ทะเลร้อนซ่อนสิเน่หา
เพียงแรกพบสบตา...เขา...คเชนทร์ อัครา นายหัวแห่งเกาะยาตราก็เกิดอาการอยากจะเก็บนางฟ้าหน้าหวานปานจะหยดคนนั้นกลับไปใส่กรงทองเป็นสมบัติส่วนตัวของตัวเองเสียแล้ว แต่จะทำยังไงเมื่อสาวเจ้าไม่ยอมเล่นด้วยเพราะเขาเผลอไปทำตัวให้เธอเกลียดขี้หน้าเข้า งานนี้จากนายหัวหนุ่มผู้เคร่งขรึมจีบสาวไม่เป็น ก็ถึงกับต้องลงทุนงัดทุกกระบวนความมาต้อนสาวหน้าหวานให้ยอมรับรักเขาให้จงได้

เธอ...น่ารัก สาวนักออกแบบที่เดินทางไปพักผ่อนสมองที่บ้านเกิดเพื่อนรัก แต่ครั้งแรกที่พบเจอหนุ่มโหดหน้าตาอย่างกับมหาโจรที่ร่วมเดินทางไปบนรถทัวร์คันเดียวกัน เขาก็จาบจ้วงถึงเนื้อถึงตัวเธอเสียแล้ว ซ้ำยังตามติดเดี๋ยวกอดเดี๋ยวหอมจนเธอผวา ยิ่งเมื่อมารู้ว่าเขาเป็นคนเดียวกับพี่ชายเพื่อนรักที่เคยปฏิเสธอย่างไร้มารยาทห้ามให้เธอไปวุ่นวายที่เกาะยาตราสุดรักสุดหวงของเขา เธอก็นึกไม่ชอบขี้หน้าเขามากขึ้นไปอีก

แต่ยิ่งไม่ชอบเขาก็ยิ่งตื้อ ยิ่งปฏิเสธเขาก็ยิ่งรุก จนใจน้อย ๆ ที่เคยหนักแน่นเริ่มสั่นไหว แล้วสุดท้ายน่ารักจะทำอย่างไรเมื่อถูกมหาโจรหน้าหล่ออย่างคเชนทร์รุกหนักจนหัวใจปลิวหายไปอยู่ในมือเขาในที่สุด
(รอตีพิมพ์กับ สนพ.แสนรัก ในเครือไลต์ ออฟ เลิฟ ค่ะ)
Tags: ผู้แต่งยังไม่ได้กำหนด tags ของนิยายเรื่องนี้

ตอน: ตอนที่ 8....หวั่นไหว 1..(60% )

บทที่ 8...หวั่นไหว 1

เช้าวันพุธแม้จะเป็นกลางสัปดาห์หากแต่ที่ค่อนข้างจะงานยุ่งเพราะเป็นช่วงฤดูท่องเที่ยว ทางโรงแรมอัครเดชาที่เป็นโรงแรมระดับห้าดาวที่ตั้งอยู่บนหาดส่วนตัว ก็ได้รับความนิยมเป็นลำดับต้น ๆ จากนักท่องเที่ยวโดยเฉพาะชาวต่างประเทศที่ต้องการความสะดวกสบายและบริการชั้นยอดระหว่างพักผ่อน

ในห้องทำงานของท่านรองประธาน คีตภัทรกำลังนั่งตรวจเอกสารอยู่ที่โต๊ะทำงาน ส่วนปุณณ์ที่ปกติจะมีห้องส่วนตัวประจำตำแหน่งผู้จัดการการตลาดในวันนี้กำลังยืนพิงกรอบหน้าต่างหันหน้าออกไปมองทิวทัศน์ด้านนอก ในมือถือโทรศัพท์เครื่องเล็กแนบหูอยู่

“อะไรนะเจมส์ ? แกบอกว่าแกอยู่ที่ไหนนะตอนนี้”

เสียงถามของปุณณ์ที่ดังขึ้นอย่างแปลกใจ เรียกสายตาของคีตภัทรที่กำลังก้มหน้าก้มตาอ่านเอกสารในแฟ้มบนโต๊ะให้เงยหน้าขึ้นมอง และตั้งใจฟังการสนทนาระหว่างปุณณ์กับทางปลายสาย จนกระทั่งเห็นปุณณ์เก็บโทรศัพท์ใส่กระเป๋าเสื้อสูทก็ถามขึ้น

“เจมส์เหรอคะพี่ปุณณ์ มีอะไรหรือเปล่าคะ” แม้จะพอจับใจความได้ว่าเจมส์ เพื่อนสนิทของทั้งปุณณ์และคเชนทร์พี่ชายของเธอชาวอเมริกันอยู่ที่ประเทศไทยในตอนนี้ แต่ก็ยังไม่รู้เรื่องราว

“เปล่าคะ ไม่มีอะไรหรอก ไอ้เจมส์มันอยู่ที่กรุงเทพน่ะตอนนี้ แล้วก็บอกว่าอาทิตย์หน้ามันจะมาที่กระบี่ จะมาขอพักผ่อนที่เกาะกับไอ้เชนทร์ แต่มันบอกว่าอย่าเพิ่งบอกไอ้เชนทร์มันจะเก็บไว้เซอร์ไพรซ์ พี่ก็เลยบอกมันไปว่าเดี๋ยววันเสาร์นี้เราสองคนจะไปที่เกาะพอดี เลยชวนมันไปด้วยกันเลย แต่มันมาไม่ได้เลยบอกให้เราเลื่อนรอมันก่อน ภัทรว่าไงคะ”

“เจมส์มาเที่ยวเหรอคะ เป็นปีได้แล้วมั้งคะเนี่ยที่ไม่ได้เจอ” คีตภัทรอมยิ้มเมื่อนึกถึงใบหน้าหล่อเหลาของหนุ่มนัยน์ตาสีฟ้า คาสโนว่าประจำกลุ่มเพื่อนสนิทสามคนระหว่างคเชนทร์ ปุณณ์ และเจมส์ “ส่วนเรื่องเลื่อน จริง ๆ ภัทรก็ไม่อยากจะเลื่อน คิดถึงยัยเลิฟจะแย่ แต่ก็ไม่เป็นไรเลื่อนก็ได้ค่ะ ถือซะว่าเปิดโอกาสให้พี่เชนทร์ทำคะแนนจีบยัยเลิฟไปก่อนอีกอาทิตย์หนึ่งก็ได้”

“ยิ้มแบบนั้นหมายความว่ายังไงคะ แอบหลงเสน่ห์ไอ้เจมส์มันหรือไงกันเรา”

ปุณณ์ไม่ฟังคำพูดหลังจากนั้น เขาเดินเข้ามาเท้าแขนกับโต๊ะทำงานตัวใหญ่ โน้มใบหน้าเข้าไปหาพร้อมส่งสายตาดุและน้ำเสียงไม่พอใจออกไปอย่างไม่รู้ตัว

“อะไรกันพี่ปุณณ์ อย่างเจมส์เนี่ยนะ ไม่ล่ะค่ะ ภัทรไม่อยากถูกบรรดาสาว ๆ ของเขาตบเอา ไม่ใช่สเป็คค่ะแบบนั้น” ตอบกลับพร้อมกับหัวเราะน้อย ๆ เจมส์อะไร ๆ ก็ดีไปทุกอย่าง เสียอยู่อย่างเดียวเรื่องความเจ้าชู้ เจอกันที่ไรสาวข้างกายไม่เคยซ้ำหน้าสักที

“นี่ไม่รู้ว่ามาคราวนี้จะควงสาวไทยหรือประเทศไหนอีกนะคะเนี่ย คิดแล้วก็ไม่อยากจะเชื่อว่าอย่างเจมส์น่ะจะมาเป็นเพื่อนสนิทกับพี่ปุณณ์กับพี่เชนทร์ได้ นิสัยคนละขั้วขนาดนั้น”

ตั้งแต่จำความได้จนอายุย่างยี่สิบสี่เธอยังไม่เคยเห็นปุณณ์กับคเชนทร์พี่ชายเธอคบหรือควงผู้หญิงที่ไหนให้เห็นสักที หรือแม้แต่ข่าวก็ไม่เคยได้ยิน จนคนอื่นพากันลือว่าทั้งคู่แอบมีใจให้กัน ผิดกับเจมส์เขาเป็นผู้ชายที่ใช้ผู้หญิงเปลืองที่สุดเท่าที่เธอเคยรู้จักมา ข้างกายไม่เคยขาดสาว ๆ ให้ได้เหงา

“ก็อาจจะทั้งสองนั้นแหละค่ะอย่างไอ้เจมส์น่ะ เห็นมันว่ามาถึงกรุงเทพได้สามวันแล้ว ก็คงจะเปลี่ยนผู้หญิงไปสามคนสามสัญชาติแล้วล่ะมั้งคะ” เมื่อได้รับคำตอบที่น่าพอใจ ปุณณ์ก็กลับมายิ้มแย้มเป็นผู้ชายอบอุ่นสำหรับน้องน้อยอย่างคีตภัทรเหมือนเดิม

เฮ้อ...อาการเขามันชักจะน่าเป็นห่วงขึ้นทุกวัน ๆ เสียแล้ว แล้วจะทำยังไง จะหาวิธีไหนมาตะล่อมขอความรักจากแม่น้องน้อยคนนี้กันนะ

“ภัทรคะ ตอนนี้ภัทร...ชอบใครบ้างหรือเปล่า” อยู่ ๆ ปุณณ์ก็หลุดปากถามออกไปตามที่คิด พอถามจบก็นึกต่อว่าตัวเองในใจ ทั้ง ๆ ที่ยังไม่พร้อมจะฟังคำตอบหากคีตภัทรบอกออกมาว่า มีแล้ว เขาจะทำยังไง

คีตภัทรมองใบหน้าที่ดูเครียดขึงของปุณณ์อย่างงง ๆ แต่ก็ยอมตอบออกไปตามตรง

“ชอบ? พี่ปุณณ์หมายถึงในเชิงชู้สาว ชอบแบบชายหญิงน่ะเหรอคะ” เมื่อเห็นใบหน้าคมพยักหน้าก็พูดต่อ “ก็...ยังไม่มีนะคะ ตอนนี้นอกจากพี่ปุณณ์...กับพี่เชนทร์แล้วภัทรก็ไม่นึกพิศวาสผู้ชายคนไหนอีก”

ปุณณ์หัวใจเต้นระรัวเมื่อได้ยินว่า นอกจากพี่ปุณณ์ หากแต่หลังจากที่ชื่อคเชนทร์หลุดออกมาจากปากสวยได้รูปนั้นความผิดหวังก็เข้ามาแทนที่

“ดีแล้วค่ะ ภัทรยังเด็ก ยังไม่ควรจะคิดเรื่องรักเรื่องใคร่อะไรในตอนนี้” สุดท้ายก็ต้องพูดไปตามประสาพี่ชายที่แสนดี

“อะไรกันภัทรไม่เด็กแล้วนะคะ จะยี่สิบสี่อยู่แล้ว พี่ปุณณ์นะชอบพูดเหมือนภัทรเป็นเด็กตัวเล็ก ๆ อยู่เรื่อยเลย” ใบหน้างามงอง้ำอย่างไม่พอใจ หากในสายตาของปุณณ์กลับดูน่ารักนัก “นี่นะ พี่ปุณณ์เอาแต่พูดกรอกหูว่าภัทรยังเด็ก ยังไม่ควรมีแฟน ถ้าเกิดภัทรขึ้นคานขึ้นมา พี่ปุณณ์ต้องรับผิดชอบให้คุณป้ามาขอภัทรด้วยนะเอ้า” พูดเล่น ๆ แกล้งงอนนิด ๆ ไปอย่างนั้นเอง แต่กลับได้คำตอบที่แสนจะจริงจังกลับมา

“พี่สัญญาค่ะ ว่าจะให้คุณแม่มาขอภัทร เพราะฉะนั้นรอก่อนนะคะ ไม่นานหรอก” ปุณณ์เอื้อมมือไปกุมมือบางที่วางอยู่บนโต๊ะ มองสบตาที่บ่งบอกความรู้สึกของตนกับอีกฝ่าย

ใจจริงก็อยากจะให้มารดาไปขอเสียวันนี้เดี๋ยวนี้ด้วยซ้ำ ถ้า...ไม่กลัวว่าคีตภัทรจะปฏิเสธเขาน่ะนะ

“เอ่อ พี่ปุณณ์ ภัทรพูดเล่นไปงั้นเองแหละค่ะ ไม่ได้...”

คีตภัทรที่นิ่งอึ้งไปนานกับท่าทีและสายตาที่ฉายแววบางอย่างที่เธอไม่อยากจะคิดไปไกลเอ่ยพูดตะกุกตะกัก แต่ก็พูดไม่ทันจบประโยคดี ปลายนิ้วชี้ของปุณณ์ก็ยกขึ้นมาทาบริมฝีปากเพื่อปิดกั้นคำพูดต่อ ๆ มาของเธอเสียสิ้น กระแสความร้อนที่ส่งผ่านมาจากปลายนิ้วแกร่งของเขา ทำให้ใบหน้างามร้อนผ่าวขึ้นอย่างไม่อาจจะห้ามได้

“แต่พี่...พูดจริง”

คำพูดสั้น ๆ ความหมายเข้าใจได้ง่าย ๆ แต่กลับทำให้คีตภัทรตีความหมายที่แท้จริงของคนพูดไม่ออกว่าตกลงพี่ชายที่แสนดีของเธอกำลังล้อเล่นเหมือนทุกครั้ง หรือ...จริงจังกันแน่

แล้วยิ่งเมื่อริมฝีปากร้อนกดประทับลงกลางฝ่ามือ สมองของคีตภัทรก็มึนงง ไม่รับรู้ไม่อาจจะกลั่นกรองคิดคำพูดอะไรต่อจากนี้ได้อีก ได้แต่นั่งนิ่งมองสบตาคู่สีน้ำตาลที่เหลือบขึ้นมาสบประสานสายตากับเธอทั้ง ๆ ที่ริมฝีปากร้อนของเขายังจุมพิตอยู่กลางฝ่ามือของเธออยู่อย่างนั้น

++++++++++

บรรยากาศยามสายบนเกาะยาตราดูสว่างสดใส กลิ่นอายทะเลที่พัดมาชวนให้ผู้คนบนเกาะสดชื่นยิ่งนักโดยเฉพาะนายหัวคเชนทร์ที่บัดนี้ใบหน้าคมดูอารมณ์ดีเป็นพิเศษ ยามที่มองร่างบางที่แต่งตัวในชุดทะมัดทะแมงเตรียมพร้อมจะออกตะลุยทั่วเกาะกว้างใหญ่แห่งนี้ที่กำลังเดินเดินออกมาจากห้องนอน

น่ารักส่งยิ้มให้อย่างเสียไม่ได้ให้คนที่ทำให้เธอสะดุ้งตกใจตั้งแต่แง้มบานประตูออกมาเจอสายตาคู่คมที่จ้องเขม็งมา ไม่รู้ว่าเขานั่งคอยจ้องประตูห้องนอนเธออยู่นานเท่าไหร่แล้ว แต่ขืนเป็นอย่างนี้ทุกเช้าเธอก็ขวัญผวาได้เหมือนกันนะ ที่ต้องรู้สึกอยู่ตลอดเวลาว่ามีใครคนหนึ่งคอยจ้องคอยเฝ้าอยู่

“วันนี้ผมจะพาคุณไปดูรอบ ๆ เกาะฝั่งที่เราอยู่กันนี้ รวมถึงข้ามไปอีกฝั่งเพื่อดูสถานที่ที่จะสร้างบ้านพักและบ้านรังนกเพิ่มด้วย” คเชนทร์พูดขึ้นขณะลุกจากเก้าอี้กลางห้องนั่งเล่นเดินเข้าไปหยุดตรงหน้าร่างบาง “แล้วพรุ่งนี้ถ้าคุณไม่เหนื่อย อยากจะไปดูคนงานเก็บรังนกกัน ผมก็จะพาไป แต่ถ้ายังไม่อยาก...”

“อยากค่ะ ฉันอยากเห็น คุณพาฉันไปดูนะคะ” เสียงหวานที่ฟังดูตื่นเต้นพูดแทรกขึ้นก่อนที่อีกฝ่ายจะพูดจบประโยคเสียอีก ก่อนจะหน้าร้อนกับสายตายิ้ม ๆ ที่มองมา “ก็รู้อยู่ว่าคนอยากเห็น ยังจะมาพูดถามแบบนั้นอีก” น่ารักก้มหน้าบ่นอุบอิบแก้เขิน

“ผมก็พูดเผื่อไปอย่างนั้นเอง เผื่อว่าคุณยังไม่พร้อมจะไปเพราะสองสามวันที่ผ่านมาพายุเข้า ฝกตกทำให้พื้นถ้ำเฉอะแฉะ ผมก็คิดว่าบางทีผู้หญิงชาวกรุงอย่างคุณอาจจะไม่อยากเหยียบโคลนก็ได้” เขาคิดอย่างนั้นจริงๆ เพราะอย่าว่าแต่สาวชาวกรุงเลย สาวปักษ์ใต้แท้ ๆ อย่างคีตภัทรน้องสาวเขาเองก็ยังขอผ่าน รายนั้นรักสวยรักงามอย่างผู้หญิงทั่ว ๆ ไปนั่นแหละ

“เรื่องอะไรคุณมาเหมาว่าฉันเป็นเหมือนสาว ๆ ชาวกรุงของคุณ มากกว่าพื้นแฉะ ๆ ฉันก็ไปมาหมดแล้วย่ะ” ย่นจมูกใส่ก่อนจะเชิดหน้าเดินนำออกมานอกบ้าน รู้สึกไม่พอใจนิด ๆ ที่ถูกเอาไปเหมารวมกับสาว ๆ ของเขา

ทำไมเธอถึงไม่พอใจ ? ก็แค่เพราะเธอไม่ใช่คนเหยียบขี้ไก่ไม่ฝ่อเท่านั้นแหละน่า แค่ถูกเขาพูดเหมือนดูถูกเลยไม่พอใจก็แค่นั้น ไม่ได้มีอะไรมากมายกว่านั้นเสียหน่อย น่ารักบอกกับตัวเองในใจถึงความรู้สึกกรุ่น ๆ ที่มี

“ผมบอกว่าสาวชาวกรุงทั่ว ๆ ไป ใช่สาว ๆ ของผมที่ไหนกันเล่าคุณ” คเชนทร์ก้าวเท้าเดินตามมาแก้ต่าง ก่อนจะเย้าแหย่ไป “รู้ไหมว่าตอนนี้คุณพูดและทำท่าทางเหมือนคนกำลัง...หึงแฟนยังไงยังงั้น” ถ้าเป็นอย่างนั้นจริงก็จะวิเศษที่สุด นายหัวหนุ่มอมยิ้มกับความคิดของตัวเอง

“ใช่ไหม คุณหึงผมเหรอ ไม่ต้องกังวลไปหรอกเพราะไม่ว่าจะตอนนี้หรืออดีตที่ผ่านมา ผมก็ไม่เคยมีใคร เพิ่งเคยมีผู้หญิงอยู่ร่วมบ้านนอกจากนายแม่กับยัยภัทร ก็คุณนี่แหละ...คุณคนเดียวและ...” จะเป็นคนสุดท้าย...ประโยคสุดท้ายคเชนทร์สัญญากับตัวเองว่าจะทำให้เป็นจริงให้ได้

“หยุดพูดเหลวไหลได้แล้ว รีบไปเสียทีสิ เดี๋ยวไปไม่ทั่วเกาะล่ะน่าดู” น่ารักหันไปตวาดแว๊ดกับร่างสูงที่ตามมาเดินอยู่ข้าง ๆ ปากต่อว่าแต่ในใจกลับเต้นตึกตักกับคำพูดของเขา

ก็แค่อยากจะรู้ว่าเขาจะพูดอะไรต่อหลังจากคำว่า...คุณคนเดียว...ก็เท่านั้น

“งั้นเชิญทางนี้เลยครับนายหญิง ราชรถอยู่ทางนี้ครับผม” คเชนทร์ยั่วต่ออีกนิด พลางผายมือไปทางรถกอล์ฟที่จอดอยู่หน้าบ้าน มีคนขับรถหน้าคมผิวเข้มที่ชื่ออาลียืนส่งยิ้มอยู่ข้าง ๆ

“สวัสดีครับนายหัว...นายหญิง เชิญครับ” อาลีกล่าวทักทาย และเรียกน่ารักตามที่ได้ยินคเชนทร์เรียกไปก่อนหน้านี้ ในใจก็ตื่นเต้นกับข่าวใหม่ที่จะนำไปบอกกับเพื่อนสนิทอย่างรุจและรินผู้เป็นภรรยา แต่พอคิดไปถึงญาติผู้น้องอย่างปาลีก็ได้แต่สงสาร

หวังของสูงเกินตัวมันก็อย่างนี้แหละปาลีเอ้ย

จากนั้นอาลีก็ขับรถกอล์ฟพานายหัวและ ‘ ว่าที่ ’ นายหญิงทัวร์จนทั่วเกาะ โดยที่คเชนทร์ทำหน้าที่แนะนำสถานที่ต่าง ๆ รวมถึงเหล่าคนงานหลายสิบชีวิตให้รู้จักนางฟ้าหน้าหวานของเขาด้วย และคนงานบนเกาะต่างก็พร้อมใจกันเรียกผู้หญิงที่นายหัวพามาด้วยและดูท่าจะเป็นคนสำคัญอย่างมากว่า ‘ นายหญิง ’ โดยที่ไม่ต้องให้ใครบอกใครสั่ง เพราะต่างพากันคิดไปว่ายังไง ๆ ตำแหน่งนี้ก็คงไม่พ้นสาวน้อยหน้าหวานปานนางฟ้าคนนี้อย่างแน่นอน

บนเกาะยาตราแห่งนี้มีคนอาศัยอยู่ทั้งสิ้นเกือบแปดสิบชีวิต โดยที่คนงานเกือบทั้งหมดล้วนแล้วแต่สืบเชื้อสายการทำอาชีพเก็บรังนกมาตั้งแต่สมัยหลายสิบปีตั้งแต่สมัยคุณปู่ของคเชนทร์ยังเป็นนายหัวจอมโหดของเกาะยาตรา ซึ่งส่วนมากจะเป็นคนงานผู้ชายที่มีหน้าที่เก็บรังนก และอยู่เวรยามป้องกันหัวขโมยที่มักจะเข้ามาแอบขโมยรังนกในถ้ำ รวมถึงเหล่าศัตรูทางธุรกิจเดียวกันที่บ่อยครั้งจะส่งคนเข้ามาสร้างความวุ่นวายบนเกาะแห่งนี้

ส่วนคนงานหญิงนั้นมีไม่ถึงยี่สิบคน ซึ่งส่วนมากจะเป็นเมียของเหล่าคนงานชายเสียมากกว่าพวกเธอเหล่านั้นจะมีหน้าที่แต่งรังนกก่อนที่จะส่งขาย ซึ่งการเก็บรังนกบนเกาะยาตรานั้นในช่วงห้าปีหลังที่คเชนทร์เข้ามาเป็นเจ้าชีวิตของทุกคนบนเกาะแห่งนี้นั้นไม่ได้เก็บตามฤดูปีละสามครั้งอย่างครั้งอดีต เพราะความโชคดีที่จำนวนนกนางแอ่นที่เข้ามาทำรังเพิ่มมากขึ้นทุกปี และเวลาเก็บคเชนทร์ก็จะมีกฏไว้ว่าจะเหลือรังนกไว้ยี่สิบเปอร์เซ็นต์เพื่อให้นกมีที่อยู่อาศัยต่อไปทุกครั้ง ทำให้ตอนนี้การเก็บรังนกสามารถทำได้ทุก ๆ สิบห้าถึงยี่สิบวัน และก็เพราะสาเหตุนี้ที่ทำให้เกาะยาตราเป็นที่ต้องการของพวกโลภมาก อยากได้อยากมี

น่ารักทำท่าจะท้วงและอยากจะถามนายหัวผู้ยิ่งใหญ่แห่งเกาะยาตราเหลือเกินว่า ทำไมคนงานของเขาถึงได้เรียกเธอแบบนั้น ถึงจะไม่ใช้คนพื้นที่แต่ก็พอจะรู้ความหมายของคำว่านายหญิงอยู่หรอกน่า แล้วอยู่ ๆ มาเรียกเธอแบบนั้น ไม่ใช่ว่าต่างพากันคิดไปว่าเธอเป็นอะไร ๆ กับคนข้างตัวนี่หรอกหรือ

“คุณเชนทร์ คุณช่วยบอกคนของคุณให้เรียกชื่อฉันได้ไหม ฉันไม่อยากให้เรียกแบบนั้นน่ะ” สุดท้ายน่ารักก็โน้มใบหน้าเข้าไปกระซิบบอกร่างสูงที่นั่งข้าง ระหว่างที่กำลังนั่งทานของหวานอยู่ที่โรงอาหารขนาดกลาง ที่ตอนนี้แวดล้อมไปด้วยเหล่าคนงานส่วนหนึ่งที่พักกินข้าว

“แบบนั้นน่ะแบบไหน ผมจะไปกะเกณฑ์สั่งนั่นสั่งนี่กับคนงานมากนักได้ยังไง แล้วมันไม่ใช่เรื่องงาน ก็คงต้องปล่อย ๆ ไปบ้างแหละคุณ อย่าไปถือสาอะไรนักเลย พวกเขาเรียกแบบนั้นก็ดูเข้ากับคุณดีออก” คเชนทร์โน้มใบหน้าไปพูดใกล้ ๆ เป็นผลให้น่ารักผงะหน้าหนีแทบไม่ทัน

“เข้ากันดีอะไรกัน จะบ้าเหรอ ฉันไม่ได้เป็น...นายหญิงของที่นี่สักหน่อย” น่ารักบ่นอุบอิบ นึกต่อว่าที่เขาดูเหมือนจะไม่ทุกข์ร้อนอะไรเท่าไหร่

“แล้วอยากจะเป็นหรือเปล่าล่ะ“ ถามเหมือนเล่น แต่สายตากลับหนักแน่นจริงจัง จนคนฟังตอบไม่ถูก “ถ้าอยากเป็นก็...ไม่น่าจะมีปัญหา เพราะดูคนที่นี่ก็รักคุณดีออก” ...รวมทั้งผมด้วย คเชนทร์อยากจะพูดออกไปแทบขาดใจแต่ก็กลัวนางฟ้าของเขาตกใจจนหนีกลับขึ้นฝั่งเสียก่อน เลยได้แต่สื่อความหมายผ่านทางแววตาไป

“ฉันไม่พูดกับคุณแล้ว พูดอะไรแต่ละเรื่องนี่บ้า ๆ ทั้งนั้น” น่ารักหันหน้าหนีพร้อมทั้งขยับเก้าอี้ให้ห่างออกมาจากร่างสูงที่ชักจะพูดและทำให้เธอหวั่นไหวเข้าทุกที ก่อนจะหันไปเรียกอาลีที่นั่งอยู่กับคนงานอื่น ๆ ไม่ไกลนัก “อาลี ๆ มานี่หน่อยสิจ๊ะ เลิฟมีเรื่องจะถามหน่อย”

จ๊ะ? เลิฟ? คำพูดหวาน ๆ ให้ความสนิทสนมที่ออกจากปากจิ้มลิ้มที่พูดกับคนสนิทของตนเองทำเอาคเชนทร์ขบกรามกรอด ตาคู่คมตวัดฉับมองไปที่อาลีที่กำลังลุกเดินเข้ามาหาน่ารัก จนอาลีคนซื่อชะงักขากึก ทำท่ารี ๆ รอ ๆ จะถอยกลับก็เป็นการเสียมารยาทกับ ‘ ว่าที่ ’ นายหญิง จะไปต่อก็เสี่ยงโดนเตะจากนายหัว

“เป็นอะไรไปจ๊ะอาลี” น่ารักถามขึ้นเมื่อเห็นท่าทีแปลก ๆ ก่อนจะเข้าใจเมื่อมองตามสายตาของอาลี จึงตวัดสายตามองคนข้าง ๆ ที่ทำหน้าโหดใส่ลูกน้องพร้อมกับต่อว่า “นี่คุณ ทำไมทำหน้าดุอย่างกับโจรอย่างนั้น หวงอาลีหรือไง ฉันขอคุยด้วยนิดหน่อยทำหน้าดุไม่พอใจไปได้”

คเชนทร์ส่ายหัว เลิกทำหน้าดุ ๆ โหด ๆ อย่างที่ถูกต่อว่า อยากจะบอกเหลือเกินว่าไอ้ที่หวงน่ะไม่ใช่ไอ้อาลีหรอก แต่เป็นคนข้าง ๆ เขาที่กำลังต่อว่าเขาฉอด ๆ อยู่นี่ต่างหากเล่า พูดกับคนอื่นเสียเพราะพริ้งแต่กับเขาพูดเหมือนคนไม่ถูกกันมาเป็นชาติ

“เอ้า จะมาก็มาสิวะไอ้นี่ จะยืนยึก ๆ ยัก ๆ อีกนานไหม มานั่งคุยกับนายหญิงให้เสร็จ ๆ จะได้รีบข้ามไปอีกฝั่ง” เมื่อพาลกับสาวข้างตัวไม่ได้ คนที่ซวยจึงเป็นอาลี ที่พอได้รับอนุญาตให้เข้าใกล้ ‘ ว่าที่ ’ นายหญิงได้ ก็รีบเดินเข้ามานั่งลงฝั่งตรงข้ามกับนายทั้งสอง

+++++++++++++++++++


12/10/2011



ลัลลดา
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 12 ต.ค. 2554, 21:33:43 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 16 ต.ค. 2554, 00:18:12 น.

จำนวนการเข้าชม : 2396





<< ตอนที่ 7...ความรู้สึก..(100%)   ตอนที่ 8.2...หวั่นไหว 1..(40% หลัง) >>
หมูอ้วน 13 ต.ค. 2554, 05:31:50 น.
นายหัวยังเลี่ยนได้อีกเยอะค๊ะ (แต่ก็ชอบนะค่ะ) หุหุ


nutcha 13 ต.ค. 2554, 09:28:36 น.
ถ้าหนูเลิฟเป็นนายหญิงของเกาะแบบสมบูรณ์ หนูเลิฟจะมีโอกาสได้ไกลจากนายหัวซักห้าก้าวหรือเปล่าเนี้ยะ หวงซ้า


anOO 13 ต.ค. 2554, 14:17:47 น.
หยอดตลอดเวลาเลยนะนายหัว
ส่วนยัยภัทรคงไม่รอดพ้นมือพี่ปุณณ์แน่ เค้าจะให้แม่มาขอแล้ว


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account