ละอองรัก

Tags: ละอองรัก

ตอน: ตอนที่ 2

มือใหม่หัดแต่งนิยาย ฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะคะ ^ ^


......................................................................................................



หลังจากที่ขลุกอยู่ในบ้านพักอยู่ทั้งวัน เพื่อดูความเรียบร้อยของห้อง และอุปกรณ์วาดรูปที่พกมาด้วย กว่าจะได้เวลาออกสำรวจรอบๆบริเวณที่พักก็บ่ายคล้อยเต็มที่ เรือนรับแขกทรงไทยลานนาหลังเล็กทำหน้าที่รับรองแขกที่มาติดต่อ ส่วนชั้นบนเป็นที่อยู่ของเจ้าของเรือนภูคาแห่งนี้ไปด้วยในตัว


ส่วนบ้านพักแขกนั้น จัดเป็นสัดส่วนถัดเข้ามาอีกด้านใน โดยมีอุนากันหรือเข็มขาวพุ่มหนาออกดอกสีน้ำนมแทนรั้ว ทำหน้าที่กั้นบิริเวณเรือนพักทั้งหกหลังออกจากันแต่ละเรือนมีชื่อแตกต่างกันออกไป


เรือนที่หญิงสาวพักนั้นชื่อเรือนภูเพียง และส่วนที่ตื่นตาตื่นใจที่สุดคงจะเป็นระเบียงยาวขนาบริมน้ำสำหรับนั่งพักผ่อนหย่อนใจ มองเงาเมฆผาดผ่านทิวเขาอีกฝากฝั่ง ของลำน้ำใสไหลระเรือยสะท้อนแสงอาทิตย์


“หนูอยากให้แม่มาที่นี่จังเลยค่ะ สงบ สวย อากาศก็ดีอีกด้วย"หญิงสาวเดินชมบบรรยากาศริมน้ำ พร้อมถือโอกาสโทรรายงานมารดา

“ถ้าแม่ไปแล้วใครจะอยู่เป็นเพื่อนพี่เด่นละลูก "
พี่เด่นหมาพันธุ์ทางหน้าโหดที่มารดาแสนรัก ถึงขนาดไม่ยอมทิ้งบ้านไปไกลได้เลยก็เพราะห่วงคุณพี่เด่น


“แหมมม..ก็พาพี่เด่นมาเที่ยวด้วยซะเลยสิคะไม่เห็นจะยาก”


“ไม่เอาละ แค่คิดแม่ก็เหนื่อยแล้ว...เราน่ะแหละโทรหาแม่บ่อยๆ อย่าหายเงียบไปก็แล้วกัน แม่เป็นห่วง”


“ค่า...แล้วหนูจะโทรรายงานทุกระยะนะ แม่ไม่ต้องกังวล รักแม่นะคะ"


“จ้า... อ้อ อย่าลืมละ กลางค่ำกลางคืนอย่าลืมล๊อคประตูให้เรียบร้อย แล้วขี้เซาให้มันมากนัก ไม่ใช่บ้านเรานะลูก ฯลฯ"


สารพัดสารพันที่คุณนายกำชับ เหมือนเดิมทุกครั้งยามที่เธอต้องเดินทางไปพักค้างแรมที่ไหนไกลๆ คุณนายสลินสามารถพูดซ้ำได้เหมือนเดิม จนหญิงสาวท่องได้ขึ้นใจ


“รู้แล้วค่า..า แหมแม่หนูไม่ใช่เด็กๆแล้วนะคะ ไม่ต้องเป็นห่วง หนูไปหาอะไรกินดีกว่า หิวแล้วบ๊ายบายค่ะ”


“จ้าลูก สบายใจเมื่อไหร่ก็กลับบ้านเรานะ”



แสงสุดท้ายใกล้ลาลับ อาทิตย์สีส้มค่อยๆเร้นกาย ซ่อนตัวหลังภูผา ท้องฟ้าสีแสดแต้มม่วงเจือสีเทาเข้มขึ้นเรื่อยๆเตือนให้หญิงสาวที่กำลังดื่มด่ำกับความงามรอบตัวลุกขึ้นยืนบิดขี้เกียจ ก่อนหันหลังมุ่งหน้ากลับไปที่เรือนรับรองเพื่อหาอะไรกิน



ทันที่ที่ก้าวขาเข้ามาที่เรือนภูคา ตาคมก็เหลือบเห็นชายร่างสูงผิวขาวหน้าตาดีคนหนึ่ง กำลังสาละวนอยู่กับเอกสารตรงเคาน์เตอร์ เหมือนรู้ว่ามีคนมอง หนุ่มหน้าขาวก็เงยหน้าขึ้นพร้อมส่งยิ้มสวยมาให้



“สัวสดีครับ คุณลัลนา ถูกใจบ้านพักของเรารึเปล่าครับ "


"อะ..อ๋อค่ะถูกใจมาก เอ่อไม่ทราบว่าคุณ...”


"แหม ผมนี่เสียมารยาทจริงๆ...ตรันครับ คนที่คุณติดต่อจองบ้านพักด้วยไง ขอโทษที่เมื่อเช้านี้ไม่ได้มาต้อนรับด้วยตัวเอง หวังว่าจะไม่โกรธกันนะครับ"


"อุ๊ย ไม่หรอกค่ะจะโกรธเรื่องอะไรละคะ " หญิงสาวหัวเราะ


"ว่าแต่ เย็นนี้มีเมนูอะไรบ้างคะ พอดีมัวแต่จัดของเพลินไม่ได้ทานอะไรตั้งแต่เที่ยงเลย อย่าบอกว่าหมดนะคะ คราวนี้มีโกรธจริงแน่ๆ”



“ว้าผมนี่เป็นเจ้าบ้านที่ไม่ได้เรื่องเลย เชิญครับคุณลัลนา ผมให้เด็กเตรียมไว้เรียบ้รอยแล้ว"
หนุ่มหน้าสวยผายมือไปยังโต๊ะที่ตั้งสำรับไว้พร้อมแล้ว แถมยังส่งยิ้มหวานให้อีกครา



...ขยันยิ้มละลายใจจริงๆ สิน่า ยัยพัชไม่ยักกะบอกสักคำว่าเจ้าของจะหล่อลากดินซะขนาดนี้ ร่างสูงอย่างชายไทยคิ้วเข้ม ผิวขาวใสจนผู้หญิงยังต้องอิจฉา และร้ายที่สุดเห็นจะเป็น ปากสวยๆที่ขยันส่งยิ้มหวานๆนี่สิ


...แล้วอย่างนี้จะมีสมาธิทำงานกันไหมละฉัน!



น้ำพริกอ่อง พร้อมผักเคียงจัดใส่กระจาดน่ารัก ผักพื้นบ้านหลายอย่างที่หากินไม่ได้ในเมืองกรุง ทั้งสดหวานกรอบอร่อย กินพร้อมปลาทอด กรอบนอกนุ่มในหอมฉุย


กำลังเคลิบเคลิ้มกับน้ำพริกอ่องสุดโอชะ อยู่ดีๆ ก็ถูกขัดจังหวะโดยเจ้าบ้านหนุ่ม



“ขอโทษครับคุณลัลนา ไม่ทราบว่าจะรังเกลียดไหมถ้าผมจะขอร่วมวงเปิบน้ำพริกอ่องด้วยคน"


เสียงนุ่มสบายหูของหนุ่มยิ้มสวย แหม..พูดขนาดซะนี้แล้วใครจะกล้าปฏิเสธ


“เชิญค่ะ กำลังเหงาอยู่พอดี มีเพื่อนกินด้วยกันเยอะๆสิคะถึงจะอร่อย"



ตอบไปอย่างเอื้อเฟื้อ แต่เมื่อหันมาเจอะกับสายตาหาเรื่องของพ่อยักษ์ตกมัน ที่เดินตามหลังเจ้าของรีสอร์ทหนุ่มมา ก็ชักอยากกัดลิ้นตัวเองที่ปากไว ไม่ดูตาม้าตาเรือ


เอ้อให้มันได้อย่างนี้สิฉัน...


“อ่า...นี่นคุณปาลินครับ คงพอคุ้นหน้ากันบ้าง คุณปาจะมาเป็นแขกตลอดสองอาทิตย์นี้ คุณปาครับนี่คุณลัลนา รู้จักเพื่อนบ้านกันไว้ เผื่อมีอะไรจะได้ช่วยเหลือกันไงครับ" ชายหนุ่มว่ายิ้มๆ


เหอะ...คงมีหรอกนะ



เจ้าของรีสอร์ทหนุ่มยังคงชวนพูดคุย โดยไม่รับรู้ถึงบรรยากาศอึมครึมที่ ค่อยๆกลบความอร่อยของวงน้ำพริกอ่องไปเสียสิ้น ...


หลังจากร่ำลาเจ้าเรือนเป็นที่เรียบร้อย หญิงสาวอาศัยจังหวะที่เจ้าของรีสอร์ทหนุ่มยังพูดคุยกับปาลินอย่างออกรส ปลีกตัวออกมาแล้วรีบจ้ำกลับเรือนของตัวเองทันที


ลนาเดินเร็วจี๋เสียราวกับมีผีไล่หลัง แสงจากโคมเพียงรำไรกอบรกับยังไม่คุ้นชินทางดีนัก หรือจะเพราะความซุ่มซ่ามที่ติดตัวมาแต่กำเนิดก็สุดรู้ คนรีบจ้ำจึงพลาดท่าเดินเตะขอนไม้ที่กั้นริมทางนั่นเอง



“อู๊ยยย!.. ซวยอะไรนักหนาเนี่ยะ"


บ่นเบาๆ กับตัวเอง หวังว่านายปายักษ์คงไม่ทันเดินตามมาหรอกนะ เสียฟอร์มแย่


“ซุ่มซ่าม!"


ลนาหันขวับ คิ้วสวยขมวดทันทีเมื่อเห็นหน้าว่าเป็นใคร หันหน้าเตรียมสู้แม้จะเดี้ยงไปแล้วก็เหอะ


“คุณว่าใคร "


“ก็คุณคิดว่าแถวนี้มีใครอีกรึที่เซ่อซ่าเดินแตะขอนไม้ได้น่ะ”


อ๊าย..ปากร้าย ผู้ชายอะไร


“นี่! ถามจริงเหอะ ฉันไปทำอะไรให้ไม่พอใจนักเหรอ ดูคุณจะไม่ชอบหน้าฉันเอาซะเลย ถึงคอยพูดจาแดกดันฉันตลอดเวลาอย่างนี้"


"ก็แล้วทำไมคุณถึงต้องคิดว่าผมไม่พอใจคุณด้วยละ...”


ฮึ้ย! นอกจากจะปากจัดแล้วยังกวน...อีก ใครจะคิดอย่างไรก็ช่างหัวมันแล้ว!


ลัลนาหันหลังเตรียมจะเดินหนีกลับบ้าน ทันทีที่ก้าวเท้าความเจ็บก็แล่นแปลบขึ้นมาทันที หญิงสาวทำหน้าเหยเกครางในลำคอเบาๆ พยามยามลากขาเดินต่อไปเรื่อยๆ สภาพคงน่าขันเต็มทน


แต่แล้วก็ต้องตกใจ เมื่อจู่ๆข้อมือบางก็ถูกฉุดอย่างแรง แทบจะกระชากให้นั่งลง ตรงม้านั่งริมทาง โดยฝีมือนายปายักษ์งี่เง่านี่เอง!


“เฮ้ย! คุณทำบ้าอะไรเนี่ยะ...อยู่ดีๆมาดึงฉันไว้ทำไมห๊า!"


ทั้งสะบัด ดิ้นอย่างไร ยักษ์หน้าบูดก็ยังคงไม่แยแส แถมกดไหล่คนตัวเล็กกว่าให้อยู่ใต้อาณัติ


“ก็จะดูให้ เจ็บขาไม่ใช่เหรอ โวยวายอย่างงี้อยากให้ชาวบ้านเขาแห่ออกมาด่านักรึไง " ปากจัด ใครกันแน่ที่ผิดยะ


“ก็ใครใช้ให้ช่วยเล่า เป็นหมอรึไง!”


“ใช่ผมเป็นหมอ" พ่อยักษ์ตกมันตอบหน้าตาเฉย ทำเอาคนถามอึ้งไปทันที


“หมอเถื่อนละสิ ปล่อยนะ ฉันดูเองได้น่า"


"บวมเชียวพรุ่งนี้ต้องปวดแน่ รออยู่นี่ก่อนนะ" ดูท่ายักษ์ตนนี้จะมีความสามารถพิเศษอีกอย่าง นั่นคือหูทวนลม


ไม่ใช่เพราะกลัวที่เขาสั่งหรอกนะ แต่ไอ้สายตาวาวๆนั่นต่างหากละที่บอกว่า “ออกมาไม่เจอมีเรื่องแน่!”

แม้จะขัดใจ แต่สุดท้ายก็รอจนคนที่อ้างตัวว่าเป็นหมอกลับมาจนได้ หมอเถื่อนบีบหลอดยาในมือตั้งท่าจะทาให้ คน

เจ็บรีบชักขาหลบในทันที


"มะ...ไม่ต้องหรอกคุณเดี๋ยวฉันทาเองได้"


หมอยักษ์ทำเสียงจึ๊จ๊ะในลำคอ พร้อมดึงข้อเท้าเล็กกลับมา


“เห็นไหมว่าบีบยามาแล้ว อย่าเรื่องมากไปหน่อยเลยน่า จะได้ไปนอนสักที" ไม่พูดพร่ำทำเพลงหมอโหดก็ลงมือทันที


ไม่คิดว่าคนตัวใหญ่จะมือเบา ระหว่างที่ชายหนุ่มกำลังก้มหน้าก้มตาทายา หญิงสาวจึงมีโอกาสพิจารณา คู่กรณีในระยะใกล้กว่าทีเคย ไล่ตั้งแต่คิ้วหนาได้รูป ที่มักขมวดใส่เธอเสมอเมื่อเจอกัน คงจะทำบ่อยสะจนมีเส้นบางๆขั้นตรงกลางหว่างคิ้ว จมูกเป็นสันมีรอยหักเล็กน้อย และปากบางสีระเรื่อที่คมอย่างกับกรรไกรโรง'บาล คางเหลี่ยมมีไรหนวดขึ้นจางๆ ถ้าขืนพ่อคนนี้ไว้หนวดจริงๆเด็กเจอคงต้องมีร้องไห้แน่ๆ


คงเพราะหญิงสาวเงียบผิดปกติ หมอเถื่อนเลยเงยหน้าขึ้นมอง ตาสบตาราวกับมีประจุไฟฟ้าไหลผ่านทำเอาทั้งทั้งสองนิ่งงัน ถ้ามองไม่ผิดเพียงชั่วแวบเดียวเท่านั้นที่เห็นมุมปากบางของชายหนุ่มนั้นยกยิ้ม


ปาลินถอนสายตาก่อน แล้วยกมือเกาท้ายทอยเก้อๆ เขาถอนใจเฮือกใหญ่ แล้วยืดตัวยืนขึ้นเต็มความสูงทำเอาคนที่นั่งอยู่ต้องแหงนมองจนคอตั้งบ่า


"ทีหน้าทีหลัง หัดรู้ไว้ซะว่าตัวไม่ใช่เหล็ก ใช้ร่างกายให้มันระวังๆหน่อย "


ลัลนากลืนคำขอบคุณไปทันที ให้ญาติดีกับพ่อคนปากร้ายเกินทนนี่ทำใจไม่ได้จริงๆ แล้วหมอจอมจุ้นก็หันหลังกลับเข้าบ้านพักของตนเอง ทิ้งรอยอบอุ่นกับความรู้คันหัวใจยิบๆให้คนเจ็บนั่งเหวออยู่พักใหญ่ก่อนจะลากขาเดินเข้าบ้านตัวเองไปเช่นกัน


หลังจากอาบน้ำสาวชาวกรุงก็ซุกตัวอยู่ใต้ผ้าห่มอุ่น พร้อมอ่านนิยายเรื่องใหม่ที่เตรียมมาด้วย แล้วพระเอกสุดหล่อมาดขรึม แสนอบอุ่นก็ค่อยๆ เบียดกระแซะเข้ามาในห้วงคำนึงแทนที่รอยอบอุ่นที่คนปากร้ายทิ้งไว้เมื่อยามหัวค่ำไปทันที



ปาลินรอจนประตูบ้านหลังตรงข้ามปิดไปเรียบร้อย เขาจึงปิดม่านแล้วหันมาหยิบผ้าขนหนูเตรียมตัวอาบน้ำ เห็นหลอดยาที่วางอยู่บนโต๊ะก็ไพล่นึกไปถึง สาวตาคม จมูกเชิดรั้นท่าทางเอาเรื่องก็อดหัวเราะเบาๆคนเดียวไม่ได้ นี่เขาต้องกลายเป็นศัตรูหมายเลขหนึ่งของเธอเสียแล้วละหรือ


“เธอกับชั้นยังต้องสู้กันอีกหลายยกเลยเชียวล่ะ ลัลนา"


...................................................................................................................




อันนา
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 10 ต.ค. 2554, 00:06:49 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 16 ต.ค. 2554, 23:01:04 น.

จำนวนการเข้าชม : 1466





<< ตอนที่ 1   ตอนที่ 3 >>
ส้มลายอักษร 15 ต.ค. 2554, 11:29:37 น.
มาให้กำลังใจ...ชอบแนวนี้นะคะ


อันนา 16 ต.ค. 2554, 22:50:52 น.
ขอบคุณค่า ^ ^


เทียนจันทร์ 4 ม.ค. 2555, 18:43:49 น.
เป็นกำลังใจให้เหมือนกันคะ
มือใหม่ด้วยแหละ


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account