ในชุดภารกิจรัก เรื่องราชนาวีที่รัก

Tags: ทหารเรือ นักเขียน

ตอน: 6. “งั้นพี่กวนแพรวแน่ ๆ”

6.

พอรถเก๋ง Toyota Vios ของผู้การหนุ่มถึงลานจอดรถหน้าศาลกรมหลวงฯ แพรวพรรณก็ถึงกับหดตัวยกขาทั้งสองข้างขึ้นพลางร้อง “อุ้ย!! งู”

จิรวัติหัวเราะเบา ๆ ผู้หญิงแทบทุกคนจะกลัวงูและแพรวพรรณก็เป็นหนึ่งในนั้น..

“งูปลอมนี่นา..เอาวางไว้บนหลังรถทำไมคะ” แพรวพรรณเหลียวหน้าเหลียวหลัง มองไปรอบ ๆ ตัว ใจที่ร่วงหล่นสัตว์เลื้อยคลานตัวที่เกลียดจับใจ เริ่มเต้นเป็นจังหวะตามเดิม

“เอาไว้ไล่ลิงป่า มันชอบลงมาแย่งเครื่องเซ่นไหว้ ชอบป่ายปีนไปบนหลังรถ ทำให้รถเป็นรอย..”

“บ้านเราที่เขาหน่อใช้จระเข้นะคะ”

“ก็ที่นี่สัตหีบ..จระเข้น้ำจืดมาไม่ถึง..”

“แบบนี้หัวงูคงเยอะด้วยใช่ไหมคะ” พอรู้ว่าเล่นเกินงามไปแล้ว แพรวพรรณก็รีบปลดล็อคข้างตัว..

“ไม่ต้องลงไปเปิดประตูให้แพรวนะคะ แพรวจัดการตัวเองได้..เกรงใจค่ะ”

“เอางั้น”

“หรือมันจะทำให้พี่เสียความเป็นสุภาพบุรุษ”

“ไม่หรอก..สุภาพบุรุษมันไม่ได้วัดกันตรงที่เปิดประตูปิดประตู..”

“แล้ววัดกันที่ตรงไหน”

“ก็รู้จักให้เกียรติท่านสุภาพสตรี..เลดี้เฟิร์ส เจนเติ้ลเมนบีฟอร์”

“ทุกคนหรือเปล่าคะ”

“บางคนอาจจะพิเศษหน่อย”

แพรวพรรณเลิกคิ้ว กรอกตาไปมาแกล้งทำท่าว่าครุ่นคิดประโยคเด็ด ๆ..แต่พอดีโทรศัพท์ในกระเป๋าของเธอก็ดังขึ้น..หญิงสาวรีบเปิดประตูรถคว้ากระเป๋าแล้วลงจากรถไปค้นโทรศัพท์ออกมาพูด..

“หนึ่งเหรอ...”

“แหม..เสียงดังแค่ไหนเนี่ย..”

“ถึงกรุงเทพฯแล้วเหรอ”

“เป็นไง ความรักของเธอกับผู้การ พอไม่มีฉันเป็นก้างขวางคอแล้วเป็นไงมั่ง”

“ยังไม่ถึงเหรอ ไม่ต้องรีบนะ ขับรถดี ๆ ระมัดระวังด้วย”

“หวังว่าคืนนี้..คงไม่ถึงกับให้เขาต้องนอนเป็นเพื่อนหรอกนะ..”

“โอเคนะ ไม่เป็นไรจ้ะ แพรวอยู่ได้ ไม่ต้องห่วง ไม่เป็นไรจริง ๆ แพรวไม่โกรธหรอก ธุระของหนึ่งก็สำคัญนี่.. จ้ะ ๆ บายจ้ะ..”..พอกดวางสายปุ๊บแพรวพรรณก็กดปิดเครื่องแกล้งปลายสายอีกทันที..และพอหันมา แพรวพรรณก็พบว่าเขายืนมองเธออยู่ แถมดวงตาก็ดูจะพอใจกับน้ำเสียงที่เธอคุยกับนาทีเสียด้วย..



หลังจากที่ถวายเครื่องสักการะพระรูปของ ‘เสด็จเตี่ย’ แล้ว จิรวัติก็พาแพรวพรรณออกเดินไปชมวิวรอบ ๆ ศาลและประภาคาร ซึ่งมองไปก็จะเห็นท้องทะเลสีคราม เกาะแก่งในทะเล กับป่าเขาลำเนาไพรที่อยู่ด้านหลังและตึกที่ทำการของเหล่าทหารเรือ..

“สวยจริง ๆ แต่เสียดายที่เขาไม่ให้ถ่ายรูป..” ก่อนหน้านั้น พอมั่นใจว่า นาทีจะไม่โทรย้อนกลับมาหยอกเย้าเธออีกแล้ว แพรวพรรณก็เปิดเครื่อง แล้วใช้โทรศัพท์เครื่องเตรียมไว้ถ่ายรูปพี่ต้นกล้า เพื่อจะส่งให้พี่หิรัญญา..

“ก็เก็บไว้ในใจ”

“ค่ะ มันคงอยู่ในใจเสมอแหละค่ะ..”

“ตรงโน้นอ่าวเตยงาม เดี๋ยวจะลงไปที่นั่นกัน มีพิพิธภัณฑ์นาวิกโยธิน แพรวคงได้ความรู้อีกไม่น้อยเหมือนกัน”

พอเห็นสายตามีคำถามของแพรวพรรณเขาจึงอธิบายสั้น ๆ ว่า

“นาวิกโยธินก็คือทหารเรือที่ทำหน้าที่เหมือนทหารบก..อยู่บนบก รบบนบก ไม่ต้องบังคับเรือ ไม่ต้องทำงานบนเรือ..”

“ค่ะ..พอรู้อยู่บ้างค่ะ พอมาเห็นสถานที่จริง ๆ แบบนี้ จินตนาการแพรวเริ่มออกมาแล้วค่ะ”

“ถึงไหนแล้ว..”

“ก็ที่สัตหีบนี่คงเป็นครึ่งหลังของเรื่องค่ะ..เริ่มต้นก็อยู่ท้องนา พระเอกก็เลี้ยงน้องช่วยพ่อแม่ หาปูหาปลา ตกกล้า ดำนา ต่อมาก็เข้าโรงเรียนประถม มัธยม แล้วก็โรงเรียนเตรียมทหาร โรงเรียนนายเรือ..”

“มีฉากสัตหีบนิดเดียว..”

“ตอนนั้นคิดไว้เล่น ๆ ค่ะ แต่ตอนนี้ กำลังหาวิธีเล่าเรื่องใหม่ ทหารเรือมีรบด้วยเหรอค่ะ เกิดมาไม่ได้ยินข่าวเกี่ยวกับทหารเรือสักเท่าไหร่ ล่าสุดที่ได้ยินก็เรื่องไปปราบโจรทำสลัดผักที่โซมาเลีย”

“พูดเหมือนกับว่าทหารเรือไม่ได้ทำงานทำการกัน”

“ความรู้สึกของพลเรือนเป็นอย่างนั้นจริง ๆ นี่คะ อ่านนิยาย ชื่นชีวานาวี ของ กาญจนา นาคนันท์ เรื่องก็ห้าสิบหกสิบปีมาแล้ว มีติดกงติดเกาะด้วย แต่ของแพรวคงไม่มีนางเอกไปบนเรือหรอกค่ะ แพรวแอนตี้ฉากติดเกาะ”

“แต่เท่าที่รู้มา ได้แต่งงานกันเพราะติดเกาะก็ไม่รู้กี่คู่เลยนะ”

“แล้วถ้ามีคนติดเกาะจริง ๆ ปกติเป็นหน้าที่ของใครที่ต้องไปช่วย”

“กรณีพายุเข้า เรือเล็กออกจากเกาะเข้าฝั่งไม่ได้ ก็ใช้เรือรบหลวงทำหน้าที่ไปลำเลียงประชนชนหรือไม่ก็ใช้เรือรบหลวงขนของไปช่วยคนบนเกาะ..หน้าที่ทหารเรือมีอีกไม่น้อย..และเราก็มีทัพเรือถึงสามภาค อ่าวไทยตอนบน ตอนล่าง แล้วก็ฝั่งอันดามัน”

“เสียงเข้มเชียว”

“ออกเรือทีเป็นเดือนก็มี..”

“แล้ว..”

“แฟนเฟินหนีหมด..”

“จริงสิ”

“ใครมันจะทนเหงาทนคิดถึงกันไหว..”

“แต่แพรวได้ข่าวมาว่า ทหารเรือนี่เจ้าชู้มาก ขึ้นบกที่ไหนไข่เรี่ยไข่ราด”

“ข่าวไม่ได้กรองนะซิ มีที่ไหน ขี้อายกันจะตาย ตั้งแต่เรียนเตรียม ยันวันเข้าทำงาน วัน ๆ เจอแต่ผู้ชาย คุยกับผู้หญิงละตะกุกตะกัก คิดอะไรกัน ไม่ค่อยออกหรอก”

“แต่แพรวไม่เห็นรู้สึกว่าพี่ต้นเป็นแบบนั้นเลย”

“แบบพี่ละส่วนน้อย ส่วนใหญ่เป็นอย่างที่พี่ว่านี่แหละ”

“ส่วนน้อยที่ต้องปัดเข้าหมวดที่หน่วยข่าวไม่ได้กรองของแพรวให้มาด้วยใช่หรือเปล่า”

จิรวัติหัวเราะกับความเฉลียวฉลาดของหญิงสาว..แต่ยังไม่ทันที่เขาจะต่อปากต่อคำรับสมองประลองเชาว์..โทรศัพท์ที่ในกระเป๋ากางเกงของเขา ซึ่งเขาตั้งแบบสั่นไว้ก็มีสัญญาณเรียกเข้า..ด้วยขาของเขากระตุกตามสัญชาตญาณป้องกันตัว แพรวพรรณจึงรู้ว่า โทรศัพท์ของเขาตั้งระบบสั่นไว้..

“ตามสบายเลยค่ะ” ว่าแล้วแพรวพรรณก็ขยับห่างจากเขาไปประมาณห้าหกก้าว แล้วก็แสร้งชมวิวทะเลสีครามกับเกาะเล็ก ๆ ซึ่งมีอยู่ไม่กี่เกาะ โดยหูนั้นก็พยายามเงี่ยฟังเสียงของเขาไปด้วย..



“น้องภีร์..อ้าว มาสัตหีบกับคุณแม่ มาธุระอะไรกัน ...งานศพ มาเผาศพพรุ่งนี้ คืนนี้จะมาฟังสวด แล้วพักกันที่ไหน..จะให้พี่หาให้..ได้ ๆ แล้วจะถึงสัตหีบกันกี่โมง พี่..เอ่อ..” เขาพูดโทรศัพท์ไปพลางครุ่นคิดไปเพราะค่ำนี้เขามีนัดเลี้ยงอาหารแพรวพรรณหากแต่ผิดนัดมันก็จะเสียคำพูด..

“พี่..” เขาลังเล เพราะทางนั้นก็คนสำคัญ ซึ่งนาน ๆ จะมีเรื่องมารบกวนเสียทีและวันนี้เขาก็ไม่ได้ออกทะเลปฏิบัติหน้าที่เสียด้วย..

“โอเค เดี๋ยวพี่หาโรงแรมได้ แล้วพี่จะโทรบอกนะ แล้วเย็นนี้กินข้าวเย็นด้วยกัน..โอ้ว..ลืมไป..ต้องไปฟังสวด..งั้นก็เดี๋ยวเจอกันที่โรงแรมดีกว่า พี่จะไปรอที่นั่น...วันนี้ เพื่อนมาหา ต้องดูแลเค้าเหมือนกัน โอเค ค่อยว่ากัน ขับรถดี ๆ นะครับ..ครับ ๆ เดี๋ยวเจอกันครับ”

กดสายโทรศัพท์แล้ว จิรวัติก็ระบายลมหายใจออกมาเบา ๆ..ส่วนแพรวพรรณก็หันมายิ้มหวานให้เขา..ประมาณว่า ‘เสร็จธุระแล้วนะคะ’ ..แต่ใจจริงนั้น .. ‘คุยกับใครหรือคะ’

“น้องหมอภีร์น่ะ น้องสาวของเพื่อนพี่ น้องไอ้ริช เพื่อนสมัยเตรียมทหาร ตอนนี้เค้ากำลังพาคุณแม่มาสัตหีบ จะมาฟังสวดศพเพื่อนครูของคุณแม่ ซึ่งเป็นคนที่นี่ แล้วจะเผาพรุ่งนี้”

“พี่ต้องไปดูแลเค้าใช่ไหมคะ แพรวเข้าใจค่ะ”

“แต่เดี๋ยวพี่พาแพรวไปดูพิพิธภัณฑ์นาวิกโยธินข้างล่างก่อนก็ได้ ส่วนที่พักของเขา พี่คิดว่าจะให้พักที่เดียวกับแพรวนั่นแหละ บรรยากาศใช้ได้ทีเดียว แพรวเอานามบัตรของโรงแรมมาด้วยหรือเปล่า”

พอเขาเปิดเผยมาแบบนี้ แม้มันจะยังคลุมเครือ แพรวพรรณก็รู้สึกใจชื้นขึ้นมาอีกไม่น้อย หญิงสาวล้วงกระเป๋าสะพายที่เต็มไปด้วยสัมภาระแล้วส่งนามบัตรให้กับเขา..ซึ่งขณะที่รับนามบัตรไป เขาก็พูดขึ้นมาลอย ๆ ว่า “ถ้าเย็นนี้ พี่ไม่ได้เลี้ยงข้าวแพรว แพรวต้องไม่โกรธพี่นะครับ”


“ฟังจากที่เธอเล่าแล้ว เค้าก็แคร์ทางน้องหมอภีร์กับคุณแม่อยู่ไม่น้อย พี่ว่าแฟนเค้าแน่ ๆ เลย”

“แพรวก็คิดว่าใช่..” แพรวพรรณนอนกลิ้งไปกลิ้งมาบนที่นอนหนานุ่มโดยไม่สนใจสักนิดว่าผมเส้นสีดำเป็นแพยาวถึงกลางหลังจะพันกันยุ่งเหยิง.. ในมือนั้นก็มีโทรศัพท์แนบอยู่กับหูไปด้วย และพอได้ระบายความคิดที่วนเวียนในอ่างให้พี่หิรัญญาได้รับรู้แล้ว แพรวพรรณก็รู้สึกว่า ใจที่หน่วง ๆ นั้น คลายลงไป

“แพรวว่าแพรวก้าวพลาดไปช็อตหนึ่ง...แพรวไม่น่ารีบบอกกับพี่เค้าว่าหนึ่งเป็นแค่เพื่อน..เหมือนแบไต๋ให้เขารู้ก่อนที่เกมส์จะเริ่มต้น..”

“แต่พี่ว่าเขาคงรู้แล้วแหละ ว่าเธอมาที่นี่เพื่อจะมาหาเขา..”

“ก็มาเพื่อหาเค้าจริง ๆ นี่พี่ ถ้าไม่เพราะเค้าแพรวก็กินหมูเขียนเรื่องน้องคนเล็กไปแล้ว”

“ยอกย้อนนะยะ”

“พูดความจริงก็นะ ไม่ดีอีก”

“ความจริงดี แต่ว่า มันก็ต้องดูบริบทของปัจจุบันด้วย..แต่เธอเก่งนะ ที่สามารถทำให้เขารู้สึกกับเรื่องดี ๆ กับเรื่องโกหกของเธอได้”

“เป็นเพราะแพรวได้อ่านนิยายของพี่แหละค่ะ ลำพังนิยายแพรวเอง มีอะไรซับซ้อนที่ไหน..”

“จะด่าฉัน ด่ามาตรง ๆ เลย..”

“จะมาพรุ่งนี้ตอนเย็นหรือว่าวันจันทร์ จะได้เข้าเน็ตหาที่พักใหม่ ที่นี่ไม่ไหว ..หรู แต่ว่าไม่ได้ฟิวด์ทหารเรือเลย..”

“ฉันไม่ไปดีกว่า ..”

“ไม่ได้นะ”

“เห็นแค่รูปถ่ายที่เธอส่งมา ฉันก็หวั่นไหวแล้วเนี่ย เจอหน้าเค้าฉันกระโดดปล้ำตัดหน้าเธอไปเธอจะแห้ว..”

นึกถึงรูปของเขาที่กว่าจะได้มา ก็เล่นเอาเธอต้องทำเฉไฉถ่ายรูป อนุสาวรีย์นาวิกโยธิน หาดเตยงาม ผาวชิราลงกรณ์ ..และสุดท้าย..แพรวพรรณก็ตัดสินใจไม่อ้อมค้อม..ก่อนจะเปลี่ยนอุปกรณ์ในมือจากกล้องถ่ายรูปคุณภาพสูง..เป็นโทรศัพท์มือถือที่มีลูกเล่นเพียบพร้อมแทน..

“ขอถ่ายรูปพี่ได้ไหม”

“ได้สิ”

“หนึ่ง สอง สาม..แช๊ะ..อีกรูปนะคะ..หนึ่ง สอง สาม แช๊ะ” แช๊ะทั้งที่จริง ๆ แล้วโปรแกรมถ่ายรูปในโทรศัพท์มือถือมันก็มีเสียงแช๊ะอยู่แล้ว..และตอนนั้น เธอก็ทำให้เขายิ้มสดใสได้..

“ให้พี่ถ่ายให้ บ้างไหม”

“ได้ค่ะ”

“เครื่องของพี่แล้วกันนะ..”

“เอางั้นเหรอคะ” สีหน้านั้นเรียบเฉย ทำเหมือนคิดไม่ทัน ทั้งที่ในใจนั้น ‘ไหมละ ๆ คงนึกอยากจะเก็บรูปเค้าไว้บ้างละซี้ สวยขนาดนี้ มองข้ามไปก็ ก็ต้องยกให้เป็นอาหารของนังหนึ่งนาทีเสียแล้ว..’

“สวย ที่ สุด แช๊ะ”

พอเขาปล่อยมุกมาแบบนี้แพรวพรรณถึงกับกลั้นขำไว้ไม่ไหว..

“หัวเราะอะไร..เอ้า เร็ว ๆ อีกรอบ ๆ ..” ปากพูดไปแต่มือก็กดชัตเตอร์ตอนที่สาวเจ้าหัวเราะไปด้วย “ก็พี่..”

“อีกบานนะ”

“บาน..” แพรวพรรณนึกขำขึ้นมาอีกเพราะ ลักษณะนามแบบนี้ มันเป็นภาษาถิ่น..

“บานก็บานค่ะ..”

“เอ้า สวย บาด ใจ แช๊ะ”

“ลบรูปไม่สวยออกด้วยนะ”

“สวยทุกบาน สวยบาดใจ สวยที่สุด..”

นึกถึงตอนถ่ายรูปเล่นกันที่หน้าตรงอนุสาวรีย์นาวิกโยธินวงเวียนด้านหน้าอาหารพิพิธภัณฑ์นาวิกโยธินซึ่งมีข้อมูลเกี่ยวกับทหารเรือที่อยู่บนบกมากมาย แล้วแพรวพรรณก็ยิ้มกริ่ม....

“ทำได้จริงดิ้”

“ถ้าฉันไป ..มันก็เป็นเหมือนกว้างขวางคอ..เหมือนตอนที่นังหนึ่งมันอยู่..รู้หรือเปล่าว่าตอนนั้นใครโทรหาหนึ่ง”

“อย่าบอกนะว่าพี่”

“แหม อย่าลืมซิฉันได้โล่มาจากวัฒนธรรมจังหวัดนะจ้ะ แล้วเขาก็ให้คนที่มีความสามารถเท่านั้น.. เรื่องขี้ผง คิดไม่ได้ก็ไม่ไหวแล้ว”

“พี่ญาอ่ะ..ร้าย อย่างร้าย”

“ติดเกาะอยู่กับอีตาผู้การนาวินต้านั่นแหละ บอกเค้าไปว่า ฉันติดธุระ ยังมาไม่ได้..”

“พี่อ่ะ..เล่นอย่างนี้จริง ๆ เหรอ”

“น่า เธอก็อ่านนิยายพี่แทบจะทุกเล่มแล้ว พี่มั่นใจได้ว่า ความเจ้าเล่ห์เพทุบายของเธอก็มีไม่น้อยหน้าใคร..อวยพรให้ได้แต่งงานกันในตอนจบนะจ้ะ..”


“อ้าว พี่ต้นเพิ่งมาถึง จะแต่งตัวไปไหนอีก” เรือโทศุภโชค ตำแหน่งต้นเรือ ซึ่งประจำการอยู่เรือ ต.92 ลำเดียวกัน เป็นรุ่นน้องโรงเรียนนายเรือ ซึ่งมีห้องอยู่ติดกันซึ่งเดินออกจากห้องพักของตัวเองมาเอ่ยทักเมื่อเห็นเรือเอกจิรวัติ กำลังปิดประตูห้องพัก

“ไปงานศพ..ไปด้วยกันไหม..”

“งานใครครับ..”

“เพื่อนของแม่พร..ไปเปล่า น้องภีร์มาด้วยนะ” ศุภโชค รู้จักน้องภีร์ หรือหมอภีรชา เป็นอย่างดี เพราะสาวเจ้าโทรมาหาผู้การเรือที่เขาประจำการอยู่บ่อย ๆ แล้วผู้การก็เล่าถึงความสัมพันธ์แต่เก่าก่อนให้เขาได้รับรู้..และจนถึงวันนี้ แม้ผู้การจะพยายามเป็นพ่อสื่อให้กับเขา แต่ว่าหมอภีรชาก็ได้สนใจเขาสักนิด..เพราะก็น่าจะเป็นรู้กันดีกว่า ชีวิตหมอที่ทำงานอยู่ในโรงพยาบาลพระมงกุฎ กับชีวิตทหารเรือที่มีชีวิตส่วนใหญ่อยู่ในทะเลนั้นยากที่จะได้ใกล้ชิดกัน อยู่ด้วยกันตลอดเวลา..

ดังนั้นเขาเองจึงเฝ้ารอคอยใครสักคน ที่เหมาะสม รักและเข้าใจในความเป็นทหารเรือของเขา

“แล้วน้องนักเขียนนั่นละ เอาไปทิ้งไว้ไหน..สายลับของผมรายงานมาว่า สวยไม่น้อยหน้าใคร”

“ส่งเข้าห้องพักไปแล้ว”

“สวยแค่ไหนพี่.. ดูรูปหน่อยสิ”

“ไม่มี้”

“สายผมรายงานว่า พี่เอากล้องมือถือของพี่ถ่ายรูปเธอไว้ด้วย”

“แล้วทำไม เอ็งไม่ให้สายสืบสายสะดืออะไรนั่น ถ่ายรูปส่งมาให้ดูซะเลยละวะ”
“แล้วผู้การคิดหรือว่า คนอย่างไอ้โชค จะไม่มีภาพนั้น” ว่าแล้วเจ้าตัวที่อยู่ในชุดกางเกงขาสั้นเสื้อยืดคอกลมสีขาว ก็ส่งโทรศัพท์ในมือไปให้
จิรวัติรับกล้องจากรุ่นน้องมาดู แล้วก็ต้องคลี่ยิ้ม..

“ใช้ได้เลยโว้ย เอ็งนี่สมกับเป็นน้องพี่จริง ๆ”

“เอาเก็บไว้แบล็คเมล์ผู้การ” อยู่กันตามลำพังแบบนี้ จึงเรียก ‘พี่’ แทน คำว่า ‘ผู้การ’ ได้บ้าง แต่ด้วยติดปากกับคำว่า ‘ผู้การ’ จึงได้ใช้สลับกันไปมา..

“เอาเหอะ..ตามสบาย ไม่ไปจริง ๆ หรือวะ”

“ไปดูแลน้องนักเขียนได้ไหมละ สนใจคนนั้นมากกว่า” ศุภโชคแกล้งยั่วอารมณ์ของผู้บังคับบัญชาของตนเอง

“มาเอาเบอร์ไป..” จิรวัติทีท่าเป็นล้วงกระเป๋ากางเกงสแลคสีดำเข้ากับเสื้อเชิ้ต เข็มขัด และรองเท้าสีดำ..แต่แล้วก็เปลี่ยนใจ “ไม่เอาดีกว่า..อย่างไรเค้าก็คงไม่ชอบเอ็งหรอก เสียเวลา..”

“โห..”

“ไม่ต้องให้บอกนะว่าเพราะอะไร..ไปแล้ว..เดี๋ยวเค้าจะรอ..เอ้อ แล้ว เดี๋ยวไขประตูห้องเอาขนมไปเก็บไว้ด้วย พรุ่งนี้ฝากไปแบ่งกันกินบนเรือด้วย..”

“กินตอนนี้ได้เลยเปล่า”

“ได้..ตามสบาย”

“ไม่ให้เบอร์คุณนักเขียนผมจริง ๆ เหรอ”

จิรวัติไม่ได้ตอบเพียงแต่เดินไปแล้วยกมือขึ้นโบกให้รู้ว่า ‘ไม่ให้’



แม้จะเคยนอนคนเดียวในห้องพักของโรงแรมแต่ว่าครั้งก่อน ๆ นั้น ห้องข้าง ๆ ยังเป็นห้องพ่อแม่ ห้องพี่ชายพี่สะใภ้ หรือไม่ก็เป็นห้องเพื่อนนักเขียนที่ไปมิตติ้งด้วยกัน แต่ว่าครั้งนี้ ความรู้สึกเหมือนอยู่คนเดียวในโรงแรมกว้างใหญ่ แม้สภาพโรงแรมจะดูใหม่เอี่ยม แต่ว่า คำว่า ‘ผี’ มันก็ไม่ได้สนใจหรอกว่า สถานที่ตรงนั้นบรรยากาศเป็นอย่างไร..

“ซวยแล้วไหมละ ทำไงดีละนี่ พระก็ไม่ได้เอามาสักองค์..หนึ่งนะหนึ่งฉันอยากจะบีบคอแกจริง ๆ ทำกันได้นะ ดูซิ โทรกลับไปก็ปิดเครื่อง ..”

ทางเดียวที่จะช่วยได้ในเวลานี้ก็คือ เพิ่มเสียงของรายการโทรทัศน์ที่กำลังดูอยู่..แต่ว่าพอโฆษณาจบลง ดันกลายเป็นละครผีซะอีก..แพรวพรรณรีบคว้ารีโมทเปลี่ยนช่องสัญญาณ จนกระทั่งพบช่องที่มีแต่มิวสิควีดีโอ หญิงสาวจึงตัดสินใจเปิดแช่ช่องสัญญาณนั้นไว้ หลังจากที่ความกลัวบรรเทาลงแล้ว อารมณ์ที่จะโต้ตอบกับผู้คนบนโลกอินเตอร์เน็ตที่ต่อเชื่อมกับคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊คก็เข้ามา..

‘สัตหีบ เหงามาก’ ขึ้น ‘อัพเดทสถานะ’ ไว้แล้ว แพรวพรรณก็เปิดแฟ้มงานนิยาย ‘ร.รัก ร.เรือ’ ขึ้นมา หลังจากนั้นก็คลิ๊กไปหาแฟ้มข้อมูลสัตหีบ ตามด้วยคว้าโทรศัพท์มือถือเปิดสัญญาณบลูทูธส่งรูปจากกล้องเข้าเก็บไว้ในแฟ้มภาพสัตหีบที่อยู่ในคอมพิวเตอร์ เพื่อที่จะได้แต่งภาพเอาไว้โพสต์แบ่งปันให้เพื่อสมาชิกท่านอื่นได้เห็นเหมือนที่เธอมาเห็น

ที่หน้าโปรแกรมเฟสบุ๊คมีเพื่อนสมาชิกทักทายเข้ามา..และหนึ่งในนั้นเป็นผู้หญิงเขียนข้อความถามว่า ‘อยู่สัตหีบ มาทำอะไรคะ นุชก็อยู่สัตหีบเหมือนกัน’




ด้วยงานฌาปนากิจจะเริ่มขึ้นตอนหลังเที่ยงวันอาทิตย์ ในช่วงสายของวันพรุ่งนี้ เรือเอกจิรวัติ สุกปลั่ง จึงต้องเอ่ยปากชวนคุณแม่กับน้องสาวของเพื่อนที่คุ้นเคยกันเป็นอย่างดี ไปดูศูนย์อนุรักษ์พันธุ์เต่าทะเลไทย ต่อด้วยพาไปเลี้ยงอาหารกลางวันประเภทอาหารทะเลตรงเส้นทางไปบ้านแสมสาร เพราะว่าโอกาสที่เขาจะว่างตอบแทนบุญคุณโดยการดูแลอำนวยความสะดวกในลักษณะนี้กับครอบครัวของคุณแม่ปรียาพร ผู้มีพระคุณกับเขาเป็นอย่างมากหาไม่ได้ง่าย ๆ นัก

ส่วนหนึ่งก็คือเขาอยู่สัตหีบ และทางนั้นก็อยู่กรุงเทพฯ โอกาสที่เขาจะเข้ากรุงเทพฯแวะไปเยี่ยมเยียนก็มีไม่บ่อยนัก และโอกาสที่ทางนั้นจะว่างขึ้นมาที่นี่ ก็มีเพียงน้อยนิดเช่นกัน เพราะภูริชเพื่อนรักของเขาซึ่งเป็นนายทหารบกกองกำลังพิเศษ ก็อุทิศตนเพื่องาน จนกระทั่งไม่มีเวลาให้ครอบครัวและการหาคู่ครอง..ส่วนน้องภีรชาคนขับรถก็เป็นคุณหมอที่เวรอยู่โยงในโรงพยาบาลแทบไม่ได้ว่างเว้น..

และงานนี้เขาก็กะว่าจะชวนแพรวพรรณให้ร่วมเดินทางไปด้วยกัน ดังนั้นพอส่งน้องหมอภีรชากับคุณแม่ขึ้นที่พักเรียบร้อยแล้ว ก่อนที่จะออกรถเพื่อกลับที่พัก จิรวัติที่รู้สึกผิดเพราะไม่ได้ทำตามสัญญาที่ได้รับปากไว้กับหญิงสาวก็ดึงโทรศัพท์มือถือออกมาจากกระเป๋าเสื้อ..

‘น้องแพรว’ เขากดโทรออกทันที..เพลง ‘สักวันหนึ่ง’ ซึ่งเป็นเพลงประกอบภาพยนตร์สิ่งเล็ก ๆ ที่เรียกว่ารักดังขึ้นต้อนรับ เขาฟังจนเพลิน จนกระทั่ง..

“พี่ต้นกล้า..”

“หลับแล้วหรือยัง”

“ยังค่ะ นั่งทำงานอยู่ คุย msn กับพี่ ๆ นักเขียน ประชุมกลุ่มกันค่ะ กำลังจะสรุปเรื่องกัน..”

“งั้นพี่กวนแพรวแน่ ๆ”

“ไม่ค่ะ คุยได้”

“แล้วเมื่อเย็นนี้กินข้าวที่ไหน”

“สั่งขึ้นมาบนห้องค่ะ”

“อืม ดีแล้ว..พี่เองก็ลืม ว่าจะเตือนแพรว เรื่อง สร้อย แหวน นาฬิกา ว่าให้ถอดเก็บ เดินออกมาข้างนอกเราไม่รู้ใครเป็นใคร แพรวไม่ได้ลงมาหาข้าวทานข้างนอกก็ดีแล้ว”

“ค่ะ เดี๋ยวแพรวถอดเก็บดีกว่า”

“แล้วก็ดูแลรักษามันไว้ให้ดี ๆ นะ อย่าวางทิ้งไว้ในห้อง ไว้ใจใครไม่ได้ทั้งนั้น”

“เจ้าค่ะ”

“พี่ขอโทษด้วยที่ไม่ได้ทำตามที่สัญญาไว้”

“โอ้ย ไม่เป็นไรค่ะพี่ แพรวยังอยู่อีกหลายวัน พี่ได้เลี้ยงต้อนรับแพรวแน่ ๆ แต่ว่า แพรวยังไม่ได้เติมน้ำมันรถให้พี่เลยนะคะ”

“ไม่เป็นไร พี่ไม่ได้คิดเล็กคิดน้อยอะไรหรอก รู้สึกเป็นเกียรติเสียอีกที่ได้ช่วยนักเขียนใหญ่”

“โอ้ย มากไปพี่..แพรวนักเขียนมือใหม่ งานนี้แพรวยังไม่รู้เลยว่าจะทำสำเร็จไหม เขียนนิยายมันไม่ง่ายหรอกค่ะ”

“แต่ก็ทำมาได้หลายเล่มแล้วนี่”

“แล้วนี่ พี่ต้องช่วยแพรวให้ถึงที่สุดนะคะ รบกวนเวลาส่วนตัวพี่บ้างอะไรบ้าง พี่อย่าว่าแพรวนะคะ งานนี้แพรวเกรงใจพี่ต้นกล้าจังเลย”

“เกรงใจทำไม คนบ้านเดียวกันช่วยกันได้ก็ช่วยกัน”

“ถ้าเป็นคนบ้านอื่นจะไม่ช่วย..”

“คนบ้านอื่นก็คงยากที่จะเข้ามาให้ช่วย..”

“ดีใจที่ได้เกิดมาเป็นคนบ้านเดียวกันกับพี่ต้นกล้า..คนอะไรก็ไม่รู้ทั้งเก่ง..ทั้ง ทั้ง...เก่งจริง ๆ”

“แพรวก็เก่ง ทั้งเก่งทั้งสวย” หยอดน้ำตาลให้หญิงสาวไปแล้วเขาก็เข้าเรื่องสำคัญ “เอ้อ พี่จะบอกว่า พรุ่งนี้ หลังอาหารเช้าของโรงแรมสักสองโมงเช้า ก่อนจะไปร่วมงานฌาปนกิจภาคบ่าย พี่จะพาแม่พรกับน้องภีร์ไปชมศูนย์เต่าทะเล แล้วหาอาหารกลางวันกินด้วย พี่จะชวนแพรวให้ไปด้วยกันเลย..แพรวว่าอย่างไร”

‘ว่าอย่างไร’ แพรวพรรณครุ่นคิด ใจหนึ่ง ถ้าเธอเห็นเขา ‘จี๋จ๋า’ กันใจเธอมันก็ไม่ไหว และอีกอย่างพรุ่งนี้เธอก็ดันไปเผลอนัดแฟนคลับไว้ว่าจะไปพบกันที่ห้างโลตัส ..แพรวพรรณตรองอยู่อึดใจ ก่อนจะตอบความจริงไปว่า

“เอ่อ พรุ่งนี้แพรวมีนัดค่ะ พอดีในเฟสของแพรว เพื่อนนักอ่านพอรู้ว่าแพรวอยู่ที่นี่ เค้าก็จะมาหาแพรวที่โลตัส นัดเอาหนังสือมาให้เซ็น แล้วก็กินข้าวด้วยกัน..แพรวคงไปด้วยไม่ได้..”



จุฬามณีเฟื่องนคร
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 13 ต.ค. 2554, 13:06:53 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 13 ต.ค. 2554, 13:27:46 น.

จำนวนการเข้าชม : 4687





<< 5."ลิงข้างถนน"   7.เมื่อเวลามันมีน้อย เรื่องหัวใจในครั้งนี้ก็ต้องรีบทำเวลา >>
จุฬามณีเฟื่องนคร 13 ต.ค. 2554, 13:07:25 น.
ขอบคุณจากทุก ๆ กำลังใจนะครับ.. สบายดีครับ..ขอบคุณทุกความห่วงใยนะครับ...


XaWarZd 13 ต.ค. 2554, 13:47:45 น.
ฮึๆ งานนี้มีตามหึงหวงมะเนี่ย อยากรู้จัง


panon 13 ต.ค. 2554, 14:13:25 น.
รอตอนต่อไปค่ะคุณเฟื่อง


silverraindrop 13 ต.ค. 2554, 14:22:47 น.
กำลังลุ้นพระนางอยู่เลยค่ะ...รอตอนต่อไป


หนอนฮับ 13 ต.ค. 2554, 14:35:38 น.
กรี๊ดดดดดดดดด..เห็นภาระกิจรักแว๊บๆๆ อิอิ
มาตาม หนุ่มๆ นายเรือค่าาาาาา....ชิช่ะ
หนูแพรวอย่าไปเชื่อนะ..พวก นายเรือแฟนตรึมแน่ๆ เลย ยิ่งคารมณ์แบบนี้ด้วย..อิอิ
ปล. แต่หนอนยืนยันว่า นนร.เขาเรียนหนัก ออกภาคทะเลบ่อยจริงๆ นะ กลับมาทีตัวดำปืดเลย อิอิ


จุฬามณีเฟื่องนคร 13 ต.ค. 2554, 18:49:30 น.
คุณหนอนฮับ เจออะไรไม่ชอบมาพากล หลังไมค์เลยนะครับ บอกตรง ๆว่า ผมมั่ว ๆ ไป...ฝากข่าวครับ กุหลาบซ่อนกลิ่น ไอ้ม่านะครับ ถึงบู๊ธ ดอกหญ้า 2000 แล้วครับ วางแผงแล้วครับ


ปูจ้า 13 ต.ค. 2554, 19:14:21 น.
พี่ต้นกล้าได้เปลี่ยนแผนไปกินข้าวเที่ยงที่โลตัสแน่ๆๆหุหุ


Zephyr 13 ต.ค. 2554, 19:15:59 น.
น้องแพรวพูดคลุมเครือเดี๋ยวพี่ต้นกล้าก็โดดไปโลตัสด้วยหรอก เอ่อ ตอนที่พูดถึงติดเกาะ พายุเข้าเอาเรือหลวงไปรับมีพิมพ์ผิดอ่ะค่ะ ประชน(ชา)ชน


minafiba 13 ต.ค. 2554, 19:49:19 น.
^______^


morisa 13 ต.ค. 2554, 21:49:44 น.
ชอบคารมคมคายของพี่ต้นกล้า ลื่นไหลดี


jink 14 ต.ค. 2554, 00:59:59 น.
น่ารักสุดๆ


greennut 14 ต.ค. 2554, 19:06:17 น.
รออ่านอยู่นะคะ ชอบทุกเหล่าทัพเลยค่า คิดถึงตัวเองตอนแอบปลื้มพัปปี้เลิฟ อยู่เหล่านี้ละคะ แต่ปัจจุบัน ห่าเหล่าไม่เจอเลย...เอิ๊ก555


nunoi 15 ต.ค. 2554, 15:37:05 น.
ชอบอ่ะ


แวนด้าน้อย 16 ต.ค. 2554, 15:59:56 น.
อยากอ่านต่อแล้วค่ะ ตื่นเต้นๆ


ณัฐวีร์ 28 ต.ค. 2554, 21:20:52 น.
มากวนแป๊กกี้ด้วยได้มั้ยคะ อิอิ


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account