สเน่หานางรำ
เธอทำให้เขาร้อน...อยากได้อยากครอบครอง แค่เห็นเธอร่ายรำ นิโคไล กาซิยาส ก็ปราถนาจินตนาการไปว่าถ้าได้นางรำแสนสวยคนนั้นมามาร่ายรำบิดเร้าอยู่ใต้ร่างเขามันจะวิเศษแค่ไหน
(เรื่องนี้มีแค่ความเร้าร้อน....ร้อน...และร้อน เพราะฉะนั้น 20++ ฮับ) >___< (รอตีพิมพ์กับ สนพ.สื่อวรรณกรรม ค่ะ)
Tags: ผู้แต่งยังไม่ได้กำหนด tags ของนิยายเรื่องนี้

ตอน: ตอนที่ 5 (50% หลัง)



แล้วร่างสูงของคนที่ถูกกันให้เป็นคนนอกก็ลุกพรวดทันทีที่เห็นมือบางขาวผ่องของนางรำแสนสวยของตนถูกมือหนาของผู้ชายที่ยืนคุยด้วยยกขึ้นมาอยู่ในระดับสายตา นิโคไลเปิดประตูกระจกเข้าไปพอดีกับคนึงนิจดึงมือออกจากร่างสูงของหนุ่มตี๋ตรงหน้า

“เข้ามาทำไมกันคะ ออกไปรอข้างนอกสิคุณ อย่าหาเรื่องให้ฉันนักได้ไหม” คนึงนิจเดินเข้าไปกระซิบเสียงเครียดบอกกับร่างสูงที่ใบหน้าบูดบึ้ง สายตาจ้องเขม่งไปที่ประวิทย์ ซึ่งเป็นเจ้าของสถาบันนาฏศิลป์แห่งนี้

“กลับกันได้แล้ว” เขาไม่ตอบหากแต่สั่งเสียงเข้ม สายตาคู่คมยังคงมองจ้องสบประสานกับตาเรียวยาวของชายหนุ่มอีกคนที่กำลังเดินเข้ามาใกล้

“ผมว่าผมบอกไปแล้วนะครับว่าห้ามคนนอกที่ไม่เกี่ยวข้องเข้ามาเกะกะการสอน กรุณาออกไปรอข้างนอกด้วยครับ” หนุ่มตี๋เดินมาหยุดข้างร่างบางของครูสอนนาฏศิลป์คนสวยที่ตัวเองสนใจมาแรมปี ก่อนจะพูดกับร่างสูงของชายหนุ่มต่างชาติที่มาพร้อมกับคนึงนิจ

ดวงตาเรียวยาวมองชายหนุ่มร่างใหญ่ที่ดูเหมือนกำลังอารมณ์เสียอย่างพินิจ เขาไม่เคยเห็นผู้ชายคนนี้มาก่อน และอยากจะรู้เหลือเกินว่าชายหนุ่มคนนี้เป็นอะไรกับผู้หญิงที่เขาสนใจ และเขาหวังว่ามันจะไม่ใช่อย่างที่ตัวเองกำลังนึกกังวล เพราะดูจากสายตาสีดำสนิทของผู้ชายตรงหน้าแล้ว ไม่บอกก็รู้ว่ากำลังเกิดอาการหึงหวงสาวสวยข้าง ๆ เขา

คงไม่ใช่หรอกน่า ที่ผ่านมาไม่เคยเห็นคุณน้ำค้างให้ความสนใจใครที่ไหนแม้แต่ตัวเขาเองก็เถอะ ไอ้หมอนี่ก็คงจะเป็นแค่คนที่มาติดพันและตามตื้อคนึงนิจเหมือนรายอื่น ๆ นั่นแหละ หนุ่มตี๋เจ้าของสถาบันนาฏศิลป์ชื่อดังของเชียงใหม่ปรอบใจตัวเอง

“กลับบ้านกันได้แล้วน้ำ!!” นิโคไลไม่สั่งเปล่าหากยังเอื้อมมือไปดึงร่างบางของคนึงนิจจนเซเข้าปะทะอกกว้าง จากนั้นเขาก็ถือโอกาสโอบรัดรอบเอวไว้อย่างแน่นหนา

“นี่คุณ ปล่อยฉันนะ!!” คนึงนิจไม่กล้าต่อว่าเสียงดังนัก เพราะกลัวจะไปยั่วอารมณ์ของคนที่โอบเธออยู่ เพราะรู้ดีว่าเวลาโมโหเขาร้ายขนาดไหน จากนั้นจึงเปลี่ยนเป็นพูดเสียงอ่อน “นิคคะ ปล่อยน้ำก่อน น้ำอายเด็ก ๆ “

นิโคไลก้มลงมองร่างบางในอ้อมแขน ใบหน้าบึ้งตึงเริ่มคลายเมื่อได้ยินเสียงหวานที่เรียกชื่อเขาอย่างไพเราะ

“ผมหิว เรายังไม่ได้กินข้างเที่ยงกันเลยนะ แล้วน้ำก็เหนื่อยไม่ใช่เหรอ ใช่แรงไปตั้งเยอะแล้วนะวันนี้” บอกเสียงทุ้ม พลางใช้คำพูดสนิทสนมให้ส่วนเกินอีกคนที่ยืนอยู่ไม่ห่างได้ยิน

“คุณออกไปนั่งรอนอกห้องนะคะ ให้น้ำสอนเสร็จก่อน นะคะ” ใบหน้างามแดงระเรื่อเมื่อคำพูดของเขาชวนให้คิดลึก ไหนจะสายตาอยากรู้อยากเห็นของบรรดาลูกศิษย์ที่ทยอยเดินกลับเข้ามาในห้อง แล้วยังผู้อำนวยการหนุ่มที่คงจะเข้าใจความหมายกำกวมของคนเจ้าเลห์อย่างนิโคไล

“ก็ได้ ผมยอมให้อีกครั้งเดียวนะ วันนี้สอนเสร็จก็ลาออกได้เลย” นิโคไลยอมคลายมือที่โอบรอบเอวคอด พลางบอกแกมสั่ง แต่คนที่ตอบกลับมากลับเป็นหนุ่มตี๋ที่เพิ่งหายจากอาการอึ้งปนตกใจกับความสนิทสนมของหนุ่มต่างชาติแปลกหน้ากับคนึงนิจ

“หมายความว่ายังไงครับน้ำค้าง อธิบายให้ผมเข้าใจหน่อยได้ไหม” หนุ่มตี๋ที่เพิ่งหาเสียงตัวเองเจอถามเสียงเบา

“เดี๋ยว...ขอน้ำค้างสอนจบชั่วโมงนี้ก่อนนะคะคุณประวิทย์ แล้วค่อยคุยกัน” ตอบกลับไปเสียงเบาไม่ต่างกัน แต่คนละความรู้สึก

คนึงนิจรู้สึกว่าตัวเองกำลังเนรคุณต่อผู้มีพระคุณอย่างประวิทย์ที่คอยให้โอกาสให้เธอได้ทำงานที่ตัวเองรัก และยังคอยช่วยเหลือเธอในหลาย ๆ เรื่อง หากแต่ตอนนี้ชีวิตเธอเหมือนอยู่ในกำมือของนิโคไลไปเสียแล้ว ด้วยจำนวนเงินมากมายที่นิโคไลให้มา ทำให้เธอต้องทำตามคำสั่งเขาไปอย่างไม่มีข้อแม้

“ก็ได้ครับ งั้นผมจะรออยู่ที่ห้องทำงาน ถ้าสอนเสร็จแล้วน้ำค้างไปพบผมด้วย...ผมขอคุยเป็นการส่วนตัวนะครับ” บอกเป็นภาษาอังกฤษสายตาจ้องร่างสูงที่ยืนแนบชิดคนึงนิจที่จ้องมองเขากลับด้วยประกายตาดุดัน “ส่วนคุณ กรุณาทำตามกฏของโรงเรียนเรา ออกไปรอนอกห้องด้วยครับ“ แม้คำพูดจะยังสุภาพ แต่น้ำเสียงที่ใช้กลับปิดบังความไม่ชอบขี้หน้าไว้ไม่มิด นิโคไลไม่ตอบหรือพูดอะไร เขาแค่ไหวไหล่แล้วก้มหน้าลงไปหมอแก้มนางรำของตน จากนั้นก็หันหลังเดินออกไปด้วยทวงท่าสง่าผ่าเผย

ส่วนคนที่ถูกขโมยหอมแก้มอย่างไม่ทันได้ตั้งตัวก็ได้แต่ยกมือขึ้นกุมแก้มนวล พลางกระแอมกระไอเรียกลูกศิษย์ให้เตรียมตัวเริ่มเรียนต่อ ทั้ง ๆ ที่ครูคนสอนหน้าตาแดงก่ำ ผิดกับหนุ่มตี๋เจ้าของสถาบันที่หน้าซีดลงไปเมื่อเห็นการแสดงความเป็นเจ้าเข้าเจ้าของ รวมถึงท่าทางเขินอายของคนึงนิจ เขายืนนิ่งหลับตาชั่วครู่ก่อนจะเดินกลับไปห้องทำงานของตัวเอง ถึงแม้ในใจกำลังเดือดหากอยู่ต่อหน้าเด็กนักเรียนเป็นสิบ ทำให้ไม่สามารถทำตามอารมณ์ได้ ได้แต่รอเวลาตามนัดด้วยหัวใจร้อนรุ่ม

+++++++++

“ โกรธอะไรผมครับที่รัก หรือโกรธที่จะไม่ได้ไปทำงานกับไอ้ตี๋นั่นอีก ”
นิโคไลก้มลงถามร่างบางที่เดินทำหน้าตาไม่รับแขกอยู่ข้างกาย ตั้งแต่ที่ออกมาจากโรงเรียนสอนนาฏศิลป์นางรำคนสวยของเขาก็เอาแต่ทำหน้าบึ้ง เขาพามากินข้าวก็ก้มหน้าก้มตากินไม่พูดไม่จากับเขา จนตอนนี้พามาเดินช๊อปปิ้งเพื่อรอเวลาดูหนังหญิงสาวก็คงยังถามคำตอบคำ

“คุณอยากจะทำงานกับไอ้ตี๋นั่นมากนักเหรอน้ำ” เมื่ออีกฝ่ายเงียบ นิโคไลก็เริ่มอารมณ์เสีย เขาไม่ชินกับการเอาอกเอาใจผู้หญิงนักหรอก แต่เขาก็ยังพยายามจะเอาใจเธอ หากคนึงนิจกลับตอบกลับด้วยความเฉยชา

“มันไม่ใช่อย่างนั้น ฉันแค่รู้สึกว่าตัวเองเสียมารยาท ไม่รู้จักบุญคุณคนก็เท่านั้น คุณไม่รู้หรอกว่าคุณประวิทย์เขาเคยช่วยเหลือ คอยให้โอกาสฉันหลาย ๆ อย่าง แล้วจู่ ๆ ฉันก็มาลาออกโดยที่ทางโรงเรียนยังหาคนมาสอนแทนไม่ได้อย่างนี้” เธอบอกกับนิโคไลไปว่าขอทำงานอีกสองอาทิตย์เพื่อให้ทางโรงเรียนหาครูสอนรำไทยคนใหม่ได้เสียก่อน แต่เขาก็ไม่ยอม สั่งเด็ดขาดว่าให้เธอเลิกทำงานทุกอย่าง

“แล้วอีกอย่างถ้าต่อไปคุณเบื่อฉันแล้ว ฉันจะทำยังไงเพราะร้านก็เปิดเฉพาะกลางคืน ฉันอยากจะทำงานประจำตอนกลางวันไปด้วย” พูดไปตัวเองก็รู้สึกใจหายไปด้วย เมื่อคิดว่าวันหนึ่งคนข้าง ๆ ก็คงจะเบื่อเธอหลังจากที่เขาตักตวงหาความสำราญจากร่างกายเธอจนหน่ำใจแล้ว

“ผมบอกคุณหรือว่ามันจะมีวันนั้น แล้วเรียกชื่อผมกับแทนตัวเองเหมือนก่อนหน้านี้ด้วย ผมไม่ชอบคำพูดที่ฟังดูห่างเหินอย่างนี้” เขาพูดอย่างไม่สบอารมณ์ พลางคิดว่าท่าทางเขามันดูไม่ออกหรือไงว่าตอนนี้ทั้งหลงทั้งคลั่งเธอขนาดไหน และเขารู้ตัวดีว่ามันไม่มีวันนั้นแน่ ไม่มีวันที่เขาจะเบื่อนางรำแสนสวยคนนี้

มีแต่จะหลงไหล และอยากจะกักขังเธอให้อยู่กับตนเองตลอดไปสิไม่ว่า

“แต่ยังไงสักวันเราก็ต้องจบกันอยู่ดี หรือคุณจะไม่กลับประเทศคุณ”

“ถ้าไม่หยุดพูดงี่เง่าแบบนี้อีกล่ะก็ คืนนี้คุณไม่ได้ลุกจากเตียงแน่” คำขู่ของเขาทำให้อีกฝ่ายปิดปากแน่น ไม่มีคำพูดสักคำเล็ดรอดออกมา มีเพียงแต่ใบหน้างามที่แดงระเรื่อ พร้อมกับหันหน้าหนีอย่างขัดเขิน

“ตาบ้า ไอ้คนหื่นกาม คิดได้แต่เรื่องเดียวหรือยังไง” คนึงนิจขมุบขมิบปากต่อว่าเสียงเบา พลางขยับเดินออกห่าง แต่ร่างสูงก็ยังตามมาใช้มือหนาเกี่ยวเอวคอดรั้งเข้าหาตัว

“ผมชอบเวลาคุณอายหน้าแดงแบบนี้จัง แต่ชอบที่สุดเลยตอนที่คุณหน้าแดงอยู่ใต้ร่างผมมากกว่า...” เขาแกล้งเอ่ยแหย่เสียงพร่าชิดใบหู แล้วก็อดใจไม่ไหวที่จะฝังจมูกลงสูดความหอมของแก้มนวล เมื่อใบหน้าที่แดงระเรื่อในตอนแรก เปลี่ยนเป็ฯแดงก่ำจนปลายจมูกเขารับรู้ถึงไอร้อน

“นิค!! “ ตวาดเสียงเขียว พร้อมกับถอกศอกเข้าหน้าท้องของอีกฝ่าย หากนิโคไลกับหัวเราะเสียงทุ้มอย่างอารมณ์ดีแทนที่จะร้องโอดโอย

“ครับที่รัก...” เขาชอบจริง ๆ เวลาเธอเรียกชื่อเขาอย่างนี้

“...อย่าเรียกแบบนั้นได้ไหมคะ อายคนอื่นบ้างสิ” แล้วเธอก็ไม่ใช่ที่รักของเขาจริง ๆ เสียหน่อย เขาเรียกแบบนั้นมีแต่จะทำให้เธอเผลอใจ เผลอคิดอะไรเกินเลยมากไปเท่านั้น

“อายทำไมกัน แล้วตอนนี้น้ำก็เป็นที่รักของผมจริง ๆ นี่”

“คุณ...หมายความว่ายังไงคะ” คำพูดของเขาทำให้หัวใจเธอเต้นตึกตัก เขาหมายความว่ายังไงที่ว่า ตอนนี้เธอเป็นที่รักของเขา

“หืมส์...อะไรครับ ผมว่าได้เวลาหนังใกล้จะฉายแล้วล่ะ เราขึ้นไปหาซื้อขนมรอกันดีกว่า” คนที่พูดไปตามที่คิดโดยไม่รู้ตัวถามกลับอย่างงง ๆ ก่อนจะเอ่ยชวนเมื่อดูเวลาแล้วเห็นว่าเหลืออีกไม่กี่นาทีหนังที่ซื้อตั๋วไว้ก็จะเริ่มฉายแล้ว


“ เฮีย นั่นมันนางรำคนสวยคนนั้นกับไอ้หมอนั่นนี่ครับ ”

เสียงลูกน้องที่ดังขึ้นพร้อมกับมือที่สะกิดทำให้ลูกชาย ส.ส คนดังของจังหวัดอย่างนิรุจที่กำลังก้มลงหอมแก้มสาวน้อยที่เดินแนบชิดอยู่ข้าง ๆ หันไปมองหน้า ก่อนจะหันไปทางทิศที่ลูกน้องพยักเพยิดชี้ให้ดู

ดวงตาเล็กเรียวฉายแววเจ้าเลห์ของนิรุจแข็งกร้าวขึ้นทันทีเมื่อเห็นร่างสูงของชายต่างชาติที่ทำให้เขาวิ่งหนีเหมือนหมาข้างถนนให้ได้อับอายลูกน้อง

“ให้กูหาตั้งนาน ที่แท้ก็ยังคั่วกันอยู่” น้ำเสียงดุดันพึมพัมกับตัวเอง

“มีอะไรเหรอคะคุณรุจขา มองใครอยู่ แบบนี้น้องน้อยใจนะคะ” สาวน้อยร่างอวบอิ่มข้างกายถามเสียงกระเง้ากระงอด

“เปล่าค่ะ ไม่มีอะไรหรอก เราไปหาอะไรกินชั้นล่างกันดีกว่านะคะ แล้วจากนั้นค่อยกลับไปกินของหวานต่อที่ห้อง” ตอบกลับเสียงหวานด้วยสายตากรุ่มกริ่ม พลางตบสะโพกงามงอนเบา ๆ ก่อนจะหันสั่งความกับลูกทั้งสามคนเบา ๆ

“พวกมึงคอยตามมันสองคนไป สืบให้รู้ว่ามันพักอยู่ที่ไหน กูจะเอาคืนมันให้สาสม!!” คอยดูสิกูจะให้มึงอ้อนวอนกราบแทบเท้าขอชีวิตจากกู นิรุจหมายมาดขณะที่มองตามหลังร่างสูงใหญ่ที่กำลังโอบเอวร่างบางเดินเข้าไปในโรงหนัง

........................................................................................

14/10/2011

มาเสิร์ฟแล้วฮับ >___<




ลัลลดา
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 14 ต.ค. 2554, 16:09:13 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 14 ต.ค. 2554, 16:09:13 น.

จำนวนการเข้าชม : 2271





<< ตอนที่ 5...(50% แรก)    ตอนที่ 6.1..(100%) >>
violette 14 ต.ค. 2554, 16:27:04 น.
สงสารหนูน้ำเฮ้อ นายนิคไม่ได้รู้ตัวเล้ยยยย


anOO 14 ต.ค. 2554, 17:36:09 น.
นายนิค ข้าศึกมาโผล่มาแล้ว เตรียมรับมือเร๊ว


หมูอ้วน 15 ต.ค. 2554, 13:10:04 น.
หนูน้ำกับนายนิค ระวังตัวด้วยนะ


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account