ทะเลร้อนซ่อนสิเน่หา
เพียงแรกพบสบตา...เขา...คเชนทร์ อัครา นายหัวแห่งเกาะยาตราก็เกิดอาการอยากจะเก็บนางฟ้าหน้าหวานปานจะหยดคนนั้นกลับไปใส่กรงทองเป็นสมบัติส่วนตัวของตัวเองเสียแล้ว แต่จะทำยังไงเมื่อสาวเจ้าไม่ยอมเล่นด้วยเพราะเขาเผลอไปทำตัวให้เธอเกลียดขี้หน้าเข้า งานนี้จากนายหัวหนุ่มผู้เคร่งขรึมจีบสาวไม่เป็น ก็ถึงกับต้องลงทุนงัดทุกกระบวนความมาต้อนสาวหน้าหวานให้ยอมรับรักเขาให้จงได้

เธอ...น่ารัก สาวนักออกแบบที่เดินทางไปพักผ่อนสมองที่บ้านเกิดเพื่อนรัก แต่ครั้งแรกที่พบเจอหนุ่มโหดหน้าตาอย่างกับมหาโจรที่ร่วมเดินทางไปบนรถทัวร์คันเดียวกัน เขาก็จาบจ้วงถึงเนื้อถึงตัวเธอเสียแล้ว ซ้ำยังตามติดเดี๋ยวกอดเดี๋ยวหอมจนเธอผวา ยิ่งเมื่อมารู้ว่าเขาเป็นคนเดียวกับพี่ชายเพื่อนรักที่เคยปฏิเสธอย่างไร้มารยาทห้ามให้เธอไปวุ่นวายที่เกาะยาตราสุดรักสุดหวงของเขา เธอก็นึกไม่ชอบขี้หน้าเขามากขึ้นไปอีก

แต่ยิ่งไม่ชอบเขาก็ยิ่งตื้อ ยิ่งปฏิเสธเขาก็ยิ่งรุก จนใจน้อย ๆ ที่เคยหนักแน่นเริ่มสั่นไหว แล้วสุดท้ายน่ารักจะทำอย่างไรเมื่อถูกมหาโจรหน้าหล่ออย่างคเชนทร์รุกหนักจนหัวใจปลิวหายไปอยู่ในมือเขาในที่สุด
(รอตีพิมพ์กับ สนพ.แสนรัก ในเครือไลต์ ออฟ เลิฟ ค่ะ)
Tags: ผู้แต่งยังไม่ได้กำหนด tags ของนิยายเรื่องนี้

ตอน: ตอนที่ 3..โจทย์เก่า..(100%)--ตอนที่ลืมค้า



ขอโทษทีค้า ข้ามตอนที่ 3 ไปตอนนึงจริง ๆ ด้วยอะ

ขออภัยฮับ .....

++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++



บทที่ 3...โจทย์เก่า



ร่างระหงของหญิงสาวผิวสีน้ำผึ้งตามลักษณะสีผิวส่วนมากของคนในจังหวัดริมชายฝั่งทะเลอันดามันแห่งนี้ เดินวนไปวนมาภายในห้องนั่งเล่นของบ้านไม้หลังงามที่อยู่บนเนินสูงกว่าผืนแผ่นดินรอบ ๆ บนเกาะยาตรา เกาะส่วนตัวของตระกูลอัครา ในมือถือโทรศัพย์มือถือเครื่องเล็ก ๆ สีชมพูสดใส คิ้วเรียวงามขมวดแน่นอย่างใช้ความคิดเมื่อเพียรกดโทรหาปลายสายหากแต่กลับไร้สัญญาณตอบกลับ



“ภัทรโทรหายัยเลิฟเป็นสิบ ๆ รอบจนมือจะหงิกอยู่แล้วนะคะพี่ปุณณ์ แต่คำตอบก็เดิม ๆ ...ท่านกำลังเข้าสู่ระบบฝากข้อความค่ะ ๆ มันอะไรนักหนาเนี่ยยัยเลิฟนะยัยเลิฟ ไม่รู้หรือไงว่าคนเค้าเป็นห่วงน่ะ” คีตภัทรบ่นยืดยาวหลังจากทรุดนั่งลงตรงเก้าอี้ข้าง ๆ ร่างสูงที่นั่งมองยิ้ม ๆ “ยิ้มอะไรคะพี่ปุณณ์ คนกำลังกลุ้ม ๆ อยู่ แล้วนี่ติดต่อพี่เชนทร์ได้หรือยังคะเนี่ย ภัทรล่ะอยากจะรู้จริง ๆ ว่าที่อาลีโทรมารายงานน่ะจริงเท็จแค่ไหน คนอย่างพี่เชนทร์น่ะเหรอจะวิ่งตามสาว อาลีต้องเติมสีตีไข่ลงไปเยอะมากแน่ ๆ “ เหวใส่เสร็จก็ถามต่อจนคนฟังหลุดหัวเราะออกมาอย่างอดไม่ได้



“จะให้พี่ตอบคำถามไหนก่อนดีล่ะคะ” ปุณณ์ถามน้องสาวเพื่อนรักเสียงนุ่ม ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปกี่ปีต่อกี่ปีคีตภัทรก็ยังคงเหมือนเด็กในสายตาของเขาเสมอ แล้วก็ยังเป็นเด็กสาวที่เขา...



“พี่ปุณณ์น่ะ อย่ามายั่วโมโหภัทรตอนนี้ได้ไหมคะ คีตภัทรส่งค้อนให้พร้อมกับใบหน้าสวยคมที่งอง้ำ



“เอ้า พี่ก็ถามดี ๆ ก็เราเล่นถามทีเดียวหลายคำถามนี่นา โอเค ๆ งั้นพี่ตอบทีละข้อนะคะ” สุดท้ายก็ต้องทำทีเป็นยกสองมือขึ้นให้รู้ว่ายอมแพ้ ก่อนจะตอบคำถามเสียงจริงจัง แต่สายตากับพราวระยับเหมือนกำลังกลั้นหัวเราะเอาไว้



“พี่ว่ามือถือเพื่อนภัทรอาจจะแบตหมดก็ได้นะคะ แล้วเผอิญตอนนี้อาจจะนอนไปแล้วเพราะความเหนื่อยจากการเดินทาง ยังไงเดี๋ยวไว้พรุ่งนี้ภัทรค่อยโทรหาเพื่อนอีกทีดีกว่านะคะ เพื่อนภัทรอยู่ในเมืองกระบี่นะคะไม่ใช่ชายแดนไม่มีอะไรน่าห่วงนักหรอก”คำพูดหคะขาหวานหูอย่างที่เขาใช้พูดประจำกับหญิงสาวที่นั่งอยู่ข้าง ๆ พร้อมรอยยิ้มอบอุ่นตามแบบฉบับทำให้คีตภัทรใจเย็นขึ้น “ส่วนพี่ชายภัทรน่ะ มันไม่ได้ปิดมือถือหรือแบตหมดอะไร แต่ไอ้เชนทร์มันไม่ยอมรับสายสักที สงสัยคงจะกำลังยุ่งอยู่กับการตามสาวอย่างที่อาลีมันบอกล่ะมั้งคะ ไม่ดีเหรอคะพี่เห็นภัทรบ่นอยากมีพี่สะไภ้มาหลายครั้งแล้วนะคะ”



“ได้ยังไงล่ะคะ ภัทรมีว่าที่พี่สะไภ้ในดวงใจแล้วนี่นา ไม่ยอมหรอกถ้าพี่เชนทร์จะไปคว้าใครมาโดยที่ไม่ผ่านความเห็นชอบจากภัทรน่ะ” ไม่ยอมแน่ ๆ อุตส่าห์วางแผนการณ์ไว้อย่างดี แล้วว่าที่พี่สะไภ้ที่เธอหมายตาไว้ก็ถูกใจเธอที่สุดแล้ว รับรองถ้าพี่ชายเธอได้พบเจอต้องถูกใจอย่างไม่ต้องสงสัย นี่ถ้ารู้ว่าเพื่อนรักจะมาวันนี้ล่ะก้อเธอไม่ชวนปุณณ์มาเที่ยวที่เกาะยาตราของพี่ชายอย่างนี้หรอก



“พี่ปุณณ์คะ งั้นพรุ่งนี้ถ้าพายุสงบเรารีบกลับเข้าเมืองกันนะคะ ภัทรเป็นห่วงเพื่อน แล้วอีกอย่างจะได้ไปดูหน้าผู้หญิงที่พี่เชนทร์ถูกใจถึงขนาดอยู่เฝ้า ไม่ยอมกลับบ้านไปหานายแม่” ตาคมสามแบบฉบับสาวใต้จ้องมองใบหน้าขาวใสของปุณณ์อย่างรอคำตอบ



ปุณณ์ เป็นเพื่อนรักกับคเชนทร์พี่ชายคนเดียวที่อายุห่างกันสิบปีของเธอ เขาไม่ใช่คนใต้แท้ ๆ หากมีมารดาเป็นสาวเหนือที่สวยหวานและพูดจาเสียงละมุนละไมนุ่มหู ซึ่งปุณณ์ที่เป็นลูกชายคนรองของครอบครัวก็ได้รับถ่ายทอดพันธุกรรมเด่นนี้มาด้วย แม้จะเกิดและเติบโตที่กระบี่ หากแต่ปุณณ์กลับมีผิวที่ขาวใสตามมารดา รวมถึงคำพูดนุ่มหูที่เธอชอบฟัง เธอกับเขาสนิทสนมกันมายี่สิบสามปีเท่าอายุของเธอเอง ปุณณ์ก็เหมือนพี่ชายแท้ ๆ ของเธอเช่นเดียวกับคเชนทร์ แต่ก็อาจจะมีแตกต่างกันในบางครั้งที่...เขามักจะทำให้เธอในเต้นผิดจังหวะในช่วงสองสามปีหลังมานี่



ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมเพียงแค่เห็นเขายิ้มให้เธอก็ถึงกับใจเต้นระรัวเสียแล้ว ยิ่งตาคู่คมของเขายามที่มองมาอย่างในตอนนี้...มันทำให้เธอรู้สึกประหม่า...และเขินอาย



“แล้วแต่ภัทรสิคะ พี่มีหน้าที่ทำตามคำสั่งท่านรองอยู่แล้วนี่คะ” ปุณณ์แกล้งเย้า เพราะด้วยตำแหน่งหน้าที่การงานแล้วเขาเป็นเพียงแค่ผู้จัดการฝ่ายการตลาดและผู้ถือหุ้นไม่กี่เปอร์เซ็นต์ ของโรงแรมอัครเดชาของตระกูลอัคราในขณะที่คีตภัทรเป็นถึงรองประธานและน้องสาวของเจ้าของโรงแรม “อ้าว แล้วเป็นอะไรไปล่ะภัทนทำไมอยู่ ๆ ก็น่าแดง ไม่สบายหรือเปล่าคะ พี่ว่าเข้านอนเถอะ เมื่อกี้ออกไปยืนที่ระเบียงตากลมน่ะสิเนี่ย” มือหนายื่นไปอังหน้าผากมนขณะที่พูด เป็นผลให้ใบหน้าของอีกฝ่ายจากที่แดงระเรื่อกลายเป็นแดงก่ำ



พอเห็นอย่างนั้น ริมฝีปากหยักก็ผุดยิ้ม ปุณณ์รู้สึกหัวใจพองโตอย่างประหลาดที่ได้เห็นปฏิกิริยาจากร่างบางระหงข้าง ๆ ท่าทีอย่างนี้...เขาจะเหมาเข้าข้างตัวเองได้ไหมนะ



“อืม แต่ทั้งลมทั้งฝนแรงอย่างนี้ภัทรจะนอนได้เหรอคะ พี่จำได้ว่าตอนเด็ก ๆ ภัทรไม่ชอบนอนคนเดียวตอนฝนตกนี่นา...เอางี้ไหมเดี๋ยวคืนนี่พี่ไปนอนเป็นเพื่อนภัทร” ขอความมั่นใจอีกสักนิดซิ หนุ่มลูกครึ่งเหนือใต้บอกตัวเองในใจ และก็ไม่ผิดหวังเมื่อหลังมือรับรู้ถึงความร้อนจากแก้มนวลที่เพิ่มมากขึ้น



“นั่นมันผ่านมาเป็นสิบปีแล้วนะคะพี่ปุณณ์ ตอนนี้ภัทรไม่ได้กลัวสักหน่อย” คีตภัทรก้มหน้าหลบสายตาคมที่มองมา พลางตอบอ้อมแอ้มไม่เต็มเสียงนัก เพราะความจริงแล้วแม้จะผ่านมากี่ปีเธอก็ยังคงนอนไม่ค่อยจะหลับยาที่ฝนตกฟ้าร้องสักที แต่จะให้ยอมรับแล้วให้เขาไปนอนเป็นเพื่อนน่ะเหรอ แบบนั้นคงยิ่งทำให้นอนตาค้างล่ะสิไม่ว่า “แล้วอีกอย่างภัทรก็ยังไม่ง่วง ถ้าพี่ปุณณ์ง่วงก็ไปนอนก็ได้นะคะ ภัทรจะอยู่รอต่อสายหาเลิฟอีกสักพัก”



“บอกแล้วไงคะว่าพี่มีหน้าที่ทำตามคำสั่งท่านรอง เพราะฉะนั้นท่านรองไม่ง่วงพี่ก็ยังไม่นอนคะ” ปุณณ์ละมือออกจากแก้มนวลอย่างเสียดาย ก็มันบ่อยเสียที่ไหนที่เขาจะหาโอกาสแตะเนื้อต้องตัวเธอโดยที่เหมือนไม่คิดอะไรน่ะ จากนั้นจึงเปลี่ยนเรื่องคุยเมื่อเห็นคีตภัทรไม่ยอมเลยหน้าขึ้นมาสบตาด้วยเสียที



พอก่อน...วันนี้ได้แค่นี้ก็พอแล้ว อย่างน้อยก็ใจชื้นที่เห็นสาวน้อยที่เขาแอบมีใจให้มาเป็นสิบ ๆ ปีเหมือนจะรู้สึกไม่ต่างกันนัก



อย่างน้อยเธอก็ยังมีความรู้สึกเขินอายเขาเหมือนที่ผู้หญิงควรมีให้ผู้ชายที่ไม่ใช่พี่น้องบ้างล่ะน่า



“จะว่าไปนะ จริง ๆ พี่ก็อยากจะเห็นเหมือนกันว่าผู้หญิงแบบไหนที่ทำให้นายหัวที่หนีแสงสีและผู้หญิงมาอยู่ที่นี่ถึงกับตามเฝ้า”



คิดแล้วก็ไม่อยากจะเชื่อที่อาลีลูกน้องคนสนิทของคเชนทร์เพื่อนรักของเขาบอกว่า นายหัวของมันถึงขนาดไม่กลับไปนอนที่บ้านมารดาในเมืองอย่างที่ทำทุกครั้งหลังจากกลับมาจากทำธุระที่กรุงเทพ หรืออย่างน้อยถ้าต้องรีบกลับมาที่เกาะด่วนคเชนทร์ก็จะแวะไปกราบมารดาก่อนทุกครั้ง หากแต่ครั้งนี้อาลีรายงานมาว่าเพื่อนเขาถึงกับเปิดห้องที่โรงแรมเล็ก ๆ เพื่อเฝ้าสาวแปลกหน้าที่นั่งรถทัวร์มาด้วยกัน เขาไม่อยากจะเชื่อเลยจริง ๆ เห็นทีพรุ่งนี้คงต้องไปดูให้เห็นกับตาจริง ๆ เสียแล้ว



“นั่นสิคะ งั้นเอางี้ดีกว่า เดี๋ยวภัทรโทรนัดนายแม่ก่อน แล้วพรุ่งนี้เราเข้าไปรับนายแม่ไปด้วยเลยดีกว่า” เมื่อพูดถึงพี่ชายคีตภัทรก็นึกได้ว่าเธอยังไม่ได้รายงานเรื่องที่อาลีบอกให้มารดาฟังเลย ใบหน้าวสยคมเงยขึ้นมาพูดกับคนข้าง ๆ แล้วยกโทรศัพทย์มือถือขึ้นมากดโทรออกหามารดาเสียเดี๋ยวนั้น ทิ้งให้ปุณณ์นั่งมองมายิ้ม ๆ กับนิสัยทำอะไรปุ๊บปั๊บของคีตภัทร



จากนั้นปุณณ์ก็นั่งมองใบหน้าสวยคมที่สงเสียงเจือแจ้วฟ้องมารดาเรื่องพี่ชายสุดที่รัก เขาชอบฟังเสียงของคีตภัทร เสียงของเธออาจจะไม่ได้หวานปานระฆังแก้วอย่างที่ใคร ๆ เปรียบเทียบกัน แต่สำหรับเขามันฟังดูเพราะพริ้งและชวนให้หลงไหล คีตภัทรแม้จะไม่ใช่สาวผิวขาวตามแบบสเปคของผู้ชายส่วนใหญ่ ผิวของเธอเป็นสีน้ำผึ้งแต่ค่อนไปทางเหลืองนวลเสียมากกว่า หากแต่มันก็นวลเนียนเรียบลื่นชวนมองยิ่งกว่าสาวผิวขาวบางคนเสียอีก และที่สำคัญเขา...ชอบสาวผิวสีน้ำผึ้งแบบคีตภัทรเสียด้วยสิ



++++++++++



เช้าวันถัดมา ท้องฟ้าแจ่มใสมากกว่าสองสามวันที่ผ่านมา พายุก็สงบลง ทำให้กำหนดการการเดินทางจากเกาะยาตราของปุณณ์และคีตภัทร แต่ก็มีเปลี่ยนแผนกันบ้างเล็กน้อยจากเดิมที่จะเข้าไปหามารดาของคีตภัทรที่บ้านแล้วรับออกไปพบคเชนทร์กับสาวปริศนาด้วยกัน ก็เปลี่ยนเป็นตรงไปหาคเชนทร์ที่โรงแรมก่อน เพราะกลัวว่าจะคลาดกัน เนื่องจากเมื่อคืนนี้ไม่สามารถติดต่อชายหนุ่มได้ โทรไปถามอาลีก็ได้ความว่าคเชนทร์เข้าห้องพักไปแล้วและอาลีก็รับปากว่าเช้านี้จะบอกนายหัวของตนให้ว่าคีตภัทรกับปุณณ์จะไปหา แต่ทั้งสองก็ยังไม่วางใจเสียทีเดียว



“อาลีบอกว่าจะบอกให้พี่เชนทร์รออยู่ที่ล๊อปบี้น่ะคะพี่ปุณณ์ เราเข้าไปนั่งรอข้างในดีกว่า”

คีตภัทรพูดขึ้นเมื่อปุณณ์ขับรถมาจอดหน้าโรงแรมเล็ก ๆ ที่อาลีบอกไว้เมื่อคืน จากนั้นก็พากันเดินเข้าไปนั่งรอที่ล๊อปบี๊ สายตาก็มองหาทั้งคเชนทร์และอาลีแต่ก็ไม่เห็น และเมื่อโทรเข้าเครื่องของคเชนทร์ก็ไม่มีคนรับเหมือนเคย พอเปลี่ยนเป็นจะโทรหาอาลีแต่ยังไม่ทันจะได้กดโทรออก หนุ่มใต้ผิวเข้มในชุดเสื้อลายตารางสีแดงดำกับกางเกงยีนส์สีเข้มก็เดินแกมวิ่งออกมาจากลิฟท์ ตรงเข้ามาหาทั้งสอง



“สวัสดีครับคุณปุณณ์ คุณภัทร ขอโทษทีครับพอดีผมมัวแต่โทรตามนายหัวอยู่น่ะครับ ไม่รู้นายหัวไปไหนตั้งแต่เช้า ไปเคาะที่ห้องหลายครั้งแล้วก็ไม่เปิด ไปดูที่ห้องอาหารของโรงแรมก็ไม่มีรถก็ไม่อยู่” อาลีรายงานไปหอบหายใจไปด้วยเพราะก่อนหน้านี้วิ่งเข้าวิ่งออกหน้าโรงแรมเพื่อเช็คดูว่านายหัวหนุ่มขับรถกลับมาหรือยัง “สงสัยนายหัวจะพาคุณคนเมื่อวานออกไปกินข้าวเช้าข้างนอกอีกแหง ๆ เมื่อคืนก็ทิ้งผมให้หาอะไรกินเองไปครั้งหนึ่งแล้วมาตอนเช้าก็ทิ้งอีก นายหัวนะนายหัว” อาลีบ่นแกมฟ้องเป็นภาษาท้องถิ่งยาวเหยียดให้เจ้านายทั้งสองคนฟัง



“ตกลงพูดจริง ๆ เหรออาลีที่ว่าไอ้เชนทร์มันติดสาวน่ะ แน่ใจนะว่าผู้หญิงไม่ใช่ผู้ชายหรือกระเทยแปลงเพศน่ะ” ปุณณ์ถามย้ำ จากนั้นก็ถูกศอกเล็ก ๆ ทุ้งสีข้างเนื่องจากพูดจาไม่เข้าหู ตามมาด้วยเสียงของสาวตาคมที่รักและหวงพี่ชายอย่างคีตภัทร



“พี่ปุณณ์!! ดูถามเข้า พี่ชายภัทรไม่ใช่พวกชอบไม่ป่าเดียวกันนะคะ” คีตภัทรส่งค้อนวงโตไปให้คนข้าง ๆ ที่บังอาจมาว่าพี่ชายสุดที่รักของตนเอง



“อ้าว ก็พี่สงสัยจริง ๆ นี่คะ ก็ถ้าบอกว่าตามติดผู้ชายมันน่าเชื่อกว่าไง ไม่เห็นเหรอว่ารอบ ๆ ตัวพี่ชายภัทรน่ะมีแต่ผู้ชายทั้งนั้น” ปุณณ์ตอบกลั้วหัวเราะ ความจริงเขาก็พูดไปอย่างนั้นเองนั่นแหละ ถ้าอย่างนายหัวคเชนทร์มาดเข้มเป็นพวกชอบไม้ป่าเดียวกันล่ะก็ โลกนี้คงจะหาผู้ชายแท้ ๆ ได้ยากเต็มที



และก่อนที่ปุณณ์กับคีตภัทรจะได้พูดอะไรกันไปมากกว่านี้ อาลีก็สะกิดเรียกทั้งสองเบา ๆ แล้วบุ้ยใบ้ไปตรงประตูทางเข้า พร้อมกับทำปากบอกว่า นายหัวมาแล้วครับ





น่ารักทำหน้าบึ้งอย่างไม่สบอารมณ์ใส่คนที่ฮัมเพลงเดินจูงมือเธออยู่ข้างหน้า วันนี้เธอกำลังนอนหลับสบายอยู่บนเตียงแท้ ๆ ก็ต้องตกใจกับเสียงเคาะประตูปัง ๆ เหมือนโลกจะถล่มของตาบ้ามหาโจรตรงหน้า ตอนแรกที่เดินมามองดูที่ช่องตาแมวเล็ก ๆ แล้วเห็นว่าเป็นเขา เธอก็กลับไปนอนต่อปิดหูไม่สนใจ คิดว่าเขาคงจะเลิกเคาะไปเองถ้าเห็นว่าไม่มีคนไปเปิดประตุให้ แต่ที่ไหนได้นอกจากจะไม่หยุดเคาะแล้ว มหาโจรคเชนทร์ยังตะโกนเรียกชื่อเธอเสียงดังลั่น จนเธอกลัวว่าแขกห้องข้าง ๆ จะลุกมาด่าแล้วเธอก็คงจะซวยไปด้วยเพราะตอนนั้นยังเพิ่งตีสี่กว่า ๆ



จากนั้นพอเธอลุกไปเปิดประตู ทำตาขวางใส่และกำลังจะบอกให้เขาเลิกยุ่งกับเธอเสียที มหาโจรคเชนทร์ก็พูดแทรกขึ้นมาก่อนจะดันเธอเข้าไปในห้องบังคับให้ล้างหน้า เปลี่ยนเสื้อผ้า ในเวลาสิบนาที จากนั้นเขาก็ลากเธอออกไปจากห้อง



‘ ผมอยากดูพระอาทิตย์ขึ้นน่ะ ไม่ได้ดูมานานแล้ว ไหน ๆเมื่อวานคุณก็เห็นพระอาทิตย์ตกลับขอบฟ้าริมชายทะเลแล้ว ก็ไม่ควรพลาดการชมพระอาทิตย์ขขึ้นยามเช้า ’



คำพูดของเขามันคงจะฟังดูดีและน่าสนใจ ถ้าออกมาจากปากเพื่อนหรือคนรู้ใจ แต่นี่เขาเป็นใครก็ไม่รู้นอกจากชื่อแล้วเธอก็ไม่ได้รรู้อะไรเกี่ยวกับเขาอีกเลย แล้วทำไมเขาถึงได้ทำยังกับว่าสนิทสนมมักคุ้นกับเธอเสียขนาดนั้น แล้วก็นี่อีก จับมือถือแขนถึงเนื้อถึงตัว ไม่ว่าเธอจะสลัดยังไงก็หนีไม่พ้นสักที



“เมื่อไหร่คุณจะปล่อยมือฉันวักทีคุณคเชนทร์ อย่ามาทำเป็นเหมือนเราสนิทสนมกันเหลือเกินได้ไหมคะ ฉันไม่ใช่เพื่อนเล่นคุณนะ” น่ารักขืนตัวหยุดเดินเมื่อเดินเข้ามาภายในล๊อปบี้ ใบหน้าหวานซึ้งเลยขึ้นพูดกับเขาจนคอแทบบจะตั้งฉากกับพื้น



“อะไรกัน ข้าวก็กินอิ่มแล้วนี่นาทำไมยังอารมณ์เสียอยู่อีก หรืออยากกินขนม เดี๋ยวขึ้นไปเก็บของก่อนแล้วผมจะพาไปกินขนมเจ้าอร่อย แล้วพาไปเที่ยวด้วย โอเคไหม” คเชนทร์มองใบหน้าเล็ก ๆ ที่หวานซึ้งราวเทพธิดาที่เงยขึ้นมามองและถลึงตาใส่เขาทันทีที่เขาพูดจบ



น่ารักตัวเล็กมากเมื่อเทียบกับเขา เธอสูงแค่อกเขาเท่านั้น ทั้งเล็กทั้งบางแบบที่ถ้าเขากอดแรง ๆ กระดูกเล็ก ๆ นั่นคงจะหักหลายท่อน มือก็เล็กเหมือนจับมือเด็กเล็ก ๆ เลยให้ตายสิ แต่ก็เพราะแบบนี้นั่นแหละ เพราะน่ารักให้ความรู้สึกเหมือนต้องการการปกป้องดูแล ทนุถนอม ทำให้เขาไม่อยากจะปล่อยมือเล็ก ๆ นี่ และไม่อยากจะละสายตาไปจากใบหน้าหวานซึ้งนี่สักวินาที



“กินเสร็จแล้ว เที่ยวเสร็จแล้ว...ไปอยู่กับผมที่เกาะนะ”



เมื่อจมอยู่กับความคิดก็เผลอหลุดออกมาเป็นคำพูดให้คนฟังสะดุ้ง น่ารักอึ้งกับคำพูดของคนที่เธอเรียกว่ามหาโจรในคราแรกที่ได้ยิน ก่อนจะเป็นเป็นความกลัวเมื่อคิดว่าคนตรงหน้าเธอน่าจะไม่ปกติเสียแล้ว มีที่ไหนกันอยู่ ๆ มาชวนไปอยู่ด้วย ใบหน้าหวานซึ้งแบะปากเหมือนจะร้องไห้ ยิ่งมองสบสายตาคู่คมปนหวานที่ทอประกายชวนให้หวั่นใจนั่นก็ยิ่งอยากจะสะบัดมือวิ่งหนีไปให้ห่าง หากแต่ความเป็นจริงเพียงแค่เธอทำท่าจะชักมือออกจากฝ่ามือของเขาเพียงนิด แรงบีบรอบข้อมือเธอก็เพิ่มมากขึ้นเสียแล้ว



“คะ คุณ...” น่ารักทำได้แต่เรียกชื่ออีกฝ่ายเสียงสั่น ๆ



“เลิฟ!! พี่เชนทร์!! “



ขณะที่น่ารักกำลังไม่รู้จะรับมือยังไงกับมหาโจรตัวโตเท่าตึกอย่างคเชนทร์ เสียงเรียกชื่อเธอและคนตรงหน้าที่ส่งสายตาหวานเชื่อมมาให้ก็ดังขึ้นมา และไม่กี่วินาทีหลังจากนั้นเมื่อเจ้าของชื่อทั้งสองหันไปตามทิศทางของเสียงก็พบว่ามีคนสามคนกำลังยืนมองมายังพวกเขาทั้งคู่อย่างตกตะลึง ไม่แน่ใจ โดยเพราะหญิงสาวผิวสีน้ำผึ้งนวลที่เป็นเจ้าของเสียงเรีก



คีตภัทรทำตาโตมองภาพตรงหน้าอย่างไม่อยากจะเชื่อ พี่ชายเธอ...กับเพื่อนรักของเธอ



สองคนนั้นไปรู้จักมักคุ้นถึงขนาดจับมือถือแขนกันแบบนั้นตั้งแต่เมื่อไหร่กัน เมื่อหายตกตะลึงคีตภัทรก็เดินแทบจะเป็นวิ่งเข้าไปหาพี่ชายกับเพื่อนรักทันที ตามด้วยปุณณ์ที่ยังมองหน้าคเชนทร์เพื่อนรักอย่างไม่เชื่อสายตา และอาลีที่ส่ายหัวเดินตามไปพลางคิดในใจ



ว่าแล้ว...ว่านายหัวต้องทิ้งอาลีหนีไปกับสาวหน้าหวานคนนี้





คีตภัทรนั่งจ้องหน้าเพื่อนรักและพี่ชายตาไม่กระพริบภายนห้องอาหารเล็ก ๆ ของทางโรงแรม หลังจากที่วิ่งเข้าไปหาแล้วซักถามคำถามไปเป็นชุด จนคเชนทร์ที่เพิ่งจะรู้ว่นางฟ้าหน้าตุ๊กตาของเขาแท้จริงแล้วเป็นเพื่อนรักของน้องสาวคนเดียวของเขาเอง ได้เอ่ยชวนให้ทั้งหมดมานั่งคุยกันที่ห้องอาหารเล็ก ๆ ที่ตอนนี้มีลูกค้าเพียงแค่โต๊ะที่พวกเขานั่งเท่านั้น ส่วนน่ารักก็ยิ่งหน้าบึ้งไม่พอใจมหาโจรคเชนทร์เพิ่มมากขึ้นเป็นอีกเท่าตัว เมื่อรู้ว่าเขาคือคนเดียวกับตาแก่พี่ชายของเพื่อนรักที่เคยพูดแทรกเข้ามาตอนที่เธอคุยโทรศัพย์กับคีตภัทรว่า ไม่อนุญาติให้เธอไปพักผ่อนที่เกาะยาตรา เกาะส่วนตัวของเขา



‘ ไม่ต้องถามให้เสียเวลายัยภัทร เพราะพี่ไม่อนุญาติ เกาะส่วนตัวของอัคราไม่ใช่ที่ที่จะให้คนนอกเข้ามาพักผ่อนนอนเล่นได้ตามใจ ’



เสียงเข้มที่ดังแทรกเข้ามาให้ได้ยินเมื่อครั้งนั้น ทำให้น่ารักสาบานในใจว่าจะไม่ญาติดีกับพี่ชายของเพื่อนรักคนนั้นแน่ ๆ ผู้ชายขี้งก หลงตัวเอง คีตภัทรเคยบอกว่านายหัวคเชนทร์พี่ชายของเธอไม่ชอบให้ผู้หญิงที่นอกจากนายแม่มารดาของเขาและคีตภัทรผู้เป็นน้องสาวและเหล่าคนงานที่ทำงานประจำอยู่ที่นั่น เข้าไปวุ่นวายที่เกาะ เพราะเขาคิดว่าผู้หญิงเหล่านั้นมักจะหาเรื่องเข้าใกล้ชิดเขา



หลงตัวเองที่สุด หน้าอย่างมหาโจรอย่างนี้จะมีผู้หญิงที่ไหนบ้าไปตามตื้อตามจับอย่างที่ยัยภัทรว่ากัน



น่ารักต่อว่าในใจพลางส่งสายตาเชือเฉือดไปให้ หากอีกฝ่ายกลับส่งยิ้มมุมปากและสายตาหวานเชื่อมตอบกลับ จนคนที่เหลืออีกสามคนอย่างคีตภัทร ปุณณ์ และอาลี หันไปมองสบตากันอย่างไม่ได้นัดหมายกับอาการแปลก ๆ ของนายหัวเจ้าของเกาะยาตรา



“เลิกจ้องตากันสักพัก แล้วเล่าให้ภัทรรู้หน่อยได้ไหมว่าทั้งสองคนไปรู้จักกันอะไรยังไง ตั้งแต่เมื่อไหร่”



คีตภัทรไม่ได้เจาะจงว่าให้ใครเป็นคนตอบ แต่คเชนทร์ก็ทำหน้าที่สุภาพบุรษเป็นคนตอบคำถามทั้งหมดของน้องสาวเอง



“รู้จักกันเมื่อสองวันก่อน พี่กับน่ารักเรานอนด้วยกันบนรถทัวร์ คือพี่หมายถึงนอนอยู่เบาะข้าง ๆ กันระหว่างนั่งรถทัวร์มาที่กระบี่นี่น่ะ”



คนฟังทั้งสี่หันขวับไปจ้องหน้านายหัวแห่งเกาะยาตราทันทีด้วยความรู้สึกแตกต่างกัน น่ารักเบิกตากว้างกับคำตอบของเขา ปากจิ้มลิ้มนั้นอ้าพะงาบ ๆ อยากจะเถียงอยากจะต่อว่า หากกลับไม่มีคำพูดใดใดเล็กรอดออกมา ส่วนอีกสามคนที่เหลือก็แทบจะเอื้อมมือไปหยิกแขนกันเอง...อาการแบบนี้มันเคยมีที่ไหนกัน สงสัยนายหัวมาดเข้มแห่งเกาะยาตราจะสะดุดรักกับสาวนหน้าหวานปานนางฟ้าที่ชื่อน่ารักนี่เสียแล้วกระมัง



“ก็เท่านี้แหละไม่มีอะไรมาก แต่พี่ก็เพิ่งรู้ว่าน่ารักกับภัทรเป็นเพื่อนกัน งั้นที่ภัทรบอกว่าจะมีเพื่อนไปพักผ่อนที่บ้านพี่ที่เกาะก็คือน่ารักใช่ไหม” เอ่ยถามน้องสาวจากนั้นก็ไม่รอฟังคำตอบหากแต่กลับหันไปพูดกับร่างบางที่นั่งข้าง ๆ แทน “ผมให้คนจัดห้องให้คุณแล้วล่ะ ถ้ายังไงก็ไปพร้อมกันเย็นนี้เลยแล้วกัน”



“ไม่ล่ะค่ะ ภัทรเปลี่ยนใจแล้ว” คีตภัทรพูดแทรกขึ้นเสียก่อน “ภัทรว่าจะให้เลิฟมาพักด้วยกันที่บ้านดีกว่า นายแม่ก็อยากเจอเลิฟด้วย ท่านคิดถึงไม่ได้เจอเลิฟมาสองปีได้แล้วเนอะเลิฟ ตั้งแต่ตอนรับปริญญาคราวนั้น” หันไปถามเพื่อนรัก ก็ได้รับการพยักหน้าเป็นการตอบรับ



คีตภัทรแอบลอบยิ้มในใจเมื่อเห็นสีหน้าของพี่ชาย ก็ทีตอนแรกคนเขาจะจับคู่ให้ เชียร์แล้วเชียร์อีก ทำมาปฏิเสธหัวชนฝา ไม่แม้จะยอมดูรูปถ่ายของเพื่อนรักของเธอ และนอกจากปฏิเสธแล้วก็ยังมาพูดจาไม่รักษาหน้าเธออีก ทำมาบอกว่าจัดเตรียมห้องไว้ให้แล้ว ทั้ง ๆ ที่คราวก่อนใครกันที่พูดห้ามเด็ดขาดว่าไม่ให้เธอพาน่ารักไปพักที่เกาะยาตรา จนเธอต้องให้มารดาเป็นคนพูดขอร้องพี่ชายเธอถึงได้ยอม แต่ถึงอย่างนั้นเธอก็เชื่อแน่ว่าพี่ชายเธอไม่มีทางจะสั่งให้คนเตรียมที่พักและยังจะเลื่อนวันเก็บรังนกอย่างที่บอกแน่



ปฏิเสธอยู่ดี ๆ ตอนนี้มาทำเป็นฝ่ายอยากจะจับสาวเจ้าเสียเอง เรื่องอะไรจะให้สมหวังง่าย ๆ ข้อหาที่ทำให้น้องสาวอย่างเธอหมั่นไส้ก็คงต้องเจอการกลั่นแกล้งหน่อยล่ะ



“เอาอย่างนั้นก็ดีเหมือนกันภัทร ตอนนี้เลิฟก็ว่าจะเปลี่ยนแผนเหมือนกัน เดี๋ยวไปไหวนายแม่ของภัทร แล้วอยู่พักกับภัทรสักวันสองวัน แล้วค่อยลองหาเกาะอื่น ๆ ดู เอาที่ที่เขาอนุญาติและเต็มใจน่ะ”



น่ารักบอกกำหนดการใหม่ที่เพิ่งคิดขึ้นสด ๆ ในเพื่อนรัก พร้อมกับแอบเหน็บใครบางคนไปด้วย หลังจากรู้ว่ามหาโจรที่มีทีท่าคุกคามเธอกับนายหัวเจ้าของเกาะยาตราที่เธออยากจะไปเห็นนักหนาเป็นคนเดียวกัน เดิมทีที่เธออยากจะไปพักผ่อนที่เกาะยาตรานอกจากเหตุผลที่ตอนนี้สมองฝ่อคิดงานไม่ออกแล้ว เธอก็อยากจะไปเห็นวิธีการเก็บและทำรังนกจริง ๆ สักครั้ง และเกาะยาตราของนายหัวคเชนทร์ก็เป็นเกาะที่ทำสัปทานรังนกรายใหญ่ที่สุดของภาคใต้ แต่มาตอนนี้ถ้าเทียบกับความอยากรู้อยากเห็นกับภัยคุกคามที่เป็นอันตรายก่อร่างกายและหัวใจแล้วล่ะก็ เห็นทีเธอคงต้องเลือกเอาความปลอดภัยของชีวิตไว้ก่อนนั่นล่ะ



คเชนทร์หลี่ตามองใบหน้าด้านข้างของคนที่กำลังพูดและทำท่าไม่อยากจะไปอยู่ที่เกาะของเขาอย่างครุ่นคิด ถ้ารู้ว่าจะเกิดอาการติดใจอยากได้สาวหน้าหวานเพื่อนน้องสาวคนนี้ทันทีที่เห็นหน้าล่ะก็ วันนั้นเขาจะไม่พูดแบบนั้นให้เธอได้ยินอย่างเด็ดขาด แต่ก็ได้แค่คิดเพราะเหตุการณ์มันผ่านมาแล้ว ไม่สามารถแก้ไขอะไรได้อีก



นอกจากคิดแผนใหม่ วิธีใหม่...



“คุณจะเปลี่ยนใจปุ๊บปั๊บทั้ง ๆ ที่ผมให้คนจัดเตรียมอะไรไว้ให้คุณหมดแล้วอย่างนั้นเหรอ รู้มั๊ยว่าผมเลื่อนวันเก็บรังนกครั้งล่าสุดออกไปเพราะคุณนะ เห็นภัทรบอกว่าคุณอยากจะเห็น ผมก็ยอมเสี่ยงเสียรายได้เพื่อคุณเลยนะ...น่ารัก” พูดเสร็จก็หันไปตวัดสายตาใส่อาลีที่ทำท่าจะแย้งขึ้น



ตาคมราวมีดโกนที่ไร้แววหวานไม่เหมือนทุกครั้งที่มองสาวหน้าหวานข้าง ๆ ทำให้อาลีส่งยิ้มแห้ง ๆ แล้วก้มหน้ามองมือตัวเองแทน...เอาวะนายหัวว่ายังไงอาลีก็ว่าอย่างนั้นแหละครับ



“เอางี้เถอะ ตอนนี้กลับบ้านกันก่อนดีกว่า ป่านนี้นายแม่รอแล้วล่ะ ส่วนเรื่องที่น้องเลิฟจะไปพักที่เกาะกับเจ้าเชนทร์หรือไปหาที่พักที่อื่น ยังไงค่อยตัดสินใจอีกทีแล้วกันนะครับ...หรือภัทรว่าไงคะ” ปุณณ์ที่นั่งเงียบเป็นผู้ฟังอย่างเดียวมาตลอดเอ่ยขึ้น เมื่อเห็นน่ารักหันไปมองหน้าคนพูดที คีตภัทรที อย่างที่ไม่รู้จะตอบหรือทำยังไงดี ก่อนจะหันไปถามความเห็นกับคีตภัทรที่นั่งข้าง ๆ



“ค่ะ เอาตามที่พี่ปุณณ์พูดก็ดีค่ะ ไปเถอะเลิฟนายแม่ทำแกงไตปลาที่เลิฟชอบกินไว้ให้ด้วยนะ” เมื่อเห็นว่าถ้าให้พูดกันต่อไปก็คงจะไม่จบง่าย ๆ เพราะดูท่าแล้วพี่ชายเธอคงจะหาทางพาเพื่อนรักของเธอกลับไปที่เกาะยาตราด้วยแน่ ก็ดูสิคนอยุ่กันเต็มโต๊ะยังจะหันไปจ้องหน้าน่ารักตาเชื่อมเสียขนาดนั้น อยากจะถ่ายรูปถ่ายวีดีโอไปให้นายแม่ดูจริง ๆ



เมื่อตกลงกันได้แล้วน่ารักก็ขึ้นไปเก็บข้าวของโดยมีคีตภัทรขึ้นไปด้วย ส่วนคเชนทร์อยู่คุยต่อกับปุณณ์เพราะถุกปุณณ์เรียกไว้เมื่อเขาทำท่าจะเดินตามติดน่างฟ้าหน้าตุ๊กตาของตนเองไป ปล่อยให้อาลีเป็นคนไปจัดการทุกอย่างแทน



....................................................................................





++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++



ลัลลดา
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 5 ต.ค. 2554, 14:02:07 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 5 ต.ค. 2554, 14:02:07 น.

จำนวนการเข้าชม : 2235





<< ตอนที่ 4..อาการหนัก..(100%)   ตอนที่ 5..เกาะยาตรา....(100%) >>
anOO 5 ต.ค. 2554, 14:50:17 น.
ดีจังที่ไรเตอร์เห็น นึกว่าจะได้ตอนนี้วันหลังซะแล้ว


ann 5 ต.ค. 2554, 17:47:52 น.
เม้นกันไม่ถูกเลยทีเดียว ลงเยอะได้ใจมากค่า


nutcha 5 ต.ค. 2554, 20:02:49 น.
แล้วน่ารักจะหนีนายหัวพ้นเหรอ ตามติดซะขนาดนี้


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account