พิศวาสรัก จอมใจอสูร (ตีพิมพ์แล้วในชื่อ เพลิงรักมนต์สวาท)
พิศวาสรักจอมใจอสูร

เพียงดาว บุตรสาวคนโตของตระกูลดัง ผู้มีความสวยบวกความมั่นใจและนิสัยเย่อหยิ่ง ได้รับรู้ว่าน้องสาวของเธอ เพียงฟ้าที่แสนจะอ่อนโยนและอ่อนแอถูกพ่อบังคับให้แต่งงานกับผู้ชายวัยคราวลุงซึ่งเป็นเศรษฐีบ้านนอกไม่ใช่เพราะเงินตราแต่เป็นสัญญาใจของคนเป็นพ่อ เธอรู้สึกสงสารน้องสาวเพราะรู้ดีว่า เพียงฟ้ามีคนรักอยู่แล้วอีกทั้งรังเกียจที่เลือดไฮโซของพวกเธอจะต้องไปปะปนกับเลือดเศรษฐีบ้านนอก แต่ด้วยความที่รักน้องและก่อนตายมารดาได้ฝากฝังน้องสาวเอาไว้กับเธอให้ช่วยดูแล

ทำให้เพียงดาวตัดสินใจไปเป็นสะใภ้บ้านไร่แทนน้องสาว และส่งเพียงฟ้าไปอยู่เมืองนอกสลับตัวกันระหว่างเดินทางซึ่งเมื่อคุณศรุตผู้พ่อรู้ความจริงเข้าก็ไม่สามารถจะทำอะไรได้แล้วต้องปล่อยให้เป็นไปตามนั้นแต่ลงโทษบุตรสาวคนโตด้วยการตัดออกจากกองมรดกและบอกว่าหากเธออยู่ที่บ้านไร่ไม่ได้ก็ไม่ต้องคิดเผยอหน้าชูคอกลับมาที่คฤหาสน์อัศวเทพอีก

เพียงดาวจำต้องยอมรับในโชคชะตา ทันทีที่เธอไปถึงบ้านไร่ก็พบว่าผู้ชายแก่คราวพี่ชายพ่อคนนั้นได้ตายไปแล้วเพราะเป็นโรคหัวใจ แถมก่อนตายได้เขียนมรดกยกเธอให้เป็นภรรยาของน้องชายคนเดียวของเขาแทนนั่นคืออัศนัยเจ้าของไร่องุ่นวัยสามสิบเศษและเป็นเจ้าของทุ่งทานตะวันที่ใหญ่ที่สุดในลพบุรีด้วย นอกจากนี้เขายังมีโรงงานแปรรูปผลผลิตจากไร่ ซึ่งโดยรวมแล้วเขาไม่ได้บ้านนอกอย่างที่เธอคิด เขาทั้งหล่อ และรวยกว่าตระกูลของเธอมาก และเขาก็มองเธอเป็นแค่เพียงยัยตุ๊กตายางไฮโซเสื่อมคุณภาพที่ได้รับมรดกมาเท่านั้น

ความเย่อหยิ่งของเธอทำให้อัศนัยแอบหมั่นไสร้เขาแกล้งเธอต่างๆนาๆ แถมยังไม่ยอมบอกด้วยว่าเขารู้ความจริงแต่แรกแล้วว่าเธอคือเพียงดาว ไม่ใช่เพียงฟ้า อัศนัยให้เธอเลือกว่าจะทำงานบนเตียงหรือทำงานในไร่แต่เพียงดาวเลือกทำงานในไร่เขาจึงใช้เธอเยี่ยงทาส แต่ก็ทำให้สาวสวยไฮโซผู้เย่อหยิ่งรู้ว่าน้ำใจของคนจนๆนั้นมีมากกว่าพวกไฮโซที่เธอเคยรู้จักเพราะคนงานในไร่หลายคนทำดีต่อเธอมากโดยไม่ได้หวังสิ่งตอบแทน

เพียงดาวอยากจะแก้แค้นอัศนัยที่คอยกลั่นแกล้งเธอ หญิงสาวจึงหาที่ระบายอารมณ์ด้วยการกลั่นแกล้งแฟนสาวสุดแสนเรียบร้อยของอัศนัยแทนเธอชื่อเพลงพิณ มักจะมาหาอัศนัยที่ไร่อยู่บ่อยๆ และอัศนัยก็แสดงออกว่ารักเธอเอามากๆ จนครั้งหนึ่งเพียงดาวเกือบทำให้เพลงพิณพลาดท่าเสียทีนักเลงกลุ่มหนึ่ง ซึ่งอัศนัยโกรธมากเขาจึงลงโทษเธออย่างรุนแรงพรากความสาวของเธอไปอย่างไม่ไยดี ทำให้เธอได้รู้บ้างว่านรกมันเป็นอย่างไรแต่แล้วความโกรธเกรี้ยวทั้งหมดก็ค่อยๆมลายหายไปเมื่ออัศนัยได้ค้นพบว่าหญิงสาวไม่ได้เลวร้ายแบบที่เขาคิดและที่สำคัญเขาตกหลุมรักเธอไปตั้งแต่ตอนไหนก็ไม่รู้

แต่กว่าคนทั้งคู่จะปรับความเข้าใจกันได้ก็เล่นเอาคนรอบข้างเหนื่อยไปตามๆ กันเพราะเพียงดาวสวยน้อยเสียเมื่อไหร่เธอทำให้หัวใจชายหนุ่มหลายๆคน ไม่ว่าจะเป็นอรรณพเจ้าของห้างทองชื่อดัง หรือพีระนักวิชาการเกษตรแย่งกันแจกขนมจีบเธอจ้าละหวั่น แต่ก็ไม่มีใครเอาชนะใจเธอได้เพราะอัศนัยใช้สิทธิ์ความเป็นเจ้าของเธอ บีบให้ชายหนุ่มทั้งหลายสละสิทธิ์ไปที่ละคนจนเหลือเขาคนเดียวที่จะนั่งอยู่ภายในหัวใจของเธอ

++++++++++++++++++++++++++

Tags: ไร่ทานตะวัน

ตอน: ตอนที่ 6

ตอนที่ 6

แม่แช่มลอบมองเพียงดาวอยู่หลายครั้งและรู้สึกว่าใบหน้าเธอละม้ายคล้ายกับคนสองคน คนหนึ่งที่ล่วงลับไปแล้วอดีตเจ้าของไร่นรบดี คุณอนิรุตน์ อีกคนก็คือคนที่หญิงสาวบอกว่าเป็นแม่ของเธอคุณยุพเรศ
“ป้าแช่มคะ หน้าของดาวมีอะไรผิดปกติหรือเปล่าคะ” เพียงดาวแซวเพราะเห็นสายตาของแม่บ้านแอบลอบมองมาที่เธออยู่หลายครั้ง

“ปะ ปะ เปล่าค่ะคุณดาว ป้าแค่จะมาบอกคุณว่า คุณอั๊ดเธอสั่งเอาไว้ว่าเที่ยงนี้เธอจะกลับมาทานข้าวด้วยและมีธุระกับคุณดาวค่ะ”

“อย่างนั้นเองเหรอคะ”

“น้องตะวันคะไปกับป้าแช่มนะคะอย่าเพิ่งกวนคุณดาวเธอเลย” แม่บ้านสูงวัยเห็นว่าเพียงดาวเพิ่งเข้ามาอยู่ใหม่จึงอยากให้เธอมีเวลาได้พักผ่อน


“ไม่ค่ะ ตะวันนั่งตรงนี้ก่อน”สาวน้อยทำท่าทีดื้อดึง

“ไม่เป็นไรหรอกค่ะป้าแช่ม มีน้องตะวันอยู่ด้วยดาวจะได้รู้สึกไม่เหงา แกพูดเก่งทำให้ดาวไม่รู้สึกเบื่อ”

“ถ้าอย่างนั้นดิฉันฝากด้วยนะคะ แต่ถ้าหากแกกวนคุณก็บอกดิฉันนะคะ ดิฉันจะพาแกไปดูแลเอง”

“ค่ะ” เพียงดาวส่งยิ้มให้แม่บ้าน จากนั้นแม่บ้านจึงขอตัวไปทำงานในครัว

“น้องตะวัน น้าดาวสอนการบ้านให้เอาไหมคะ” เพียงดาวเสนอตัวเพราะอยากเป็นมิตรกับสาวน้อย

“ไม่เอาหรอก” คนตัวเล็กตาแป๋วกอดอกเชิดหน้าขึ้น

“ทำไมล่ะคะ”

“เพราะ...หนูเก่ง”


“โอ้โฮ” เพียงดาวยกมือขึ้นกุมหน้าผากและหัวเราะเบาๆ

เด็กหญิงจ้องเพียงดาวตาแป๋ว “ตะวันจ้ะ จ้องน้าดาวแบบนั้นมีอะไรหรือเปล่าน้าดาวทำอะไรผิดหรือจ้ะ”

“ไม่ได้ทำอะไร แต่คนไม่สวยทำอะไรก็ผิดเสมอ” สาวน้อยเชิดหน้าพูดขึ้น ในหัวของเด็กหญิงกำลังเทียบความสวยระหว่างยัยเพลงพิณผู้หญิงที่พ่ออั๊ดขยันเอาอกเอาใจแต่ชอบแอบร้ายกับเธอลับหลัง กับผู้หญิงมาใหม่ที่พ่อบอกว่าจะเอามาช่วยสอนการบ้านเธอใครสวยกว่ากัน และเด็กหญิงก็ได้ข้อสรุป


“ว้า...แย่จังน้าดาวไม่สวยแล้วใครสวยล่ะ” เพียงดาวแกล้งถาม


ลำแขนเรียวเล็กของสาวน้อยชูขึ้นทั้งสองแขน

เพียงดาวหัวเราะออกมาอีกครั้งกับความไร้เดียงสาและหลงตัวเองของคนตัวเล็ก ในขณะที่เพียงดาวพยายามทำความรู้จักกับเด็กหญิงไปเรื่อยๆ เพลงพิณก็เดินเข้าบ้านมาในชุดสวยสีชมพูหวานสดใสตามสไตล์ของเธอ

“สวัสดีค่ะคุณเพียงดาว กำลังทำอะไรอยู่เหรอคะ” เพลงพิณแสดงท่าทีเป็นมิตรแต่เพียงดาวดูออกว่าภายใต้ใบหน้าสวยคงไม่ได้ชอบเธอนัก แต่เธอมีผลประโยชน์ต่างหากเพราะถ้าเพียงดาวไม่ยอมแต่งงานกับอัศนัยเพลงพิณก็จะชวดสมบัติมูลค่ามหาศาลไปด้วย

“สวัสดีค่ะคุณเพลงพิณ”

“พอดีพิณแวะมาหาคุณอั๊ดเขาน่ะคะ แต่นึกขึ้นได้ว่าคุณดาวมาอยู่ที่นี่ใหม่ๆอาจจะเหงาก็เลยแวะมาเยี่ยม”

“ขอบคุณนะคะที่ยังอุตสาห์คิดถึงคนไกลบ้านอย่างดาว”

“ไม่เป็นไรหรอกค่ะ ก็คุณกำลังจะมาเป็นภรรยาของแฟนพิณนี่คะ เราก็ต้องทำความรู้จักกันเอาไว้”

คำพูดของเพลงพิณทำให้เพียงดาวรู้สึกแปลกๆ เหมือนผู้หญิงตรงหน้าพยายามจะข่มให้เพียงดาวรู้ตัวว่าอัศนัยเป็นของเธอ การแต่งงานกับเพียงดาวเกิดขึ้นเพราะผลประโยชน์ล้วนๆ

“อย่างนั้นเหรอคะ”เพียงดาวนิ่ง

“นี่ยัยตะวันมานั่งเจ๋ออะไรอยู่ตรงนี้ หลบไปนั่งที่อื่นไปฉันมีเรื่องจะคุยกับคุณดาวเขา”เพลงพิณพยายามไล่เด็กหญิงที่นั่งเล่นออกไปให้พ้นจากโซฟา

“แต่น้องตะวันมานั่งอยู่ก่อนนะคะน้าพิณ” สาวน้อยแก้มแดงเถียงและไม่ยอมลุกขึ้น

“นี่เถียงฉันเหรอยัยตะวัน เป็นเด็กเป็นเล็กเลี้ยงเสียข้าวสุกแท้ๆ ระวังตัวให้ดีเถอะฉันจะให้คุณอั๊ดเฉดหัวแกไปอยู่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้า”

เพียงดาวไม่อยากจะเชื่อสายตา มันเป็นแบบที่เธอคิดเอาไว้จริงๆ เพลงพิณเป็นแม่มดในคราบนางฟ้า


“น้าพิณใจร้าย” เด็กหญิงทำทีจะร้องไห้ แต่ก็ไม่สิ้นฤทธิ์เธอหยิบสีเมจิกที่ใช้ระบายภาพขีดไปที่กระโปรงสีชมพูอ่อนตัวสวยของเพลงพิณ

ว้าย! “ตายแล้วอีนังเด็กนรก” เพลงพิณกระชากสาวน้อยขึ้นมาจากโซฟาหนานุ่มแล้วเงื้อมือจะตี แต่คนที่ถูกลงโทษกับไม่ใช่สาวน้อยตะวัน

เพราะในวินาทีต่อมาเพลงพิณต่างหากที่ถูกผลักจนกระเด็นและล้มลงกับพื้น

“นี่คุณเด็กตัวแค่นิดเดียว คุณพิณจะเอาอะไรกับแกนักหนา เด็กนั่งอยู่ก่อนคุณน่ะมาทีหลังจริงๆ ถ้าคุณต้องการจะนั่งตรงนี้ก็ควรจะบอกแกดีๆไม่ใช่พูดจาสุนัขไม่รับประทานกับเด็กแล้วยังจะลงไม้ลงมือกับแกแบบนี้อีก”

“เยี่ยม เยี่ยม น้าดาวเยี่ยม เยี่ยม” เด็กหญิงตะวันชูนิ้วโป้งทั้งสองข้างไปทางเพียงดาว สายตาเธอยามมองเพียงดาวเป็นมิตรมากขึ้น

“นี่คุณดาวกล้าทำกับพิณแบบนี้เหรอคะ” เพลงพิณไม่อยากจะเชื่อสายตาว่าเธอถูกเพียงดาวผลักจนล้ม พอดีกับที่อัศนัยกลับมาถึงบ้านพอดี เพลงพิณจึงอิดออดไม่ยอมลุกขึ้นเผื่อเวลาให้อัศนัยเห็น

“อะไรกันครับพิณทำไมคุณถึงเป็นแบบนี้ล่ะครับ” อัศนัยรีบเข้ามาประคองเพลงพิณ และมองไปที่เพียงดาว

เพลงพิณกำลังจะตอบแต่ทว่าเพียงดาวชิงพูดขึ้นก่อน “พอดีว่าคุณพิณเธอเป็นคนดีมีน้ำใจนะคะ เมื่อสักครู่หนูตะวันแกกำลังจะล้มคุณพิณช่วยฉุดแขนเอาไว้เลยเสียหลักล้มเสียเอง”


สาวน้อยตะวันแอบยักคิ้วให้เพลงพิณ ในระหว่างที่อัศนัยหันไปถามเพลงพิณ


“จริงเหรอครับพิณ อัศนัยหันไปถามเพลงพิณ”

“เอ่อ...จริงค่ะ” เพลงพิณยิ้มเจื่อนๆ โกรธทั้งเพียงดาวและเด็กกาฝากอย่างตะวันแต่ตอนนี้เธอจะมีปัญหากับเพียงดาวไม่ได้เพราะถ้าเพียงดาวไม่ยอมแต่งงานกับอัศนัยขึ้นมา เธอก็จะชวดมรดกร้อยล้านไปด้วย แต่เมื่อเห็นพิษสงของเพียงดาวที่ค่อยๆ เผยออกมาทีละนิดทำให้เพลงพิณไม่แน่ใจว่าทุกอย่างจะง่ายแบบที่เธอหวังไว้รึเปล่า


“พิณของผมช่างเป็นคนมีน้ำใจจริงๆ ”


“ไม่เป็นไรหรอกค่ะ ก็หนูตะวันเป็นลูกสาวคุณก็เปรียบเสมือนลูกสาวของพิณด้วย”

อัศนัยค่อยๆประคองเพลงพิณมานั่งบนโซฟา “เจ็บไหมครับล้มแรงไหม ผมดูเท้าให้ไหมพิณ”

“เลี่ยน”เพียงดาวนึกหมั่นไสร้อัศนัย และมองสาวน้อยตัวเล็กอย่างนึกสงสารถึงเธอจะแสบสักหน่อย แต่ที่ผ่านมาเด็กหญิงคงไม่ได้สบายนักเพราะท่าทางยัยเพลงพิณจะไม่ชอบหนูน้อยสักเท่าไหร่

“พูดแบบนี้หมายความว่ายังไงครับ” อัศนัยเงยหน้าขึ้นมามองเพียงดาว

“เปล่า ฉันทานของว่างเมื่อครู่แล้วรู้สึกเลี่ยนนะค่ะ”

“แหวะ เลี่ยน” สาวน้อยพูดและทำท่าทางคลื่นไส้เลียนแบบเพียงดาว


“เป็นอะไรไปลูกตะวัน” อัศนัยหันไปสนใจสาวน้อยที่ย้ายฝั่งไปนั่งข้างเพียงดาว

“หนูก็ทานของว่างกับน้าดาวด้วยค่ะ”

“อย่างนั้นเองเหรอ แย่จริงเอ..วันนี้ป้าแช่มแกเอาอะไรจัดมาเสริฟนะ” อัศนัยจึงไม่ได้คิดจะเอาความกับเพียงดาวอีก เพราะคิดว่าสองสาวต่างวัยพูดเหมือนกันคงจะเป็นเรื่องจริงไม่ใช่การประชดประชันอย่างที่เข้าใจ

++++++++++++++++++++++++++


หลังอาหารกลางวันผ่านไปเพียงดาวส่งน้องตะวันไปอยู่กับแม่บ้านเพราะเธอมีเรื่องต้องถามอัศนัยตามตรงว่าเขามีธุระอะไรจะคุยกับเธอเพราะเห็นแม่บ้านมาบอกเอาไว้ตั้งแต่เมื่อเช้าและคิดว่าคงเป็นเรื่องของผู้ใหญ่อย่างแน่นอน

“มีสิครับ เรื่องงานแต่งงานของเรา” เหมือนอัศนัยจะเขินยามที่ต้องพูดเรื่องการแต่งงานต่อหน้าแฟนสาวของเขาที่นั่งอยู่ด้วย แต่ดูเหมือนเพลงพิณจะไม่ได้คิดมากอะไร

“นึกว่าเรื่องอะไร”เพียงดาวทำสีหน้าเบื่อหน่าย

“ผมทราบครับว่าคุณเองก็ไม่ได้ยินดีกับการแต่งงานครั้งนี้เช่นเดียวกันกับผม แต่ว่าในเมื่อลงเรือลำเดียวกันแล้วก็ช่วยๆกันหน่อยละกัน”อัศนัยโต้

“ถ้าไม่แต่งงานล่ะคะ จดทะเบียนไปเลยไม่ได้เหรอ พอครบกำหนดสองปีเราก็ไปหย่าขาดจากกัน”

“ใจจริงผมก็อยากจะทำแบบนั้น แต่ทว่าพินัยกรรมของพี่รุตระบุให้ผมจัดงานแต่งงานเพื่อประกาศให้ผู้คนรับรู้”

“ก็หมายความว่าคุณดาวกับคุณอั๊ดจำเป็นต้องจัดงานแต่งงานเพื่อให้คนรับรู้” เพลงพิณแทรกขึ้น

เพียงดาวทำสีหน้าเบื่อโลก แม้แต่อัศนัยที่ไม่ได้เต็มใจกับการแต่งงานครั้งนี้ยังอดจะคิดไม่ได้เลยว่า เขามันน่ารังเกียจนักเหรอเธอถึงทำหน้าตาแบบนี้ใส่เขา

“ผมสรุปง่ายๆ นะครับเราจะแต่งงานกันต้นเดือนหน้า แต่ทว่าไม่ต้องห่วงไปหรอกหลังจากการเข้าหอผมจะไม่แตะต้องคุณอีกเลย เราจะแยกกันนอนเหมือนเดิม”

“แล้วพิณเองก็จะช่วยทำหน้าที่เจ้าสาวในคืนเข้าหอแทนคุณดาวให้เองค่ะ” หญิงสาวพูดแบบอายๆ
แต่เพียงดาวมองว่าเพลงพิณช่างไร้ยางอายที่กล้าพูดออกมาแบบนี้

“หน้าที่นั้นถึงคุณพิณไม่ขอ ดาวก็คิดจะยกให้อยู่แล้วค่ะ”ดวงตาคู่สวยเชิดขึ้นอย่างไม่ยี่หระ
++++++++++++++++++++


คุณศรุตมองกล่องกระดาษห่อของขวัญฝีมือประณีตขนาดเท่าฝ่ามือสองใบที่อนิรุตน์เอามาฝากไว้ก่อนตาย มันเป็นของขวัญที่อนิรุตน์สั่งเอาไว้ให้เขามอบกล่องใบสีทองให้เพียงดาว ส่วนกล่องสีเงินมอบให้อัศนัยในวันแต่งงาน

“ทำอะไรอยู่คะคุณพ่อ” เพียงฟ้ายกน้ำชาพร้อมอาหารว่างมาวางลงบนโต๊ะทำงานของคนเป็นพ่อ

“ของขวัญในวันแต่งงานของยัยดาว ที่คุณอนิรุตน์มาฝากพ่อเอาไว้ให้ก่อนตาย”

“มันคืออะไรเหรอคะ” เพียงฟ้าเอียงคอมองด้วยความสงสัย

“พ่อก็ไม่รู้เหมือนกันว่ามันคืออะไร แต่คิดว่ามันคงเป็นของสำคัญ”

“ไม่รู้ว่าพี่ดาวเขาจะหายโกรธเราหรือยังนะคะที่เราไปหลอกเขา”

“จะทำยังไงได้ล่ะ ลูกเองก็น่าจะรู้จักนิสัยพี่เขาดีขืนพ่อกับคุณอนิรุตน์ไม่วางแผน คนอย่างยัยดาวไม่มีวันให้ใครมาจับคลุมถุงชนหรอก”

“แต่คุณพ่อก็เล่นละครเก่งยังกับนักแสดงมืออาชีพเลยนะคะ ขนาดตอนแรกฟ้ายังเชื่อคิดว่าคุณพ่อจะส่งฟ้าไปแต่งงานกับคุณอนิรุตน์ จริงๆ”



“ถ้าพ่อขืนบอกแกไป แกก็คงไปบอกพี่สาวและแผนการของคุณอนิรุตน์มันก็คงไม่สำเร็จ”

“คุณอนิรุตน์คงตายตาหลับได้แล้วนะคะที่คนที่เขารักมากที่สุดสองคนจะได้ครอบครองทรัพย์สมบัติของเขา แต่แปลกนะคะทำไมคุณอนิรุตน์ไม่ยอมบอกความจริง

เรื่องที่เขาคือพ่อที่แท้จริงกับพี่ดาวตั้งแต่ตอนมีชีวิตอยู่”

“ก็เพราะความกลัวนะสิ ยัยดาวถอดพิมพ์ยุพเรศออกมาไม่ผิดเพี้ยนทั้งนิสัยและหน้าตา” “ที่คุณพ่อช่วยคุณอนิรุตน์ เพราะคุณพ่อรู้สึกผิดที่พรากคุณแม่มาจากคุณอนิรุตน์ใช่ไหมคะ”ที่จริงเพียงฟ้าเพิ่งจะรู้ความลับที่ถูกเก็บซ่อนเอาไว้มายี่สิบกว่าปีจากปากคนเป็นพ่อหลังจากที่เพียงดาวได้เดินทางไปอยู่ที่ไร่นรบดี เมื่อเธอได้ฟังเรื่องราวทั้งหมดครั้งแรกหญิงสาวก็อึ้งไปเหมือนกัน


คุณศรุตพยักหน้า“ พ่อรักแม่ของลูกมากเหลือเกิน แต่พ่อก็เชื่อว่าคุณอนิรุตน์รักยุพเรศไปไม่น้อยกว่าพ่อจนตราบลมหายใจสุดท้ายเขาก็ยังรักเธอไม่เปลี่ยนแปลง” คุณศรุตหวนคิดย้อนไปในอดีตที่ผ่านมาเนิ่นนานแล้ว ดั่งสายน้ำที่ไหลที่ผ่านไปอย่างไม่มีวันย้อนกลับ
+++++++++++++++++++++++++++++


สมัยเมื่อยี่สิบกว่าปีก่อนถ้าพูดว่าอินทีเรียดีไซน์น้อยคนนักจะรู้จัก ศรุตถูกส่งตัวไปให้ออกแบบตกแต่งคฤหาสน์หลังใหญ่กลางไร่ซึ่งจะใช้เป็นเรือนหอให้กับอนิรุตน์ นรบดี ทายาทคนเดียวของตระกูลเศรษฐีเก่าแก่ในจังหวัดสระบุรี

ไม่มีใครหรอกอยากเข้าไปเป็นมือที่สาม ไม่มีใครคิดอยากจะไปแย่งชิงดวงใจของผู้อื่นหากเลือกได้แต่แล้วก็เกิดเรื่องขึ้นศรุตต้องรู้สึกประหลาดใจเมื่อได้พบลูกค้าของเขาซึ่งศรุตพอทราบประวัติมาว่าคนทั้งคู่กำลังเข้าสู่พิธีวิวาห์กันหลังจากเขาตกแต่งคฤหาสน์หลังงามเสร็จ อนิรุตน์ว่าที่เจ้าบ่าวนั้นหน้าตาคมคาย ดูสง่าผ่าเผย อัธยาศัยดี ขนาดเขาเป็นผู้ชายยังอดอิจฉาในความโดดเด่นของอนิรุตน์ไม่ได้เลย

ส่วนว่าที่เจ้าสาวผู้ที่จะมาครอบครองคฤหาสน์หลังงามนั้นเมื่อศรุตได้พบครั้งแรกหัวใจเขาแทบจะหยุดเต้น ยุพเรศ อดีตรุ่นน้องคนสวยซึ่งเธอเป็นถึงดาวมหาวิทยาลัยและเขาเคยหลงรักเธออย่างหมดหัวใจเธอเคยเป็นของเขาและเคยสัญญาว่าจะเป็นเจ้าสาวของเขาคนเดียว แต่จู่ๆเธอก็หายตัวไปอย่างลึกลับแม้ว่าเขาจะตามหาเธอเท่าไหร่ก็ไม่ได้ข่าวคราวของเธออีกเลย เขาเคยตามไปที่จังหวัดลำปางอันเป็นบ้านเกิดของเธอแต่เขาได้ข่าวเพียงว่าเกิดเรื่องร้ายกับครอบครัวของเธอ ส่วนตัวเธอย้ายไปอยู่ที่ไหนไม่มีใครทราบ จนกระทั่งศรุตเรียนจบออกมาทำงานในบริษัทชื่อดังและส่งมาทำงานที่นี่เขาถึงได้พบเธออีกครั้ง แต่ครั้งนี้เขามาในนามสถาปนิกผู้ออกแบบตกแต่งคฤหาสน์หลังงาม แต่เขาไม่รู้หรอกว่าการมาของเขามันอยู่ในแผนการของเธอ


ยุพเรศไม่ใช่เพียงแต่เป็นคู่หมั้นของอนิรุตน์เท่านั้น แต่เธอเป็นภรรยาของเขาในทางพฤตินัยได้เกือบปีแล้วแต่ไม่มีสักครั้งที่เธอจะลืมศรุตชายคนแรกและรักเดียวของเธอ


หลังจากที่ยุพเรศเจอมรสุมครั้งใหญ่ในชีวิตเธอถูกเรียกตัวกลับไปที่ลำปางอย่างกะทันหันเพราะครอบครัวของเธอถูกปล้นพ่อแม่และน้องชายของหญิงสาวถูกฆ่าตกรรม หญิงสาวเหลือเพียงตัวคนเดียวและป้าซึ่งเป็นญาติคนเดียวที่เหลืออยู่ ป้านันไม่สามารถจะเลี้ยงดูเธอได้แม้ว่าเธอจะไม่ใช่เด็กที่ช่วยตัวเองไม่ได้แต่หญิงสาวเป็นสาวสวยสะพรั่งที่กำลังเรียนและต้องใช้เงินจำนวนมาก ป้าจึงจำเป็นต้องส่งเธอไปอยู่ที่ไร่นรบดีซึ่งเจ้าของไร่เคยเป็นอดีตลูกน้องของนายปลั่งพ่อผู้ล่วงลับของยุพเรศ แต่ตอนหลังแยกตัวไปทำไร่ที่สระบุรีและประสบความสำเร็จอย่างมากจนกลายเป็นเศรษฐีชื่อดังในจังหวัดสระบุรีหญิงสาวอาศัยและเล่าเรียนอยู่ที่นั่นโดยอยู่ในฐานะลูกเลี้ยงเจ้าของไร่

นายบดินเห็นว่าอนิรุตน์บุตรชายคนเดียวของเขามีใจให้เธอก็ไม่ได้คิดขัดขวางกลับต้องการให้ทั้งสองแต่งงานกันอย่างถูกต้อง ยุพเรศไม่มีทางเลือกเธอไม่สามารถปฏิเสธอนิรุตน์ได้เพราะครอบครัวของเขามีพระคุณกับเธอ จนกระทั่งวันหนึ่งหญิงสาวได้เข้ามาในเมืองกับอนิรุตน์เพื่อเตรียมซื้อข้าวของที่จะใช้ในงานวันวิวาห์อีกสองเดือนข้างหน้านิตยสารแต่งบ้านเล่มหนึ่งถูกเธอซื้อมา และความหวังที่จะนำพาคนรักเก่ามาพาเธอกลับไปใช้ชีวิตด้วยกันอีกครั้งก็เริ่มขึ้น เมื่อเธอพบว่าผู้ออกแบบตกแต่งบ้านหลังหนึ่งในนิตยสารเป็นชื่ออดีตชายคนรักของเธอในนั้นมีที่อยู่ของบริษัทที่เขาทำงาน

และเมื่อทั้งคู่พบกันยุพเรศบอกให้ศรุตพาเธอหนีเธออธิบายเรื่องราวทั้งหมดที่เกิดขึ้นให้เขาฟัง รวมถึงสารภาพว่าเธอได้ตกเป็นของอนิรุตน์แล้วเขาจะยอมรับเธอได้หรือไม่ แต่สำหรับศรุตไม่ว่าหญิงสาวจะผ่านอะไรมาเธอก็เป็นเพียงหญิงเดียวที่เขารัก ทั้งสองพากันหนีในคืนวิวาห์สร้างความเจ็บปวดให้กับเจ้าบ่าวอย่างอนิรุตน์เป็นอย่างมาก

แต่เรื่องที่ร้ายไปกว่าการหนีจากงานแต่งงานยุพเรศไม่รู้ตัวว่าเธอไม่ได้หนีจากเจ้าบ่าวของเธอมาเท่านั้น แต่เธอพรากลูกมาจากพ่อ หญิงสาวท้องโดยไม่รู้ตัวแต่เธอมั่นใจว่าเป็นลูกของอนิรุตน์แต่ศรุตก็ไม่ได้รังเกียจหรือรักเธอน้อยลงทั้งสองใช้ชีวิตกันอย่างมีความสุขมาอีกหลายปีจนกระทั่งยุพเรศให้กำเนิดบุตรสาวอีกคนคือเพียงฟ้าและหลังจากนั้นไม่นานด้วยภาวะเศรษฐกิจบริษัทเล็กๆที่ศรุตสร้างมาเขาถูกเพื่อนรักหักหลังจนเป็นหนี้สิ้นล้นตัวแทบจะโดนฟ้องล้มละลาย ในขณะที่ยุพเรศกำลังล้มป่วย

เหมือนฟ้าฟาดลงมาเมื่อศรุตพบว่าอนิรุตน์มาหาเธอและยุพเรศที่บ้าน ศรุตคิดว่าอนิรุตน์ตามหาพวกเขาเพื่อที่จะคิดบัญชีแค้น แต่ที่ไหนได้เขากลับยื่นมือเข้ามาช่วยทุกอย่างไม่ว่าจะเป็นเรื่องบริษัทและอาการป่วยของยุพเรศ อนิรุตน์สารภาพว่าเขารู้นานแล้วว่าทั้งสองหนีมาอยู่ที่ไหนแต่เขารักยุพเรศมาก รักด้วยหัวใจอันแท้จริงและรู้มาตลอดว่ายุพเรศไม่เคยรักเขา เขาอยากเห็นเธอมีความสุขจึงไม่ได้คิดแก้แค้นแค่เพียงตามข่าวเธออยู่เงียบๆเรื่อยมา

ทั้งศรุตและยุพเรศรู้สึกผิดและซาบซึ้งในน้ำใจของอนิรุตน์มากจึงยอมเปิดเผยความลับเรื่องบุตรสาวคนโตคือเพียงดาวให้อนิรุตน์ฟัง ซึ่งเขาตกใจมากเมื่อรู้ว่าเพียงดาวเป็นลูกของตนเอง อนิรุตน์จะขอรับเพียงดาวกลับไปเลี้ยงดูเอง แต่ยุพเรศอ้างว่าเธอขาดลูกไม่ได้หากเขาเอาลูกไปจากเธอเท่ากับว่าพรากเอาลมหายใจออกไปจากร่างของเธอด้วย


อนิรุตน์เห็นว่าคนทั้งคู่รักลูกสาวของเขาและดูแลมาอย่างดี จึงยอมเป็นพ่อผู้อุปถัมภ์ส่งเสียเพียงดาวอยู่เบื้องหลังและเฝ้ามองเธอจนกระทั่งเติบโตอยู่ห่างๆ

“คุณพ่อ คุณพ่อคะเหม่อลอยคิดถึงเรื่องในอดีตอีกแล้วเหรอคะ”


คุณศรุตสะดุ้ง “เฮ้อ! พ่อกับแม่ของแกสร้างบาปเอาไว้กับคุณอนิรุตน์เขามากจริงๆยัยฟ้า”
+++++++++++++++++++++++++














อัปสรา
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 1 ต.ค. 2554, 00:24:47 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 1 ต.ค. 2554, 00:24:47 น.

จำนวนการเข้าชม : 2869





<< ตอนที่ 5   ตอนที่ 7 >>
แพม 1 ต.ค. 2554, 02:33:34 น.
กรรม สองคน หัวเล็กหัวใหญ่ร่วมมือกันสู้ยายเพลงพิณเร็ว


คิมหันตุ์ 1 ต.ค. 2554, 03:38:18 น.
แล้วคุณอั๊ด เป็น น้องไม่แท้ของคุณพ่อ สินะ..ห้ห้า


lovemuay 1 ต.ค. 2554, 10:10:37 น.
แหม ในที่สุดนางเอกก็ได้มิตรตัวน้อยๆมาเพิ่มขบวนจนได้ อิอิ


nunoi 1 ต.ค. 2554, 10:10:54 น.
ของขวัญที่คุณพ่อจะให้ คืออะไรน่ะ


anOO 1 ต.ค. 2554, 15:38:31 น.
เรื่องมันเป็นมาอย่างนี้นี่เอง
งานนี้ดาวได้ใจยัยตัวเล็กอย่างตะวันไปเต็มๆ


kaero 4 ต.ค. 2554, 12:16:55 น.
อืม เข้าใจแล้ว


นกอุมาพร 4 ต.ค. 2554, 23:20:23 น.
ร้ายนักนะยายเพลงพิณ


pseudolife 20 ต.ค. 2554, 22:22:50 น.
หมั่นไส้ยายพิณ


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account