กับดักใจ...ซาตานยอดรัก
เขา...ที่ตกหลุมรักเพื่อนน้องสาวที่ห่างจากเขา 15 ปี จะทำยังไงหากไม่วางกับดักให้เธอติดบ่วงเขา
เธอ...ที่ไม่เคยรักใคร เธอไม่เคยรู้ว่าเขากำลังต้อนเธอเข้ากรงใจ
Tags: พี่ใหญ่

ตอน: ตอนที่ 5

ตอนที่ 5

หน้าห้องน้ำที่พลอยไพลินเดินออกมาเธอเดินข้าห้องน้ำเพื่อทำธุระส่วนตัว และเดินออกมา สิ่งที่เธอไม่คาดคิดก็คือมีคนมาดักหน้าเธอ จนเธอต้องหยุดอย่างกะทันหัน และมองหน้าคนที่บังอาจมาขวางทางของเธอ

“ขอโทษค่ะ ช่วยหลีกทางหน่อยค่ะ” เธอบอกเสียงเรียบพยายามข่มอารมณ์ไม่ให้ประทุขึ้นมา เพราะท่าทีที่เห็นคงไม่ได้มาดีนัก

“โถๆ น้องสาวคนสวยทำไมทำเสียงแข็งอย่างนั้นละจ้ะ...พวกพี่ๆ น่ะแค่อยากจะชวนไปนั่งด้วยกันแค่นั้นเองนะ” หนึ่งในนั้นเอ่ยออกมาเสียงอ้อแอ้ เขาเห็นเธอตั้งแต่ที่เดินเข้ามาแล้ว และเห็นว่าเธอเดินไปรวมกลุ่มกับผู้ชายคนหนึ่งน่าจะเป็นคนรวย และเหมาเอาว่าเธอคงเป็นเด็กไซด์ไลน์แน่ เลยกะว่าจะมาต่อรองราคาเสียหน่อย กะว่าแพงแค่ไหนก็จะสู้เพราะหน้าเธอสวยถูกใจพวกเขามาก

“นี่..ถอยไปนะ...ที่นั่งฉันมีไม่อยากไปนั่งกับใครทั้งนั้น” เธอตวาดลั่นอย่างไม่เกรงกลัว แต่คนกลุ่มนั้นจะสะทกสะท้านก็เปล่า เพราะอารมณ์อยากได้ และความเมามันบดบังหมดแล้ว

“จุ้ๆ น้องสาวคนสวยหน้าตาดีๆ ไม่เห็นต้องทำหน้ายุ่งเลยนี่นา...พี่ๆ น่ะแค่อยากช่วยค่าเทอมเท่านั้นเองนะจ้ะ...” ผู้ชายคนหนึ่งทำท่าว่าจะแตะหน้าเธอ แตะโดนหญิงสาวปัดออกไปก่อนที่มันจะโดนเธอเข้า

“นี่! อย่ามาพูดอะไรทุเรศๆ แถวนี้นะ แล้วคิดว่าคนอื่นเขาจะเป็นแบบที่ตัวเองกำลังคิดอยู่เหรอ แล้วไอ้ค่าเทอมที่แกคิดจะช่วยน่ะมันมีพอที่จะทำให้แกออกจากคุกได้รึเปล่า...ข้อหาลวนลามทำอนาจารน่ะ..แรงอยู่นะ ลองดูมั้ยละ...” เธอได้แต่บอกอย่างพยายามข่มใจ เพราะว่าเธอไม่อยากให้เรื่องถึงแม่เธอนั่นเอง

“โถๆ อย่าเล่นตัวหน่อยเลยน้อง พี่รู้หรอกว่าน้องน่ะอย่างว่า...” แววตาที่มองมาที่เธออย่างสำรวจพึงใจในรูปร่างหน้าตาของเธออย่างมาก ถ้าได้นอนด้วยซักคืนคงจะสุขพิลึกเชียวละ...ไม่แน่เกิดเขาติดใจอาจจะเลี้ยงดูปูเสื่ออย่างดีก็ได้

“เชอะ...แค่ยืนยังจะยืนไม่อยู่อย่าทำมาปากเก่งหน่อยเลย แล้วก็ช่วยหลีกทางด้วยหรืออยากให้เรื่องถึงตำรวจ?” ตอนนี้เธอเริ่มจะระงับใจไม่อยู่แล้ว แม้จะรู้ว่าอีกฝ่ายเมาก็ตาม

“โห..ตำรวจเลยเหรอ แล้วน้องไม่กลัวว่าเขาจะรู้เหรอจ้ะว่าน้องทำอาชีพอะไรน่ะ...พี่เห็นนะว่าน้องย้ายไปนั่งกับไอ้หน้าหล่อน่ะ...คงทำมานานแล้วซิท่า” เขาว่าอย่างไม่ให้เกียรติเพราะคิดว่าอีกฝ่ายต้องเป็นแน่นอน

“ไอ้!” เธอชี้หน้าอีกฝ่ายอย่างเหลืออดเต็มที แววตาวาวโรจน์ที่ส่งไปให้อีกไม่ได้ให้อีกฝ่ายหยุดปาก แม้จะรู้ว่าผู้หญิงคนนี้มีอะไรที่น่ากลัวอยู่ แต่ความอยากมันไม่ทำให้พวกเขามีสติเลยตอนนี้

คนที่เดินออกมาจากกลุ่มหลังจากที่เห็นว่าเพื่อนน้องสาวกำลังจะมีเรื่องกับกลุ่มคนเมาตอนนี้ ชายหนุ่มในเสื้อเชิ้ตสีครีมพับแขนและปลดเนคไทออก ทำให้เขาดูสบายๆ มากขึ้นแต่สีหน้านี่ผิดกันมากกับท่าทีของเขา ชายหนุ่มเดินเข้ามาแล้วเดินเข้าไปขวางระหว่างกลุ่มคนเมาและหญิงสาวที่กำลังโดนหาเรื่อง

“อะไรกันแก..แฟนเขาจะคุยกันน่ะ...คนอื่นอย่าเสือก” ชายคนหนึ่งเอ่ยขึ้นมาเมื่อเห็นคนมายืนขวางระหว่างเขากับผู้หญิง และเขาไม่พอใจมากที่อยู่ๆ มีคนมายุ่ง

“แน่ใจเหรอ แต่ดูจากที่เห็นแล้วเขาไม่เป็นอะไรกับนายนะ ไม่อยากมีเรื่องไปซะแต่ตอนนี้ดีกว่านะ...” เหมวันต์บอกเสียงเรียบ เขาเหลือบมองคนที่อยู่ด้านหลังตัวเองหน่อยนึง ตอนแรกที่เดินเข้ามาเขาเห็นไม่ชัดว่าเธอหน้าตาเป็นยังไง แต่ตอนนี้เขาเห็นแล้วว่าเธอหน้าตาสะสวย ผิวขาว ตาโต เขามองว่าเธอเป็นคนที่สวยมาก สวยสะดุดตาเชียวละ มิน่าละเจ้าพวกนี้ถึงเข้ามาวอแวกับเธอด้วย

พลอยไพลินที่กำลังอารมณ์ขึ้นมองด้านหลังและด้านข้างของคนที่เดินเข้ามาขวางเธอเอาไว้อย่างงงๆ ไม่รู้ว่าชายหนุ่มคนนี้เป็นใคร

‘คนอะไรวะ โคตรสูงเลย แต่ดูแล้วท่าจะหล่อนะเนี่ย’ เธอได้แต่คิดเล่นๆ เพราะแค่เห็นด้านข้างเธอก็พอจะดูออกแล้วละว่าเขาหล่อมาก

“อะไรวะ! เรื่องของคนอื่นมึงเสือกอะไรด้วย” ร้องเสียงดังอย่างมีอารมณ์เพราะมีคนเข้ามาขวางอย่างนี้

“ขอโทษที่ต้องยุ่งแล้วกันเพราะเธอคนนี้เป็นเพื่อนของน้องสาว และคุณเองคงไม่อยากมีเรื่อง และไม่รู้หรอกนะว่าคุณใหญ่มาจากไหน แต่การที่คุณมาหาเรื่องอย่างนี้น่ะมันคงไม่ดีเท่าไหร่หรอก..เธอสามารถแจ้งข้อหาทำอนาจาร หมิ่นประมาทคุณก็ได้นะ แล้วผมเองก็รับรองได้เลยว่าจะทำให้มันถึงที่สุด ต่อให้พ่อคุณใหญ่แค่ไหนก็ช่วยคุณไม่ได้หรอก” เหมวันต์เอ่ยออกมาเสียงเย็น เขารู้ดีว่าไอ้พวกที่ชอบกร่างอย่างนี้คงเป็นเพราะบารมีพ่อ แม่มากกว่าไม่ใช่เพราะตัวเองหรอก

“เหอะ...อย่ามาขู่หน่อยเลย อย่างแกน่ะจะไปทำอะไรฉันได้ละ...” มองหน้าคนตรงหน้าอย่างเหยียดๆ เขาไม่คิดว่าอีกฝ่ายจะมีอำนาจอะไรมาทำเขาได้ เพราะพ่อเขาเป็นถึงรัฐมนตรีกระทรวงใหญ่ไม่มีใครทำอะไรเขาได้หรอก กลัวพ่อเขาทั้งนั้น

“ลองดูก็ได้นะ...ว่าใครจะแน่กว่ากันนายฉันหรือว่าพ่อของนาย” เขาท้าทายอย่างไม่กลัวใคร เพราะเขาถือว่าอีกฝ่ายมาหาเรื่องก่อน และยิ่งมาหาเรื่องเด็กสาวตัวเล็กๆ คนหนึ่งด้วย คิดว่าพ่อตัวเองใหญ่จะทำอะไรใครก็ไม่ผิดหรือไงกัน เรื่องอย่างนี้เขาไม่ปล่อยผ่านหรอก

“หึ...” ถอนฉุนอย่างไม่พอใจ เขากำลังจะกดสายเรียกคนของพ่อเขาให้มาจัดการกับสองคนนี้ และเขาอยากได้ผู้หญิงคนนั้นมาก ไอ้ผู้ชายก็จัดการมันซะให้มันกร่างไม่ได้อีก ส่วนผู้หญิงเขาจะเอาไปบำเรอเขาเสียหน่อย เบื่อค่อยปล่อยออกมา เขาทำอย่างนี้ประจำ

“บอกคนของพ่อนายหรือว่าพ่อนายด้วยละว่าถ้าอยากมีเรื่องกับเหมวันต์ อภิชัยสุทธิธรรมละก็ได้เลย เดี๋ยวฉันจะไปหาเขาถึงบ้านเองรับรองว่าเรามีอะไรต้องสะสางกันยาวเลย” เขาประกาศออกไปแล้ว อยากรู้นักว่าอีกฝ่ายจะโง่พอที่อยากจะมีเรื่องกับเขารึเปล่า เขาเห็นหน้าก็รู้ว่าอีกฝ่ายเป็นลูกชายของใคร และรู้อีกว่าฝ่ายนั้นเคยทำอะไรมาบ้าง แต่เพราะไม่มีใครอยากจะมีเรื่องหรือว่าเกรงกลัวอิทธิพลพ่อเขากันเขาก็ไม่แน่ใจ แต่ว่าเมื่ออีกฝ่ายกล้ามาหาเรื่องเขา ก็ต้องลองกันเสียหน่อยว่าอีกฝ่ายจะกล้ากับเขารึเปล่า

“เฮ้ย! อย่านะเอ็ง...แกไม่รู้เหรอว่าเขาเป็นใครน่ะ?” เพื่อนอีกคนรีบดึงเพื่อนเอาไว้ทันทีที่ได้ยินชื่ออีกฝ่าย และรู้ด้วยว่าอีกฝ่ายไม่ควรจะมีเรื่องด้วยเลย ต่อให้พ่อของอีกฝ่ายใหญ่คับฟ้าก็สู้คนๆ นี้ไม่ได้หรอก รู้เลยว่าหากมีเรื่องกันใครจะเป็นฝ่ายที่หายนะกัน

“แกกลัวอะไรวะ?” ด้วยเป็นลูกคนเดียวและไม่เคยสนใจอะไรทำให้เขาไม่รู้ว่าตัวเองกำลังเล่นอยู่กับใคร แต่ต่างจากเพื่อนอีกสองคนโดยสิ้นเชิงที่รู้ว่าตัวเองเจอตอเข้าให้แล้ว

“ว่าไง...จะเอาไงว่ามาฉันยินดีรับเสมอ..” เหมวันต์บอกอย่างใจเย็น รู้ว่าอีกฝ่ายคงไม่กล้าเอาตัวเองมาเสี่ยงหรอก แม้ว่าจะอยากแค่ไหนก็ตาม

“อะ..เอ่อ...ขอโทษด้วยแล้วกันครับ..เราจะไปแล้วครับ” เพื่อนอีกคนรีบดึงแขนเพื่อนให้ออกไปจากที่นี่เสียที ก่อนที่อนาคตจะดับไปมากกว่านี้ เขารู้แล้วว่าหาเรื่องใส่ตัวเอง ไม่ว่ายังไงอีกฝ่ายคงเล่นงานพวกเขาแน่ แม้ว่าจะไม่รู้ชื่อแต่หน้าตาของเพื่อนเขาลากคนที่กร่างว่าตัวเองเป็นลูกคนใหญ่โตก็คงไม่ยากกับการที่จะรู้ว่าอีกฝ่ายชื่ออะไรสำหรับคนทรงอิทธิพลอย่างผู้ชายอย่างเหมวันต์

“พวกนั้นไปแล้ว...เป็นอะไรรึเปล่า?” เหมวันต์หันหลังกลับไปสนใจคนที่อยู่ด้านหลังเขา และก็ได้เห็นว่าเธอกำลังมองเขาอยู่

“เอ่อ...เปล่าค่ะ..ไม่เป็นอะไรแต่ก็ขอบคุณมากนะคะ...คุณเหมวันต์” เธอเรียกชื่อเขาเต็มๆ และเธอก็พอจะรู้แล้วว่าอีกฝ่ายเป็นพี่ชายคนโตของเพื่อนเธอเอง และการพบกันครั้งแรกช่างน่าตื่นเต้นดีแท้...

‘หุๆ คนอะไรไม่รู้แมนเป็นบ้าเลย หล่อกว่าที่ยัยสามมันสรรเสริญเออีกนะเนี่ย..หล่อไม่เกรงใจหัวใจดวงน้อยๆ ของเธอเลยให้ตายเถอะ’ เธอได้แต่คิดอย่างสนุกอยู่ในใจ เพราะเธอไม่กล้าพูดออกมาหรอก

“อะไรกัน...ดูเป็นคนที่เรียบร้อยเลยนะเนี่ยพี่เป็นพี่ของสามรู้ใช่มั้ย...เรียกว่าพี่ใหญ่เหมือนสามเลยก็ได้นะน้องพลอย” เขาได้แต่ยิ้มให้อีกฝ่ายอย่างเอ็นดู กับท่าทางเก้ๆ กังๆ ของเธอ และตอนนี้เขาคิดอะไรอยู่ไม่มีใครรู้ เพราะตั้งแต่แวบแรกที่เขาเห็นหน้าเธอชัดๆ เขาก็รู้สึกว่า...น่าจะเป็นโชคชะตาที่เล่นกลกับเขาและเธอที่ไม่ให้เจอหน้ากันมาตั้งหลายปี ทั้งๆ ที่รู้จักชื่อกันมาตั้งนานแล้ว

“คะ...ค่ะ...ขอบคุณค่ะพี่ใหญ่” เธอขอบคุณเขาเบาๆ และหลบสายตาคมที่มองมาที่เธอ ทำเอาเธอใจสั่นยังไงไม่รู้ แต่เขาเป็นพี่ชายเพื่อนรักเธอนะ ยัยบ้าจะมาใจสั่นทำไมกัน

“หึๆ ดีมากครับ..พี่ว่าเราไปกันดีกว่านะครับ..ทุกคนคงรอเราอยู่” เขาผายมือให้เธอออกเดินนำไปก่อนและเขาเดินตามหลังเธอไปติดๆ เรียกว่าหายใจรดต้นคอกันเลย ทำเอาคนที่เดินนำหน้าขนลุกวาบอย่างไม่เข้าใจตัวเองกับความรู้สึกร้อนวูบวาบอยู่ภายใน มันทำให้เธอรู้สึกร้อนรุ่มอย่างไรก็ไม่รู้ อย่างนี้เธอจะไปถามใครได้ละเนี่ย

“ยัยพลอย! แกเป็นไงบ้างไอ้พวกนั้นมันเป็นใครมาขวางแกทำไม...แล้วแกไม่จัดการมันไปเลยละ!” เขมวันต์ถลามาหาเพื่อนสาวทันทีที่เดินมาที่โต๊ะ และเห็นว่าอีกฝ่ายไม่เป็นอะไรเลย แต่ท่าจะอารมณ์สงบไปมากเลยทีเดียว เพราะอีกฝ่ายก็เป็นคนที่โมโหแรงเหมือนกัน ใครกล้าเข้ามาหาเรื่องเป็นเดี้ยงไปทุกครั้งเชียว แต่คราวนี้แปลก

“จะไปทำอะไรใครได้ละ...พอดีว่าพี่ใหญ่เข้าไปทันน่ะไม่งั้นฉันคงได้ออกแรงไปแล้วเผลอๆ อาจจะต้องขึ้นโรงพักเพราะข้อหาทำร้ายร่างกายก็เป็นได้นะแก...อิๆ แต่ก็คงจะดีนะถ้าได้ซัดมันซักเปรี้ยงน่ะ?” เธอได้แต่บอกออกมาอย่างอารมณ์ดี เพราะเพียงแค่คิดว่าเธอได้ปล่อยหมัดใส่หน้าตาไอ้หมอนั้นคงทำให้เธอหายแค้นไปได้บ้าง

หนอย..มาหาว่าเธอเป็นเด็กไซด์ไลน์เสียได้ แต่พ่อเขาคงใหญ่น่าดูไม่งั้นคงไม่กล้ากร่างโดยที่ไม่เกรงกลัวต่อกฎหมายหรอก
“พี่ว่าเราไปนั่งที่ก่อนดีกว่านะ...พลอยเขาน่าจะหิวแล้วละ ไหนจะโมโหเมื่อกี้อีกละ...” เหมวันต์บอกเมื่อสองสาวทำท่าว่าจะตั้งหลักยืนคุยกันอยู่ตรงนี้

“จริงซิ! ไปกันเราไปนั่งเถอะ...อาหารจะชืดเสียก่อน” เขมวันต์อุทานออกมาอย่างตกใจ ก่อนจะลากเพื่อนสาวให้ไปนั่งที่โต๊ะ และสอบถามอย่างห่วงใยความจริงเธออยากเข้าไปช่วย แต่ว่าโดนห้ามเอาไว้เสียก่อน บอกว่าพี่เธอจัดการได้อยู่แล้ว ทำให้เธอได้แต่มองอย่างห่วงใยเท่านั้น แม้ว่าเพื่อนเธอจะเก่งและพิษสงรอบตัวแต่ว่าแรงผู้หญิงจะไปสู้ผู้ชายได้อย่างไรกัน

“ว่าแต่เป็นไงมาไงวะ...แกไปเจอพวกนั้นได้น่ะ?” เขมวันต์ถามเพื่อนทันทีที่นั่งลงและเริ่มทานอาหารที่สั่งไป เพราะความอยากจะรู้นั่นเอง

“เปล่าหรอก...พวกนั้นคงเห็นเราย้ายมานั่งที่โต๊ะนี้กับพี่สองมั้ง เลยเหมาว่าพวกเราคงทำอย่างว่า...เลยจะมาเสนอตัวเองน่ะว่าพวกเขาก็สนใจไง” เธอบอกเพื่อนไปตรงๆ ก็ไม่มีอะไรต้องปิดบังนี่นา

“ห๋า! พวกนั้นมันเอา...คิดหรือไงกันน่ะ คนเราน่ะนะมันถึงคิดได้แต่เรื่องต่ำๆ อย่างนั้นน่ะ?” หญิงสาววีนแตกเลยทีเดียว เมื่อรู้ว่าเรื่องเกิดเพียงเพราะเธอย้ายมานั่งกับพี่ชายน่ะ

“อิๆ แกจะไม่มีอารมณ์ทำไมวะ...ช่างมันเถอะเรื่องมันผ่านไปแล้ว ดีนะพี่ใหญ่เข้าไปช่วยทันไม่งั้นฉันออกงิ้วแน่เลยวะ...ขอบคุณอีกครั้งนะคะ” เธอไหวไหล่อย่างไม่ใส่ใจนักเพราะเธอถือว่าเธอไม่ได้หาเรื่องใครก่อน เมื่ออีกฝ่ายเป็นฝ่ายที่เดินเข้ามาหาเท้าเธอเองช่วยไมได้

“นั่นซิคะ ตอบขอบคุณพี่ใหญ่อีกครั้งนะคะที่อุตส่าห์ไปช่วยยัยพลอยน่ะค่ะ” เพชรไพลินเองก็เห็นด้วยที่อีกฝ่ายเข้าไปช่วยเหลือ

“หึๆ ไม่เป็นไรหรอก ไม่ใช่เรื่องหนักหนาอะไร...ว่าแต่พลอยแน่ใจเหรอว่าจะไม่เอาเรื่องจริงๆ น่ะ?” ชายหนุ่มถามอีกฝ่ายเมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายไม่อยากจะเอาเรื่องคนกลุ่มนั้น
“ไม่ดีกว่าค่ะ พลอยไม่อยากจะยุ่งเกี่ยวกับพวกเขาอีกแล้ว ให้มันจบดีกว่าค่ะ เราจะเอาตัวเองเข้าไปวุ่นวายกับเขาให้ตัวเองยุ่งยากทำไมคะ?” เธอเบะปากออกมาอย่างเบื่อๆ เมือคิดว่าตัวเองจะต้องเจอหน้าคนพวกนั้นอีก

“อุ้ย! แกจะมาเป็นแม่พระอะไรตอนนี้...ปกติแกเป็นคนเจ้าคิดเจ้าแค้นจะตายนี่หว่า?” เขมวันต์ได้แต่เลิกคิ้วมองหน้าเพื่อนอย่างงงๆ เพราะปกติเพื่อนเธอจะเป็นคนที่ไม่ยอมให้อะไรที่เธอเห็นว่าไม่ถูกไม่ควรเธอจะไม่ปล่อยผ่านเลยไป

“อิๆ ฉันจะไปโวยวายทำไมวะ..ในเมื่อฉันมีแกอยู่ทั้งคน” พลอยไพลินได้แต่ยิ้มอย่างขำๆ เพราะรู้ว่าเพื่อนเธอจะต้องเต้นแทนเธอแน่หากว่าเธอปล่อยวาง

“เชอะ..ทำเป็นรู้ดีพี่ใหญ่ต้องจัดการนะคะคนอย่างนี้ไม่ควรปล่อยให้ไปเกะกะคนอื่นเขา คิดว่าตัวเองมีพ่อใหญ่แล้วตัวเองจะทำอะไรใครก็ได้ เพราะว่าพ่อตัวเองอยู่เหนือกฎหมายน่ะ?” เธอหันไปหาพี่ชายคนโต แล้วบอกอย่างโกรธจัดที่เพื่อนโดนดูถูกอย่างนี้ และไม่ควรมาพูดอย่างนี้เลย เป็นใครไม่โกรธละ

“หึๆ แล้วสามอยากให้พี่ทำอะไรละ...เขาเป็นถึงลูกชายรัฐมนตรีเชียวนะ?” ชายหนุ่มมองหน้าน้องสาวอย่างเอ็นดู ต่อให้เธอไม่บอกเขาก็กะว่าจะจัดการอยู่แล้ว และเขาไม่ค่อยชอบใจนักกับการกระทำของอีกฝ่าย เกิดเขาไม่เข้าไปห้ามอาจจะมีการฉุดหญิงสาวเกิดขึ้นก็ได้

“ทำยังไงก็ได้ค่ะ ขอให้นายนั่นได้รับบทเรียนบ้าง...เขาจะได้รู้ว่าตัวเองไม่ได้อยู่เหนือกฎหมายและพ่อเขาไม่สามารถช่วยเขาได้ตลอดหรอก...” เธอทำจมูกเชิดอย่างเอาแต่ใจ แม้ว่าเธอจะเป็นลูกคนเล็ก แต่ก็ไม่เคยทำตัวกร่างจนพี่ชายต้องเข้าไปเคลียร์ให้แม้แต่ครั้งเดียว แต่ผู้ชายคนนั้นกลับทำตัวเกะมะเรกเกเรกับคนอื่นไปทั่วอย่างนี้ หรือแม้แต่การฉุดลูกสาวคนอื่นที่ตัวเองพอใจ แต่จะมีใครกล้าไปอาจหาญมีเรื่องกับรัฐมนตรีละ...

“อืม..แล้วพี่จะจัดการให้ก็แล้วกันนะ...” เขากำลังคิดอยู่ว่าจะจัดการยังไงดี พูดกับพ่อของอีกฝ่ายเลยคงไม่มีทางมีอะไรเปลี่ยนแปลงหรอก เพราะถ้าจะห้ามปรามกันได้ก็คงห้ามไปนานแล้ว

“ต้องให้เป็นข่าวครึกโครมเลยนะพี่ใหญ่ คนอย่างนั้นน่ะถ้าเรื่องเงียบก็คงทำอีกอยู่แล้ว ต้องให้สังคมรับรู้การกระทำที่เลวร้ายของเขาด้วย ทำให้เขาไม่กล้าทำอีกเลยนะ...

“เอาขนาดนั้นเลยเหรอยัยสาม...พี่ว่าแรงไปรึเปล่า?” เหมวัฒน์มองหน้าน้องสาวยิ้มๆ ปกติน้องเขาเป็นคนที่ไม่ชอบหาเรื่องคนแต่คราวนี้กลับเป็นฝ่ายที่เดือดร้อนแทนเพื่อนเสียนี่

“ต้องขนาดนี้แหละค่ะพี่สอง...ลองคิดดูนะคะอย่างพลอยน่ะเขาเอาตัวรอดได้ แต่เกิดว่าเรื่องมันเกิดกับสามละ? แล้วเขาเกิดบ้าดีเดือดฉุดสามไปละคะ?” เธอกำลังคิดถึงว่าหากเกิดกับตัวแทน มันคงจะต้องเกิดเรื่องอะไรที่ทำให้เธอมีชีวิตอยู่ไม่ได้แน่ๆ

“จริงซินะ...” เหมวัฒน์พยักหน้าอย่างเห็นด้วยกับที่น้องสาวว่ามา

“ไม่เพียงแค่นี้นะคะ...สามว่าเขาคงทำมาหลายครั้งแล้วละ ถึงได้ไม่เกรงกลัวใครเลย ตำตรวจก็คงไม่สามารถทำอะไรได้ คิดดูนะคะว่ามีใครที่ต้องทรมานกับเรื่องอย่างนี้น่ะ” เธอมองหน้าชายหนุ่มทั้งสามคนที่อยู่ตรงนี้

“น่า..ยัยสามแกก็คิดมากไปได้แล้วใช่ว่าเรื่องอย่างนี้จะเกิดขึ้นได้ง่ายๆ แกเองก็ไม่ได้ไปไหนคนเดียวอยู่แล้วนี่นา...” พลอยไพลินพยายามปลอบเพื่อนที่กำลังร้อนใจ และคิดมากเกินกว่าที่เป็นอยู่

“มันก็ไม่มีอะไรที่แน่นอนหรอกนะเว้ย...”

“พี่ว่าเราใจเย็นๆ หน่อยดีกว่านะสาม...เอาเป็นว่าพี่จะจัดการให้แล้วกัน พี่เองก็ไม่ชอบหรอกนะที่เขาทำอย่างนี้น่ะ...” เขาคิดเอาไว้แล้วว่ายังไงก็ต้องจัดการเสียหน่อยแหละ ช่วยไม่ได้อีกฝ่ายมาหาเรื่องผิดคนเอง

“หึๆ อย่าหนักมือนักละไอ้ใหญ่...” จิรกิตติ์มองหน้าเพื่อนรักอย่างรู้ทันแม้ปากจะว่าจะจัดการให้ แต่เขารู้ดีเชียวละว่าเพื่อนเขามีแผนการสำหรับคนๆ นั้นยังไง เขาเชื่อว่าบทเรียนสำหรับสั่งสอนคนของเพื่อนเขาคงหนักเอาการเชียวละ...ขนาดว่าอีกฝ่ายคงต้องร้องขอชีวิตเลยละ




อักษรจัญจ์
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 5 ต.ค. 2554, 09:51:34 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 5 ต.ค. 2554, 09:51:34 น.

จำนวนการเข้าชม : 2340





<< ตอนที่ 4   ตอนที่ 6 >>
anOO 5 ต.ค. 2554, 10:11:36 น.
ศรรักปักอกทันทีที่เห็นหน้าเลยเหรอ พี่ใหญ่


หมูอ้วน 5 ต.ค. 2554, 13:07:57 น.
ปิ้งแต่แรกเห็นกันหมดเลยเน๊อะ...
รอตอนต่อไปค่ะ


คิมหันตุ์ 6 ต.ค. 2554, 01:14:13 น.
ตอนนี้เหมือนมีสองฉาก..........ห้ะห้า


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account