ในชุดภารกิจรัก เรื่องราชนาวีที่รัก
Tags: ทหารเรือ นักเขียน
ตอน: 7.เมื่อเวลามันมีน้อย เรื่องหัวใจในครั้งนี้ก็ต้องรีบทำเวลา
7.
ด้วยรู้ว่าทุกเช้าป๊ากับแม่จะตื่นมาใส่บาตรแล้วสวดมนต์ทำวัตรเช้า พอกะเวลาว่าป๊ากับแม่กลับมาจากเดินชมนกชมไม้ยืดเส้นยืดสายหลังสวดมนต์เสร็จ แพรวพรรณจึงรีบโทรหาซะก่อนที่ทางนั้นจะโทรมาแล้วถามถึงพี่หิรัญญา พอคุยกับป๊ากับแม่เรียบร้อยแล้ว แพรวพรรณก็ต่อสายถึงพี่พงศ์พันธุ์ เพราะเมื่อคืนเขาโทรมาหาเธอเช่นกัน แล้วเธอก็บอกกับเขาว่าพี่หิรัญญาหลับไปแล้ว ซึ่งครั้งนี้เธอไม่ได้โกหก เพราะพี่หิรัญญาที่อยู่ฉะเชิงเทรา ดื่มเบียร์พลางนั่งสนทนากับเพื่อนนักเขียนในกลุ่มทางโปรแกรมสนทนา msn เมาเบียร์แล้วขออนุญาตไปนอนแล้วนั่นเอง..
หมดกังวลเรื่องครอบครัวแพรวพรรณก็ลุกขึ้นอาบน้ำแต่งตัว เพราะต้องลงไปทานอาหารที่ทางโรงแรมเตรียมไว้ให้กับส่วนหนึ่งเธออยากไปเห็นหน้าของคุณหมอของพี่ต้นกล้าเหมือนกัน..
แพรวพรรณเดินเข้าห้องอาหารเมื่อเวลาเจ็ดโมงเช้า หญิงสาวค่อย ๆ กวาดสายตามองไปรอบ ๆ ห้องพลางตักอาหาร ก่อนจะสะดุดตากับสองแม่ลูกที่น่าจะเป็นคนสำคัญของพี่ต้นกล้าพอตักอาหารเสร็จเรียบร้อยแพรวพรรณก็ไปนั่งเยื้อง ๆ กับสองแม่ลูกให้พ่อเห็นหน้าว่าสวยถึงเพียงไหน..
และพอนั่งลง ลอบมองหน้าสวยของคุณหมอสาว แพรวพรรณก็ฉุกคิดได้ว่า คนที่เขาเรียนหนังสือเก่ง ๆ เหมือนกัน มีงานทำมั่นคง รับราชการเหมือนกัน เขาคงพอใจกันมากกว่า ที่จะมาสนใจลูกสาวพ่อค้าคนธรรมดาอย่างเธอ..
แพรวพรรณละเลียดข้าวต้มทะเลเข้าปากอย่างเซ็ง ๆ แต่จู่ ๆ เธอก็รู้สึกว่า มีคนเดินมาหยุดข้าง ๆ
“เอ่อ..ขอโทษนะคะ” แพรวพรรณรีบวางช้อนที่มีกุ้งตัวสีแดงซึ่งกำลังจะเข้าปากทันที..
“มีอะไรคะ”
“ใช่ แพรวพรรณหรือเปล่าคะ”
“ใช่ ๆ ค่ะ มีอะไรเหรอ” แพรวพรรณคิดไปแล้วว่า หรือว่าทางพี่ต้นกล้าบอกกับหมอสาวคนนี้ว่าเธอพักอยู่ที่นี่เหมือนกัน คงจะเล่าอะไรต่อมิอะไรเกี่ยวกับเธอให้สาวเจ้าฟังจนหมดแล้วแน่ ๆ หรือจะเอารูปที่ถ่ายไว้ในโทรศัพท์มือถือให้ดูด้วย..
“คือ ภีร์ เป็นแฟนนิยายคุณแพรวนะคะ..ภีร์ชอบสำนวนคุณแพรวอ่านเข้าใจง่ายเรื่องก็ไม่หนักมาก นี่ยังเสียดายเลยว่าไม่ได้มีหนังสือติดมือมาด้วย คิดว่าไม่มีเวลาอ่านนะคะ เลยไม่ได้ถือมา..”
หมอภีร์มาเป็นชุดโดยที่แพรวพรรณก็ได้แต่ถอนหายใจออกมาเบา ๆ แล้วอารมณ์ปลื้มใจก็เข้ามาแทนที่ แต่ถึงกระนั้น แพรวพรรณก็ยังหวั่นใจว่า หมอภีร์คนสวยนี้จะรู้ไหมว่าตอนนี้ เธอมาที่นี่เพื่อโปรยเสน่ห์ใส่พี่ต้นกล้าของหมอภีร์..
คุยกันได้ไม่กี่นาทีหมอภีร์ก็ขอตัวกลับไปที่โต๊ะโดยแพรวพรรณเองก็รีบขึ้นห้องพัก เพราะรู้สึกว่า คุยไปคุยมา เรื่องมันจะกลายเป็นจุดไต้ตำตอเสียแล้ว..
“พี่ญาจะไม่มาจริง ๆ เหรอ” และความเหงาความสับสนทำให้แพรวพรรณต้องโทรไปรายงานเรื่องหมอภีร์ให้หิรัญญาฟังแต่เช้า
“ไปวันอังคารแล้วกัน เล่นเกมกับผู้การไปสักวัน อยากดูเหมือนกัน วันจันทร์ เขาจะทำอย่างไรกับเธอ”
“ก็คงทิ้งแพรวให้อยู่ห้องไปนะสิ ถามได้..อุ้ย ๆ พี่ญา พี่ต้นกล้าโทรมาแพรวขอรับสายก่อนนะ”
บอกหิรัญญาแล้วแพรวพรรณก็รีบกดรับสายเรียกซ้อนทันที
“แพรว เป็นไงหลับสบายไหม”
“สบายดีค่ะ”
“กินข้าวหรือยัง”
“เรียบร้อยแล้วค่ะ..ข้าวต้มทะเลอร่อยมาก”
“แล้วนี่แพรวจะไปหาเพื่อนอย่างไร..”
“เดี๋ยวนุชเค้าจะมารับค่ะ นัดไว้สิบโมงเช้า”
“นุชไหน..”
“แพรวก็ไม่รู้เหมือนกัน”
“แล้วทำไมกล้าไปกับเขา..”
“ก็เป็นเพื่อนกันในเฟสบุ๊ค เค้าก็ตามอ่านงานมานานแล้ว มีหนังสือแพรวทุกเล่ม คงไม่มีอะไรหรอกค่ะ”
“แต่พี่ก็ยังห่วงนะ นึกว่ารู้จักกันนานนมแล้ว”
“ขอบคุณค่ะ คงไม่มีอะไรหรอก”
“แล้วจะอยู่โลตัสกันถึงกี่โมง”
“ทานข้าวเที่ยงกันด้วย..บ่ายโมงมั้งค่ะ”
“งั้นเดี๋ยวพี่ไปรับนะ พี่กับทางนี้คงเที่ยงครึ่งก็จบแล้ว ถ้าช้าหน่อยก็รอพี่นะ รอที่นั่นแหละ..”
“ค่ะ..” คุยกับเขาพลางมองกระจกไปด้วย แพรวพรรณรู้สึกว่าตาของตัวเองหวานฉ่ำผิดทุกวัน
“แล้วพี่ญาจะมาเมื่อไหร่ วันนี้หรือพรุ่งนี้”
“เอ่อ..แกยังไม่ได้สรุปเลยค่ะ เดี๋ยวค่อยโทรถามกันอีกที แต่ถ้าแกมา แพรวย้ายที่พักแน่ ๆ ค่ะ ตรงนี้มันธรรมดาไป แพรวอยากพักในค่ายทหารค่ะ เข้าเว็บดูแล้วมันมีที่แบบนั้นด้วย แต่ต้องให้พี่ญามาก่อน เพราะห้าวันนี้ ถ้าไม่มีรถใช้ แพรวอยู่ตรงนี้ดีกว่า”
“ครับ..” ปลายสายตอบรับสั้น ๆ ก่อนจะตัดบทว่า
“ดูแลตัวเองนะ มีอะไรก็โทรหาพี่ได้เลยนะ..แล้วเจอกัน”
พี่ต้นกล้าวางสายไปแล้ว แต่ว่าแพรวพรรณยังนั่งมองโทรศัพท์ในมือ..น้ำเสียงอาทรของเขาทำให้ใจของแพรวพรรณไหวอย่างรุนแรง ..แต่ว่า บางทีมันอาจจะเป็นเกมรักของเขาเช่นกัน..
//////////////////////////
ในร้านเคเอฟซีบนชั้น 2 ของห้างโลตัส สาขาสัตหีบ กองหนังสือนิยายที่มีนามแฝงนักเขียนชื่อ ‘แพรวพรรณ’ ติดอยู่ตรงปกหน้า และเจ้าของผลงานก็ตวัดลายเซ็นลงไปที่กระดาษหน้าในแผ่นแรก..คนที่นั่งมาอยู่มีดวงตาเป็นประกายของความปลาบปลื้ม ส่วนคนเซ็นนั้นเล่าก็รู้สึกมีกำลังใจในการทำงานขึ้นอยู่อีกไม่น้อย
หลังจัดการกับหนังสือกองนั้นเสร็จแล้ว แพรวพรรณก็เก็บปากกาเข้ากระเป๋า ก็จะเริ่มซักถามประวัติคร่าว ๆ ของ ‘นงนุช’ สาวแบงก์ โดยข้อมูลพื้นฐานก็คือ นงนุชเป็นคนสัตหีบโดยกำเนิด เกิดปีเดียวกับแพรวพรรณ เรียนจบบัญชีจากมหาวิทยาลัยในชลบุรี และก็แต่งงานแล้วกับนายทหารเรือเมื่อปีก่อน ยังไม่มีลูกด้วยกันเพราะยังไม่อยากมีภาระ ส่วนนงนุชเองก็ต้องซักถามแพรวพรรณ เช่นกัน และพอรู้ว่าแพรวพรรณมาสัตหีบเพื่อหาข้อมูลเขียนนิยายที่พระเอกเป็นทหารเรือ และทหารเรือที่เป็นคนให้ข้อมูลคือผู้การจิรวัติ สุกปลั่ง นงนุชก็ถึงกับหัวเราะเบา ๆ..
“โลกกลมจริง ๆ เลยแพรว”
“ทำไมละคะ”
“ก็ แฟนนุชเค้าก็เป็นเพื่อนรุ่นเดียวกับผู้การจิรวัติ..แฟนนุชก็เป็นผู้การเรือ ต. เหมือนกัน ตอนนุชแต่งงาน ผู้การต้นยังมาทำซุ้มกระบี่ให้เราเลย สนิทกันค่ะ”
“จุดไต้ตำตออีกแล้ว”
“..แสดงว่าไม่ใช่ครั้งแรก”
แพรวพรรณอยากจะเล่าเรื่องของหมอภีรชาให้นงนุชได้ฟัง แต่เห็นว่ามันไม่มีประโยชน์เท่ากับสืบเรื่องของพี่ต้นกล้าจากนงนุชนี่แหละ เพราะทางนี้เป็นทางเดียวที่ทำให้เธอได้รู้จักพี่ต้นกล้ามากขึ้น
“ค่ะ ..เราคนบ้านเดียวกัน พี่ต้นกล้า..”
“พี่ต้นกล้า ผู้การต้น ชื่อต้นกล้าเหรอ นุชไม่ยักรู้”
“ชื่อตอนเด็ก ๆ ของพี่เค้า แพรวเรียกติดปากเพราะมันแปลก ในหมู่เพื่อนก็คงต้นเฉย ๆ ต้นคำเดียว พี่ต้นกล้าเป็นเพื่อนกับพี่ชายแพรวค่ะ..” สิบนาทีต่อมาแพรวพรรณก็ท้าวความหลังประวัติของพี่ต้นกล้าให้นงนุชได้รับรู้ และพอเห็นว่านงนุชนั้นน่าจะพอ ‘ล้วงตับ’ ได้แล้ว แพรวพรรณจึงวกเข้าหาคำถามที่ครุ่นคิดไว้ตั้งแต่แรก..
“ผู้การต้น เค้าเป็นอย่างไรบ้าง มีแฟนหรือยัง” เมื่อนงนุชเรียกผู้การต้น แพรวพรรณจึงต้องเอ่ยถึงเขาในเชิงยกย่องไปด้วย
“แฟน..คนหน้าตาดีขนาดนั้น ไม่มีแฟนก็เป็นเกย์แล้วค่ะ”
นงนุชเอ่ยออกมาอย่างนี้ ใจของแพรวพรรณร่วงลงไปที่ตาตุ่มทันที..มีแฟนแล้ว ใครละ แฟนพี่เขาอยู่ตรงไหน แต่อย่างว่า สมัยนี้ คำว่าแฟนอาจจะไม่ได้จำเป็นต้องพบปะพูดคุยหรือเจอหน้ากันทุกวันก็ได้..หรือจะเป็นหมอภีรชาคนนั้น แพรวพรรณพยายามปั้นหน้าให้เป็นปกติ..
“แล้วแฟนผู้การอยู่ที่ไหน”
“อยู่ทั่วไป”
“หมายความว่าไง”
“ก็เท่าที่รู้มา จากปากพี่สิทธิ์ แฟนนุช ชื่อสิทธิ์ พี่สิทธิ์เค้าว่าพี่ต้นหล่อเลือกได้ สาว ๆ มีให้เลือกเยอะก็เลยไม่รู้จะเลือกใคร”
แพรวพรรณอยากจะดีใจ แต่ถ้าเกียรติประวัติแบบนี้ แถวบ้านเธอเรียกว่า ‘มั่ว’
“สรุปว่า ยังไม่ได้มีแฟนเป็นตัวเป็นตน”
“ไม่รู้เหมือนกัน ค่ะ แต่แถว ๆ นี้ไม่เห็นมีใคร ตอนไปงานแต่งนุช เพื่อนนุชก็ทอดสะพานให้ตั้งหลายคน แต่ว่าพี่เขาก็ทีเล่นทีจริง..คงยังไม่พร้อมมีครอบครัวมั้งค่ะ ไอ้เราผู้หญิงเวลาคบใครก็คิดจริงจัง ก่อนหน้านั้นพี่เขาเรียนปริญญาโท เห็นว่าเพิ่งจบเมื่อปีก่อน คงวุ่น ๆ นะคะ นุชกับแฟน ถ้าเราไม่ได้รู้จักกันมานานแล้วก็คงไม่แต่งงานกันเร็วแบบนี้หรอกค่ะ..”
“นานแค่ไหนคะ”
“เรียนมัธยมมาด้วยกัน เขาลูกทหารเรือค่ะ นุชลูกพ่อค้าในตลาด..”
“เป็นแฟนทหารยากไหม”
“นุชไม่เข้าใจคำถาม”
“ก็..ต้องมีอะไรพิเศษหรือเปล่า เมื่อกี้เห็นบอกว่า มีลอดซุ้มกระบี่”
“ก็เป็นการให้เกียรติเจ้าสาว เป็นการยอมรับให้เจ้าสาวเป็นคนในครอบครัวทหาร..เป็นแฟนทหารเป็นเมียทหาร คุณแพรวคงรู้อยู่แล้วว่า ท.ทหาร อดทน เป็นเมียนายทหารก็ต้องอดทนค่ะ..ทนรอ..ยิ่งทหารเรือกองเรือยุทธการนะคะ ออกทะเลทีละหลายวัน ตั้งหน้าตั้งตารอกันไป บางทีไปไกลจากฝั่งมาก ๆ ติดต่อก็ไม่ได้”
“ถ้ามีเรื่องเร่งด่วน..”
“ก็โทรเข้ากองบัญชาการ กองก็จะใช้วิทยุติดต่อไปให้ แต่ต้องเรื่องสำคัญมาก ๆ นะคะ เราก็ต้องรู้ตรงนี้ด้วยว่า สามีเราออกไปปฏิบัติหน้าที่เพื่อคนทั้งชาติ เป็นยามเฝ้าระวังภัยของประเทศชาติกับดูแลทรัพยากรธรรมชาติทางทะเลของเรา ยิ่งตอนนี้สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ หรือชายแดนฝั่งกัมพูชามีปัญหากัน คนเป็นเมียทหาร ก็นอนอกสั่นขวัญแขวนกันไป..ส่วนทัพเรือแม้จะไม่ได้รับผิดชอบเต็มๆ แต่พอเราได้ข่าวว่าพายุเข้าอะไรแบบนี้ ก็พลอยเป็นห่วงเขาไม่ได้ อย่างตอนที่ทหารเรือไทยไปปราบโจรสลัดที่โซมาเลีย แฟนเพื่อนนุชก็ได้ไปค่ะ ก็นอนคิดถึงห่วงใยกันไปหลายเดือนหน่อย..บางคนก็สามีลงไปอยู่ภาคใต้คุ้มครอง
พระ ครู นักเรียน และดูข่าวเถอะค่ะ..น่าเสียวไส้ไหม”
แพรวพรรณยิ้มแหย ๆ
“มันจะอยู่ส่วนหนึ่งในนิยายเรื่อง ร.รัก ร.เรือ ใช่ไหมคะ”
“กำลังพัฒนาพล็อตอยู่ค่ะ แต่จะลงมือเขียนแล้ว เดี๋ยวให้พี่ผู้การต้นกล้าพาดูสถานที่อีกหน่อย”
“จะอยู่สัตหีบกี่วันคะ”
“ว่าจะกลับวันอาทิตย์หน้า เดี๋ยวพี่หิรัญญาจะตามมาสมทบ ส่วนคนอื่น ๆ ก็คุยกันทางเอ็มปรึกษางานกัน พอทุกอย่างพร้อม ก็ลุยกันเลย มันเป็นงานชุด”
“นุชสั่งจองชุดหนึ่งเลยนะคะ ขอลายเซ็นนักเขียนทุกคนด้วย..รบกวนส่งมาให้นุชด้วย จะเก็บเงินไปก่อนก็ได้”
“ยังหรอกค่ะ เดี๋ยวพอนิยายเป็นเล่ม อย่างไรแพรวก็ต้องกลับมาที่นี่อีกรอบ ตอนนั้นแพรวค่อยหิ้วเอามาให้ก็ได้ค่ะ แต่ต้องอดใจรอหน่อยนะคะ งานหนังสือเดือนมีนาคมนี้ไม่ทันแน่ ๆ อย่างช้าก็งานหนังสือเดือนตุลาคมฯ”
สองสาวคุยเรื่องสัพเพหะ พลางสั่งไก่ทอดของเจ้าของพื้นที่มานั่งกิน จนกระทั่ง ถึงเวลาเที่ยงวัน..
“อ้าว พี่นุช สวัสดีครับ” อันที่จริงเรือโทศุภโชคนั้นแก่กว่านงนุชหนึ่งปี แต่ด้วย นงนุชแต่งงานกับผู้การเรืออนุสิทธิ์ซึ่งมียศกับตำแหน่งสูงกว่า และเป็นรุ่นพี่ในโรงเรียนเตรียมทหาร โรงเรียนนายเรือ ต้นเรือศุภโชคจึงต้องให้เกียรติเรียกพี่นุชแทนที่จะคุยกันอย่างคนรุ่น ๆ เดียวกัน
“อ้าว ต้นเรือ นั่ง ๆ “
ต้นเรือศุภโชคที่อยู่ในชุดกีฬากางเกงขายาวเสื้อคลุมแขนยาวรองเท้าผ้าใบ ถือถาดใส่ชุดอาหารที่กำลังหมุนหาเก้าอี้นั่ง ถือโอกาสเดินมาหาสองสาวที่นั่งกันอยู่ หนังสือกองนั้นถูกขยับไปที่มุมโต๊ะด้านที่ติดกระจก..
“คุณแพรว นี่แหละคนสำคัญเลย ..ต้นเรือ เรือ ต.92 คนสนิทของผู้การต้นเลยค่ะ อยากรู้เรื่องผู้การต้นต้องถามเค้าเลย ต้นเรือศุภโชค”
“สวัสดีครับ..”
“สวัสดีค่ะ..”
“ผู้การผมไปไหนละครับ” พูดไปตรง ๆ แบบนี้ก็เพื่อให้ผู้หญิงคนนี้รู้ว่า เขารู้ว่าเธอเป็นแขกของผู้การจิรวัติ และอันที่จริงศุภโชคก็รู้ว่า ผู้การพาหมอภีรชากับแม่ไปเที่ยวและกินอาหารกลางวันกัน แต่ด้วยไม่รู้จะทักทายชวนคุยว่าอะไร จึงต้องยิงคำถามเดียวเพื่อเป็นการไม่เยิ่นเย้อ..
“ไป..ไปธุระคะ”
“โห หนังสือกองใหญ่โต ผลงานคุณแพรวเหรอครับ”..
“ค่ะ..คุณนุช ซื้อสะสมไว้ แพรวมาพอดี ก็เลยมีโอกาสได้เซ็นให้”
“ผมอยากได้หนังสือพร้อมลายเซ็นนักเขียนมั่ง ผมจะทำอย่างไร”
“กินไก่ให้หมดก่อน แล้วก็ออกไปร้านซีเอ็ด บอกพนักงานว่า เอานิยายของนักเขียนชื่อ แพรวพรรณ ทั้งหมด”
“มีกี่เล่มละครับ”
“สิบกว่าเล่ม เล่มละร้อยสองร้อย”
พอได้ยิน ศุภโชคเหลือกตาคำนวณราคา ก่อนจะยิ้มแหย ๆ
“เล่มเดียวก่อนได้ไหม คงเข้าใจนะครับคุณแพรว..”
“อีกข้อนะคุณแพรว ทหารไม่รวยนะคะ พออยู่พอกินกันไป..”
“ผมยังไม่มีบ้านจะอยู่เลย”
“แฟนก็ยังหาไม่ได้..” นงนุชแหย่ไปพลางตัดเนื้อไก่ทอดให้พอดีคำไปด้วย
“หน้าตาก็ไม่ดี ไปไหนมาไหนกับพี่ผู้การสุดหล่อ ผมละดับสนิท ราศีต้นเรือไม่เหลือ ใคร ๆ ก็นึกว่าเป็นทหารเกณฑ์ ดีที่ได้ชุดช่วยไว้ ไม่งั้นละแย่เลย”
แพรวพรรณขำกับมุกตลกของนงนุชกับคนที่ได้มีตำแหน่งนำหน้าชื่อว่า ‘ต้นเรือ’ ซึ่งการฟังพวกเขาหยอกเย้ากันแบบนี้ ทำให้แพรวพรรณมั่นใจได้ว่า เรื่อง ‘ร.รัก ร.เรือ’ ของเธอต้องสนุกถูกใจนักอ่านอย่างแน่นอน..
เวลาบ่ายโมงตรงเรือเอกจิรวัติก็ขับรถมาจอดรอแพรวพรรณที่ลานจอด..โดยก่อนหน้านั้นเขาได้โทรมาบอกแล้วว่าจะถึงที่ลานจอดรถของห้างโลตัสในเวลาเท่านี้..และยังไม่ทันจะโทรศัพท์บอก แพรวพรรณก็เดินออกมาจากห้างพร้อมกับนงนุช ซึ่งเขารู้จักดี แต่คนที่เขาไม่คิดว่าจะเดินมาด้วยก็คือ ต้นเรือของเขา..
“มันมาได้อย่างไรวะ..” จิรวัติสบถเบา ๆ ..
“สวัสดีค่ะผู้การ” นงนุชยกมือไหว้เพราะอายุน้อยกว่าส่วนศุภโชคนั้นยืดอกอมยิ้มอย่างภาคภูมิใจยั่วให้ผู้การต้นเดือดแก้เซ็ง..
“สวัสดีครับคุณนงนุช ผมก็นึกว่าใคร ที่แท้ก็คนกันเอง ถ้ารู้ว่าเป็นคุณผมก็ไม่ห่วง”
“นุชไม่พาคุณแพรวไปเสียหายหรอกค่ะ..แล้วจะไปไหนกันต่อคะ อยากไปด้วยจัง แต่นัดคุณแม่ไว้”
“แถว ๆนี้แหละครับ”
“ค่ะ ..คุณแพรว นุชไปก่อนนะ ต้นเรือ นุชไปก่อนนะ..” ร่ำลาทุกคนแล้วนงนุชก็เดินไปยังรถยนต์ของตนพร้อมกับถุงใส่หนังสือที่ไม่ยอมให้ศุภโชคช่วยหิ้วให้..
“แล้วเอ็งมากับเค้าได้อย่างไร” พอนงนุชไปแล้วผู้การก็เตรียมขย้ำต้นเรือทันที
“บังเอิญครับ..แล้วนี่จะไปไหนกัน ผมไปด้วยได้เปล่า”
“ไม่ได้..กลับไปเฝ้าเรือ..”
“ใจร้าย..”
“ไปครับน้องแพรว..” จิรวัติเปิดประตูรถยนต์ให้ แพรวพรรณจึงหันไปหาศุภโชคที่แสร้งทำหน้ามุ่ยให้ผู้บังคับบัญชาของตน
“ไปก่อนนะคะ คงได้เจอกันอีก..”
“ครับเป็นเกียรติของผมเป็นอย่างยิ่งครับ หนังสือเล่มนี้ผมจะอ่านให้จบภายในวันนี้แหละครับ แล้วถ้าสนุกผมจะรีบกลับมาซื้ออีกสองเล่ม แล้วเอาไปให้คุณแพรวเซ็นที่โรงแรม..”
“แพรวอายจังเลยค่ะ งานเด็ก ๆ ผู้ชายอ่านคงตลกแน่ ๆ”
“เพื่อนผมบางคนมันก็อ่านฆ่าเวลากัน ผมไม่เคยอ่าน แต่นี่ ถือว่าคุณแพรวเป็นแรงบันดาลใจในครั้งแรกของผม..ผมอ่านแน่นอน..” ศุภโชคหน้าระรื่น ส่วนผู้การจิรวัติกระแอมเบา ๆ เพราะอากาศร้อน ๆ ยามบ่ายติดคอ.
“ครับ ๆ คุณแพรวขึ้นรถเถอะครับร้อน ๆ แบบนี้เดี๋ยวจะไม่สบาย แล้วอีกอย่างคนขับรถเขาจะอารมณ์เสียเอาได้..”
“ค่ะ ขอบคุณนะคะ แล้วเจอกัน..”
พอเขามานั่งในรถของเขาเรียบร้อยแพรวพรรณก็ชวนคุยเรื่องของคนที่เดินไปยังรถมอเตอร์ไซค์ซึ่งจอดอยู่หน้าห้าง “ต้นเรือ แตกต่างจากผู้การเรืออย่างไรคะ”
“เมื่อกี้ไม่ได้ถามมันเหรอ” น้ำเสียงของคนที่กำลังสต๊าทเครื่องชักรวน ๆ
“ยังค่ะ เก็บข้อมูลมาถามผู้การต้นอีกที” แพรวพรรณแกล้งเรียกเขาอย่างที่คนอื่นเรียก จิรวัติหันมามองหน้าสวยซึ่งมีความเจ้าเล่ห์แอบแฝงอยู่ไม่น้อย ก่อนจะบังคับรถออกจากลานจอด
“แล้วเก็บข้อมูลของผู้การเรือจากคนอื่นไปมากน้อยแค่ไหนแล้ว”
“นิดหน่อยค่ะ..”
“ได้เรื่องว่าไงมั่ง สงสัยอะไรต้องถามจากปากพี่นะครับ ถามคนอื่น คำตอบบางอย่างมันก็เป็นการคาดเดา ใส่สีตีไข่”
“ค่ะ ..สงสัยอะไรแพรวถามแน่นอน”
จิรวัติอมยิ้ม ..เปิดช่องให้ถามขนาดนี้แล้ว แพรวพรรณก็ยังไม่ยอมถามว่าเขามีแฟนหรือยัง
“พี่ต้นกล้า หาปั้มเติมน้ำมันนะคะ แพรวเกรงใจค่ะ”
“เต็มถังเลยนะ..พันกว่าบาท”
“ได้เลยค่ะ แพรวให้วันละถังเลย แต่ว่าต้องใช้ให้หมดนะคะ”
“อย่าท้านะ”
“ไม่ได้ท้า แต่ต้องขับให้หมด ไม่ใช่เอาไปดูดออก”
“ขับหมดถังนี่ต้องขับไปส่งน้องแพรวที่บ้านแล้วละครับ แล้วนี่จะกลับนครสวรรค์อย่างไร”
“พี่ญามีรถค่ะ เดี๋ยวให้ไปส่ง..”
“แล้วพี่เขาก็ขับกลับมาฉะเชิงเทราคนเดียว..โอ..ผู้หญิงขับรถคนเดียวอันตราย”
“หรือพี่ต้นกล้าจะไปส่งคะ แพรวจะได้ไม่ต้องห่วงพี่ญา”
“แล้วไม่ห่วงพี่”
“ใครดีกับเราเราก็ต้องห่วงเขาค่ะ” แพรวพรรณตอบพลางดึงแว่นตาที่เพิ่งซื้อใหม่ออกมาสวม..และแน่นอนว่า ยี่ห้อนั้นจะต้องเป็นยี่ห้อเดียวกับผู้การที่กำลังขับรถด้วย..“ซื้อใหม่..”
“เรย์แบนด้วยคะ จะได้เข้ากับของพี่..” เผยให้เขารู้นิด ๆ ว่า อยากมีของใช้ที่เข้าคู่กับของใช้ของเขา..แล้วก็รู้สึกเขินอยู่ไม่น้อย..แต่เมื่อเวลามันมีน้อย เรื่องหัวใจในครั้งนี้ก็ต้องรีบทำเวลา..และขณะที่รถเลี้ยวออกถนนใหญ่ แพรวพรรณเห็นป้ายหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน แพรวพรรณก็ฉุกคิดได้ว่า ถ้าเป็นภรรยาทหารสิ่งหนึ่งที่จะต้องมีอยู่ในใจ ก็คือ ความอดทน..แค่เขาหายไปกับหมอภีรชาเธอก็พลุ่งพล่านขนาดนี้ และถ้าเขาออกทะเลไปเป็นเดือนสองเดือน หรือไปปราบโจรสลัดที่ต่างประเทศ เธอจะต้องนอนคิดถึงเขามากแค่ไหน
////////////
ขอบคุณจากทุก ๆ กำลังใจนะครับ...สำหรับ กุหลาบซ่อนกลิ่น บนแผงหนังสือชั้นนำผมยังไม่เห็นเลยครับ ไม่รู้ว่าคลังดอกหญ้ามีปัญหาเรื่องน้ำท่วมหรือเปล่า ไม่ได้ถาม แต่ผมเองตอนนี้อพยพหนีน้ำจากนครสวรรค์มาอยู่ที่ สูงเนินโคราชครับ ..ดูแลนสุขภาพกันด้วยนะครับ..จุ๊บ ๆ
ด้วยรู้ว่าทุกเช้าป๊ากับแม่จะตื่นมาใส่บาตรแล้วสวดมนต์ทำวัตรเช้า พอกะเวลาว่าป๊ากับแม่กลับมาจากเดินชมนกชมไม้ยืดเส้นยืดสายหลังสวดมนต์เสร็จ แพรวพรรณจึงรีบโทรหาซะก่อนที่ทางนั้นจะโทรมาแล้วถามถึงพี่หิรัญญา พอคุยกับป๊ากับแม่เรียบร้อยแล้ว แพรวพรรณก็ต่อสายถึงพี่พงศ์พันธุ์ เพราะเมื่อคืนเขาโทรมาหาเธอเช่นกัน แล้วเธอก็บอกกับเขาว่าพี่หิรัญญาหลับไปแล้ว ซึ่งครั้งนี้เธอไม่ได้โกหก เพราะพี่หิรัญญาที่อยู่ฉะเชิงเทรา ดื่มเบียร์พลางนั่งสนทนากับเพื่อนนักเขียนในกลุ่มทางโปรแกรมสนทนา msn เมาเบียร์แล้วขออนุญาตไปนอนแล้วนั่นเอง..
หมดกังวลเรื่องครอบครัวแพรวพรรณก็ลุกขึ้นอาบน้ำแต่งตัว เพราะต้องลงไปทานอาหารที่ทางโรงแรมเตรียมไว้ให้กับส่วนหนึ่งเธออยากไปเห็นหน้าของคุณหมอของพี่ต้นกล้าเหมือนกัน..
แพรวพรรณเดินเข้าห้องอาหารเมื่อเวลาเจ็ดโมงเช้า หญิงสาวค่อย ๆ กวาดสายตามองไปรอบ ๆ ห้องพลางตักอาหาร ก่อนจะสะดุดตากับสองแม่ลูกที่น่าจะเป็นคนสำคัญของพี่ต้นกล้าพอตักอาหารเสร็จเรียบร้อยแพรวพรรณก็ไปนั่งเยื้อง ๆ กับสองแม่ลูกให้พ่อเห็นหน้าว่าสวยถึงเพียงไหน..
และพอนั่งลง ลอบมองหน้าสวยของคุณหมอสาว แพรวพรรณก็ฉุกคิดได้ว่า คนที่เขาเรียนหนังสือเก่ง ๆ เหมือนกัน มีงานทำมั่นคง รับราชการเหมือนกัน เขาคงพอใจกันมากกว่า ที่จะมาสนใจลูกสาวพ่อค้าคนธรรมดาอย่างเธอ..
แพรวพรรณละเลียดข้าวต้มทะเลเข้าปากอย่างเซ็ง ๆ แต่จู่ ๆ เธอก็รู้สึกว่า มีคนเดินมาหยุดข้าง ๆ
“เอ่อ..ขอโทษนะคะ” แพรวพรรณรีบวางช้อนที่มีกุ้งตัวสีแดงซึ่งกำลังจะเข้าปากทันที..
“มีอะไรคะ”
“ใช่ แพรวพรรณหรือเปล่าคะ”
“ใช่ ๆ ค่ะ มีอะไรเหรอ” แพรวพรรณคิดไปแล้วว่า หรือว่าทางพี่ต้นกล้าบอกกับหมอสาวคนนี้ว่าเธอพักอยู่ที่นี่เหมือนกัน คงจะเล่าอะไรต่อมิอะไรเกี่ยวกับเธอให้สาวเจ้าฟังจนหมดแล้วแน่ ๆ หรือจะเอารูปที่ถ่ายไว้ในโทรศัพท์มือถือให้ดูด้วย..
“คือ ภีร์ เป็นแฟนนิยายคุณแพรวนะคะ..ภีร์ชอบสำนวนคุณแพรวอ่านเข้าใจง่ายเรื่องก็ไม่หนักมาก นี่ยังเสียดายเลยว่าไม่ได้มีหนังสือติดมือมาด้วย คิดว่าไม่มีเวลาอ่านนะคะ เลยไม่ได้ถือมา..”
หมอภีร์มาเป็นชุดโดยที่แพรวพรรณก็ได้แต่ถอนหายใจออกมาเบา ๆ แล้วอารมณ์ปลื้มใจก็เข้ามาแทนที่ แต่ถึงกระนั้น แพรวพรรณก็ยังหวั่นใจว่า หมอภีร์คนสวยนี้จะรู้ไหมว่าตอนนี้ เธอมาที่นี่เพื่อโปรยเสน่ห์ใส่พี่ต้นกล้าของหมอภีร์..
คุยกันได้ไม่กี่นาทีหมอภีร์ก็ขอตัวกลับไปที่โต๊ะโดยแพรวพรรณเองก็รีบขึ้นห้องพัก เพราะรู้สึกว่า คุยไปคุยมา เรื่องมันจะกลายเป็นจุดไต้ตำตอเสียแล้ว..
“พี่ญาจะไม่มาจริง ๆ เหรอ” และความเหงาความสับสนทำให้แพรวพรรณต้องโทรไปรายงานเรื่องหมอภีร์ให้หิรัญญาฟังแต่เช้า
“ไปวันอังคารแล้วกัน เล่นเกมกับผู้การไปสักวัน อยากดูเหมือนกัน วันจันทร์ เขาจะทำอย่างไรกับเธอ”
“ก็คงทิ้งแพรวให้อยู่ห้องไปนะสิ ถามได้..อุ้ย ๆ พี่ญา พี่ต้นกล้าโทรมาแพรวขอรับสายก่อนนะ”
บอกหิรัญญาแล้วแพรวพรรณก็รีบกดรับสายเรียกซ้อนทันที
“แพรว เป็นไงหลับสบายไหม”
“สบายดีค่ะ”
“กินข้าวหรือยัง”
“เรียบร้อยแล้วค่ะ..ข้าวต้มทะเลอร่อยมาก”
“แล้วนี่แพรวจะไปหาเพื่อนอย่างไร..”
“เดี๋ยวนุชเค้าจะมารับค่ะ นัดไว้สิบโมงเช้า”
“นุชไหน..”
“แพรวก็ไม่รู้เหมือนกัน”
“แล้วทำไมกล้าไปกับเขา..”
“ก็เป็นเพื่อนกันในเฟสบุ๊ค เค้าก็ตามอ่านงานมานานแล้ว มีหนังสือแพรวทุกเล่ม คงไม่มีอะไรหรอกค่ะ”
“แต่พี่ก็ยังห่วงนะ นึกว่ารู้จักกันนานนมแล้ว”
“ขอบคุณค่ะ คงไม่มีอะไรหรอก”
“แล้วจะอยู่โลตัสกันถึงกี่โมง”
“ทานข้าวเที่ยงกันด้วย..บ่ายโมงมั้งค่ะ”
“งั้นเดี๋ยวพี่ไปรับนะ พี่กับทางนี้คงเที่ยงครึ่งก็จบแล้ว ถ้าช้าหน่อยก็รอพี่นะ รอที่นั่นแหละ..”
“ค่ะ..” คุยกับเขาพลางมองกระจกไปด้วย แพรวพรรณรู้สึกว่าตาของตัวเองหวานฉ่ำผิดทุกวัน
“แล้วพี่ญาจะมาเมื่อไหร่ วันนี้หรือพรุ่งนี้”
“เอ่อ..แกยังไม่ได้สรุปเลยค่ะ เดี๋ยวค่อยโทรถามกันอีกที แต่ถ้าแกมา แพรวย้ายที่พักแน่ ๆ ค่ะ ตรงนี้มันธรรมดาไป แพรวอยากพักในค่ายทหารค่ะ เข้าเว็บดูแล้วมันมีที่แบบนั้นด้วย แต่ต้องให้พี่ญามาก่อน เพราะห้าวันนี้ ถ้าไม่มีรถใช้ แพรวอยู่ตรงนี้ดีกว่า”
“ครับ..” ปลายสายตอบรับสั้น ๆ ก่อนจะตัดบทว่า
“ดูแลตัวเองนะ มีอะไรก็โทรหาพี่ได้เลยนะ..แล้วเจอกัน”
พี่ต้นกล้าวางสายไปแล้ว แต่ว่าแพรวพรรณยังนั่งมองโทรศัพท์ในมือ..น้ำเสียงอาทรของเขาทำให้ใจของแพรวพรรณไหวอย่างรุนแรง ..แต่ว่า บางทีมันอาจจะเป็นเกมรักของเขาเช่นกัน..
//////////////////////////
ในร้านเคเอฟซีบนชั้น 2 ของห้างโลตัส สาขาสัตหีบ กองหนังสือนิยายที่มีนามแฝงนักเขียนชื่อ ‘แพรวพรรณ’ ติดอยู่ตรงปกหน้า และเจ้าของผลงานก็ตวัดลายเซ็นลงไปที่กระดาษหน้าในแผ่นแรก..คนที่นั่งมาอยู่มีดวงตาเป็นประกายของความปลาบปลื้ม ส่วนคนเซ็นนั้นเล่าก็รู้สึกมีกำลังใจในการทำงานขึ้นอยู่อีกไม่น้อย
หลังจัดการกับหนังสือกองนั้นเสร็จแล้ว แพรวพรรณก็เก็บปากกาเข้ากระเป๋า ก็จะเริ่มซักถามประวัติคร่าว ๆ ของ ‘นงนุช’ สาวแบงก์ โดยข้อมูลพื้นฐานก็คือ นงนุชเป็นคนสัตหีบโดยกำเนิด เกิดปีเดียวกับแพรวพรรณ เรียนจบบัญชีจากมหาวิทยาลัยในชลบุรี และก็แต่งงานแล้วกับนายทหารเรือเมื่อปีก่อน ยังไม่มีลูกด้วยกันเพราะยังไม่อยากมีภาระ ส่วนนงนุชเองก็ต้องซักถามแพรวพรรณ เช่นกัน และพอรู้ว่าแพรวพรรณมาสัตหีบเพื่อหาข้อมูลเขียนนิยายที่พระเอกเป็นทหารเรือ และทหารเรือที่เป็นคนให้ข้อมูลคือผู้การจิรวัติ สุกปลั่ง นงนุชก็ถึงกับหัวเราะเบา ๆ..
“โลกกลมจริง ๆ เลยแพรว”
“ทำไมละคะ”
“ก็ แฟนนุชเค้าก็เป็นเพื่อนรุ่นเดียวกับผู้การจิรวัติ..แฟนนุชก็เป็นผู้การเรือ ต. เหมือนกัน ตอนนุชแต่งงาน ผู้การต้นยังมาทำซุ้มกระบี่ให้เราเลย สนิทกันค่ะ”
“จุดไต้ตำตออีกแล้ว”
“..แสดงว่าไม่ใช่ครั้งแรก”
แพรวพรรณอยากจะเล่าเรื่องของหมอภีรชาให้นงนุชได้ฟัง แต่เห็นว่ามันไม่มีประโยชน์เท่ากับสืบเรื่องของพี่ต้นกล้าจากนงนุชนี่แหละ เพราะทางนี้เป็นทางเดียวที่ทำให้เธอได้รู้จักพี่ต้นกล้ามากขึ้น
“ค่ะ ..เราคนบ้านเดียวกัน พี่ต้นกล้า..”
“พี่ต้นกล้า ผู้การต้น ชื่อต้นกล้าเหรอ นุชไม่ยักรู้”
“ชื่อตอนเด็ก ๆ ของพี่เค้า แพรวเรียกติดปากเพราะมันแปลก ในหมู่เพื่อนก็คงต้นเฉย ๆ ต้นคำเดียว พี่ต้นกล้าเป็นเพื่อนกับพี่ชายแพรวค่ะ..” สิบนาทีต่อมาแพรวพรรณก็ท้าวความหลังประวัติของพี่ต้นกล้าให้นงนุชได้รับรู้ และพอเห็นว่านงนุชนั้นน่าจะพอ ‘ล้วงตับ’ ได้แล้ว แพรวพรรณจึงวกเข้าหาคำถามที่ครุ่นคิดไว้ตั้งแต่แรก..
“ผู้การต้น เค้าเป็นอย่างไรบ้าง มีแฟนหรือยัง” เมื่อนงนุชเรียกผู้การต้น แพรวพรรณจึงต้องเอ่ยถึงเขาในเชิงยกย่องไปด้วย
“แฟน..คนหน้าตาดีขนาดนั้น ไม่มีแฟนก็เป็นเกย์แล้วค่ะ”
นงนุชเอ่ยออกมาอย่างนี้ ใจของแพรวพรรณร่วงลงไปที่ตาตุ่มทันที..มีแฟนแล้ว ใครละ แฟนพี่เขาอยู่ตรงไหน แต่อย่างว่า สมัยนี้ คำว่าแฟนอาจจะไม่ได้จำเป็นต้องพบปะพูดคุยหรือเจอหน้ากันทุกวันก็ได้..หรือจะเป็นหมอภีรชาคนนั้น แพรวพรรณพยายามปั้นหน้าให้เป็นปกติ..
“แล้วแฟนผู้การอยู่ที่ไหน”
“อยู่ทั่วไป”
“หมายความว่าไง”
“ก็เท่าที่รู้มา จากปากพี่สิทธิ์ แฟนนุช ชื่อสิทธิ์ พี่สิทธิ์เค้าว่าพี่ต้นหล่อเลือกได้ สาว ๆ มีให้เลือกเยอะก็เลยไม่รู้จะเลือกใคร”
แพรวพรรณอยากจะดีใจ แต่ถ้าเกียรติประวัติแบบนี้ แถวบ้านเธอเรียกว่า ‘มั่ว’
“สรุปว่า ยังไม่ได้มีแฟนเป็นตัวเป็นตน”
“ไม่รู้เหมือนกัน ค่ะ แต่แถว ๆ นี้ไม่เห็นมีใคร ตอนไปงานแต่งนุช เพื่อนนุชก็ทอดสะพานให้ตั้งหลายคน แต่ว่าพี่เขาก็ทีเล่นทีจริง..คงยังไม่พร้อมมีครอบครัวมั้งค่ะ ไอ้เราผู้หญิงเวลาคบใครก็คิดจริงจัง ก่อนหน้านั้นพี่เขาเรียนปริญญาโท เห็นว่าเพิ่งจบเมื่อปีก่อน คงวุ่น ๆ นะคะ นุชกับแฟน ถ้าเราไม่ได้รู้จักกันมานานแล้วก็คงไม่แต่งงานกันเร็วแบบนี้หรอกค่ะ..”
“นานแค่ไหนคะ”
“เรียนมัธยมมาด้วยกัน เขาลูกทหารเรือค่ะ นุชลูกพ่อค้าในตลาด..”
“เป็นแฟนทหารยากไหม”
“นุชไม่เข้าใจคำถาม”
“ก็..ต้องมีอะไรพิเศษหรือเปล่า เมื่อกี้เห็นบอกว่า มีลอดซุ้มกระบี่”
“ก็เป็นการให้เกียรติเจ้าสาว เป็นการยอมรับให้เจ้าสาวเป็นคนในครอบครัวทหาร..เป็นแฟนทหารเป็นเมียทหาร คุณแพรวคงรู้อยู่แล้วว่า ท.ทหาร อดทน เป็นเมียนายทหารก็ต้องอดทนค่ะ..ทนรอ..ยิ่งทหารเรือกองเรือยุทธการนะคะ ออกทะเลทีละหลายวัน ตั้งหน้าตั้งตารอกันไป บางทีไปไกลจากฝั่งมาก ๆ ติดต่อก็ไม่ได้”
“ถ้ามีเรื่องเร่งด่วน..”
“ก็โทรเข้ากองบัญชาการ กองก็จะใช้วิทยุติดต่อไปให้ แต่ต้องเรื่องสำคัญมาก ๆ นะคะ เราก็ต้องรู้ตรงนี้ด้วยว่า สามีเราออกไปปฏิบัติหน้าที่เพื่อคนทั้งชาติ เป็นยามเฝ้าระวังภัยของประเทศชาติกับดูแลทรัพยากรธรรมชาติทางทะเลของเรา ยิ่งตอนนี้สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ หรือชายแดนฝั่งกัมพูชามีปัญหากัน คนเป็นเมียทหาร ก็นอนอกสั่นขวัญแขวนกันไป..ส่วนทัพเรือแม้จะไม่ได้รับผิดชอบเต็มๆ แต่พอเราได้ข่าวว่าพายุเข้าอะไรแบบนี้ ก็พลอยเป็นห่วงเขาไม่ได้ อย่างตอนที่ทหารเรือไทยไปปราบโจรสลัดที่โซมาเลีย แฟนเพื่อนนุชก็ได้ไปค่ะ ก็นอนคิดถึงห่วงใยกันไปหลายเดือนหน่อย..บางคนก็สามีลงไปอยู่ภาคใต้คุ้มครอง
พระ ครู นักเรียน และดูข่าวเถอะค่ะ..น่าเสียวไส้ไหม”
แพรวพรรณยิ้มแหย ๆ
“มันจะอยู่ส่วนหนึ่งในนิยายเรื่อง ร.รัก ร.เรือ ใช่ไหมคะ”
“กำลังพัฒนาพล็อตอยู่ค่ะ แต่จะลงมือเขียนแล้ว เดี๋ยวให้พี่ผู้การต้นกล้าพาดูสถานที่อีกหน่อย”
“จะอยู่สัตหีบกี่วันคะ”
“ว่าจะกลับวันอาทิตย์หน้า เดี๋ยวพี่หิรัญญาจะตามมาสมทบ ส่วนคนอื่น ๆ ก็คุยกันทางเอ็มปรึกษางานกัน พอทุกอย่างพร้อม ก็ลุยกันเลย มันเป็นงานชุด”
“นุชสั่งจองชุดหนึ่งเลยนะคะ ขอลายเซ็นนักเขียนทุกคนด้วย..รบกวนส่งมาให้นุชด้วย จะเก็บเงินไปก่อนก็ได้”
“ยังหรอกค่ะ เดี๋ยวพอนิยายเป็นเล่ม อย่างไรแพรวก็ต้องกลับมาที่นี่อีกรอบ ตอนนั้นแพรวค่อยหิ้วเอามาให้ก็ได้ค่ะ แต่ต้องอดใจรอหน่อยนะคะ งานหนังสือเดือนมีนาคมนี้ไม่ทันแน่ ๆ อย่างช้าก็งานหนังสือเดือนตุลาคมฯ”
สองสาวคุยเรื่องสัพเพหะ พลางสั่งไก่ทอดของเจ้าของพื้นที่มานั่งกิน จนกระทั่ง ถึงเวลาเที่ยงวัน..
“อ้าว พี่นุช สวัสดีครับ” อันที่จริงเรือโทศุภโชคนั้นแก่กว่านงนุชหนึ่งปี แต่ด้วย นงนุชแต่งงานกับผู้การเรืออนุสิทธิ์ซึ่งมียศกับตำแหน่งสูงกว่า และเป็นรุ่นพี่ในโรงเรียนเตรียมทหาร โรงเรียนนายเรือ ต้นเรือศุภโชคจึงต้องให้เกียรติเรียกพี่นุชแทนที่จะคุยกันอย่างคนรุ่น ๆ เดียวกัน
“อ้าว ต้นเรือ นั่ง ๆ “
ต้นเรือศุภโชคที่อยู่ในชุดกีฬากางเกงขายาวเสื้อคลุมแขนยาวรองเท้าผ้าใบ ถือถาดใส่ชุดอาหารที่กำลังหมุนหาเก้าอี้นั่ง ถือโอกาสเดินมาหาสองสาวที่นั่งกันอยู่ หนังสือกองนั้นถูกขยับไปที่มุมโต๊ะด้านที่ติดกระจก..
“คุณแพรว นี่แหละคนสำคัญเลย ..ต้นเรือ เรือ ต.92 คนสนิทของผู้การต้นเลยค่ะ อยากรู้เรื่องผู้การต้นต้องถามเค้าเลย ต้นเรือศุภโชค”
“สวัสดีครับ..”
“สวัสดีค่ะ..”
“ผู้การผมไปไหนละครับ” พูดไปตรง ๆ แบบนี้ก็เพื่อให้ผู้หญิงคนนี้รู้ว่า เขารู้ว่าเธอเป็นแขกของผู้การจิรวัติ และอันที่จริงศุภโชคก็รู้ว่า ผู้การพาหมอภีรชากับแม่ไปเที่ยวและกินอาหารกลางวันกัน แต่ด้วยไม่รู้จะทักทายชวนคุยว่าอะไร จึงต้องยิงคำถามเดียวเพื่อเป็นการไม่เยิ่นเย้อ..
“ไป..ไปธุระคะ”
“โห หนังสือกองใหญ่โต ผลงานคุณแพรวเหรอครับ”..
“ค่ะ..คุณนุช ซื้อสะสมไว้ แพรวมาพอดี ก็เลยมีโอกาสได้เซ็นให้”
“ผมอยากได้หนังสือพร้อมลายเซ็นนักเขียนมั่ง ผมจะทำอย่างไร”
“กินไก่ให้หมดก่อน แล้วก็ออกไปร้านซีเอ็ด บอกพนักงานว่า เอานิยายของนักเขียนชื่อ แพรวพรรณ ทั้งหมด”
“มีกี่เล่มละครับ”
“สิบกว่าเล่ม เล่มละร้อยสองร้อย”
พอได้ยิน ศุภโชคเหลือกตาคำนวณราคา ก่อนจะยิ้มแหย ๆ
“เล่มเดียวก่อนได้ไหม คงเข้าใจนะครับคุณแพรว..”
“อีกข้อนะคุณแพรว ทหารไม่รวยนะคะ พออยู่พอกินกันไป..”
“ผมยังไม่มีบ้านจะอยู่เลย”
“แฟนก็ยังหาไม่ได้..” นงนุชแหย่ไปพลางตัดเนื้อไก่ทอดให้พอดีคำไปด้วย
“หน้าตาก็ไม่ดี ไปไหนมาไหนกับพี่ผู้การสุดหล่อ ผมละดับสนิท ราศีต้นเรือไม่เหลือ ใคร ๆ ก็นึกว่าเป็นทหารเกณฑ์ ดีที่ได้ชุดช่วยไว้ ไม่งั้นละแย่เลย”
แพรวพรรณขำกับมุกตลกของนงนุชกับคนที่ได้มีตำแหน่งนำหน้าชื่อว่า ‘ต้นเรือ’ ซึ่งการฟังพวกเขาหยอกเย้ากันแบบนี้ ทำให้แพรวพรรณมั่นใจได้ว่า เรื่อง ‘ร.รัก ร.เรือ’ ของเธอต้องสนุกถูกใจนักอ่านอย่างแน่นอน..
เวลาบ่ายโมงตรงเรือเอกจิรวัติก็ขับรถมาจอดรอแพรวพรรณที่ลานจอด..โดยก่อนหน้านั้นเขาได้โทรมาบอกแล้วว่าจะถึงที่ลานจอดรถของห้างโลตัสในเวลาเท่านี้..และยังไม่ทันจะโทรศัพท์บอก แพรวพรรณก็เดินออกมาจากห้างพร้อมกับนงนุช ซึ่งเขารู้จักดี แต่คนที่เขาไม่คิดว่าจะเดินมาด้วยก็คือ ต้นเรือของเขา..
“มันมาได้อย่างไรวะ..” จิรวัติสบถเบา ๆ ..
“สวัสดีค่ะผู้การ” นงนุชยกมือไหว้เพราะอายุน้อยกว่าส่วนศุภโชคนั้นยืดอกอมยิ้มอย่างภาคภูมิใจยั่วให้ผู้การต้นเดือดแก้เซ็ง..
“สวัสดีครับคุณนงนุช ผมก็นึกว่าใคร ที่แท้ก็คนกันเอง ถ้ารู้ว่าเป็นคุณผมก็ไม่ห่วง”
“นุชไม่พาคุณแพรวไปเสียหายหรอกค่ะ..แล้วจะไปไหนกันต่อคะ อยากไปด้วยจัง แต่นัดคุณแม่ไว้”
“แถว ๆนี้แหละครับ”
“ค่ะ ..คุณแพรว นุชไปก่อนนะ ต้นเรือ นุชไปก่อนนะ..” ร่ำลาทุกคนแล้วนงนุชก็เดินไปยังรถยนต์ของตนพร้อมกับถุงใส่หนังสือที่ไม่ยอมให้ศุภโชคช่วยหิ้วให้..
“แล้วเอ็งมากับเค้าได้อย่างไร” พอนงนุชไปแล้วผู้การก็เตรียมขย้ำต้นเรือทันที
“บังเอิญครับ..แล้วนี่จะไปไหนกัน ผมไปด้วยได้เปล่า”
“ไม่ได้..กลับไปเฝ้าเรือ..”
“ใจร้าย..”
“ไปครับน้องแพรว..” จิรวัติเปิดประตูรถยนต์ให้ แพรวพรรณจึงหันไปหาศุภโชคที่แสร้งทำหน้ามุ่ยให้ผู้บังคับบัญชาของตน
“ไปก่อนนะคะ คงได้เจอกันอีก..”
“ครับเป็นเกียรติของผมเป็นอย่างยิ่งครับ หนังสือเล่มนี้ผมจะอ่านให้จบภายในวันนี้แหละครับ แล้วถ้าสนุกผมจะรีบกลับมาซื้ออีกสองเล่ม แล้วเอาไปให้คุณแพรวเซ็นที่โรงแรม..”
“แพรวอายจังเลยค่ะ งานเด็ก ๆ ผู้ชายอ่านคงตลกแน่ ๆ”
“เพื่อนผมบางคนมันก็อ่านฆ่าเวลากัน ผมไม่เคยอ่าน แต่นี่ ถือว่าคุณแพรวเป็นแรงบันดาลใจในครั้งแรกของผม..ผมอ่านแน่นอน..” ศุภโชคหน้าระรื่น ส่วนผู้การจิรวัติกระแอมเบา ๆ เพราะอากาศร้อน ๆ ยามบ่ายติดคอ.
“ครับ ๆ คุณแพรวขึ้นรถเถอะครับร้อน ๆ แบบนี้เดี๋ยวจะไม่สบาย แล้วอีกอย่างคนขับรถเขาจะอารมณ์เสียเอาได้..”
“ค่ะ ขอบคุณนะคะ แล้วเจอกัน..”
พอเขามานั่งในรถของเขาเรียบร้อยแพรวพรรณก็ชวนคุยเรื่องของคนที่เดินไปยังรถมอเตอร์ไซค์ซึ่งจอดอยู่หน้าห้าง “ต้นเรือ แตกต่างจากผู้การเรืออย่างไรคะ”
“เมื่อกี้ไม่ได้ถามมันเหรอ” น้ำเสียงของคนที่กำลังสต๊าทเครื่องชักรวน ๆ
“ยังค่ะ เก็บข้อมูลมาถามผู้การต้นอีกที” แพรวพรรณแกล้งเรียกเขาอย่างที่คนอื่นเรียก จิรวัติหันมามองหน้าสวยซึ่งมีความเจ้าเล่ห์แอบแฝงอยู่ไม่น้อย ก่อนจะบังคับรถออกจากลานจอด
“แล้วเก็บข้อมูลของผู้การเรือจากคนอื่นไปมากน้อยแค่ไหนแล้ว”
“นิดหน่อยค่ะ..”
“ได้เรื่องว่าไงมั่ง สงสัยอะไรต้องถามจากปากพี่นะครับ ถามคนอื่น คำตอบบางอย่างมันก็เป็นการคาดเดา ใส่สีตีไข่”
“ค่ะ ..สงสัยอะไรแพรวถามแน่นอน”
จิรวัติอมยิ้ม ..เปิดช่องให้ถามขนาดนี้แล้ว แพรวพรรณก็ยังไม่ยอมถามว่าเขามีแฟนหรือยัง
“พี่ต้นกล้า หาปั้มเติมน้ำมันนะคะ แพรวเกรงใจค่ะ”
“เต็มถังเลยนะ..พันกว่าบาท”
“ได้เลยค่ะ แพรวให้วันละถังเลย แต่ว่าต้องใช้ให้หมดนะคะ”
“อย่าท้านะ”
“ไม่ได้ท้า แต่ต้องขับให้หมด ไม่ใช่เอาไปดูดออก”
“ขับหมดถังนี่ต้องขับไปส่งน้องแพรวที่บ้านแล้วละครับ แล้วนี่จะกลับนครสวรรค์อย่างไร”
“พี่ญามีรถค่ะ เดี๋ยวให้ไปส่ง..”
“แล้วพี่เขาก็ขับกลับมาฉะเชิงเทราคนเดียว..โอ..ผู้หญิงขับรถคนเดียวอันตราย”
“หรือพี่ต้นกล้าจะไปส่งคะ แพรวจะได้ไม่ต้องห่วงพี่ญา”
“แล้วไม่ห่วงพี่”
“ใครดีกับเราเราก็ต้องห่วงเขาค่ะ” แพรวพรรณตอบพลางดึงแว่นตาที่เพิ่งซื้อใหม่ออกมาสวม..และแน่นอนว่า ยี่ห้อนั้นจะต้องเป็นยี่ห้อเดียวกับผู้การที่กำลังขับรถด้วย..“ซื้อใหม่..”
“เรย์แบนด้วยคะ จะได้เข้ากับของพี่..” เผยให้เขารู้นิด ๆ ว่า อยากมีของใช้ที่เข้าคู่กับของใช้ของเขา..แล้วก็รู้สึกเขินอยู่ไม่น้อย..แต่เมื่อเวลามันมีน้อย เรื่องหัวใจในครั้งนี้ก็ต้องรีบทำเวลา..และขณะที่รถเลี้ยวออกถนนใหญ่ แพรวพรรณเห็นป้ายหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน แพรวพรรณก็ฉุกคิดได้ว่า ถ้าเป็นภรรยาทหารสิ่งหนึ่งที่จะต้องมีอยู่ในใจ ก็คือ ความอดทน..แค่เขาหายไปกับหมอภีรชาเธอก็พลุ่งพล่านขนาดนี้ และถ้าเขาออกทะเลไปเป็นเดือนสองเดือน หรือไปปราบโจรสลัดที่ต่างประเทศ เธอจะต้องนอนคิดถึงเขามากแค่ไหน
////////////
ขอบคุณจากทุก ๆ กำลังใจนะครับ...สำหรับ กุหลาบซ่อนกลิ่น บนแผงหนังสือชั้นนำผมยังไม่เห็นเลยครับ ไม่รู้ว่าคลังดอกหญ้ามีปัญหาเรื่องน้ำท่วมหรือเปล่า ไม่ได้ถาม แต่ผมเองตอนนี้อพยพหนีน้ำจากนครสวรรค์มาอยู่ที่ สูงเนินโคราชครับ ..ดูแลนสุขภาพกันด้วยนะครับ..จุ๊บ ๆ

เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 19 ต.ค. 2554, 10:52:34 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 19 ต.ค. 2554, 10:52:34 น.
จำนวนการเข้าชม : 4729
<< 6. “งั้นพี่กวนแพรวแน่ ๆ” | 8.‘ไหมละอยากจะบอกละซิว่ายังโสด พี่ว่าง จีบพี่ได้อะไรทำนองนี้' >> |

แวนด้าน้อย 19 ต.ค. 2554, 11:04:39 น.
โอ้ย!!!อยากอ่านตอนต่อไป
โอ้ย!!!อยากอ่านตอนต่อไป

panon 19 ต.ค. 2554, 11:05:22 น.
ว้าวๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆชอบอ่ะเป็นภรรยาทหารต้องอดทน...//.....ดูแลสุขภาพตัวเองเช่นกันนะค่ะคุณเฟื่อง
ว้าวๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆชอบอ่ะเป็นภรรยาทหารต้องอดทน...//.....ดูแลสุขภาพตัวเองเช่นกันนะค่ะคุณเฟื่อง

จุฬามณีเฟื่องนคร 19 ต.ค. 2554, 11:15:48 น.
ตอนหน้าสนุกครับ...เขียนเองยังชอบเลย 55555555555555
ตอนหน้าสนุกครับ...เขียนเองยังชอบเลย 55555555555555

แวนด้าน้อย 19 ต.ค. 2554, 11:18:31 น.
แหม พี่ต้นกล้าอยากให้ถามว่ามีแฟนหรือยัง
แหม พี่ต้นกล้าอยากให้ถามว่ามีแฟนหรือยัง

XaWarZd 19 ต.ค. 2554, 11:38:54 น.
รุกกันทั้งคู่เลย ไม่ต้องรอให้ถาม บอกไปเลยดีกว่ามั้ยพี่ต้นกล้า ว่ารอน้องแพรวอยู่คร้าบ
รุกกันทั้งคู่เลย ไม่ต้องรอให้ถาม บอกไปเลยดีกว่ามั้ยพี่ต้นกล้า ว่ารอน้องแพรวอยู่คร้าบ

innam 19 ต.ค. 2554, 11:55:41 น.
ตามเป็นกำลังใจ
ตามเป็นกำลังใจ

silverraindrop 19 ต.ค. 2554, 11:58:39 น.
ต่างคนต่างรุกนะคะ มาลุ้นกันว่าใครจะพ่าย
ต่างคนต่างรุกนะคะ มาลุ้นกันว่าใครจะพ่าย



milbol 19 ต.ค. 2554, 12:31:37 น.
อยากอ่านตอนต่อไปแล้ว รีบๆมาต่อนะค่ะ
อยากอ่านตอนต่อไปแล้ว รีบๆมาต่อนะค่ะ

Zephyr 19 ต.ค. 2554, 14:36:37 น.
รุกแบบขยักๆนิดๆ กลัวเสียฟอร์มกันรึไงน้า คนอ่่านลุ้นตัวโก่งแล้วเนี่ย แพรวเอ้ย เริ่มอดทนตั้งแต่นี้เลยเป็นไง หึหึ
รุกแบบขยักๆนิดๆ กลัวเสียฟอร์มกันรึไงน้า คนอ่่านลุ้นตัวโก่งแล้วเนี่ย แพรวเอ้ย เริ่มอดทนตั้งแต่นี้เลยเป็นไง หึหึ

ทองหลาง 19 ต.ค. 2554, 17:06:43 น.
บอกข่าวสดๆด่วนๆ สนพ.น้ำท่วมแล้วเจ้าข้าเอ๊ย
บอกข่าวสดๆด่วนๆ สนพ.น้ำท่วมแล้วเจ้าข้าเอ๊ย

แว่นใส 19 ต.ค. 2554, 17:07:43 น.
ช่างวางแผนนะจ๊ะ
ช่างวางแผนนะจ๊ะ

ปูจ้า 19 ต.ค. 2554, 19:11:43 น.
ต่างคนต่างรุก แบบน่ารักๆจริงคู่นี้
ต่างคนต่างรุก แบบน่ารักๆจริงคู่นี้

ณัฐวีร์ 19 ต.ค. 2554, 23:14:27 น.
อั๊ยยะ แทบอดใจรอไม่ไหวเลยทีเดียว
อั๊ยยะ แทบอดใจรอไม่ไหวเลยทีเดียว

pseudolife 19 ต.ค. 2554, 23:15:06 น.
รออ่านตอนต่อไปค่า
รออ่านตอนต่อไปค่า

minafiba 20 ต.ค. 2554, 00:45:23 น.
^____^
^____^

join 20 ต.ค. 2554, 14:51:21 น.
แม๋...ผู้การค่ะ ผู้หญิงดีๆที่ไหนจะถามผู้ชายก่อนว่ามีแฟนหรือยัง
แม๋...ผู้การค่ะ ผู้หญิงดีๆที่ไหนจะถามผู้ชายก่อนว่ามีแฟนหรือยัง

anOO 21 ต.ค. 2554, 18:01:18 น.
ท่าทางคู่นี้เค้าจะทันกันนะ ขนาดยังไม่ได้เผยไต๋ออกไปทั้งหมด
ท่าทางคู่นี้เค้าจะทันกันนะ ขนาดยังไม่ได้เผยไต๋ออกไปทั้งหมด