ในชุดภารกิจรัก เรื่องราชนาวีที่รัก
Tags: ทหารเรือ นักเขียน
ตอน: 6. “งั้นพี่กวนแพรวแน่ ๆ”
6.
พอรถเก๋ง Toyota Vios ของผู้การหนุ่มถึงลานจอดรถหน้าศาลกรมหลวงฯ แพรวพรรณก็ถึงกับหดตัวยกขาทั้งสองข้างขึ้นพลางร้อง “อุ้ย!! งู”
จิรวัติหัวเราะเบา ๆ ผู้หญิงแทบทุกคนจะกลัวงูและแพรวพรรณก็เป็นหนึ่งในนั้น..
“งูปลอมนี่นา..เอาวางไว้บนหลังรถทำไมคะ” แพรวพรรณเหลียวหน้าเหลียวหลัง มองไปรอบ ๆ ตัว ใจที่ร่วงหล่นสัตว์เลื้อยคลานตัวที่เกลียดจับใจ เริ่มเต้นเป็นจังหวะตามเดิม
“เอาไว้ไล่ลิงป่า มันชอบลงมาแย่งเครื่องเซ่นไหว้ ชอบป่ายปีนไปบนหลังรถ ทำให้รถเป็นรอย..”
“บ้านเราที่เขาหน่อใช้จระเข้นะคะ”
“ก็ที่นี่สัตหีบ..จระเข้น้ำจืดมาไม่ถึง..”
“แบบนี้หัวงูคงเยอะด้วยใช่ไหมคะ” พอรู้ว่าเล่นเกินงามไปแล้ว แพรวพรรณก็รีบปลดล็อคข้างตัว..
“ไม่ต้องลงไปเปิดประตูให้แพรวนะคะ แพรวจัดการตัวเองได้..เกรงใจค่ะ”
“เอางั้น”
“หรือมันจะทำให้พี่เสียความเป็นสุภาพบุรุษ”
“ไม่หรอก..สุภาพบุรุษมันไม่ได้วัดกันตรงที่เปิดประตูปิดประตู..”
“แล้ววัดกันที่ตรงไหน”
“ก็รู้จักให้เกียรติท่านสุภาพสตรี..เลดี้เฟิร์ส เจนเติ้ลเมนบีฟอร์”
“ทุกคนหรือเปล่าคะ”
“บางคนอาจจะพิเศษหน่อย”
แพรวพรรณเลิกคิ้ว กรอกตาไปมาแกล้งทำท่าว่าครุ่นคิดประโยคเด็ด ๆ..แต่พอดีโทรศัพท์ในกระเป๋าของเธอก็ดังขึ้น..หญิงสาวรีบเปิดประตูรถคว้ากระเป๋าแล้วลงจากรถไปค้นโทรศัพท์ออกมาพูด..
“หนึ่งเหรอ...”
“แหม..เสียงดังแค่ไหนเนี่ย..”
“ถึงกรุงเทพฯแล้วเหรอ”
“เป็นไง ความรักของเธอกับผู้การ พอไม่มีฉันเป็นก้างขวางคอแล้วเป็นไงมั่ง”
“ยังไม่ถึงเหรอ ไม่ต้องรีบนะ ขับรถดี ๆ ระมัดระวังด้วย”
“หวังว่าคืนนี้..คงไม่ถึงกับให้เขาต้องนอนเป็นเพื่อนหรอกนะ..”
“โอเคนะ ไม่เป็นไรจ้ะ แพรวอยู่ได้ ไม่ต้องห่วง ไม่เป็นไรจริง ๆ แพรวไม่โกรธหรอก ธุระของหนึ่งก็สำคัญนี่.. จ้ะ ๆ บายจ้ะ..”..พอกดวางสายปุ๊บแพรวพรรณก็กดปิดเครื่องแกล้งปลายสายอีกทันที..และพอหันมา แพรวพรรณก็พบว่าเขายืนมองเธออยู่ แถมดวงตาก็ดูจะพอใจกับน้ำเสียงที่เธอคุยกับนาทีเสียด้วย..
หลังจากที่ถวายเครื่องสักการะพระรูปของ ‘เสด็จเตี่ย’ แล้ว จิรวัติก็พาแพรวพรรณออกเดินไปชมวิวรอบ ๆ ศาลและประภาคาร ซึ่งมองไปก็จะเห็นท้องทะเลสีคราม เกาะแก่งในทะเล กับป่าเขาลำเนาไพรที่อยู่ด้านหลังและตึกที่ทำการของเหล่าทหารเรือ..
“สวยจริง ๆ แต่เสียดายที่เขาไม่ให้ถ่ายรูป..” ก่อนหน้านั้น พอมั่นใจว่า นาทีจะไม่โทรย้อนกลับมาหยอกเย้าเธออีกแล้ว แพรวพรรณก็เปิดเครื่อง แล้วใช้โทรศัพท์เครื่องเตรียมไว้ถ่ายรูปพี่ต้นกล้า เพื่อจะส่งให้พี่หิรัญญา..
“ก็เก็บไว้ในใจ”
“ค่ะ มันคงอยู่ในใจเสมอแหละค่ะ..”
“ตรงโน้นอ่าวเตยงาม เดี๋ยวจะลงไปที่นั่นกัน มีพิพิธภัณฑ์นาวิกโยธิน แพรวคงได้ความรู้อีกไม่น้อยเหมือนกัน”
พอเห็นสายตามีคำถามของแพรวพรรณเขาจึงอธิบายสั้น ๆ ว่า
“นาวิกโยธินก็คือทหารเรือที่ทำหน้าที่เหมือนทหารบก..อยู่บนบก รบบนบก ไม่ต้องบังคับเรือ ไม่ต้องทำงานบนเรือ..”
“ค่ะ..พอรู้อยู่บ้างค่ะ พอมาเห็นสถานที่จริง ๆ แบบนี้ จินตนาการแพรวเริ่มออกมาแล้วค่ะ”
“ถึงไหนแล้ว..”
“ก็ที่สัตหีบนี่คงเป็นครึ่งหลังของเรื่องค่ะ..เริ่มต้นก็อยู่ท้องนา พระเอกก็เลี้ยงน้องช่วยพ่อแม่ หาปูหาปลา ตกกล้า ดำนา ต่อมาก็เข้าโรงเรียนประถม มัธยม แล้วก็โรงเรียนเตรียมทหาร โรงเรียนนายเรือ..”
“มีฉากสัตหีบนิดเดียว..”
“ตอนนั้นคิดไว้เล่น ๆ ค่ะ แต่ตอนนี้ กำลังหาวิธีเล่าเรื่องใหม่ ทหารเรือมีรบด้วยเหรอค่ะ เกิดมาไม่ได้ยินข่าวเกี่ยวกับทหารเรือสักเท่าไหร่ ล่าสุดที่ได้ยินก็เรื่องไปปราบโจรทำสลัดผักที่โซมาเลีย”
“พูดเหมือนกับว่าทหารเรือไม่ได้ทำงานทำการกัน”
“ความรู้สึกของพลเรือนเป็นอย่างนั้นจริง ๆ นี่คะ อ่านนิยาย ชื่นชีวานาวี ของ กาญจนา นาคนันท์ เรื่องก็ห้าสิบหกสิบปีมาแล้ว มีติดกงติดเกาะด้วย แต่ของแพรวคงไม่มีนางเอกไปบนเรือหรอกค่ะ แพรวแอนตี้ฉากติดเกาะ”
“แต่เท่าที่รู้มา ได้แต่งงานกันเพราะติดเกาะก็ไม่รู้กี่คู่เลยนะ”
“แล้วถ้ามีคนติดเกาะจริง ๆ ปกติเป็นหน้าที่ของใครที่ต้องไปช่วย”
“กรณีพายุเข้า เรือเล็กออกจากเกาะเข้าฝั่งไม่ได้ ก็ใช้เรือรบหลวงทำหน้าที่ไปลำเลียงประชนชนหรือไม่ก็ใช้เรือรบหลวงขนของไปช่วยคนบนเกาะ..หน้าที่ทหารเรือมีอีกไม่น้อย..และเราก็มีทัพเรือถึงสามภาค อ่าวไทยตอนบน ตอนล่าง แล้วก็ฝั่งอันดามัน”
“เสียงเข้มเชียว”
“ออกเรือทีเป็นเดือนก็มี..”
“แล้ว..”
“แฟนเฟินหนีหมด..”
“จริงสิ”
“ใครมันจะทนเหงาทนคิดถึงกันไหว..”
“แต่แพรวได้ข่าวมาว่า ทหารเรือนี่เจ้าชู้มาก ขึ้นบกที่ไหนไข่เรี่ยไข่ราด”
“ข่าวไม่ได้กรองนะซิ มีที่ไหน ขี้อายกันจะตาย ตั้งแต่เรียนเตรียม ยันวันเข้าทำงาน วัน ๆ เจอแต่ผู้ชาย คุยกับผู้หญิงละตะกุกตะกัก คิดอะไรกัน ไม่ค่อยออกหรอก”
“แต่แพรวไม่เห็นรู้สึกว่าพี่ต้นเป็นแบบนั้นเลย”
“แบบพี่ละส่วนน้อย ส่วนใหญ่เป็นอย่างที่พี่ว่านี่แหละ”
“ส่วนน้อยที่ต้องปัดเข้าหมวดที่หน่วยข่าวไม่ได้กรองของแพรวให้มาด้วยใช่หรือเปล่า”
จิรวัติหัวเราะกับความเฉลียวฉลาดของหญิงสาว..แต่ยังไม่ทันที่เขาจะต่อปากต่อคำรับสมองประลองเชาว์..โทรศัพท์ที่ในกระเป๋ากางเกงของเขา ซึ่งเขาตั้งแบบสั่นไว้ก็มีสัญญาณเรียกเข้า..ด้วยขาของเขากระตุกตามสัญชาตญาณป้องกันตัว แพรวพรรณจึงรู้ว่า โทรศัพท์ของเขาตั้งระบบสั่นไว้..
“ตามสบายเลยค่ะ” ว่าแล้วแพรวพรรณก็ขยับห่างจากเขาไปประมาณห้าหกก้าว แล้วก็แสร้งชมวิวทะเลสีครามกับเกาะเล็ก ๆ ซึ่งมีอยู่ไม่กี่เกาะ โดยหูนั้นก็พยายามเงี่ยฟังเสียงของเขาไปด้วย..
“น้องภีร์..อ้าว มาสัตหีบกับคุณแม่ มาธุระอะไรกัน ...งานศพ มาเผาศพพรุ่งนี้ คืนนี้จะมาฟังสวด แล้วพักกันที่ไหน..จะให้พี่หาให้..ได้ ๆ แล้วจะถึงสัตหีบกันกี่โมง พี่..เอ่อ..” เขาพูดโทรศัพท์ไปพลางครุ่นคิดไปเพราะค่ำนี้เขามีนัดเลี้ยงอาหารแพรวพรรณหากแต่ผิดนัดมันก็จะเสียคำพูด..
“พี่..” เขาลังเล เพราะทางนั้นก็คนสำคัญ ซึ่งนาน ๆ จะมีเรื่องมารบกวนเสียทีและวันนี้เขาก็ไม่ได้ออกทะเลปฏิบัติหน้าที่เสียด้วย..
“โอเค เดี๋ยวพี่หาโรงแรมได้ แล้วพี่จะโทรบอกนะ แล้วเย็นนี้กินข้าวเย็นด้วยกัน..โอ้ว..ลืมไป..ต้องไปฟังสวด..งั้นก็เดี๋ยวเจอกันที่โรงแรมดีกว่า พี่จะไปรอที่นั่น...วันนี้ เพื่อนมาหา ต้องดูแลเค้าเหมือนกัน โอเค ค่อยว่ากัน ขับรถดี ๆ นะครับ..ครับ ๆ เดี๋ยวเจอกันครับ”
กดสายโทรศัพท์แล้ว จิรวัติก็ระบายลมหายใจออกมาเบา ๆ..ส่วนแพรวพรรณก็หันมายิ้มหวานให้เขา..ประมาณว่า ‘เสร็จธุระแล้วนะคะ’ ..แต่ใจจริงนั้น .. ‘คุยกับใครหรือคะ’
“น้องหมอภีร์น่ะ น้องสาวของเพื่อนพี่ น้องไอ้ริช เพื่อนสมัยเตรียมทหาร ตอนนี้เค้ากำลังพาคุณแม่มาสัตหีบ จะมาฟังสวดศพเพื่อนครูของคุณแม่ ซึ่งเป็นคนที่นี่ แล้วจะเผาพรุ่งนี้”
“พี่ต้องไปดูแลเค้าใช่ไหมคะ แพรวเข้าใจค่ะ”
“แต่เดี๋ยวพี่พาแพรวไปดูพิพิธภัณฑ์นาวิกโยธินข้างล่างก่อนก็ได้ ส่วนที่พักของเขา พี่คิดว่าจะให้พักที่เดียวกับแพรวนั่นแหละ บรรยากาศใช้ได้ทีเดียว แพรวเอานามบัตรของโรงแรมมาด้วยหรือเปล่า”
พอเขาเปิดเผยมาแบบนี้ แม้มันจะยังคลุมเครือ แพรวพรรณก็รู้สึกใจชื้นขึ้นมาอีกไม่น้อย หญิงสาวล้วงกระเป๋าสะพายที่เต็มไปด้วยสัมภาระแล้วส่งนามบัตรให้กับเขา..ซึ่งขณะที่รับนามบัตรไป เขาก็พูดขึ้นมาลอย ๆ ว่า “ถ้าเย็นนี้ พี่ไม่ได้เลี้ยงข้าวแพรว แพรวต้องไม่โกรธพี่นะครับ”
“ฟังจากที่เธอเล่าแล้ว เค้าก็แคร์ทางน้องหมอภีร์กับคุณแม่อยู่ไม่น้อย พี่ว่าแฟนเค้าแน่ ๆ เลย”
“แพรวก็คิดว่าใช่..” แพรวพรรณนอนกลิ้งไปกลิ้งมาบนที่นอนหนานุ่มโดยไม่สนใจสักนิดว่าผมเส้นสีดำเป็นแพยาวถึงกลางหลังจะพันกันยุ่งเหยิง.. ในมือนั้นก็มีโทรศัพท์แนบอยู่กับหูไปด้วย และพอได้ระบายความคิดที่วนเวียนในอ่างให้พี่หิรัญญาได้รับรู้แล้ว แพรวพรรณก็รู้สึกว่า ใจที่หน่วง ๆ นั้น คลายลงไป
“แพรวว่าแพรวก้าวพลาดไปช็อตหนึ่ง...แพรวไม่น่ารีบบอกกับพี่เค้าว่าหนึ่งเป็นแค่เพื่อน..เหมือนแบไต๋ให้เขารู้ก่อนที่เกมส์จะเริ่มต้น..”
“แต่พี่ว่าเขาคงรู้แล้วแหละ ว่าเธอมาที่นี่เพื่อจะมาหาเขา..”
“ก็มาเพื่อหาเค้าจริง ๆ นี่พี่ ถ้าไม่เพราะเค้าแพรวก็กินหมูเขียนเรื่องน้องคนเล็กไปแล้ว”
“ยอกย้อนนะยะ”
“พูดความจริงก็นะ ไม่ดีอีก”
“ความจริงดี แต่ว่า มันก็ต้องดูบริบทของปัจจุบันด้วย..แต่เธอเก่งนะ ที่สามารถทำให้เขารู้สึกกับเรื่องดี ๆ กับเรื่องโกหกของเธอได้”
“เป็นเพราะแพรวได้อ่านนิยายของพี่แหละค่ะ ลำพังนิยายแพรวเอง มีอะไรซับซ้อนที่ไหน..”
“จะด่าฉัน ด่ามาตรง ๆ เลย..”
“จะมาพรุ่งนี้ตอนเย็นหรือว่าวันจันทร์ จะได้เข้าเน็ตหาที่พักใหม่ ที่นี่ไม่ไหว ..หรู แต่ว่าไม่ได้ฟิวด์ทหารเรือเลย..”
“ฉันไม่ไปดีกว่า ..”
“ไม่ได้นะ”
“เห็นแค่รูปถ่ายที่เธอส่งมา ฉันก็หวั่นไหวแล้วเนี่ย เจอหน้าเค้าฉันกระโดดปล้ำตัดหน้าเธอไปเธอจะแห้ว..”
นึกถึงรูปของเขาที่กว่าจะได้มา ก็เล่นเอาเธอต้องทำเฉไฉถ่ายรูป อนุสาวรีย์นาวิกโยธิน หาดเตยงาม ผาวชิราลงกรณ์ ..และสุดท้าย..แพรวพรรณก็ตัดสินใจไม่อ้อมค้อม..ก่อนจะเปลี่ยนอุปกรณ์ในมือจากกล้องถ่ายรูปคุณภาพสูง..เป็นโทรศัพท์มือถือที่มีลูกเล่นเพียบพร้อมแทน..
“ขอถ่ายรูปพี่ได้ไหม”
“ได้สิ”
“หนึ่ง สอง สาม..แช๊ะ..อีกรูปนะคะ..หนึ่ง สอง สาม แช๊ะ” แช๊ะทั้งที่จริง ๆ แล้วโปรแกรมถ่ายรูปในโทรศัพท์มือถือมันก็มีเสียงแช๊ะอยู่แล้ว..และตอนนั้น เธอก็ทำให้เขายิ้มสดใสได้..
“ให้พี่ถ่ายให้ บ้างไหม”
“ได้ค่ะ”
“เครื่องของพี่แล้วกันนะ..”
“เอางั้นเหรอคะ” สีหน้านั้นเรียบเฉย ทำเหมือนคิดไม่ทัน ทั้งที่ในใจนั้น ‘ไหมละ ๆ คงนึกอยากจะเก็บรูปเค้าไว้บ้างละซี้ สวยขนาดนี้ มองข้ามไปก็ ก็ต้องยกให้เป็นอาหารของนังหนึ่งนาทีเสียแล้ว..’
“สวย ที่ สุด แช๊ะ”
พอเขาปล่อยมุกมาแบบนี้แพรวพรรณถึงกับกลั้นขำไว้ไม่ไหว..
“หัวเราะอะไร..เอ้า เร็ว ๆ อีกรอบ ๆ ..” ปากพูดไปแต่มือก็กดชัตเตอร์ตอนที่สาวเจ้าหัวเราะไปด้วย “ก็พี่..”
“อีกบานนะ”
“บาน..” แพรวพรรณนึกขำขึ้นมาอีกเพราะ ลักษณะนามแบบนี้ มันเป็นภาษาถิ่น..
“บานก็บานค่ะ..”
“เอ้า สวย บาด ใจ แช๊ะ”
“ลบรูปไม่สวยออกด้วยนะ”
“สวยทุกบาน สวยบาดใจ สวยที่สุด..”
นึกถึงตอนถ่ายรูปเล่นกันที่หน้าตรงอนุสาวรีย์นาวิกโยธินวงเวียนด้านหน้าอาหารพิพิธภัณฑ์นาวิกโยธินซึ่งมีข้อมูลเกี่ยวกับทหารเรือที่อยู่บนบกมากมาย แล้วแพรวพรรณก็ยิ้มกริ่ม....
“ทำได้จริงดิ้”
“ถ้าฉันไป ..มันก็เป็นเหมือนกว้างขวางคอ..เหมือนตอนที่นังหนึ่งมันอยู่..รู้หรือเปล่าว่าตอนนั้นใครโทรหาหนึ่ง”
“อย่าบอกนะว่าพี่”
“แหม อย่าลืมซิฉันได้โล่มาจากวัฒนธรรมจังหวัดนะจ้ะ แล้วเขาก็ให้คนที่มีความสามารถเท่านั้น.. เรื่องขี้ผง คิดไม่ได้ก็ไม่ไหวแล้ว”
“พี่ญาอ่ะ..ร้าย อย่างร้าย”
“ติดเกาะอยู่กับอีตาผู้การนาวินต้านั่นแหละ บอกเค้าไปว่า ฉันติดธุระ ยังมาไม่ได้..”
“พี่อ่ะ..เล่นอย่างนี้จริง ๆ เหรอ”
“น่า เธอก็อ่านนิยายพี่แทบจะทุกเล่มแล้ว พี่มั่นใจได้ว่า ความเจ้าเล่ห์เพทุบายของเธอก็มีไม่น้อยหน้าใคร..อวยพรให้ได้แต่งงานกันในตอนจบนะจ้ะ..”
“อ้าว พี่ต้นเพิ่งมาถึง จะแต่งตัวไปไหนอีก” เรือโทศุภโชค ตำแหน่งต้นเรือ ซึ่งประจำการอยู่เรือ ต.92 ลำเดียวกัน เป็นรุ่นน้องโรงเรียนนายเรือ ซึ่งมีห้องอยู่ติดกันซึ่งเดินออกจากห้องพักของตัวเองมาเอ่ยทักเมื่อเห็นเรือเอกจิรวัติ กำลังปิดประตูห้องพัก
“ไปงานศพ..ไปด้วยกันไหม..”
“งานใครครับ..”
“เพื่อนของแม่พร..ไปเปล่า น้องภีร์มาด้วยนะ” ศุภโชค รู้จักน้องภีร์ หรือหมอภีรชา เป็นอย่างดี เพราะสาวเจ้าโทรมาหาผู้การเรือที่เขาประจำการอยู่บ่อย ๆ แล้วผู้การก็เล่าถึงความสัมพันธ์แต่เก่าก่อนให้เขาได้รับรู้..และจนถึงวันนี้ แม้ผู้การจะพยายามเป็นพ่อสื่อให้กับเขา แต่ว่าหมอภีรชาก็ได้สนใจเขาสักนิด..เพราะก็น่าจะเป็นรู้กันดีกว่า ชีวิตหมอที่ทำงานอยู่ในโรงพยาบาลพระมงกุฎ กับชีวิตทหารเรือที่มีชีวิตส่วนใหญ่อยู่ในทะเลนั้นยากที่จะได้ใกล้ชิดกัน อยู่ด้วยกันตลอดเวลา..
ดังนั้นเขาเองจึงเฝ้ารอคอยใครสักคน ที่เหมาะสม รักและเข้าใจในความเป็นทหารเรือของเขา
“แล้วน้องนักเขียนนั่นละ เอาไปทิ้งไว้ไหน..สายลับของผมรายงานมาว่า สวยไม่น้อยหน้าใคร”
“ส่งเข้าห้องพักไปแล้ว”
“สวยแค่ไหนพี่.. ดูรูปหน่อยสิ”
“ไม่มี้”
“สายผมรายงานว่า พี่เอากล้องมือถือของพี่ถ่ายรูปเธอไว้ด้วย”
“แล้วทำไม เอ็งไม่ให้สายสืบสายสะดืออะไรนั่น ถ่ายรูปส่งมาให้ดูซะเลยละวะ”
“แล้วผู้การคิดหรือว่า คนอย่างไอ้โชค จะไม่มีภาพนั้น” ว่าแล้วเจ้าตัวที่อยู่ในชุดกางเกงขาสั้นเสื้อยืดคอกลมสีขาว ก็ส่งโทรศัพท์ในมือไปให้
จิรวัติรับกล้องจากรุ่นน้องมาดู แล้วก็ต้องคลี่ยิ้ม..
“ใช้ได้เลยโว้ย เอ็งนี่สมกับเป็นน้องพี่จริง ๆ”
“เอาเก็บไว้แบล็คเมล์ผู้การ” อยู่กันตามลำพังแบบนี้ จึงเรียก ‘พี่’ แทน คำว่า ‘ผู้การ’ ได้บ้าง แต่ด้วยติดปากกับคำว่า ‘ผู้การ’ จึงได้ใช้สลับกันไปมา..
“เอาเหอะ..ตามสบาย ไม่ไปจริง ๆ หรือวะ”
“ไปดูแลน้องนักเขียนได้ไหมละ สนใจคนนั้นมากกว่า” ศุภโชคแกล้งยั่วอารมณ์ของผู้บังคับบัญชาของตนเอง
“มาเอาเบอร์ไป..” จิรวัติทีท่าเป็นล้วงกระเป๋ากางเกงสแลคสีดำเข้ากับเสื้อเชิ้ต เข็มขัด และรองเท้าสีดำ..แต่แล้วก็เปลี่ยนใจ “ไม่เอาดีกว่า..อย่างไรเค้าก็คงไม่ชอบเอ็งหรอก เสียเวลา..”
“โห..”
“ไม่ต้องให้บอกนะว่าเพราะอะไร..ไปแล้ว..เดี๋ยวเค้าจะรอ..เอ้อ แล้ว เดี๋ยวไขประตูห้องเอาขนมไปเก็บไว้ด้วย พรุ่งนี้ฝากไปแบ่งกันกินบนเรือด้วย..”
“กินตอนนี้ได้เลยเปล่า”
“ได้..ตามสบาย”
“ไม่ให้เบอร์คุณนักเขียนผมจริง ๆ เหรอ”
จิรวัติไม่ได้ตอบเพียงแต่เดินไปแล้วยกมือขึ้นโบกให้รู้ว่า ‘ไม่ให้’
แม้จะเคยนอนคนเดียวในห้องพักของโรงแรมแต่ว่าครั้งก่อน ๆ นั้น ห้องข้าง ๆ ยังเป็นห้องพ่อแม่ ห้องพี่ชายพี่สะใภ้ หรือไม่ก็เป็นห้องเพื่อนนักเขียนที่ไปมิตติ้งด้วยกัน แต่ว่าครั้งนี้ ความรู้สึกเหมือนอยู่คนเดียวในโรงแรมกว้างใหญ่ แม้สภาพโรงแรมจะดูใหม่เอี่ยม แต่ว่า คำว่า ‘ผี’ มันก็ไม่ได้สนใจหรอกว่า สถานที่ตรงนั้นบรรยากาศเป็นอย่างไร..
“ซวยแล้วไหมละ ทำไงดีละนี่ พระก็ไม่ได้เอามาสักองค์..หนึ่งนะหนึ่งฉันอยากจะบีบคอแกจริง ๆ ทำกันได้นะ ดูซิ โทรกลับไปก็ปิดเครื่อง ..”
ทางเดียวที่จะช่วยได้ในเวลานี้ก็คือ เพิ่มเสียงของรายการโทรทัศน์ที่กำลังดูอยู่..แต่ว่าพอโฆษณาจบลง ดันกลายเป็นละครผีซะอีก..แพรวพรรณรีบคว้ารีโมทเปลี่ยนช่องสัญญาณ จนกระทั่งพบช่องที่มีแต่มิวสิควีดีโอ หญิงสาวจึงตัดสินใจเปิดแช่ช่องสัญญาณนั้นไว้ หลังจากที่ความกลัวบรรเทาลงแล้ว อารมณ์ที่จะโต้ตอบกับผู้คนบนโลกอินเตอร์เน็ตที่ต่อเชื่อมกับคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊คก็เข้ามา..
‘สัตหีบ เหงามาก’ ขึ้น ‘อัพเดทสถานะ’ ไว้แล้ว แพรวพรรณก็เปิดแฟ้มงานนิยาย ‘ร.รัก ร.เรือ’ ขึ้นมา หลังจากนั้นก็คลิ๊กไปหาแฟ้มข้อมูลสัตหีบ ตามด้วยคว้าโทรศัพท์มือถือเปิดสัญญาณบลูทูธส่งรูปจากกล้องเข้าเก็บไว้ในแฟ้มภาพสัตหีบที่อยู่ในคอมพิวเตอร์ เพื่อที่จะได้แต่งภาพเอาไว้โพสต์แบ่งปันให้เพื่อสมาชิกท่านอื่นได้เห็นเหมือนที่เธอมาเห็น
ที่หน้าโปรแกรมเฟสบุ๊คมีเพื่อนสมาชิกทักทายเข้ามา..และหนึ่งในนั้นเป็นผู้หญิงเขียนข้อความถามว่า ‘อยู่สัตหีบ มาทำอะไรคะ นุชก็อยู่สัตหีบเหมือนกัน’
ด้วยงานฌาปนากิจจะเริ่มขึ้นตอนหลังเที่ยงวันอาทิตย์ ในช่วงสายของวันพรุ่งนี้ เรือเอกจิรวัติ สุกปลั่ง จึงต้องเอ่ยปากชวนคุณแม่กับน้องสาวของเพื่อนที่คุ้นเคยกันเป็นอย่างดี ไปดูศูนย์อนุรักษ์พันธุ์เต่าทะเลไทย ต่อด้วยพาไปเลี้ยงอาหารกลางวันประเภทอาหารทะเลตรงเส้นทางไปบ้านแสมสาร เพราะว่าโอกาสที่เขาจะว่างตอบแทนบุญคุณโดยการดูแลอำนวยความสะดวกในลักษณะนี้กับครอบครัวของคุณแม่ปรียาพร ผู้มีพระคุณกับเขาเป็นอย่างมากหาไม่ได้ง่าย ๆ นัก
ส่วนหนึ่งก็คือเขาอยู่สัตหีบ และทางนั้นก็อยู่กรุงเทพฯ โอกาสที่เขาจะเข้ากรุงเทพฯแวะไปเยี่ยมเยียนก็มีไม่บ่อยนัก และโอกาสที่ทางนั้นจะว่างขึ้นมาที่นี่ ก็มีเพียงน้อยนิดเช่นกัน เพราะภูริชเพื่อนรักของเขาซึ่งเป็นนายทหารบกกองกำลังพิเศษ ก็อุทิศตนเพื่องาน จนกระทั่งไม่มีเวลาให้ครอบครัวและการหาคู่ครอง..ส่วนน้องภีรชาคนขับรถก็เป็นคุณหมอที่เวรอยู่โยงในโรงพยาบาลแทบไม่ได้ว่างเว้น..
และงานนี้เขาก็กะว่าจะชวนแพรวพรรณให้ร่วมเดินทางไปด้วยกัน ดังนั้นพอส่งน้องหมอภีรชากับคุณแม่ขึ้นที่พักเรียบร้อยแล้ว ก่อนที่จะออกรถเพื่อกลับที่พัก จิรวัติที่รู้สึกผิดเพราะไม่ได้ทำตามสัญญาที่ได้รับปากไว้กับหญิงสาวก็ดึงโทรศัพท์มือถือออกมาจากกระเป๋าเสื้อ..
‘น้องแพรว’ เขากดโทรออกทันที..เพลง ‘สักวันหนึ่ง’ ซึ่งเป็นเพลงประกอบภาพยนตร์สิ่งเล็ก ๆ ที่เรียกว่ารักดังขึ้นต้อนรับ เขาฟังจนเพลิน จนกระทั่ง..
“พี่ต้นกล้า..”
“หลับแล้วหรือยัง”
“ยังค่ะ นั่งทำงานอยู่ คุย msn กับพี่ ๆ นักเขียน ประชุมกลุ่มกันค่ะ กำลังจะสรุปเรื่องกัน..”
“งั้นพี่กวนแพรวแน่ ๆ”
“ไม่ค่ะ คุยได้”
“แล้วเมื่อเย็นนี้กินข้าวที่ไหน”
“สั่งขึ้นมาบนห้องค่ะ”
“อืม ดีแล้ว..พี่เองก็ลืม ว่าจะเตือนแพรว เรื่อง สร้อย แหวน นาฬิกา ว่าให้ถอดเก็บ เดินออกมาข้างนอกเราไม่รู้ใครเป็นใคร แพรวไม่ได้ลงมาหาข้าวทานข้างนอกก็ดีแล้ว”
“ค่ะ เดี๋ยวแพรวถอดเก็บดีกว่า”
“แล้วก็ดูแลรักษามันไว้ให้ดี ๆ นะ อย่าวางทิ้งไว้ในห้อง ไว้ใจใครไม่ได้ทั้งนั้น”
“เจ้าค่ะ”
“พี่ขอโทษด้วยที่ไม่ได้ทำตามที่สัญญาไว้”
“โอ้ย ไม่เป็นไรค่ะพี่ แพรวยังอยู่อีกหลายวัน พี่ได้เลี้ยงต้อนรับแพรวแน่ ๆ แต่ว่า แพรวยังไม่ได้เติมน้ำมันรถให้พี่เลยนะคะ”
“ไม่เป็นไร พี่ไม่ได้คิดเล็กคิดน้อยอะไรหรอก รู้สึกเป็นเกียรติเสียอีกที่ได้ช่วยนักเขียนใหญ่”
“โอ้ย มากไปพี่..แพรวนักเขียนมือใหม่ งานนี้แพรวยังไม่รู้เลยว่าจะทำสำเร็จไหม เขียนนิยายมันไม่ง่ายหรอกค่ะ”
“แต่ก็ทำมาได้หลายเล่มแล้วนี่”
“แล้วนี่ พี่ต้องช่วยแพรวให้ถึงที่สุดนะคะ รบกวนเวลาส่วนตัวพี่บ้างอะไรบ้าง พี่อย่าว่าแพรวนะคะ งานนี้แพรวเกรงใจพี่ต้นกล้าจังเลย”
“เกรงใจทำไม คนบ้านเดียวกันช่วยกันได้ก็ช่วยกัน”
“ถ้าเป็นคนบ้านอื่นจะไม่ช่วย..”
“คนบ้านอื่นก็คงยากที่จะเข้ามาให้ช่วย..”
“ดีใจที่ได้เกิดมาเป็นคนบ้านเดียวกันกับพี่ต้นกล้า..คนอะไรก็ไม่รู้ทั้งเก่ง..ทั้ง ทั้ง...เก่งจริง ๆ”
“แพรวก็เก่ง ทั้งเก่งทั้งสวย” หยอดน้ำตาลให้หญิงสาวไปแล้วเขาก็เข้าเรื่องสำคัญ “เอ้อ พี่จะบอกว่า พรุ่งนี้ หลังอาหารเช้าของโรงแรมสักสองโมงเช้า ก่อนจะไปร่วมงานฌาปนกิจภาคบ่าย พี่จะพาแม่พรกับน้องภีร์ไปชมศูนย์เต่าทะเล แล้วหาอาหารกลางวันกินด้วย พี่จะชวนแพรวให้ไปด้วยกันเลย..แพรวว่าอย่างไร”
‘ว่าอย่างไร’ แพรวพรรณครุ่นคิด ใจหนึ่ง ถ้าเธอเห็นเขา ‘จี๋จ๋า’ กันใจเธอมันก็ไม่ไหว และอีกอย่างพรุ่งนี้เธอก็ดันไปเผลอนัดแฟนคลับไว้ว่าจะไปพบกันที่ห้างโลตัส ..แพรวพรรณตรองอยู่อึดใจ ก่อนจะตอบความจริงไปว่า
“เอ่อ พรุ่งนี้แพรวมีนัดค่ะ พอดีในเฟสของแพรว เพื่อนนักอ่านพอรู้ว่าแพรวอยู่ที่นี่ เค้าก็จะมาหาแพรวที่โลตัส นัดเอาหนังสือมาให้เซ็น แล้วก็กินข้าวด้วยกัน..แพรวคงไปด้วยไม่ได้..”
พอรถเก๋ง Toyota Vios ของผู้การหนุ่มถึงลานจอดรถหน้าศาลกรมหลวงฯ แพรวพรรณก็ถึงกับหดตัวยกขาทั้งสองข้างขึ้นพลางร้อง “อุ้ย!! งู”
จิรวัติหัวเราะเบา ๆ ผู้หญิงแทบทุกคนจะกลัวงูและแพรวพรรณก็เป็นหนึ่งในนั้น..
“งูปลอมนี่นา..เอาวางไว้บนหลังรถทำไมคะ” แพรวพรรณเหลียวหน้าเหลียวหลัง มองไปรอบ ๆ ตัว ใจที่ร่วงหล่นสัตว์เลื้อยคลานตัวที่เกลียดจับใจ เริ่มเต้นเป็นจังหวะตามเดิม
“เอาไว้ไล่ลิงป่า มันชอบลงมาแย่งเครื่องเซ่นไหว้ ชอบป่ายปีนไปบนหลังรถ ทำให้รถเป็นรอย..”
“บ้านเราที่เขาหน่อใช้จระเข้นะคะ”
“ก็ที่นี่สัตหีบ..จระเข้น้ำจืดมาไม่ถึง..”
“แบบนี้หัวงูคงเยอะด้วยใช่ไหมคะ” พอรู้ว่าเล่นเกินงามไปแล้ว แพรวพรรณก็รีบปลดล็อคข้างตัว..
“ไม่ต้องลงไปเปิดประตูให้แพรวนะคะ แพรวจัดการตัวเองได้..เกรงใจค่ะ”
“เอางั้น”
“หรือมันจะทำให้พี่เสียความเป็นสุภาพบุรุษ”
“ไม่หรอก..สุภาพบุรุษมันไม่ได้วัดกันตรงที่เปิดประตูปิดประตู..”
“แล้ววัดกันที่ตรงไหน”
“ก็รู้จักให้เกียรติท่านสุภาพสตรี..เลดี้เฟิร์ส เจนเติ้ลเมนบีฟอร์”
“ทุกคนหรือเปล่าคะ”
“บางคนอาจจะพิเศษหน่อย”
แพรวพรรณเลิกคิ้ว กรอกตาไปมาแกล้งทำท่าว่าครุ่นคิดประโยคเด็ด ๆ..แต่พอดีโทรศัพท์ในกระเป๋าของเธอก็ดังขึ้น..หญิงสาวรีบเปิดประตูรถคว้ากระเป๋าแล้วลงจากรถไปค้นโทรศัพท์ออกมาพูด..
“หนึ่งเหรอ...”
“แหม..เสียงดังแค่ไหนเนี่ย..”
“ถึงกรุงเทพฯแล้วเหรอ”
“เป็นไง ความรักของเธอกับผู้การ พอไม่มีฉันเป็นก้างขวางคอแล้วเป็นไงมั่ง”
“ยังไม่ถึงเหรอ ไม่ต้องรีบนะ ขับรถดี ๆ ระมัดระวังด้วย”
“หวังว่าคืนนี้..คงไม่ถึงกับให้เขาต้องนอนเป็นเพื่อนหรอกนะ..”
“โอเคนะ ไม่เป็นไรจ้ะ แพรวอยู่ได้ ไม่ต้องห่วง ไม่เป็นไรจริง ๆ แพรวไม่โกรธหรอก ธุระของหนึ่งก็สำคัญนี่.. จ้ะ ๆ บายจ้ะ..”..พอกดวางสายปุ๊บแพรวพรรณก็กดปิดเครื่องแกล้งปลายสายอีกทันที..และพอหันมา แพรวพรรณก็พบว่าเขายืนมองเธออยู่ แถมดวงตาก็ดูจะพอใจกับน้ำเสียงที่เธอคุยกับนาทีเสียด้วย..
หลังจากที่ถวายเครื่องสักการะพระรูปของ ‘เสด็จเตี่ย’ แล้ว จิรวัติก็พาแพรวพรรณออกเดินไปชมวิวรอบ ๆ ศาลและประภาคาร ซึ่งมองไปก็จะเห็นท้องทะเลสีคราม เกาะแก่งในทะเล กับป่าเขาลำเนาไพรที่อยู่ด้านหลังและตึกที่ทำการของเหล่าทหารเรือ..
“สวยจริง ๆ แต่เสียดายที่เขาไม่ให้ถ่ายรูป..” ก่อนหน้านั้น พอมั่นใจว่า นาทีจะไม่โทรย้อนกลับมาหยอกเย้าเธออีกแล้ว แพรวพรรณก็เปิดเครื่อง แล้วใช้โทรศัพท์เครื่องเตรียมไว้ถ่ายรูปพี่ต้นกล้า เพื่อจะส่งให้พี่หิรัญญา..
“ก็เก็บไว้ในใจ”
“ค่ะ มันคงอยู่ในใจเสมอแหละค่ะ..”
“ตรงโน้นอ่าวเตยงาม เดี๋ยวจะลงไปที่นั่นกัน มีพิพิธภัณฑ์นาวิกโยธิน แพรวคงได้ความรู้อีกไม่น้อยเหมือนกัน”
พอเห็นสายตามีคำถามของแพรวพรรณเขาจึงอธิบายสั้น ๆ ว่า
“นาวิกโยธินก็คือทหารเรือที่ทำหน้าที่เหมือนทหารบก..อยู่บนบก รบบนบก ไม่ต้องบังคับเรือ ไม่ต้องทำงานบนเรือ..”
“ค่ะ..พอรู้อยู่บ้างค่ะ พอมาเห็นสถานที่จริง ๆ แบบนี้ จินตนาการแพรวเริ่มออกมาแล้วค่ะ”
“ถึงไหนแล้ว..”
“ก็ที่สัตหีบนี่คงเป็นครึ่งหลังของเรื่องค่ะ..เริ่มต้นก็อยู่ท้องนา พระเอกก็เลี้ยงน้องช่วยพ่อแม่ หาปูหาปลา ตกกล้า ดำนา ต่อมาก็เข้าโรงเรียนประถม มัธยม แล้วก็โรงเรียนเตรียมทหาร โรงเรียนนายเรือ..”
“มีฉากสัตหีบนิดเดียว..”
“ตอนนั้นคิดไว้เล่น ๆ ค่ะ แต่ตอนนี้ กำลังหาวิธีเล่าเรื่องใหม่ ทหารเรือมีรบด้วยเหรอค่ะ เกิดมาไม่ได้ยินข่าวเกี่ยวกับทหารเรือสักเท่าไหร่ ล่าสุดที่ได้ยินก็เรื่องไปปราบโจรทำสลัดผักที่โซมาเลีย”
“พูดเหมือนกับว่าทหารเรือไม่ได้ทำงานทำการกัน”
“ความรู้สึกของพลเรือนเป็นอย่างนั้นจริง ๆ นี่คะ อ่านนิยาย ชื่นชีวานาวี ของ กาญจนา นาคนันท์ เรื่องก็ห้าสิบหกสิบปีมาแล้ว มีติดกงติดเกาะด้วย แต่ของแพรวคงไม่มีนางเอกไปบนเรือหรอกค่ะ แพรวแอนตี้ฉากติดเกาะ”
“แต่เท่าที่รู้มา ได้แต่งงานกันเพราะติดเกาะก็ไม่รู้กี่คู่เลยนะ”
“แล้วถ้ามีคนติดเกาะจริง ๆ ปกติเป็นหน้าที่ของใครที่ต้องไปช่วย”
“กรณีพายุเข้า เรือเล็กออกจากเกาะเข้าฝั่งไม่ได้ ก็ใช้เรือรบหลวงทำหน้าที่ไปลำเลียงประชนชนหรือไม่ก็ใช้เรือรบหลวงขนของไปช่วยคนบนเกาะ..หน้าที่ทหารเรือมีอีกไม่น้อย..และเราก็มีทัพเรือถึงสามภาค อ่าวไทยตอนบน ตอนล่าง แล้วก็ฝั่งอันดามัน”
“เสียงเข้มเชียว”
“ออกเรือทีเป็นเดือนก็มี..”
“แล้ว..”
“แฟนเฟินหนีหมด..”
“จริงสิ”
“ใครมันจะทนเหงาทนคิดถึงกันไหว..”
“แต่แพรวได้ข่าวมาว่า ทหารเรือนี่เจ้าชู้มาก ขึ้นบกที่ไหนไข่เรี่ยไข่ราด”
“ข่าวไม่ได้กรองนะซิ มีที่ไหน ขี้อายกันจะตาย ตั้งแต่เรียนเตรียม ยันวันเข้าทำงาน วัน ๆ เจอแต่ผู้ชาย คุยกับผู้หญิงละตะกุกตะกัก คิดอะไรกัน ไม่ค่อยออกหรอก”
“แต่แพรวไม่เห็นรู้สึกว่าพี่ต้นเป็นแบบนั้นเลย”
“แบบพี่ละส่วนน้อย ส่วนใหญ่เป็นอย่างที่พี่ว่านี่แหละ”
“ส่วนน้อยที่ต้องปัดเข้าหมวดที่หน่วยข่าวไม่ได้กรองของแพรวให้มาด้วยใช่หรือเปล่า”
จิรวัติหัวเราะกับความเฉลียวฉลาดของหญิงสาว..แต่ยังไม่ทันที่เขาจะต่อปากต่อคำรับสมองประลองเชาว์..โทรศัพท์ที่ในกระเป๋ากางเกงของเขา ซึ่งเขาตั้งแบบสั่นไว้ก็มีสัญญาณเรียกเข้า..ด้วยขาของเขากระตุกตามสัญชาตญาณป้องกันตัว แพรวพรรณจึงรู้ว่า โทรศัพท์ของเขาตั้งระบบสั่นไว้..
“ตามสบายเลยค่ะ” ว่าแล้วแพรวพรรณก็ขยับห่างจากเขาไปประมาณห้าหกก้าว แล้วก็แสร้งชมวิวทะเลสีครามกับเกาะเล็ก ๆ ซึ่งมีอยู่ไม่กี่เกาะ โดยหูนั้นก็พยายามเงี่ยฟังเสียงของเขาไปด้วย..
“น้องภีร์..อ้าว มาสัตหีบกับคุณแม่ มาธุระอะไรกัน ...งานศพ มาเผาศพพรุ่งนี้ คืนนี้จะมาฟังสวด แล้วพักกันที่ไหน..จะให้พี่หาให้..ได้ ๆ แล้วจะถึงสัตหีบกันกี่โมง พี่..เอ่อ..” เขาพูดโทรศัพท์ไปพลางครุ่นคิดไปเพราะค่ำนี้เขามีนัดเลี้ยงอาหารแพรวพรรณหากแต่ผิดนัดมันก็จะเสียคำพูด..
“พี่..” เขาลังเล เพราะทางนั้นก็คนสำคัญ ซึ่งนาน ๆ จะมีเรื่องมารบกวนเสียทีและวันนี้เขาก็ไม่ได้ออกทะเลปฏิบัติหน้าที่เสียด้วย..
“โอเค เดี๋ยวพี่หาโรงแรมได้ แล้วพี่จะโทรบอกนะ แล้วเย็นนี้กินข้าวเย็นด้วยกัน..โอ้ว..ลืมไป..ต้องไปฟังสวด..งั้นก็เดี๋ยวเจอกันที่โรงแรมดีกว่า พี่จะไปรอที่นั่น...วันนี้ เพื่อนมาหา ต้องดูแลเค้าเหมือนกัน โอเค ค่อยว่ากัน ขับรถดี ๆ นะครับ..ครับ ๆ เดี๋ยวเจอกันครับ”
กดสายโทรศัพท์แล้ว จิรวัติก็ระบายลมหายใจออกมาเบา ๆ..ส่วนแพรวพรรณก็หันมายิ้มหวานให้เขา..ประมาณว่า ‘เสร็จธุระแล้วนะคะ’ ..แต่ใจจริงนั้น .. ‘คุยกับใครหรือคะ’
“น้องหมอภีร์น่ะ น้องสาวของเพื่อนพี่ น้องไอ้ริช เพื่อนสมัยเตรียมทหาร ตอนนี้เค้ากำลังพาคุณแม่มาสัตหีบ จะมาฟังสวดศพเพื่อนครูของคุณแม่ ซึ่งเป็นคนที่นี่ แล้วจะเผาพรุ่งนี้”
“พี่ต้องไปดูแลเค้าใช่ไหมคะ แพรวเข้าใจค่ะ”
“แต่เดี๋ยวพี่พาแพรวไปดูพิพิธภัณฑ์นาวิกโยธินข้างล่างก่อนก็ได้ ส่วนที่พักของเขา พี่คิดว่าจะให้พักที่เดียวกับแพรวนั่นแหละ บรรยากาศใช้ได้ทีเดียว แพรวเอานามบัตรของโรงแรมมาด้วยหรือเปล่า”
พอเขาเปิดเผยมาแบบนี้ แม้มันจะยังคลุมเครือ แพรวพรรณก็รู้สึกใจชื้นขึ้นมาอีกไม่น้อย หญิงสาวล้วงกระเป๋าสะพายที่เต็มไปด้วยสัมภาระแล้วส่งนามบัตรให้กับเขา..ซึ่งขณะที่รับนามบัตรไป เขาก็พูดขึ้นมาลอย ๆ ว่า “ถ้าเย็นนี้ พี่ไม่ได้เลี้ยงข้าวแพรว แพรวต้องไม่โกรธพี่นะครับ”
“ฟังจากที่เธอเล่าแล้ว เค้าก็แคร์ทางน้องหมอภีร์กับคุณแม่อยู่ไม่น้อย พี่ว่าแฟนเค้าแน่ ๆ เลย”
“แพรวก็คิดว่าใช่..” แพรวพรรณนอนกลิ้งไปกลิ้งมาบนที่นอนหนานุ่มโดยไม่สนใจสักนิดว่าผมเส้นสีดำเป็นแพยาวถึงกลางหลังจะพันกันยุ่งเหยิง.. ในมือนั้นก็มีโทรศัพท์แนบอยู่กับหูไปด้วย และพอได้ระบายความคิดที่วนเวียนในอ่างให้พี่หิรัญญาได้รับรู้แล้ว แพรวพรรณก็รู้สึกว่า ใจที่หน่วง ๆ นั้น คลายลงไป
“แพรวว่าแพรวก้าวพลาดไปช็อตหนึ่ง...แพรวไม่น่ารีบบอกกับพี่เค้าว่าหนึ่งเป็นแค่เพื่อน..เหมือนแบไต๋ให้เขารู้ก่อนที่เกมส์จะเริ่มต้น..”
“แต่พี่ว่าเขาคงรู้แล้วแหละ ว่าเธอมาที่นี่เพื่อจะมาหาเขา..”
“ก็มาเพื่อหาเค้าจริง ๆ นี่พี่ ถ้าไม่เพราะเค้าแพรวก็กินหมูเขียนเรื่องน้องคนเล็กไปแล้ว”
“ยอกย้อนนะยะ”
“พูดความจริงก็นะ ไม่ดีอีก”
“ความจริงดี แต่ว่า มันก็ต้องดูบริบทของปัจจุบันด้วย..แต่เธอเก่งนะ ที่สามารถทำให้เขารู้สึกกับเรื่องดี ๆ กับเรื่องโกหกของเธอได้”
“เป็นเพราะแพรวได้อ่านนิยายของพี่แหละค่ะ ลำพังนิยายแพรวเอง มีอะไรซับซ้อนที่ไหน..”
“จะด่าฉัน ด่ามาตรง ๆ เลย..”
“จะมาพรุ่งนี้ตอนเย็นหรือว่าวันจันทร์ จะได้เข้าเน็ตหาที่พักใหม่ ที่นี่ไม่ไหว ..หรู แต่ว่าไม่ได้ฟิวด์ทหารเรือเลย..”
“ฉันไม่ไปดีกว่า ..”
“ไม่ได้นะ”
“เห็นแค่รูปถ่ายที่เธอส่งมา ฉันก็หวั่นไหวแล้วเนี่ย เจอหน้าเค้าฉันกระโดดปล้ำตัดหน้าเธอไปเธอจะแห้ว..”
นึกถึงรูปของเขาที่กว่าจะได้มา ก็เล่นเอาเธอต้องทำเฉไฉถ่ายรูป อนุสาวรีย์นาวิกโยธิน หาดเตยงาม ผาวชิราลงกรณ์ ..และสุดท้าย..แพรวพรรณก็ตัดสินใจไม่อ้อมค้อม..ก่อนจะเปลี่ยนอุปกรณ์ในมือจากกล้องถ่ายรูปคุณภาพสูง..เป็นโทรศัพท์มือถือที่มีลูกเล่นเพียบพร้อมแทน..
“ขอถ่ายรูปพี่ได้ไหม”
“ได้สิ”
“หนึ่ง สอง สาม..แช๊ะ..อีกรูปนะคะ..หนึ่ง สอง สาม แช๊ะ” แช๊ะทั้งที่จริง ๆ แล้วโปรแกรมถ่ายรูปในโทรศัพท์มือถือมันก็มีเสียงแช๊ะอยู่แล้ว..และตอนนั้น เธอก็ทำให้เขายิ้มสดใสได้..
“ให้พี่ถ่ายให้ บ้างไหม”
“ได้ค่ะ”
“เครื่องของพี่แล้วกันนะ..”
“เอางั้นเหรอคะ” สีหน้านั้นเรียบเฉย ทำเหมือนคิดไม่ทัน ทั้งที่ในใจนั้น ‘ไหมละ ๆ คงนึกอยากจะเก็บรูปเค้าไว้บ้างละซี้ สวยขนาดนี้ มองข้ามไปก็ ก็ต้องยกให้เป็นอาหารของนังหนึ่งนาทีเสียแล้ว..’
“สวย ที่ สุด แช๊ะ”
พอเขาปล่อยมุกมาแบบนี้แพรวพรรณถึงกับกลั้นขำไว้ไม่ไหว..
“หัวเราะอะไร..เอ้า เร็ว ๆ อีกรอบ ๆ ..” ปากพูดไปแต่มือก็กดชัตเตอร์ตอนที่สาวเจ้าหัวเราะไปด้วย “ก็พี่..”
“อีกบานนะ”
“บาน..” แพรวพรรณนึกขำขึ้นมาอีกเพราะ ลักษณะนามแบบนี้ มันเป็นภาษาถิ่น..
“บานก็บานค่ะ..”
“เอ้า สวย บาด ใจ แช๊ะ”
“ลบรูปไม่สวยออกด้วยนะ”
“สวยทุกบาน สวยบาดใจ สวยที่สุด..”
นึกถึงตอนถ่ายรูปเล่นกันที่หน้าตรงอนุสาวรีย์นาวิกโยธินวงเวียนด้านหน้าอาหารพิพิธภัณฑ์นาวิกโยธินซึ่งมีข้อมูลเกี่ยวกับทหารเรือที่อยู่บนบกมากมาย แล้วแพรวพรรณก็ยิ้มกริ่ม....
“ทำได้จริงดิ้”
“ถ้าฉันไป ..มันก็เป็นเหมือนกว้างขวางคอ..เหมือนตอนที่นังหนึ่งมันอยู่..รู้หรือเปล่าว่าตอนนั้นใครโทรหาหนึ่ง”
“อย่าบอกนะว่าพี่”
“แหม อย่าลืมซิฉันได้โล่มาจากวัฒนธรรมจังหวัดนะจ้ะ แล้วเขาก็ให้คนที่มีความสามารถเท่านั้น.. เรื่องขี้ผง คิดไม่ได้ก็ไม่ไหวแล้ว”
“พี่ญาอ่ะ..ร้าย อย่างร้าย”
“ติดเกาะอยู่กับอีตาผู้การนาวินต้านั่นแหละ บอกเค้าไปว่า ฉันติดธุระ ยังมาไม่ได้..”
“พี่อ่ะ..เล่นอย่างนี้จริง ๆ เหรอ”
“น่า เธอก็อ่านนิยายพี่แทบจะทุกเล่มแล้ว พี่มั่นใจได้ว่า ความเจ้าเล่ห์เพทุบายของเธอก็มีไม่น้อยหน้าใคร..อวยพรให้ได้แต่งงานกันในตอนจบนะจ้ะ..”
“อ้าว พี่ต้นเพิ่งมาถึง จะแต่งตัวไปไหนอีก” เรือโทศุภโชค ตำแหน่งต้นเรือ ซึ่งประจำการอยู่เรือ ต.92 ลำเดียวกัน เป็นรุ่นน้องโรงเรียนนายเรือ ซึ่งมีห้องอยู่ติดกันซึ่งเดินออกจากห้องพักของตัวเองมาเอ่ยทักเมื่อเห็นเรือเอกจิรวัติ กำลังปิดประตูห้องพัก
“ไปงานศพ..ไปด้วยกันไหม..”
“งานใครครับ..”
“เพื่อนของแม่พร..ไปเปล่า น้องภีร์มาด้วยนะ” ศุภโชค รู้จักน้องภีร์ หรือหมอภีรชา เป็นอย่างดี เพราะสาวเจ้าโทรมาหาผู้การเรือที่เขาประจำการอยู่บ่อย ๆ แล้วผู้การก็เล่าถึงความสัมพันธ์แต่เก่าก่อนให้เขาได้รับรู้..และจนถึงวันนี้ แม้ผู้การจะพยายามเป็นพ่อสื่อให้กับเขา แต่ว่าหมอภีรชาก็ได้สนใจเขาสักนิด..เพราะก็น่าจะเป็นรู้กันดีกว่า ชีวิตหมอที่ทำงานอยู่ในโรงพยาบาลพระมงกุฎ กับชีวิตทหารเรือที่มีชีวิตส่วนใหญ่อยู่ในทะเลนั้นยากที่จะได้ใกล้ชิดกัน อยู่ด้วยกันตลอดเวลา..
ดังนั้นเขาเองจึงเฝ้ารอคอยใครสักคน ที่เหมาะสม รักและเข้าใจในความเป็นทหารเรือของเขา
“แล้วน้องนักเขียนนั่นละ เอาไปทิ้งไว้ไหน..สายลับของผมรายงานมาว่า สวยไม่น้อยหน้าใคร”
“ส่งเข้าห้องพักไปแล้ว”
“สวยแค่ไหนพี่.. ดูรูปหน่อยสิ”
“ไม่มี้”
“สายผมรายงานว่า พี่เอากล้องมือถือของพี่ถ่ายรูปเธอไว้ด้วย”
“แล้วทำไม เอ็งไม่ให้สายสืบสายสะดืออะไรนั่น ถ่ายรูปส่งมาให้ดูซะเลยละวะ”
“แล้วผู้การคิดหรือว่า คนอย่างไอ้โชค จะไม่มีภาพนั้น” ว่าแล้วเจ้าตัวที่อยู่ในชุดกางเกงขาสั้นเสื้อยืดคอกลมสีขาว ก็ส่งโทรศัพท์ในมือไปให้
จิรวัติรับกล้องจากรุ่นน้องมาดู แล้วก็ต้องคลี่ยิ้ม..
“ใช้ได้เลยโว้ย เอ็งนี่สมกับเป็นน้องพี่จริง ๆ”
“เอาเก็บไว้แบล็คเมล์ผู้การ” อยู่กันตามลำพังแบบนี้ จึงเรียก ‘พี่’ แทน คำว่า ‘ผู้การ’ ได้บ้าง แต่ด้วยติดปากกับคำว่า ‘ผู้การ’ จึงได้ใช้สลับกันไปมา..
“เอาเหอะ..ตามสบาย ไม่ไปจริง ๆ หรือวะ”
“ไปดูแลน้องนักเขียนได้ไหมละ สนใจคนนั้นมากกว่า” ศุภโชคแกล้งยั่วอารมณ์ของผู้บังคับบัญชาของตนเอง
“มาเอาเบอร์ไป..” จิรวัติทีท่าเป็นล้วงกระเป๋ากางเกงสแลคสีดำเข้ากับเสื้อเชิ้ต เข็มขัด และรองเท้าสีดำ..แต่แล้วก็เปลี่ยนใจ “ไม่เอาดีกว่า..อย่างไรเค้าก็คงไม่ชอบเอ็งหรอก เสียเวลา..”
“โห..”
“ไม่ต้องให้บอกนะว่าเพราะอะไร..ไปแล้ว..เดี๋ยวเค้าจะรอ..เอ้อ แล้ว เดี๋ยวไขประตูห้องเอาขนมไปเก็บไว้ด้วย พรุ่งนี้ฝากไปแบ่งกันกินบนเรือด้วย..”
“กินตอนนี้ได้เลยเปล่า”
“ได้..ตามสบาย”
“ไม่ให้เบอร์คุณนักเขียนผมจริง ๆ เหรอ”
จิรวัติไม่ได้ตอบเพียงแต่เดินไปแล้วยกมือขึ้นโบกให้รู้ว่า ‘ไม่ให้’
แม้จะเคยนอนคนเดียวในห้องพักของโรงแรมแต่ว่าครั้งก่อน ๆ นั้น ห้องข้าง ๆ ยังเป็นห้องพ่อแม่ ห้องพี่ชายพี่สะใภ้ หรือไม่ก็เป็นห้องเพื่อนนักเขียนที่ไปมิตติ้งด้วยกัน แต่ว่าครั้งนี้ ความรู้สึกเหมือนอยู่คนเดียวในโรงแรมกว้างใหญ่ แม้สภาพโรงแรมจะดูใหม่เอี่ยม แต่ว่า คำว่า ‘ผี’ มันก็ไม่ได้สนใจหรอกว่า สถานที่ตรงนั้นบรรยากาศเป็นอย่างไร..
“ซวยแล้วไหมละ ทำไงดีละนี่ พระก็ไม่ได้เอามาสักองค์..หนึ่งนะหนึ่งฉันอยากจะบีบคอแกจริง ๆ ทำกันได้นะ ดูซิ โทรกลับไปก็ปิดเครื่อง ..”
ทางเดียวที่จะช่วยได้ในเวลานี้ก็คือ เพิ่มเสียงของรายการโทรทัศน์ที่กำลังดูอยู่..แต่ว่าพอโฆษณาจบลง ดันกลายเป็นละครผีซะอีก..แพรวพรรณรีบคว้ารีโมทเปลี่ยนช่องสัญญาณ จนกระทั่งพบช่องที่มีแต่มิวสิควีดีโอ หญิงสาวจึงตัดสินใจเปิดแช่ช่องสัญญาณนั้นไว้ หลังจากที่ความกลัวบรรเทาลงแล้ว อารมณ์ที่จะโต้ตอบกับผู้คนบนโลกอินเตอร์เน็ตที่ต่อเชื่อมกับคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊คก็เข้ามา..
‘สัตหีบ เหงามาก’ ขึ้น ‘อัพเดทสถานะ’ ไว้แล้ว แพรวพรรณก็เปิดแฟ้มงานนิยาย ‘ร.รัก ร.เรือ’ ขึ้นมา หลังจากนั้นก็คลิ๊กไปหาแฟ้มข้อมูลสัตหีบ ตามด้วยคว้าโทรศัพท์มือถือเปิดสัญญาณบลูทูธส่งรูปจากกล้องเข้าเก็บไว้ในแฟ้มภาพสัตหีบที่อยู่ในคอมพิวเตอร์ เพื่อที่จะได้แต่งภาพเอาไว้โพสต์แบ่งปันให้เพื่อสมาชิกท่านอื่นได้เห็นเหมือนที่เธอมาเห็น
ที่หน้าโปรแกรมเฟสบุ๊คมีเพื่อนสมาชิกทักทายเข้ามา..และหนึ่งในนั้นเป็นผู้หญิงเขียนข้อความถามว่า ‘อยู่สัตหีบ มาทำอะไรคะ นุชก็อยู่สัตหีบเหมือนกัน’
ด้วยงานฌาปนากิจจะเริ่มขึ้นตอนหลังเที่ยงวันอาทิตย์ ในช่วงสายของวันพรุ่งนี้ เรือเอกจิรวัติ สุกปลั่ง จึงต้องเอ่ยปากชวนคุณแม่กับน้องสาวของเพื่อนที่คุ้นเคยกันเป็นอย่างดี ไปดูศูนย์อนุรักษ์พันธุ์เต่าทะเลไทย ต่อด้วยพาไปเลี้ยงอาหารกลางวันประเภทอาหารทะเลตรงเส้นทางไปบ้านแสมสาร เพราะว่าโอกาสที่เขาจะว่างตอบแทนบุญคุณโดยการดูแลอำนวยความสะดวกในลักษณะนี้กับครอบครัวของคุณแม่ปรียาพร ผู้มีพระคุณกับเขาเป็นอย่างมากหาไม่ได้ง่าย ๆ นัก
ส่วนหนึ่งก็คือเขาอยู่สัตหีบ และทางนั้นก็อยู่กรุงเทพฯ โอกาสที่เขาจะเข้ากรุงเทพฯแวะไปเยี่ยมเยียนก็มีไม่บ่อยนัก และโอกาสที่ทางนั้นจะว่างขึ้นมาที่นี่ ก็มีเพียงน้อยนิดเช่นกัน เพราะภูริชเพื่อนรักของเขาซึ่งเป็นนายทหารบกกองกำลังพิเศษ ก็อุทิศตนเพื่องาน จนกระทั่งไม่มีเวลาให้ครอบครัวและการหาคู่ครอง..ส่วนน้องภีรชาคนขับรถก็เป็นคุณหมอที่เวรอยู่โยงในโรงพยาบาลแทบไม่ได้ว่างเว้น..
และงานนี้เขาก็กะว่าจะชวนแพรวพรรณให้ร่วมเดินทางไปด้วยกัน ดังนั้นพอส่งน้องหมอภีรชากับคุณแม่ขึ้นที่พักเรียบร้อยแล้ว ก่อนที่จะออกรถเพื่อกลับที่พัก จิรวัติที่รู้สึกผิดเพราะไม่ได้ทำตามสัญญาที่ได้รับปากไว้กับหญิงสาวก็ดึงโทรศัพท์มือถือออกมาจากกระเป๋าเสื้อ..
‘น้องแพรว’ เขากดโทรออกทันที..เพลง ‘สักวันหนึ่ง’ ซึ่งเป็นเพลงประกอบภาพยนตร์สิ่งเล็ก ๆ ที่เรียกว่ารักดังขึ้นต้อนรับ เขาฟังจนเพลิน จนกระทั่ง..
“พี่ต้นกล้า..”
“หลับแล้วหรือยัง”
“ยังค่ะ นั่งทำงานอยู่ คุย msn กับพี่ ๆ นักเขียน ประชุมกลุ่มกันค่ะ กำลังจะสรุปเรื่องกัน..”
“งั้นพี่กวนแพรวแน่ ๆ”
“ไม่ค่ะ คุยได้”
“แล้วเมื่อเย็นนี้กินข้าวที่ไหน”
“สั่งขึ้นมาบนห้องค่ะ”
“อืม ดีแล้ว..พี่เองก็ลืม ว่าจะเตือนแพรว เรื่อง สร้อย แหวน นาฬิกา ว่าให้ถอดเก็บ เดินออกมาข้างนอกเราไม่รู้ใครเป็นใคร แพรวไม่ได้ลงมาหาข้าวทานข้างนอกก็ดีแล้ว”
“ค่ะ เดี๋ยวแพรวถอดเก็บดีกว่า”
“แล้วก็ดูแลรักษามันไว้ให้ดี ๆ นะ อย่าวางทิ้งไว้ในห้อง ไว้ใจใครไม่ได้ทั้งนั้น”
“เจ้าค่ะ”
“พี่ขอโทษด้วยที่ไม่ได้ทำตามที่สัญญาไว้”
“โอ้ย ไม่เป็นไรค่ะพี่ แพรวยังอยู่อีกหลายวัน พี่ได้เลี้ยงต้อนรับแพรวแน่ ๆ แต่ว่า แพรวยังไม่ได้เติมน้ำมันรถให้พี่เลยนะคะ”
“ไม่เป็นไร พี่ไม่ได้คิดเล็กคิดน้อยอะไรหรอก รู้สึกเป็นเกียรติเสียอีกที่ได้ช่วยนักเขียนใหญ่”
“โอ้ย มากไปพี่..แพรวนักเขียนมือใหม่ งานนี้แพรวยังไม่รู้เลยว่าจะทำสำเร็จไหม เขียนนิยายมันไม่ง่ายหรอกค่ะ”
“แต่ก็ทำมาได้หลายเล่มแล้วนี่”
“แล้วนี่ พี่ต้องช่วยแพรวให้ถึงที่สุดนะคะ รบกวนเวลาส่วนตัวพี่บ้างอะไรบ้าง พี่อย่าว่าแพรวนะคะ งานนี้แพรวเกรงใจพี่ต้นกล้าจังเลย”
“เกรงใจทำไม คนบ้านเดียวกันช่วยกันได้ก็ช่วยกัน”
“ถ้าเป็นคนบ้านอื่นจะไม่ช่วย..”
“คนบ้านอื่นก็คงยากที่จะเข้ามาให้ช่วย..”
“ดีใจที่ได้เกิดมาเป็นคนบ้านเดียวกันกับพี่ต้นกล้า..คนอะไรก็ไม่รู้ทั้งเก่ง..ทั้ง ทั้ง...เก่งจริง ๆ”
“แพรวก็เก่ง ทั้งเก่งทั้งสวย” หยอดน้ำตาลให้หญิงสาวไปแล้วเขาก็เข้าเรื่องสำคัญ “เอ้อ พี่จะบอกว่า พรุ่งนี้ หลังอาหารเช้าของโรงแรมสักสองโมงเช้า ก่อนจะไปร่วมงานฌาปนกิจภาคบ่าย พี่จะพาแม่พรกับน้องภีร์ไปชมศูนย์เต่าทะเล แล้วหาอาหารกลางวันกินด้วย พี่จะชวนแพรวให้ไปด้วยกันเลย..แพรวว่าอย่างไร”
‘ว่าอย่างไร’ แพรวพรรณครุ่นคิด ใจหนึ่ง ถ้าเธอเห็นเขา ‘จี๋จ๋า’ กันใจเธอมันก็ไม่ไหว และอีกอย่างพรุ่งนี้เธอก็ดันไปเผลอนัดแฟนคลับไว้ว่าจะไปพบกันที่ห้างโลตัส ..แพรวพรรณตรองอยู่อึดใจ ก่อนจะตอบความจริงไปว่า
“เอ่อ พรุ่งนี้แพรวมีนัดค่ะ พอดีในเฟสของแพรว เพื่อนนักอ่านพอรู้ว่าแพรวอยู่ที่นี่ เค้าก็จะมาหาแพรวที่โลตัส นัดเอาหนังสือมาให้เซ็น แล้วก็กินข้าวด้วยกัน..แพรวคงไปด้วยไม่ได้..”

เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 13 ต.ค. 2554, 13:06:53 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 13 ต.ค. 2554, 13:27:46 น.
จำนวนการเข้าชม : 4774
<< 5."ลิงข้างถนน" | 7.เมื่อเวลามันมีน้อย เรื่องหัวใจในครั้งนี้ก็ต้องรีบทำเวลา >> |

จุฬามณีเฟื่องนคร 13 ต.ค. 2554, 13:07:25 น.
ขอบคุณจากทุก ๆ กำลังใจนะครับ.. สบายดีครับ..ขอบคุณทุกความห่วงใยนะครับ...
ขอบคุณจากทุก ๆ กำลังใจนะครับ.. สบายดีครับ..ขอบคุณทุกความห่วงใยนะครับ...

XaWarZd 13 ต.ค. 2554, 13:47:45 น.
ฮึๆ งานนี้มีตามหึงหวงมะเนี่ย อยากรู้จัง
ฮึๆ งานนี้มีตามหึงหวงมะเนี่ย อยากรู้จัง

panon 13 ต.ค. 2554, 14:13:25 น.
รอตอนต่อไปค่ะคุณเฟื่อง
รอตอนต่อไปค่ะคุณเฟื่อง

silverraindrop 13 ต.ค. 2554, 14:22:47 น.
กำลังลุ้นพระนางอยู่เลยค่ะ...รอตอนต่อไป
กำลังลุ้นพระนางอยู่เลยค่ะ...รอตอนต่อไป

หนอนฮับ 13 ต.ค. 2554, 14:35:38 น.
กรี๊ดดดดดดดดด..เห็นภาระกิจรักแว๊บๆๆ อิอิ
มาตาม หนุ่มๆ นายเรือค่าาาาาา....ชิช่ะ
หนูแพรวอย่าไปเชื่อนะ..พวก นายเรือแฟนตรึมแน่ๆ เลย ยิ่งคารมณ์แบบนี้ด้วย..อิอิ
ปล. แต่หนอนยืนยันว่า นนร.เขาเรียนหนัก ออกภาคทะเลบ่อยจริงๆ นะ กลับมาทีตัวดำปืดเลย อิอิ
กรี๊ดดดดดดดดด..เห็นภาระกิจรักแว๊บๆๆ อิอิ
มาตาม หนุ่มๆ นายเรือค่าาาาาา....ชิช่ะ
หนูแพรวอย่าไปเชื่อนะ..พวก นายเรือแฟนตรึมแน่ๆ เลย ยิ่งคารมณ์แบบนี้ด้วย..อิอิ
ปล. แต่หนอนยืนยันว่า นนร.เขาเรียนหนัก ออกภาคทะเลบ่อยจริงๆ นะ กลับมาทีตัวดำปืดเลย อิอิ

จุฬามณีเฟื่องนคร 13 ต.ค. 2554, 18:49:30 น.
คุณหนอนฮับ เจออะไรไม่ชอบมาพากล หลังไมค์เลยนะครับ บอกตรง ๆว่า ผมมั่ว ๆ ไป...ฝากข่าวครับ กุหลาบซ่อนกลิ่น ไอ้ม่านะครับ ถึงบู๊ธ ดอกหญ้า 2000 แล้วครับ วางแผงแล้วครับ
คุณหนอนฮับ เจออะไรไม่ชอบมาพากล หลังไมค์เลยนะครับ บอกตรง ๆว่า ผมมั่ว ๆ ไป...ฝากข่าวครับ กุหลาบซ่อนกลิ่น ไอ้ม่านะครับ ถึงบู๊ธ ดอกหญ้า 2000 แล้วครับ วางแผงแล้วครับ

ปูจ้า 13 ต.ค. 2554, 19:14:21 น.
พี่ต้นกล้าได้เปลี่ยนแผนไปกินข้าวเที่ยงที่โลตัสแน่ๆๆหุหุ
พี่ต้นกล้าได้เปลี่ยนแผนไปกินข้าวเที่ยงที่โลตัสแน่ๆๆหุหุ

Zephyr 13 ต.ค. 2554, 19:15:59 น.
น้องแพรวพูดคลุมเครือเดี๋ยวพี่ต้นกล้าก็โดดไปโลตัสด้วยหรอก เอ่อ ตอนที่พูดถึงติดเกาะ พายุเข้าเอาเรือหลวงไปรับมีพิมพ์ผิดอ่ะค่ะ ประชน(ชา)ชน
น้องแพรวพูดคลุมเครือเดี๋ยวพี่ต้นกล้าก็โดดไปโลตัสด้วยหรอก เอ่อ ตอนที่พูดถึงติดเกาะ พายุเข้าเอาเรือหลวงไปรับมีพิมพ์ผิดอ่ะค่ะ ประชน(ชา)ชน

minafiba 13 ต.ค. 2554, 19:49:19 น.
^______^
^______^


jink 14 ต.ค. 2554, 00:59:59 น.
น่ารักสุดๆ
น่ารักสุดๆ

greennut 14 ต.ค. 2554, 19:06:17 น.
รออ่านอยู่นะคะ ชอบทุกเหล่าทัพเลยค่า คิดถึงตัวเองตอนแอบปลื้มพัปปี้เลิฟ อยู่เหล่านี้ละคะ แต่ปัจจุบัน ห่าเหล่าไม่เจอเลย...เอิ๊ก555
รออ่านอยู่นะคะ ชอบทุกเหล่าทัพเลยค่า คิดถึงตัวเองตอนแอบปลื้มพัปปี้เลิฟ อยู่เหล่านี้ละคะ แต่ปัจจุบัน ห่าเหล่าไม่เจอเลย...เอิ๊ก555

nunoi 15 ต.ค. 2554, 15:37:05 น.
ชอบอ่ะ
ชอบอ่ะ

แวนด้าน้อย 16 ต.ค. 2554, 15:59:56 น.
อยากอ่านต่อแล้วค่ะ ตื่นเต้นๆ
อยากอ่านต่อแล้วค่ะ ตื่นเต้นๆ

ณัฐวีร์ 28 ต.ค. 2554, 21:20:52 น.
มากวนแป๊กกี้ด้วยได้มั้ยคะ อิอิ
มากวนแป๊กกี้ด้วยได้มั้ยคะ อิอิ