รักนี้...หัวใจ (ไม่) กำมะลอ
“ ฉันไม่ใช่ผู้ชาย ฉันไม่ใช่กระเทย และแน่นอนว่าไม่ได้เป็นทอมด้วย!”
จุ๊ๆ ....จุ๊ๆ รู้แล้วเหยียบ รู้แล้วอย่าบอกใครเชียวนะ ว่าอีตาซุป’ตาร์ (บอด+บื้อ) คนนั้นทั้งตาบอดและตาต่ำยิ่งกว่าตาตุ่มแค่ไหน ที่ดั๊นมาติ๊ต่างเอาเองว่าสาวน้อยน่ารักอย่างฉันเป็นไอ้หนุ่มน้อยหน้าหยกไปซะได้ แถมยังไม่พออีตาบ้านั่นยังมายัดเยียดข้อหา “ไอ้หนูนักถ้ำมอง” แล้วจับฉันมาเล่นเป็นพระเอกมิวสิคให้มันอีกต่างหาก ฮึ! มันจะมากไปแล้วนะ ไอ้...ฝาหลุดเอ้ย...
เออ รู้แล้วน่าว่าฉันมันเป็นของแปลก แล้วไง หา...ช่วยไม่ได้นี่ที่ฉันอยากเกิดมาหล่อผิดมนุษย์แบบนี้ แต่ถึงหน้าตาฉันมันจะไม่เหมือนผู้หญิงทั่วไป นายก็ไม่มีสิทธ์มาปล้นหัวใจกันแบบนี้นะโว้ย
แล้วเมื่อไหร่นายจะรู้สักทีนะว่าไอ้หนูที่นายเก็บมาปั้นให้ดังในชั่วข้ามคืนคนนี้ แท้ที่จริงแล้วรู้สึกยังไงกับนายกันแน่...
ไม่มีคำอธิบายอะไร นอกจากลองอ่านดูสักครั้งสิ แล้วคุณจะหลงเสน่ห์ “นายซุปตาร์หนุ่มกำมะลอ” แสนน่ารักน่าหยิกคนนี้จนถอนตัวไม่ขึ้น คำเตือน++ อย่าเชื่อจนกว่าจะได้อ่านเองนะ ขอบอก!!!

Tags: ผู้แต่งยังไม่ได้กำหนด tags ของนิยายเรื่องนี้

ตอน: ตอนที่ 5 ผลแห่งรอยจุมพิตสุดสยอง

ตอนที่ 5

พระพายรู้สึกเสมือนตกอยู่ในห้วงแห่งความฝัน!!

ฝันแปลกประหลาด...เพียงหะแรกที่สัมผัสรอยอุ่นวาบนั้นจุดชนวนความหวานปนขมนิดๆ ของรสมินต์นั้น ช่างทำให้รู้สึกหวามลึกและซาบซ่านในอกจนเกือบสำลัก เจ้าหล่อนปิดเปลือกตาลงอย่างเคลิบเคลิ้ม ริมฝีปากอิ่มที่ถูกพันธนาการด้วยริมฝีปากอุ่นรสมิ้นต์นั้นทวีความเร่าร้อน หากรสสัมผัสที่บดเคล้ากลับจุดชนวนให้หัวใจสาวโลดแรงแทบทะลุออกมาจากทรวงอกด้วยอานุภาพอันทรงพลังรุนแรงชนิดหาที่เปรียบไม่ได้...

จุมพิตแรกในชีวิตของหล่อน!!! ถูกช่วงชิงไปแบบสายฟ้าฟาด!!!

“ ว้าย...บัดสีบัดเถลิงที่สุด!!!”

เสียงแหลมปรี๊ดดังขึ้นจากคนรอบข้างทำให้ดาราจำเป็นทั้งสองสะดุ้งได้สติ

“ คนอะไรหน้าไม่อาย มานอนกอดจูบกันประเจิดประเจ้อแบบนี้ หน้าไม่อาย ผู้ชายทั้งคู่ซะด้วย” หนึ่งในไทยมุงวิจารณ์

“ เกย์แหงแซะเลย ” ท้ายประโยคทั้งปลงแกมเสียดาย “ เสียดายว่ะ หล่อทั้งคู่ซะด้วย”

พระพายรู้สึกราวกับถูกถีบตกขอบสวรรค์ ลงมาน่งจุกแอ๊กที่ก้นเหว...

คำประนามหยามเหยียดจากรอบข้างยังวิจารณ์ไม่จบไม่สิ้น ทำเอาคนตกเป็นขี้ปากเริ่มรู้สึกคลื่นไส้ รีบถอนริมฝีปากออกมาฉับพลัน หญิงสาวเริ่มสัมผัสได้ถึงรสชาติเค็มปะแล่มที่ริมฝีปากเจ่อจากการปะทะ ดวงหน้าแดงซ่านอับอายแทบแทรกแผ่นดินหนี เมื่อรับรู้ถึงริมฝีปากนุ่มที่ประทับอยู่อย่างแนบแน่นราวกับจะเป็นเนื้อเดียวกัน ร่างสูงโปร่งก็รีบสปริงตัวลุกหนีให้พ้น ปลดปล่อยริมฝีปากหนานุ่มของอีกฝ่ายให้เป็นอิสระ แต่ทันใดนั้นเอง ร่างของหล่อนก็ต้องเสียหลักล้มลงมาบนอกแข็งแกร่งนั้นอีกครั้ง เมื่อเอวบางของเจ้าหล่อนถูกรวบไว้ทันควันด้วยฝีมือของเจ้าของรอยจูบฟ้าผ่านั้นเอง

“เดี๋ยว! ” เสียงห้าวลึกเข่นเขี้ยว “มากระทำชำเราคนอื่นแล้วคิดจะหนีง่ายๆ ได้ไง หา?”

“ ว่าไงนะ” พระพายเบิกตาโพลง “ กระทำชำเรา! ฉันเนี่ยนะ”

“ เออสิ อยู่ดีๆ ก็มาปล้ำจูบฉันแล้วจะคิดหนีไป ไม่ง่ายไปหน่อยเหรอ ซี้ด! ” ริม
ฝีปากเจ่อน้อยๆ สูดปากเมื่อมือลูบไปโดนศีรษะบริเวณที่ถูกวัตถุลึกลับเขวี้ยงมา
โดนพอดี ก็ครางออกมา

“ โอย หัวฉันแตกไหมนี่ ไม่รู้ล่ะนายต้องรับผิดชอบ!” คำประกาศกร้าวนั่นทำให้คนฟังตัวชาวูบ ดวงตาดำใหญ่จ้องถมึงทึงเอาเรื่อง พระพายหันรีหันขวาง จะหนีก็ติดกับดักมือกาวที่พยายามแกะเท่าไหร่ก็ไม่ยอมหลุด

“ โอ้ย ปล่อยนะ จะบ้าเหรอ” มือข้างที่เป็นอิสระระดมทุบ

“ เอาเลย ถ้าดิ้นฉันจะรัดให้ตัวขาดเลย” คำขู่นั้นทำให้อีกฝ่ายฉุนกึก เงยหน้ามองอีกฝ่ายอย่างอาฆาต

“ เอ๊ะ” คนที่ถูกกระทำชำเราอุทานตื่นเต้น “ นาย! ไอ้หนูถ้ำมองนี่นา”

ฉายาที่หลุดมาจากริมฝีปากหยักนุ่มคู่นั้นทำเอาพระพายสะดุ้ง พอเห็นชัดๆ ว่าอีกฝ่ายเป็นใคร เจ้าหล่อนก็ตบหน้าผาก นึกอยากตายซะเดี๋ยวนั้น โลกกลมแท้ เจอใครไม่เจอ มาเจอนายโรคจิต ปากมอม คู่ปรับเก่าได้ ซวยแท้ๆ ไอ้ลมเอ้ย...

“ ไง ไอ้หนู มาทำอะไรแถวนี้หา” ชายหนุ่ม ชะโงกมองทิศทางที่หล่อนโผล่มาก็ส่ายหน้า

“ มาถ้ำมองอีกสิท่า ไปทำไงให้เค้าจับได้ล่ะ ไอ้หนู แล้วแพ่นมาจูบฉันนี่หวังจะเปลี่ยนแนวมาชอบไม้ป่าเดียวกันหรือไงวะ แต่ปากแกนี่แม่งเอ้ย...” คนพูดลูบริมฝีปากเจ่อนิดๆของตัวเอง “นุ่มไม่เบาเลย แต่เสียใจว่ะ ฉันชอบผู้หญิง ไม่ได้พิศวาส...เพศเดียวกัน” มือหนาเปลี่ยนจากกอดเอวมาลูบศีรษะที่ปรกคลุมด้วยผมสั้นสลวย ร่างสูงขยับกึ่งนั่งกึ่งนอน

“ ไปหาคนอื่นมาบำบัดความใคร่เหอะไป๊” ริมฝีปากหยักแดงแย้มขำขัน น่าแปลก ดวงตาดำใหญ่วิบวับเหมือนยิ้มได้ และเวลานี้เขาผู้นี้กำลังใช้สายตายิ้มเย้ยเยาะหล่อนอยู่ เท่านั้นเองคนถูกกล่าวหาก็ฟิวส์ขาด

“ บ้า!” มือบางปัดมืออีกฝ่ายแล้วผลักใสอย่างแรงจนร่างหนากว่ากระเด็นผลึง “ ไอ้โรคจิตปากมอม ปล่อยเดี๋ยวนี้นะ”

“ โอ๊ะ!” คนตัวโตร้องลั่น เพราะกำปั้นหลุนๆ ลอยมากระแทกปากมอมของเขาอย่างจังเบอร์ ซ้ำรอยแผลเก่าพอดิบพอดี

“ โอย...อูย” เจ้าของดวงหน้าหล่อเหยเก นัยน์ตาคมกริบปานใบมีดตวัดฉับไปที่อีกฝ่ายราวกับจะกินเลือดกินเนื้อ ตั้งแต่เกิดมาไม่เคยมีใครกล้าทำแบบนี้กับเขามาก่อน ไอ้เวรนี่วอนตายซะแล้ว

“ ไง...เจ็บล่ะสิ ปากพล่อยดีนักนี่ สมน้ำหน้า” เจ้าของหมัดพิฆาตลอยหน้ายั่วเยาะ

“ ไอ้เวรนี่วอนตายใช่ไหม” ดวงตาดำใหญ่มีประกายโรจน์จนแทบถลนหลุดจากเบ้า น่าแปลกแทนที่จะน่าเกลียด ดวงหน้าคมนั้นกลับดูหล่อเข้มชวนมองอย่างประหลาด ปากมอมที่เราะร้ายนั่นห้อเลือดแสยะยิ้มน่ากลัว มือหนากำเข้าหากันแน่น โทสะพุ่งถึงขีดสุดชายหนุ่มเงื้อกำปั้นจนสุดแขน พระพายมองภาพนั้นอย่างตะลึงงัน

“ อย่าอยู่เลยแก!!”

ตายแน่!! พระพายนึกในใจอย่างหวาดหวั่น หญิงสาวทำคอย่น หลับตาปี๋ รอรับอาญาจากอสูรร้ายที่ถูกหล่อนปลุกขึ้นมากับมือ ตาย...ตายแน่ๆ เลยไอ้ลมเอ๋ย หญิงสาวนึกถึงพ่อแก้วแม่แก้ว ใจคอสั่น ทันใดนั้นเอง เสียงระฆังสวรรค์ก็สะท้อนก้องเข้ามาในโสตประสาทที่ตึงเครียดอย่างฉับพลัน

“ ว้าย! หยุดนะคะ พี่เฟิร์ส อย่าค่ะ!!!” เสียงหวานใสแทรกเข้ามายุติมวยคนละรุ่นนั้นลงทันใด ร่างบอบบางถลาเข้ามายึดแขนที่อุดมด้วยมัดกล้ามของศิลปินหนุ่มสุดหล่อไม่ให้ซัดอีกฝ่ายทันท่วงที

“แชะ! แชะ! แชะ!” จู่ๆ เสียงรัวชัตเตอร์ก็ดังขึ้น เจ้าของกล้องยิ้มร่า

‘ตามมาทั้งวัน ในที่สุดก็สมใจ งานนี้ สกู๊ปข่าวของเราต้องดังทะลุฟ้าไปทั้งประเทศ
แน่ๆ’ นักข่าวหนุ่มกระหยิ่มยิ้มย่อง

“ ศึกชิงนางเอกดัง แพตตี้ นักร้องเบอร์หนึ่งสุดหล่อ เฟิร์ส-ฟารุตม์ซัดกันนัวหนุ่มหล่อนอกวงการ เหตุหึงหวง เพราะจับได้คาหนังคาเขาว่านางเอกสาวแอบนอกใจ! นางกากีปี 2011”

“ กรี๊ดดดดด”

เสียงกรีดร้องระเบิดกึกก้อง ความโหยหวนชวนสยองนั้นทำให้คนฟังต้องรีบอุดหูไว้ทันควัน

“ กากีปี 2011” เสียงแหลมปรี๊ดแสบเข้าไปถึงทรวงแผดร้อง “ กล้าดียังไงเนี่ย!”

ดวงหน้างดงามบิดเบี้ยว มือบางขยุ้มหนังสือพิมพ์ที่กำลังอ่านในมือจนเป็นก้อนกลม ก่อนชู๊ตไป กระแทกฝาห้องอย่างแรง

“ ใจเย็นๆ ก่อน ยัยแพต ใจเย็นๆ” คนเป็นเพื่อนเอาน้ำเย็นเข้าลูบ

“ ไม่ยง ไม่เย็นมันแล้ว ทำแบบนี้มันเกินทน ไม่รู้ล่ะฉันจะฟ้องร้องเอาเรื่องไอ้
หนังสือเวรนี่ให้ถึงที่สุดเลย กล้าดียังไงมาเรียกฉันว่า กากี หนอย...อย่างนี้มันดูถูกกันชัดๆ หน้าตาฉันออกจะสวยขนาดนี้ จะเป็นนางกากีมากชู้ได้ไง” หางเสียงสูงปรี๊ดบ่งบอกอารมณ์คนพูดได้ดีว่าอันตรายแค่ไหน

“ นั่นสิ ฉันก็ว่าหน้าแกไม่เหมือนนะ” คนพูดพยักเพยิดหงึกหงักอย่างหวังดี แต่ทว่าอาการนั้นกลับยิ่งยั่วโทสะทำให้อีกฝ่ายลมออกหู จนต้องหันมาแวดใส่

“ เพราะแก ไอ้ลมบ้าหมู!” นิ้วเรียวยาวจิ้มจึ้กไปที่อกพระพาย “ เพราะแกคนเดียว”

“ ไหงงั้น...” สาวหล่อเกาหัวแกรกๆ

“ ถ้าแกไม่ไปหาเรื่องพี่เฟิร์ส เรื่องก็ไม่บานปลายอย่างนี้หรอก”

“ เฮ้ย...ฉันไม่ได้หาเรื่องนะ อีตาโรคจิตนั่นต่างหาก ตัวต้นเหตุขนานแท้!” คนถูกกล่าวหาฟึดฟัด

“ แล้วมันเรื่องอะไร แกถึงต้องไปชกต่อยกับเขาแบบนั้น หา ดูซิ ฉันเลยพลอยซวยไปด้วยเลยเนี่ย ทีนี้จะเอาหน้าไปไว้ไหน”

“ ก็เอาไว้ที่เดิมแหละ”

“ ไอ้ลม! ไม่ขำนะขอบอก” ไพจิตรีตวาดแวด ตาเขียวปัด ทำเอาอีกฝ่ายหน้าเจื่อน แต่ไม่วายเถียงอ้อมแอ้ม

“ แต่ฉันไม่ผิดซักหน่อย ไอ้หมอนั่นต่างหาก แหม โดนไปแค่หมัดเดียวมันยังน้อยไปด้วยซ้ำ หนอย กล้าดียังไงมาจะ...อุ้บ” คนพูดรีบกัดลิ้น เบิกตากว้างอย่างนึกขึ้นมาได้

“ จะ? จะอะไรของแก หา พี่เฟิร์สเขาจะทำอะไรแก บอกมาเดี๋ยวนี้นะ อย่ามาปิดบัง
ฉัน จะอะไร” ดวงตากลมโตเท่าไข่ห่านของไพจิตรีจ้องเขม็งอย่างคาดคั้น ทำให้จำเลยสาวกลืนน้ำลายเอื้อก หัวใจเต้นแรงพลางยกมือแตะริมฝีปากอย่างลืมตัว รอยอุ่นที่ปากยังอบอวลไม่จางหาย ริมฝีปากหนานุ่มที่ประทับลงมาจะว่าไปก็หวานล้ำไม่หยอกเหมือนกันนะ

“ ไอ้ลม!” เสียงฟ้าผ่าฉุดสติคนใจลอยให้กลับเข้าร่าง

“ ห๊ะ...หา”

“ ใจลอยไปถึงไหนยะ ฉันถามว่าเขาจะอะไรแก”

“ จะ...จะอะไร อ๋อ...” หญิงสาวลากเสียงยาว “ จะต่อยฉันไง นายโรคจิตนั่นไง มันจะต่อยปากฉัน”

“ พี่เฟิร์สเนี่ยนะ จะต่อยแก” คนฟังทำหน้าเหลือเชื่อ “ เขาเป็นสุภาพบุรุษจะตาย เป็นไปได้ไง”

“ ก็เป็นไปแล้วแหละ นี่ถ้าแกไม่มาห้ามนะ ไม่ฉันก็เขาล่ะ ต้องหน้าแหกกันไปข้างหนึ่ง”

ขาดคำนั้น นางแบบสาวก็หัวเราะลั่นอย่างไม่เชื่อ

“ จริงๆ นะ หนอย สุภาพบุรุษบ้าอะไร จะรังแกผู้หญิงแบบนี้ อีตาบ้านั่นมันน่าจะหากระโปรงมานุ่ง”

“ ก็เขารู้ซะเมื่อไหร่ว่าแกเป็นผู้หญิงน่ะ เฮ้อ...แต่เรื่องนั้นช่างมันก่อน ไม่สำคัญ เรื่องสำคัญคือตอนนี้เราจะทำยังไง ข่าวออกมาซะใหญ่โตแบบนี้ ถ้าอาม่าแกมาเห็นเข้าจะทำยังไง หืม? แล้วไหนจะพี่เฟิร์สอีก อีกไม่กี่วันเขาก็ต้องเปิดตัวอัลบั้มใหม่แล้ว ข่าวอื้อฉาวออกไปแบบนี้ เขาจะทำยังไง” คนพูดทำหน้ากลุ้มใจ โดยหารู้ไม่ว่าขณะนี้คนที่กำลังกล่าวถึงกำลังนั่งกุมขมับไม่ต่างกัน

ชายหนุ่มร่างสูงนั่งกุมขมับอย่างสุดกลุ้ม ในมือยังถือผ้าขนหนูที่ห่อน้ำแข็งไว้ประคบที่ริมฝีปากอันบวมเจ่อด้วยอารมณ์คุกรุ่น หลังจากเกิดเหตุ เขาก็เดินหัวฟัดหัวเหวี่ยงกลับไปที่โต๊ะอาหาร แต่ก็ต้องพบกับความผิดหวังเพราะจารุดาฝากโน๊ตไว้กับบริกรว่าต้องรีบกลับก่อน เพราะไอ้เจ้าเพื่อนตัวดีต้องการพาหญิงสาวไปฉลองกันตามลำพัง หลังจากปลีกตัวจากงานมาได้ และนับจากวันเกิดเหตุมา เขาก็ยังไม่ได้พบหน้าหล่อนอีกเลย...

แถมยังต้องมาเจอกับเรื่องข่าวมหาประลัยนั่นอีก ดวงตาคมกริบของศิลปินหนุ่มมองผู้จัดการส่วนตัวเดินวนไปวนมาอย่างน่าเวียนหัว

“ พี่เต้ครับ หยุดเดินก่อนดีไหม ผมชักจะตาลายแล้ว”

“ คุณเฟิร์สแค่ตาลาย แต่พี่นี่สิกำลังจะชะตาหลุด โอ้ย...ทำไปได้นะคนเรา” คนพูดกระแทกตัวลงนั่งอย่างฉุนเฉียว “ ข่าวออกไปแบบนี้แล้วจะทำยังไง แฟนคลับคุณ
คงหายเรียบ นี่อีกไม่กี่วันก็จะเปิดตัวอัลบั้มใหม่อยู่แล้ว ทีนี้จะทำยังไง งามหน้าไหมล่ะ ไปชกต่อยแย่งสาวกลางผับแบบนั้น โอ้ย...ฉันอยากจะบ้าตาย รู้ถึงไหนบรรลัยถึงนั้น”

“ใจเย็นๆ ก่อนสิครับพี่เต้ เรื่องอาจไม่เลวร้ายถึงขนาดนั้นก็ได้”

“ เย็นยังไงไหว เมื่อกี้โปรดิวเซอร์เพิ่งโทรมาหา บอกว่าผู้ใหญ่ให้ถามมาว่าเรื่องมันเป็นมายังไง แล้วนี่ถ้าเขาเกิดระงับการเปิดตัวอัลบั้มของคุณขึ้นมาจะว่ายังไง หา...”
ฟารุตม์ทำคอย่น คำที่ผู้จัดการส่วนตัวของเขาพูดถึงไม่ได้เกินจริงเลยซักนิด ถึงแม้ชื่อเสียงเขาจะดังแค่ไหน หากเพราะเรื่องอื้อฉาวแบบนี้ก็เคยทำให้ดาราดังหลายต่อหลายคนกลายเป็นดาวดับจบอนาคตของตัวเองไปนักต่อนักแล้ว

“ พี่ถามจริงๆ เถอะนะ คุณมีนอกมีในอะไรกับน้องแพตหรือเปล่า”

“ เฮ้ย! จะเป็นอย่างนั้นได้ยังไงครับ ผมกับน้องแพตเป็นแค่เพื่อนร่วมงานกัน
เท่านั้น”

“ แล้วเรื่องที่ไปชกต่อยแย่งผู้หญิงกับแฟนน้องแพตเค้านี่ล่ะ”

“ มันก็แค่เรื่องเข้าใจผิด ไอ้หนูเวรนั่นมันมาต่อยผมก่อนต่างหาก”

“ ไอ้หนู?” เตชิสะทวนคำ

“ ก็ไอ้หนูที่วันนั้นเราเอามาแสดงมิวสิววีดิโอเพลงใหม่แทนเจ้าน๊อตไงครับ พี่จำได้หรือเปล่า”

“ แล้วมันเรื่องอะไร ทำไมเค้าต้องมาต่อยกันด้วย”

“ ก็มันสะดุดล้มทับผมก่อน แล้วเราก็เผลอ...เอ่อ” คนพูดชะงัก เมื่อภาพเหตุการณ์
หวามแวบเข้ามาในสมองอีกครั้งหัวใจก็แกว่งไกว ราวกับเห็นริมฝีปากแดงอิ่มลอยยั่วเย้าอยู่ตรงหน้า มือหนาที่กำผ้าประคบริมฝีปากก็เผลอถูที่รอยประทับอย่างแรง “ ฮื้ย...หยะแหยง”

อาการนั้นทำให้คนมองถึงกับงง “ หยะแหยง? หยะแหยงอะไร”

“ ก็ไอ้บ้านั่นสิครับมันจะปล้ำจูบผมปิดปาก พอผมไม่สมยอมมันก็ซัดปากเจ่อให้”

“ เดี๋ยวนะ นี่คุณหมายความว่ายังไง พี่งงไปหมดแล้ว”

“ ก็อย่างที่บอกนี่แหละ ไอ้หนูนี่มันต้องเบี่ยงเบนเป็นเสือใบแน่ๆ” ชายหนุ่มตั้งข้อสันนิษฐาน

“ นั่นมันไม่สำคัญหรอก ใครจะเป็นเสือใบก็ช่าง ตอนนี้เราต้องแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าก่อน ข่าวแพร่ไปแบบนี้ไม่ดีแน่ ทำยังไงดี...” เตชิสะครุ่นคิดอย่างหนักใจ หากแล้วความคิดบางอย่างก็สว่างวาบขึ้นมาในสมอง

“ นึกออกแล้ว!” ผู้จัดการหนุ่มผุดลุกขึ้น “ เมื่อกี้คุณบอกว่าเจ้าหนูนั่นเคยแสดงมิวสิคให้ใช่ไหม”

“ ครับ” ฟารุตม์พยักหน้าอย่างงุนงง ตามอารมณ์ไม่ทัน

“ แล้วมิวสิคนั่นน้องแพตก็เล่นด้วยใช่หรือเปล่า” นักร้องหนุ่มพยักหน้าอย่างงุนงงอีกครั้ง

“ เอาล่ะ ได้การละ” เตชิสะดีดนิ้วเปาะ “ ถ้าอย่างนั้นเราต้องพลิกวิกฤตให้เป็นโอกาส...ก่อนอื่นเราต้องเปิดแถลงข่าวอย่างเร็วที่สุด”

“ หา...แถลงข่าว!” คนฟังอ้าปากค้าง “ แล้วจะแถลงว่ายังไงครับ”

“ เรื่องนั้นไว้เป็นธุระของผม หน้าที่ของคุณคือเล่นตามบทบาทที่วางไว้ก็พอ เอาล่ะ ผมคงต้องโทรหาโปรดิวเซอร์กับผู้จัดการน้องแพตก่อน แล้วค่อยจองโรงแรม ส่วนคุณไปเปลี่ยนเสื้อผ้าให้เรียบร้อย พร้อมเมื่อไหร่เราจะเปิดแถลงข่าวทันที!”

(โปรดติดตามตอนตอนไปนะจ๊ะ)

****************************************************



winchaya
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 14 ต.ค. 2554, 15:40:09 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 14 ต.ค. 2554, 15:40:28 น.

จำนวนการเข้าชม : 1968





<< ตอนที่ 4 จูบสายฟ้าฟาด   ตอนที่ 6 งานแถลงข่าวอลเวง >>
winchaya 14 ต.ค. 2554, 15:47:07 น.
มาแล้วจ้า...ตอนนี้นางเอก เอ หรือจะเรียกว่านายเอกของเรา ชักจะลำบากแล้วซิ โดนมิใช่น้อย 555 ยังไงก็ฝากเอาใจช่วยพระนางของเราด้วยนะคะ

ด้วยรักจากใจ
คนเขียนจอมขี้เกียจเจ้าเก่า อิอิ


anOO 14 ต.ค. 2554, 15:54:02 น.
แพตชิงแถลงข่าว เปิดตัวลมว่าเป็นผู้หญิงซะก่อนเลยสิ
ไม่งั้นเรื่องนี้ไม่จบง่ายๆ แน่ ยาวชัวร์


คิมหันตุ์ 14 ต.ค. 2554, 17:32:07 น.
จะทำให้เป็นฉากหนึ่งของเอมวีป่ะเนี่ย หรือการเปิดตัวเอมวี 555


milbol 14 ต.ค. 2554, 17:55:32 น.
ยายลมนี่เหมือนผู้ชายขนาดที่ผู้ชายแท้ๆยังดูกันไม่ออกเลยหรอ เหลือเชื่อจริงๆ สวดยอด


หมูอ้วน 15 ต.ค. 2554, 05:45:00 น.
ไอ้หนู ดังแน่ ๆ เลย
รออ่านตอนต่อไปค่ะ


nunoi 28 ต.ค. 2554, 13:39:50 น.
เห็นด้วยกับคุณคิมหันต์ค่ะ สงสัยงานนี้ หนูลม จำเป็นต้องเป็นผู้ชายไปอีกซักพักแน่ๆ


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account