ทะเลร้อนซ่อนสิเน่หา
เพียงแรกพบสบตา...เขา...คเชนทร์ อัครา นายหัวแห่งเกาะยาตราก็เกิดอาการอยากจะเก็บนางฟ้าหน้าหวานปานจะหยดคนนั้นกลับไปใส่กรงทองเป็นสมบัติส่วนตัวของตัวเองเสียแล้ว แต่จะทำยังไงเมื่อสาวเจ้าไม่ยอมเล่นด้วยเพราะเขาเผลอไปทำตัวให้เธอเกลียดขี้หน้าเข้า งานนี้จากนายหัวหนุ่มผู้เคร่งขรึมจีบสาวไม่เป็น ก็ถึงกับต้องลงทุนงัดทุกกระบวนความมาต้อนสาวหน้าหวานให้ยอมรับรักเขาให้จงได้

เธอ...น่ารัก สาวนักออกแบบที่เดินทางไปพักผ่อนสมองที่บ้านเกิดเพื่อนรัก แต่ครั้งแรกที่พบเจอหนุ่มโหดหน้าตาอย่างกับมหาโจรที่ร่วมเดินทางไปบนรถทัวร์คันเดียวกัน เขาก็จาบจ้วงถึงเนื้อถึงตัวเธอเสียแล้ว ซ้ำยังตามติดเดี๋ยวกอดเดี๋ยวหอมจนเธอผวา ยิ่งเมื่อมารู้ว่าเขาเป็นคนเดียวกับพี่ชายเพื่อนรักที่เคยปฏิเสธอย่างไร้มารยาทห้ามให้เธอไปวุ่นวายที่เกาะยาตราสุดรักสุดหวงของเขา เธอก็นึกไม่ชอบขี้หน้าเขามากขึ้นไปอีก

แต่ยิ่งไม่ชอบเขาก็ยิ่งตื้อ ยิ่งปฏิเสธเขาก็ยิ่งรุก จนใจน้อย ๆ ที่เคยหนักแน่นเริ่มสั่นไหว แล้วสุดท้ายน่ารักจะทำอย่างไรเมื่อถูกมหาโจรหน้าหล่ออย่างคเชนทร์รุกหนักจนหัวใจปลิวหายไปอยู่ในมือเขาในที่สุด
(รอตีพิมพ์กับ สนพ.แสนรัก ในเครือไลต์ ออฟ เลิฟ ค่ะ)
Tags: ผู้แต่งยังไม่ได้กำหนด tags ของนิยายเรื่องนี้

ตอน: ตอนที่ ...หวั่นไหว 2..(100%)



บทที่ 9...หวั่นไหว 2



หลังจากที่ได้รู้ว่าคเชนทร์ต้องการให้เธอออกแบบเรือนหอของเขาและภรรยาในอนาคตให้ น่ารักที่ไม่เข้าใจว่าตัวเองกำลังเกิดอาการแปลก ๆ อะไรกันแน่ก็ได้แต่เงียบ ทำเพียงแค่นำสมุดวาดภาพขึ้นมาร่างแบบสถานที่ เพื่อนำไปประกอบการออกแบบเรือนหอให้เขา



คเชนทร์นั้นรู้สึกงงกับท่าทีที่เงียบไปของนางฟ้าหน้าหวานของตน แต่ก็ไม่ได้เซ้าซี้หรือซักถามอะไรต่อ เพราะคิดว่าคงจะเป็นอารมณ์ของศิลปินเวลาที่กำลังจริงจังเรื่องงาน เขาได้แต่มองตามมือเล็ก ๆ ขาวผ่องที่ลากดินสอวาดภาพลงบนสมุดวาดเล่มใหญ่อย่างเงียบ ๆ และเมื่อเสร็จน่ารักก็บอกให้เขาพาไปยังจุดที่ต้องการสร้างบ้านรังนก คเชนทร์ก็ทำตามอย่างว่าง่าย



จนกลับมาถึงบ้านแล้วนายหัวหนุ่มก็ยังไม่หายงง ได้แต่ยืนมองประตูห้องนอนของสาวเจ้าที่ปิดดังปัง หลังจากที่พากันกลับมาถึงบ้าน มีเพียงคำพูดขอบคุณสั้น ๆ ไม่มีแม้แต่รอยยิ้ม พอถามว่าไม่ทานอาหารเย็นหรือ เสียงหวานแต่ติดจะห้วนก็ตะโกนตอบกลับมาว่าเหนื่อยขออาบน้ำนอนเลย ไม่รับอาหารเย็นเพราะอิ่มมาตั้งแต่บ่ายแล้ว



เขาก็เพิ่งได้ยินนั่นแหละว่าคนเรามันจะอิ่มมาตั้งแต่บ่ายยันทุ่มกว่าได้ โดยเฉพาะนางฟ้าของเขาที่กินข้าวกลางวันไปแค่นิดเดียวเพราะมัวแต่ตื่นตาตื่นใจกับสิ่งรอบตัว แต่ก็ไม่อยากเซ้าซี้มากเดี๋ยวจะพาลถูกเกลียดขี้หน้าไปมากกว่านี้ ทำได้เพียงแต่เก็บอาหารไว้ในตู้เย็นแล้วส่งข้อความบอกนางฟ้าหน้าหวานที่อารมณ์แปรปรวนทางโทรศัพท์เท่านั้น





แต่ตอนนี้นายหัวหนุ่มก็เริ่มจะทนทำใจเย็นอีกไม่ไหวแล้ว เพราะผ่านไปแล้วคืนหนึ่งตื่นเช้ามาน่ารักก็ยังทำหน้าเรียบเฉยไม่มีรอยยิ้มให้เขาสักนิด



“คุณเป็นอะไรหรือเปล่าน่ารัก ไม่พอใจอะไรผมหรือเปล่าถึงได้ทำหน้าบึ้งใส่ผมอย่างนี้น่ะ”



ก็รู้ว่าตั้งแต่แรกแล้วที่น่ารักไม่ได้ชอบหน้าเขานัก แต่เธอก็ไม่ได้ทำหน้าบึ้งตึงชัดเจนขนาดนี้นี่นา อย่างมากจะพูดจิกกัด ส่งค้อนสะบัดหน้าหนีเสียมากกว่า เพราะฉะนั้นครั้งนี้มันต้องมีสาเหตุอะไรสักอย่างสิน่า คนที่เฝ้าคิดมาตลอดคืนจ้องมองใบหน้าหวานเขม็ง เหมือนกับว่าถ้าเขาไม่ได้คำตอบก็อย่าหวังว่าเธอจะไปไหนได้



“ก็...เปล่านี่คะ” น่ารักบอกเสียงเบา เมื่อคืนนี้ทั้งคืนเธอก็นอนคิดแล้วคิดอีกว่าตัวเองเป็นอะไร ก็ไม่ได้คำตอบได้แต่บอกตัวเองไปว่าตื่นเช้ามาคงจะอารมณ์ดีขึ้น แต่ที่ไหนได้พอเห็นหน้าเขาความรู้สึกไม่พอใจจากคำพูดของเขาเมื่อวานก็พุ่งเข้าหาอีก



“คือ ฉันคงจะคิดมากเรื่องงานด้วยน่ะค่ะ ฉันเคยบอกคุณแล้วว่าฉันมาพักผ่อนที่นี่เพราะคิดงานไม่ออก สมองไม่แล่น” หาข้อแก้ตัวให้ตัวเองเมื่อคิดว่ามันไม่มีเหตุผลเอาเสียเลยที่อยู่ ๆ เธอจะมาอารมณ์เสียทำหน้าบึ้งตึงใส่เขา ทั้ง ๆ ที่เขาก็ไม่ได้ทำอะไร



ก็แค่เขาบอกว่าจะสร้างเรือนหอเท่านั้นเอง



คเชนทร์เมื่อได้ฟังเหตุผลก็ถอนหายใจอย่างโล่งอก เมื่อได้ยินว่าสาเหตุของอาการหน้าบึ้งไม่ใช่เขา



“งั้นผมก็ต้องขอโทษคุณด้วย ผมเองก็ลืมไปว่าคุณมาพักผ่อน เรื่องออกแบบบ้านพักกับบ้านรังนกให้ผมน่ะคุณไม่ต้องรีบร้อนหรอก ถ้ามีเวลาเมื่อไหร่ค่อยทำก็ได้ ผมไม่ได้รีบอะไร ส่วนเรื่องงานของคุณ สองสามวันนี้คุณอย่าเพิ่งไปคิดถึงมันเลย ปล่อยทิ้งมันไปก่อน พักผ่อนให้สบายใจแล้วผมเชื่อว่าคุณต้องทำได้ ไปเถอะไปกินข้าวกันจะได้ไปดูเขาเก็บรังนก” น้ำเสียงของคเชนทร์เต็มไปด้วยความอ่อนโยน เช่นเดียวกับแววตาอบอุ่นที่มองอย่างให้กำลังใจ



คเชนทร์จูงมือบางให้เดินไปที่โต๊ะทานอาหาร เลื่อนเก้าอี้ให้ แล้วคอยบริการตักอาหารและชวนคุย และครั้งนี้น่ารักก็คุยกับเขาอย่างไม่มีอคติหรือความหมั่นไส้



“ถามหน่อยได้ไหมคะ” น่ารักเอ่ยขึ้นเมื่อรวบช้อนวางไว้หลังจากรู้สึกอิ่ม และเมื่อคเชนทร์พยักหน้า รอฟัง ก็พูดต่อ “ทำไมตอนแรกคุณถึงได้พูดจาไร้มารยาทแบบนั้น”



“ตอนไหน ?” พลางคิดว่าเขาไปพูดอะไรไร้มารยาทกับเธอเมื่อไหร่...เพราะมันก็หลายครั้งอยู่



“ก็ตอนที่ฉันคุยโทรศัพท์กับยัยภัทรนั่นไง ที่คุณตะโกนมาให้ได้ยินว่าไม่ต้อนรับฉันน่ะ” เสียงสะบัดนิด ๆเมื่อความรู้สึกไม่พอใจในตอนนี้กลับเข้ามา “ทำไมถึงได้หวงขนาดนั้น ฉันแค่อยากจะมาขอพักผ่อนไม่กี่วันเท่านั้นเอง”



“ไม่ได้ตะโกน ก็แค่พูดเสียงปกติ” คเชนทร์แก้ต่างให้ตัวเองก่อนจะอธิบายต่อ “บอกตรง ๆ ว่าเพราะคุณเป็นผู้หญิง ผมไม่ค่อยชอบให้ผู้หญิงมาวุ่นวายที่นี่ แต่ปกติแล้วเกาะยาตราก็ไม่ต้อนรับคนนอกจริง ๆ นั่นแหละไม่ว่าจะหญิงหรือชาย เราทำสัมปทานรังนกอย่างที่คุณรู้ แต่มันก็มีเรื่องเกี่ยวกับธุรกิจนี้ที่คุณคงไม่รู้อีกมาก ทั้งการขัดผลประโยชน์ การแก่งแย่ง การกลั่นแกล้งกัน ผมในฐานะนายหัวของที่นี่ก็ต้องดูแลป้องกันกิจการและผู้คนของตนเองไว้ก่อน”



มันมีทั้งเรื่องเล็ก ๆ ไปจนถึงร้ายแรงถึงขั้นเลือดตกยางออก หรือแม้กระทั่งถึงชีวิต การปล่อยให้คนนอกเข้ามาวุ่นวายมันก็อาจจะนำมาซึ่งความเดือดร้อนก็เป็นได้ โดยเฉพาะช่วงนี้ที่เขากำลังมีเรื่องกับไอ้พวกโลภมากอย่างไอ้เมฆีกับ สส.สุทัศ



“ตอนนั้นคุณก็บอกกับยัยภัทรให้บอกฉันตรง ๆ ก็ได้นี่นา มาพูดอย่างนั้นให้ได้ยินมันเสียความรู้สึกไม่รู้หรือไง ฉันหรืออุตส่าห์วาดภาพพี่ชายมาดเข้มของยัยภัทรว่าเป็นนายหัวผู้โอบอ้อมอารี ทรงคุณธรรมเหมือนพระเอกหนังเลยนะคุณ แต่ที่ไหนได้...” น่ารักละไว้ให้อีกฝ่ายคิดต่อเอง พลางเหลือบมองด้วยหางตา



คเชนทร์ถึงกับหลุดหัวเราะออกมาเสียงดังกับคำพูดและท่าทางของคนตรงหน้า ลักยิ้มด้านซ้ายที่บุ๋มลึกลงไปเวลาที่ชายหนุ่มหัวเราะส่งให้ใบหน้าคมมีเสน่ห์ชวนมองมากยิ่งขึ้น น่ารักเองก็ไม่มีข้อยกเว้น หญิงสาวมองใบหน้าคมไปพร้อมกับหัวใจที่เต้นระรัว เหม่อมองจนเผลอหลุดพูดจาให้ได้อายออกไป



“ฉัน...ชอบเวลาคุณหัวเราะจัง โดยเฉพาะลักยิ้ม...เอ่อ...” ยกมือขึ้นมาปิดปากไว้ทันทีที่รู้ตัวว่าเผลอพูดอะไรไป “คือ...ฉันหมายถึงว่าฉันอิจฉาที่คุณมีลักยิ้มน่ะ” คำแก้ตัวฟังดูไม่ขึ้นสักนิด โดยเฉพาะเมื่อใบหน้าหวานขึ้นสีระเรื่อด้วยแล้ว



“ผมก็ยังไม่ได้ว่าอะไรสักหน่อย” คเชนทร์ตอบกลับยิ้ม ๆ “แต่จะให้หัวเราะตลอดเวลาพวกลูกน้องคงได้หาว่าผมบ้าแน่ ๆ เอาเป็นว่าผมขอเปลี่ยนเป็นยิ้มแทนได้ไหม” บอกอย่างเอาใจพร้อมกับสาธิตด้วยรอยยิ้มกว้าง



“บ้าสิ ยิ้มบ่อย ๆ ก็บ้าเหมือนกันนั่นแหละ ไปสิกินอิ่มแล้วก็ไปกันได้แล้ว ฉันอยากไปเห็นเขาเก็บรังนกไวไว” เมื่อรับมือกับรอยยิ้มพิฆาตไม่ไหวก็ตั้งท่าจะลุกหนี แต่ข้อมือก็ถูกฉุดเอาไว้เสียก่อน



“ตกลง ตอนนี้เราสองคนเปลี่ยนจากคู่กัดเป็นพันธมิตรกันแล้วนะ งั้นต่อไปจากนี้คุณก็ต้องมอบรอยยิ้มหวาน ๆ ให้ผมได้แล้วนะ” ใจจริงอยากจะบอกว่าเปลี่ยนมาเป็นคู่รักกันดีไหม แต่ก็เอาเถอะ ได้แค่นี้ก็ถือว่าฤกษ์ดีแล้ว ต่อไปค่อยหาทางขยับฐานะเอาก็แล้วกัน



++++++++++



มัน...ให้ความรู้สึกตื่นเต้น ตื่นตาตื่นใจเสียยิ่งกว่าตอนที่ดูสารคดีเสียอีก



ตากลมโตสีดำคู่หวานจ้องมองภาพรังนกนับร้อยที่ติดตามผนังถ้ำอย่างตื่นตา ลักษณะรูปร่างมันเป็นเหมือนเขาควายสีขาว ๆ ขุ่น ๆ บ้าง สีออกเหลืองบ้าง แดงบ้าง ปะปนกันไป น่ารักมองอย่างสนใจกับวิธีการเก็บโดยใช้แผ่นเหล็กขนาดฝ่ามือที่มีด้ามจับเป็นไม้แซะออกมาจากผนังถ้ำ ที่เธอดูแล้วเหมือนตะหลิวหรือคล้าย ๆ ที่คนขายเครปใช้กันนั่นแหละ



“นั่นเรียกว่าอะไรเหรอคะ ที่เขาใช้แคะ ๆ แซะ ๆ รังนกน่ะค่ะ” เอ่ยถามคนที่ยืนข้าง ๆ แต่ตาก็ยังคงจ้องเหล่าคนงานที่นั่งอยู่บนนั่งร้านที่ทำจากไม้ไผ่แน่นหนา ที่กำลังทำหน้าที่กันอย่างขมักเขม้น



“นั่นเขาเรียกว่าเกรียงแซะ[ 2 ] ใช้สำหรับแซะรังนกไม่ใช่แคะ ๆ แซะ ๆ อย่างที่คุณว่า” คเชนทร์ตอบกลับ และเสียงของเขาคงจะเจือความขำทำให้ใบหน้าหวานของนางฟ้าของเขาหันมามองค้อนสะบัดให้เสียวงใหญ่



“ก็คนไม่รู้จักนี่ ถ้ารู้แล้วจะถามหรือไงเล่า” เสียงบ่นอุบอิบมาให้ได้ยิน แต่คเชนทร์ไม่สามารถเห็นได้ว่าใบหน้าหวานนั้นขึ้นสีระเรื่ออย่างที่เป็นทุกครั้งยามเจ้าตัวขัดเขินหรือเปล่า เพราะแสงสว่างภายในถ้ำนั้นมีไม่มากนัก



“ผมก็แค่อธิบายไม่ได้ว่าอะไรคุณเสียหน่อย” เขาก้มลงไปบอกใกล้ ๆ เหมือนกลัวว่าน่ารักจะไม่ได้ยิน พร้อมกับถือโอกาสสูดเอากลิ่นหอมอ่อน ๆ จากร่างบาง “คุณโชคดีนะที่เกาะของเราไม่ได้เก็บรังนกตามฤดูกาล เพราะไม่เช่นนั้นในเดือนมีนาอย่างนี้คุณคงไม่ได้เห็นหรอก” คเชนทร์เปลี่ยนเรื่องกลับมาอธิบายเกี่ยวกับสิ่งที่น่ารักสนใจด้วยน้ำเสียงจริงจังขึ้น



“ทำไมเป็นอย่างนั้นล่ะคะ ทำไมถึงได้เก็บได้บ่อย ๆ กว่าที่อื่นล่ะคะ” เมื่อเขาเปลี่ยนเรื่องพูด ท่าทีของน่ารักก็กระตือรือร้นสนใจขึ้นทันที



“อาจจะเพราะนกบนเกาะของเรามีจำนวนเพิ่มขึ้นทุกปีล่ะมั้ง ความจริงกิจการรังนกนี่ก็เหมือนการเสี่ยงโชคนะคุณ เราไม่มีอะไรรับประกันได้เลยว่าฝูงนกที่มาทำรังบนเกาะให้เราเก็บนั้นจะไม่เปลี่ยนที่อยู่หรืออพยพไปที่อื่นที่ดีกว่าหรือสมบูรณ์กว่า ผมจึงทำให้เหมือนเป็นถ้อยทีถ้อยอาศัยกัน โดยเหลือรังไว้ให้พวกมันประมาณยี่สิบเปอร์เซ็นต์ของทุก ๆ ครั้งที่ทำการเก็บ เพื่อที่พวกมันจะได้มีที่อยู่ พวกที่ไม่มีที่อยู่ก็สร้างรังขึ้นมาใหม่ เป็นวัฏจักรไปแบบนี้เรื่อย ๆ และก็คงเพราะอย่างนี้พวกมันถึงไม่ได้อพยพย้ายหนีไปที่อื่น ทำให้เราสามารถเก็บรังนกได้ทุก ๆ สิบห้าถึงยี่สิบวัน ”



ความจริงตั้งแต่สมัยคุณปู่ของเขาแล้วที่แต่เดิมท่านไม่ได้หวังเอากิจการเก็บรังนกเป็นอาชีพจริงจังอะไร ท่านแค่มาสร้างบ้านพักต่างอากาศสำหรับครอบครัวที่เกาะฝั่งที่เขาอยู่ตอนนี้เท่านั้น เพราะเกาะฝั่งนั้นเป็นของตระกูลอัครามาตั้งแต่สมัยคุณทวดของคุณทวดเสียอีก แต่ไม่นานหลังจากนั้นถึงพบว่ามีฝูงนกนางแอ่นเข้ามาทำรังที่ถ้ำฝั่งท้าย ๆ ของเกาะแฝดที่อยู่ติด ๆ กัน และมีผู้บุกรุกทำตัวเป็นโจรปล้นรังนกเข้ามาก่อกวนข้ามไปถึงฝั่งที่ท่านสร้างบ้านพักอยู่



คุณพ่อของเขาเล่าต่อให้เขาฟังว่า หลายครั้งที่เหตุการณ์รุนแรงถึงกับชีวิต คุณปู่ท่านเลยตัดปัญหาใช้อิทธิพลของตระกูลที่มีรวบเกาะแฝดนั้นมาเป็นหนึ่งเดียวกับเกาะยาตราเสีย แล้วก็ให้ลูกน้องที่อาศัยอยู่บนเกาะเก็บรังนกเพื่อเป็นอาชีพเสริมไปอีกทาง จากที่เก็บได้ปีละสามครั้งตามปกติฤดูกาลของการวางไข่ของนกนางแอ่น ก็เปลี่ยนมาเป็นถี่ขึ้นเรื่อย ๆ เมื่อเวลาล่วงเข้ามาสู่รุ่นของคุณพ่อเขา และเมื่อห้าปีก่อนที่เขาเข้ามาเป็นนายหัวของที่นี่เต็มตัวแทนคุณพ่อ เขาก็ปรับเปลี่ยนวิธีจนสามารถขยายช่วงเวลาได้เป็นทุก ๆ สิบห้าถึงยี่สิบวันในที่สุด



และก็ทำให้เกาะยาตรากลายเป็นเสมือนเกาะทองคำสำหรับผู้คนโลภมากทั้งหลาย ที่เฝ้าเวียนวนใช้ทุกวิถีทางเพื่อให้ได้เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของที่นี่ หรือร้ายสุดก็หวังจะเข้ามาครอบครองแทนตระกูลอัครา ซึ่งเขาไม่มีวันยอมเป็นอันขาด โดยเฉพาะมัน...ไอ้เมฆี



“ฉันอยากจะลองเก็บบ้างจัง” เสียงหวานเป็นพิเศษเปรยขึ้น หร้อมกับดวงตากลมโตที่ฉายประกายดั่งดาวนับล้าน จนคนมองตาพร่า แต่ก็ยังปฏิเสธเสียงแข็ง



“ไม่ได้!! มันอันตราย แล้วคุณเป็นผู้หญิงคนที่นี่เขาถือรู้ไหม ตามจริงแล้วเวลาเก็บรังนกชาวบ้านเขาถือกันว่าไม่ให้ผู้หญิงเข้ามาวุ่นวายด้วยซ้ำ” คเชนทร์อธิบายเพิ่มเมื่อเห็นสีหน้าผิดหวังของนางฟ้าหน้าหวาน ตบท้ายด้วยเสียงทุ้มที่เอ่ยด้วยความเป็นห่วง “มันอันตราย เชื่อผมเถอะ...ผมเป็นห่วง”



ไม่ใช่แค่น้ำเสียงที่เอ่ยด้วยความห่วงใย แต่มือหนาก็เอื้อมไปกุมมือบางบีบกระชับให้รู้ว่าเขาหมายความตามนั้นไม่ได้อยากจะแกล้งเธอผิดหวังแต่อย่างใด



“เข้าใจแล้ว ฉันไม่ใช่คนเข้าใจอะไรอยากสักหน่อย”



น่ารักบอกเสียงเผ่ว พลางค่อย ๆ ดึงมือออกจากการเกาะกุม แต่เขาก็จับเอาไว้แน่นเสียเหลือเกิน ซ้ำยังคลึงวนหัวแม่มือกับหลังมือของเธอเบา ๆ ให้รู้สึกวูบวาบแปลก ๆ เสียอีก หลบสายตาที่ฉายแววแปลก ๆ นั้นเสไปมองให้ความสนใจกับคนงานต่อ



ทำไมเขาถึงได้ขยันทำให้ใจเต้นนักก็ไม่รู้ ก็แล้วเธอเป็นอะไรทำไมถึงได้ไม่กล้าสบสายตาเขากันเล่า น่ารักถกเถียงกับตัวเองในใจอย่างไม่เข้าใจ ความร้อนบนสองแก้มนวลก็ทวีขึ้นอย่างไม่อาจควบคุม



สองหนุ่มสาวยืนมองเหล่าคนงานเกือบสิบภายในถ้ำสลัว ๆ มีเพียงแสงไฟจากไฟฉายที่คนงานสวมไว้ที่ศรีษะเท่านั้นให้ความสว่าง แม้ตาจะมองแต่ความคิดของคนทั้งคู่กลับบินไปคนละทาง น่ารักจมอยู่กับความคิดของตัวเองที่ไม่เข้าใจว่าทำไมเธอถึงได้อ่อนไหว ไม่เป็นตัวของตัวเองเวลาที่อยู่ใกล้ ๆ ร่างสูงข้าง ๆ นี้ทุกครั้ง เวลามองสบสายตาคู่คมปนหวานของเขาทีไร เธอเป็นอันต้องเกิดอาการใจสั่น มือไม้เหมือนจะเกะกะ รู้สึกเงอะงะไปหมด



ส่วนคเชนทร์ เขารู้สึกว่าการมาดูคนงานเก็บรังนกในวันนี้ช่างแตกต่างไปจากทุกครั้ง เขารู้สึกมีความสุขจนแทบทะลัก ยิ่งได้จับมือนุ่ม ๆ แม้เจ้าของจะไม่เต็มใจพยายามจะดึงมือหนีก็ตาม ใบหน้าคมของนายหัวหนุ่มก็เต็มไปด้วยรอยยิ้ม จนเหล่าคนงานที่ยืนอยู่ไม่ไกลสะกิดกันดูยิ้ม ๆ ยิ่งอาลีที่ตามมาภายหลังแล้วหยุดมองอยู่ในมุมสลัวของถ้ำถึงกับยกกำปั้นขึ้นชนกัน คิดในใจว่า



มันต้องอย่างนี้สินายหัว ปากว่ามือถึงแบบนี้แหละ ไม่กี่วันนายหญิงน่ารักต้องอ่อนระทวย ตกลงไปในบ่วงรักของนายหัวอย่างแน่นอน อาลีคอนเฟิร์ม!!





เวลาผ่านไปชั่วโมงกว่าคเชนทร์ก็ชวนน่ารักเดินออกมาข้างนอก เพราะเห็นว่ามือเธอเริ่มเย็นเพราะอากาศในถ้ำชื้นและค่อนข้างเย็น จากนั้นก็พาน่ารักเดินไปตรงชายหาดที่เคยบอกว่าจะสร้างเรือนหอ โดยไม่ลืมถือปิ่นโตที่รินเตรียมไว้ให้มาด้วย



“เดี๋ยวนั่งพักกินข้าวกลางวันกันก่อน แล้วผมจะพาคุณไปดูที่ที่หนึ่ง” เขาบอกเมื่อจัดการปูเสื่อและนำอาหาร เครื่องดื่ม รวมทั้งผลไม้ ออกมาจัดวางเรียบร้อย ก่อนจะพยักหน้าให้น่ารักนั่งลงข้าง ๆ



“ที่ไหนคะ” พลางนั่งลงฝั่งตรงข้าม ทำให้ได้รับสายตาดุจากร่างสูง แต่น่ารักก็ทำเป็นไม่สนใจ แค่นี้เธอก็ใจสั่นมือสั่นจนจะกินข้าวไม่ลงอยู่แล้ว ขืนให้ไปนั่งใกล้ ๆ คงไม่มีแรงถือช้อนตักอาหารกันพอดี



“ถ้าอยากรู้ก็รีบกินข้าว แล้วจะพาไป” เขาไม่ตอบ เพียงแค่ส่งยิ้มพร้อมกับลักยิ้มบุ๋มพิฆาตแล้วเร่งให้เธอกินข้าวโดยมีเขาคอยบริการเหมือนเช่นทุกครั้ง



น่ารักก็ทำได้เพียงก้มหน้าก้มตาทานอาหารไป เขาถามคำเธอก็ตอบคำ โดยที่พยายามเลี่ยงไม่สบสายตาคู่คมปนหวานที่มองมาตลอดเวลานั่น





เมื่อทานอาหารเสร็จแล้วคเชนทร์ก็พาน่ารักเดินกลับไปที่เรือตรงท่าเทียบเรือที่ตอนนี้ก็ยังคงมีชายฉกรรจ์หน้าเหี้ยม แต่มีแววตาเป็นมิตรและให้ความเคารพเธอทุกครั้งยามที่มองมา และไม่ใช่เพียงแค่ตรงท่าเรือเพียงเท่านั้น เธอยังสังเกตุเห็นชายฉกรรจ์ลักษณะเดียวกันนี้อยู่ทั่วตามจุดต่าง ๆ อีกด้วย และเมื่อคเชนทร์ขับเรือออกมาจากท่าได้ไม่ถึงนาทีน่ารักก็เอ่ยถามในสิ่งที่สงสัยมาตั้งแต่เมื่อวานที่มาที่นี่



“ทำไมพวกเขาต้องมายืนเฝ้าที่ท่าเรือด้วยล่ะคะ เกาะฝั่งที่เราอยู่ไม่เห็นมีเลย” ความจริงถ้าจะเฝ้าเกาะอีกฝั่งน่าจะสมควรมีคนเฝ้ามากกว่า เพราะฝั่งนั้นมีทั้งผู้คนและบ้านพัก สิ่งของมีค่ามากมาย



“ป้องกันพวกโจรรังนกน่ะ โจรรังนกก็คือพวกคนที่เข้ามาขโมยรังนกไปขายนั่นแหละ พักหลัง ๆ มานี่เกาะของเราถูกบุกรุกถี่เกิน จนต้องให้มีเวรยามแน่นหนาอย่างที่คุณเห็นนั่นแหละ” คเชนทร์อธิบายคร่าว ๆ ไม่ได้ลงลึกไปถึงรายละเอียดที่คิดว่าน่ารักอาจจะตกใจถ้าหากเขาเล่าให้ฟัง



แต่แค่บอกคร่าว ๆ ใบหน้าหวานก็ยังฉายแววครุ่นคิดกังวล จนเขาต้องเปลี่ยนเรื่องพูดเป็นเรื่องที่ทำให้หัวใจตัวเองชุ่มชื่น



“ผมชอบนะ เวลาที่คุณใช้คำว่า เรา ตอนที่พูดถึงเกาะยาตราน่ะ” จะให้ดีเขาควรจะทำให้เธอเรียกบ้านของเขาว่า บ้านของเรา คเชนทร์ยิ้มกับความคิดของตัวเอง



แต่อีกฝ่ายไม่ยิ้มด้วย น่ารักมองเขาตาขวางที่เขาช่างสรรหาคำพูด วกวนกลับมาเรื่องบ้า ๆ เดิม ๆ ที่ทำให้เธอวางตัวไม่ถูกอยู่เรื่อย



“นี่นายหัวคเชนทร์คะ” เรียกเสียเต็มยศ และพอเขาเลิกคิ้วเหมือนถามว่ามีอะไรครับ น่ารักก็พูดต่อเสียงเขียว “คุณเลิกพูดจาบ้า ๆ แบบนั้นกับฉันสักทีได้ไหม รู้จักกันไม่กี่วันอย่ามาลามปามกันอย่างนี้นะ ถ้าอยากจะทดสอบเสน่ห์ก็ไปทำกับคนอื่นไป เข้าใจนะ ห้ามมาล้อเล่นกับฉันแบบนี้อีก”



ฮึ สร้างเรือนหอจะแต่งงานอยู่รอมร่อแล้วยังมาเที่ยวพูดจาแบบนี้กับคนอื่นอีก



“บ้าอะไรกันล่ะคุณ ผมก็พูดไปตามที่รู้สึก ก็ผมรู้สึกดีที่ได้ยินแบบนั้น แต่จะให้ดีคุณควรจะเรียกบ้านที่เรา อยู่ด้วยกัน ว่าบ้านของเราด้วยนะ” เขายังไม่เลิก ยิ่งเห็นใบหน้าหวาน ๆ ขึ้นสีระเรื่อก็ยิ่งอยากจะเข้าไปพูดใกล้ ๆ ถ้าไม่ติดว่าต้องบังคับเรืออยู่ล่ะก็นะ



“โอเค ๆ ผมไม่ยั่วคุณแล้ว อย่าอารมณ์เสียเลย ดูนั่นสิ สวยหรือเปล่า”



คเชนทร์ยอมหยุด เมื่อบังคับเรืออ้อมมาจนถึงด้านหลังของถ้ำรังนก เมื่อเห็นน่ารักหยุดทำหน้าบึ้งมองภาพตรงหน้าอย่างตื่นตะลึง ก็เริ่มพูดต่อพร้อมกับบังคับเรือเข้าไปจอดด้านหน้าหาดทรายเล็ก ๆ ที่ยาวเข้าไปตรงซอกหินที่ไม่เล็กไม่ใหญ่



“ตอนที่มาคุณเห็นเกาะแฝดด้านหน้ามีรูปร่างคล้าย ๆ วงกลมใช่ไหม แต่ตรงนี้เป็นด้านหลัง และที่เราขับเรือเข้ามานี่ ตรงทางเดินเล็ก ๆ นี่อาจจะเรียกทะเลแหวกก็ได้ ถ้าคุณเห็นว่าตรงนี้สวยแล้วล่ะก็ด้านในสวยยิ่งกว่านี้อีก ลงมาสิเดี๋ยวเราจะเดินเข้าไปด้านในกัน” คเชนทร์กระโดดลงไปยืนบนทรายขาวสะอาด ก่อนจะยื่นมือไปตรงหน้า



น่ารักทำท่าลังเลว่าควรจะยื่นมือออกไปวางบนฝ่ามือหนาตรงหน้าดีหรือเปล่า...ฝ่ามือของ(ว่าที่)สามีคนอื่นเนี่ยนะ แต่ก็ลังเลได้ไม่นานเพราะ(ว่าที่)สามีคนอื่นตามที่เธอคิดเป็นฝ่ายรอไม่ไหวเอื้อมมือมาคว้าข้อมือเล็ก ๆ ของเธอ ออกแรงดึงนิดหน่อย แต่เพียงเท่านั้นร่างบางก็ถลาเข้าสู่อ้อมแขนของคนตัวโตที่ยืนอยู่ด้านล่างเสียแล้ว



“ไปเถอะ เดี๋ยวจะกลับบ้านเย็นเกินไป”



สุภาพบุรุษ ‘ ไม่ ’ ควรฉวยโอกาสนี่นะ คเชนทร์บอกตัวเองในใจแม้ว่าอยากจะโอบกอดร่างนุ่มนิ่มนี่อีกสักพักก็เถอะ แต่ก็กลัวว่าบรรยากาศ ทะเลและแสงแดดที่เป็นใจ จะทำให้เผลอตัวทำอะไรลงไป แล้วคงไม่พ้นถูกนางฟ้าหน้าหวานของเขาเกลียดขี้หน้าเอาอีกเป็นแน่



น่ารักถูกจูงมือพาเดินเข้าไปในซอกหิน ตามหาดทรายขาวละเอียด ไปจนสุดผืนทรายที่ตัดกับสีครามของน้ำทะเล ตากลมโตเบิกกว้างอย่างตกตะลึงอีกครั้งกับความงามที่ธรรมชาติปั้นแต่ง ตรงหน้าของเธอให้ความรู้สึกเหมือนหลุดเข้ามาสู่อีกโลกหนึ่งที่มีเพียงผืนทะเลสีครามทอดยาดไปสุดสายตาตัดกับแสงตะวันเจิดจ้าตรงเส้นขอบฟ้า โขดหินน้อยใหญ่ที่เห็นรายรอบ รวมทั้งหมู่เกาะนับสิบที่อยู่ในครรลองสายตา ทำให้น่ารักไม่อาจถอนสายตาออกจากภาพตรงหน้า



“ชอบหรือเปล่า” เสียงทุ้มที่เหมือนดังมาจากที่ไกลแสนไกลเพราะคนฟังจิตใจล่องลอยไปไกล ทั้ง ๆ ที่คนพูดก็อยู่ใกล้ ๆ แถมยังจับกุมมือเธออยู่ไม่ห่างนั่นเอง



คเชนทร์มองใบหน้าหวานด้านข้างด้วยสายตาฉายแววรักใคร่อย่างปิดไม่มิด ถ้าน่ารักจะหันมามองสักนิด ต่อให้เป็นคนไม่เคยมีความรักอย่างเธอก็คงจะรับรู้ได้ แต่หญิงสาวก็เอาแต่ยิ้มน้อย ๆ มองภาพความงามตรงหน้าอย่างไม่วางตา เช่นเดียวกับสายตาคู่คมปนหวานของนายหัวคเชนทร์เองที่ทอดมองความงามของผู้หญิงข้าง ๆ ไม่วางตาเหมือนกัน



ขนตาหนาเป็นแพนั่นงอนยาวเหมือนกับตุ๊กตาก็ไม่ปาน ปลายจมูกเล็ก ๆ นั้นก็ด้วย มันช่างเชิดรั้นตามนิสัยเข้าของไม่มีผิด เขาอยากจะบีบสักครั้งนักเชียว คเชนทร์คิดอย่างหมั่นเขี้ยว ก่อนจะไล่สายตาลงมาฝีปากจิ้มลิ้มสีเชอรี่ที่ให้รสชาติหวานล้ำจนเขาหลงใหล...ยิ่งมองก็ยิ่งอยาก...จะสัมผัสอีกสักครั้ง



ใบหน้าคมค่อย ๆ โน้มเข้าใปใกล้เรื่อย ๆ อย่างต้องมนต์ เกือบที่ริมฝีปากหยักลึกจะสัมผัสกับแก้มนวลของคนที่ยังคงเหม่อมองไปข้างหน้า เสียงทุ้มก็เรียกชื่อหญิงสาวอย่างอ่อนโยน



“...น่ารัก”



น้ำเสียงนุ่มทุ้มที่ฟังดูอ่อนโยนอ่อนหวานที่ดังใกล้ ๆ พร้อมกับสายลมร้อน ๆ ที่กระทบแก้มนวลทำให้น่ารักหันขวับไปตามเสียง



“อะ อุ๊บ!! ” จากที่จะถามว่าอะไร ก็เปลี่ยนเป็นเสียงอุทาน ก่อนจะเงียบหายไปแทนที่ด้วยอาการตกตะลึงนิ่งค้าง เพราะพอหันไปปุ๊บ ริมฝีปากของเธอก็แนบชิดเข้ากับริมฝีปากของเขาที่เหมือนจะรออยู่แล้ว



คนหนึ่งนิ่งค้างเพราะตกตะลึง แต่อีกคนที่เตรียมรอรับสัมผัสแสนหวานอยู่ก่อนแล้วเลื่อนมือขึ้นประคองสองแก้มนวล ก่อนจะกดริมฝีปากลงไปให้แนบสนิทยิ่งกว่าเดิม คเชนทร์ขบเม้มริมฝีปากบางอย่างยั่วเย้า หยอกล้อให้เธอเปิดรับสัมผัสจากเขา และคนที่อ่อนประสบการณ์อย่างน่ารักน่ะหรือจะทานทนได้นาน ริมฝีปากบางแย้มรับสัมผัสหวาบหวามจากปลายลิ้นร้อนที่แทรกเข้ามาควานหาความหอมหวานจนทั่วโพรงปาก สัมผัสของเขาละมุนละไมอ่อนหวานจนยากที่เธอจะต้านทานปฏิเสธและผลักไส ทำได้แต่เพียงยินยอมตัวอ่อนระทวยอยู่ในอ้อมแขน ให้เขาได้ลิ้มชิมหาความหวานจนกว่าจะพอใจ



-----------------------------------------------------------------------------------------------------

[2] เกรียงแซะ เป็นแผ่นเหล็กเหนียวบางวัดความยาวได้ 10 cm. และกว้างประมาณ 5 cm โดยวิธีการเก็บรังนกนั้นจะใช้น้ำใส่กระบอกฉีดไปที่รังก่อน แล้วจึงใช้เกรียงแซะรังออกมาจากผนังถ้ำหรือจากแผ่นกระดานในกรณีที่เป็นบ้านรังนก จากนั้นจึงเอียงเกรียงแซะให้ทำมุม 45 องศา รังนกก็จะตกลงมาใส่มือผู้เก็บ

+++++++++++++++++++++++++


นางรำก็อัพแล้วค้า >___<



ลัลลดา
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 26 ต.ค. 2554, 17:12:10 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 26 ต.ค. 2554, 17:12:10 น.

จำนวนการเข้าชม : 2424





<< ตอนที่ 8.2...หวั่นไหว 1..(40% หลัง)   ตอนที่ 10 ...อยากบอกให้รู้...ว่ารัก1...(100%) >>
nunoi 26 ต.ค. 2554, 17:51:18 น.
อ้าว นายหัว ไหนว่าสุภาพบุรุษ ไม่ควรฉวยโอกาสไง


anOO 26 ต.ค. 2554, 18:24:02 น.
นายหัวฉวยโอกาสดีๆ ไว้อีกแล้ว
ลองบอกน่ารักไปสิว่าจะสร้างบ้านไว้อยู่กับน่ารัก รับรองน่ารักไม่ยอมออกจากเกาะแน่เลย


nutcha 26 ต.ค. 2554, 20:40:27 น.
น่ารักหลงเสน่ห์ลักยิ้มของนายหัวแย้ว


pseudolife 27 ต.ค. 2554, 00:00:36 น.
น่ารัก^^ รีบแก้ความเข้าใจผิดเรื่องเรือนหอซะนายหัว


หมูอ้วน 27 ต.ค. 2554, 12:54:22 น.
นายหัวน่ารักมาก ๆ เลยค่ะ


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account