รักสุดท้าย...ที่ปลายดาว
เพราะความเข้าใจผิดในสัมพันธภาพระหว่างสาวสวย ปากจัด กัดเจ็บ อย่าง “ปลายดาว” กับ เพื่อนหนุ่มคาสโนว่า ทำให้เธอต้องตกเป็นจำเลยในสายตาของ “เตชิต” วิศวกรหนุ่มที่(เขาว่ากันว่า) ปากจัด ซ้ำยังกัดเจ็บยิ่งกว่า ผลที่ตามมาก็คือการปะทะคารมกันแบบดุเด็ดเผ็ดร้อนทุกทีที่ประจันหน้า....เรื่องจะยอมเพลี่ยงพล้ำตกเป็นรองอีกฝ่ายน่ะรึ...ไม่มีทางซะหร้อกกกก

แต่เรื่องวุ่นๆชุลมุนหัวใจก็เกิดขึ้นจนได้ เมื่อสนามรบทำท่าจะเปลี่ยนเป็นสนามรัก(ตามสูตรนิยายคลาสสิค^^) ท่ามกลางความอึดอัดขัดใจของเพื่อนหนุ่มคาสโนว่าที่ยุยงส่งเสริมมาแต่ทีแรก แต่ดันเกิดอาการ “หวงของ” ขึ้นมาเสียอย่างนั้น งานนี้ก็เลยมี “ก้าง” ชิ้นใหญ่โผล่ขึ้นมาแบบไม่ทันให้ตั้งตัว

วิศวกรหนุ่มจะทำอย่างไร เมื่อหนทาง “สุดท้ายที่ปลายดาว” ดูเหมือนจะไม่ง่ายอย่างที่คิด มิหนำซ้ำยังมีเรื่องรัก(ลึกลับ)ในอดีตโผล่ขึ้นมาให้ปวดหัวเพิ่มอีก...

งานนี้เห็นทีต้องลุ้นกันเหนื่อยหน่อยล่ะ!

Tags: กุ๊กกิ๊ก โรแมนติค ปลายดาว เตชิต

ตอน: ตอนที่ 9 << รักแท้ก็เหมือนผี...รู้ว่ามีแต่ไม่เคยโดนหลอก >>

9.

“มาตั้งแต่เมื่อไหร่ ไม่ให้สุ้มให้เสียงแบบนี้ ตกใจหมด...วันหลังฉันจะทุบกระโหลกเข้าให้”

ปลายดาวยกมือทาบอก ค้อนขวับให้วรนนท์เพื่อนรักอย่างอดไม่ได้

“เธอไม่ต้องมาเปลี่ยนเรื่อง” เขาทำเสียงดุ “ฉันได้ยินนะว่าเขาทำอะไรเธอ คราวหน้าคราวหลังก็ระวังตัวหน่อย เป็นผู้หญิงก็อย่าปล่อยตัวปล่อยใจนักซี่”

“ฉันไม่ได้ปล่อยตัวย่ะ! ฉัน...”

“เธอไม่ต้องมาอ้าง จะบอกให้ว่าผู้ชายมันก็เหมือนกันทุกคนนั่นแหละ...ได้มาง่ายมันก็ทิ้งง่าย มาเร็ว เคลมเร็วอ่ะ รู้เปล่า”

“ปากจัด!”

“ตุ๊กตานี่ก็เหมือนกัน เขาซื้อให้เธอใช่มั้ย ไม่ต้องมาดีใจจนออกนอกหน้าเลย มาจากออสเตรเลียจริงหรือเปล่าก็ไม่รู้ ฉันเห็นพาหุรัดวางให้เกลื่อน แล้วจะบอกอะไรให้นะว่าผู้ชายน่ะ หว่านพืชมันก็หวังผลกันทุกคนนั่นแหละ ของฟรีไม่มีในโลกหรอกฉันจะบอกให้”

“นี่! เฮี้ยนอะไรขึ้นมายะ ก็เห็นจะเข้ากันดีเป็นปี่เป็นขลุ่ย ผีนักการเมืองฝ่ายค้านเข้าสิงหรือไง”

ไม่พูดเปล่า แต่ปลายดาวผลักเขา(ด้วยเท้า)ไปหนึ่งทีอย่างหมั่นไส้ รู้หรอกว่าเพื่อนรักเป็นห่วง แต่วาจาไพเราะบาดหูขนาดนี้อย่าพูดเสียเลยจะดีกว่า นายหนอนเซไปสองก้าวแต่เมื่อตั้งหลักได้เขาก็หันมาถามเธอด้วยท่าทีจริงจัง

“เขาชอบเธอใช่มั้ย คุณเตชิตนี่น่ะ”

“ชอบเชิบอะไร้ บ๊อง! เจอกันไม่เท่าไหร่ จะชอบได้ไงล่ะ อย่ามาเพ้อ วุ้ย!”

“ไม่ชอบแล้วทำไมต้องทำเสียงสูงด้วย เขาว่าคนโกหกมักชอบทำเสียงสูง”

“อย่ามาทฤษฎีจัดแถวนี้ เดี๋ยวก็ยันโครมเข้าให้”
“ฉันเป็นห่วงเธอ...”

“ห่วงตัวเองเหอะ เผลอไปทำอะไรคุณฝนเข้า ฉันว่าเธอแย่แน่...ลูกน้องเขาเป็นร้อย ระวังจะโดนเก็บ เลิกซะทีเหอะ ไอ้นิสัยปะฉะดะแบบนี้น่ะ...”

“อย่าขี้บ่นไปหน่อยเลยน่า”

นายหนอนจนด้วยคำพูด แต่ก็ยังมีท่าทีวิตกแบบที่เธอไม่เคยเห็นมาก่อน ท่าทางเขาคงเป็นห่วงเธอจริงๆ แต่ว่าต่อมคนดีเขาทำงานช้าไปหน่อยมั้ง คบหากันมาตั้งหลายปีดีดักเพิ่งจะมานึกเป็นห่วงเธอเอาวันนี้

“แล้วเธอชอบเขาหรือเปล่า”

เขาจ้องตาเธอแน่วนิ่ง ท่าทีรอฟังคำตอบจากเธอดูลุ้นระทึกยิ่งกว่ารอลุ้นผลล็อตเตอรี่ ไม่ก็ผลบอลคู่โปรดเสียอีก

“แล้วเขามีอะไรน่ารังเกียจ พอที่ฉันจะไม่ชอบเขาหรือเปล่าล่ะ” เธอตอบอย่างนึกสนุก

“ไหนเธอเคยบอกว่าเกลียดเขาไง ปากว่าตาขยิบนี่ คนยังงี้คบไม่ได้แล้ว”

“อ้าว! คนเรามันก็เปลี่ยนใจกันได้นี่นา”

“แต่ท่าทางเขาเจ้าชู้ ระวังน้ำตาจะเช็ดหัวเข่า แล้วจะมาหาว่าฉันไม่เตือน”

“เธอก็เจ้าชู้เหมือนกัน ไม่เห็นแปลก โลกนี้มีผู้ชายไม่เจ้าชู้ด้วยเหรอ”

“แต่ฉันกลัวว่าเขาจะหลอกฟันเธอมากกว่าน่ะซี้”

“ไอ้นั่นฉันมันอยู่ตรงตาตุ่มซีนะ ถึงจะมาหลอกกันได้ง่ายๆ”

“ยังไงฉันก็ว่ามันเร็วเกินไป”

“อย่าได้แคร์”

“ดาว...”

นายหนอนเถียงไม่ออก หน้าเจื่อน เสียงเครืออย่างไม่เคยเป็นมาก่อน เขาถอยไปทิ้งตัวลงบนเก้าอี้นวมตัวใหญ่สบตาเธอด้วยแววตาตัดพ้อ แต่ปลายดาวกลับหัวเราะคิก

“บ้าไปกันใหญ่แล้ว ฉันล้อเล่นน่า...เขาจะมาชอบฉันได้ไงเล่า แต่ถึงจะชอบเพราะว่าฉันสวยมาก...ก็ใช่ว่าฉันจะเออออด้วยเสียเมื่อไหร่ ฉันยังไม่พร้อม ไม่อยากน้ำตาเช็ดหัวเข่าอย่างที่เธอว่าจริงๆนั่นแหละ โอ๋ๆๆๆ นิ่งเตะๆ”

หญิงสาวเดินไปลูบศีรษะเขาเบาๆเหมือนแม่กับลูก แม้ความเป็นชายหนุ่มขี้เล่นคนเดิมจะกลับคืนมา แต่ปลายดาวก็ไม่อาจล่วงรู้ได้เลยว่า ใน “ความรัก” ต่อให้เธอไม่พร้อมและไม่ปรารถนาจะอ้าแขนรับ ทว่าบทมันจะมา...มันก็มาไม่ให้สุ้มเสียงและเธอไม่ทันได้มีโอกาสระวังตัวเสียด้วย


หลังจากวันนั้น วรนนท์กลับมาเป็นแฝดอินจันกับปลายดาวอีกครั้ง ไม่รู้เหมือนกันว่าเป็นเพราะเขาเริ่มกลัวว่าเธอจะชิ่งหนีไปมีแฟนจริงๆ หรือเพราะว่าเขาเริ่มเบื่อคุณฝนแล้วกันแน่ ถึงจะแอบสงสัยในความสัมพันธ์ของคนทั้งคู่ที่ดูจะสะดุดและแผ่วลงไปบ้างทั้งที่อุตส่าห์เริ่มต้นมาด้วยดี ทว่าปลายดาวก็ไม่อยากเอานิยายกับคนอย่างเขามากนัก เขาอาจเบื่อ...หรือคุณฝนไม่เล่นด้วยจริงๆก็เป็นได้ทั้งสองอย่าง หรือมันอาจไม่ใช่เลยทั้งสองอย่างก็เป็นได้อีกนั่นแหละ เรื่องของหัวใจ(คนอื่น)...ปลายดาวไม่เสี่ยงด้วยหรอก

ก่อนงานเลี้ยงต้อนรับคุณลักษณาเพียงหนึ่งวัน วรนนท์มารอรับปลายดาวหลังเลิกงาน ซึ่งคาดว่าก่อนหน้านั้นเขาคงจะแว่บขึ้นไปแอบขายขนมจีบให้กับสาวๆในโชว์รูมมาหลายกระบุงแล้ว ปลายดาวชวนเขาแวะไปร้านเค้ก “เรนนี่ เค้ก” เพราะเริ่มนึกถึงรสชีสหอมนุ่มขึ้นมา หากชายหนุ่มปฏิเสธหน้าตาเฉย

“วันหลังเถอะ ไปหาซื้อของขวัญต้อนรับเจ๊ลักษณ์กันดีกว่า เธอมีชุดสำหรับไปงานพรุ่งนี้หรือยัง”

หญิงสาวอยากจะบอกว่าคนอย่างเธอใส่อะไรก็สวย อีกอย่างชุดที่มีก็เพียงพอแล้วสำหรับงานเลี้ยงเล็กๆที่มีแต่เพื่อนสนิท หากชายหนุ่มไม่เห็นด้วย

“บ้า! จะใส่ชุดกระโปรงลายดอกไปหรือไง โตเป็นสาวแล้วนะเธอน่ะ ฉันไม่ควงไปให้อายชาวบ้านเขาหรอกนะ”

“อ้าว! ตกลงว่าเธอจะไปกับฉันเหรอ ไหนว่าจะพาคุณฝนไปเปิดตัวไง”

“เขาไม่ว่าง”

นายหนอนตอบสั้นๆ แต่เพียงเท่านี้หญิงสาวก็เข้าใจได้ทะลุปรุโปร่ง ตัวจริงไม่ว่างนี่เอง ตัวสำรองอย่างเธอก็เลยได้ออกงาน ช่างเป็นคนรักเพื่อนอะไรเช่นนี้ก็ไม่รู้

เมื่อไปถึงห้างสรรพสินค้า หญิงสาวละความสนใจทั้งหมดที่มีต่อเพื่อนหนุ่มไปทุ่มให้กับร้านเสื้อผ้าแบรนด์ดังนำเข้าจากต่างประเทศซึ่งแน่นอนว่าแพงหูฉี่ ปลายดาวเล็งชุดแส็คสีฟ้าน้ำทะเลคอตั้งและเว้าแขนลึกพร้อมเปิดเปลือยแผ่นหลังอย่างตั้งใจเซ็กซี่เอาไว้ เพียงแค่หยิบมาทาบกับตัวเพื่อนรักก็เหน็บแนมให้เธอชื่นใจทันที

“เธอเอาเสื้อคอกระเช้าคุณยายใส่ไปเลยดีกว่ามั้ย จะคว้านไปถึงไหนยะ เห็นไปหมดทั้งตับไตไส้พุงแล้ว”

“แล้วพาฉันมาร้านนี้ทำไม” ปลายดาวทำเสียงดุ

“เอาที่มันโป๊น้อยๆหน่อยได้มั้ยล่ะ”

“โป๊ตรงไหน ฉันเห็นคู่ควงเธอแต่ละคนยิ่งกว่านี้อีก ออกงานแต่ละทีนึกว่าใส่ทูพีช อีกอย่างนมต้มฉันมันก็ใช่จะตู้มต้าม...”

“เออๆๆๆๆ อย่าพูดมากน่ะ จะเอาก็หยิบมา ชักช้าเดี๋ยวฉันให้จ่ายเองนะ”

เขาพูดตัดบทคล้ายไม่อยากต่อความยาวสาวความยืดกับเธออีก ชุดแส็คสีฟ้าน้ำทะเลก็เลยได้ตกมาเป็นกรรมสิทธิ์ของปลายดาวโดยชอบธรรม เรื่องราคาไม่ต้องพูดถึง...เอาเป็นว่าเธอยังต้องแอบปาดเหงื่อแทนเมื่อเห็นจำนวนเงินที่วรนนท์ตวัดปลายปากกาเซ็นชื่อลงในสลิปบัตรเครดิต...มันช่วยไม่ได้ก็เขาดันอาสาเป็นพ่อบุญทุ่มเองนี่

แต่เพราะความไม่แน่นอนคือความแน่นอน หรือไม่ก็วรนนท์อาจโดนผีบัตรเครดิตเข้าสิง เพราะหลังจากได้ชุดสวยสมใจแล้ว นายหนอนก็เห็นควรว่าเพื่อนรักน่าจะมีเครื่องประดับเล็กๆน้อยๆเป็นการบ่งบอกฐานะว่าเธอหาใช่คนหูป่าตาเถื่อน หากมีรสนิยมในการแต่งตัวและการเลือกซื้อขั้นเทพ เขาจึงตัดใจยอมจ่ายเงินเป็นค่าสร้อยคอพร้อมจี้เพชรรูปหยดน้ำสำหรับเป็น accessory เล็กๆน้อยๆให้เธออีกหนึ่งชิ้น ทำเอาปลายดาวยิ้มแก้มแทบแตก

“นี่แหละ...สุภาพบุรุษเขาก็ทำกันแบบนี้ ต้องพลีสผู้หญิงกันแบบนี้แหละ เธอทำถูกแล้ว”
หญิงสาวพลอยตบหลังตบไหล่ลูบหัวเขาอย่างเอ็นดู หากรอยยิ้มที่ได้รับกลับมาช่างดูเย็นชาจนเธอต้องแอบหัวเราะ

ทว่าในเมื่อทุกอย่างล้วนต้องเพอร์เฟ็คท์และดูดี หญิงสาวก็เลยหมายตาตุ้มหูมุกฝังเพชรไว้อีกคู่หนึ่งตามประสาคนได้คืบจะเอาศอก แต่ยังไม่ทันจะอ้าปากให้เขาเห็นลิ้นไก่ วรนนท์ก็จิกตามองมาอย่างหมั่นไส้และตอบกลับมาเต็มปากเต็มคำแบบลูกผู้ชายตัวจริงกระทิงแดงบวกเอ็มอีกสองร้อยห้าสิบว่า

“ไม่ต้องเกรงใจกันบ้างก็ได้นะยะหล่อน!...แค่ชุดนี้กับสร้อยเส้นนั้น เธอก็สวยชิบ...หาไม่เจออยู่แล้ว”

ลายดาวหุบยิ้มฉับ หมดอารมณ์จะเซ้าซี้ต่อ รับรู้ได้โดยสัญชาติญาณว่าไอ้ที่เขาพยายามบ่ายเบี่ยงนั่นก็เพราะเขาไม่อยากลงทุนกับอะไรที่มันปราศจากซึ่งผลตอบแทนและมีแต่จะเข้าเนื้ออย่างเธอนั่นเอง...เธอไม่เคยอยู่ในสายตาเขาจริงๆนั่นแหละไม่รู้เหมือนกันว่าก่อนหน้านี้เธอแอบหลงรักเขาไปได้ยังไงตั้งหลายปีดีดัก

หญิงสาวควงคู่กับเพื่อนหนุ่มออกมาจากร้านด้วยรอยยิ้มอย่างคนสมหวังที่ได้ทั้งชุดสวยและสร้อยเส้นงามมาไว้ในครอบครอง โดยหารู้ไม่ว่าทุกอิริยาบถของทั้งคู่นั้นถูกจับจ้องด้วยสายตาของใครหนึ่งอย่างไม่วางตา!

งานเลี้ยงต้อนรับคุณลักษณา คุณลักษณ์ หรือเจ๊ลักษณ์(ของปลายดาวและเพื่อนๆ) ถูกจัดขึ้นที่บ้านในวันต่อมา โดยมีปลายดาว ต้นอ้อ และวรนนท์รับอาสาเป็นแม่งานจัดการเชื้อเชิญแขกเหรื่อรวมทั้งข้าวปลาอาหารที่จัดไว้บริการอย่างไม่มีขาดตกบกพร่อง แขกที่เชื้อเชิญมาในงานไม่มีแขกที่เป็น “ธุรกิจ” มาเลยสักคนเดียว ส่วนใหญ่เป็นเพื่อนสนิทสมัยเรียนมาด้วยกันตั้งแต่ชั้นมัธยมและมหาวิทยาลัยอีกบางส่วน งานเลี้ยงต้อนรับก็เลยมีสภาพไม่ต่างอะไรกับงานเลี้ยงรุ่นนัก

สนามหญ้าหน้าบ้านถูกดัดแปลงเป็นซุ้มเวทีเล็กๆ ที่มีเครื่องดนตรีไม่กี่ชิ้น และประดับโดยรอบด้วยดอกไม้นานาชนิดและแซมด้วยไฟกระพริบหลอดเล็กๆหลากสีทำให้บรรยากาศดูสดชื่นรื่นเริงขึ้นมาทันตาเห็น ปลายดาวควงคู่มากับวรนนท์ตั้งแต่หัววันด้วยชุดเดรสสั้นเหนือเข่าสีฟ้าน้ำทะเลสด แขนเว้าเสมอไหล่ ด้านหน้าปกปิดมิดชิดแต่ด้านหลังเปิดเปลือยไปเกือบค่อน ผมยาวสยายถูกรวบตึงจากด้านหน้าไปทบไว้ที่หลังใบหูแล้วปล่อยให้ยาวสยายลงไปคลุมแผ่นหลังทำให้ไม่ดูจงใจโชว์ของจนเกินไปนัก ส่วนวรนนท์หล่อเริ่ดในชุดกางเกงยีนส์สีเข้มกับเสื้อเชิ้ตคอตั้งที่ปลดกระดุมเม็ดบนออกเสียสองสามเม็ดเผยให้เห็นไรขนจางๆตรงหน้าอก และคลุมทับด้วยสูทสีเข้มอีกตัว ดูหล่อสวยสมกันราวกิ่งทองใบหยก

“แม่เจ้าโว้ย! ยังกะคู่บ่าวสาวเดินเข้ามาในงานแน่ะ” คุณลักษณาทักทายมาแต่ไกลอย่างติดตลก “นี่มันงานเลี้ยงต้อนรับฉันนะ เธอสองคนอย่ามาขโมยซีน”

ปลายดาวตรงเข้ามาสวมกอดคุณลักษณ์ไว้ด้วยความคิดถึง ชุดแส็คสั้นสีทองที่คุณลักษณ์สวมอยู่ดูธรรมดามากในความรู้สึก แต่มันกลับทำให้คนใส่สวยโคตรได้อย่างไม่น่าเชื่อ

“คิดถึงเจ๊จังเลยค่ะ”

วรนนท์ทำท่าจะเข้ามากอดด้วยอีกคน แต่ถูกคุณลักษณ์ฟาดป๊าบเข้าให้ก่อนที่ท่อนแขน

“นี่! อย่ามาเยอะนะแก ถึงฉันจะอยู่ไกล แต่ก็รู้ตลอดนะว่าแกทำชั่วอะไรไว้ที่ไหน”

“โห...เจ๊ พูดยังงี้เสียหายหมด นี่เหรอ...คำพูดของหญิงสาวที่ผมรักและบูชามาตั้งแต่เด็กๆ”

“น้อยๆหน่อย” สองสาวพากันหัวเราะร่วน “ไปโน่นเลย ต้นอ้อมันเรียกไปช่วยแล้ว เธอไปช่วยต้นอ้อเลยหนอน “

นายหนอนหันไปตามที่คุณลักษณ์ชี้มือก็พบว่าต้นอ้อกำลังร้องเรียกอยู่ตรงซุ้มค๊อกเทลอย่างต้องการความช่วยเหลือ เขาจึงหันมากระซิบกับปลายดาวเบาๆชนิดที่ว่าคนฟังเดาไม่ออกว่าเขาเป็นห่วง...หรือขู่เธอกันแน่

“ระวังตัวด้วยนะ ในนี้คนเยอะจะตาย ไม่รู้ใครเป็นใคร โดนหามขึ้นมาเหอะแล้วจะมาหาว่าฉันไม่เตือน”

เขาแอบบิดเนื้อเธอไปทีหนึ่งอย่างหมั่นไส้ แล้วแหวกฝูงชนออกไปสาระแนทักทายกับคนอื่นๆในงานราวกับเป็นเจ้าภาพเสียเอง

ยิ่งเริ่มดึก บรรดาแขกก็เริ่มทยอยกันเข้ามาในงานมากขึ้นทุกที งานเลี้ยงเริ่มมีสีสันมากขึ้นเมื่อเพื่อนเกิร์ลแก๊งซึ่งซี้ย่ำปึ้กอันประกอบไปด้วยส้มจี๊ด แอ๊ว และอัญชัญ พากันพาเหรดเข้ามาในงานราวกับสวนสนาม ทักทายเจ้าภาพเสร็จแล้วสามสาวก็ฉกตัวปลายดาวออกมาได้สำเร็จ พร้อมกับที่วรนนท์ผละจากต้นอ้อมาได้พอดี เขายืนเบียดแนบชิดอยู่กับปลายดาวราวแฝดสยามกลับชาติมาเกิด

“มีคนบอกเราว่า นนท์จีบดาวอยู่น่ะ”

“ฮ้า! อะไรนะ!” ปลายดาวร้องถามอย่างตกใจ “ประสาทหรือเปล่า บ้าแล้วยัยอัญ!”

“ไม่รู้ล่ะ ก็อัญได้ยินมา เขาว่าเห็นนนท์กับปลายดาวไปสวีทด้วยกันบ่อยๆ จริงมั้ยนนท์”

หล่อนหันไปไล่เบี้ยเอากับเพื่อนหนุ่ม หากนายหนอนทำยึกยักน่าหมั่นไส้ แล้วยกแก้ววิสกี้ขึ้นดื่มแทนคำตอบ

“ใช่ๆ แอ๊วก็ได้ยินมาแบบนั้นเหมือนกัน ตอนแรกที่ได้ยินเรื่องนี้แอ๊วก็พยายามช่วยแก้ต่างให้ดาวนะ ว่าคงเป็นเรื่องเข้าใจผิด เพราะสเป็คนนท์เขาชอบแบบขาว สวย หมวย อึ๋ม สะบึม เอ๊กซ์ ดูยังไงก็ไม่ใช่ดาวแน่ๆ”

“ขอบใจมากนะแอ๊ว นี่ดาวพูดไม่ถูกเลยนะว่าควรดีใจหรือเปล่า”

“ถ้างั้นแล้วดาวจะแก้ตัวว่าไง”

แอ๊วถามต่อ โดยมีอัญชัญทำหน้าอยากรู้อยากเห็นอยู่ใกล้ๆ ปลายดาวยกแก้วจินโทนิคที่ถือติดมือขึ้นมากระดกลงคอบ้างน้ำสีสวยไหลผ่านลงคอแบบรวดเดียวหมด

“เพ้อแล้วพวกนี้...มันไม่ได้จีบฉันสักกะหน่อย แล้วฉันก็ไม่เคยไปสวีทกับมันด้วย”

“แล้วเรื่องที่เธอเคยไปดูหนังที่นั่งฮันนีมูนซีท สวีทวี้ดวิ้วนั่นล่ะ”

“จะบ้าเหรอ! มันก็แค่ดูหนัง อีหนอนมันแค่อยากนั่งสบายๆ แล้วมันก็หลับตั้งแต่หนังยังไม่ทันจะฉายด้วยซ้ำ นี่! อีหนอน แกเคลียร์ด่วนเลย พาผู้หญิงคนอื่นไปแล้วมาเหมาว่าเป็นฉันหรือเปล่า”

ปลายดาวผลักเพื่อนหนุ่มจนเซไปสองก้าว แต่เขาก็ยังไม่ยอมปริปากพูดอะไรออกมาอยู่ดี แววตาหวานเชื่อมด้วยฤทธิ์แอลกอฮอล์นั้น ทำให้ปลายดาวอยากจะทุบให้สักพลั่กสองพลั่ก

“ข่าวมั่ว” เขาตอบยิ้มๆ

“นี่! แก่ๆกันแล้วน่า จะเอายังไงก็เอา มาปล่อยให้เพื่อนๆลุ้นอยู่อย่างนี้มันไม่งาม เห็นใจกันบ้าง อะไรบ้าง” ส้มจี๊ดก็พลอยเป็นไปด้วย

“นี่พวกเธอเกิดเฮี้ยนอะไรขึ้นมา ถึงมาล้วงลับตับแตกฉันเนี่ย” คราวนี้ปลายดาวเท้าสะเอวอย่างหงุดหงิด

“ก็คนมันอยากรู้...” ส้มจี๊ดเสมองไปอีกฟากของสนามหญ้าแล้วเปลี่ยนเรื่องหน้าตาเฉย “คืนนี้เจ๊ลักษณ์สวยเชียว วุ้ย! แล้วดูผู้ชายคนนั้นดิ หล้อ...หล่อ”

“ไหน?”

อัญชัญกับส้มจี๊ดถามขึ้นพร้อมกันอย่างสนใจ ตามประสาของชอบของครอบครัว ปลายดาวยกแก้วจินโทนิคขึ้นดื่มก่อนจะเหลียวมองตามสายตาเพื่อนรักทั้งสามบ้าง และผลของความอยากรู้...ก็ทำให้ปลายดาวพบว่ามือไม้ตัวเองเกิดอ่อนปวกเปียกไปนับตั้งแต่วินาทีนั้น

คุณเต้เตชิตอีกแล้ว!

ถึงจะเคยรู้มาก่อนว่าเขารู้จักกับคุณลักษณาเป็นการส่วนตัว ซ้ำยังเป็นลูกค้ารายใหญ่ของบริษัท กระนั้นก็ไม่เคยคาดคิดว่าเขาจะได้รับเชิญมาในงานนี้ด้วยในเมื่องานคืนนี้หาใช่ “Business dinner” สักหน่อย รายชื่อเขาผ่านสายตาเธอไปได้ยังไงกันนะ

เขาควงคู่มากับคุณฝนคนเดิมจริงๆด้วย ท่าทีสนิทสนมแบบนั้น ต่อให้เขายืนยันอีกสักร้อยครั้งพันครั้ง ปลายดาวก็คงไม่มีวันเชื่อว่าเขาและเธอเป็นเพียงเพื่อนสนิท หล่อนมากับคุณเต้นี่เอง มิน่าล่ะ วรนนท์เพื่อนรักถึงได้ยอมฉายเดี่ยว แล้วพาลมาเกาะเธอเป็นตังเมอยู่อย่างนี้

นายหนอนทำเป็นกางแขนมาโอบไหล่เธอไว้หลวมๆ แต่ปลายดาวสะบัดออกอย่างกึ่งรำคาญกึ่งหมั่นไส้ แล้วเอ่ยปากขอค็อกเทลแก้วใหม่จากเพื่อนหนุ่มซะเลย วรนนท์ไม่อิดเอื้อนซ้ำยังเดินลิ่วหายไปในฝูงชนราวกับกลัวว่าเธอจะเปลี่ยนใจกระนั้น

เพื่อนรักหายไปนานกว่าสิบนาที ซึ่งก็คงไม่แคล้วเพราะมัวแต่ไปสาระแนเรื่องชาวบ้านอยู่จนเพลินตามประสาคนช่างจ้อนั่นแหละ และเธอคงจะหายเมาเสียก่อนจะได้ดื่มแก้วใหม่เป็นแน่แท้ ทว่าอยู่ๆก็เหมือนหวยล็อค...นายหนอนนึกยังไงไม่รู้ หมอเดินกลับมาหาเธอพร้อมด้วยรอยยิ้มกรุ้มกริ่ม แต่ไม่มีค็อกเทลที่เธอร้องขอ มีเพียงฝ่ามือหนานุ่มที่ยื่นมาตรงหน้าแล้วบอกกับเพื่อนสาวสุดที่รักด้วยน้ำเสียงไพเราะสะดุดหูจนเธอแปลกใจ

“เต้นรำกัน”

“ไม่มีใคร...ให้เต้นด้วย...แล้วใช่ไหม”

“เปล่า แต่ฉันเต้นกับสาวๆทุกคนในงานมาแล้ว เธอไม่อยากเต้นรำกับฉันมั่งรึ”

“เฉยๆ”

“ใครๆก็อยากเต้นรำกับฉันทั้งนั้น นี่เธอโชคดีมากนะ ที่ฉันสละเวลามาให้เนี่ย”

“แลดู...เป็นบุญเป็นคุณ...นะคะ...”

เธอตอบกลับไปด้วยน้ำเสียงที่เริ่มอ้อแอ้ นายหนอนหัวเราะร่วนแล้วเกี่ยวเอวเธอไปยืนอยู่กลางฟลอร์ เป็นครั้งแรกที่รู้สึกแปลกๆตอนที่ตกอยู่ในอ้อมกอด แล้วเขาก็เอามือมาแตะที่บั้นเอวเธอไว้แต่เพียงหลวมๆ แม้จะเป็นเพื่อนกันมานานนมแต่สัมผัสอบอุ่นของเขาก็ชวนให้วาบหวามใจไม่ใช่เล่น เธอเลิกแปลกใจแล้วว่าทำไมวรนนท์ถึงเสน่ห์แรงมีสาวๆมาติดพันมากมายก่ายกองขนาดนี้

“เมามากแล้วนะเธอ พอได้แล้วมั้ง”

“ม่าย...มาว...นี้ดส์...เดียว...เอง”

“แต่ฉันว่าพอเหอะ”

“ของฟรี...มัน...ม่าย...เมา...ง่ายๆหรอก”

“นังลำยอง!”

เขาว่าเธอแต่กระนั้นก็หัวเราะออกมาพร้อมกัน ไม่รู้ว่าเป็นเพราะแสงจันทร์เป็นใจ หรือเพราะปริมาณแอลกอฮอล์ในตับกันแน่ ที่ทำให้คืนนี้ปลายดาวรู้สึกเป็นสุขอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน ก็ได้แต่หวังว่าคงไม่ใช่เพราะสัมผัสอบอุ่นชวนวาบหวามของอีนังหนอนหรอกนะ เธอไม่อยากได้ชื่อว่า “อ่อนไหวเกินเหตุ” เพียงแค่สัมผัสที่ไม่ได้ตั้งใจของมันแค่นั้นเอง

แต่ก็เหมือนฟ้าผ่า!

เต้นรำกันยังไม่ทันได้เหงื่อ อยู่ๆเพลงจากนักดนตรีก็เปลี่ยนเป็นจังหวะสโลว์ซบเหมือนลงโทษเธอยังไงยังงั้น เธอยังไม่ทันตั้งตัวเลยด้วยซ้ำ อยู่ๆคุณลักษณาก็เอี้ยวมาฉกตัวนายหนอนไปเป็นคู่เต้นของหล่อนหน้าตาเฉย ปลายดาวก็เลยได้แต่ยืนเซ่ออยู่ตรงนั้นอยู่ครู่หนึ่ง แล้วเสียงนุ่มทุ้มคุ้นหูก็ดังขึ้นใกล้ๆในอีกไม่กี่วินาทีถัดมา

“มาอยู่ตรงนี้เอง ผมตามหาเสียทั่วงานแน่ะ”

ชั่วกระพริบตาหญิงสาวก็ตกมาอยู่ในอ้อมกอดของคุณเตชิตเสียแล้ว แม้ทักษะการเต้นรำของเธอจะเคยเป็นเลิศ แต่ท่าทีเงอะเงิ่นอ่อนปวกเปียกในยามนี้ของเธอก็คงทำให้เขาต้องออกแรงมากกว่าปกติเมื่อเทียบกับตอนเต้นรำกับคนอื่นๆ ท่อนแขนของเขาดูแข็งแรงกว่านายหนอนเล็กน้อย เธอแอบอมยิ้มเมื่อเดาว่าอ้อมกอดของเขาก็คงจะอบอุ่นตามไปด้วย

บ้าจริง! นี่เธอคิดอะไรเลอะเทอะแบบนี้ได้ไงนะ!

“ตามหาฉันทำไม...คะ”

“คุณใส่ชุดนี้แล้วดูสวยจัง”

“ใจถึง...เอ๊ย!...ตาถึง นะคุณน่ะ”

ถึงแม้จะตอบไม่ตรงคำถาม แต่คำชมซึ่งๆหน้านั้นก็ทำให้เธออดเขินขึ้นมาไม่ได้ โดยเฉพาะนัยน์ตายิ้มกรุ้มกริ่มเมื่อมองมาที่ชุดราตรีสั้นสีฟ้าที่เธอสวมอยู่นั้น ปลายดาวพยายามขืนตัวไว้แต่ก็ดูเหมือนว่าอ้อมแขนจะยิ่งรัดรึงเธอเข้าไปใกล้กับแผ่นอกของเขามากขึ้นทุกที

เสียงเพลง Now and forever เพลงสุดโรแมนติกของ Richard Marx นักร้องสุดโปรดของเธอยังคงบรรเลงขับกล่อมทำเอาเธอเคลิ้มจนเผลอพาดศีรษะพิงไว้กับแผงหน้าอกกว้างๆของเขาอย่างไม่รู้ตัว(สาบานได้ว่าเป็นเพราะฤทธิ์แอลกอฮอล์...เธอเปล่ารู้สึกไปเองจริงๆ)

“คุณว่า...จะมีมั้ย...ใครสักคน...ที่...จะอยู่ข้างๆ...เรา...ปาย...ตาหลอด...”

เธอถามเขาด้วยน้ำเสียงที่เริ่มอ้อแอ้มากขึ้น สติสัมปชัญญะเริ่มดิ่งวูบลงๆเรื่อยๆ

"เหมือนในเพลงนี้น่ะรึ” น้ำเสียงเขาดังอยู่ข้างหูนี่เอง

“อืม...”

“ก็คงมี...ก็ถ้าเรารักใครสักคน เราก็อยากอยู่กับคนๆนั้นไปตลอดไม่ใช่รึ”

“แต่ฉัน...ว่า...ม่าย...มี...หรอก...”

“ทำไมคิดแบบนั้นล่ะ”

“ฉาน...ว่า...รักแท้...มันก็เหมือนผี...น่ะแหละ...รู้ว่ามี...แต่ม่ายเคยโดน...หลอก”

“งั้นรึ” เธอได้ยินเสียงหัวเราะอบอุ่นดังขึ้นข้างหูอีกแล้ว “อย่าเพิ่งหมดหวังสิ...ยังไงก็ต้องมีใครสักคนที่อยู่กับเราได้ อาจต้องใช้เวลาค้นหานานหน่อย แต่ผมว่า...เราต้องเจอคนๆนั้นจนได้น่ะแหละ ผมยังเจอแล้วเลย ดาว...ดาว! ดาว! คุณได้ยินผมหรือเปล่า”

สติเธอขาดกระเด็นไปตั้งแต่ตอนไหนแล้วก็ไม่รู้!



สิริเสาวภา
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 14 ต.ค. 2554, 19:14:53 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 14 ต.ค. 2554, 19:14:53 น.

จำนวนการเข้าชม : 1958





<< ตอนที่ 8 << มันเกิดอะไรกับหัวใจ...ควบคุมไม่ได้สักอย่าง >>   ตอนที่ 10 << พระเอ๊กกกก....พระเอก >> >>
Canopus 14 ต.ค. 2554, 20:54:23 น.
นายหนอนชักจะยังไงซะแล้ว


violette 14 ต.ค. 2554, 21:18:40 น.
นายหนอกนี่ยังไงน้าไม่ตามคุณฝนแล้วเหรอ
ส่วนดาวรั่วได้ใจมากๆๆชอบ


pseudolife 14 ต.ค. 2554, 21:21:48 น.
นายหนอนเกิดเพี้ยนอะไร หนูดาววูบไปซะแล้ว


กานต์นวีร์ 15 ต.ค. 2554, 00:42:13 น.
นายหนอนนี่ม้ันหวงก้างชอบกลนะ
เอาคุณฝนไปไว้ไหนยะ
หรือเพิ่งมาเห็นความสำคัญของคนใกล้ตัวตอนที่กำลังจะถูกแย่ง


anOO 15 ต.ค. 2554, 14:08:58 น.
หลับไปซะแล้ว เลยไม่ได้ยินที่คุณเต้พูดเลย
นายหนอนนี่ มันชักยังไงๆ แล้ว หวงก้างเหรอคุณเพื่อน


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account