กุหลาบซ่อนกลิ่น (จบแล้ว)
นางเอกโตมาในไซด์งานก่อสร้าง ที่นั่นทำให้เธอรู้ว่า การแสดงตัวว่าเป็นหญิงเป็นเรื่องอันตราย ดังนั้นนางเอกจึงเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมตัวเอง จนใคร ๆ มองว่าเป็นทอม แต่แท้จริงแล้ว เธอก็คือผู้หญิงคนหนึ่ง ที่มีรัก..และรักของเธอก็เป็นรักที่มีเวลามาเป็นตัวกำหนด....


Tags: โรแมนติก..

ตอน: 11. มาถึงบ้านเกือบเลยวันจันทร์...

11.

แม้จะดีใจที่สูรย์อนุญาตให้ไปเที่ยวกับกลุ่มเพื่อน ๆ แต่พอนั่งเบียดกับเพื่อนชายหญิงท้ายรถกระบะคันกลางเก่ากลางใหม่ติดหลังคาไฟเบอร์ของเพื่อนร่วมก๊วนออกมาจากซอยบ้านตัวเองแล้ว ใจของกุสุมากลับลอยไปยังครัวอิ่มสุข..ป่านนี้คุณสูรย์จะทำอะไร วันเสาร์ร้านจะยุ่งมากไหม..ตาของกุสุมาลอยแต่ริมฝีปากก็ต้องค่อย ๆ แย้ม เมื่อนึกถึงเหตุการณ์ในร้านขายต้นไม้ ซึ่งดูเขามีความสุขไม่แตกต่างจากที่เธอรู้สึก..

“ดอกอะไรเสียบไว้อยู่ในรูหู” ตอนนั้นเธอร้องเพลงนั้น ก่อนจะให้เขาทายชื่อดอกไม้ที่เธอเด็ดจากต้นใกล้ ๆ มือแล้วย่องไปข้างหลังแล้วเสียบไว้ที่หูของเขา และกลิ่นที่เป็นเอกลักษณ์ของดอกไม้ชนิดนั้นก็ทำให้เขาทายได้โดยง่าย
“ดอกมะลิ”

“งั้นม่าจะไปหาดอกที่มันยาก ๆ นะ” เธอหายไปนานจนกระทั่งได้ดอกชวนชมที่หล่นอยู่กับพื้น มาทัดที่หูของเขา..

“ไม่เคยได้กลิ่น ใบ้หน่อยได้ไหม”

“สามคำใบ้นะ คำใบ้แรก สีชมพู”

แค่คำใบเดียวเขาก็ทายถูกหลังจากนั้น เขาก็เป็นฝ่ายไปหาดอกไม้มาให้เธอ
ทายบ้าง แต่เป็นการหลับตาแล้วเอาออกไม้มาจ่อตรงจมูก แน่นอนว่า ดอกไม้ดอกแรก เป็นดอกกุหลาบ ซึ่งกลิ่นดอกไม้ชนิดนี้ ใครไม่เคยได้กลิ่นก็คงจะเป็นแม่มดจริง ๆ แต่ที่เธออึ้ง นั่นก็คือ เขาให้เธอทายว่า มันสีอะไรต่างหาก..

เล่นทายชื่อดอกไม้เดินดูดอกไม้ ปรึกษากันถึงว่าจะนำดอกไม้ไปวางไว้ตรงไหนของร้าน..จนกระทั่งขากลับร้าน ในรถแอร์เย็นฉ่ำ เธออยากจะลืมตาเป็นเพื่อนคุยกับเขา แต่ก็รู้สึกเพลียเกินกว่าจะเปิดเปลือกตาได้..และที่เธอคาดไม่ถึง นั่นก็คือวิธีที่เขาปลุกเธอจากการหลับใหล..ปลายนิ้วโป้งกับนิ้วชี้มือขวาของเขาบีบเบา ๆ ที่ปลายจมูกของเธอจนกระทั่งหายใจไม่ออก..

“ตื่นได้แล้วถึงร้านแล้ว..กินได้นอนหลับเหมือนเด็กไม่มีผิดเลย” เขาทำเสียงหยอกเย้าเมื่อเธอสะดุ้งแล้วปัดมือเขาออกตามสัญชาติญาณป้องกันตัว


“ยิ้มอะไรไอ้ม่า” เพื่อนชายที่นั่งเบียดกันมาท้ายรถเอ่ยปากถาม

“ใจลอยเลยนะมึง ลอยไปไหน” พอมีคนเริ่มอีกคนก็พร้อมซ้ำเติม แต่กุสุมาหรือไอ้ม่าของพวกมัน มีหรือจะยอมเป็นฝ่ายถูกย่ำยี

“ใจกู มึงเสือกอะไรด้วย”

“เออ ใจมัน มึงอย่าไปเสือก..แต่กูเดานะ มึงคงไปถูกใจหนุ่มในร้านอาหารใช่เปล่า”

มันเดาได้ถูก แต่มีหรือที่กุสุมาจะยอมรับ

“ไม่ตอบโว้ย แสดงว่าจริง”

พออีกคนบังคับให้ยอมรับ พวกที่เหลือต่างก็เฮกันลั่น แต่คนที่ไม่รู้สึกสนุกด้วยก็คือถมยาที่นั่งอยู่ติดประตูท้าย..แต่อีกนั่นแหละ เขาก็ไม่เคยมองกุสุมาเกินเพื่อน แต่พอเห็นว่ากุสุมาเริ่มจะมีความรักแบบธรรมชาติหญิงชายตามวัยของมัน เขากลับรู้สึกหวง และห่วงขึ้นมา..




เมื่อรถถึงปั้มน้ำมันในที่ตั้งอยู่บนถนนพระราม 2 กุสุมาที่หาเรื่องโทรหาสูรย์ได้แล้ว จึงรีบเลี่ยงจากกลุ่มเพื่อน เพื่อต่อสายไปหาเขา..“คุณสูรย์”

“ว่าไงม่า”

“ต้นไม้เป็นไงมั่ง”

“ให้ลุง แขวนไว้ตามชายคาแล้ว ส่วนที่ลงดินก็คงให้ลุงค่อย ๆ ทำไป ไม้กระถางก็อยู่ในกระถาง แต่อาจจะเปลี่ยนกระถางให้มันดูอลังการหน่อย เราละเป็นอย่างไรบ้าง ถึงไหนกันแล้ว”

“สมุทรสงคราม เห็นนาเกลือแล้ว”

“ตกลงไปไหนกันแน่ ชะอำหรือหัวหิน”

“ชะอำ ของกินถูก ที่พักก็ไม่แพง ใกล้ด้วย ประหยัดน้ำมัน”

“ดูแลตัวเองด้วยนะ”

“ครับ”

“ไอ้ม่าเอากาแฟเปล่า” ถมยาตะโกนถาม..กุสุมาจึงสั่นหัว แต่ถึง
กระนั้นหูก็ได้ยินเสียงของสูรย์ที่แสดงความเป็นผู้ใหญ่กว่า

“อย่าคะนองกันให้มากนักละ ดูแลตัวเองด้วย แล้วคนขับรถ อย่าให้เมา มันอันตราย แล้วเหล้าถ้าเลี่ยงได้ก็อย่ากินเลย มันดูไม่ดี”

“ครับผม ไม่กินหรอกครับ รู้ว่าพวกมันไว้ใจไม่ได้”

“วันจันทร์มาทำงานด้วยนะห้ามลาป่วย”

“ครับ..ไปแน่นอน ไม่ป่วย ไม่ตาย แต่ม่าไม่ต้องนุ่งกระโปรงแล้วมั้ง ต้องย้ายไปอยู่ในครัวแล้วนี่”

“ได้...แล้วสงกรานต์ไปไหนหรือเปล่า”

“น้าอ้อยมา..มีอะไรเหรอ” จริง ๆ กุสุมาได้ยินพนักงานบางคนคุยกันแล้วว่า สงกรานต์ปีนี้จะไปทอดผ้าป่ากับทางร้าน และตอนนั้นเธอก็ได้คำตอบแล้วว่าคงไม่ไป เพราะเรื่องวัดนั้นเหมือนเดินกันคนละทาง แต่ถ้าเขาถามมาแบบนี้ก็แสดงว่า เขาคงจะไปทอดผ้าป่าแน่ ๆ ใจของกุสุมาโบยบินตามเขาไป แต่ตอนนั้นน้าอ้อยคงสำคัญที่สุด

“ร้านหยุดหลายวัน แต่เอาเถอะไปกับน้าอ้อยเถอะ..ม่าแค่นี้ก่อนนะ ..”

เขาวางสายไปแล้ว กุสุมาขมวดคิ้ว แต่เขาคงมีธุระด่วน..

“โทรหาใครหรือม่า” แม้กุสุมาจะปฏิเสธกาแฟไปแล้ว แต่ว่าถมยาก็ถือขวดน้ำส้มมาให้ กุสุมารับไว้ก่อนจะพูดคุยโดยไม่ได้สนใจคำถามก่อนหน้านั้น

“ขอบใจ..หน้าเอ็งดีขึ้นแล้วนะ จะปกติแล้ว..วันจันทร์นี้จะไปทำงานแล้วนะ”

“อืม เตรียมเสื้อผ้าไว้แล้ว แต่มึงอ่ะ โทรหาคุณสูรย์เหรอ”

พอถมยาเดาถูกกุสุมาก็พยายามเกลื่อนสีหน้าให้เป็นปกติทั้งที่ความอายซ่านขึ้นมา

“ทำไมคิดว่า กูจะต้องโทรหาเขาละ”

“ดูออกหรอกน่า..ชอบเขาละซิ”

กุสุมาลอยหน้าลอยตาดูดน้ำส้มจนกระทั่งหมดขวดจนกระทั่งมีเสียงลมดังกึกก้อง..

“ถ้าชอบเขาก็ยากหน่อยนะ..แต่ถ้าชอบข้า ละก็ได้เลย”

“ไอ้บ้า ไอ้หน้ามืด..” ว่าให้ถมยาแล้วกุสุมาก็กระแทกขวดเปล่าไปยังอกของถมยาก่อนจะเดินลิ่วไปยังรถกระบะที่จอดอยู่หน้าห้องน้ำ..ถมยารับขวดไว้ทัน ขำจริตสาวของเพื่อนก่อนจะตะโกนตามหลังไปว่า

“กูจะบอกพวกมัน”

“ถ้ามึงอยากโดนตบปาก มึงก็บอกเลย” กุสุมาท้าทายก่อนจะเปลี่ยนทิศทางไปเข้าห้องน้ำหญิง

(แก้แล้วครับ ขอบคุณหลาย ๆ))



ที่สูรย์รีบวางสายจากกุสุมาก็เป็นเพราะว่าเขาเหลือบตามองจอโทรทัศน์จากกล้องวงจรปิดแล้วเห็นว่า รถของธัญรัตน์กับรถของอรพิมเลี้ยวตามกันเข้ามาในร้าน และทางที่จะหลบผู้หญิงสองคนนี้ได้ก็คือ ออกไปทางประตูหลัง ซึ่งเชื่อมกับห้องพักของเขา ใจมันสั่งให้เปิดประตูออกไปก่อนจะหลบเร้นไปทางไหนก็ได้ แต่ว่าในบริเวณร้านนี้ต้องไม่มีเขา และเพื่อให้ใครก็ไม่รู้ว่าเขาไปไหน สูรย์จึงปิดไฟในห้อง ปิดโทรศัพท์ มือถือ ระหว่างที่เดินไปบ้านพักคนงาน

“อ้าว พี่สูรย์จะไปไหน” วิชาญที่เพิ่งแต่งตัวเสร็จและกำลังจะปิดห้องพักของตนเอ่ยปากถาม

“มีใครถาม ก็บอกไม่รู้ไม่เห็นนะ ขอหลบภัยหน่อย” ว่าแล้วสูรย์เดินไปยังเปลที่ผูกอยู่กับต้นขนุนหลังบ้าน ล้มตัวลงนอนพลางครุ่นคิดถึงผิวแก้วใส ๆ ที่มาขโมยหัวใจของเขาไปจนได้..

“นี่กูชอบไอ้ม่าหรือวะเนี่ย ไอ้ซ้งรู้ มันหัวเราะฟันหักแน่”

เมื่อพึมพำกับตัวเองเบา ๆ แล้วสูรย์ก็หลับตาลงโดยรู้สึกว่าโหนกแก้มของตนตึง ๆ นึกถึงภาพเหตุการณ์เมื่อวาน สูรย์ก็ดึงโทรศัพท์มือถือออกมาจากกระเป๋าเสื้อ ก่อนจะรันโปรแกรมไปหาไฟล์ที่เก็บภาพ อึดใจนอกจากภาพถ่าย ก็ยังมีเสียงสัญญาณสายเรียกเข้าจากทั้งเบอร์ของร้าน กับของอรพิม และเข้าเขาออกไปปรากฏตัว เขาก็ถูกสองสาวที่สวมวิญญาณตาอินกับตานายื้อยึดฉุดกระชากทำเหมือนเขาเป็นปลาติดเบ็ดมาอย่างนั้น..

เสียงโทรศัพท์ในมือดังรบกวน แต่เขาก็หาได้สนใจ จนกระทั่งมันสงบไป แล้วเขาก็นึกถึงพ่อสื่อขึ้นมาได้..

“ตอนนี้มึงอยู่ที่เพชรบุรีหรือเปล่า” คืนนั้นทรงฤทธิ์บอกกับเขาว่าวันเสาร์นี้จะไปงานแต่งงานของรุ่นน้องในบริษัทที่เพชรบุรี แต่ว่าเขาไม่ได้สนใจทั้งที่ทรงฤทธิ์ถามเขาว่า จะฝากซื้ออะไรไหม เขาก็ตอบไปว่า ตลาดไทมีทุกอย่างที่โลกใบนี้มี แต่ว่าตอนนี้ เขารู้สึกอยากไปเพชรบุรีเป็นอย่างมาก อยากไปสร้างความประหลาดใจให้ไอ้ม่า อยากไปเห็นแววตาเผยความรู้สึกว่ามีใจให้เขาของมัน..ซึ่งแววตากล้า ๆ กลัว ๆ แบบนี้เขาไม่เคยได้เห็นเสียด้วย

“ยังไม่ได้ไป จะไปตอนเที่ยงมีอะไรรึ”

“รถว่างไหม กูอยากไปพักผ่อนนอนเล่นที่ชะอำสักคืน”




ที่หูของกุสุมามีลำโพงขนาดจิ๋วฟังเพลงจากโทรศัพท์มือถือเสียบอยู่ ในมือก็มีหนังสือการ์ตูนที่แย่งแฟนของเพื่อนมาอ่าน และข้าง ๆ ตัวก็มีถุงมันฝรั่ง บนโต๊ะกลางมีกระเป๋าน้ำอัดลมวางอยู่กับเสื้อผ้ากระเป๋าของเพื่อน ๆ ที่เฮลงทะเลโดยไม่ได้สนใจว่าพระอาทิตย์แผดแสงแค่ไหน

“มึงจะไม่เล่นน้ำทะเลจริง ๆ หรือม่า”

“กูไม่สะดวก” ข้ออ้างแบบนี้เป็นอันรู้กันว่า มันเป็นโรคประจำตัวของผู้หญิงที่ต้องเป็นกันเดือนละหน

“กูเฝ้าสมบัติบ้าของพวกมึงให้แล้วกัน เล่นให้สนุกเถอะ”

อันที่จริงกุสุมาไม่ได้มีระดู แต่ว่า อยากนั่งรับลมมากกว่าที่จะกระโจนลงไปอยู่กับพวกมัน เพราะคุณสูรย์บอกให้ดูแลตัวเอง อาจจะหมายถึง อย่าไว้ใจเพื่อน ๆ พวกนี้ด้วย..และที่สำคัญตอนนี้กุสุมารู้สึกไม่อยากให้ผิวของตัวเองกระดำกระด่างเพราะแสงแดดจ้าตรงหน้า..

เมื่อนึกถึงเขา กุสุมาก็เลื่อนเบอร์โทรศัพท์ของเขาขึ้นมาดู พอคิดจะกดโทรศัพท์ไปหา ก็นึกหาข้ออ้างไม่ได้ ครั้นจะบอกตรง ๆ เรื่องแบบนี้มันก็ไม่ใช่เรื่องเล่น ๆ และทำได้ง่าย ๆ หากเขารู้ว่ามีใจให้เขา ดีไม่ดี เขาอาจจะฉวยโอกาสนั้นใช้สิทธิ์ความเป็นเจ้าของหัวใจ เหมือนที่พวกผู้ชายส่วนใหญ่นิยมอ้างกัน

เมื่อนึกถึงเขา กุสุมามองไปยังเพื่อน ๆ ที่โต้คลื่นกันสนุกสนาน และพอมั่นใจว่าจะไม่มีใครมาจู่โจมแย่งโทรศัพท์ในมือไปดู กุสุมาก็เลื่อนโปรแกรมไปดูภาพที่ถ่ายเขาไว้บ้าง..

แว่นตา ทำให้ใบหน้าของเขาแปลกตาไป แต่ว่ามันก็ทำให้เขาเป็นผู้ชายในฝันที่สมบูรณ์แบบขึ้นมา

“คนบ้า...ทำไงดีละ ไอ้ม่าเอ้ย เผลอมีความรักได้อย่างไง..ตาย ๆ” นึกถึงอุปสรรค นึกถึงอนาคต กุสุมาก็ถอนหายใจเฮือก ๆ แล้วก็เงยหน้าสูดลมทะเลเข้าปอดเรียกความมั่นใจ แต่ว่ากุสุมาก็ต้องสะดุ้งรีบยัดโทรศัพท์เข้ากระเป๋าเสื้อเมื่อเห็นว่าสูรย์นั่งอยู่บนเตียงผ้าใบไม่ไกลกันนัก..

กุสุมาเพ่งมองแล้วก็ขยี้ตาอีกทีก่อนจะลุกขึ้นแล้วก้มลงกำทรายแล้วเดินเข้าไปหา..

“เห้ย!!!” สูรย์ที่นอนพิงพนักเก้าอี้โดยมีแว่นกันแดดสีดำปิดดวงตาอยู่ก็สะดุ้งโหยงเมื่อถูกซัดทรายทรายใส่เสื้อยืดคอปกสีน้ำเงินเข้ม..

“มาได้อย่างไงเนี่ย”

“ลมพัดมา”

“ลมอะไร”

“ลม...” ใจจริงเขาอยากจะบอกว่า ‘ลมคิดถึง’ แต่ว่าถ้าเผยไต๋มากไป เด็กก็จะรู้ได้ว่าเขาทนคิดถึงไม่มันไม่ไหวก็เลยต้องทิ้งงานตามมา

“ลมแถว ๆ นี้แหละ”

กุสุมาทรุดตัวลงนั่งเตียงผ้าใบข้างกันก่อนจะหันหน้าไปหาใบหน้าของเขาแต่ถึงกระนั้นก็พยายามซ่อนความรู้สึกลิงโลดที่อัดแน่นอยู่ในใจ

“มากับใครเหรอ” ถามแล้วก็เหลียวซ้ายแลขวา จนกระทั่งสายตาไปปะทะกับรถของทรงฤทธิ์

“มากับพี่ซ้งเหรอ แล้วเขาไปไหน”

“มันมางานแต่งรุ่นน้องมันที่เพชร มันชวนให้มาเที่ยวด้วย กรุงเทพฯ ร้อน ๆ ก็เลยมากับมัน” เขารู้สึกดีใจที่หาคำตอบทำให้ตัวเองดูดีขึ้นมาได้ และขณะที่ทั้งสองคุยกัน เจ้าของเตียงผ้าใบก็เดินมาหา

“กี่ที่เหรอจ๊ะ”

“สองคนครับ”

“ของหนูกลุ่มโน้นนะป้าหนูจ่ายเงินกันไปแล้วนะ..” เช่าไว้สี่ที่ แต่มีคนเป็นสิบ ๆ แต่เจ้าของเก้าอี้ หาได้สนใจ เพราะรู้ว่าคนมาเที่ยวชะอำนั้นมีกำลังทรัพย์ไม่มาก และได้เงินเล็ก ๆ น้อย ๆ จากเด็กพวกนี้ก็ยังดีกว่าไม่ได้เลยสักบาท..และส่วนหนึ่งเด็ก ๆ พวกนี้ก็อายุอานามใกล้เคียงกับลูก ๆ ที่อยู่ต่างจังหวัด การได้นั่งดูเด็ก ๆ สนุกสนาน ก็ทำให้ชีวิตริมทะเลไม่เปลี่ยวเหงาเกินไป

“ไม่เป็นไรหรอกครับเท่าไหร่ครับ”

เมื่อทราบราคาสูรย์ก็ควักเงินจ่ายค่าที่นั่ง

“แล้วจะสั่งอาหารอะไรไหมคะ”

“ไม่ครับ ..แต่ม่าจะกินอะไรไหม”

“ไม่...ไม่หรอกป้า เดี๋ยวคืนนี้เราจะมีปาร์ตี้อาหารทะเลกันที่บ้านพัก..”

ป้าเจ้าของเตียงเดินจากไป กุสุมาก็เลยหันมาถามสูรย์ที่เอนตัวเหมือนจะมองหน้าเธออยู่แต่ว่าก็ไม่รู้ว่าใช่หรือไม่เพราะแว่นตาสีดำนั้น

“พักกันที่ไหนเหรอ ค้างหรือเปล่า”

“ค้าง แต่ยังไม่ได้หาเลย แล้วเราพักกันที่ไหน”




“อรพิม เธออยู่ไหนรึ” อรพิมถอนหายใจเฮือกเมื่อรับสายเพื่อนแล้วถูกถามด้วยน้ำเสียงเยาะเย้ย..

“มีอะไร อารมณ์ไม่ดี”

“ฉันอยู่ที่ชะอำ มาวี๊ดวิ้วกับแฟนฉัน” ปลายสายจงใจให้เธออิจฉา อรพิมเบ้หน้า

“มีอะไรก็ว่ามา อย่าโยกโย้”

“ฉันนึกว่าแกอยู่ชะอำซะอีก..แต่แกคงอยู่กรุงเทพฯใช่ไหม..ฉันเจออดีตแฟนพี่สาวของแกที่แกอยากได้มาเป็นปั๋วตัวเองอ่ะ”

“พี่สูรย์” อรพิมหลุดเสียงดังเพราะยังโมโหที่เขาจงใจหนีเธอทั้งที่ปกติวันเสาร์อาทิตย์เขาจะต้องอยู่ร้าน และหลายเดือนที่ผ่านมา เธอก็ไปขลุกช่วยงานเขา ทำคะแนนกับป้าส้มลิ้ม เข้าหาพ่อแม่ของเขา จนมั่นใจว่าเขาจะไม่หลุดมือไปไหน แต่นี่วันนี้เขากลับหนีเธอ ไม่ใช่สิ เขาหนีนังธัญรัตน์นั่นต่างหาก คงปั้นหน้าไม่ถูกที่จะต้องอยู่กับผู้หญิงพร้อมกันสองคน จึงได้รีบชิ่งหนีไป

“ใช่ ฉันเห็นเขานั่งอยู่กับใครไม่รู้ ผู้หญิงผมสั้น ๆ หน้าขาว ๆ ตัวเล็ก ที่ชายทะเล ยิ้มแย้ม ตาเชื่อมกันเชียว กิ๊กเขาเหรอ ใครเหรอ”

“อยู่กันกี่คน”

“สองคนนะ ไม่เห็นมีใคร”

“อีม่าแน่ ๆ อีนี่ อีเวร อีมารหัวใจ ..เอาไงดี”

“ให้ฉันเข้าไปตบให้ไหม”

“ไม่ต้องหรอก เว่อร์ไป แต่แกเฝ้าให้หน่อย ดู ๆ ด้วยว่าเขาพักกันที่ไหน ทำให้ได้ไหม”

“ไม่เอา เสียเวลาเดทของฉัน รายงานข่าวแค่นี้แหละ ขอตัวก่อนนะ บาย”

เพื่อนผู้หวังดี วางสายไปแล้ว อรพิมที่เดินอยู่ในห้างสรรพสินค้า ครุ่นคิดว่าจะเอาอย่างไงดี เธออยากจะขับรถตามไป แต่พอนึกถึงค่าน้ำมัน กับคิดไม่ออกว่าไปแล้วจะไปแสดงตัวอย่างไร เธอก็ได้แต่เก็บเคียดแค้นไว้ในใจ แต่คนอย่างอรพิมจะไม่ยอมเจ็บเพียงคนเดียวเป็นอันขาด

“พี่ธัญรัตน์” แม้จะไม่ชอบหน้าเพราะเป็นคู่แข่ง แต่อรพิมก็รู้จักกาลควรไม่ควร

“มีอะไรกับพี่หรือคะ” ต่างฝ่ายต่างก็เสกสรรมธุรสวาจาใส่กัน

“หนูรู้แล้วว่าพี่สูรย์ไปไหน”

“พี่ไม่อยากรู้หรอก เมื่อเช้าพี่เอาขนมไปส่งต่างหาก” ธัญรัตน์ไม่ยอมเต้นตามข่าว

“คนรู้จักกันอยู่ชะอำ บอกว่าเห็นพี่สูรย์กับเอ่อ” อรพิมลังเลที่จะเอ่ยถึง เพราอยากจะใช้คำว่า ‘ไอ้ม่า’ อย่างที่ได้ยินคนในร้านบางคนเรียกแต่ตอนนี้อรพิมรู้สึกว่า ‘ไอ้ม่า’ มันน่าจะมี ‘อี’ เสียมากกว่า

“นังม่าอยู่ด้วยกันที่นั่น ข่าวแจ้งมาแค่นี้แหละคะ ส่วนพี่จัดการอย่างไรก็เรื่องของพี่นะคะ สวัสดีคะ”

อรพิมวางสาย สีหน้านั้นกระหยิ่มใจ เพราะอย่างไรเสีย ธัญรัตน์ต้องเต้นแน่ ๆ แต่ว่าจะเต้นแบบไหนเท่านั้นเอง




ทรงฤทธิ์เริ่มได้ที่เพราะถูกน้อง ๆ ช่วยกันกรอกเหล้าตั้งแต่งานเลี้ยงในภาคเย็นยังไม่ทันเริ่มต้น ปล่อยให้โทรศัพท์ในกระเป๋ากางเกงดังจนกระทั่งน้อง ๆ ต้องสะกิด แต่พอดึงโทรศัพท์ออกมาเขาก็ทำหน้าฉงนเมื่อเห็นว่าเป็นเบอร์ของธัญรัตน์

“คุณอยู่ที่ไหนคะ”

“มีอะไรให้ผมรับใช้หรือครับ” ทรงฤทธิ์พยายามฝืนสุ้มเสียงให้เป็นปกติแต่ฤทธิ์ของแอลกอฮอล์มันก็ทำให้ใจสั่งลิ้นไม่ได้

“เมาหรือเปล่า..อยู่กับคุณสูรย์หรือเปล่า”

“ผมอยู่เพชรบุรีครับ” สูรย์สั่งเขาไว้ให้บอกใครว่าเขามาด้วย และที่เขาเลี่ยงไปแบบนั้นก็ไม่ได้ผิดคำพูดที่ให้ไว้กับเพื่อน “ผมมางานแต่งงานที่เพชรบุรีครับ”

“คุณสูรย์อยู่ตรงนั้นไหม”

“ไม่ได้อยู่ครับ” เป็นความจริงแต่ไม่ทั้งหมด

“เรื่องจริงหรือเปล่า มีคนบอกกับฉันว่าสูรย์อยู่ชะอำกับเด็กในร้าน” ทรงฤทธิ์ถามสูรย์แล้วว่านึกอย่างไรถึงอยากไปชะอำ แต่สูรย์ก็บอกสั้น ๆ ว่า อยากพัก แล้วเด็กในร้านที่ธัญรัตน์พูดถึงคือใคร ใคร ใคร ทรงฤทธิ์ครุ่นคิด..แต่คิดไม่ออก “เด็กในร้านใครเหรอหรือครับ”

“แม่กุสุมาไง นัง..” จริง ๆ ธัญรัตน์อยากจะใส่คำว่า ‘นังทอมแบ’ อย่างที่ตุ๊ดซี่เอ่ยถึงแต่ว่าก็ต้องชะงักไว้ เพราะรู้มาว่า ‘นังคนนั้น’ เป็นเด็กฝากของทรงฤทธิ์ซึ่งเพียรขายขนมจีบให้เธอมาเนิ่นนานแต่ว่าเขาไม่ใช่ สเป็คของเธอ นอกจากนั้นเขาก็จน และมีวันนี้ขึ้นมาได้เพราะการศึกษาเท่านั้น พ่อแม่พี่น้องก็ยังยากจน แถมนามสกุลก็ไม่เพราะ ไม่มีวันที่เธอจะใจอ่อนอย่างที่ตุ๊ดซี่เสนอแนะอย่างเด็ดขาด

สำหรับสูรย์หากเธอใช้มารยาหญิงทำให้เขาติดบ่วงไม่สำเร็จ ก็ใช่ว่า เธอจะไร้ผู้ชายหมายปอง แต่ว่าเวลานี้เธอรู้สึกอยากเอาชนะเท่านั้น และถ้าจะแพ้ เธอก็จะไม่มีวันแพ้ นังอรพิม หรือนังหน้าเด็กดูกระโดกกระเดกอย่างเด็ดขาด ถ้าสูรย์จะมีรักใหม่ รักของสูรย์จะลงเอ่ยอย่างง่าย ๆ ไม่ได้เสียหรอก ตราบใดที่เธอยังโสด เขาเธอก็ต้องเป็นเพื่อนโสดไปด้วยกัน..

“ไอ้ม่านะเหรอครับ”

“ใช่ คนรู้จักกัน เห็นว่านั่งอยู่ด้วยกันที่ชะอำ อย่าบอกนะว่าเรื่องนี้คุณไม่รู้..”




“ถมยาใครวะ ที่นั่งอยู่กับไอ้ม่า”

“คุณสูรย์ เจ้าของร้านอาหาร พี่คนนี้แหละที่ช่วยกูไว้”

“แล้วเขามาที่นี่ทำไม” เพื่อนชายสามคนรุมถามถมยาที่ถอดเสื้อเล่นน้ำตัวดำเมี่ยมอยู่ในน้ำทะเล และรอคำตอบที่ถมยาจำต้องพูดไปตามความรู้สึกของตัวเอง

“ดูท่าเขาจะชอบไอ้ม่าว่ะ”

“อะไรนะ” ทั้งสามคนอุทานพร้อมๆ กัน และคนอื่น ๆ พอเห็นว่าทั้งสี่คนจับกลุ่มแล้วมองไปบนฝั่งก็กรูจากลูกคลื่นตามมาสมทบเพราะต่างก็สงสัยกันว่า เขาคนนั้นเป็น ใคร มาจากไหน มาทำไม เพื่ออะไร แต่ละคนมีคำถามอยู่ในหัว และทุก ๆ คนก็เริ่มรู้สึกห่วงไอ้ม่าขึ้นมา ด้วยตั้งแต่รู้จักกันมา ไม่เคยเห็นมันมีแฟนหญิง หรือว่าชาย แต่ว่าสีหน้าแววตาที่เห็น ๆ กันระหว่างเดินทาง ต่างก็ยอมรับว่า ไอ้ม่ามันเปลี่ยนไป..

ผู้หญิงสรุปได้ทันที ว่ากำลัง ‘อินเลิฟ’ และสีหน้าสดชื่นตาเชื่อมกันในขณะนี้ของกุสุมา คนที่เคยน้ำตาเช็ดหัวเข่าเคยเจ็บเพราะความรักมาแล้ว จึงห่วงเพิ่มเป็นสองเท่า และต่างก็ช่วยกันวิพากษ์วิจารณ์ เพราะเรื่องนี้ถือเป็นเรื่องสำคัญเป็นอย่างมากในช่วงนี้

“ดูเหมือนไอ้ม่ามันก็ชอบเขาไม่น้อยเลยนะ”

“แก่คราวพ่อเลยนะมึง”

“แค่สิบปี” ถมยาเถียงแทน

“เพื่อนพี่ซ้งนี่หว่า ไอ้คนที่เจอคืนนั้นนี่..”

“ไอ้คนที่ตามมันไปโรงพยาบาลวันนั้นใช่ไหม..”

“มันจะมาหลอกไอ้ม่าหรือเปล่า แค่อยากเอาชนะผู้หญิงทอม ๆ หรือเปล่า กูได้ยินเรื่องทอมถูกชายแท้ลองใจมาหลายหนแล้วนะ”

“กูก็ว่าอย่างนั้นแหละ ขึ้นไปไล่มันกลับไปเลยไหม ถ้ามันไม่กลับก็ให้มันกินยำตีน”

“เฮ้ย ทำอย่างนั้นไม่ได้นะ คุณสูรย์เป็นคนดี ที่กูรอดมาได้ก็เพราะเขานะโว้ย ตอนนั้นนะ มีใครคิดช่วยกูมั่ง..”



จุฬามณีเฟื่องนคร
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 11 เม.ย. 2554, 23:52:19 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 31 พ.ค. 2554, 12:01:21 น.

จำนวนการเข้าชม : 3204





<< 10. ง่วงนอนมากกกกกก   12 เพลงบางเพลงถึงปิดมันก็ยังดังในหัวใจของเรา >>
จุฬามณีเฟื่องนคร 11 เม.ย. 2554, 23:58:13 น.
เม้นท์ที่ 13 ตอนบ่ายสองโมง แถมเป็นของคุณสร้อยดอกหมากเสียด้วย (เป็นปลื้มมมมมมมม))

สรุปว่าวันนี้ผมไม่ได้อยู่บ้านครับ กว่าจะกลับมาถึงบ้านก็เกือบ ๆ เที่ยงคืน ดีนะที่ยังไม่เที่ยงคืน ถ้าเป็นวันอังคารก็โพสต์ไม่ได้อีก เดี๋ยวเสียคำพูด 5555

สรุปว่าวันนี้ 19 เม้นท์แนะ...ถ้าตอนนี้ "ท้า" อีก จะได้อีก 19 ไหมเนี่ย..

ว่าไปก้น่าท้าอยู่นะ..เอาเป็นว่า ปกติผมจะโพสต์วันจันทร์ แต่ว่า ถ้า ตั้งแต่บัดนี้ อีก 24 ชม. มีเม้นท์ถึง 19 ผมก็จะโพสต์ต่อ..

ปล. พอดีในสต๊อกมีหลายตอน กับสัปดาห์หน้าจะไปพม่าครับ ...
ปล. 2 ขอบคุณสำหรับกำลังใจนะครับ ช่วงนี้ผมมีความสุขกับไอ้ม่ามาก ก็อยากให้มีความสุขด้วยเช่นกัน...จุ๊บ ๆ


ptyks 12 เม.ย. 2554, 00:38:10 น.
Pleassssssseee
โพสต์ต่อนะคะ อุตส่าห์รออ่าน อยากเห็นฉากน่ารักๆค่ะ

ขอบคุณค่ะ


ธารณ์ 12 เม.ย. 2554, 00:55:43 น.
โอม..เพี้ยง..ขอให้เมนท์ที่ 19 มาถึงไวๆ นะเจ้าคะ ^^


nateetip 12 เม.ย. 2554, 01:24:21 น.
3 ka.,,


แฟนพันธุ์แท้ 12 เม.ย. 2554, 05:43:58 น.
4 ค่ะ
5-6-7-8 ตามมาเร็วๆ นะคะ

ปอ ปลา ลอ ลิง ถ้าไม่อยากโดนตบปาก หรือ ถ้าอยากโดนตบปาก แน่คะ :)


จิ๋วจ้า 12 เม.ย. 2554, 06:00:56 น.
น่ารักแบบห้าวๆ


หมูบิน 12 เม.ย. 2554, 06:16:55 น.
อะไรกันเนี้ยยยยคุณเฟื่องขาาาา หาแรงใจจริงๆ เลยนะค่ะ คนอ่านเยอะมาก แต่ขอเป็นเม้นต์ที่ 6 นะค่ะ


Pat 12 เม.ย. 2554, 06:53:03 น.
Ment 7 naka ^_^


Kookkea 12 เม.ย. 2554, 08:06:06 น.
comment number 8 ka :)


mottanoy 12 เม.ย. 2554, 08:47:40 น.
เดี๋ยวเราจะนอนแล้วคงไม่ได้อ่านตอนต่อไปวันนี้ แต่ก็นะมาลุ้นสิบเก้าให้คนเมืองไทยอ่านกัน คิดถึงม่าค่ะ อยากรู้ว่าธัญญรัตน์จะตามมาถูกมั้ย


nikky 12 เม.ย. 2554, 08:57:28 น.
น่ารักจัง ชอบมากๆๆเลย


dino 12 เม.ย. 2554, 09:37:46 น.
กำลังรอลุ้นอยู่เลยค่ะ รอนะค่ะ


incanto 12 เม.ย. 2554, 09:49:56 น.
พระเอกเราเริ่มอินเลิฟมั่งแร้ววว ทนคิดถึงไม่ไหว


nutcha 12 เม.ย. 2554, 09:58:01 น.
คุณสูรย์น่ารักจั
ง อยากเป็นไอ้ม่าจัง


ก้อนอิฐ 12 เม.ย. 2554, 11:59:12 น.
14 ค่า.............มารอลุ้นตอนต่อไปค๊าาาา


sister 12 เม.ย. 2554, 12:15:19 น.
15 แล้ว สนุกดีค่ะ


ณิณ 12 เม.ย. 2554, 13:28:43 น.
16 ค้า เอามาฝากอีกซักตอนก่อนไปเท่วนะคะ>.<


จุฬามณีเฟื่องนคร 12 เม.ย. 2554, 13:54:38 น.
คุณณินครับ..ขาดอีก 3 เม้นท์ ไม่เป็นไร เพราะวันนี้บางท่านจะต้องรีบเลิกงานกลับบ้านตวจ. หรือไม่ก็ออกเที่ยวต่างจังหวัด..ดังนั้น ตอนที่ 12 จึงต้องรีบมา ...แล้วก็ เจอกันอีกทีวันจันทร์นะครับ..ขอบคุณสำหรับกำลังใจนะครับ. ต่อบทที่ 12 กันได้เลย อาจจะหยาบคายบ้าง แต่เพื่ออรรถรสของอารมณ์...ขอประทานอภัยนะครับ


ปิลันธน์ 19 มี.ค. 2555, 18:56:28 น.
ชอบ^^ เรื่องราวน่ารักดี


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account