ทะเลร้อนซ่อนสิเน่หา
เพียงแรกพบสบตา...เขา...คเชนทร์ อัครา นายหัวแห่งเกาะยาตราก็เกิดอาการอยากจะเก็บนางฟ้าหน้าหวานปานจะหยดคนนั้นกลับไปใส่กรงทองเป็นสมบัติส่วนตัวของตัวเองเสียแล้ว แต่จะทำยังไงเมื่อสาวเจ้าไม่ยอมเล่นด้วยเพราะเขาเผลอไปทำตัวให้เธอเกลียดขี้หน้าเข้า งานนี้จากนายหัวหนุ่มผู้เคร่งขรึมจีบสาวไม่เป็น ก็ถึงกับต้องลงทุนงัดทุกกระบวนความมาต้อนสาวหน้าหวานให้ยอมรับรักเขาให้จงได้

เธอ...น่ารัก สาวนักออกแบบที่เดินทางไปพักผ่อนสมองที่บ้านเกิดเพื่อนรัก แต่ครั้งแรกที่พบเจอหนุ่มโหดหน้าตาอย่างกับมหาโจรที่ร่วมเดินทางไปบนรถทัวร์คันเดียวกัน เขาก็จาบจ้วงถึงเนื้อถึงตัวเธอเสียแล้ว ซ้ำยังตามติดเดี๋ยวกอดเดี๋ยวหอมจนเธอผวา ยิ่งเมื่อมารู้ว่าเขาเป็นคนเดียวกับพี่ชายเพื่อนรักที่เคยปฏิเสธอย่างไร้มารยาทห้ามให้เธอไปวุ่นวายที่เกาะยาตราสุดรักสุดหวงของเขา เธอก็นึกไม่ชอบขี้หน้าเขามากขึ้นไปอีก

แต่ยิ่งไม่ชอบเขาก็ยิ่งตื้อ ยิ่งปฏิเสธเขาก็ยิ่งรุก จนใจน้อย ๆ ที่เคยหนักแน่นเริ่มสั่นไหว แล้วสุดท้ายน่ารักจะทำอย่างไรเมื่อถูกมหาโจรหน้าหล่ออย่างคเชนทร์รุกหนักจนหัวใจปลิวหายไปอยู่ในมือเขาในที่สุด
(รอตีพิมพ์กับ สนพ.แสนรัก ในเครือไลต์ ออฟ เลิฟ ค่ะ)
Tags: ผู้แต่งยังไม่ได้กำหนด tags ของนิยายเรื่องนี้

ตอน: ตอนที่ 10 ...อยากบอกให้รู้...ว่ารัก1...(100%)



บทที่ 10...อยากบอกให้รู้...ว่ารัก1







หลังจากวางสายจากเพื่อนรักแล้วคีตภัทรก็ลุกขึ้นสำรวจความเรียบร้อยหน้ากระจกอีกครั้ง อดจะกังวลนิด ๆ ไม่ได้ที่วันนี้เธอแต่งตัวค่อนข้างเปิดเผยเนื้อตัวมากกว่าทุกครั้ง วันนี้เธอมีนัดทานอาหารกับออสตินเพื่อนสมัยเรียนมหาวิทยาลัย แต่จะเรียกเพื่อนก็ไม่ถูกนัก เพราะครั้งแรกที่ออสตินเข้ามาทำความรู้จักกับเธอ เขาก็พูดชัดเจนเลยว่าเขาสนใจเธออยากจะจีบสานสัมพันธ์ในเชิงคู่รัก ตอนนั้นเขายังเป็นเพียงนักศึกษามหาวิทยาลัยธรรมดา ๆ ที่อาจจะโดดเด่นเรื่อองหน้าตาจึงทำให้เป็นที่รู้จักและได้รับความสนใจจากสาว ๆ แล้วยิ่งตอนนี้ออสตินโด่งดังมากขึ้นเพราะเขาเป็นถึงนายแบบสุดฮอตของวงการที่กำลังจะมีผลงานหนังและละครออกฉายในไม่ช้านี้







เมื่อตอนสามปีก่อนเธอเคยปฏิเสธออสตินไปแล้วครั้งหนึ่งโดยให้เหตุผลว่ามีคนที่ชอบอยู่แล้ว ซึ่งมันก็แค่ข้ออ้างเพราะจริง ๆ แล้วเธอก็แค่ทำตามคำสั่งของปุณณ์เท่านั้น ทั้ง ๆ ที่ก็ไม่รู้ว่าทำไมต้องเชื่อฟังเขาด้วย แต่พอเห็นสายตาคมกริบกับน้ำเสียงกระด้างอย่างที่ไม่เคยได้ยินออกมาจากปากของปุณณ์ เธอก็ไม่มีข้อแม้หรือถกเถียงอะไรได้อีกเลย เพิ่งจะมารู้เมื่อสองปีก่อนนี่เองว่าที่เธอเป็นอย่างนั้นก็เพราะ...เธอรักปุณณ์







แอบรักเพื่อนสนิทของพี่ชาย...แอบรักคนที่เขามองเห็นเธอเป็นเพียงแค่น้องสาวเพื่อนเท่านั้น







แต่ตอนนี้ความหวังที่เคยริบหรี่ของเธอก็เริ่มจะส่องแสงขึ้นมาบ้างแล้ว เพราะช่วงหลัง ๆ มานี่ปุณณ์ทำให้เธอคิดเข้าข้างตัวเองหลายครั้งว่าเขา...มีใจให้







และก็เพราะไม่อยากจะคิดเข้าข้างตัวเองนี่แหละ วันนี้เธอถึงรับนัดออสตินเมื่อเขาโทรมาชวนไปดินเนอร์หลังจากที่มาถ่ายละครที่เกาะพีพีตั้งแต่เมื่อสองวันก่อน...ก็แค่อยากจะยั่วคนแก่ให้แสดงความรู้สึกให้เธอมั่นใจกว่านี้อีกนิด จากนั้นเธอจะรวบรวมความกล้าสารภาพรักกับเขา







ก็ในเมื่อปุณณ์ไม่รุก เธอก็จะขอรุกเอง!!











เมื่อสำรวจความเรียบร้อยจนพอใจแล้ว คีตภัทรก็เดินลงมาที่ห้องรับแขกเพื่อรอเวลาให้ออสตินมารับ แต่พอลงมายังไม่ถึงบันไดขั้นล่างสุด สายตาก็ปะทะเข้ากับร่างสูงของปุณณ์ที่ยังอยู่ในชุดสูททำงานตัวเดิมนั่งพิงโซฟากลางห้องรับแขก สายตาจ้องนิ่งตรงมา







ปุณณ์ลุกขึ้นยืนเต็มความสูงทันทีที่เห็นร่างระหงในชุดราตรีสั้นพอดีเข่าสีครีม เขาเดินตรงเข้าไปหาร่างระหงที่หยุดชะงักยืนนิ่งตรงขั้นบันไดด้วยสายตากรุ่นไอแห่งความไม่พอใจอย่างไม่คิดจะปิดบัง จะไม่ให้เขาไม่พอใจได้ยังไงกัน ก็ดูชุดที่คีตภัทรใส่สิ มันทั้งสั้นถึงจะแค่เข่าก็เถอะแต่มันก็มากเกินไปในสายตาเขาอยู่ดี แล้วยังรัดรูปจนเห็นส่วนเว้าส่วนโค้งทรงนาฬิกาทรายนั่น แต่อะไรก็ไม่เท่าคอเสื้อที่เป็นคล้องคอแบบถ่วงลงมา...จนเห็นร่องอก!!







“พี่...ปุณณ์”คีตภัทรเรียกชื่อคนที่เดินหน้าดุเข้ามาหาเสียงแผ่ว “พี่ปุณณ์มาตั้งแต่เมื่อไหร่คะ แล้วมีธุระอะไรหรือเปล่า” พยายามยิ้มหวานถามออกไปทั้งที่ใจสั่น







แล้วทำไมเธอต้องทำเสียงเหมือนคนทำความผิดด้วย...ไม่รู้ ตอบไม่ได้ รู้แค่ว่า...กลัว







“มาได้สักพักแล้วค่ะ”แม้จะโมโหแต่ปุณณ์ก็ยังคงพูดคะขาอย่างเช่นปกติอยู่ดี “แล้วเดี๋ยวนี้ถ้าไม่มีธุระ พี่มาหาภัทรไม่ได้แล้วเหรอคะ พี่ก็เพิ่งรู้นะ งั้นพี่กลับก็ได้ค่ะ...ท่านรอง”แต่ก็ยังมีแอบน้อยใจปนเปไปกับความไม่พอใจ







“เปล่า ภัทรไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้นซักหน่อย” คีตภัทรผวาคว้าท่อนแขนแกร่งไว้แทบไม่ทัน เมื่อเห็นเขาหันหลังทำท่าจะเดินออกไปทันทีที่พูดจบ “ภัทรขอโทษค่ะ...ภัทรก็แค่ถามเฉย ๆ ก็เมื่อตอนบ่ายพี่ปุณณ์บอกว่ามีนัดทานข้าวกับ...คุณวิกกี้”และนี่ก็เป็นอีกเหตุผลหนึ่งที่ทำให้เธอรับเดตออสติน







เหตุผลหลัก ๆ คือยั่วให้ปุณณ์แสดงความรู้สึก เหตุผลรอ ‘ แต่ร้ายแรง ’คือน้อยใจที่ปุณณ์รับนัดแม่สาวไฮโซหุ่นอึ๋มอย่างวิมาลา







“พี่นัดกับคุณวิกกี้เพื่อคุยเรื่องงานนะคะ เขาติดต่อห้องจัดเลี้ยงของโรงแรม เรื่องนี้พี่แจ้งภัทรแล้วนี่คะ”ปุณณ์หันกลับมาประจันหน้าเหมือนเดิม







ไม่รู้เป็นไง เขาถึงต้องทำเหมือนแก้ต่างให้ตัวเองอย่างนี้ ทั้ง ๆ ที่คีตภัทรก็ไม่ได้มีทีท่าสนใจสักนิด แล้วที่สำคัญเขาก็ยังไม่พอใจเธออยู่...ใช่ ไม่พอใจ แล้วทำไมเขาต้องมายืนพูดแก้ตัวอะไรแบบนี้แทนที่จะถามคีตภัทรให้รู้เรื่องว่าทำไมเธอถึงต้องแต่งตัวยั่วสายตา‘ เขา ’ เสียขนาดนี้







“ไหนภัทรบอกพี่ทีสิคะ ว่าทำไมถึงแต่งตัวแบบนี้ แล้วจะไปไหน ไปกับใคร”เมื่อคิดได้ว่าตัวเองยังไม่พอใจหญิงสาวอยู่ ปุณณ์ก็กลับมาซักเสียงเข้ม...แต่ก็คงไม่น่ากลัวเท่าไหร่สำหรับคีตภัทรเพราะยังคงลงท้ายคะขาเหมือนเดิม







คีตภัทรหลุดยิ้มทันทีที่ได้ยินคำถาม เขาถามเหมือน...คนหึง







“ภัทรมีนัดดินเนอร์กับออสตินค่ะ พอดีออสตินมาถ่ายละครที่เกาะพีพี เสร็จแล้วก็เลยแวะมาหาภัทรที่นี่ นี่เขาก็พักที่โรงแรมของเรานะคะ”ตอบเสียงหวาน พร้อมกับใบหน้าเปื้อนยิ้ม แม้จะเสหันไปมองทางอื่นที่ไม่ใช่ใบหน้าคมตรงหน้า แต่ปลายหางตาก็เห็นได้ว่าปุณณ์นิ่งอึ้งไปทันทีกับคำตอบของเธอ...ดี งั้นขออีกสักนิด







“ตกลงพรุ่งนี้เราเลื่อนไม่ไปเกาะยาตราใช่ไหมคะ งั้นคงไม่มีปัญหาอะไรถ้าภัทรจะรับปากเป็นไกด์พาออสตินทัวร์รอบเมืองกระบี่”ก็พูดไปงั้น ทั้งที่ความจริงแล้วออสตินยังไม่ได้ชวนหรือมีโปรแกรมอะไรต่อจากนี้ทั้งนั้น เขาแค่บอกว่าจะมาพักที่กระบี่สักสองสามวันเท่านั้น







“ปัญหามีแน่ แล้วก็มีตั้งแต่ตอนนี้แล้วด้วย” ตอนนี้ปุณณ์รู้สึกว่าภายในใจเขาเดือดยิ่งกว่าลาวาเสียอีก คำพูดคะขาที่เคยมีนั้นหมดสิ้น มีแต่เสียงเข้ม เครียด และดุดัน “มานี่เลย มาคุยกันให้รู้เรื่อง เอาให้มันจบวันนี้นี่แหละ บ้าเอ้ย” เขาสบถอย่างหัวเสีย บอกตัวเองว่าจะไม่รีรอเวลาอะไรอีกต่อไปแล้ว







เขาต้องเคลียร์ความรู้สึกกับคีตภัทรให้รู้เรื่องตอนนี้ เดี๋ยวนี้!!







หากแต่ปุณณ์ก็ไม่สามารถทำได้อย่างที่คิด เพราะเพียงแค่เขาฉวยข้อมือบางหวังจะลากกลับขึ้นไปชั้นบนเพื่อคุยกัน เสียงทุ้มของใครบางคนก็ดังขึ้นเสียก่อน และพอหันไปเขาก็แทบอยากจะถลาเข้าไปเตะโด่งมันออกไปให้พ้นหน้า...ไอ้นายแบบหน้าขาว ออสติน







“มีอะไรกันเหรอครับ ภัทร”ออสตินนายแบบลูกครึ่งอังกฤษเลิกคิ้วถาม เมื่อเดินเข้ามาเห็นท่าทียื้อยุดของหนุ่มร่างสูงที่เขาจำได้ว่าคอยทำตัวกันท่า ขัดขวางไม่ให้เขาเข้าใกล้คีตภัทรมาตั้งแต่เมื่อสามปีก่อน







ผู้ชายที่...มองตาก็รู้ว่า คิดอะไร ๆ กับคีตภัทรดั่งเช่นที่เขาคิด







“สวัสดีครับ...คุณปุณณ์”ออสตินทักทายปุณณ์ด้วยรอยยิ้มตามแบบฉบับหนุ่มอารมณ์ดีของเขา แม้ว่าอีกฝ่ายจะมองเขาตาขวางก็ตาม “ไม่ได้เจอกันเสียนานเลยนะครับ คุณปุณณ์สบายดีนะครับ เห็นภัทรเล่าให้ฟังว่าช่วงนี้ที่โรงแรมงานยุ่ง คุณปุณณ์เองก็คงยุ่งเหมือนกันสินะครับ”







ปุณณ์ยังคงนิ่ง แต่เหลือบสายตาคมกริบไปมองสาวสวยคมข้างกาย...พูดเหมือนติดต่อพูดคุยกันประจำ นี่คีตภัทรไปแอบให้ความสนิทสนมกับไอ้ลูกครึ่งหน้าขาวนั่นขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน







“ก็คงเหมือน ๆ กับภัทร เพราะ เรา อยู่ด้วยกัน ทำงานด้วยกันเกือบตลอดเวลาก็ต้องมีอะไร ๆ เหมือนกันเป็นธรรมดา”พูดจงใจเน้นความนัยประกาศให้รู้อย่างออกนอกหน้า







ออสตินชะงักนิ่งไปครู่หนึ่งก่อนจะส่งยิ้มหวานให้คีตภัทรแทน ตามมาด้วยเสียงทุ้มอ่อนหวาน







“ผมจองโต๊ะที่คลับไว้แล้ว แต่ต้องขอโทษทีที่ไม่ใช่ที่โรงแรมของภัทรนะครับ พอดีเพื่อนผมเพิ่งจะเปิดคลับใหม่ ก็เลยอยากจะไปอุดหนุนกิจการมันเสียหน่อย ภัทรไม่ว่านะครับ อีกอย่างผมอยากจะเต้นรำกับภัทรสักหน่อย จำได้ว่าภัทรชอบเต้นรำ”ตาสีฟ้าตามเชื้อสายครึ่งหนึ่งในกายมองสบตาคู่คมของชายหนุ่มที่ยืนข้าง ๆ คีตภัทรอย่างเป็นต่อ เมื่อเห็นปุณณ์ตาวาวขึ้นทันทีที่ได้ยินเขาพูดถึงความสนิทสนมที่มีต่อคีตภัทร







“อืม ไม่มีปัญหาจ๊ะ ไปกันเลยดีไหม ออสตินพูดถึงเรื่องเต้นรำแล้วภัทรก็ลืมไปเลยว่าไม่ได้เต้นรำมานานแค่ไหนแล้ว”คีตภัทรจงใจตอบเสียงหวานกว่าปกติ ยั่วให้คนข้าง ๆ เส้นกระตุก แล้วก็จริงเพราะมือหนาที่จับข้อมือเธอไว้นั้นเกร็งแน่น







“เดี๋ยวภัทรไปทานข้าวกับออสตินก่อนนะคะพี่ปุณณ์ เรื่องปัญหาอะไรที่ว่าภัทรขอรวบยอดไว้พรุ่งนี้เลยนะคะ”บอกเสียงใสไม่สนใจสายตาคมที่จ้องหน้าตัวเองเขม็ง ก่อนจะดึงมือออกจากมือหนา แล้วเดินนวยนาดไปหาออสตินที่ยืนยิ้มรออยู่







ปุณณ์อยากจะกระชากแม่น้องน้อยคีตภัทรเข้าหาตัว แล้วเขย่าเสียให้หัวสั่นหัวคลอน วันนี้ดูคีตภัทรจะอารมณ์ดีเสียเหลือเกิน แล้วมันก็ทำให้เขาแทบคลั่งเมื่อคิดว่าที่เธออารมณ์ดีเป็นเพราะไอ้นายแบบหน้าขาวที่เธอกำลังเดินเข้าไปหานั่น







“คงไม่ได้หรอกค่ะ เพราปัญหา ของเรา มันเรื่องใหญ่” แล้วเรื่องอะไรเขาจะยอม ปุณณ์ตะโกนก้องในใจ พลางพาตัวเองเดินลงไปยืนขนาบข้างแม่น้องน้อย “แต่ในเมื่อภัทรมีนัด เราก็ไปทานอาหารกับเพื่อนภัทรก่อนก็ได้ค่ะ เสร็จแล้วค่อยคุยกัน”ยังไงเสียวันนี้เขาก็ตั้งใจว่าจะรุกให้เคลียร์บอกความรู้สึกที่มีกับคีตภัทรให้เรียบร้อยเสียที







และ...เธอต้องตอบรับเท่านั้น!!







“เรา ?พี่ปุณณ์หมายความว่ายังไงคะ” คีตภัทรหันไปถามคนที่มายืนอยู่ข้าง ๆ เสียแนบชิดอย่างไม่เข้าใจนัก นี่คงไม่ใช่ว่าเขาจะไปด้วยหรอกนะ







“ก็ไหน ๆ เพื่อนภัทรเขาก็อยากจะไปอุดหนุนเพื่อนของเขาอยู่แล้วนี่คะ พี่ไปอีกคนร้านเขาจะได้มีรายได้เพิ่มขึ้นไง” ไปคลับ...ฝันไปสิว่าเขาจะยอมให้คีตภัทรไปกับมันสองต่อสอง







“คุณคงไม่มีปัญหาอะไรใช่ไหม เพราะถ้ามีเห็นทีคุณคงต้องไปคนเดียวแล้วล่ะ”พอตอบน้องน้อยเสร็จก็ตวัดสายตาไปมองหน้านายแบบหนุ่มรูปหล่อที่ยืนเงียบอยู่ ก่อนจะถามด้วยน้ำเสียงห้วนสั้นแตกต่างจากที่พูดกับคีตภัทรก่อนหน้านี้อย่างสิ้นเชิง







“ก็...คงต้องตอบว่าไม่มีปัญหาล่ะครับ”ก็เล่นดักไว้เสียอย่างนั้นเขาคงตอบปฏิเสธได้หรอกนะ ออสตินตอบกลับเรียบ ๆ หลังจากอึ้งไปนาน “งั้นก็ไปกันเลยนะครับ ป่านนี้เพื่อนผมคงรออยู่”







“ไปสิ”ปุณณ์ผูกขาดคำตอบแทนสาวน้อยข้างกายเสียเอง ก่อนจะเดินนำออกไปโดยดึงมือคีตภัทรตามออกไปด้วย ทิ้งให้ออสตินถอนหายใจอย่างหงุดหงิดที่มีก้างชิ้นใหญ่ขวางอยู่







มากระบี่ครั้งนี้ออสตินอุตส่าห์หวังไว้ว่าจะพิชิตใจคีตภัทรผู้หญิงที่เขาถูกใจหนักหนาตั้งแต่สมัยเรียนเมื่อสามปีที่แล้วให้ได้ แต่มาเจออย่างนี้คนที่ไม่ได้เตรียมแผนสำรองไว้ล่วงหน้าถึงกับไปไม่เป็นเลยทีเดียว ออสตินได้แต่สบถอย่างหัวเสียก่อนจะเดินตามทั้งสองคนออกไป







++++++++++







ทางด้านน่ารักเมื่อวางสายจากคีตภัทรแล้วก็นั่งบ่นเพื่อนอยู่กลางเตียงกว้าง อุตส่าห์รอเวลาให้ถึงวันเสาร์เร็ว ๆ เพื่อที่จะได้เจอกับคีตภัทร เพราะตอนนี้เธอมีเรื่องคิดไม่ตกอยากจะหาคนปรึกษา และใครที่ว่าก็ไม่มีใครดีไปกว่าคีตภัทรเพื่อนรักของเธออีกแล้ว ที่สำคัญเรื่องที่ทำให้เธอกลุ้มใจจนคิดไม่ตกอยู่นี่ก็เป็นเรื่องของพี่ชายคนเดียวของเพื่อนรักนั่นแหละ







พรุ่งนี้ก็ครบหนึ่งอาทิตย์พอดีที่เธอมาอยู่ที่เกาะยาตรา...อยูร่วมชายคากับนายหัวคเชนทร์ ผู้ชายที่ทำตัวเป็นเสมือนเงาคอยติดตามเธอไปทุกหนทุกแห่ง ผู้ชายที่ทำให้เธอสับสน หวั่นไหว หัวใจเต้นระรัวทุกครั้งที่มองสบตาคู่คมปนหวานของเขา







ตั้งแต่เมื่อวันก่อนที่...คเชนทร์จูบเธอ เธอก็ไม่กล้าที่จะสบสายตากับเขาอีกเลย วันนั้นที่ทะเลแหวกหลังถ้ำรังนกนั่น กว่าเขาจะยอมปล่อยให้เธอได้รับอิสระ เธอก็ตัวอ่อนปวกเปียก ทรงตัวไม่อยู่ ต้องอาศัยอ้อมแขนของเขาโอบประคองไว้ เขาพูดเขาถามอะไรมาเธอก็ได้แต่พยักหน้ากับส่ายหัวอยู่กับอกกว้างของเขาอย่างคนสติไม่อยู่กับเนื้อกับตัวเท่านั้น ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเขาพาขึ้นเรือกลับมาที่บ้านตั้งแต่เมื่อไหร่ รู้ตัวอีกทีก็ต่อเมื่อริมฝีปากร้อน ๆ ของคเชนทร์...ทาบทับลงมาบนกลีบปากของเธออีกครั้ง







หลังจากนั้นคเชนทร์ก็ปล่อยให้เธอสงบสติอารมณ์อยู่ในห้อง จนกระทั่งรินมาเคาะเรียกไปฝึกทำอาหารตามที่นัดกันไว้นั่นแหละเธอถึงได้เจอกับเขาอีกครั้ง แล้วตลอดคอร์สเรียนทำอาหารปักษ์ใต้ของเธอ ก็มีสายตาหวาน ๆ ส่งประกายพราวระยับของคเชนทร์คอยจับจ้องติดตามอยู่ไม่วางตา และกินกับข้าวฝีมือเธอจนเกลี้ยง โดยเฉพาะปลาทอดขมิ้นของโปรดของเขาด้วยแล้ว ถ้ากินก้างได้เธอเชื่อว่าเขาคงกินไปแล้ว







แต่ก็ยังดีที่คเชนทร์ไม่ได้พูดหรือเอ่ยถึง...จูบหวาบหวามนั่นอีก ไม่งั้นเธอคงได้ขังตัวเองอยู่ในห้องไม่กล้าออกไปพบหน้าเขาแน่ ๆ







ทำไมเธอถึงได้ปล่อยใจไปกับเขาได้ขนาดนั้นนะ น่ารักยกมือขึ้นดึงทึ้งผมตัวเองอย่างคิดไม่ตก ว่าอะไรทำให้เธอยินยอมปล่อยให้คเชนทร์ปล้นจูบครั้งแล้วครั้งเล่า







หวั่นไหวไปกับเขา...กับผู้ชายที่กำลังจะแต่งงานเนี่ยนะ











ก๊อกๆ







“น่ารัก นอนหรือยัง?เปิดประตูให้ผมหน่อยสิ น่ารัก”







เสียงเคาะประตูดังขึ้นตามมาด้วยเสียงทุ้มของคนที่กำลังอยู่ในภวังค์ความคิด ทำให้น่ารักถึงกับสะดุ้ง หันขวับไปมองทางประตู หัวใจเต้นระรัวขึ้นมาอย่างไม่มีสาเหตุ



“ฉะ ฉันนอนแล้ว”ปากตอบปฏิเสธออกไปอัตโนมัติเพราะยังไม่อยากจะเจอหน้าคนด้านนอกตอนนี้







“คนนอนที่ไหนจะตะโกนตอบมาได้กันฮึ”เสียงหัวเราะน้อย ๆ ตามมาหลังจากพูดจบ “เปิดประตูให้ผมหน่อย ผมมีเรื่องจะคุยด้วยนิดเดียว ไม่เกินห้านาที เร็วสิ จะให้ตะโกนคุยกันอย่างนี้เดี๋ยวพวกคนงานมาได้ยินเข้าไม่อายเขาเหรอคุณ”







“ก็...ไว้พรุ่งนี้ได้ไหมคะ คือฉัน...”ฉันไม่อยากจะเห็นหน้าคุณตอนนี้นะตาบ้า ตากลมโตถลึงใส่บานประตู แต่เมื่อได้ยินประโยคถัดไปก็ถึงกับลุกพรวดเดินไปเปิดประตูออกอย่างแรง







“โอเค ถ้าคุณไม่ลุกมาเปิดดี ๆ ผมจะเอากุญแจไขเข้าไปเองแล้วนะ แล้วบอกก่อนเลยนะถ้าให้ผมไขเข้าไปเอง ผมคงไม่อยู่คุยแค่ห้านาที แต่จะขอตอนเตียงเดียวกับคุณด้วย เอาไหม...”







“ทำไมถึงได้ชอบล่วงล้ำสิทธิส่วนบุคคลอย่างนี้ฮะ”น่ารักแว๊ดใส่เสียงเขียว นี่ถ้าไม่ติดว่าประตูห้องมีแต่ล๊อคจากลูกบิดไม่มีกลอนล่ะก็ เธอไม่กลัวหรอก







“ล่วงล้ำอะไรกันคุณ ผมยังไม่ได้ ล่วงล้ำ อะไร ๆ คุณเลยสักครั้ง” คเชนทร์ตอบกลับกำกวม พลางพาตัวเองเดินเข้าไปนั่งลงขอบเตียงกลางห้อง “อ้าว มานั่งสิคุณ เป็นเด็กอะไรมายืนค้ำหัวผู้ใหญ่อย่างนั้น”แกล้งถามขึ้นพลางตบที่นอนข้าง ๆ ตัวเบา ๆ เมื่อเห็นว่าเจ้าของห้องยังยืนอยู่ชิดประตู มองมาที่เขาอย่างไม่ไว้ใจ







ทำท่าเหมือนกับเขาเป็นโจรโรคจิตไปได้ เดี๋ยวก็เป็นเสียจริง ๆ เลยนี่ คเชนทร์นึกเข่นเขี้ยวในใจเมื่อเห็นท่าทางระแวดระวังเหมือนกวางน้อยของร่างบางในชุดนอนลายตัวการ์ตูนการ์ฟีล







แต่จะทำไม่ลงก็เพราะชุดนอนลายไอ้แมวอ้วนน่าเกลียดนั่นแหละ







“ไม่ล่ะ คุณมีอะไรก็พูดมาสิ ฉันง่วง” ปฏิเสธเสียงแข็ง ตั้งท่าจะเกาะติดอยู่หน้าประตูห้องนั่นแหละ แต่เมื่อตาคู่คมปนหวานของเขาหรี่มอง ก็เม้มปากอย่างไม่พอใจเดินไปทรุดนั่งตรงเก้าอี้หน้าโต๊ะเครื่องแป้งที่อยู่ตรงมุมห้องแทน







ไม่ได้กลัว...ก็แค่หวั่น ๆ กับสายตาของเขานิดหน่อยเท่านั้นเอง







“พรุ่งนี้ยัยภัทรกับไอ้ปุณณ์ไม่ได้มา คุณรู้แล้วใช่ไหม”







คเชนทร์เริ่มเรื่องที่ใช้เป็นข้ออ้างเพื่อให้ได้เห็นหน้าหวาน ๆ ของคนที่คอยหาทางหลบหน้าหลบตาเขามาสองสามวันนี้ เรื่องที่พูดก็ไม่ได้สำคัญอะไรนักหนาเท่ากับการที่เขาอยากจะเห็นหน้าน่ารัก เพราะรู้จากคีตภัทรแล้วว่าโทรบอกน่ารักแล้ว







“รู้แล้วค่ะ ภัทรโทรมาบอกแล้ว”







“อืม นั่นล่ะ ผมเลยจะเปลี่ยนโปรแกรมของวันพรุ่งนี้ คราวก่อนสัญญากับคุณไว้ว่าจะพาไปว่ายน้ำที่หลังเกาะเพราะวันนั้นเย็นมากแล้วและคุณก็...ดูใจลอย ๆ ” พูดจบแล้วก็ต้องอมยิ้มเมื่อเห็นใบหน้าหวานของน่ารักขึ้นสีระเรื่ออย่างที่คาดเดาเอาไว้“พรุ่งนี้ไปด้วยกันนะ ผมจะสอนคุณดำน้ำด้วย”







พอได้ยินว่าเขาจะสอนดำน้ำน่ารักก็ตื่นเต้นแทบจะตอบตกลงทันที แต่ก็ชะงักนิ่งไปเมื่อนึกขึ้นได้ว่า ถ้าให้เขาเป็นคนสอนดำน้ำก็อาจจะมีการแตะเนื้อต้องตัวกัน แล้ว...มันก็อาจจะเลยเถิดไปเหมือนคราวนั้น ยิ่งบรรยากาศแบบนั้นกับเขาเพียงสองคน







มันอันตรายต่อหัวใจจนเกินไป…







“คือ พรุ่งนี้ฉันคิดไว้ว่าจะทำงานให้เสร็จน่ะค่ะ แล้วก็จะเริ่มลงมือวาดแบบ...เรือนหอของคุณด้วย”เสียงหวานชะงักไปเมื่อเอ่ยคำว่า เรือนหอ เพราะหัวใจคนพูดกระตุก รู้สึกแปลบ ๆ ขึ้นมา







“งั้นเหรอ...”น้ำเสียงของนายหัวหนุ่มดูจะปิดความผิดหวังเอาไว้ไม่มิด อุตส่าห์ดีใจว่าจะได้มีโอกาส...ใกล้ชิดร่างนุ่ม ๆ







“เอาอย่างนั้นก็ได้ เพราะผมก็อยากจะเห็นเรือนหอของตัวเองเต็มทีแล้วเหมือนกัน”พอน่ารักออกแบบเสร็จปุ๊บ เขาก็จะสร้างปั๊บ จากนั้นก็...







“แล้ว...คนรักของคุณเธอไม่มาหาคุณที่นี่เหรอคะ พรุ่งนี้วันหยุดนี่นา” ถามไปก็ใจหายไป เขามีคนรักแล้ว กำลังจะแต่งงาน จำไว้สิน่ารักอย่าได้หวั่นไหวไปกับเขาอีก







“ดึกแล้ว ผมไม่รบกวนคุณแล้วดีกว่า แต่...ถ้าคุณอยากจะให้ผมนอนเป็นเพื่อนผมก็เต็มใจนะ”คเชนทร์เปลี่ยนเรื่องเสียดื้อ ๆ พลางลุกขึ้นยืน เดินไปหาร่างบางที่นั่งอยู่บนเก้าอี้ “คนรักของผม...สักวันผมจะแนะนำให้คุณรู้จัก”เขาทรุดนั่งลงตรงหน้า เอื้อมมือไปไล้กรอบหน้าเล็ก ๆ ของน่ารักเบา ๆ พร้อมกับบอกเสียงนุ่ม







น่ารักเหมือนหัวใจจะหยุดเต้นเมื่อได้ฟังคำพูดของเขา...น้ำเสียงของคเชนทร์ฟังดูอ่อนโยนเหลือเกินยามที่เขาพูดถึงคนรักของตัวเอง แล้วสายตาของเขาก็ทอประกายลึกซึ้ง อ่อนโยนและดูรักใคร่ผู้หญิงคนนั้นเหลือเกิน จนเธอรู้สึก...อิจฉา







“คุณดู...รักเธอคนนั้นมากนะคะ”น่ารักได้ยินเสียงตัวเองถามไปสั่น ๆ







“ผมคิดว่าอย่างนั้น”เวลาอาทิตย์กว่า ๆ สำหรับบางคนอาจจะดูเร็ว แต่สำหรับเขามันเพียงพอแล้วที่จะรู้ใจตัวเองว่า...รักผู้หญิงตัวเล็ก ๆ หน้าหวานราวตุ๊กตาคนนี้







รอก่อนเถอะ ขอให้เขามั่นใจในความรู้สึกของน่ารักมากกว่านี้ มั่นใจว่าเธอก็คิดไม่ต่างไปจากเขา...วันนั้นเขาจะบอกเธอให้รู้ว่าคนที่เขาอยากจะได้มาเป็นคนรัก อยากจะได้มาอยู่เป็นนายหญิงของเกาะยาตรานั้น...ก็คือเธอ







ดวงตาสีดำสนิทสองคู่ต่างมองสบตากันด้วยความรู้สึกที่ไม่ต่างกัน







แต่...ต่างกันที่ความนึกคิดเพียงเท่านั้น ในขณะที่คนหนึ่งคิดมั่นใจแล้วว่าเขามีใจรักมอบให้คนตรงหน้าแน่แท้แล้ว แต่อีกคนกลับคิดไปด้วยหัวใจเจ็บแปลบที่รู้ตัวว่า...เผลอใจไปให้คนมีเจ้าของเสียแล้ว







คเชนทร์จะโน้มใบหน้าเข้าหาใบหน้าหวานซึ้งที่มองเขาด้วยแววตาบางอย่างที่เขาเดาไม่ออก ก่อนจะทาบทับริมฝีปากลงบนกลีบปากสีหวานแผ่วเบาราวสัมผัสจากขนนก เขาทำเพียงเท่านั้นเพียงแค่แตะเบา ๆ แล้วถอยห่าง เพราะกลัวใจตัวเองว่าหากขืนทำอย่างที่หัวใจเรียกร้อง เขาอาจจะไม่สามารถห้ามใจให้หยุดอยู่เพียงแค่จูบได้







“นอนหลับฝันดีครับ...น่ารัก”







คเชนทร์จากไปหลังจากพูดคำพูดหวาน ๆ จากไปพร้อมกับ...เอาหัวใจน้อย ๆ ของนางฟ้าหน้าหวานของเขาติดมือไปด้วย



+++++++++++++++++++++++++++++++++







หายไปหลายวันเลย แหะ ๆ ยุ่งกับงานราษฏ์งานหลวงอยู่ค้า > ___<



นายหัวก็ยังคงหวานๆๆๆ เข้าไป อิอิ



ลัลลดา
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 2 พ.ย. 2554, 16:19:26 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 2 พ.ย. 2554, 16:19:26 น.

จำนวนการเข้าชม : 2476





<< ตอนที่ ...หวั่นไหว 2..(100%)   ตอนที่ 11 ...อยากบอกให้รู้...ว่ารัก 2..(100%) >>
โคลเวอร์ 2 พ.ย. 2554, 18:41:01 น.
เป็นกำลังใจให้ ซำ เหมอ อิ อิ


anOO 2 พ.ย. 2554, 18:44:24 น.
นายหัวอ่ะ ปล่อยให้น่ารักเข้าใจผิดอีกแล้ว
ส่วนยัยภัทร งานนี้ได้หงอยแน่ เอ..หรือว่าจะได้ใจ


nunoi 2 พ.ย. 2554, 18:50:42 น.
รีบบอกรักไปเลยนายปุณณ์


violette 3 พ.ย. 2554, 01:26:08 น.
ลุ้นนนนนน


nutcha 3 พ.ย. 2554, 14:30:08 น.
พี่ปุณณ์ออกอาการขนาดนี้น้องภัทรก็ตีปีกเลยอ่ะดิ


หมูอ้วน 3 พ.ย. 2554, 23:23:41 น.
รอลุ้นทั้งสองคู่เลยค่ะ


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account