล

สิ่งที่เธอทำได้มีเพียงการเม้มริมฝีปากบางเฉียบแนบแน่น ไม่ให้เขารุกรานมากไปกว่านี้ แต่เมื่อเตชิตเปลี่ยนวิธีด้วยการเลื่อนริมฝีปากขึ้นไปตามใบหูและเป่าลมหายใจอุ่นราดรด ม่านนทีก็เผลอตัวร้องอุทานแผ่ว เปิดโอกาสให้ชายหนุ่มวกกลับขึ้นมาแทรกปลายลิ้นอุ่นจัดเข้าไปชิมรสหวานภายในตามความปรารถนา

“อื้อ...”

หญิงสาวครางแผ่วในลำคอตัวสั่นสะท้าน...ตั้งแต่เกิดมายังไม่เคยสัมผัสลึกซึ้งจากผู้ชายคนไหนมาก่อนในชีวิต ม่านนทีพยายามถอยหนี แต่ถูกฝ่ามือใหญ่เลื่อนขึ้นมากระชับหลังศีรษะแน่น บดเบียดริมฝีปากร้อนระอุจนแทบไม่มีที่ว่างสำหรับหายใจ เรี่ยวแรงที่เคยผลักดันร่างหนาออกบัดนี้ถูกดูดซับออกไปเกือบหมดสิ้น กลีบปากนุ่มถูกรุกรานแนบสนิท รุ่มร้อนเสียจนเธอรู้สึกเหมือนกำลังจะขาดใจ

ร่างสูงแนบชิดลงมา กระทั่งรู้สึกถึงแรงเต้นของหัวใจ รอยจูบที่ไม่คุ้นเคยทำให้ม่านนทีรู้สึกราวกับตกอยู่ในห้วงมนต์ คิดอ่านอะไรไม่ออก...หญิงสาวครางแผ่วเมื่อริมฝีปากได้รูปเลื่อนขึ้นไปตามใบหูหอมกรุ่น พลางกระซิบแผ่ว

“บอกผมสิคุณน้ำ ว่าผมเป็นอะไรสำหรับคุณ”

“คุณเตชิต..."

ม่านนทีพยายามจะอธิบาย แต่ริมฝีปากอบอุ่นไม่เปิดโอกาสให้โดยง่าย แรกเริ่มเตชิตเพียงต้องการให้เธอยอมรับ ว่าเขาเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในชีวิต หากแต่สัมผัสนุ่มละมุนและความอ่อนหวานที่ได้รับจากเธอ ทำให้เลือดในกายร้อนระอุขึ้นมาจนยากที่จะควบคุม

ชายหนุ่มสอดฝ่ามือเข้าไปใต้แผ่นหลัง...กอดกระชับร่างบางจนแนบชิดกับลำตัวพร้อมกับไล้ปลายลิ้นอุ่นจัดกับเรียวปากด้านในของม่านนที จนหญิงสาวสั่นสะท้าน วินาทีหนึ่งเตชิตพยายามฝืนความต้องการของตัวเอง เมื่อตระหนักว่ากำลังถลำลึกสู่ห้วงปรารถนาที่ยากจะควบคุม ทว่ายิ่งสัมผัสเธอมากเท่าไหร่ ร่างกายก็ดูเหมือนจะยิ่งทำในสิ่งตรงกันข้ามโดยสิ้นเชิง ฝ่ามือเล็กพยายามดันแผ่นอกกว้างให้ถอยห่างออกไป...แต่ทว่าสัมผัสดังกล่าว กลับทำให้เขาแทบเป็นบ้า

“ไม่”

เสียงอุทานแผ่ว ทำให้เตชิตได้สติหยุดตัวเองไว้เพียงเท่านั้น ใบหน้าคมคายถอนหายใจยาว ยกปลายนิ้วขึ้นลูบไล้แก้มเนียน มองลึกเข้าไปในดวงตากลมโตอย่างต้องการคำตอบ

“ม่านนที” เตชิตเรียกชื่อเต็มของเธอ หวังใช้ความอ่อนโยน ละลายหัวใจของหญิงสาว

นับตั้งแต่วินาทีแรกที่ชายหนุ่มเห็นหน้าเธอ เตชิตก็บอกกับตัวเองว่าจะไม่ยอมปล่อยให้ม่านนทีหลุดมือไปเป็นอันขาด แม้ก่อนหน้านี้อาจเคยคิดกังวลอยู่บ้างเพราะคิดว่าเธอเป็นว่าที่เจ้าสาวของเพื่อนสนิท แต่เมื่อรู้ความจริงแล้วว่าหญิงสาวเป็นเพียงคนธรรมดา ชายหนุ่มก็ไม่อาจห้ามความรู้สึกที่มีต่อเธอได้อีกต่อไป

“ผมรักคุณ” เขากระซิบแผ่ว “ทุกสิ่งทุกอย่างที่ผมทำลงไป เพียงเพราะว่าผมหลงรักคุณเท่านั้นเอง เข้าใจหรือยัง”

ม่านนทีรู้สึกคล้ายกับคนที่เพิ่งตื่นจากความฝัน

“คุณเตชิต...”

หัวใจที่กำลังปวดร้าวเพราะความโกรธและเสียใจ ถูกแทนที่ด้วยความอ่อนโยนตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่มีใครทราบได้ ดวงตาของทั้งคู่ประสานกันในความมืดสลัว แต่กลับรับรู้ถึงความรู้สึกที่แสดงออกมาได้อย่างชัดเจน

“ผมขอโทษที่ทำตัวฉวยโอกาสกับคุณ” เตชิตยอมรับผิดอย่างลูกผู้ชาย “...แต่ผมไม่อยากเป็นเพียงคนนอกสำหรับคุณ”

ชายหนุ่มจรดริมฝีปากลงกับปลายนิ้วเรียว ถ่ายทอดความอบอุ่นเข้าสู่หัวใจดวงน้อย สร้างความไหวหวั่นให้กับม่านนทีจนอธิบายไม่ถูก

“คุณเตชิต”

“สัญญากับผมสิคุณน้ำ ว่าผมจะเป็นคนแรกที่คุณนึก ถึงยามเมื่อคุณประสบปัญหา”

ความมีน้ำใจของเตชิต ทำให้ม่านนทีหักใจโกรธเขาไม่ลง โดยเฉพาะอย่างยิ่งยามสบดวงตาสีน้ำตาลอบอุ่นคู่นั้น หัวใจของหญิงสาวก็ไหวเอนอย่างอธิบายไม่ถูก

“ค่ะ..ฉันสัญญา” ม่านนทีก้มหน้ากระซิบแผ่ว สัมผัสร้อนรุ่มบนเรียวปากยังไม่ยอมจางหายไป เตชิตระบายยิ้มออกมาน้อย ๆ พลางโน้มใบหน้าเข้าไปใกล้มากกว่าเดิม

“คุณพูดจริงหรือ” เขาถามย้ำ

“ค่ะ”

“ถ้าอย่างนั้น เรื่องหนี้สินของสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าให้ผมเป็นคน...” เตชิตอ้าปากจะเสนอตัวช่วย แต่ม่านนทีรู้เจตนาของชายหนุ่มดี จึงเอ่ยขัดขึ้นเบา ๆ

“เรื่องนั้นขอฉันเป็นคนจัดการเองเถอะค่ะ”

ใบหน้าคมคายขมวดคิ้วเข้าหากัน

“คุณน้ำ”

“ขอบคุณที่มีน้ำใจนะคะ แต่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้าร่มเกล้ามีความสำคัญต่อฉันมาก เพราะฉะนั้นฉันจึงอยากใช้ความสามารถของตัวเอง เพื่อดำรงรักษามันไว้ แต่ถ้าหากว่ามันไหวจริง ๆ ฉันจะออกปากขอความช่วยเหลือจากคุณเองค่ะ”

เห็นได้ชัดว่าเขาไม่อาจเปลี่ยนแปลงความตั้งใจของม่านนทีได้ เตชิตจึงเพียงแต่ถอนหายใจช้า ๆ ยอมรับความมุ่งมั่นของเธอแต่โดยดี

“ก็ได้ครับ ถ้าคุณยืนยันแบบนั้นผมก็จะไม่บังคับคุณอีก” ร่างสูงเอ่ยยิ้ม ยกปลายนิ้วขึ้นลูบแก้มเนียนแผ่วเบา “แต่ถ้าเมื่อไหร่ที่คุณหักโหมจนสุขภาพแย่ลง ผมจะรีบยื่นมือเข้าไปขัดขวางทันทีเลย”

“คุณเตชิต”

ม่านนทีเงยหน้าขึ้นสบดวงตาเป็นประกาย ก่อนที่ร่างบางจะถูกดึงเข้าไปโอบกอดไว้ในอ้อมแขนอบอุ่น หญิงสาวตัวแข็งขึ้นมาเล็กน้อยก่อนจะยอมโอนอ่อนผ่อนตามแต่โดยดี สัมผัสแนบชิดและไออุ่นจากอ้อมแขนแข็งแรง ทำให้ม่านนทีเผลอยกแขนขึ้นกอดตอบแผ่วเบา

ชั่ววินาทีหนึ่ง ม่านนทีนึกปรารถนาให้เวลาหยุดไว้เพียงเท่านี้

ซึ่งมีเพียงเขาและเธอเคียงคู่กันตลอดไป...

**********************

หวานจนน้ำตาลขึ้นค่ะคู่นี้ (^ ^)
ทำเอาเบลินญา น้ำตาลในเลือดสูงปรี๊ดเลยทีเดียวเชียว
ขอบคุณมากนะคะที่ติดตามอ่านนิยายเรื่องนี้
อีกเรื่องหนึ่งที่อยากฝากให้อ่านก็คือ นิยายเรื่อง ภูฟ้าใต้แสงดาว
ที่มีกำหนดตีพิมพ์กับ สนพ.บ้านอรุณ ต้นเดือนตุลาคม นี้
ถ้าได้ปกแล้ว จะเอามาฝากให้ชมกันค่ะ

เบลินญา





เบลินญา
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 30 ก.ย. 2554, 15:20:53 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 30 ก.ย. 2554, 15:20:53 น.

จำนวนการเข้าชม : 2790





<< ตอนที่ 11 ช่องว่างในหัวใจ   ตอนที่ 13 กามเทพแผลงศร >>
violette 30 ก.ย. 2554, 15:54:32 น.
หวานนนนมากจริงๆค่ะคู่นี้ ชอบบบๆๆ


anOO 30 ก.ย. 2554, 18:48:25 น.
ยัยน้ำจะเป็นหญิงเหล็กรึไง ถึงไม่ยอมรับความช่วยเหลือ
แต่ก็ดีแล้วล่ะ ไว้ไม่ไหวจริงๆ ค่อยบอกก็ได้เนอะ


เบลินญา 30 ก.ย. 2554, 21:21:22 น.
ขอบคุณทุก ๆ คอมเม้นท์เลยค่ะ


เบลินญา 30 ก.ย. 2554, 21:31:08 น.
ตอนหน้าจะเอาคู่เซี้ยวมาฝากค่ะ


Zephyr 30 ก.ย. 2554, 23:40:54 น.
น้ำ อย่าหักโหมนะ คุณเตพร้อมจะช่วยอยู่แล้ว คุณเตสารภาพรักได้น่ารักน่าหยิกทีเดียว แต่ฉวยโอกาสได้น่าตบสุดๆ ^^


pattisa 2 ต.ค. 2554, 01:50:43 น.
เตชิตน่ารักมากกกกก


bloomberg 12 ต.ค. 2554, 14:46:22 น.
น้ำตาลพุ่งขึ้นตาเลยตอนนี้ ยังเหลือมั๊ยอ่ะ ผู้ชายแบบเตชิตเนี่ย


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account