กับดักใจ...ซาตานยอดรัก
เขา...ที่ตกหลุมรักเพื่อนน้องสาวที่ห่างจากเขา 15 ปี จะทำยังไงหากไม่วางกับดักให้เธอติดบ่วงเขา
เธอ...ที่ไม่เคยรักใคร เธอไม่เคยรู้ว่าเขากำลังต้อนเธอเข้ากรงใจ
Tags: พี่ใหญ่

ตอน: ตอนที่ 3

ตอนที่ 3
ช่วงเย็นบริเวณหน้าตึก JTG กรุ๊ป ทั้งสามคนเดินออกมาหลังจากที่เข้าไปยื่นเอกสารและรายงานตัว จากนั้นพวกเธอก็ได้ถูกพาไปหาเจ้าหน้าที่คนที่พวกเธอถามคนแรกตอนที่ไปถึงที่แผนก พวกเธอได้ทำเอกสารเกี่ยวกับการฝึกงานและได้รับบัตรจากเจ้าหน้าที่ เพื่อที่จะอำนวยความสะดวกตอนที่มาเริ่มทำงานและพวกเธอก็ได้ไปที่แผนกไอที ที่อยู่ที่ชั้น 35 อันจะเป็นสถานที่พวกเธอต้องอยู่ 2 เดือนนับจากนี้และพวกเธอก็ได้รู้จักกับพนักงานทุกคนที่อยู่ที่นั่นตอนนั้น และพวกเธอก็ได้รู้จักกับหลายคนเลยทีเดียวและได้เห็นว่าชั้นนั้นทั้งชั้นเป็นของแผนกไอทีจริงๆ เพราะว่าเป็นแผนกหลัก แต่ดูเหมือนว่าพนักงานแผนกนี้จะไม่มากเท่าที่คิดเลย มีเพียง 10 คนเท่านั้น ทั้งที่นี่เป็นบริษัทใหญ่ที่เป็นผู้นำด้านไอที และซอฟท์แวร์แท้ๆ และเธอก็ไม่รับคำตอบจากพี่มลหรือพี่ศศิวิมลสาวสวยประจำแผนกว่าการที่คนน้อยอย่างนี้ไม่ใช่ไม่ดี จะได้สามารถเสนองานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น และที่บริษัทก็มีพนักงานกระจายอยู่ทั่วโลกที่คอยเสนองานใหม่ๆ ออกมา
“ค่ะพี่ใหญ่...เพิ่งเสร็จค่ะ” เธอรับสายเรียกเข้าที่เธอรู้ได้ทันทีว่าเป็นใครเพราะเธอตั้งเสียงเอาไว้โดยเฉพาะ จะได้รู้ว่าใครโทรมา ขืนชักช้าเธอโดนพี่ชายโวยเอาแน่
“แล้วเป็นไงบ้างที่ฝึกงาน?” ชายหนุ่มถามน้องสาวเสียงอ่อนโยน เขาเสร็จงานก็รีบโทรหาน้องสาวทันที และเพื่อนเขาก็ยังไม่กลับรอไปพร้อมเขา
“ก็ดีค่ะ สามได้เจอพี่ๆ ที่แผนกแล้วด้วย ไม่น่าจะมีอะไรเพราะพวกเราน่ารัก อิๆ” เธอหัวเราะออกอย่างมีความสุข และเดินตามเพื่อนที่ชี้ชวนให้เธอเดินตามไปที่รถ และณัฐกรก็ขอตัวกลับก่อนเพราะพี่สาวเขากำลังจะขึ้นเครื่องมาหาเขาที่นี่ เลยไม่ไปกับเพื่อนสาวต่อ
“แล้วพี่ใหญ่เป็นไงบ้างคะทำงานเหนื่อยมั้ยคะ?” เธอถามพี่ชายอย่างเป็นห่วงเพราะอีกฝ่ายทำงานหนักมาก แม้ว่าอาจจะไม่ใช่งานที่ต้องใช้แรงงานแต่สมองก็ล้าได้เหมือนกัน
“ไม่หรอกค่ะ...ว่าแต่เราหิวรึเปล่าพี่กำลังจะไปกับเพื่อนน่ะ?”
“หิ้ว...หิวค่ะ...แต่ว่าสามไปกับเพื่อนดีกว่าค่ะไม่อยากไปรบกวนเวลาของหนุ่มๆ แล้วสามจะไปกับพี่สาวของเพื่อนสามน่ะค่ะพี่ของพลอยเขาบอกว่าจะพาไปเลี้ยงหลังจากสอบเสร็จเพราะว่าตอนนั้นสามรีบไปญี่ปุ่นเลยยังไม่ได้เลี้ยง วันนี้เลยถือโอกาสค่ะ...พี่ใหญ่ไม่ว่านะคะ?” เธอบอกพี่ชายเสียงแจ้วๆ ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรเพราะเธอปฏิเสธที่จะไปกับพี่ชายออกบ่อยไป เพราะว่าบางครั้งพี่ชายและเธอก็มีสังคมของตัวเอง
“ไม่หรอกว่าแต่จะไม่ไปจริงๆ เหรอคะ พี่สองก็ไปด้วยนะ” เขาถามย้ำเพื่อความแน่ใจเพราะว่าน้องสาวอาจจะไม่อยากพลาดก็ได้
“ไม่เอาหรอกค่ะไปตามประสาหนุ่มๆ เถอะค่ะ แต่อย่าไปหิ้วสาวไหนเข้าบ้านละ สามไม่ยอมจริงๆ ด้วย” เธอขู่พี่ชายเสียงเข้ม เธอยังไม่อยากให้พี่ชายไปคว้าใครที่ไหนก็ไม่รู้มาเป็นพี่สะใภ้เธอนะ
“จ้า..ไม่พลาดหรอกเว้นเสียแต่พี่เป็นฝ่ายตั้งใจเอง...สามหายห่วงได้เลย” รับปากน้องสาวอย่างไม่ลังเลเลย คนที่เขาจะเลือกมาเป็นเมียต้องเป็นคนที่เขารัก และเธอต้องเป็นคนที่เข้าใจเขาด้วย ไม่ต้องร่ำรวยอะไรก็ได้ แค่มีความเข้าใจเขาก็เพียงพอแล้ว
“ดีมากค่ะ...เอาละไม่คุยกับพี่ใหญ่แล้วสามจะกลับค่ำหน่อยนะคะ” เธอบอกพี่ชายเอาไว้ล่วงหน้าเพราะเธอไม่รู้ว่าตัวเองจะเสร็จเมื่อไหร่ไม่อยากให้อีกฝ่ายเป็นห่วง
“ได้จ้า..ดูแลตัวเองดีๆ ละหากมีอะไรก็รีบโทรหาพี่กับพี่สองนะเข้าใจรึเปล่า” เขาย้ำกับน้องสาว
“ค้า..คุณพ่อ” เธอล้อเลียนพี่ชายอย่างมีความสุข ใครจะว่าเธอเป็นลูกแหง่เธอไม่สนใจหรอก
แค่เธอมีพี่ชายคอยห่วงใยเธออย่างนี้เธอก็มีความสุขแล้วละ...คนอื่นเธอไม่แคร์หรอก
“เดี๋ยวเถอะล้อเลียนพี่เหรอ...เดี๋ยวจะตัดค่าขนมหรอก”
“โอ้ย! อย่าแม้แต่จะคิดเชียวนะพี่ใหญ่..ไม่งั้นน้องจะงอนจริงๆ ด้วย คอยดูนะ” เธอรู้ว่าพี่ชายเธอพูดไปอย่างนั้นแหละเขาเองนั่นละที่เป็นคนเปิดบัญชีไว้ให้เธอเพราะเขารู้ว่าเธอใช้เงินไม่เกินตัว อันไหนที่ราคาสูงมากเธอจะให้พี่ชายเห็นชอบด้วยก่อนถ้าเป็นของๆ เธอเองแต่ถ้าเป็นของขวัญเธอจะไม่รอคำตอบ และไม่รั้งรอที่จะสรรหามาให้พี่ชายเธอเหมือนที่พี่ๆ ของเธอก็จะไม่รั้งรอที่จะสรรหาให้เธอเหมือนๆ กัน
ความจริงต่อให้พี่ชายไม่คอยเอาเงินให้เธอ แต่ว่าเธอก็มีเงินส่วนตัวอยู่แล้วเพราะเธอทำงานไปด้วยนั้นเอง และเงินส่วนตัวที่พ่อ แม่ให้เธอไว้ตั้งแต่เด็กก็มีอยู่มากมาย แต่เธอไม่ค่อยได้ใช้เงินก้อนนั้นเพราะว่าพี่ชายเธอแยกบัญชีเอาไว้ให้อยู่แล้ว พี่บอกว่าเก็บเอาไว้เป็นทุนส่วนตัว
“งั้นสามก็ไปเถอะ...พี่เองก็จะไปกับเพื่อนพี่แล้วเหมือนกันพี่จิไงละ...” เขาบอกน้องสาวอย่างไม่ปิดบัง
“จ้า...พี่ใหญ่เองก็อย่าดื่มมากนะคะ”
“เอาไง...จะไปกับฉันหรือว่าจะไปกับพี่ชายแก?” พลอยไพลินที่นั่งรออยู่ในรถก่อนแล้วมองหน้าเพื่อนสาวหลังจากที่อีกฝ่ายวางสายจากพี่ชายเธอแล้ว
“ไม่น่าถาม...ไปกับแกอยู่แล้ว...ฉันจะไปนั่งหงอยกับพวกผู้ชายทำไมกัน แล้วฉันก็ไมเคยเจอหน้าเพื่อนพี่ใหญ่คนนี้ด้วยเคยเห็นแต่ในรูปแล้วก็ผ่านทางพี่ใหญ่เท่านั้นแหละ ไม่เคยเจอหน้ากันเลย” เธอไหวไหล่น้อยๆ อย่างไม่ใส่ใจ เพราะเธอไม่ได้ติดพี่ชายเสียขนาดนั้น ตอนเด็กๆ น่ะอีกเรื่องแต่ตอนนี้ต่างฝ่ายต่างมีชีวิตของตัวเองจะมายึดติดอะไรมากมาย
“เหรอ...นึกว่าจะร้องหาพี่ใหญ่เสียอีก อิๆ...โอ้ยยัยสาม! เจ็บนะ!” พลอยไพลินร้องออกมาเสียงดังเมื่อโดนเพื่อนสาวทุบที่ไหล่อย่างแรง
“เออ...ก็ทุบให้เจ็บน่ะซิมาล้อฉันอยู่นั่นละ แล้วแกละไม่เป็นเหรอ?” เธอเลิกคิ้วมองหน้าเพื่อนสาว แล้วทำหน้างอที่โดนล้อ เรื่องติดพี่เธอไม่เถียงแต่ก็ไม่ได้มากมายอะไรนัก แต่เธอก็โดนเพื่อนล้อประจำ และถ้าพี่ชายเธอมีคำสั่งละก็เธอเถียงไม่ออกจริงๆ
“เชอะ...ฉันไม่ได้ห่างจากพี่เพชรเหมือนที่แกห่างจากพี่ใหญ่แล้วก็พี่สองนี่นา แล้วก็นะฉันกับพี่เพชรคุยกันได้ทุกเรื่องแล้วก็เหมือนเพื่อนเสียมากกว่า อย่างแกกับพี่ชายน่ะเหมือนพ่อกับลูกเลย จริงๆ ฉันยังอดคิดไม่ได้ว่าแกเป็นลูกพี่แกรึเปล่า แล้วประมาณว่ายกให้แกเป็นลูกพ่อกับแม่น่ะ พี่แกเองก็ดูท่าจะเจ้าเสน่ห์อยู่นี่นา จากรูปที่แกเอามาให้ดูพี่เขาหล่อโคตรเลยนี่ สาวๆ คงเพียบแหละ...อาจจะมีพลาดบ้าง” เธอเอ่ยออกมาตาพราวอย่าสนุกสนาน ความจริงเธอก็ไม่ได้คิดอะไรหรอก แต่เห็นความห่างของอายุเพื่อนเธอกับพี่ชายแล้วอดจะเย้าอย่างสนุกสนานไม่ได้
“ปากเสียนะแกเนี่ย...แกน่ะหน้าตาออกจะน่ารัก จิ้มลิ้มอย่างกับตุ๊กตาเคลือบแต่เสียอยู่ที่ปากนี่ละ...เพราะอย่างนี้ละมั้งที่ไม่มีคนรักกับเขาเสียที?” เขมวันต์ว่าเพื่อนสาวตรงๆ เพราะที่เธอพูดน่ะไม่ได้เกินจริงเลย เพื่อนของเธอหน้าตาน่ารัก ผิวขาวอมชมพู ใบหน้ารูปไข่ คิ้วโก่ง เรียกได้ว่ารวมๆ น่ารักมาก แต่นิสัยกับคำพูดนี่ซิทำเอาใครหลายคนขยาดเลยแหละ แต่ก็ใช่ว่าจะไม่มีใครเข้ามาขายขนมจีบ แต่เพื่อนเธอไม่สนใจเองเสียมากกว่า
“ปากแกเสียน้อยกว่าฉันเหรอยัยสามพูดมาก...แล้วก็นะที่ฉันยังไม่มีคนรักไม่ใช่เพราะไม่มีใครมาจีบแต่ฉันไม่เอาเองตะหากยะ...สงสัยฉันจะรอสอยพี่แกอยู่ละมั้ง?” เธอล้อเพื่อนสาวอย่างนึกสนุก ความจริงเธอไม่เคยมีคิดเรื่องแบบนี้ เพราะเขาก็เหมือนพี่ชายเธอเหมือนกัน แต่เพราะไม่เคยเจอหน้ากันเลยทำให้เธอไม่สนิทใจกับเขา...ถ้าเจอกันจริงๆ เธออาจจะต้องหลบแทบไม่ทันเชียวละ คนระดับนั้นใครไม่กลัวละ
“หนอย...ยัยสามหวังสูงนะแก...” เธอมองหน้าเพื่อนทั้งที่ยังขับรถอยู่ แต่ไม่มีใครรู้หรอกว่าเธอกำลังคิดอะไร ไม่ใช่ซิคิดมานานแล้วละว่าอยากให้พี่ชายเธอได้เจอเพื่อนของเธอคนนี้ ไม่แน่ว่าพลอยไพลินอาจจะทำให้พี่ชายเธออ่อนโยนลงกว่านี้ก็ได้ ถ้าเป็นเธอคนนี้เธอยอมอย่างไม่มีเงื่อนไขเลยหากว่าพี่ชายเธอรักชอบ ถึงขั้นอยากได้มาเป็นภรรยา แต่อย่างว่าแหละเรื่องแบบนี้บังคับใจกันไม่ได้...แต่อยู่ที่คนสองคน
“อ้าว...ยัยนี่..ฉันพูดเล่นเว้ย...อย่าลืมนะว่าพี่แกน่ะห่างจากพวกเราเกินรอบนะเว้ย...” เธอมองเพื่อนสาวตาโต เมื่อได้ยินคำพูดเพื่อน ใครมันจะไปกล้าปืนเกลียววะ...นั่นรุ่นใหญ่นะ เธอเป็นเด็กห่างจากเขาขนาดนั้น และคนระดับนั้นจะมาสนใจเด็กแบบเธอได้ยังไง
“อิๆ นั่นเป็นเรื่องอนาคตเว้ย..เราอย่ามากะเกณฑ์ อะไรเลยวะ...ว่าแต่พี่เพชรน่ะเขายังไม่มีคนรักเหรอ?” อดจะถามถึงสาวสวยอีกคนไม่ได้ ก็พี่เพชรน่ะทั้งสวยทั้งเปรี้ยว ฉลาดและมั่นใจแบบนั้นแต่กลับยังเป็นโสดเนี่ยนะ
“อืม...พี่เพชรเขาไม่ค่อยสนใจเรื่องความรักน่ะ ก็เรื่องเดิมๆ น่ะแหละเขากลัวน่ะ เพราะฝังใจกับเรื่องของพ่อ พี่เพชรเลยคิดว่าผู้ชายจะเป็นแบบนั้นกันหมด แต่แกก็น่าจะรู้นี่นาผู้ชายสมัยนี้เจ้าชู้จะตายไป ไว้ใจไม่ค่อยจะได้น่ะซิ...ถ้าพี่เพชรจะรักใครจริงๆ ก็ผู้ชายคนนั้นต้องอดทนและรักพี่เพชรคนเดียวน่ะ แต่เพราะพี่เพชรน่ะไม่เชื่อว่ามีผู้ชายแบบนั้นจริงๆ ก็เลยไม่เคยมีใครน่ะ” เธอบอกเพื่อนกับสิ่งที่เป็นกับพี่สาวของเธอ ว่าทำไมคนอย่างพี่สาวเธอถึงไม่ยอมมีใครเสียที และเธอรู้ว่าพี่สาวไม่ได้เบี่ยงเบน แต่เพราะยังไม่เจอใครที่เป็นคู่มากกว่า และไม่มีใครที่จริงใจกับพี่สาวเธอมากพอที่จะเปิดใจ...
“น่าเสียดายวะ...เป็นฉันนะจะไม่เอาแต่คิดอย่างนั้นหรอกผู้ชายคนเดียวจะมาทำลายชีวิตเราไม่ได้...เขาไม่แยแสเราก็ช่าง เชื่อเถอะแกว่ายังไงกรรมก็ต้องสนองเขาเองละ...” เธอเอ่ยออกมาอย่างเจ็บแค้นแทนเพื่อนรัก ที่เจอกับเรื่องอย่างนั้น แม้ว่าตอนนั้นอีกฝ่ายจะยังเล็กมากนัก
“ช่างเขาเถอะแกตอนนี้เราก็มีชีวิตของเรา เขาก็มีชีวิตของเขาแค่อย่าเข้ามาวุ่นวายกับชีวิตฉันก็พอวะ...แต่..มันช่างยากเหลือเกินรู้มั้ยว่าฉันเจอลูกเมียใหม่ผู้ชายคนนั้นด้วย” เบ้หน้ายามเอ่ยถึงครอบครัวนั้นที่เธอไม่อยากจะยุ่งเกี่ยวเลยแม้แต่น้อย แต่ดูเหมือนว่าคำภาวนาของเธอจะไม่ได้ผลเพราะครอบครัวนั้นดูเหมือนจะเอาตัวเองเข้ามายุ่งเกี่ยวกับเธอเหลือเกิน
“แกหมายถึงยัยอุมาพรนั่นน่ะเหรอ?” เลิกคิ้วมองหน้าอีกฝ่ายอย่างรู้เรื่องเป็นอย่างนี้เพราะฝ่ายนั้นดูเหมือนว่าจะเอาตัวเองมาหาเรื่องเพื่อนสาวเธอเหลือเกิน แต่ก็เหมือนกับว่าเพื่อนเธอพระเจ้าคุ้มครองและอีกฝ่ายทำอะไรไม่ได้ก็ต้องล่าถอยไปเอง เพราะไม่ว่าจะด้านไหนเพื่อนรักของเธอก็เหนือกว่า แม้ว่าพ่อของเธอทิ้งพวกเธอไปเพราะว่าฝ่ายนั้นร่ำรวยกว่า แต่ตอนนี้ไม่ใช่ครอบครัวของพลอยไพลินเรียกได้ว่าร่ำรวยมากและเหนือกว่าครอบครัวนั้นที่พยายามเอาตัวมาข่มเพื่อนเธอเสียเหลือเกิน อาจจะเพราะพลอยไพลินไม่ได้ทำตัวอวดรวยก็เป็นได้ฝ่ายนั้นเลยคิดว่าพลอยไพลินไม่มีปัญญาจะหาซื้ออะไรมาอวดความรวยของตัวเอง
แต่เธอรู้จักเพื่อนดี ของบางอย่างที่เปลี่ยนบ่อยพลอยไพลินจะไม่ซื้อของแพง เพราะเธอบอกว่าใช้งานไม่
คุ้มเงินที่เสียไป แต่ของบางชิ้นอย่างเช่นกระเป๋าเงินที่เพื่อนสาวยอมควักกระเป๋ามาซื้อในราคาแพงมาก
“จะใครละ...หล่อนเข้ามาอวดว่าตัวเองมีแฟนเป็นหนุ่มทำงานแล้วและอนาคตไกล คงอยากให้ฉันเห็นว่าตัวเองมีปัญญาหาผู้ชายหล่อๆ มาเป็นแฟนได้ แต่ฉันไม่มีวะ...” ได้แต่บอกอย่างเซ็งๆ ไม่ใช่เพราะเธอไม่มีคนรัก แต่เซ็งเพราะอีกฝ่ายหาเรื่องเธอไม่เลิก คอยดูเถอะหมดความอดทนเมื่อไหร่แม่นั่นตายแน่ เธอเบื่อที่ต้องคอยเจอหน้าอีกฝ่ายเหลือเกิน ไม่ว่าจะไปไหนก็เจอหน้า อย่างว่ายิ่งเกลียดยิ่งเจอ
“เฮ้อ...คู่กรรมจริงนะพวกแกเนี่ย...ว่าแต่พี่เพชรไปรอเราแล้วเหรอวะ?” เขมวันต์ไม่แน่ใจว่าพี่สาวคนสวยของเพื่อนจะมาเร็วอย่างนั้นได้จริงๆ น่ะเหรอเพราะอีกฝ่ายงานยุ่งมาก
“ไม่แน่ใจ ถ้าเราไปถึงก่อนก็สั่งอาการรอพี่เพชรเลยแล้วกันไม่ต้องรอหรอก เกิดมีงานด่วนน่ะ...” พี่สาวเธอเป็นผู้บริหารโรงแรม Daimond Ct. Grand ซึ่งเป็นโรงแรมที่แม่เธอสร้างตัวมาจากน้ำพักน้ำแรง และสิ่งมีผลักดันมาจากผู้ชายที่ท่านรักมาและทิ้งท่านไปอย่างไม่แยแสเพราะท่านจน
“ได้...ยังไงวันนี้ฉันก็ล้างท้องไว้รออยู่แล้ว ว่าแต่พี่เพชรจะไปงานวันเกิดฉันมั้ยวะ?” ถามเพื่อนรักอย่างไม่แน่ใจ ดูจากท่าทางอีกฝ่ายแล้วก็ไม่อยากจะไปเท่าไหร่นักหรอก ทันทีที่รู้ว่ามีการจัดงานวันเกิดที่บ้านของเธอ
“ไม่รู้..แกลองชวนซิวะ...แกแน่ใจนะว่าไปร้านนั้นถูกน่ะ?” อดที่จะถามไม่ได้ก็เพื่อนเธอหลงทางประจำเลยนี่นา ส่วนใหญ่ถ้าไม่ใช่ทางที่ไปบ่อยๆ อีกฝ่ายจำไม่ค่อยจะได้เลย
“ถูกอยู่แล้วละ...ร้านแมกไม้น่ะฉันไปกับพี่ๆ ฉันบ่อยน่ะ” จะมีก็ร้านนี้นี่แหละที่เธอไปถูกโดยไม่กลัวจะหลงทางเพราะมาบ่อยนั่นเอง
“เหรอ...แกไปถูกก็ดีแล้ว ฉันละกลัวเหลือเกินว่าแกจะหลงทาง...ยังดีนะที่จำทางกลับบ้านตัวเองถูกน่ะ...” มีอยู่ครั้งหนึ่งเขมวันต์ไปหาเธอที่บ้านแล้วหลงทางกลับไม่ถูกจนเธอต้องขับรถออกไปหาแล้วพากลับบ้าน ไม่ใช่เพียงครั้งเดียวมีอีกบ่อยครั้งแต่ก็ดีขึ้นแล้วเดี๋ยวนี้ไม่ค่อยเป็นแล้วเพราะไปบ่อยขึ้นเลยจำทางได้
“ใครมันจะไปความจำแม่นเหมือนแกวะ...” ค่อนเพื่อนสาวที่พูดถึงจุดอ่อนตัวเอง
“เออ..ทางฉันจำเก่งนะ แต่หน้าคนน่ะฉันโคตรจะไม่ได้เรื่องเลยแกก็รู้นี่หว่า” เธอยอมรับอย่างไม่อายปากเลยว่าเรื่องอื่นเธอจำแม่นแต่เรื่องหน้าตานี่เธอยอมแพ้ แม้ว่าเธอจะคุ้นอยู่ แต่เพียงไม่นานเธอก็จะลืมและคิดไม่ออกเอาเสียเลยว่าคนๆ นั้นเป็นใคร ถ้าเป็นการเจอเพียงครั้งเดียว
“อิๆ แต่ไม่น่าเชื่อเลยนะว่าแกมีจุดอ่อนแบบนั้นอยู่น่ะมิน่าละ แกจำหน้าพี่ชายฉันไม่ได้ซะที ขนาดเห็นรูปบ่อยๆ ก็ตาม” เรื่องนี้เป็นเรื่องน่าขำที่คนที่เก่งไปเสียทุกอย่างจะมีจุดอ่อนแบบนั้นอยู่ด้วย เรื่องการจดจำใบหน้าบุคคลนั่นเองที่เพื่อนสาวมีสิ่งที่ทำไม่ได้ ขนาดว่าพี่ชายเธอทั้งสองคนไม่ใช่คนขี้เหร่เพื่อนรักเธอยังจำหน้าไม่ได้เลย ขนาดเพื่อนคนอื่นยังรู้เลยว่าคนไหนพี่ชายเธอและจำได้เป็นอย่างดีเสียอีก
“เชอะ...ยอมรับวะ เลี้ยวซ้ายเลยแก” เธอรีบบอกเมื่ออีกฝ่ายยังไม่ตีไฟเลี้ยว เธอกลัวว่าเพื่อนสาวจะขับเลยร้านและต้องเสียเวลาเลี้ยวกลับมาอีกรอบน่ะซิ
“จ้าๆ ไม่ลืมหรอกน่า” เขมวันต์รับคำเสียงใส และรีบตีไฟเลี้ยวก่อนจะเลี้ยวเข้าไปในร้านอาหารที่เธอมาประจำ ทันทีที่เข้าไปถึงบริเวณที่จอดรถพวกเธอก็จะเห็นต้นไม้มากมายที่ปลูกเอาไว้และช่วยให้ความร่มรื่นแม้ว่าอากาศจะร้อนมากแค่ไหน ที่นี่ก็ยังเย็นกว่าที่อื่นอยู่มาก เพราะต้นไม้ช่วยดูซับความร้อนนั่นเอง และพอเดินเข้าไปในร้านแล้วก็ยังเห็นบรรยากาศที่ดูอบอุ่นและเป็นกันเอง นอกเหนือจากร้านที่ดูสบายๆ แล้ว นั่นก็คือรสชาติอาหารที่ถูกปากนั่นละที่ทำให้พวกเธอและครอบครัวมาที่นี่กันเสมอ
“สวัสดีค่ะคุณพลอยคุณสาม มากันสองคนเหรอคะวันนี้” พนักงานสาวที่ยืนต้อนรับลูกค้าเอ่ยถามอย่างคุ้นเคย เพราะทั้งคู่มาพร้อมครอบครัวเสมอ
“อิๆ ไม่หรอกค่ะวันนี้เรามากันสามคน หาโต๊ะให้หน่อยซิคะ เอานอกๆ หน่อยก็ได้ค่ะ อากาศกำลังดีเลย” เขมวันต์หัวเราะออกมาน้อยๆ เพรามาที่นี่จนคุ้นไปหมดแล้วนั่นละ
“เหรอคะ..งั้นเชิญโต๊ะนี้เลยค่ะ...คุณสามกับคุณพลอยรับน้ำมะพร้าวเหมือนเดิมมั้ยคะ?” ที่ยื่นเมนูให้ทั้งคู่หลังจากที่ได้ที่นั่งกันเรียบร้อยแล้วและทั้งคู่ก็เลือกนั่งกันคนละฝั่ง
“ค่ะ/ เหมือนเดิมค่ะ” สองสาวตอบพร้อมกัน
“วันนี้ให้แกสั่งนะเพราะว่าพี่เพชรจะเลี้ยงแกนี่ให้อภิสิทธิ์แกเต็มที่เลย” พลอยไพลินให้เพื่อนสาวเลือกเมนูก่อน เพราะยังไงพวกเธอก็กินได้อยู่แล้ว อะไรไม่พอก็ค่อยเพิ่มก็ได้
“โห...เริ่ดค่ะ....งั้นไม่เกรงใจแล้วนะเอาปลาหมึกไข่นึ่งมะนาว กุ้งทอดทรงเครื่อง ผัดฉ่าทะเล ผัดคะน้าผัดตับ ต้มยำกุ้งนมสด แกเอาอะไรมั้ย?” หันไปถามเพื่อนหลังจากที่สั่งอาหารไปหลายเมนูแล้ว
“เอากุ้งอบวุ้นเส้น ข้าวหนึ่งโถ แค่นี้ก่อนละกัน...” เธอสั่งอาหารเมนูที่สั่งประจำ
“แกช่วยมองหน่อยนะว่าพี่เพชรมาถึงยัง” ทั้งสองสาวหลังจากที่สั่งอาหารไปแล้วซักพักก็พยายามมองหาเจ้ามือของพวกเธอวันนี้ว่ามาหรือยัง
“แกนั่นใช่พี่เพชรเปล่าวะ?” เขมวันต์ถามเพื่อนอย่างไม่แน่ใจ และให้เพื่อนสาวช่วยยืนยัน
“ไหนวะ...” เธอพยายามมองหาพี่สาว
“นั่นไงวะ...นั่นๆ แกเห็นยัง” เขมวันต์ชี้ไปทางเข้าที่อยู่ในมุมที่มืดอยู่ ก่อนจะเห็นชัดขึ้นเรื่อยๆ
“พี่เพชร...ทางนี้” เธอโบกมือแล้วเรียกพี่สาวเสียงดัง สร้างความสนใจให้กับคนในร้านหันมาทางเสียงและเป้าหมายทันที และก็มีหลายคนที่มองมาอย่างสนใจเต็มที่




อักษรจัญจ์
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 3 ต.ค. 2554, 08:26:09 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 3 ต.ค. 2554, 08:26:09 น.

จำนวนการเข้าชม : 2414





<< ตอนที่ 2   ตอนที่ 4 >>
anOO 3 ต.ค. 2554, 12:15:55 น.
หนุ่มๆ คงมากินข้าวร้านนี้ด้วยแน่เลย
คงจะได้เจอกันแล้วมั้ง
ปล. รบกวนจัดบรรทัดหน่อยนะค่ะ มันติดกันหมดเลยอ่ะ


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account