กุหลาบซ่อนกลิ่น (จบแล้ว)
นางเอกโตมาในไซด์งานก่อสร้าง ที่นั่นทำให้เธอรู้ว่า การแสดงตัวว่าเป็นหญิงเป็นเรื่องอันตราย ดังนั้นนางเอกจึงเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมตัวเอง จนใคร ๆ มองว่าเป็นทอม แต่แท้จริงแล้ว เธอก็คือผู้หญิงคนหนึ่ง ที่มีรัก..และรักของเธอก็เป็นรักที่มีเวลามาเป็นตัวกำหนด....
Tags: โรแมนติก..
ตอน: 10. ง่วงนอนมากกกกกก
ไม่ใช่ชื่อตอนหรอกครับ แต่ว่า มะเฟื่อง ง่วงแล้ว...
อย่างไงก็ เห็นแก่ความน่ารัก ของนักอ่าน...เอาเป็นว่า ถ้าตอนที่ 10 มี 13 เม้นท์ เช้า ๆ เจอะกันอีกตอน
นอนหลับฝันดีครับ...
10.
“ใส่แว่นอะไรอะไรเหรอ” กุสุมาเอ่ยถามเมื่อรถยนต์สี่ประตูของเขาเคลื่อนออกจากรั้วไม้หอมของครัวอิ่มสุข จุดมุ่งหมายก็คือตลาดดอกไม้ที่คลอง 15 บนถนนรังสิต-องครักษ์ ซึ่งกุสุมาไม่คิดเลยว่า เขาจะชวนให้ไปช่วยเลือกไม้ดอกเพื่อมาตกแต่งร้าน และหลังจากที่ไปบอกพี่นกให้หาคนรับผิดชอบพื้นที่แทน เธอก็ไปเปลี่ยนกระโปรงมาเป็นกางเกงก่อนจะสะพายเป้เดินตัวปลิวท่ามกลางสายตาของพนักงานคนอื่น ๆ ตามเขามาที่รถ
“แว่นสายตา”
“สั้นเหรอ”
เขาปลายตามองผ่านแว่นก่อนจะหันหน้ากลับไปมองถนน ใบหน้านิ่ง ๆ แต่ว่าดวงตานั้นดูเล่ห์กระเท่นิดหน่อยแต่กุสุมารู้สึกว่าเธอไว้ใจเขา และคิดเข้าข้างตัวเองว่าต้องมีอะไรพิเศษ ๆ เขาถึงได้ชวนเธอออกมาเพียงลำพัง..
“ขับรถยนต์เป็นหรือเปล่า”
“เป็น ชอบด้วย แต่รถพ่อมันเก่า ขับไม่สนุก” ใจจริง เธออยากขับรถคันใหญ่
และใหม่เอี่ยมของเขาแหละ แต่จะพูดตรง ๆ เห็นทีก็ไม่ใช่ไอ้ม่า
“ลองไหม”
“ไม่หวงเหรอ..เกิดพลาดไป แต่ม่ามีใบขับขี่นะ ทำไว้พร้อม..สอบเองด้วยนะไม่ได้ซื้อหามา”
เขาขับรถชิดฟุตบาททันที กุสุมาเปิดประตู แล้วเดินลงจากรถไปเปิดประตูฝั่งของเขา ส่วนเขาก็ ยกขาขึ้นก่อนจะขยับข้ามเกียร์ไปยังเบาะที่เธอเพิ่งลุกไป..
“เอาอย่างนี้เลยเหรอเจ้านาย” กุสุมาถามพลางอมยิ้ม จนกระทั่งเขาขยับไปนั่งแทนที่เรียบร้อยกุสุมาก็เข้าประจำที่คนขับ
“แน่ใจนะว่าขับได้”
“สบายมาก” ว่าแล้วกุสุมาก็ออกรถอย่างนุ่มนวล
“ขับเป็นก็ดี วันหลังจะได้ให้ขับให้นั่ง”
“วันหลัง วันหลัง จะพาไปไหนอีกเหรอ แล้วจะพาไปทำไม”
“ไปไหนคนเดียว บางทีก็เบื่อ ๆ ก็เลยชวนวิชาญมันไปด้วย แต่ให้มันอยู่ร้านจะดีกว่า”
“แล้วอีกอย่างถ้าวิชาญไปด้วยก็จะถูกนินทา” กุสุมาต่อให้
“ใช่ เชื่อแล้วสิว่าคนในร้านชอบนินทาเจ้าของร้าน”
“แล้วมากับม่าไม่กลัวเขาเอาไปนินทาเหรอ”
“ก็คงดีกว่าเป็นเรื่องกับวิชาญมัน”
“งั้นม่าก็เสียหาย”
“เดี๋ยวเราก็ไปแล้วนี่ จะทันเสียหายอะไร แล้วอีกอย่าง เราก็ผู้ชายเหมือนกัน”
พอเขาแหย่อย่างนี้ กุสุมาเลยหันมาค้อนให้หนึ่งที ก่อนจะเหยียบเร่งน้ำมันทำความเร็วเมื่อรถเข้า
เขตทางด่วน
“เบาๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ”
“เหยียบติดตีน เอ้ย เหยียบติดเท้าดีจริง ๆ” พอเขาเตือนกุสุมาก็ผ่อนความเร็วลง
“ขับรถเร็วเหมือนกันนะเรา”
“ก็อยู่ในเกณฑ์ที่ไม่ประมาท”
“ขับมากกว่าร้อยยี่สิบนี่ถือว่าประมาทแล้ว”
“ถนนโล่ง ๆ แบบนี้..ต้องอัดให้เต็มที่”
“ไม่กลัวตายรึ”
“กลัวจะตาย”
“ทำเก่ง”
“เหมือนจะเก่ง จริง ๆ ตาขาวจะตาย”
“เป็นผู้หญิงขี่มอเตอร์ไซค์ในกรุงเทพฯได้นี่ก็เก่งแล้ว”
“ถ้าไม่ได้ไปเมืองนอกว่าจะไปขับวิน รายได้ดีกว่าก่อสร้างอีกไม่เหนื่อยด้วย”
“เคยทำเหรอ”
“น้อยไปสิ..แต่แม่ไม่ให้ทำ เปลืองตัว”
“ถูกสาว ๆ เเต๊ะอั๋งเหรอ”
พอเขาเอ่ยออกมาอย่างนี้ กุสุมาจึงค้อนให้เขาอีกรอบ
“ค้อนก็เป็นด้วย”
“ม่าก็ผู้หญิงนะ”
“ผู้หญิง” เขายิ้มกรุ้มกริ่มให้
“ยิ้มอะไร”
“ผู้หญิงสวยใสน่ารัก” เหมือนเขาจะประชดให้แต่ว่ากุสุมาก็รู้สึกเขินขึ้นมาทันที
“เว่อร์แล้ว”
เมื่อสูรย์พากุสุมาลับตาไปแล้วทางร้านอิ่มสุข ปลากับกิ๊บซี่นั้นดีใจเป็นอย่างยิ่ง เพราะทางนี้วิชาญมีสีหน้าสลดลงทันที แต่ว่าปลาก็ทำหน้าต้องทำหน้าที่รายงานให้ทางอรพิมได้รับรู้ไว้ และอรพิมก็อารมณ์เสียมาตามสายเช่นกัน ส่วนตุ๊ดซี่นั้นก็รีบโทรศัพท์รายงานไปหาธัญรัตน์ และแน่นอนว่าทางนั้นเองก็มีอารมณ์ฉุนเฉียวไม่น้อย เพราะตุ๊ดซี่ ตีไข่ใส่สีจนกระทั่งกลายเป็นว่าสูรย์นั้นอุ้มกุสุมาขึ้นรถไปทีเดียว..
และที่ในครัว น้าส้มลิ้มยืนครุ่นคิดอย่างหนักเพราะถ้าคุณสูรย์มีใจให้กับแม่กุสุมาจริง ๆ แล้วหนูอรพิมผู้แสนดีละ..
“เป็นอะไรละป้า” ลูกมือที่ยืนช่วยงานอยู่ข้าง ๆ เอ่ยถามป้าส้มลิ้ม เมื่อเด็กเสิร์ฟเดินมาเล่าว่าสูรย์ออกไปข้างนอกกับกุสุมา แล้วป้าส้มลิ้มก็ยืนอึ้ง เพราะเมื่อวานตอนที่อรพิมเข้ามาประจบ เดินออกไปข้างนอกแล้ว น้าส้มลิ้มก็พูดขึ้นว่า
คู่นี้ช่างเหมาะสมกันเหลือเกิน
แต่ไป ๆ มา เอาเข้าจริง ๆ ทั้งอรพิมและธัญรัตน์ดูเหมือนจะไม่อยู่ในสายตาของสูรย์สักนิด แถมสูรย์ยังดูใส่ใจให้ความสำคัญกับเด็กผู้หญิงทีท่า แข็ง ๆ ดูทำอะไรไม่เป็นโล้เป็นพาย เหมือนเด็ก ๆ รักสนุกไปวันเสียอีก ป้าส้มลิ้มคงหวั่นใจตามประสาผู้ใหญ่
ที่อยากได้คนที่ดีกว่ามาเป็นแม่ของหลาน ๆ
“อย่าสู่รู้”
“พอเดาออกหรอกน่า กลัวคุณสูรย์หลงเสน่ห์ไอ้ม่าใช่ไหม”
“หรือกลัวคุณสูรย์จะทิ้งวิชาญ” เชฟครัวเย็นที่อยู่กันมานานสอดเข้ามา ทีนี้เองป้าส้มลิ้มก็เลยหันไปถลึงตาก่อนจะใช้ตะหลิวชี้หน้า แล้วพ่นวาจาชัดถ้อยชัดคำและเต็มไปด้วยอารมณ์โกรธ..
“ปากพวกเอ็งนะ เดี๋ยวเหอะ เดี๋ยวเหอะ”
“แหม ป้า แต่งงานกับทอมยังมีลูกได้นะ”
“ไอ้กั๊ก หยุดเลยนะ”
“หยุดก็ได้ ไม่ใช่กลัวนะ แต่กลัวป้าหัวใจขาดเลือดตายซะก่อน”
“ไอ้เวร”
“ตะไล”
“ไอ้ห่า”
“ลากไส้”
“ไอ้บ้า”
“ห้าร้อย”
เมื่อก๋วยเตี๋ยวเรือริมคลองรังสิตชามที่สิบของกุสุมาหมดไป สูรย์ก็ยื่นแบงก์ห้าร้อยไปให้คนที่เรออย่างไม่ไว้หน้าตัวเอง
“เก่งมาก”
“บอก แล้ว ว่า อย่า ท้า”
“ไม่คิดว่าจะกินได้จริง ๆ นิ” เขายิ้ม ๆ เพราะยังขำกับท่าพยายามกล้ำกลืนลูกชิ้นลูกสุดท้ายให้ลงคอ
“แต่อืดน่าดูเลย” ไม่ใช่แค่บอกอืด แต่ กุสุมายังขยับตัวไปมาเหมือนงูเหลือมกลืนลูกสุนัขเข้าไป
“ตะกละดีนัก”
“กินก็ฟรี แถมได้อีกห้าร้อย ใครละจะไม่เอา” ว่าแล้วกุสุมาก็รวบเงินแบงก์ใหม่เอี่ยมมาดอมดมก่อนจะพับใส่กระเป๋าเสื้อเชิ้ตสีเขียวที่มีตราของร้าน ซึ่งตรานี้สูรย์ค่อนข้างจะภูมิใจหนักหนาเพราะเขาเป็นคนออกแบบกับมือตัวเอง เพราะอยากให้ลูกค้าจดจำแบรนด์ไปพร้อมกับรสชาติพิถีพิถันที่ภูมิใจนำเสนอมาตั้งแต่รุ่นแม่ของเขา
“มองอะไร” พอเห็นเขามองหน้าอกกุสุมาก็รีบตะปบ ตรงอกตัวเอง
“ไข่ดาว” เขาพูดสั้น ๆ ก่อนจะหันไปหาเด็กเสิร์ฟในร้านที่ดูวุ่นวาย และพอเด็กสาวที่นุ่งกระโปรงสั้นสวมเสื้อสายเดี่ยวสีเขียวเข้มแต่งหน้าจัดและถักเปียทั้งสองข้างหันมา เขาก็ส่งสัญญาณให้มาเก็บเงิน และเมื่อจ่ายเงินให้กับน้องเด็กเสิร์ฟคนสวยผู้คอยชะม้ายชายตาให้ลูกค้าระหว่างทำงานไปแล้ว สูรย์ก็หันมามองหน้ากุสุมาที่ยืดตัวตรงเพราะดูท่าว่าจะอิ่มจริง ๆ
“อีโนสักซองไหม”
“แน่นมากเลย” ส่ายหัว แล้วกุสุมาก็ลุกขึ้นยืดตัว สูรย์ยืนขึ้นแล้วส่งมือให้ เจตนาคือให้กุสุมาที่กินจนอืดได้เกาะเดิน
“ไป..” สำหรับกุสุมาคำพูดสั้น ๆ นั้นมันทำให้ดูอบอุ่นแต่ว่าเธอก็ลังเลที่จับแขนของเขาให้ประคองตัวเองออกจากแพ แต่ว่าโอกาสมันมามีแล้วและเขาก็ไม่ได้ทำอะไรเกินเลย กุสุมาก็เลยจับแขนของเขาแล้วเป็นฝ่ายฉุดให้เขาเดินตาม..
และพอพ้นสะพานที่ทอดขึ้นสู่ตลิ่ง โทรศัพท์ในกระเป๋ากางเกงของกุสุมาก็สั่นเรียก พอดึงมาดูชื่อคนโทรมา กุสุมาก็ตะคอกถามกลับไปอย่างไม่ต้องห่วงสวยหรือไม่ก็กังวลว่าเรื่องที่คุยนั้นจะเป็นความลับ สูรย์เห็นดังนั้นจึงเดินนำไปยังรถที่ได้ใช้รีโมทปลดล็อกไว้แล้ว เขาเปิดประตูเข้าไปนั่งด้านคนขับเพื่อบอกให้รู้ว่าต่อไปเขาจะขับเอง กุสุมาเปิดประตูตามเข้ามาโดยที่หูยังมีโทรศัพท์แนบมาด้วย..
“กูต้องทำงาน..ไปไม่ได้”
“แต่มึงสัญญาไว้แล้ว ว่ามึงจะไปกับพวกกู..”
“เออ..ก็ตอนนั้นกูยังไม่ได้ทำงานนี่ ตอนนี้กูมีงานทำแล้ว พวกมึงไปกันเหอะ..ทะเลกูเคยไป แล้วตอนนี้กูก็กลัวสึนามิด้วย มึงดูข่าวมั่งหรือเปล่า เจแปนอ่ะ ตายกันเป็นหมื่น ๆ”
“ไม่ต้องมาอ้าง อย่างไรมึงต้องไปด้วย..กูไม่ยอมนะ ถ้ามึงไม่ไป พวกกูจะตัดขาดมึงออกจากกองมรดก”
“มรดกพ่อมึงอะไร”
“มึงต้องไป ลางานซะเลยนะ”
ระหว่างที่คุยกุสุมาก็ยกขาข้างซ้ายขึ้นมาไว้บนเบาะ..โดยสูรย์เองชำเลืองไปมองแล้วก็ส่ายหัวเบา ๆ แต่เขาก็ไม่ได้รู้สึกว่ามันน่าเกลียด ทุกอย่างที่เป็นกุสุมามันดูเป็นธรรมชาติและเขาก็รู้สึกชอบเสียอีก ด้วยตลอดชีวิตที่ผ่านมา เขาเจอผู้หญิงแต่แบบที่เป็นผู้หญิง นุ่มนวล นุ่มนิ่มและก็เรียบร้อย เยื้องย่างกรีดกรายเป็นไปอย่างนิ่มนวลแต่ว่ากุสุมาคนนี้ต้องกันข้ามไปเสียทุกอย่าง..
“เออ เดี๋ยวกูคุยกับเจ้านายกูก่อน ถ้าเขาอนุญาตกูก็ไปนะ แต่ถ้าเขาไม่ให้กูก็จะไป..”
“อ้าว” สูรย์อุทานออกมาเบา ๆ เมื่อหันมาเห็นกุสุมายิ้มอย่างเจ้าเล่ห์..
“นะนะ ให้ม่าไปกับพวกมันนะ ม่าลืมไปว่าไปนัดกับพวกมันไว้ นะนะ” กุสุมาอ้อนทั้งที่โทรศัพท์ยังไม่ได้วางสาย
“กูกำลังขออยู่ แค่นี้นะ..เดี๋ยวโทรกลับ”
“ถมยาไปด้วยหรือเปล่า”
“ไม่รู้มัน คงไปมั้ง มันจะเริ่มงานวันไหนละ ต้องถามมันก่อน”
“แล้วเขาจะเอาเงินที่ไหนเที่ยว”
“ก็เงินที่คุณสูรย์ให้ไว้นั่นแหละ ถ้ามันไม่มีจริง ๆ ก็ไม่ใครว่ามันหรอก เพราะตอนนี้มันมีรอย ‘ทีน’ ไอ้ พวกนรกนั่นประทับอยู่บนหน้า”
“นี่ถ้าห้ามก็คงไม่ฟัง”
“..ก็จะแยกย้ายกันแล้ว” กุสุมาพยายามจะอธิบาย
“ไปที่ไหนกัน..”
“แค่ชะอำ ที่พักถูก ของกินหาง่าย ไปเช้า นอนค้าง แล้ววันรุ่งขึ้นบ่าย ๆ ก็กลับ”
“มีผู้หญิงไปหรือเปล่า”
“มีสิ ก็แฟน ๆ พวกมันแหละ ไปกันมาบ่อย ๆ ไม่มีอะไรหรอก ไม่มีใครกล้าแหยมกับม่าหรอก ไม่ต้องหวง.. เอ้ย ไม่ต้องห่วงหรอก นอนแยกหญิง แยกชาย หากใครจะพิเศษกันก็ไปหาเปิดห้องเอง จ่ายเงินเองไม่รวมกองกลาง” กุสุมาอธิบายเสร็จสรรพ
“ทำงานยังไม่ทันได้เงินเดือนเลย”
“วันจันทร์กลับมา ม่าก็เข้าไปอยู่ในครัวแล้ว หลังสงกรานต์ม่าอาจจะได้ไปออส-เลียแล้ว นะนะให้ม่าไปนะ”
“ถ้าไม่ให้ ก็จะไป” สูรย์ประชดแต่ว่ากุสุมาหาได้รู้สึก..
“ถูกต้องแล้วครับ”
“งั้นไม่ให้ไป วันเสาร์อาทิตย์คนเยอะ ต้องอยู่ร้าน” สูรย์ลองใจกุสุมาดูว่าจะรักร้านแค่ไหน แต่ว่า..
“ม่าสำคัญขนาดนั้นเลยเหรอ ก่อนหน้านั้นก็..”
“รู้ว่าห้ามไม่ได้..” เขาแทรกด้วยน้ำเสียงน้อยใจ แต่ว่าลึก ๆ เขาก็น้อยใจจริง ๆ น้อยใจที่กุสุมาให้ความสำคัญกับคนอื่นมากกว่าเขา...ใช่สิ เขามันแก่ เขามัน..อารมณ์น้อยเนื้อต่ำใจของสูรย์พลุ่งขึ้นมา ภาพตอนวรรณพรมาเป็นฝ่ายบอกเลิกโดยอ้างว่ามีคนสำคัญแอบอยู่ในใจมาเนิ่นนานตามมาตอกย้ำ เธออ้างว่ารักปริญมากกว่าเขา และไม่ใช่เขาไม่ดี แต่ว่า เธอรักเขาน้อยกว่า และเมื่อคบกันไปนาน ๆ เธอให้เขาได้แค่คำว่า ‘พี่ชาย’
เมื่อได้ยินน้ำเสียงคล้ายน้อยใจของเขา กุสุมาก็เลยหันไปมองหน้า เห็นเขาจ้องถนนพลางถอนหายใจเฮือก ๆ กุสุมาก็อดใจแป้วไม่ได้..
“ไม่ใช่ม่าไม่ห่วงร้าน แต่ว่า..”
“ฉันเข้าใจ” สูรย์ตัดบท
“ไปเหอะ เพื่อนเราสำคัญเสมอ”
อันที่จริงกุสุมาอยากจะเงียบ แต่เธอก็อยากให้เขาเข้าใจเธอมากขึ้น..
“ไปเที่ยวด้วยกันคราวนี้ ก็ไม่รู้อีกเมื่อไหร่ที่จะได้ไปด้วยกันอีก ม่าเองก็ต้องไปที่อื่น ซึ่งมันก็คงไม่ได้กลับมาง่าย ๆ กลับมาก็อาจจะไม่ได้เจอพวกมัน แต่ว่าร้าน ม่ามั่นใจว่า มันจะอยู่ไปจน...จน จนส่งต่อ
ให้ลูกคุณสูรย์”
ระหว่างที่รถแล่นไปยังคลอง 15 ย่านที่ขายไม้ดอกไม้ประดับ กุสุมาก็ได้ทราบว่าสูรย์นั้นสายตาสั้นถึงสองร้อยห้าสิบและช่วงผ่านมา ๆ เขาใส่คอนแทคเลนส์จนกระทั่ง เมื่อคืนเกิดอักเสบตาแดงจึงต้องหยุดใช้แล้วมาใส่แว่นตา ซึ่งตรงนี้เองทำให้ใบหน้าเขาดูแปลกไป แต่ถึงกระนั้นกุสุมาก็อดที่จะเหลือบไปดูอยู่บ่อย ๆ ไม่ได้..
นอกจากนั้น กุสุมาก็ยังได้รู้ประวัติของครอบครัวจากปากของเขาเอง โดยแม่ของเขานั้นเกิดและโตในกรุงเทพฯ โดยมีคุณยายเคยอยู่ในรั้วในวัง ฝีมืออาหารรสเลิศเลยตกทอดมาถึงแม่ของเขา ส่วนพ่อของเขารับราชการแต่ด้วยเป็นข้าราชการชั้นผู้น้อยเงินเดือนไม่มาก พอแม่ตั้งหลักร้านอาหารจนมีชื่อ พ่อก็ลาออกจากงานมากินบำนาญ แล้วก็ช่วยกันทำงานจนกระทั่งละมือยกกิจการให้ลูก ๆ ช่วยกันบริหารดูแล
ส่วนตัวเขาเองก็ทำงานทุกอย่างในร้านมาตั้งแต่เด็ก ๆ จนกระทั่งได้เรียนหนังสือตามกำลังสติ ปัญญาของตัวเอง แต่เอาเข้าจริง ๆ เขาก็ชอบที่จะอยู่กับร้านมากกว่าอยู่ในไซด์งานก่อสร้าง
ยิ่งมามีร้านที่ต้องรับผิดชอบเต็มกำลัง เขาก็ต้องทุ่มเททั้งหมด แม้แต่การออกไปซื้อวัตถุดิบเพื่อใช้ในการปรุงอาหารซึ่งกำไรหรือขาดทุนก็จะอยู่ที่ต้นทุนวัตถุดิบ
กุสุมาเพิ่งรู้ว่าเขาลำบากมากกว่าคนในครัว มากกว่าเด็กเสิร์ฟ เพราะทุกสองวันเขาต้องไปตลาดไทเพื่อซื้อผักและของแห้งอื่น ๆ นอกจากนั้น ทุก ๆ เช้าเขาก็ต้องเช็คราคาเนื้อสัตว์แต่ละเขียงก่อนจะให้ทางร้านมาส่งถึงที่นี่ นอกจากนั้น เขาก็ยังฟุ้งให้รู้ด้วยว่า ฝีมืออาหารของเขานั้น ไม่เป็นสองรองใคร..
เพราะตลอดชีวิตเขากินแต่อาหารอร่อย ๆ นั่นเอง
รถแล่นไปตามถนนท่ามกลางเรื่องเล่าจากปากของเขา จนกระทั่งรถเลี้ยวซ้ายเข้าถนนที่เต็มไปด้วยไม้ดอกไม้ประดับ..
“โอ้โหวววววววว ทำไมดอกไม้เยอะอย่างนี้ละ แล้วคุณสูรย์จะมาเอาดอกอะไร”
“เราอยากได้ดอกอะไรไปประดับร้าน” ก่อนที่จะมานั้นสูรย์บอกว่าให้เธอมาเป็นคนช่วยเลือกดอกไม้ไปประดับร้าน..แต่กุสุมาไม่เคยคิดเลยว่าถนนเส้นนี้จะละลานตาไปด้วยไม้ดอกและไม้ประดับจนกระทั่งเลือกไม่ถูกว่าควรจะแวะร้านไหนดี
“ให้ม่าเป็นคนเลือกจริง ๆ เหรอ”
“ฉันเป็นพ่อมดไม่รู้จักดอกไม้หรอก..”
พอเขาพูดเรื่องที่เธอแอบไปนินทาเขากับลุงชม กุสุมาจึงหัวเราะแหะ ๆ แล้วพูดว่า “รู้อีก”
หลังจากตัดสินใจจอดรถหน้าร้านที่เต็มไปด้วยไม้ดอก กุสุมาก็ลงจากรถ หลังจากนั้นก็ชะเง้อชะแง้มองซ้ายมองขวา อย่างคนตัดสินใจลำบาก สูรย์ที่ก้าวตามลงมาพร้อมโทรศัพท์มือถือที่สามารถถ่ายรูปได้ก็หันหน้าเลนส์ไปยังร่างบอบบางที่อยู่ในชุดกางเกงยีนส์เสื้อเชิ๊ตและที่สำคัญในเป้ใบนั้นมีหมวกแก๊ปสีเดียวกับยีนส์และแว่นตากันแดด ใบหน้ารูปไข่ยามนี้จึงแปลกตาไปอีกแบบ..
“หันมา” เขาร้องบอก พอกุสุมาหันมาเขาก็กดชัตเตอร์ทันที..
พอเห็นเขาถ่ายรูปใจของกุสุมาที่เอนเอียงไปทางเขาอยู่แล้วก็แกว่งยิ่งขึ้น วันนี้ระหว่างนั่งกินก๋วยเตี๋ยวเรือด้วยกัน เขาก็มองหน้าของเธอ และที่ใคร ๆ บอกกันว่า ดวงตาเป็นหน้าต่างของหัวใจ เธอก็รู้สึกได้ว่ามันเป็นสายตาของคนที่มีใจให้กัน เหมือนสายตาที่ปลากับกิ๊บซี่มีให้กับวิชาญ แต่ของสูรย์ถึงจะไม่มากเท่านั้น แต่มันก็ส่อออกมาว่าเขานั้นพอใจกับใบหน้าของเธอ..
กุสุมายิ้มจาง ๆ เมื่อเขาไม่หันหน้ากล้องหนี..แต่ว่าด้วยเขินกับไม่อยากให้เขารู้ว่าเธอก็มีใจให้เขา กุสุมาจึงพูดว่า “ไปดูตรงโน้นเหอะ ม่าชอบไม้กระถาง”
ว่าแล้วกุสุมาก็เดินนำไปยังไม้จำพวกคุณนายตื่นสายที่บานสะพรั่งอยู่ในกระถางดินเผามีลวดแขวนไว้กับราวยาวเหยียด และเมื่อเดินไปใกล้ ๆ กุสุมาก็รู้สึกว่ามันสวยมาก ๆ
“เอานี่แหละ เอาไปด้วยนะเอาไปเยอะ เอาไปแขวนรอบ ๆ ร้านเลยนะ”
“ตัดสินใจง่ายจัง” เขาแปลกใจที่เห็นกุสุมาก้มลงไปดอมดมดอกไม้สีงามตาเหล่านั้น และที่ถ้ามีคนถามว่า เขาชอบกุสุมาตรงไหน ก็คงจะเป็นตรงที่เวลาทำอะไร กุสุมาจะทำอย่างที่ใจอยากทำ โดยไม่ได้สนใจว่า ตอนนั้นอยู่กับใคร แม้มันจะดูเหมือนเด็ก แต่ว่าลึก ๆ กุสุมาก็มีความระแวดระวังตัวเองอย่างคนที่รู้ว่าตัวเองเป็นสาว เพราะช่วงที่กุสุมาดึงเขาออกจากร้าน ตอนจะก้าวข้ามสะพาน พอเขาจะพลิกฝ่ามือเป็นจับแขนเล็ก ๆ นั้นแทน กุสุมาก็เบี่ยงแขนแล้วชักมือออกจากแขนของเขาก่อนจะก้าวยาว ๆ เดินไปข้างหน้า
“ก็ม่าชอบ มันดูแลง่ายดี รดน้ำ ใส่ปุ๋ย มันก็มีดอก แล้วทนร้อน ทนแดดทนฝน อนุมัตินะ”
“ไปดม เขาฉีดยานะ” เขาปรามเพราะกุสุมาไล่ดอมดมดอกนั้นดอกนี้
“ฉุน ๆ เหมือนกันนะ” ว่าแล้วกุสุมาก็ทำหน้ายู่ยี่พลางใช้หลังมือถูจมูก และจังหวะนั้นสูรย์ก็กดชัตเตอร์เก็บภาพนั้นไว้ได้พอดี และพอเขาเปิดภาพดูจึงได้เห็นว่า มันดีกว่า ภาพขนาด 2 นิ้วที่กุสุมาเคยเอามาให้เขาเป็นไหน ๆ
“เย็นค่ำแล้วยังไม่กลับกันมาอีก พาอีทอมแบไปติ๊ดชึ่งซะละมั้ง”
ตุ๊ดซี่เปรยออกมาด้วยสีหน้าวิตก เพราะก่อนหน้านั้น ธัญรัตน์ก็โทรมาถามอยู่เรื่อย ๆ ว่าสูรย์กลับมาหรือยัง ตุ๊ดซี่ก็ได้แต่บอกว่ายัง แต่ในใจก็อดด่าเจ้านายตัวเองไม่ได้ เพราะผู้ชายเขาก็แสดงออกมาแล้วว่าไม่รักก็ยังทนตามตื้ออยู่ได้ แต่ตุ๊ดซี่ก็ไม่กล้าพูดตรง ๆ จะทำได้แค่เพียง พูดเตือนสติเบา ๆ ว่า ‘รักคนที่เขารักเราดีกว่านะคะ’ แต่กับกิ๊บซี่ ตุ๊ดซี่ก็จะพูดตรง ๆ ว่า ‘รูปไม่หล่อพ่อไม่รวยแต่ว่าเป้าของคุณซ้งนะชนะเลิศนะยะ’
แม้จะชิน ๆ กับ ‘เซ็กส์สตอรี่’ ของตุ๊ดซี่ แต่ว่ากิ๊บซี่ก็หน้าแดงซ่าน เมื่อนึกถึงวันที่คุณซ้งเดินเข้ามาในร้านโดยที่ไม่ได้รูดซิบกางเกง และกิ๊บซี่ก็เห็นว่าเนื้อใต้กางเกงมันนูนขึ้นมาจนต้องสะกิดให้ตุ๊ดซี่ช่วยทำให้คุณซ้งรูดซิป และพอคุณซ้งรู้ตัว ตั้งแต่วันนั้น เขาก็จะยิ้มอาย ๆ เช่นเดียวกับเธอที่รู้สึกเขินเมื่อเห็นหน้าของเขา
อย่างไงก็ เห็นแก่ความน่ารัก ของนักอ่าน...เอาเป็นว่า ถ้าตอนที่ 10 มี 13 เม้นท์ เช้า ๆ เจอะกันอีกตอน
นอนหลับฝันดีครับ...
10.
“ใส่แว่นอะไรอะไรเหรอ” กุสุมาเอ่ยถามเมื่อรถยนต์สี่ประตูของเขาเคลื่อนออกจากรั้วไม้หอมของครัวอิ่มสุข จุดมุ่งหมายก็คือตลาดดอกไม้ที่คลอง 15 บนถนนรังสิต-องครักษ์ ซึ่งกุสุมาไม่คิดเลยว่า เขาจะชวนให้ไปช่วยเลือกไม้ดอกเพื่อมาตกแต่งร้าน และหลังจากที่ไปบอกพี่นกให้หาคนรับผิดชอบพื้นที่แทน เธอก็ไปเปลี่ยนกระโปรงมาเป็นกางเกงก่อนจะสะพายเป้เดินตัวปลิวท่ามกลางสายตาของพนักงานคนอื่น ๆ ตามเขามาที่รถ
“แว่นสายตา”
“สั้นเหรอ”
เขาปลายตามองผ่านแว่นก่อนจะหันหน้ากลับไปมองถนน ใบหน้านิ่ง ๆ แต่ว่าดวงตานั้นดูเล่ห์กระเท่นิดหน่อยแต่กุสุมารู้สึกว่าเธอไว้ใจเขา และคิดเข้าข้างตัวเองว่าต้องมีอะไรพิเศษ ๆ เขาถึงได้ชวนเธอออกมาเพียงลำพัง..
“ขับรถยนต์เป็นหรือเปล่า”
“เป็น ชอบด้วย แต่รถพ่อมันเก่า ขับไม่สนุก” ใจจริง เธออยากขับรถคันใหญ่
และใหม่เอี่ยมของเขาแหละ แต่จะพูดตรง ๆ เห็นทีก็ไม่ใช่ไอ้ม่า
“ลองไหม”
“ไม่หวงเหรอ..เกิดพลาดไป แต่ม่ามีใบขับขี่นะ ทำไว้พร้อม..สอบเองด้วยนะไม่ได้ซื้อหามา”
เขาขับรถชิดฟุตบาททันที กุสุมาเปิดประตู แล้วเดินลงจากรถไปเปิดประตูฝั่งของเขา ส่วนเขาก็ ยกขาขึ้นก่อนจะขยับข้ามเกียร์ไปยังเบาะที่เธอเพิ่งลุกไป..
“เอาอย่างนี้เลยเหรอเจ้านาย” กุสุมาถามพลางอมยิ้ม จนกระทั่งเขาขยับไปนั่งแทนที่เรียบร้อยกุสุมาก็เข้าประจำที่คนขับ
“แน่ใจนะว่าขับได้”
“สบายมาก” ว่าแล้วกุสุมาก็ออกรถอย่างนุ่มนวล
“ขับเป็นก็ดี วันหลังจะได้ให้ขับให้นั่ง”
“วันหลัง วันหลัง จะพาไปไหนอีกเหรอ แล้วจะพาไปทำไม”
“ไปไหนคนเดียว บางทีก็เบื่อ ๆ ก็เลยชวนวิชาญมันไปด้วย แต่ให้มันอยู่ร้านจะดีกว่า”
“แล้วอีกอย่างถ้าวิชาญไปด้วยก็จะถูกนินทา” กุสุมาต่อให้
“ใช่ เชื่อแล้วสิว่าคนในร้านชอบนินทาเจ้าของร้าน”
“แล้วมากับม่าไม่กลัวเขาเอาไปนินทาเหรอ”
“ก็คงดีกว่าเป็นเรื่องกับวิชาญมัน”
“งั้นม่าก็เสียหาย”
“เดี๋ยวเราก็ไปแล้วนี่ จะทันเสียหายอะไร แล้วอีกอย่าง เราก็ผู้ชายเหมือนกัน”
พอเขาแหย่อย่างนี้ กุสุมาเลยหันมาค้อนให้หนึ่งที ก่อนจะเหยียบเร่งน้ำมันทำความเร็วเมื่อรถเข้า
เขตทางด่วน
“เบาๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ”
“เหยียบติดตีน เอ้ย เหยียบติดเท้าดีจริง ๆ” พอเขาเตือนกุสุมาก็ผ่อนความเร็วลง
“ขับรถเร็วเหมือนกันนะเรา”
“ก็อยู่ในเกณฑ์ที่ไม่ประมาท”
“ขับมากกว่าร้อยยี่สิบนี่ถือว่าประมาทแล้ว”
“ถนนโล่ง ๆ แบบนี้..ต้องอัดให้เต็มที่”
“ไม่กลัวตายรึ”
“กลัวจะตาย”
“ทำเก่ง”
“เหมือนจะเก่ง จริง ๆ ตาขาวจะตาย”
“เป็นผู้หญิงขี่มอเตอร์ไซค์ในกรุงเทพฯได้นี่ก็เก่งแล้ว”
“ถ้าไม่ได้ไปเมืองนอกว่าจะไปขับวิน รายได้ดีกว่าก่อสร้างอีกไม่เหนื่อยด้วย”
“เคยทำเหรอ”
“น้อยไปสิ..แต่แม่ไม่ให้ทำ เปลืองตัว”
“ถูกสาว ๆ เเต๊ะอั๋งเหรอ”
พอเขาเอ่ยออกมาอย่างนี้ กุสุมาจึงค้อนให้เขาอีกรอบ
“ค้อนก็เป็นด้วย”
“ม่าก็ผู้หญิงนะ”
“ผู้หญิง” เขายิ้มกรุ้มกริ่มให้
“ยิ้มอะไร”
“ผู้หญิงสวยใสน่ารัก” เหมือนเขาจะประชดให้แต่ว่ากุสุมาก็รู้สึกเขินขึ้นมาทันที
“เว่อร์แล้ว”
เมื่อสูรย์พากุสุมาลับตาไปแล้วทางร้านอิ่มสุข ปลากับกิ๊บซี่นั้นดีใจเป็นอย่างยิ่ง เพราะทางนี้วิชาญมีสีหน้าสลดลงทันที แต่ว่าปลาก็ทำหน้าต้องทำหน้าที่รายงานให้ทางอรพิมได้รับรู้ไว้ และอรพิมก็อารมณ์เสียมาตามสายเช่นกัน ส่วนตุ๊ดซี่นั้นก็รีบโทรศัพท์รายงานไปหาธัญรัตน์ และแน่นอนว่าทางนั้นเองก็มีอารมณ์ฉุนเฉียวไม่น้อย เพราะตุ๊ดซี่ ตีไข่ใส่สีจนกระทั่งกลายเป็นว่าสูรย์นั้นอุ้มกุสุมาขึ้นรถไปทีเดียว..
และที่ในครัว น้าส้มลิ้มยืนครุ่นคิดอย่างหนักเพราะถ้าคุณสูรย์มีใจให้กับแม่กุสุมาจริง ๆ แล้วหนูอรพิมผู้แสนดีละ..
“เป็นอะไรละป้า” ลูกมือที่ยืนช่วยงานอยู่ข้าง ๆ เอ่ยถามป้าส้มลิ้ม เมื่อเด็กเสิร์ฟเดินมาเล่าว่าสูรย์ออกไปข้างนอกกับกุสุมา แล้วป้าส้มลิ้มก็ยืนอึ้ง เพราะเมื่อวานตอนที่อรพิมเข้ามาประจบ เดินออกไปข้างนอกแล้ว น้าส้มลิ้มก็พูดขึ้นว่า
คู่นี้ช่างเหมาะสมกันเหลือเกิน
แต่ไป ๆ มา เอาเข้าจริง ๆ ทั้งอรพิมและธัญรัตน์ดูเหมือนจะไม่อยู่ในสายตาของสูรย์สักนิด แถมสูรย์ยังดูใส่ใจให้ความสำคัญกับเด็กผู้หญิงทีท่า แข็ง ๆ ดูทำอะไรไม่เป็นโล้เป็นพาย เหมือนเด็ก ๆ รักสนุกไปวันเสียอีก ป้าส้มลิ้มคงหวั่นใจตามประสาผู้ใหญ่
ที่อยากได้คนที่ดีกว่ามาเป็นแม่ของหลาน ๆ
“อย่าสู่รู้”
“พอเดาออกหรอกน่า กลัวคุณสูรย์หลงเสน่ห์ไอ้ม่าใช่ไหม”
“หรือกลัวคุณสูรย์จะทิ้งวิชาญ” เชฟครัวเย็นที่อยู่กันมานานสอดเข้ามา ทีนี้เองป้าส้มลิ้มก็เลยหันไปถลึงตาก่อนจะใช้ตะหลิวชี้หน้า แล้วพ่นวาจาชัดถ้อยชัดคำและเต็มไปด้วยอารมณ์โกรธ..
“ปากพวกเอ็งนะ เดี๋ยวเหอะ เดี๋ยวเหอะ”
“แหม ป้า แต่งงานกับทอมยังมีลูกได้นะ”
“ไอ้กั๊ก หยุดเลยนะ”
“หยุดก็ได้ ไม่ใช่กลัวนะ แต่กลัวป้าหัวใจขาดเลือดตายซะก่อน”
“ไอ้เวร”
“ตะไล”
“ไอ้ห่า”
“ลากไส้”
“ไอ้บ้า”
“ห้าร้อย”
เมื่อก๋วยเตี๋ยวเรือริมคลองรังสิตชามที่สิบของกุสุมาหมดไป สูรย์ก็ยื่นแบงก์ห้าร้อยไปให้คนที่เรออย่างไม่ไว้หน้าตัวเอง
“เก่งมาก”
“บอก แล้ว ว่า อย่า ท้า”
“ไม่คิดว่าจะกินได้จริง ๆ นิ” เขายิ้ม ๆ เพราะยังขำกับท่าพยายามกล้ำกลืนลูกชิ้นลูกสุดท้ายให้ลงคอ
“แต่อืดน่าดูเลย” ไม่ใช่แค่บอกอืด แต่ กุสุมายังขยับตัวไปมาเหมือนงูเหลือมกลืนลูกสุนัขเข้าไป
“ตะกละดีนัก”
“กินก็ฟรี แถมได้อีกห้าร้อย ใครละจะไม่เอา” ว่าแล้วกุสุมาก็รวบเงินแบงก์ใหม่เอี่ยมมาดอมดมก่อนจะพับใส่กระเป๋าเสื้อเชิ้ตสีเขียวที่มีตราของร้าน ซึ่งตรานี้สูรย์ค่อนข้างจะภูมิใจหนักหนาเพราะเขาเป็นคนออกแบบกับมือตัวเอง เพราะอยากให้ลูกค้าจดจำแบรนด์ไปพร้อมกับรสชาติพิถีพิถันที่ภูมิใจนำเสนอมาตั้งแต่รุ่นแม่ของเขา
“มองอะไร” พอเห็นเขามองหน้าอกกุสุมาก็รีบตะปบ ตรงอกตัวเอง
“ไข่ดาว” เขาพูดสั้น ๆ ก่อนจะหันไปหาเด็กเสิร์ฟในร้านที่ดูวุ่นวาย และพอเด็กสาวที่นุ่งกระโปรงสั้นสวมเสื้อสายเดี่ยวสีเขียวเข้มแต่งหน้าจัดและถักเปียทั้งสองข้างหันมา เขาก็ส่งสัญญาณให้มาเก็บเงิน และเมื่อจ่ายเงินให้กับน้องเด็กเสิร์ฟคนสวยผู้คอยชะม้ายชายตาให้ลูกค้าระหว่างทำงานไปแล้ว สูรย์ก็หันมามองหน้ากุสุมาที่ยืดตัวตรงเพราะดูท่าว่าจะอิ่มจริง ๆ
“อีโนสักซองไหม”
“แน่นมากเลย” ส่ายหัว แล้วกุสุมาก็ลุกขึ้นยืดตัว สูรย์ยืนขึ้นแล้วส่งมือให้ เจตนาคือให้กุสุมาที่กินจนอืดได้เกาะเดิน
“ไป..” สำหรับกุสุมาคำพูดสั้น ๆ นั้นมันทำให้ดูอบอุ่นแต่ว่าเธอก็ลังเลที่จับแขนของเขาให้ประคองตัวเองออกจากแพ แต่ว่าโอกาสมันมามีแล้วและเขาก็ไม่ได้ทำอะไรเกินเลย กุสุมาก็เลยจับแขนของเขาแล้วเป็นฝ่ายฉุดให้เขาเดินตาม..
และพอพ้นสะพานที่ทอดขึ้นสู่ตลิ่ง โทรศัพท์ในกระเป๋ากางเกงของกุสุมาก็สั่นเรียก พอดึงมาดูชื่อคนโทรมา กุสุมาก็ตะคอกถามกลับไปอย่างไม่ต้องห่วงสวยหรือไม่ก็กังวลว่าเรื่องที่คุยนั้นจะเป็นความลับ สูรย์เห็นดังนั้นจึงเดินนำไปยังรถที่ได้ใช้รีโมทปลดล็อกไว้แล้ว เขาเปิดประตูเข้าไปนั่งด้านคนขับเพื่อบอกให้รู้ว่าต่อไปเขาจะขับเอง กุสุมาเปิดประตูตามเข้ามาโดยที่หูยังมีโทรศัพท์แนบมาด้วย..
“กูต้องทำงาน..ไปไม่ได้”
“แต่มึงสัญญาไว้แล้ว ว่ามึงจะไปกับพวกกู..”
“เออ..ก็ตอนนั้นกูยังไม่ได้ทำงานนี่ ตอนนี้กูมีงานทำแล้ว พวกมึงไปกันเหอะ..ทะเลกูเคยไป แล้วตอนนี้กูก็กลัวสึนามิด้วย มึงดูข่าวมั่งหรือเปล่า เจแปนอ่ะ ตายกันเป็นหมื่น ๆ”
“ไม่ต้องมาอ้าง อย่างไรมึงต้องไปด้วย..กูไม่ยอมนะ ถ้ามึงไม่ไป พวกกูจะตัดขาดมึงออกจากกองมรดก”
“มรดกพ่อมึงอะไร”
“มึงต้องไป ลางานซะเลยนะ”
ระหว่างที่คุยกุสุมาก็ยกขาข้างซ้ายขึ้นมาไว้บนเบาะ..โดยสูรย์เองชำเลืองไปมองแล้วก็ส่ายหัวเบา ๆ แต่เขาก็ไม่ได้รู้สึกว่ามันน่าเกลียด ทุกอย่างที่เป็นกุสุมามันดูเป็นธรรมชาติและเขาก็รู้สึกชอบเสียอีก ด้วยตลอดชีวิตที่ผ่านมา เขาเจอผู้หญิงแต่แบบที่เป็นผู้หญิง นุ่มนวล นุ่มนิ่มและก็เรียบร้อย เยื้องย่างกรีดกรายเป็นไปอย่างนิ่มนวลแต่ว่ากุสุมาคนนี้ต้องกันข้ามไปเสียทุกอย่าง..
“เออ เดี๋ยวกูคุยกับเจ้านายกูก่อน ถ้าเขาอนุญาตกูก็ไปนะ แต่ถ้าเขาไม่ให้กูก็จะไป..”
“อ้าว” สูรย์อุทานออกมาเบา ๆ เมื่อหันมาเห็นกุสุมายิ้มอย่างเจ้าเล่ห์..
“นะนะ ให้ม่าไปกับพวกมันนะ ม่าลืมไปว่าไปนัดกับพวกมันไว้ นะนะ” กุสุมาอ้อนทั้งที่โทรศัพท์ยังไม่ได้วางสาย
“กูกำลังขออยู่ แค่นี้นะ..เดี๋ยวโทรกลับ”
“ถมยาไปด้วยหรือเปล่า”
“ไม่รู้มัน คงไปมั้ง มันจะเริ่มงานวันไหนละ ต้องถามมันก่อน”
“แล้วเขาจะเอาเงินที่ไหนเที่ยว”
“ก็เงินที่คุณสูรย์ให้ไว้นั่นแหละ ถ้ามันไม่มีจริง ๆ ก็ไม่ใครว่ามันหรอก เพราะตอนนี้มันมีรอย ‘ทีน’ ไอ้ พวกนรกนั่นประทับอยู่บนหน้า”
“นี่ถ้าห้ามก็คงไม่ฟัง”
“..ก็จะแยกย้ายกันแล้ว” กุสุมาพยายามจะอธิบาย
“ไปที่ไหนกัน..”
“แค่ชะอำ ที่พักถูก ของกินหาง่าย ไปเช้า นอนค้าง แล้ววันรุ่งขึ้นบ่าย ๆ ก็กลับ”
“มีผู้หญิงไปหรือเปล่า”
“มีสิ ก็แฟน ๆ พวกมันแหละ ไปกันมาบ่อย ๆ ไม่มีอะไรหรอก ไม่มีใครกล้าแหยมกับม่าหรอก ไม่ต้องหวง.. เอ้ย ไม่ต้องห่วงหรอก นอนแยกหญิง แยกชาย หากใครจะพิเศษกันก็ไปหาเปิดห้องเอง จ่ายเงินเองไม่รวมกองกลาง” กุสุมาอธิบายเสร็จสรรพ
“ทำงานยังไม่ทันได้เงินเดือนเลย”
“วันจันทร์กลับมา ม่าก็เข้าไปอยู่ในครัวแล้ว หลังสงกรานต์ม่าอาจจะได้ไปออส-เลียแล้ว นะนะให้ม่าไปนะ”
“ถ้าไม่ให้ ก็จะไป” สูรย์ประชดแต่ว่ากุสุมาหาได้รู้สึก..
“ถูกต้องแล้วครับ”
“งั้นไม่ให้ไป วันเสาร์อาทิตย์คนเยอะ ต้องอยู่ร้าน” สูรย์ลองใจกุสุมาดูว่าจะรักร้านแค่ไหน แต่ว่า..
“ม่าสำคัญขนาดนั้นเลยเหรอ ก่อนหน้านั้นก็..”
“รู้ว่าห้ามไม่ได้..” เขาแทรกด้วยน้ำเสียงน้อยใจ แต่ว่าลึก ๆ เขาก็น้อยใจจริง ๆ น้อยใจที่กุสุมาให้ความสำคัญกับคนอื่นมากกว่าเขา...ใช่สิ เขามันแก่ เขามัน..อารมณ์น้อยเนื้อต่ำใจของสูรย์พลุ่งขึ้นมา ภาพตอนวรรณพรมาเป็นฝ่ายบอกเลิกโดยอ้างว่ามีคนสำคัญแอบอยู่ในใจมาเนิ่นนานตามมาตอกย้ำ เธออ้างว่ารักปริญมากกว่าเขา และไม่ใช่เขาไม่ดี แต่ว่า เธอรักเขาน้อยกว่า และเมื่อคบกันไปนาน ๆ เธอให้เขาได้แค่คำว่า ‘พี่ชาย’
เมื่อได้ยินน้ำเสียงคล้ายน้อยใจของเขา กุสุมาก็เลยหันไปมองหน้า เห็นเขาจ้องถนนพลางถอนหายใจเฮือก ๆ กุสุมาก็อดใจแป้วไม่ได้..
“ไม่ใช่ม่าไม่ห่วงร้าน แต่ว่า..”
“ฉันเข้าใจ” สูรย์ตัดบท
“ไปเหอะ เพื่อนเราสำคัญเสมอ”
อันที่จริงกุสุมาอยากจะเงียบ แต่เธอก็อยากให้เขาเข้าใจเธอมากขึ้น..
“ไปเที่ยวด้วยกันคราวนี้ ก็ไม่รู้อีกเมื่อไหร่ที่จะได้ไปด้วยกันอีก ม่าเองก็ต้องไปที่อื่น ซึ่งมันก็คงไม่ได้กลับมาง่าย ๆ กลับมาก็อาจจะไม่ได้เจอพวกมัน แต่ว่าร้าน ม่ามั่นใจว่า มันจะอยู่ไปจน...จน จนส่งต่อ
ให้ลูกคุณสูรย์”
ระหว่างที่รถแล่นไปยังคลอง 15 ย่านที่ขายไม้ดอกไม้ประดับ กุสุมาก็ได้ทราบว่าสูรย์นั้นสายตาสั้นถึงสองร้อยห้าสิบและช่วงผ่านมา ๆ เขาใส่คอนแทคเลนส์จนกระทั่ง เมื่อคืนเกิดอักเสบตาแดงจึงต้องหยุดใช้แล้วมาใส่แว่นตา ซึ่งตรงนี้เองทำให้ใบหน้าเขาดูแปลกไป แต่ถึงกระนั้นกุสุมาก็อดที่จะเหลือบไปดูอยู่บ่อย ๆ ไม่ได้..
นอกจากนั้น กุสุมาก็ยังได้รู้ประวัติของครอบครัวจากปากของเขาเอง โดยแม่ของเขานั้นเกิดและโตในกรุงเทพฯ โดยมีคุณยายเคยอยู่ในรั้วในวัง ฝีมืออาหารรสเลิศเลยตกทอดมาถึงแม่ของเขา ส่วนพ่อของเขารับราชการแต่ด้วยเป็นข้าราชการชั้นผู้น้อยเงินเดือนไม่มาก พอแม่ตั้งหลักร้านอาหารจนมีชื่อ พ่อก็ลาออกจากงานมากินบำนาญ แล้วก็ช่วยกันทำงานจนกระทั่งละมือยกกิจการให้ลูก ๆ ช่วยกันบริหารดูแล
ส่วนตัวเขาเองก็ทำงานทุกอย่างในร้านมาตั้งแต่เด็ก ๆ จนกระทั่งได้เรียนหนังสือตามกำลังสติ ปัญญาของตัวเอง แต่เอาเข้าจริง ๆ เขาก็ชอบที่จะอยู่กับร้านมากกว่าอยู่ในไซด์งานก่อสร้าง
ยิ่งมามีร้านที่ต้องรับผิดชอบเต็มกำลัง เขาก็ต้องทุ่มเททั้งหมด แม้แต่การออกไปซื้อวัตถุดิบเพื่อใช้ในการปรุงอาหารซึ่งกำไรหรือขาดทุนก็จะอยู่ที่ต้นทุนวัตถุดิบ
กุสุมาเพิ่งรู้ว่าเขาลำบากมากกว่าคนในครัว มากกว่าเด็กเสิร์ฟ เพราะทุกสองวันเขาต้องไปตลาดไทเพื่อซื้อผักและของแห้งอื่น ๆ นอกจากนั้น ทุก ๆ เช้าเขาก็ต้องเช็คราคาเนื้อสัตว์แต่ละเขียงก่อนจะให้ทางร้านมาส่งถึงที่นี่ นอกจากนั้น เขาก็ยังฟุ้งให้รู้ด้วยว่า ฝีมืออาหารของเขานั้น ไม่เป็นสองรองใคร..
เพราะตลอดชีวิตเขากินแต่อาหารอร่อย ๆ นั่นเอง
รถแล่นไปตามถนนท่ามกลางเรื่องเล่าจากปากของเขา จนกระทั่งรถเลี้ยวซ้ายเข้าถนนที่เต็มไปด้วยไม้ดอกไม้ประดับ..
“โอ้โหวววววววว ทำไมดอกไม้เยอะอย่างนี้ละ แล้วคุณสูรย์จะมาเอาดอกอะไร”
“เราอยากได้ดอกอะไรไปประดับร้าน” ก่อนที่จะมานั้นสูรย์บอกว่าให้เธอมาเป็นคนช่วยเลือกดอกไม้ไปประดับร้าน..แต่กุสุมาไม่เคยคิดเลยว่าถนนเส้นนี้จะละลานตาไปด้วยไม้ดอกและไม้ประดับจนกระทั่งเลือกไม่ถูกว่าควรจะแวะร้านไหนดี
“ให้ม่าเป็นคนเลือกจริง ๆ เหรอ”
“ฉันเป็นพ่อมดไม่รู้จักดอกไม้หรอก..”
พอเขาพูดเรื่องที่เธอแอบไปนินทาเขากับลุงชม กุสุมาจึงหัวเราะแหะ ๆ แล้วพูดว่า “รู้อีก”
หลังจากตัดสินใจจอดรถหน้าร้านที่เต็มไปด้วยไม้ดอก กุสุมาก็ลงจากรถ หลังจากนั้นก็ชะเง้อชะแง้มองซ้ายมองขวา อย่างคนตัดสินใจลำบาก สูรย์ที่ก้าวตามลงมาพร้อมโทรศัพท์มือถือที่สามารถถ่ายรูปได้ก็หันหน้าเลนส์ไปยังร่างบอบบางที่อยู่ในชุดกางเกงยีนส์เสื้อเชิ๊ตและที่สำคัญในเป้ใบนั้นมีหมวกแก๊ปสีเดียวกับยีนส์และแว่นตากันแดด ใบหน้ารูปไข่ยามนี้จึงแปลกตาไปอีกแบบ..
“หันมา” เขาร้องบอก พอกุสุมาหันมาเขาก็กดชัตเตอร์ทันที..
พอเห็นเขาถ่ายรูปใจของกุสุมาที่เอนเอียงไปทางเขาอยู่แล้วก็แกว่งยิ่งขึ้น วันนี้ระหว่างนั่งกินก๋วยเตี๋ยวเรือด้วยกัน เขาก็มองหน้าของเธอ และที่ใคร ๆ บอกกันว่า ดวงตาเป็นหน้าต่างของหัวใจ เธอก็รู้สึกได้ว่ามันเป็นสายตาของคนที่มีใจให้กัน เหมือนสายตาที่ปลากับกิ๊บซี่มีให้กับวิชาญ แต่ของสูรย์ถึงจะไม่มากเท่านั้น แต่มันก็ส่อออกมาว่าเขานั้นพอใจกับใบหน้าของเธอ..
กุสุมายิ้มจาง ๆ เมื่อเขาไม่หันหน้ากล้องหนี..แต่ว่าด้วยเขินกับไม่อยากให้เขารู้ว่าเธอก็มีใจให้เขา กุสุมาจึงพูดว่า “ไปดูตรงโน้นเหอะ ม่าชอบไม้กระถาง”
ว่าแล้วกุสุมาก็เดินนำไปยังไม้จำพวกคุณนายตื่นสายที่บานสะพรั่งอยู่ในกระถางดินเผามีลวดแขวนไว้กับราวยาวเหยียด และเมื่อเดินไปใกล้ ๆ กุสุมาก็รู้สึกว่ามันสวยมาก ๆ
“เอานี่แหละ เอาไปด้วยนะเอาไปเยอะ เอาไปแขวนรอบ ๆ ร้านเลยนะ”
“ตัดสินใจง่ายจัง” เขาแปลกใจที่เห็นกุสุมาก้มลงไปดอมดมดอกไม้สีงามตาเหล่านั้น และที่ถ้ามีคนถามว่า เขาชอบกุสุมาตรงไหน ก็คงจะเป็นตรงที่เวลาทำอะไร กุสุมาจะทำอย่างที่ใจอยากทำ โดยไม่ได้สนใจว่า ตอนนั้นอยู่กับใคร แม้มันจะดูเหมือนเด็ก แต่ว่าลึก ๆ กุสุมาก็มีความระแวดระวังตัวเองอย่างคนที่รู้ว่าตัวเองเป็นสาว เพราะช่วงที่กุสุมาดึงเขาออกจากร้าน ตอนจะก้าวข้ามสะพาน พอเขาจะพลิกฝ่ามือเป็นจับแขนเล็ก ๆ นั้นแทน กุสุมาก็เบี่ยงแขนแล้วชักมือออกจากแขนของเขาก่อนจะก้าวยาว ๆ เดินไปข้างหน้า
“ก็ม่าชอบ มันดูแลง่ายดี รดน้ำ ใส่ปุ๋ย มันก็มีดอก แล้วทนร้อน ทนแดดทนฝน อนุมัตินะ”
“ไปดม เขาฉีดยานะ” เขาปรามเพราะกุสุมาไล่ดอมดมดอกนั้นดอกนี้
“ฉุน ๆ เหมือนกันนะ” ว่าแล้วกุสุมาก็ทำหน้ายู่ยี่พลางใช้หลังมือถูจมูก และจังหวะนั้นสูรย์ก็กดชัตเตอร์เก็บภาพนั้นไว้ได้พอดี และพอเขาเปิดภาพดูจึงได้เห็นว่า มันดีกว่า ภาพขนาด 2 นิ้วที่กุสุมาเคยเอามาให้เขาเป็นไหน ๆ
“เย็นค่ำแล้วยังไม่กลับกันมาอีก พาอีทอมแบไปติ๊ดชึ่งซะละมั้ง”
ตุ๊ดซี่เปรยออกมาด้วยสีหน้าวิตก เพราะก่อนหน้านั้น ธัญรัตน์ก็โทรมาถามอยู่เรื่อย ๆ ว่าสูรย์กลับมาหรือยัง ตุ๊ดซี่ก็ได้แต่บอกว่ายัง แต่ในใจก็อดด่าเจ้านายตัวเองไม่ได้ เพราะผู้ชายเขาก็แสดงออกมาแล้วว่าไม่รักก็ยังทนตามตื้ออยู่ได้ แต่ตุ๊ดซี่ก็ไม่กล้าพูดตรง ๆ จะทำได้แค่เพียง พูดเตือนสติเบา ๆ ว่า ‘รักคนที่เขารักเราดีกว่านะคะ’ แต่กับกิ๊บซี่ ตุ๊ดซี่ก็จะพูดตรง ๆ ว่า ‘รูปไม่หล่อพ่อไม่รวยแต่ว่าเป้าของคุณซ้งนะชนะเลิศนะยะ’
แม้จะชิน ๆ กับ ‘เซ็กส์สตอรี่’ ของตุ๊ดซี่ แต่ว่ากิ๊บซี่ก็หน้าแดงซ่าน เมื่อนึกถึงวันที่คุณซ้งเดินเข้ามาในร้านโดยที่ไม่ได้รูดซิบกางเกง และกิ๊บซี่ก็เห็นว่าเนื้อใต้กางเกงมันนูนขึ้นมาจนต้องสะกิดให้ตุ๊ดซี่ช่วยทำให้คุณซ้งรูดซิป และพอคุณซ้งรู้ตัว ตั้งแต่วันนั้น เขาก็จะยิ้มอาย ๆ เช่นเดียวกับเธอที่รู้สึกเขินเมื่อเห็นหน้าของเขา

เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 11 เม.ย. 2554, 01:57:29 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 31 พ.ค. 2554, 12:00:59 น.
จำนวนการเข้าชม : 3266
<< 9. เหมือนจะรู้ใจตัวเองแล้ว.. | 11. มาถึงบ้านเกือบเลยวันจันทร์... >> |

สิริกมล 11 เม.ย. 2554, 01:58:42 น.
นับเลยน้า .. เมนท์ที่ 1
นับเลยน้า .. เมนท์ที่ 1

Quay 11 เม.ย. 2554, 03:40:56 น.
Cute
Cute

Kookkea 11 เม.ย. 2554, 04:37:24 น.
มาล่อให้อยากอ่านแท้ๆ
มาล่อให้อยากอ่านแท้ๆ

nateetip 11 เม.ย. 2554, 05:45:48 น.
4..thank you in advance..
4..thank you in advance..

หมูบิน 11 เม.ย. 2554, 06:38:02 น.
5 ค่าาาาาา อยากอ่านมากกๆๆ
5 ค่าาาาาา อยากอ่านมากกๆๆ

mottanoy 11 เม.ย. 2554, 06:55:15 น.
หกค่า คุณสูรย์น่ารักจัง
หกค่า คุณสูรย์น่ารักจัง

Pat 11 เม.ย. 2554, 07:52:41 น.
ไอ้ม่าน่ารัก คนแต่งด้วย 7 แล้วเน้อ อิอิ
ไอ้ม่าน่ารัก คนแต่งด้วย 7 แล้วเน้อ อิอิ

incanto 11 เม.ย. 2554, 08:19:35 น.
น่ารักดีค่ะ
น่ารักดีค่ะ

minami 11 เม.ย. 2554, 08:48:11 น.
น่ารักจัง
น่ารักจัง


ธารณ์ 11 เม.ย. 2554, 13:31:50 น.
มาต่อไว ๆ นะค้าาาา....เมนท์ที่ 11 แล้วจ้าาาา ^^
มาต่อไว ๆ นะค้าาาา....เมนท์ที่ 11 แล้วจ้าาาา ^^

ก้อนอิฐ 11 เม.ย. 2554, 13:48:37 น.
12จ้า
12จ้า

สร้อยดอกหมาก 11 เม.ย. 2554, 14:34:19 น.
13 ค่ะ ใช่มั้ยๆ ติดตามค่ะ ^ ^
13 ค่ะ ใช่มั้ยๆ ติดตามค่ะ ^ ^

chada 11 เม.ย. 2554, 15:55:08 น.
ลงชื่อบ้าง 14 ทะลุเป้า
ลงชื่อบ้าง 14 ทะลุเป้า

ptyks 11 เม.ย. 2554, 18:37:26 น.
เติมให้อีกคนค่ะ เป็น 15 แล้ว มาต่อฉากหวานๆ บ้างสิคะ
เติมให้อีกคนค่ะ เป็น 15 แล้ว มาต่อฉากหวานๆ บ้างสิคะ

จิ๋วจ้า 11 เม.ย. 2554, 20:18:42 น.
ต่อยอดค่ะ.....คุณสูรย์จะไม่ไปเที่ยวกับม่าเหรอ
ต่อยอดค่ะ.....คุณสูรย์จะไม่ไปเที่ยวกับม่าเหรอ

Zephyr 11 เม.ย. 2554, 21:33:29 น.
17 แล้วน้าาา คุณสูรย์น่ารักอ่ะ ม่าจะไปแล้วอ่าา
17 แล้วน้าาา คุณสูรย์น่ารักอ่ะ ม่าจะไปแล้วอ่าา

pandepam 11 เม.ย. 2554, 22:07:20 น.
ต่อนะคะ ^^
ต่อนะคะ ^^

ณิณ 11 เม.ย. 2554, 22:50:04 น.
19 ฮ่าๆๆ มามุขนี้คุณเฟื่องต้องจ่ายอีกตอนแหงๆ
19 ฮ่าๆๆ มามุขนี้คุณเฟื่องต้องจ่ายอีกตอนแหงๆ

จุฬามณีเฟื่องนคร 12 เม.ย. 2554, 00:00:37 น.
ขอบคุณสำหรับกำลังใจนะครับ..ดีนะกลับบ้านมาทันวันจันทร์ก็เลย โพสต์โดยไม่เสียคำพูด และถ้าไม่โพสต์ก็เสียคำพูดอีกนั่นและ เนอะ.....
คริคริ ...ตอนหน้า ครบ 19 เม้นท์ ก็จะโพสต์ต่อ..
ปล. ไม่ซ้ำชื่อกันด้วยนะ...(คริคริ..))
ขอบคุณสำหรับกำลังใจนะครับ..ดีนะกลับบ้านมาทันวันจันทร์ก็เลย โพสต์โดยไม่เสียคำพูด และถ้าไม่โพสต์ก็เสียคำพูดอีกนั่นและ เนอะ.....
คริคริ ...ตอนหน้า ครบ 19 เม้นท์ ก็จะโพสต์ต่อ..
ปล. ไม่ซ้ำชื่อกันด้วยนะ...(คริคริ..))