มนต์เสน่หา
เมื่อโดนบังคับให้หาผู้สืบทอดและดูแลไร่ระเด่น บุษบา สาวน้อย จำใจต้องหาชายผู้นั้นเพื่อให้ก๋งของเธอสบายใจ แล้วฟ้าก็ส่งนายทหารหนุ่มน่ารักมาให้ พร้อมกับความเข้าใจผิดว่าเขาเป็นเกย์ ..
Tags: ทหาร ตบจูบ น่ารัก โรแมนติก

ตอน: ลับ..ลวง.. พราง

บทที่ 4
ลับ .. ลวง .. พราง

พอประตูห้องถูกปิดลง .. ภีษมะยืนอยู่ตรงหน้าประตู อย่างกิริยาท่างทางสำรวจ ... ก๋งไชโยที่นอนซมอยู่บนเตียง .. ก็ลุกพรวดขึ้นมาเดินตรงมายังชายหนุ่มเหมือนไม่มีอาการป่วยใด ๆ

“ไม่ตกใจเลยเหรอพ่อหนุ่ม” .. ก๋งไชโยตามภีษมะที่ทำหน้าเรียบเฉย

“ไม่เลยครับ ..” ชายหนุ่มตอบด้วยน้ำเสียงสุภาพ

“ไม่เจอกันนาน ... สบายดีเหรอพ่อหนุ่มนักเรียนนายร้อย” .. ประโยคนี้ต่างหากที่ทำให้ภีษมะตกใจ ...

“คุณตา .. จำผมได้ด้วยหรือครับ ..” ชายหนุ่มถาม

“แน่นอน ... คนที่จูงน้องหนูกลับมาส่งคืนให้ฉันที่เขาหินซ้อน ... ถ้าไม่มีคุณ .. ฉันคงต้องตายไปวันนั้น .. เพราะน้องหนูคือหัวใจและชีวิตของฉัน” ก๋งไชโยหันหลังกลับพร้อม ๆ กับเชิญให้ภีษมะมานั่งคุยกันที่โต๊ะฝั่งมุกตัวใหญ่

“เรื่องเป็นมายังไง .. เล่าให้ฉันฟังที” .. ก๋งไชโยเปิดโอกาสให้ชายหนุ่มพูดเรื่องทั้งหมด ..ภีษมะก็เล่าทุกอย่างให้ก๋งไชโยฟังตามความจริงทุกประการ .. พอเล่าจบ ก๋งไชโยหัวเราะร่วนอย่างสนุก กับความคิดสุดพิเรนท์ ของหลานสาว ..

“อาน้องหนูเนี๊ยะนะ .. เข้าไปในบาร์เกย์แล้วประกาศว่าอยากได้สามี ..” ชายชราหัวเราะร่า ส่ายหน้าไปมา .. “ทำไปได้หลานอั๊ว” .. พอก๋งไชโยหยุดหัวเราะ .. ชายชราก็จ้องมองภีรษะ สบตานิ่ง .. สมองที่ผ่านโลกมามากมายกำลังประมวลผลอย่างใคร่ครวญ และครุ่นคิด

“คุณเชื่อเรื่องพรหมลิขิตไหม ...” ชายชราถาม

“ตอนแรกไม่เคย .. แต่ตอนนี้ผมเริ่มเชื่อครับ ..” ภีรษะตอบ

“ได้ .. ถ้าอย่างนั้นฉันจะเล่าเรื่องของฉันให้ฟังบ้าง” ก๋งไชโยเล่าเรื่องพินัยกรรม และอาการป่วยเก๊ ๆ ให้ภีษมะฟังจนจบ

“คุณลองคิดเอาแล้วกันว่า มันพรหมลิขิตไหม .. ตอนนี้สกุล จิระภา มีน้องหนูเพียงเป็นเดียว .. เขาเป็นหลานคนเดียวของฉัน .. ฉันต้องการให้อาน้องหนูแต่งงาน .. เพราะฉันเองก็อายุมากแล้ว จะอยู่ดูแลปกป้องแกได้อีกก็คงไม่นาน .. สมบัติที่ดิน .. ที่เป็นน้ำพัก น้ำแรงของฉัน .. ต้องอยู่ในมือของคนที่ดีที่สุด สำหรับหลานสาวของฉัน .. แล้วฟ้าก็ส่งคุณมา”

“ฟ้าส่งผมมาเช่นนั้นหรือครับ ..” ชายหนุ่มทวนคม

“หรือคุณคิดว่าไม่ใช่ .. ตั้งแต่ตอนเด็ก .. มันบังเอิญมาก .. จนกระทั่งวันนี้ .. คุณก็วนกลับเข้ามาชีวิตของอาน้องหนู”

“ครับ .. เหตุบังเอิญ อย่างที่สุด ..” สายตาคมเข้มที่สบกับชายผู้ผ่านโลก ... กำลังทอประกายอะไรบางอย่างออกมาเด่นชัด

“อาเสือ ลื้อชอบอาน้องหนูเหรอ ..” ก๋งไชโยถามตรงประเด็น .. ตัวภีษมะ ก็ตกใจไม่น้องที่โดนคำถามตรง ๆ แบบนี้ .. แต่ในเมื่อ .. เมื่อคืนเขาคิดแล้วว่าจะใช้ใจตัดสิน .. ก็ใจนี้แหละที่มันบอกว่า “แม่บุษบาเอวกลมนี้แหละ .. เหมาะกับเขาที่สุด” .
“ครับ .. ผมชอบเธอ” .. ภีษมะซื่อตรงกับความรู้สึกของตัวเองเสมอ ชายหนุ่มตอบตามความรู้สึกแท้จริง

“ตอนนี้คุณเป็นทหาร มีหน้าที่การงานมั่นคง .. จะรังเกียจไหม .. ถ้าผมจะฝากบุษบา ให้คุณดูแลแทนคนแก่ของฉัน” ชายชราก็ตรงไม่แพ้กัน .. “ผมรับรองบุษบา เป็นเด็กที่เรียบร้อย น่ารัก และไม่เคยมีเรื่องเสื่อมเสีย” ..

ภีษมะพอฟังว่าบุษบาไม่เคยมีเรื่องเสื่อมเสีย เขานั้นเชื่ออยู่เต็มหัวใจ .. แต่ไอ้เรียบร้อยนี้ .. เขาไม่ค่อยจะเชื่อเท่าไหร่ .. “เรียบร้อยเหรอครับ” .. ชายถามพูดขึ้นเบา ๆ

“ทำไมเหรออาเสือ ..” ก๋งไชโยถามตามเพราะไม่เข้าใจว่าทำไมชายหนุ่มจึงพูดเช่นนี้

“เท่าที่ผมเห็น .. ไม่ค่อยเรียบร้อย .. ออกจะแก่นแก้ว .. แสนซน อย่างที่สุดเลยครับ” .. ชายหนุ่มตอบ

“เห้งเจีย กลายเป็นเทพลิงได้ เพราะพระยูไลปราบ เทพนาจา จากเด็กที่แกล้งคนอื่น กลับกลายเป็นเทพที่ทุกคนคนนับถือ เพราะได้รับการกล่อมเกลาจากเจ้าแม่กวนอิม ...” ชายชราพูดเพียงแค่นั้น แล้วปล่อยให้ชายหนุ่มคิดเอาเอง

“แต่ว่า ...” ชายหนุ่มเองก็คิดทันคำพูดอันล้ำลึกของก๋งไชโยทันเหมือนกัน

“อ้าว ... กระท้อนหวานยังต้องทุบ .. เพชรสุกใสได้ ก็ต้องเจียร .. ไอ้ที่แก่นแก้วแสนซน .. ทำยังไงให้อ่อนหวาน เรียบร้อยก็หาวิธีเอาเอง .. ตัวฉันนั้นเชื่อในเรื่องพรหมลิขิต ... ขอให้คุณรักษาคำพูดก็พอแล้ว .. ถือว่าฉันเอาชีวิตของฉัน .. และหลานของฉัน .. ไร่ระเด่น แห่งนี้เป็นเด่มพัน”

ภีษมะอึ้งไปพักใหญ่ .. เขาพยายามใช้สมองทบทวนถึงข้อดี และข้อเสียต่าง ๆ ครบครัน .. งานนี้เขาไม่เสียหายอะไรเลย .. แต่แม่บุษบาเอวกลมนะซิ ..

“ก๋งครับ ช่วงเดือนแรกผมขอศึกษาตัวตนของบุษบาก่อนได้ไหมครับ .. เรื่องแต่งงานผมว่าอาจจะเร็วไป .. ไม่ใช่ว่าผมจะบ่ายเบี่ยง .. แต่ว่าผมก็อยากแสดงให้ก๋ง และทุกคนในไร่ระเด่นเห็นว่าผมนั้น มีใจให้กับบุษบาจริง ๆ ไม่ใช้แต่งงานเพื่อต้องการทรัพย์สมบัติของเธอ .. ลำพังตัวผมเงินเดือนราชการผมก็พอเพียงอยู่แล้ว .. ที่บ้านผมก็จัดว่ามีฐานะ .. ผมอยากให้ก๋งมั่นใจว่า ผมจริงใจกับบุษบา .. ไม่ได้คิดจะหลอก ลวงเธอ ..”

“ดี .. สมเป็นทหาร .. ได้ .. งั้นอาเสือ ลื้อต้องทำให้บุษบากลายเป็นนางบุษบาที่แสนหวานให้ได้ ... ก๋งจะคอยฟังข่าวดี .. แต่ว่าอาเสือ ลื้อห้ามไปบอกเรื่องนี้ให้อาน้องหนูรู้เด็ดขาด .. ทุกอย่างจะดำเนินตามแผนของเรา เข้าใจไหม” ก๋งไชโยบอก
“ครับ .. เสือจะดำเนินตามแผนของก๋ง .. งานนี้แผนซ้อนแผนคงสนุกพิลึก ..”

“ใช่ อาเสือพูดถูก .. อาน้องหนูคิดว่าฉลาดล้ำแล้ว .. ต้องเจอกับอั๊วนี้แหละ .. วางแผนดีนัก .. เจอแผนตลบหลังอีกทีเป็นไร” ... ชายสองวัยหัวเราะพูดคุย กันอยู่พักใหญ่ โดยเฉพาะภูมิหลัง และครอบครัวของภีษมะ บ่ายกว่า ๆ นั้นแหละชายหนุ่มได้ถึงออกมาจากห้อง

บุษบาที่นั่งรอ ชะเงื้อ ชะแง้ จนคอจะยืดเป็นยีลาฟ พอเห็นภีษมะเดินออกมาจากห้องตรงลิ่วไปหาทันที

“นายพูดอะไรกับก๋ง ตั้งนาน สองนาน” .. บุษบาถามด้วยน้ำเสียงที่ไม่เป็นมิตรเอาซะเลย

“เปล่า .. ไม่มีอะไร .. ท่านก็ถามว่าผมทำงานอะไร .. คบกันตอนไหน .. ทั่ว ๆ ไป”

“แน่ใจ ..” บุษบาจ้องตาสีดำคมเข้มคู่นั้นนิ่ง เหมือนจะหยั่งด้วยสายตาควานหาความจริงชนิดสุดติ่ง

“จ้องเข้าไป .. ผมท้องขึ้นมาใครจะรับผิดชอบ ..” ชายหนุ่มบอกก่อนจะเดินหน้าออกไปทางประตูหน้าบ้าน ..

“ต๊าย .. เห่ามาได้นะพ่อคุณ ..” ภีษมะหันหลังควับ .. กระท้อนยิ่งทุบยิ่งหวานใช่ไหม ..ชายหนุ่มคิดในใจ .. สมองคิดและฝีเท้ามันก็เร็วพอกัน ชายหนุ่มเดินตรงไปหาร่างอวบที่เมื่อครู่ปากดี ..

“ปากดีนักใช่ไหม” .. ภีษมะพูดเสียงรอดไรฟัน .. ก่อนจะคว้าต้นคอหญิงสาวแล้วกดจูบลงบนริมฝีปากอิ่มสวย อย่างรวดเร็ว .. มือหนึ่งจับท้ายทอยของบุษบา .. มือใหญ่คร้ามอีกมือโอบกอดร่างอวบ .. ริมฝีปากอุ่นละมุนที่จูบเน้นหนัก .. มิได้อ้อยอิ่งเหมือนคราแรกที่กระทำ แต่กลับรุกเร้าเอาแต่ใจ พยายามอย่างยิ่งที่จะเข้าลิ้มเอมความหวานล้ำภายใน .. สองมือน้อยพยายามผลักไส้ ทั้งดิ้นร้น สารพัด .. สุดท้ายหญิงสาวพยายามกระกระทืบเท้าใหญ่นั้นอีกแต่คราวนี้ บุษบาคิดผิด ...

“โอ๊ย ...” บุษบาอุทานลั่น .. ภีษมะปล่อยร่างอวบให้ทรุดลงกับพื้นทันทีบุษบากุมส้นเท้าตัวเอง ใบหน้านวลแสดงความเจ็บอย่างชัดเจน .. ก็หญิงสาวเล่นกระทืบพื้นบ้านเข้าเต็มแรง .. เธอคิดว่าคนตัวใหญ่คงหลบไม่ทัน .. นี้เท่ากับว่าเธอเสียสองเด็งเลย ... “ไอ้เสือใบ .. ไอ้หมาบ้า” บุษบาชักโมโห

“โธ่ เจ็บไหมครับ” ..ภีษมะพูดขึ้นก่อนจะก้มลงลูบที่พื้นไม้เบา ๆ อย่าทะนุถนอม .. “ดีนะไม่ยุบลงไป โดนช้างกระทืบซะขนาดนี้” .. ภีษมะพูดพร้อม ๆ กับหัวเราเบา ๆ ในลำคอ อย่างสุดแสนจะสะใจ “เห็นไหมให้ทุกข์แก่ท่าน .ทุกข์นั้นถึงตัว” .. ตัวบุษบานั้นไม่ต้องพูดถึง หญิงสาวหยิบแจกันดอกไม้ใกล้มือปาใส่หน้าภีษมะอย่างแรง แต่ภีษมะกับรับไว้ได้ .. คราวนี้ภีษมะกะเล่นหนัก .. ชายหนุ่มตะบบไหล่ของหญิงสาวก่อนจะผลักให้บุษบานอนราบไปกับพื้น โดยมีร่างใหญ่ของภีษมะคล่อมอยู่ .. บุษบาที่ตกใจนึกถึงกับทำอะไรไม่ถูกพอโดนภีษมะแกล้งหนักเข้า

“ไอ้ .. ไอ้ .. ไอ้บ้า แกจะทำอะไรฉัน .. ช่วย ...” เสียงบุษบาขาดช่วงหายไปในลำคอ แต่ก็ยังไม่วายจะมีเสียงอู้อี้ เล็ดลอดออกมา .. มือใหญ่ของภีษมะอุดปากของบุษบาไว้มิด ...

“ถ้ายังอยากเล่นกับไฟอย่างผม .. ก็ตามใจ .. แต่ผมบอกไว้ก่อน .. ผมไม่เคยเป็นสามี .. น่ะ อาจจะขัด ๆ เขิน ๆ ไปบ้าง แต่ก็จะพยายามเต็มที” .. ภีษมะบอกแล้วทำท่าจะก้มลงซุกซอกคอของบุษบา .. คราวนี้หญิงสาวหลับตาแน่นปี๋ ... ภีษมะได้แต่หัวเราะในใจ ... “เด็กหนอเด็ก” ... สุดท้ายภีษมะก็ปล่อยมือผละออกจากร่างอวบอิ่ม ..ก่อนเดินออกจากตัวบ้านไป .. ปล่อยให้บุษบาอึ้งตกใจทำอะไรไม่ถูก ... “ไอ้เสือใบ นายต้องได้รับการเอาคืนอย่างสาสม” ..

ภีษมะพอเดินออกมานอกบ้านมองออกไป ไร่ระเด่น ปลูกแต่ดอกดาหลา .. เต็มไปหมด .. มีทั้งสีชมพู สีแดง สีขาว .. บรรยากาศรอบตัวช่างสดชื่นเหลือเกิน .. ความจริงที่นครนายกก็มีแปลงเกษตร เขาน่าจะลองเอาดาหลาไปปลูกที่โรงเรียนนายร้อยเหมือนกัน เข้าท่าดีเหมือนกัน ... ในระหว่างที่ชายหนุ่มปล่อยให้จิตใจลอยล่องไปเรื่อย .. กลับต้องมาสะดุดเพราะเสียงของบุษบา

“หมดธุระแล้วนี่ .. กลับไปได้แล้ว ..” หญิงสาวบอกหน้าเรียบเฉย

“อ้าวไหนบอกจะไปส่งที่ขนส่งไง ..” ชายหนุ่มถามกลับ

“งั้นเหรอ .. ลืม .. ไปซิเดี่ยวไปส่ง” บุษบาเดินนำลงบันไดบ้าน ตรงไปยังรถทันที .. ระหว่างทางภีษมะกำลังคิดว่าจะรับมือกับแม่บุษบาเอวกลมอย่างไรดี .. ดูท่าแม่บุษบาคงมีแผนเอาคืนเขาเหมือนกัน .. “แก้ปัญหาเฉพาะหน้าแล้วกัน”

“เอากุญแจ .. บอกทางผมเดี่ยวผมขับเอง” ..พอภีษมะบอกแบบนี้ ทำเอาบุษบาขาถึงกับหน้างอ .. สุดท้ายบุษบาก็จำต้องส่งกุญแจรถให้ .. “บอกทางมา” ชายหนุ่มบอกเสียงเข้ม .. ระหว่างทางบุษบาดูท่าทางรุกรี้รุกร้นพิลึก .. จนภีษมะจับพิรุณได้ .. “คุณน้องหนูเป็นอะไร”

“ฉันไม่ได้เป็นอะไร .. เอ๊า .. นั้นเลี้ยวขวาซิถึงขนส่งแล้ว” ภีษมะไม่เลี้ยวรถแต่ขับรถมุ่งหน้าไปกรุงเทพแทน “ นี้นายเสือใบ นายจะพาฉันไปไหน ..” คราวนี้บุษบาชักหน้าเสีย .. “นี่นายจะไปไหน ..” ปลายเสียงตวัดแสดงความไม่พอใจชัดเจน

“กลับกรุงเทพ” .. ภีษมะบอกสองมือก็ยังประคองพวกมาลัย แต่แล้วจู่ ๆ บุษบาก็นึกเฮี้ยนอะไรไม่รู้ พยายามยื้อแย้งพวงมาลัย .. ชายหนุ่มพยายามประคองรถให้ตรงทางเพราะเส้นนี้รถบรรทุกเยอะมาก ..

“นี่น้องหนู .. ปล่อยพวงมาลัย” .. ชายหนุ่มบอก

“ไม่ .. เอารถฉันมานี่นะ ..” บุษบาบอกพร้อมกับพยายามยื้อแย้งพวกมาลัยรถกับภีษมะ ส่งผลให้รถส่ายไปมา ราวกับงูเลื้อย ..ภีษมะพยายามหักพวงมาลัยเข้าข้างทางแล้วเหยียบเบรก เข็มขัดนิรภัยกระชากร่างทั้งสองอย่างแรง ... แต่ทว่าศีรษะของบุษบากับกระแทกเข้ากับคอลโซลหน้ารถแต่ก็ไม่แรงมาก .. แค่มีรอยแดง ..

“เป็นบ้าอะไร .. รู้ไหมว่ามันอันตรายแค่ไหน บุษบา ..” ภีษมะขึ้นเสียงเข้ม .. ทำเอาบุษบาหน้าจ๋อย .. เพราะถ้าเมื่อครู่ ภีษมะไม่เหยียบเบรคแล้วหักเข้าข้างทาง มีหวังได้เสยรถบรรทุกทั้งคู่ ..

“น้อง .. น้องหนู” .. บุษบาพยายามจะเอ่ยปากขอโทษ

“โตขนาดนี้แล้ว .. ไม่ใช้เด็ก .. ทำไมยังทำตัวเป็นเด็ก ไม่มีเหตุผล .. เอาแต่ใจ .. อายุเท่าไหร่แล้ว .. ทำไมไม่ใช้สมองคิด” ... ภีษมะที่ตอนนี้ทั้งโมโห ทั้งโกธร .. บุษบาร้ายกว่าที่เขาคิดไว้ ..

“น้องหนูขอโทษ .. น้องหนู ...”

“คงโดนตามใจมาตั้งแต่เด็กซินะ .. พอไม่ได้ดังใจก็ต้องทำทุกวิธีให้ได้ เด็กไม่มีพ่อแม่ก็แบบนี้” เสียงเข้มที่ดุบุษบา ทำเอาสาวน้อยร่างอวบถึงกับบ่อน้ำตาร้าว .. “เอ๊า ..ร้องไห้อีก .. ทำอะไรคิดก่อนค่อยลงมือทำ .. จำไว้ไม่งั้นผลมันจะออกมาเป็นแบบนี้ .. ถ้าเมื่อกี้พี่เบรครถไม่ทัน .. อะไรจะเกิดขึ้น .. เคยนึกบ้างไหม” .. ภีษมะยังดุไม่เลิก

“ก็น้องหนูขอโทษแล้วไงค่ะ .. จะเอาอะไรกับน้องหนูอีก” .. คราวนี้น้ำตาของหญิงสาวกลับไหลพราวลงมาอย่างสำนึกผิด ..

“แล้วทำไมไม่คิดก่อน” .. คราวนี้บุษบาสบตานิ่ง .. ก่อนจะเปิดประตูรถแล้วกระโดดลงจากรถ แล้วเดินดุ่ม ๆ ไปไม่พูดไม่จา .. ภีษมะได้แต่มองตามร่างอิ่มนั้น .. ชายหนุ่มถึงกับกุมขมับ สอนหนังสือให้นักเรียนผู้ชายมาหลายปี .. ไม่เคยเจอแบบนี้ .. เจอแม่บุษบาเอวกลมไปวันเดียว ปวดหัวแทบตาย นี้ต้องสู้รบกันอีกกี่ยกถึงจะหายพยศ

“น้องหนูกลับมา .. นี่มันเย็นแล้วนะ” ชายหนุ่มรีบวิ่งตามร่างอวบนั้นทันที .. มือใหญ่คว้าข้อมือไว้ แต่ทว่า..

“เพี๊ยะ ..” ภีษมะตะลึงไม่น้อย .. บุษบาตบหน้าภีษมะฉาดใหญ่ ... น้ำตาที่ไหลร่วงพราวอย่างน่าสงสาร ... บรรยากาศรอบ ๆ ก็ใกล้เย็นแล้วแสงสลัวมันชวนให้เศร้าไปด้วยเหลือเกิน

“นายจะพูดว่าฉันเป็นยังไงก็ได้ .. แต่นายห้ามพูดว่าฉันเป็นเด็กไม่มีพ่อมีแม่เด็ดขาด .. ใช่ซินายคงมีครบ .. รู้บ้างไหมว่าคนที่ขาดพ่อ ขาดแม่ มันเป็นยังไง” .. คราวนี้บุษบาร้องไห้หนักกว่าเก่า .. คำพูดเมื่อครู่เรียกสติของภีษมะกลับมา ... “คิดแล้วค่อยพูด หรือพูดแล้วค่อยคิด”

“น้องหนู พี่เสือขอโทษ .. พี่พูดไม่คิดเอง ...” บุษบาที่ร้องให้หนักอยู่เบื้องหน้าทำให้เขาสำนึกขึ้นมาได้ว่า ไม่ควรที่จะพูดเรื่องนี้ .. มันเหมือนปมที่บุษบามีอยู่ในใจ .. “ขึ้นรถนะครับ .. เดี่ยวพี่พากลับบ้าน” ภีษมะพูดเสียงอ่อนโยนลง แต่ร่างอวบนั้นก็ยังร้องไห้กระซิก ไม่ยอมนิ่งซะที ... หรือต้องปลอบเหมือนเด็กอีก ... ภีษมะนึกอยู่พักใหญ่ว่าควรจะทำหรือไม่สุดท้าย ...

ภีษมะก็เดินเข้าไปใกล้ ๆ กับบุษบา .. สองแขนใหญ่โอบกอดร่างอวบที่ตอนนี้น้ำตายังพราวพรายอยู่บนแก้มนวล .. วงแขนที่กระชับนิ่ง .. บุษบาค่อย ๆ โอบกอดร่างภีษมะไว้ .. แต่ก็ยังไม่วายจะมีเสียงสะอึก สะอื้น .. หน้านวลซบกับอกกว้าง น้ำตา น้ำมูก ไหลรวมกันอยู่บนอกเสื้อของภีษมะ ..

“โอ๋ .. นิ่งนะครับน้องหนูคนดี .. พี่เสือสัญญาจะไม่พูดเรื่องนี้แล้ว .. พี่เสือขอโทษ” ชายหนุ่มค่อย ๆ คลายอ้อมกอดนั้นออกช้า ๆ แล้วค่อย ๆ ปาดน้ำตา ที่ยังค้างอยู่บนแก้มนวล เหมือนหนึ่งน้ำค้างที่ยังพราวบนยอดหญ้า .. ภีษมะมองใบหน้านวลนั้นอย่างลืมตัว ... “ถ้าไม่แก่นแสนซน ก็คงหวานปานน้ำผึ้งเดือนห้า” บุษบาที่ตอนนี้ไม่ร้องไห้ แต่ยังไม่สะอึกสะอื้นบาง .. ตัวหญิงสาวก็รู้สึกไม่น้อยที่ทำอะไรไม่คิด

“น้องหนูขอโทษค่ะ ..” บุษบายกมือไหว้ขอโทษภีษมะ “ต่อไปน้องหนูจะคิดก่อนแล้วค่อยทำ .. ไม่ทำอะไรบุ่มบ่ามแบบนี้อีกแล้ว” .. ภีษมะพอเห็นใบหน้านวลนั้น มีทั้งน้ำตา และน้ำมูก ก็นึกอยากจะหัวเราะออกมาดัง ๆ ภีษมะหยิบผ้าเช็ดหน้าสีขาวส่งให้บุษบา ..

“เช็ดหน้าซะ เด็กน้อย .. เลอะไปหมดแล้ว” .. ชายหนุ่มบอก .. “เย็นแล้ว ไปส่งพี่ที่ขนส่งเถอะ” .. ชายหนุ่มบอก แต่สรรพนามที่แทนตัวเองที่เปลี่ยนไปอย่างไม่รู้ตัว .. ทำให้บุษบาก้มหน้าไม่กล้าสบตาภีษมะ .. “เขินเขาหรืออย่างไร”

“เมื่อกี้คุณเรียกตัวเองว่าอะไรค่ะ ..” บุษบาถามเพราะกลัวว่าจะฟังผิด

“พี่เสือครับ” .. ชายหนุ่มตอบพร้อม ๆ กับเดินกลับไปรถ บุษบาก็ยังยืนนิ่ง แต่แล้วเสียงเล็กก็ตะโกนกลับมา

“พี่เสือ รอน้องหนูด้วยค่ะ” .. บุษบารีบวิ่งตามภีษมะกลับไปที่รถ ... ระหว่างทางภีษมะ และบุษบาไม่พูดอะไรกันสักคำ ต่างคน ต่างเงียบ .. เพราะตอนนี้ต่างคน ก็ต่างคิดอะไรไปเรื่อย ... แต่ทว่าก็เริ่มมองเห็นข้อดีของอีกฝ่ายหนึ่ง .. จนกระทั่งถึงขนส่งจังหวัด ..

“แล้วพรุ่งนี้พี่จะขับรถมาหาที่ไร่ .. แล้วจะไปไหนค่อยว่ากันนะครับ ..” ภีษมะบอกจะเปิดประตูรถแล้วเดินเข้าไปซื้อตั๋วรถ ... บุษบาที่นั่งอยู่ด้านคนขับ .. มองหลังชายหนุ่มที่เดินจากไป .. คราบน้ำตาที่ยังค้างอยู่บนแก้มนวลมันเริ่มจางหาย . หากแต่มีรอยยิ้มเล็กเจือบนใบหน้าแทน ...

“ขอโทษนะคะพี่เสือ .. ขอน้องหนูเอาคืนบ้างก็แล้วกัน” .. บุษบามองหลังของภีษมะจนลับตา.. ก่อนจะขับรถกลับไร่ ..

ทางด้านภีษมะพอเข้าไปในขนส่งระหว่างที่เดินไปซื้อตั๋ว .. คนรอบ ๆ ตัวที่เดินผ่านเขาไปก็ต้องสะดุดเหมือนอ่านอะไรสักอย่าง .. หรือไม่ก็หัวเราะคิกคัก .. จนเขาชักแปลกใจ แต่ก็ไม่ได้คิดอะไรไปมากกว่านั้น จนกระทั่งชายหนุ่มขึ้นรถ .. ชายหนุ่มเลือกที่นั่งหน้าสุดคู่กับคนขับ แต่ตลอดเวลาก็มีเสียงหัวเราะคิก ๆ คักตลอด .. ภีษมะก็ไม่ได้เอะใจ ... พอมาถึงหมอชิต ภีษมะโบกแท็กซี่กลับบ้านย่านตลิ่งชันทันที ...
สองทุ่มกว่าแล้ว นายเสือเดินทางกลับมาถึงบ้าน เสถียรนาวิน .. ที่วันนี้ พี่ ๆ น้อง ๆ นั่งรอกันอยู่ครบถ้วน

“พ่อครับ แม่ครับ เสือกลับมาแล้วครับ ..” ชายหนุ่มร้องตะโกน ก่อนจะยกมือไหว้ชำนาญชล และโยทะกาที่นั่งอ่านหนังสือรวมอยู่กับลูก ๆ คนอื่น ..

“อ้าวมาแล้วเหรอพ่อเสือ .. กินข้าวกันปลามาหรือยังลูก .. เดี่ยวแม่ให้ป้าพวงตั้งสำรับให้ไหมจ๊ะ” .. โยทะกาถามบุตรชาย

“เดี่ยวผมจัดการเองก็ได้ครับแม่” .... “อ้าวพี่ช้าง สวัสดีครับ” .. นายเสือยกมือไหว้พี่ชายคนโต .. ส่วนน้อง ๆ คนอื่นก็ยกมือไหว้พี่คนรอง .. บรรยากาศเริ่มสนุกอีกรอบ .. เพราะแม่วาฬน้อย หรือแก้วกัญญา เห็นความผิดปกติบางอย่างที่หลังเสื่อของพี่ชาย

“พี่เสือ .. อยู่นิ่ง ๆ” น้องวาฬเดินอ้อมไปข้างหลังพี่ชายของตนก่อนจะแกะกระดาษที่ติดอยู่หลังเสื้อพี่ชายมาอ่าน ก่อนจะหัวเราะก๊ากดังลั่นบ้าน .. จนโยทะกาต้องปราม

“แม่วาฬหัวเราะได้ยินไปสามบ้านแปดบ้านลูก” .. นั้นล่ะแม่วาฬน้อยจึงค่อย ๆ โชว์ป้ายให้ทุกคนดูกระดาษสีขาว A4 เขียนข้อความด้วยปากกาเมจิกสีน้ำเงิน ตัวโต .. หลังจากนั้นเสียงหัวเราะก็ดังสนั่นลั่นบ้าน .. ไม่เพียงแค่พี่น้อง .. ชำนาญชลถึงกับหัวเราะร่าจนน้ำตาไหล .... เพราะไอ้กระดาษแผ่นนั้นเขียนโชว์หลา ..อ่านได้ความว่า ...“ผมเป็นเกย์” ...

“เฮ้ย .. ไอ้เสือไปทำอะไรใครไว้ว่ะ .. ถึงโดนขนาดนี้” .. พี่ช้างหัวเราะร่าก่อนจะถามน้องชายคนรอง ..

“นั้นซิพี่ .. ไปโดนใครแกล้งบอกกระทิง .. เดี่ยวผมไปจับมันเอง .. ถ้าอยู่ในเขตสน. ของผมนะ” นาย กระทิงยังหัวเราะไม่เลิก ..

“พี่เสือไปไหนมาค่ะ ..” น้องวาฬถามพี่ชายที่ตอนนี้ยืน ขบฟันด้วยความแค้นอย่างยิ่งยวดที่โดนกระตุกหนวดเสือ .. สงสัยอีตอนที่หญิงสาวซบหน้าแล้วโอบกอดเขา .. ต้องใช่ตอนนั้นแหละ ..

“แปดริ้วจ๊ะ” .. นายเสือตอบ

“โอ้ .. งานนี้ก็กลายเป็นเกย์ตั้งแต่แปดริ้วยันกรุงเทพ เลยซิพี่ ..” นายสิงห์บอกก่อนจะส่งน้ำเย็น ๆ ให้พี่ชายดื่มเพื่อดับไฟแค้น ...

“ใครกล้ากระตุกหนวดเสือว่ะ .. น่าโดนตืบ” นายเหยี่ยวบอก ... นายเสือที่ตอนนี้กำลังแค้นอย่างสุดขีด .. โพล่งออกมาอย่างหลุดปาก ...

“น่าจับปล้ำทำเมียมากกว่า” ...

“อารายนะ” .. คราวนี้นายช้าง นายสิงห์ นายกระทิง นายเหยี่ยว และน้องวาฬ อุทานพร้อมกัน .. ชำนาญชลก็ถึงกับวางหนังสือ .. โยทะกาก็ตกใจที่บุตรชายพูดแบบนี้

“ผู้หญิงเหรอค่ะพี่เสือ” .. น้องวาฬบอก

“ใช่ .. ใครอยากประชุมเชิญด้านบน .. งานนี้ผมขอมติพี่น้องทุกท่านหน่อยครับ .. ยายวาฬไม่ต้องนะเรา .. งานนี้ลับเฉพาะผู้ชายจ๊ะ” .. ชายหนุ่มบอกก่อนจะหันไปบอกชำนาญชล และโยทะกา “พ่อครับ แม่ครับ เสือขอตัวนะครับ” ... ชำนาญชลที่ยังอึ้ง ๆ กับคำพูดเมื่อครู่ได้แต่พยักหน้า ..

หลังจากนั้นขบวนชายหนุ่มทั้ง 5 ก็เดินขึ้นไปด้านบนเหลือไว้เพียงน้องนุชสุดท้องที่นั่งหน้างออยู่ข้าง ๆ พ่อ ...

“พ่อขา ดูพี่ ๆ ซิทิ้งวาฬอีกแล้ว” แก้วกัญญาทำเสียงอ่อน อ้อนบิดา

“คงเรื่องของหนุ่ม ๆ มั้งลูก .. อย่าไปฟังมันเลยอ่านหนังสืออยู่กับพ่อดีกว่านะ” .. ชำนาญชลบอกก่อนจะหันไปสบตากับโยทะกา ... “ใครกันที่น่าจับปล้ำทำเมีย”



มาลัยห่วงรัก
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 18 ต.ค. 2554, 19:50:56 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 18 ต.ค. 2554, 19:50:56 น.

จำนวนการเข้าชม : 2004





<< ความทรงจำในอดีต   5 หนุ่มแห่งเสถียรนาวิน >>
มาลัยห่วงรัก 18 ต.ค. 2554, 20:54:37 น.
ยินดีน้อมรับทุกคอมเมนต์ .. ยังไงก็ดีใจที่จะได้รู้จักเพื่อนใหม่ ในบ้านหลังใหม่นี้นะคะ ... สวัสดีทุกคนค่ะ


ปอแก้ว 18 ต.ค. 2554, 22:02:02 น.
คุณก๋งความจำดีจัง พี่เสือกลายเป็นอิเหนาคู่กับบุษบาซะแล้วสิ ฮาาาาา


กานต์นวีร์ 19 ต.ค. 2554, 00:29:17 น.
แรงนะนายเสือ ไปว่าเขาขาดพ่อแม่ได้่ไง


เพชร 19 ต.ค. 2554, 16:13:40 น.
เคยติดตามผลงานจากเวปอื่นมาแล้ว
เป็นเรื่องที่สนุกมากจ้า


teesaparn 20 ต.ค. 2554, 14:00:32 น.
ตวยมาหื้อกำลังใจ๋เจ้า ห่วงฮักสู้ๆ ห่วงฮักสู้ตาย ห่วงฮักไว้ลาย สู้ต๋าย สู้ๆๆ


jink 20 ต.ค. 2554, 18:23:29 น.
อบอุ่นๆ แอบอยากอ่านเรื่องของนายกระทิงกะนายเหยี่ยวค่ะ อิอิ


มาลัยห่วงรัก 20 ต.ค. 2554, 19:20:21 น.
ขอบคุณนะคะ .. คุณปอแก้ว คุณการต์นวีร์ คุณเพชร คุณJink และคุณเล็ก .. มาติดตามกันต่อเลยนะคะ ดีใจค่ะที่ทุกท่านชอบ


Edelweiss 21 ต.ค. 2554, 08:57:50 น.
พี่น้องบ้านพี่เสือนี่เยอะจังเลย


มาลัยห่วงรัก 23 ต.ค. 2554, 21:13:43 น.
ต้องดูในตอนต่อไปคะ่ นะคะคุณ Edlweiss 5 หนุ่มแห่งเสถียรนาวิน .. ร้าย ๆ กันทั้งนั้นเลยละคะ


koffee 24 ต.ค. 2554, 17:47:47 น.
คอยาวเป็นยีราฟ ร ไม่ใช่ ล
เรื่องสนุกค่ะ แต่ว่าตัวสะกดหลุดๆ ปรู๊ฟเยอะนะคะ


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account