สเน่หานางรำ
เธอทำให้เขาร้อน...อยากได้อยากครอบครอง แค่เห็นเธอร่ายรำ นิโคไล กาซิยาส ก็ปราถนาจินตนาการไปว่าถ้าได้นางรำแสนสวยคนนั้นมามาร่ายรำบิดเร้าอยู่ใต้ร่างเขามันจะวิเศษแค่ไหน
(เรื่องนี้มีแค่ความเร้าร้อน....ร้อน...และร้อน เพราะฉะนั้น 20++ ฮับ) >___< (รอตีพิมพ์กับ สนพ.สื่อวรรณกรรม ค่ะ)
Tags: ผู้แต่งยังไม่ได้กำหนด tags ของนิยายเรื่องนี้

ตอน: ตอนที่ 4 (50% แรก)


บทที่ 4







ร่างบางที่นั่งเหม่อมองไปไร้จุดหมายระหว่างที่นั่งทานอาหารเช้ากันสองคนพ่อลูกที่แคร่ใต้ถุนบ้าน ที่อยู่บริเวณด้านหลังของร้านขันโตกคนึงนิจ ที่ในตอนนี้ต้องปิดให้บริการไม่มีกำหนดเนื่องจากเหตุเพลิงไหม้เมื่อสี่วันก่อน



ทำให้คนเป็นพ่อที่เอ่ยถามคำถามไปก่อนหน้านี้เงยหน้าจากสำหรับตรงหน้าขึ้นมองใบหน้าหวานของลูกสาว หนานคำย่นคิ้วเข้าหากันเมื่อเห็นท่าทางของลุกสาวคนเดียว ก่อนจะเอ่ยถามอย่างห่วงใย







“ เป็นอะไรไปลูกน้ำค้าง คิดเรื่องร้านอยู่หรือ อย่าไปคิดถึงมันเลยลูก มันคงเป็นกรรมของเรา ถึงไม่มีร้านเราก็หากินทางอื่นได้นะลูก ”







“แต่พ่อรักร้านของเรามากไม่ใช่เหรอจ๊ะ น้ำค้างจะหาเงินมาซ่อมแซมร้านของเราและเปิดบริการต่อไปให้ได้”







เธอเองก็รักร้านขันโตกคนึงนิจที่บิดาตั้งตามชื่อของเธอเองมากพอ ๆ กับบิดา เธอรู้ว่าตั้งแต่เกิดเรื่องมาบิดาเศร้าซึมไปมาก แม้จะปลอบและให้กำลังเธอ หากแต่ในยามที่ท่านคิดว่าไม่มีใครเห็น บิดาของเธอมักจะเข้าไปยืนมองและสัมผัสสิ่งก่อสร้างที่หักพังพร้อมกับน้ำตาที่ซึมออกมา







ร้านขันโตกคนึงนิจก่อตั้งขึ้นมาด้วยน้ำพักน้ำแรกของบิดาและมารดาผู้ล่วงลับไปของเธอตั้งแต่ตอนที่เธออายุได้เพียงสามขวบ จนถึงเวลานี้เธออายุยี่สิบห้า รวมเวลาก็ผ่านมายี่สิบสองปีแล้ว แม้จะไม่ใช้ร้านใหญ่โตและมีชื่อเสียงมากนักหากเทียบกับร้านอาหารพื้นเมืองใหญ่ ๆ ของจังหวัด หากแต่ก็พอเลี้ยงชีวิตได้ และก็เป็นรายได้หลักของครอบครัว







“จะไม่หาเงินมากมายขนาดนั้นมาจากไหนกันน้ำค้าง แล้วตอนนี้มันหามันก็ไม่ใช่แค่เงินที่จะเอามาซ่อมบำรุงเท่านั้นหนูก็รู้ พ่อปลงแล้วล่ะลูก ยังไงเสียคงต้องยอมให้ทางธนาคารเขายึดที่ดินรวมถึงบ้านหลังนี้ไป”







เนื่องจากเมื่อสองปีก่อนเขาได้นำโฉนดที่ดินรวมถึงร้านและบ้านไปจำนองกับธนาคาร เพื่อนำเงินมาปรับปรุงร้านเดิมที่เก่าทรุดโทรม โดยผ่อนจ่ายให้กับธนาคารเป็นงวด ๆ และก็ค้างอีกแค่สองงวดเท่านั้น ปกติทางธนาคารเองก็เห็นใจยอมให้ผ่อนผันได้ หากแต่เมื่ออาทิตย์ก่อนเขาเข้าไปทำเรื่องผ่อนผันตามปกติแต่ทางเจ้าหน้าที่กลับไม่ยอมทำเรื่องให้ ซ้ำยังระบุเส้นตายมาให้อีก แล้วตอนนี้เมื่อกิจการต้องหยุดชะงัก เขาจะหาเงินจากที่ไหนไปจ่ายตามกำหนด ถึงจะยังพอมีเงินเก็บและคนึงนิจทำงานเสริมเป็นไกด์นำเที่ยว หากแต่มันก็ไม่ได้มากพอที่จะไถ่ถอนบ้านและที่ดินคืน







“แต่หนูไม่ต้องห่วงนะน้ำค้าง เงินเก็บส่วนหนึ่งที่เรามีคงพอที่จะหาบ้านเช่าเล็ก ๆ อยู่กันได้” แม้จะบอกลูกสาวอย่างนั้น แต่ดวงตาของคนเป็นพ่อกับคลอไปด้วยน้ำตา







คนึงนิจเอื้อมมือไปกุมมือบิดา ดวงตาร้อนผ่าวแทบจะกลั้นน้ำตาเอาไว้ไม่อยู่ที่เห็นบิดาบังเกิดเกล้าเสียใจ ทำให้ตัดสินใจที่จะทำบางสิ่งบางอย่างที่เป็นโอกาสเดียวที่จะเรียกความสุขกลับคืนสู่ใบหน้าใจดีของบิดาได้







“น้ำค้างสัญญาค่ะพ่อว่าเราจะมีเงินมาซ่อมแซมร้าน รวมถึงมีเงินมาไถ่บ้านกับร้านคืนด้วย” เสียงหวานบอกบิดาอย่างหนักแน่น







“หนูจะทำยังไงน้ำค้าง แล้ว...อ้าว พ่อหนุ่ม วันนี้นึกว่าไม่มาเสียแล้ว เลยไม่ได้รอกินข้าว” หนานคำยังถามไม่ทันจะจบ ก็ต้องเปลี่ยนเป็นเอ่ยทัก แขกประจำ ทันทีที่เหลือบเห็นร่างสูงใหญ่เดินเข้ามาในบริเวณบ้าน







“สวัสดีครับ” พูดภาษาอังกฤษหากกลับยกมือขึ้นไหว้ เรียกสายตาเอ็นดูจากหนานคำได้เป็นอย่างดี “สวัสดีครับน้ำ” นิโคไลหันไปทักร่างบางที่นั่งนิ่งหลบสายตาเขา







“มาสิมากินข้าวเช้าด้วยกัน ขยับให้คุณเขานั่งด้วยกันสิน้ำค้าง ”







บอกด้วยประโยคภาษาอังกฤษช้า ๆ เพราะคนพูดไม่ค่อยถนัดนักกับร่างสูงที่แวะเวียนมาเป็นแขกประจำบ้านทุกวันในช่วงสามสี่วันที่ผ่านมา ก่อนจะหันไปเอ่ยกับบุตรสาว หนานคำรู้สึกชอบพอน้ำใจและอัธยาศัยของหนุ่มต่างชายหน้าตาหล่อเหลาคนนี้เป็นอย่างมาก ชายสูงวัยที่ผ่านประสบการณ์ชีวิตมามากดูออกว่าแขกพิเศษที่พ่วงตำแหน่งผู้มีพระคุณของเขาคนนี้นั้นคิดยังไงกับบุตรสาวของตนเอง เขาจึงไม่คิดจะขัดขวางซ้ำยังคอยเปิดโอกาสและให้การสนับสนุนอีก







“ไม่เป็นไรครับ วันนี้มาสายผมเลยกินมาแล้ว” ปฏิเสธด้วยรอยยิ้ม พลางทรุดนั่งบนแครใกล้ ๆ ร่างบาง ก่อนจะพูดกับชายสูงวัยอีกครั้ง“วันนี้ผมอยากจะขออนุญาติชวนน้ำไปข้างนอนด้วยกันสักหน่อยน่ะครับ ผมอยากซื้อของสักหน่อยแต่ไม่รู้จะไปที่ไหนดี”







“ตามสบายเถอะพ่อหนุ่ม” หนานคำเอ่ยอนุญาติโดยแทบจะไม่ใช่เวลาคิด ก่อนจะหันไปเอ่ยกับบุตรสาว “ไปเป็นเพื่อนคุณเขาหน่อยนะน้ำค้าง ถือว่าตอบแทนบุญคุณแกที่ช่วยชีวิตพ่อ วันนี้พ่อก็ว่าจะเข้าไปหาท่านพระครู่ที่วัดสักหน่อย อยากไปนั่งสมาธิแผ่เมตตาให้เจ้ากรรมนายเวร แล้วบ่าย ๆ ก็มีนัดกับทางตำรวจเรื่องไฟไหม้ร้านเรานั่นแหละ”







“จ๊ะะพ่อ” คนึงนิจรับคำเบา ๆ ก็ดีเหมือนกันวันนี้เธอก็มีเรื่องที่จะคุยกับเขาอยู่พอดี







++++++++++







เกือบครึ่งชั่วโมงหลังจากนั้น คนึงนิจก็ถูกลากลงจากรถ ถูกมือหนาทั้งฉุดทั้งดึงให้เข้าไปในโรงแรมหรูกลางเมื่อเชียงใหม่ ท่ามกลางเสียงเหวลั่นและการดิ้นรนของหญิงสาว







“ไหนคุณว่าจะไปซื้อของไง แล้วพาฉันมาที่นี่ทำไม!! ” คนึงนิงตวาดเสียงใส่ พร้อมกับถอยร่นจนชิดประตูลิฟท์ เมื่อถูกลากเข้ามาอยู่ในลิฟท์ของโรงแรมใหญ่







“ก็เดี๋ยวค่อยไปซื้อ ห้างอยู่ติดกันแค่นี้เอง” เขาตอบกลับด้วยรอยยิ้มในหน้า







นิโคไลก้าวเข้าไปแนบชิด รวบร่างบางชิดอกด้วยมือเดียว ประจวบกับประตูลิฟท์เปิดออกเมื่อถึงชั้นที่ต้องการพอดี แขนแข็งแรงจึงตวัดอุ้มร่างบางที่ทั้งดิ้นทั้งทุบเดินอย่างรวดเร็วตรงไปที่ห้องสวีตที่เขามาเปิดเอาไว้ตั้งแต่ก่อนจะไปหาเธอที่บ้าน







ร่างบางของคนึงนิจถูกโยนลงกลางเตียงกว้าง ตามด้วยร่างสูงที่ทาบทับคร่อมแขนกักขังหญิงสาวไว้ คนึงนิจหันหน้าหนีทันทีที่ใบหน้าคมโน้มเข้ามาใกล้ ทำให้นิโคไลยิ้มอย่างอารมณ์ดี ก่อนจะเปลี่ยนเป้าหมายจากริมฝีปากเป็นขบเม้มติ่งหหูขาวสะอาดแทน







“จะใจแข็งไปถึงไหนกันฮึ ใจอ่อนกับผมสักทีเถอะที่รัก” เสียงทุ้มตามปกติเริ่มปนด้วยเสียงหอบจากแรงอารมณ์ ยิ่งทาบทับเบียดชิดกันอยู่อย่างนี้ อารมณ์ของนิโคไลก็พุ่งสูงจนหน้าตาแดงก่ำไปหมด







“ว่าไงครับ อยู่กับผมคุณจะเป็นเหมือนเจ้าหญิง ผมจะให้คุณทุกอย่าง คุณพ่อคุณกำลังลำบากไม่ใช่หรือ” นิโคไลยังคงเกลี่ยกล่อมอย่างใจเย็นแม้ร่างกายจะลุกเป็นไฟแล้วก็ตาม เขายังคงหว่านล้อมหญิงสาวด้วยคำพูดและเหตุผลเดิม ๆ ที่พร่ำพูดจาต่อรองมาตลอดเกือบสองอาทิตย์ที่ผ่านมา จนตอนนี้เขาชักจะทนใจเย็นอีกไม่ไหวแล้ว







“งั้นก็ทำให้เสร็จเรียบร้อยก่อนสิ แล้วฉันจะยอม” คำตอบของคนึงนิจให้ครั้งนี้แตกต่างจากทุก ๆ ครั้งจนทำให้นิโคไลที่กำลังซุกไซ้อยู่กับซอกคอหอมกรุ่นเงยหน้าขึ้นมองอย่างแปลกใจ







“คุณ...พูดจริงใช่ไหม” นิโคไลรู้สึกว่าหัวใจเขากำลังเต้นระรัวขณะรอฟังคำตอบ







“จริง ฉันจะยอมเป็นนางบำเรอให้คุณตามข้อเสนอ ถ้าคุณทำให้ร้านของพ่อฉันกลับมาเหมือนเดิม และไถ่บ้านและร้านจากธนาคารมาให้ฉันได้” ตอบเสียงเรียบหากภายในใจกลับรู้สึกอดสู่ที่ต้องมาขายเรือนร่างแลกเงิน คนึงนิจได้แต่ปลอบใจตัวเองว่าทำเพื่อบิดา เพื่อความสุขของคนที่เธอรัก







“จุ๊ ๆ อย่าพูดอย่างนั้นสิ นางบำเรอที่ไหน คิดเสียว่าเราทดลองคบกันสิ” เขาแก้คำพูดให้ เพราะเขาก็ไม่เคยคิดจะดูถูกเธอแบบนั้นอยู่แล้ว มันอาจจะถูกที่เขาอยากได้เธอจนต้องยื่นข้อเสนอแลกด้วยเงินตรา หากแต่ลึก ๆ แล้วนิโคไลรู้ดีว่าเขากำลังรู้สึกกับผู้หญิงตรงหน้ามากกว่านั้น







“แล้วเรื่องร้านอาหารของพ่อคุณ มันจะไม่เหมือนเดินแต่ผมจะทำให้มันดีและยิ่งใหญ่กว่าเดิม รวมถึงเรื่องบ้านและที่ดินด้วย แต่ตอนนี้ที่ทำไม่ได้คือ...” เขาลากเสียงยาวพลางจุบพิตริมฝีปากอิ่มเบา ๆ ก่อนจะพูดต่อ “...เรื่องที่บอกว่าจะยอมจนกว่าเรื่องทั้งหมดจะเรียบร้อย...ไม่ไหวจริง ๆ ครับที่รัก ผมคิดถึงอยากจะกอดอยากจะรักคุณจนจะลงแดงตายอยู่แล้ว ที่ทนมาได้โดยไม่จับคุณโยนขึ้นเตียงมาตลอดสองอาทิตย์นี่ก็ดีแค่ไหนแล้ว ที่สำคัญตอนนี้ที่นอนก็กำลังจะลุกเป็นไฟ ขืนให้รออีกต่อไปเพียงนิด ผมคงขาดใจตายคาอกคุณนี่แหละ...” บอกจบก็ก้มหน้าลงหาเป้าหมาย







“ยะ อย่านะ คุณต้องทำเรื่องทั้งหมดให้เรียบร้อยก่อน” คนึงนิจร้องห้ามสั่น ๆ พลางใช้มือดันใบหน้าเขาที่กำลังจะซุกลงกับอกอิ่มของตนเอาไว้







“น่า แป๊บเดียว ขอกินคุณก่อน ผมรับรองว่าครั้งนี้มันจะวิเศษกว่าครั้งแรกเป็นร้อยเท่า...” นิโคไลตัดใจจากเป้าหมายแรกเมื่อเห็นว่าคงต้องใช้เวลาอีกนานหากเขายังปล่อยให้ปากอิ่มนั่นเจือแจ้วร้องห้ามอยู่อย่างนี้







“มะ ไม่ ฉันยังไม่พร้อม ได้โปรด” แม้จะคิดตัดสินใจแล้ว แต่จะให้ปุ๊บปั๊บคนึงนิจก็รู้สึกหวาดหวั่น เพราะประสบการณ์ครั้งแรกที่เจ็บปวดยังคอยหลอกหลอนอยู่ทุกครา







“เดี๋ยวก็พร้อม...ผมจะทำให้คุณพร้อมยิ่งกว่าพร้อมคนสวย”







นิดโคไลไม่ปล่อยเวลาให้ผ่านเลยอีกต่อไป ริมฝีปากร้อนจึงเปลี่ยนเป้าหมายเป็นฉกวูบเข้าหาริมฝีปากอิ่ม ขบเม้มเลาะเลมด้วยประสบการณ์ที่เหนือกว่า และไม่นานริมฝีปากอิ่มก็เปิดทางให้เรียวลิ้นร้อนได้เข้าไปความหาความหวานอย่างเต็มใจ ฝ่ามือร้อนเล้าโลมอีกทางเพื่อมอมเมาให้ร่างบางไร้เรี่ยวแรงขัดขืนอีกต่อไป ดังนั้นเมื่อคนึงนิจรู้ตัวอีกทีก็เมื่อรู้สึกถึงบางสิ่งบางอย่างที่แข็งแกร่งคล้ายเหล็กแหลมคมลุกล้ำเข้ามาในกาย หญิงสาวเกร็งตัวรับความเจ็บปวดที่คาดว่าคงจะเป็นเหมือนครั้งแรกที่พบเจอ หากแต่มันกลับไม่เป็นเช่นนั้น เพราะนิโคไลเคลื่อนไหวอย่างอ่อนโยนที่สุด แล้วคนึงนิจก็รู้สึกเหมือนมีพายุลูกใหญ่กำลังหมุนวนอยู่ในช่องท้องเมื่อเขาเริ่มขยับกายเนินนาบเชื่องช้า และเร็วขึ้น ๆ







“...มันดีกว่าเดิมใช่ไหม...หืมส์...”







นิโคไลถามเสียงพร่าขณะเลื่อนกายหนักหน่วงขึ้นเรื่อย ๆ ตาคู่คมสีดำสนิทดั่งรัตติกาลจ้องมองใบหน้างามซึ้งที่แดงก่ำด้วยแรงอารมณ์ คนึงนิจดูสวยงามจริง ๆ ยามที่อยู่ใต้ร่างเขาแบบนี้ นิโคไลคำรามลั่นเมื่อภาพใบหน้างามและเสียงร้องครวญครางของเธอเร่งรัดให้เขาใกล้จะแตกดับเข้าไปทุกที











“คุณกำลังจะฆ่าผมที่รัก...ผมกำลังจะตายแล้วจริง ๆ ” เขาพูดเสียงหอบชิดริมฝีปากบาง เมื่อฝืนยื้อไว้อีกต่อไปไม่ไหว สายตาก็ไม่ละไปจากให้หน้างามซึ้ง เสียงครวญครางแทบจะขาดใจสอดประสานไปกับเสียงคำรามของเขา พร้อมกับขยับกายตอบรับอย่างเร้าร้อนอย่างลืมอายเพราะแรงอารมณ์ที่ถูกเขาโหมกระพือ











“คุณกำลังทำให้ผมเสพติดคุณเหมือนติดยา” นิโคไลพูดขึ้นหลังจากกลับมาหายใจในจังหวะปกติ พลางพลิกกายลงนอนเคียงข้างร่างบาง วาดมือโอบกอดเอวคอดกิ่วให้แนบชิด ลากไล้ปลายนิ้วไปตามสีข้าง “...แล้วคุณล่ะน้ำ ผมทำให้คุณรู้สึกแบบเดียวกันหรือเปล่า หืมส์”







คนึงนิจไม่ตอบได้แต่ก้มหน้างุด และจับมือเขาไว้ให้อยู่นิ่งหยุดสร้างความหวาบหวิวให้ร่างกายเธอเท่านั้น จะให้เธอบอกว่าเธอเองก็รู้สึกไม่ต่างไปจากเขาน่ะหรือ มันน่าอายเกินไป หญิงสาวคิดอย่างขัดเขิน







“ไม่ตอบแสดงว่าไม่ดี งั้นผมคงต้องทำใหม่อีกหลาย ๆ ครั้ง” ไม่พูดเปล่า ฝ่ามือที่อ้อยอิ่งอยู่บริเวณหน้าท้องแบนราบ เลื่อนลงต่ำอย่างไม่บอกกล่าว







“พะ พอแล้ว ไม่เอาแล้วนะ...อื้อ...” เสียงห้ามเปลี่ยนเป็นเสียงครางอย่างรัญจวน ยามปลายนิ้วแกร่งหมุนวนรอบจุดอ่อนไหว







“แต่ร่างกายคุณไม่เห็นจะพอเหมือนอย่างที่พูดเลยนี่นา” เขาพิสูจน์โดยการแทรกเรียวนิ้วแกร่งเข้าหา และไม่คิดจะปล่อยโอกาสให้เธอจะร้องห้าม เพราะเขาเปลี่ยนเสียงห้ามเป็นเสียงครวญครางระงม และคำพูดอ้อนวอน ร้องขอให้เขาเติมเต็ม







และนิโคไลก็ยินดีและเต็มใจอย่างที่สุด ที่จะปรนเปรอและเติมเต็มนำพาหญิงสาวเกาะเกี่ยวเข้าหาแสงดาวนับหมื่นนับแสน ที่ทอประกายระยิบระยับรออยู่ตรงปลายฟ้า







++++++++++

7/10/2011



อีกละนายนิคคิดได้แต่เรื่องเดียวจริง ๆ (หรือจะโทษคนแต่ง ฮ่า ๆๆ)

ใครชอบหวาน ๆ ตามได้ที่นายหัวคเชนทร์เน้อ >___<



ลัลลดา
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 7 ต.ค. 2554, 14:40:55 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 7 ต.ค. 2554, 14:41:20 น.

จำนวนการเข้าชม : 2037





<< ตอนที่ 3 (50% หลัง)   ตอนที่ 4 (50% หลัง) >>
หมูอ้วน 7 ต.ค. 2554, 14:50:33 น.
นายนิค หื่นจริง ๆ ด้วยค่ะ


anOO 7 ต.ค. 2554, 15:35:56 น.
คิดแต่เรื่องนี้เรื่องเดียวเลยนะ นายนิค


ann 7 ต.ค. 2554, 19:24:34 น.
พระเอกเรื่องนี้ห่ืนจริงๆแหละค่ะ อิอิ


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account