มนต์เสน่หา
เมื่อโดนบังคับให้หาผู้สืบทอดและดูแลไร่ระเด่น บุษบา สาวน้อย จำใจต้องหาชายผู้นั้นเพื่อให้ก๋งของเธอสบายใจ แล้วฟ้าก็ส่งนายทหารหนุ่มน่ารักมาให้ พร้อมกับความเข้าใจผิดว่าเขาเป็นเกย์ ..
Tags: ทหาร ตบจูบ น่ารัก โรแมนติก

ตอน: เพราะผูกพัน

บทที่ 6
เพราะผูกพัน

ทางด้านยุธิฐิระ พอแยกย้ายกลับห้องก็นึกถึงแต่คำพูดของน้อง ๆ เรื่องของเอื้องฟ้า ... นับตั้งแต่เด็ก ตัวเขา และเอื้องฟ้าก็สนิทกันมาตลอด .. เพราะครอบครัวของเอื้องฟ้าก็เป็นเพื่อนสนิทของบิดา แต่พอครั้นทั้งครอบครัวของเอื้องฟ้าประสบอุบัติเหตุ เหลือเพียงเอื้องฟ้าคนเดียว .. นับแต่นั้นเอื้องฟ้าก็ได้รับการดูแลจากบิดา มารดาของตนมาโดยตลอด .. ทั้งที่ความจริงเขาและเอื้องฟ้าอายุก็ใช่ว่าจะห่างกันมาก .. แต่เพราะเอื้องฟ้าเรียกตนเหมือนที่เรียกบิดา และมารดา ยุธิฐิระ เลยกลายเป็นอาช้างไปนับแต่นั้นมา .. ตอนนี้ยุธิฐิระ กำลังพยายามหักห้ามใจตัวเอง ไม่ให้คิดกับเอื้องฟ้าไปมากกว่าการเป็นอาหลาน ... แต่แล้วเสียงโทรศัพท์ที่ดังขึ้น .. ทำให้ชายหนุ่มตื่นจากภวังค์ความคิด ..

“ฮัลโหล .. สวัสดีค่ะ .คุณเป็นญาติของ คุณเอื้องฟ้า ณ เวียงฟ้า ใช่ไหมค่ะ ..” ต้นสายถาม

“ครับ .. ผมยุธิฐิระครับ”

“คุณเอื้องฟ้าเธอเป็นลมหมดสติมีคนนำเธอมาส่งที่โรงพยาบาลค่ะ .. พอดีมีหลักฐานว่าคุณเป็นญาติ ถ้ายังไงรบกวนคุณมาที่โรงพยาบาล .... ด่วนเลยนะคะ ....”

“เอื้องฟ้าหมดสติหรือครับ .. ได้ครับผมจะรีบไปเดียวนี้ .. ตอนนี้อาการเธอเป็นยังไงบ้างครับ”

“ตอนนี้ยังไม่รู้สึกตัวนะคะ ถ้ายังไงรบกวนญาติมาติดต่อที่ห้องฉุกเฉินได้เลยนะคะ”

“ครับผมจะรีบไปเดียวนี้” .. พอวางสายยุธิฐิระ เปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วรีบออกมาจากบ้านทันที ... ชายหนุ่มลงที่โรงรถก่อนจะรีบสตาร์รถออกจากบ้านไป ... ชายหนุ่มขับรถอย่างรวดเร็ว เป็นห่วงเอื้องฟ้าอย่างจับใจ .. “อากำลังไปนะคะเอื้อง ..”

พอถึงโรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่ง .. ยุธิฐิระรีบไปติดต่อห้องฉุกเฉิน .. ชายหนุ่มรีบตามพยาบาลเข้าไปดูอาการของเอื้องฟ้าที่ตอนนี้ยังนอนไม่ได้สติอยู่บนเตียง ... ร่างบางหลับนิ่งสนิท ... ดวงหน้าที่เคยยิ้มพรายทุกคราที่เจอกับชายหนุ่ม บัดนี้นิ่งสนิท และขาวซีด ..

“ขอโทษนะครับ ญาติของคุณเอื้องฟ้าใช่ไหมครับ” .. เสียงคุณหมอเรียกสติของยุธิฐิระกลับมา

“ครับผม .. หมอเชิญข้างนอกดีกว่านะครับ” ชายหนุ่มเดินตามคุณหมอออกไปนอกห้อง ... ตอนนี้ชายหนุ่มชักใจคอไม่ดี ..

“ตอนนี้อาการของคุณเอื้องฟ้า ก็ไม่มีอะไรมากนะครับ .. สงสัยเพียงแต่ว่าพักผ่อนน้อย .. แล้วอีกอย่างเท่าที่ทราบหน้าที่การงานของเธอต้องออกต่างจังหวัด แต่ทำงานกลางแดดบ่อย .. คงอ่อนเพลียมากเกินไป .. ถ้ายังไงน้ำเกลือหมดขวดแล้วก็คงกลับบ้านได้ .. ผมอยากให้คุณเอื้องฟ้ากลับไปพักผ่อนที่บ้านมากกว่านะครับ”

“นอกจากนี้ก็ไม่มีอาการอย่างอื่นใช้ไหมครับหมอ” ยุธิฐิระถาม

“ไม่มีแล้วละครับ ..” คุณหมอตอบก่อนจะขอตัวไปดูคนไข้รายอื่น ๆ ที่อยู่ในห้องฉุกเฉิน ..

ยุธิฐิระเดินกลับเข้ามาในห้องสังเกตุอาการของเอื้องฟ้า ... ดวงหน้าหวานที่แสนยั่วยวน .. มีหลายครั้ง หลายครา ที่เขาเคยคิดกับเจ้าหล่อนนอกกรอบของความเป็นอาหลาน ... แต่สุดท้ายสิ่งที่เตือนสติของเขาคือ .. ความเหมาะสม .. และที่สำคัญเอื้องฟ้ามีใจให้เขาบ้างหรือเปล่า เพราะตลอดเวลาสิ่งที่เขาแสดงออกต่อเอื้องฟ้า .. คือความเป็นผู้ปกครอง

“โอ๊ย ..หิว .. น้ำ ..” เอื้องฟ้าค่อย ๆ รู้สึกตัว หญิงสาวร้องหาน้ำดื่มทันที คอแห้งแผกแห้งร้าวราวกับผุยผง ... ยุธิฐิระวิ่งไปกดน้ำก่อนจะค่อย ๆ ประคองร่างบางแล้วค่อย ๆ ป้อนน้ำให้ ...

“เป็นยังไงบ้าง เอื้อง..” ชายหนุ่มพยายามถามเพื่อให้หญิงสาวตอบกลับ ..

“อาช้าง ..” เอื้องฟ้าค่อย ๆ ส่งยิ้มแม้นยิ้มนั้นจะไม่หวานยั่วเหมือนเมื่อปกติ .. แต่ก็เป็นยิ้มที่แสดงออกถึงความยินดีเหลือคณา .. เมื่อหลับตาก็ยังเห็น .. ตื่นขึ้นมาก็ยังเห็น ...

“เอื้องไม่เป็นอะไรแล้วนะคะ .. อาช้างอยู่ตรงนี้แล้ว .. ไม่ต้องกลัว” .. ยุธิฐิระส่งยิ้มแล้ว ก่อนจะค่อย ๆ กุมมือน้อยขึ้นมา มือใหญ่คร้ามค่อย ๆ ลูบไล้เรือนผมสีดำสนิทที่ตอนนี้มันยุ่ง .. “เดี่ยวเอื้องนอนพักก่อนนะคะ .. น้ำเกลือหมดขวดอาช้างพากลับบ้านนะ” .. น้ำเสียงแห่งความเอื้ออาทร แสดงออกถึงความรักยิ่งของยุธิฐิระ เขาก็ได้แต่หวังว่า เอื้องฟ้าจะรับรู้ .. แต่จะเป็นแค่หวังหรือไม่ ..

“อาช้างมาได้ยังไงค่ะ ...” เอื้องฟ้าถาม

“พยาบาลโทรไปบอกจ๊ะ” ..

“ขอบคุณอาช้างนะคะ .. เอื้องเป็นภาระให้อาช้างอีกแล้ว น่าละอายจัง”

“อย่าพูดมากเลย .. นอนซะเถอะนะอีกนิดเดียวน้ำเกลือก็หมดขวดแล้ว .. เดี่ยวคืนนี้อาอยู่เป็นเพื่อนที่บ้านนะ” .. ชายหนุ่มตอบก่อนจะเดินออกมาจากหอสังเกตอาการ แล้วจัดการเรื่องค่าใช้จ่ายให้หญิงสาวทั้งหมด .. เที่ยงคืนกว่านั้นแหละ น้ำเกลือถึงจะหมดขวด .. ยุธิฐิระขับรถพาเอื้องฟ้ากลับไปยังบ้านของหญิงสาวที่อยู่ในละแวกเดี่ยวกับบ้านของยุธิฐิระ ..

ระหว่างทางที่ยุธิฐิระ ขับรถกลับ .. เอื้องฟ้าหลับ ๆ ตื่น ๆ .. ร่างบางค่อย ๆ เอนซบไหลกว้างของชายหนุ่มอย่างช้า ๆ สำหรับยุธิฐิระ แล้วไม่อยากกลับบ้านเลย อยากหยุดเวลาตรงนี้ หามุมสงบ ๆ อยู่กับหญิงสาวสองคนแบบนี้ .. สุดท้ายแรงแห่งความคิดนั้นก็ชนะ ... ชายหนุ่มเลือกที่จะหักรถเข้าข้างทางบริเวณที่ปลอดคน ..

ดวงหน้าหวานละมุม .. ที่กำลังซบอิงไหล .. ร่างบางยั่วเย้าใจเหลือเกิน .. ภาพของหญิงสาวเมื่อครั้งอดีตค่อย ๆ ผุดพรายเข้ามา .. นับตั้งแต่วัยเด็ก .. สองมือใหญ่ที่เคยโอบอุ้มร่างบางเมื่อยามร้องไห้ .. คอยปลอบเช็ดน้ำตา เมื่อยามโศกเศร้า .. เมื่อเริ่มเติบโต .. เขาเข้ารับราชการ เอื้องฟ้าก็เลือกเรียนที่ที่นครปฐม .. เขาก็ได้แต่คิดในใจว่า .. เอื้องฟ้าจะตามเขามาหรือเปล่า .. บ่อยครั้งเมื่อใกล้สอบ .. ทั้งยุธิฐิระ และเอื้องฟ้า สองคนต้องสุมหัวช่วยกันติว จนหลับคากองหนังสือก็หลายครั้ง ... หรือเมื่อมีรายงานหลายฉบับ .. ทั้งคู่ก็ต้องนั่งทำรายงานอยู่ด้วยกันยันเช้า .. แล้วแบบนี้จะให้เขาคิดเป็นอื่นนอกจากความเป็นอาหลาน ได้เช่นไร .. แต่ใยเล่า .. ใจเราถึงได้คิดไปไกลเกินกว่าที่เป็น

ยุธิฐิระ ลอบมองร่างบางที่ยังหลับสนิท .. ชายหนุ่มค่อย ๆ จับร่างบางให้นอนยังเบาะแล้วค่อย ๆ ปรับเบาะนั้นให้เอนนอนลง ... แสงสลัวของพระจันทร์ ที่ลิบพริบพลิ้ว ต้องยอดไม้ที่กำลังแกว่งไหวโอน .. ส่องต้องหน้านวลลออ .. ยั่วยวนใจ .. สองตาคมกล้าของยุธิฐิระจ้องมองใบหน้านั้นอย่างชั่งใจ ... แต่สิ่งเร้าในอกกลับกระตุ้นจนเกินห้ามใจ ... ชายหนุ่มค่อย ๆ ก้มลงหอมแก้มนวลอย่างเบาที่สุด .. เหมือนเกรงว่าเอื้องฟ้าจะตื่นขึ้นมา .. มือใหญ่ลูบไล้เรือนผมดำสนิทแผ่วเบายิ่ง ... ริมฝีปากอวบอิ่มยั่วเย้านั้นจักหวานละมุนปานใดหนอ .. มือใหญ่ค่อย ๆ ลูบริมฝีปากนั้นเบา ๆ ชายหนุ่มหลับตาสนิทพยายามดับไฟปรารถนาที่มันร้อนรุมอยู่ในอกอย่างที่สุด ...

“ไม่ ...” ยุธิฐิระหันตัวกลับมายังเบาะของตนปล่อยร่างบางให้หลับสนิท ... แต่แล้วยุธิฐิระก็นึกอะไรออกบางอย่าง .. ชายหนุ่มออกรถทันทีมุ่งหน้าไปหัวหินทันที ... สุดท้ายชายหนุ่มตัดสินใจหยิบโทรศัพท์โทรหา บิดาทันที

“ฮัลโหล ... พ่อครับผมไปหัวหินนะครับ” .. ยุธิฐิระบอกกับบิดา

“อะไร ไปตอนนี้นะเหรอ ..ช้างมีอะไรเหรอลูก” ชำนาญชลถามบุตรอย่างร้อนใจก็เมื่อหัวค่ำยังอยู่บ้านอยู่เลย ..

“ผมจะพาเอื้องไปพักที่หัวหินครับ .. ผมโทรบอกพ่อกับแม่ไว้ครับ จะได้ไม่เป็นห่วง .. พรุ่งนี้เย็น ๆ ผมถึงจะกลับ” .

“ไปดี ๆ แล้วกัน .. พรุ่งนี้ค่อยโทรมาเล่าให้พ่อกับแม่ฟังว่ามันเรื่องอะไร ไปดี ๆ นะช้าง พ่อกับแม่เป็นห่วง”

พอวางสายโยทะกาที่นอนอยู่ข้าง .. ก็ถามทันที

“พี่ยักษ์ พ่อช้างไปไหนค่ะ ..”

“ไปหัวหิน .. ไปกับหลานเอื้อง”

“ไปหัวหิน .. ไปอะไรตอนนี้ค่ะ”

“พี่ก็ไม่รู้ คงต้องพรุ่งนี้แล้วล่ะ .. อย่าเป็นห่วงเลยนะน้องโย .. ลูกมันมีเหตุผลของมัน .. โยก็รู้อยู่ .. ว่าไอ้ช้างมันคิดอะไรกับเอื้อง ..” ชำนาญชลบอกกับโยทะกา นางก็ได้นิ่งและรอว่าพรุ่งนี้พ่อช้างจะโทรมาบอกว่าเมื่อคืนทำวีรกรรมอะไรไว้ .. แต่ตอนนี้โยทะกาได้แต่อมยิ้ม ..

“พี่ยักษ์ค่ะ .. พ่อช้างจะเหมือนพี่ยักษ์ตอนหนุ่ม ๆ ไหม” .. โยทะกาถาม

“ไม่รู้ซิ .. แต่คิดว่าเหมือนนะ .. เพราะถ้าไม่เหมือนมันต้องกลับบ้าน .. แต่นี้เหมือนแป๊ะเลย ..” ชำนาญชลหัวเราะเบา ๆ ก่อนจะล้มตัวลงนอนแต่ก็ยังไม่วายจะเข้าไปโอบกอดโยทะกา..

ยุธิฐีระขับรถอย่างช้าที่สุด กว่าจะถึงหัวหินก็ร่วม ๆ ตีสามบ้านพักริมทะเลหลังน้อย ที่เป็นของขวัญที่ชำนาญชลมอบให้โยทะกา ดังคำสัญญาเมื่อครั้งที่มาฮันนีมูน .. ตอนนี้บ้านหลังนี้ปรากฏรูปร่างขึ้นมา .. ริมทะเล .. บ้านไม้สีขาว สวนรอบ ๆ บ้านเต็มไปด้วย ไม้หอมนานาพรรณที่โยทะกาเลือกเอามาปลูกไว้ .. โดยเฉพาะต้นโยทะกา ..

“เอื้อง .. เอื้องคะ .. ถึงบ้านแล้ว ลงมาเถอะจ๊ะ” ยุธิฐีระกระซิบเบา ๆ ที่ข้างหู .. เอื้องฟ้าที่กำลังค่อย ๆ รู้สึกถึงความมืดรอบตัวทำให้หญิงสาวไม่รู้เลยว่าตอนนี้ตนอยู่ที่ไหน .. แต่พอบอกว่าถึงบ้าน หญิงสาวก็เปิดประตูลงไปอย่างว่าง่าย .. พอสายตาปรับคุ้นชินกับความมืด .. บ้านไม้สีขาวหลังใหญ่ .. เสียงคลื่นกระทบฝั่ง ... “หัวหิน”

“อาช้าง .. นี่มันหัวหินนี่ค่ะ” เอื้องฟ้าตกใจ .. เจ้าหล่อนจำได้แม่นว่าก่อนหน้านี้ เธอกำลังเดินออกมาซื้อข้าวที่ร้านสะดวกซื้อแล้วหลังจากนั้น .. ทุกอย่างรอบตัวก็ดับวูบไป

“ขึ้นบ้านเถอะ .. จะได้พัก .. พรุ่งนี้ตื่นสายก็ได้ .. นะคะ” ยุธิฐีระบอก พร้อม ๆ กับไขประตูรั่วบ้าน ก่อนจะค่อย ๆ จูงร่างบางของเอื้องฟ้าขึ้นไปบนบ้าน ... ประตูบานใหญ่ผลักออก .. ชายหนุ่มเปิดไฟในบ้านให้สว่าง .. ทุกอย่างยังเหมือนเดิมโชคดีที่บ้านเพิ่งจะได้รับความสะอาดไป ..

“ไปเถอะเอื้อง .. ไปนอนพักซะ ..” ยุธิฐีระบอกโดยไม่ได้มองว่าเอื้องฟ้ากำลังยืนเม้มริมฝีบางแน่นจนเป็นเส้นตรง

“แล้ว .. อาช้างละคะ .. ที่หัวหินมีห้องเดียว .” หญิงสาวถาม

“อาก็นอนข้างนอกก็ได้จ๊ะ .. เอื้องไปนอนเถอะไม่ต้องห่วงอา”

“ไม่ให้ห่วงได้ยังไงค่ะ .. อาช้าง .. อาเป็น .... เป็น .. เป็นอาของเอื้องนะคะ” น้ำเสียงที่สะดุดเหมือนหยั่งคิดก่อนจะเอยคำพูดออกมามันทำให้ยุธิฐิระหันหลังกลับมามองร่างบาง

“เอื้องไม่ใช่เด็กแล้วนะคะ ..” ยุธิฐิระมองจ้องลึกลงไปดวงตาคู่สวยสีน้ำตาลเข้มนั้นเหมือนหนึ่งจะสื่อความในใจ .. แต่พอยุธิฐีระยิ่งจ้องมองเอื้องฟ้า .. ตาคู่สวยนั้นกลับก้มลงต่ำมิกล้าสบตาดวงตาสีรัตติกาลของยุธิฐีระ

“ถ้าอาช้าง .. ไม่เข้าไป .. เอื้องก็จะนอนข้างนอก .. อาช้างนอนตรงไหน .. เอื้องก็จะนอนตรงนั้นค่ะ” เอื้องฟ้าบอกเด็ดขาดพร้อม ๆ กับนั่งลงกับพื้น .. ยุธิฐีระพอเห็นหญิงสาวบอกแบบนี้ใจหนึ่งก็ออกจะดีใจ .. แต่อีกใจก็กลัวใจตัวเองเหลือเกิน ..

“เด็กดื้อ อายุเท่าไหร่แล้ว” ชายหนุ่มถาม

“ไม่เด็กแล้ว .. ทำงานแล้ว ..” เอื้องฟ้าเถียง

“แต่สำหรับอา .. เอื้องยังเป็นเด็กเสมอ” ..ยุธิฐิระตอบไปโดยความจริง แต่คนฟังอย่างเอื้องฟ้ากลับสะอึกเล็กน้อย ..

“ถ้าเห็นว่าเอื้องเป็นเด็ก .. ก็อย่ากลัวซิค่ะ ..” ชายหนุ่มนึกหัวเราะอยุ่ในใจ .. จะเล่นอะไร สุดท้ายยุธิฐีระเดินตรงเข้าไปที่ร่างบางก่อนจะอุ้มร่างของเอื้องฟ้าขึ้น ..

“อาช้าง .. ปล่อยเอื้องเถอะคะ .. เอื้องเดินเอง” .. เอื้องฟ้าพยายามดิ้นร้น เพราะตอนนี้ร่างของหญิงสาวแนบชิดอยู่กับอกกว้างของชายหนุ่ม ..

“ถ้าเห็นว่าอาเป็นอา .. ก็อย่ากลัวซิครับ” กี่ปีแล้วที่ยุธิฐิระ ไม่ได้อุ้มหรือใกล้ชิดกับเอื้องฟ้าแบบนี้ .. สองสายตาประสานสบนิ่ง .. จนสุดท้ายเอื้องฟ้าก็ต้องหลบตาสายคู่นั้น .. ดวงตาคู่นี้ใช่อาช้างแน่หรือ..

ยุธิฐีระอุ้มเอื้องฟ้าเดินเข้าไปในห้อง ก่อนจะปล่อยร่างบางลงบนที่เตียงกว้าง .. เอื้องฟ้าตอนนี้นอนนิ่งอยู่บนเตียงยังตกใจไม่หาย .. สายตาเมื่อครู่ที่ยุธิฐิระจ้องมองเธอมัน .. เป็นสายตาที่เรียกร้องอะไรบางอย่าง .. แต่อันใดเล่า

“นอนซะ ..” ชายหนุ่มบอก

“แล้วอาช้างจะไปไหน ..” หญิงสาวถาม

“อาจะไปนอนข้างนอก ..”

“ถ้าอาไป เอื้องจะไปด้วย”

“อาเป็นแค่ผู้ชายหนึ่งเท่านั้นนะเอื้องฟ้า ..” ยุธิฐิระบอก จ้องร่างบางไม่วางตา

“อาบอกเองว่าเอื้องเป็นเด็กในสายตา ก็นอนตรงนี้เถอะค่ะ ... เพราะเอื้องก็คิดว่าอาเป็นอาช้างคนเดิมของเอื้องเหมือนกัน” .. เอื้องฟ้าตอบนิ่ง .. แต่คนที่นิ่งแทบไม่ได้คือยุธิฐิระ .. สุดท้ายชายหนุ่มเลือกที่จะปิดประตูห้องแล้วปิดไฟ เอามุ้งลง ก่อนจะล้มตัวลงนอนข้าง ๆ ร่างบางของเอื้องฟ้า ที่นอนหันหลังให้เขา ... ยุธิฐิระ

พยายามต่อสู้กับความรู้สึกของตัวเองอย่างหนัก ... แต่แล้วความรู้สึกปรารถนามันก็ชนะเหนือสิ่งอื่นใด ... ชายหนุ่มเลือกที่กระเถิบเข้าใกล้ร่างบางก่อนจะโอบกอดกระชับร่างนั้นเข้ามาใกล้ ... เอื้องฟ้านั้นก็อิ่มเอมใจไม่น้อย .. เธอไม่หลับเลยตั้งแต่ออกมาจากโรงพยาบาล หญิงสาวรับรู้ทุกการกระทำของของชายหนุ่ม .. รวมทั้งรสสัมผัสข้างแก้มที่ละมุนละไมนั้น ... มันยังซ่านซับอยู่ในดวงหทัย ... แต่อ้อมกอดในยามนี้คือ อ้อมกอดในฐานะไหนกัน ..

ตัวยุธิฐิระเอง ก็ปั่นป่วนไม่น้อย .. การที่เขากอดเอื้องฟ้า ..เวลานี้ .. เขากอดเธอในฐานะอะไร .. แล้วเมื่อไหร่เขาจะรู้ใจของเธอ .. ใจสองดวงที่ตรงกัน แต่ทำไมกลับเหมือนมีม่านบาง ๆ บังใจไว้ ....

เสียงคลื่นที่กระทบฝั่งดัง ซาด ซ่า ... สายลมที่โบกโบยต้องกระดิ่งที่ผูกติดไว้ที่หน้าต่าง .. ดังกรุ๋งกริ๋ง ๆ หวานเสนาะ .. พระอาทิตย์ค่อย ๆ โผล่พ้นขอบฟ้าขึ้นมาอย่างเชื่องช้า .. สองร่างยังนอนซุกอุ่นไอกันอยู่ .. โดยเฉพาะกับเอื้องฟ้า ..

หญิงสาวตื่นนอนตั้งแต่หกโมงเช้า .. ลมอ่อน ๆ ยามเช้าพัดเข้าในในห้องต้องผ้าบางของมุ้งสีขาว .. พัดพริ้ว.. เอื้องฟ้ายังซบอยู่กับอกอุ่นนั้น ..ไม่อยากจะผละออกเลย .. ยิ่งนับวัน ยุธิฐิระกับเธอ ยิ่งเหมือนจะห่างกัน ..เวลาที่จะได้อยู่ด้วยกันน้อยเต็มที ..

“อาช้าง .. อาคิดยังไงกับเอื้องกันแน่ ..” หญิงสาวกระซิบถามเบา ๆ ที่ข้างหูของชายหนุ่มที่ยังคงนอนหลับตา มือน้อยลูบไล้ใบหน้าคมคาย .. แผ่วเบา ใบหน้าคมคายนี้ที่คุ้นชินมาตั้งแต่วัยเยาว์ .. จนกระทั่งเริ่มเติบโตก็ยังมีดวงหน้านี้ติดตามมาตลอดเวลา .. จะให้พูดตามตรง .. เอื้องฟ้าหลงรักยุธิฐิระมาตั้งแต่เด็ก .. และคิดในใจเสมอว่า .. เธออยากเป็นเจ้าสาวของยุธิฐิระ .. แต่หญิงสาวก็รู้อยู่แก่ใจเหมือนกันว่า .. มันคงเป็นไปไม่ได้ เพราะอาช้าง ไม่เคยมองเธอเป็นอย่างอื่นเลย ..

“เฝ้าสงวนตัว เพื่อให้เธอคนเดียว ไม่แลเหลียวห่วงใยใครเลย” .. เอื้องฟ้าพูดลอย ๆ แผ่วเบา... ก่อนจะก้มลงหอมแก้มของยุธิฐิระที่นอนอยู่ แต่ไม่ได้หลับ.. ได้ยินทุกสิ่งที่เอื้องฟ้าบอก .. แจ่มชัด และลึกซึ้งอย่างที่สุด ..

เอื้องฟ้าค่อย ๆ ลุกอย่างจากเตียงช้า ๆ เหมือนกลัวว่ายุธิฐิระตื่น .. ร่างบางยืนมองท้องทะเลยามเช้าบนระเบียง .. สายลมที่โบกโพยพัดพริ้วแตะต้องสัมผัสกระโปรงสีฟ้าพัดสะบัดกระจาย .. สองสายตาที่ทอดมองไกลออกมา โดยไม่รู้เลยว่าคนที่นอนอยู่บนเตียง .. รับรู้ถึงความรู้สึกของหญิงสาวทุกอย่าง .. ยุธิฐิระยิ้มบาง ๆ อย่างน้อยเขาก็ไม่ได้รักเอื้องฟ้าข้างเดียว

สายมากแล้วยุธิฐิระยังไม่ลุกออกจากเตียงสักที .. เอื้องฟ้า ที่ออกไปตลาดเตรียมทำอาหารเช้าไว้ รู้สึกแปลกใจที่ทำไมสายป่านนี้แล้วอาช้างถึงไม่ยอมออกมาจากห้องสักที .. เอื้องฟ้าเข้าไปดูชายหนุ่มในห้องที่ยังนอนหลับอยู่บนเตียง .. เอื้องฟ้าตลบชายมุ้งขึ้นไปข้างบน .. เสียงกระดิ่งยังดังกรุ๋งกริ๊งแว่วเสนาะ .. ร่างใหญ่นอนสงบนิ่ง ...

“อาช้าง .. อาช้างค่ะ .. สายแล้วตื่นได้แล้วค่ะ ..” เอื้องฟ้าสะกิดร่างใหญ่ที่นอนสงบนิ่งไม่ไหวติง .. จากที่สะกิดแล้วไม่ตื่น คราวนี้เอื้องฟ้าใช้สองมือผลักร่างใหญ่ .. แต่อาช้างก็ไม่มีทีท่าจะตื่น .. คราวนี้หญิงสาวชักใจไม่ดี .. สองมือค่อยจับชีพจรที่ข้อมือใหญ่ .. ชีพจรก็ยังเต้น .. แล้วทำไมไม่ตื่น .. ร่างบางค่อย ๆ แนบหูตะแคงฟังเสียงหัวใจบนอกกว้าง ...

“ก็ยังเต้น .. อาช้างเป็นอะไร” ร่างบางที่ตะแคงซบดวงหน้านวลบนอกอุ่น ..ไม่รู้เลยว่าชายหนุ่มค่อย ๆ ยกมือเพื่อจะโอบกอดร่างบางนั้นไว้ .. กว่าเอื้องฟ้าจะรู้ตัวก็โดนยุธิฐิระกอดไว้แนบอกเสียแล้ว ..

“อาช้าง .. เป็นอะไร ปล่อยเอื้อง เถอะค่ะ” .. หญิงสาวพยายามดิ้นขลุก ๆ อยู่ในอ้อมอกอุ่นนั้น .. ยุธิฐิระก็เหมือนยิ่งว่า เหมือนยิ่งยุ .. แทนที่จะปล่อยกลับโน้นร่างบางก่อนจะพลิกตัวให้เขาขึ้นอยู่ด้านบน .. สายตาคมเข้มสีรัตติกาล มองดวงหน้านวลละมุน

“เมื่อเช้าพูดอะไร .คะเอื้อง” ยุธิฐิระถาม สองมือลูบไล้นวลหน้าละมุนอย่างสนิทเสน่หายิ่ง แถมสายตาที่ส่งประกายมันทำหญิงสาวแทบจะละลายอยู่ตรงนั้น

“พูดอะไร .. ค่ะ ..อาช้างปล่อยเอื้องเถอะนะคะ ..” เอื้องฟ้าพยายามผลักอกของยุธิฐิระให้ออกห่าง เอื้องฟ้าตอนนี้ไม่กล้าสบตากับยุธิฐิระเลย ได้แต่เบือนหน้ามองไปทางหน้าต่าง ..

“เอื้องมองตาอา .. เมื่อเช้าเอื้องพูดอะไร ..” มือใหญ่เชยคางมนให้กลับมาสบตานิ่ง ..

“เอื้องไม่พูดอะไรสักคำ .. ตื่นแล้วก็ออกไปตลาด .. เอื้องทำแซนวิสผักโขมที่อาช้างชอบไว้ .ลงไปทานเถอะคะ .. เย็นแล้วจะไม่อร่อย” .. หญิงสาวพยายามเบี่ยงเบนประเด็น และพยายามฝื่นตัวให้หลุดจากวงแขนใหญ่นั้นให้ได้ แต่ไม่สำเร็จ

“เดี่ยวนี้หัดโกหกอาเหรอเอื้อง .. พูดแล้วยังจะว่าไม่พูด .. แล้วทำอะไรอา ..”

คราวนี้เอื้องฟ้าถึงกับตกใจ .. นี่เท่ากับว่า เมื่อเช้า ยุธิฐิระไม่ได้หลับแต่รู้ทุกอย่างที่หญิงสาวพูด และกระทำลงไป “ถ้าไม่พูด .. อาจะพูดเอง .. เอื้องรักอาใช่ไหมคะ”
“อาช้าง ..” เอื้องฟ้าถึงกับตัวชา .. หน้าแดงซ่าน เลือดสาวมันร้อนวิ่งพล่านไปทั่วร่าง .. ยุธิฐิระพูดตรงเสียขนาดนี้ ..

“ใช่ไหมคะ ..” ยุธิฐิระถาม แต่คราวนี้ริมฝีปากอุ่นกลับประกบลงแนบชิดกับริมฝีบางอิ่ม .. สองมือใหญ่จากที่เคยโอบกอดกระชับแน่น .. “รักอาใช่ไหมค่ะ เอื้องบอกซิ .. บอกอา” ยุธิฐิระถามทั้ง ๆ ที่ยังดูดดื่มอยู่กับริมฝีปากละมุมที่เอื้องฟ้าเต็มใจที่จะให้ยุธิฐิได้ลิ้มรสหวานล้ำ ..

สองมือจากที่เคยโอบกอดร่างบาง กลับพยายามรุกเร้าหนัก ... จนเอื้องฟ้าไม่สามารถจะต้านทานอารมณ์และความรู้สึกเสน่หาได้อีกต่อไป ... แต่ทำไมเธอต้องเป็นคนบอกก่อนด้วยเล่า ..

“อาค่ะ .. อาช้าง ปล่อยเอื้องก่อน” .. น้ำเสียงหอบกระเซ้า หายใจจนตัวโยน ทำให้ยุธิฐิระจำต้องหยุดรุกเร้าเรือนกายของเอื้องฟ้า .. “แล้วทีเมื่อคืน .. อามาหอมเอื้องก่อน .. ก็เป็นอันหายกันนะคะ” เอื้องฟ้าตอบทั้ง ๆ ที่ไม่ได้มอง

“อะไรกัน .. เอื้องไม่หลับ งั้นเอื้องก็โกหกอา หลายเรื่อง .. อาต้องเอาคืน” .ยุธิฐิระ พยายามจะดูดดื่มกับริมฝีปากละมุมอีกครั้ง แต่เอื้องฟ้าก็หลบทัน .. สองมือใหญ่ก็ยังไม่วายที่ปล่อยร่างบางนั้น แต่กลับโอบกอดแน่กระชับมากยิ่งขึ้น .. “บอกอาซิเอื้อง .. ว่าเอื้องคิดยังไง .. รู้ไหมอาจะอกแตกตายอยู่แล้ว ..” ยุธิฐิระ ก้มลงซุกไซซอกคอขาวของหญิงสาว จนเอื้องฟ้าแทบสำลักความหวานตาย .. “บอกอาซิเอื้อง .. อย่าให้อาต้องคลั่งได้ไหม”

“อา .. หยุดก่อนซิค่ะ ..” เอื้องฟ้าตอบเสียงสั่น .. นั้นแหละยุธิฐิระถึงได้หยุด .. สองสายตาที่ประสบ เหมือนคำตอบโดยไม่ต้องพูดสักคำ ..

“รักอาไหม .. เอื้องฟ้า ..”

“อา .. รักเอื้องบ้างไหมค่ะ” .. เอื้องฟ้าถามตามตรง .. ยุธิฐิระไม่ตอบ แต่กลับจูบที่หน้าผาก และดวงตาทั้งสองอย่างแผ่วเบา ..

“ไม่ใช่แค่รัก .. แต่ผูกพันธ์อย่างที่สุด ..” .. ยุธิฐิระบอกความจริงกับเอื้องฟ้าตามตรง .. จริงตามความรู้สึกของตนไม่ปิดบัง ..

“เอื้อง ก็รักอา .. รักมาตั้งนานแล้ว ..” เอื้องฟ้าตอบ ดวงแดงนวลแดงซ่าน ..ด้วยความเขินสะเทินอายอย่างที่สุด .. ที่ต้องบอกรักในระยะประชิดกันขนาดนี้

“ ทำไมไม่บอก ..”

“ก็ทำไมอาไม่บอกเอื้องละคะ” .. เอื้องฟ้าเถียง

“เดี่ยวนี่เถียงอาเหรอ” .. ยุธิฐิระก้มลงลงสูดดมความหอมของเรือนผมเบา ๆ ก่อนไล่ลงมาข้างแก้มนวล .. ก่อนจะจุมพิตเบา ๆ ที่ริมฝีปากละมุน ... อย่างดูดดื่ม .. เอื้องฟ้าเองก็เพิ่งจะเคยรับรสสัมผัสละมุนล้ำนั้น .. จึงมิอาจจะขัดขื่นอันใด .. ปล่อยให้ชายหนุ่มจูบ ลูบไล้อยู่อย่างนั้น .. แต่สำนึกผิดถูกมันก็ยังพอมี .. เอื้องฟ้าพยายามห้ามปรามยุธิฐิระ ให้หยุด..

“อาช้าง.. ปล่อยเอื้องก่อนเถอะ .. อะไรกันค่ะ .. บอกรักยังไม่ทันไร .. จูบเอา ๆ เอื้องช้ำไปหมดแล้ว อาขา .. ปล่อยเอื้องเถอะนะคะ” .. เสียงหวานบอกเบา ๆ พร้อมกับสองมือที่พยายามผลักร่างใหญ่ให้ออกห่าง .. “รอก่อนได้ไหมค่ะ ..ขอเอื้องเรียนจบปริญญาโทก่อนนะคะ” .. เอื้องฟ้าพยายามบอก

“จบปริญญาโท อีกตั้งปีครึ่งเชียว .. อาทนไม่ไหวหรอก .. อาทนมานานแล้วเอื้องจ๋า” .. ชายหนุ่มบอก พร้อมกับจะจูบหญิงสาวอีก .. แต่เอื้องฟ้าก็เอามือน้อยดันไว้ ..

“อาช้าง รอมาได้ตั้งนาน .. รออีกปีครึ่ง .. ทำไมจะรอไม่ได้ .. รอมาตั้งแต่ปริญญาตรี .. อีกแค่ปีครึ่งเอง นะคะ .. สงสารเอื้องเถอะนะคะ” เอื้องฟ้าอ้อนสุดชีวิต .. สุดท้ายยุธิฐิระก็ได้ถอนหายใจ ก่อนจะปล่อยร่างบางให้เป็นอิสระ ..

ยุธิฐิระ เพ่งมองดวงหน้าสวยละมุน ... บทจะง่ายก็แสนง่าย .. แต่ว่าเขาจะทนอดใจไม่รุ่มร่ามกับเอื้องฟ้าได้แค่ไหน .. อีกตั้งปีครึ่ง .. เอื้องฟ้าตอนนี้พอเป็นอิสระก็ตั้งท่าจะวิ่งหนี ...

“เอื้อง .. จะไปไหนละค่ะ” .. ยุธิฐิระคว้าข้อมือน้อยไว้ ..

“ก็ลงไปข้างล่างเอาแซนวิสให้อาช้างกิน” .. เอื้องฟ้าบอกพร้อม ๆ กับส่งยิ้มหวาน ๆ ให้

“รู้ใจอาทุกอย่างเลยนะค่ะ” ..ยุธิฐิระบอก

“อาช้างค่ะ .. เอื้องรักอาช้างด้วยใจบริสุทธิ์นะคะ .. แต่อาช้าง รักเอื้องแบบไหน .. คิดให้ดีก่อน .. ถ้าวันใดที่อาช้างเจอคนที่ดีกว่าเอื้อง .. อาจะเดินออกจากชีวิตของเอื้องไหม ..” หญิงสาวถามน้ำเสียงเรียบสนิท แต่จริงจังอย่างที่สุด

“เอื้องฟ้า .. เอื้องโตมากับอา .. เอื้องไม่รู้นิสัยอาเลยหรือ .. ถ้าอาเอ้ยปากว่ารัก .. ก็คืออารัก ..” .. ชายหนุ่มตอบ ร่างบางตอนนี้โอบกอดร่างใหญ่ พร้อมกับซกหน้าแนบชิดกับอกกว้างนั้นอย่างรักใคร่ ..

“ขอให้อาจำคำพูดนี้ไว้นะคะ ..” หญิงสาวบอกก่อนจะผละออก แต่ยุธิฐิระก็ยังไม่ปล่อยเอื้องฟ้า ..

“ขอให้เอื้องจำคำของอาไว้เช่นกัน ..”

หญิงสาวยิ้มหวานให้ ก่อนจะผละออกจากห้องไป เอื้องฟ้าระหว่างที่เดินลงจากบ้านไปก็อมยิ้มไป .. ส่วนยุธิฐิระไม่ต้องพูดถึง .. เขาดีใจอย่างที่สุด .. แต่ทว่าอีกตั้งปีครึ่ง .. นั้นแหละคือสิ่งที่เขาแทบจะรอไม่ไหว... แบบนี้เขาควรจะทำอย่างไรดี ..



มาลัยห่วงรัก
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 20 ต.ค. 2554, 19:19:16 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 20 ต.ค. 2554, 19:19:16 น.

จำนวนการเข้าชม : 2247





<< 5 หนุ่มแห่งเสถียรนาวิน   ทีใคร .. ทีมัน >>
มาลัยห่วงรัก 20 ต.ค. 2554, 19:21:33 น.
สวัสดีค่ะ .. ใครที่เมมต์ไว้ในตอนก่อน ห่วงรักไปตอบให้แล้วนะคะ ยินดีที่ได้รู้จักเพื่อนใหม่ทุกคน .. วันนี้มาตามกันต่อเลยนะคะว่า ดูซิว่า พี่ช้างของห่วงรักจะเป็นยังไง ยินดีรับฟังทุกความคิดเห็นเช่นเดิมนะคะ ... ขอบคุณค่ะ


เพชร 20 ต.ค. 2554, 21:30:05 น.
เป็นกำลังใจให้เสมอค้า
อาช้างน่าร้ากกก


ปอแก้ว 20 ต.ค. 2554, 23:47:42 น.
ตามมาอ่านจ้า อาช้างน่ารักง่าาา :")
ปล. ตอนที่แล้วมันตอนที่ 4 ใช่มั้ยคะ แล้วทำไมตอนนี้ถึงเป็นตอนที่ 6 อ่ะคะ คุณห่วงรักพิมพ์ผิดรึเปล่าคะ


silverraindrop 21 ต.ค. 2554, 17:07:48 น.
เพิ่งเข้ามาอ่าน .... เป็นกำลังใจให้นะคะ


หนอนฮับ 22 ต.ค. 2554, 21:10:52 น.
กรี๊ดดด เปิดเทอมคราวนี้ เจอพี่มาลัยที่เว็บเลิฟ กรีี๊ดดด หนอนเองคะ เฮ้อ เว็บเก่าเข้าไปอ่านได้อย่างเดียวแต่เม้นไม่ได้คะ เพราะจำรหัสไม่ได้ ดีใจที่พี่อัพนิยายที่นี่ด้วย อิอิ


มาลัยห่วงรัก 23 ต.ค. 2554, 20:48:22 น.
สวัสดีจ้า คุณเพชร คุณปอแล้ว คุณsilverraindrop และน้องหนอนฮับ .. นึกว่าหายไปไหนมาอยู่บ้านหลังใหม่นี่เอง พี่ก็ดีใจที่ได้เจอน้องอีกครั้งนะคะ .. มาตามกันต่อเลยดีกว่านะคะ ขอบคุณทุกคอมเมนต์นะคะเป็นกำลังใจห่วงรักจริง ๆ เลย


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account