ในชุดภารกิจรัก เรื่องราชนาวีที่รัก

Tags: ทหารเรือ นักเขียน

ตอน: 9.แพรวว่าพี่เป็นทหารทั้งชีวิตและจิตวิญญาณนะคะ

9.

หลังจากลงมาดาดฟ้าเรือ แพรวพรรณก็ยืนเลือกสินค้าที่ระลึกที่จัดจำหน่ายโดยทหารเรืออยู่พักใหญ่ โดยผู้การจิรวัตินั้นก็เร่ไปคุยกับคนรู้จัก และพอเลือกซื้อสินค้าเพื่อจะนำไปฝากเพื่อนนักอ่านจนหนำใจแล้ว ผู้การจิรวัติก็เดินมาหาเมื่อเห็นว่าแพรวพรรณกำลังรอรับเงินทอน..

“ข้างนอกฝนตก”

“เอ้า..ทำไงละทีนี้..” ใบหน้าสวยมีริ้วของความปริวิตก

“เดี๋ยวก็หยุด”

“ค่ะ..” ระหว่างที่เขาบอก แพรวพรรณก็มองไปตรงทางออก ซึ่งเป็นช่องทางเดียวกับทางเข้า ซึ่งตอนขาเข้ามา เธอไม่เห็นว่าตรงนั้นมีบอร์ดแปะข้อเขียนระบายความรู้สึกหลังเยี่ยมชมเรือหลวงจักรีนฤเบศร และด้วยเป็นนักเขียน เธอไม่มีทางปล่อยความรู้สึกประทับใจนี้ให้ผ่านไปโดยไม่ทำอะไรเลยไม่ได้..

แพรวพรรณกรากไปยังโต๊ะที่มีพลทหารนั่งอำนวยความสะดวกอยู่ หญิงสาวรับปากกาสีชมพูกับกระดาษมาก้มลงตั้งท่าจะเขียน..

กระดาษครึ่งหน้าของกระดาษ เอ 4 กับข้อความอะไรดีที่จะบอกให้พี่ต้นกล้ารู้ว่า วันนี้เป็นอีกวันที่เธอมีความสุข..และสุขที่เกิดขึ้นก็เพราะเขาด้วย..

‘พี่ต้นกล้าคะ วันนี้เป็นอีกวันที่แพรวมีความสุขมาก ๆ ขอบคุณค่ะ แพรวพรรณ 16 ม.ค. 2554’ เขียนเสร็จแล้วแพรวพรรณก็คืนปากกา ส่วนพลทหารก็ส่งตัวยิงลูกแม็กมาให้..

จิรวัติเดินมาหา อ่านข้อความแล้ว เขาก็แบมือขอตัวยิงแมก เพื่อจะไปจัดการแปะข้อความของแพรวพรรณไว้ที่บอร์ด..

“ถ่ายรูปไว้ด้วยนะคะ” ว่าแล้วแพรวพรรณก็ดึงกล้องออกมาถ่ายรูปของพี่ต้นกล้าตอนที่ไม่ได้สวมแว่นกันแดดกับกระดาษบันทึกความในใจของเธอ..

“ถ่ายให้แพรวด้วย..”

จิรวัติสลับมาเป็นตากล้อง และพอถ่ายให้แพรวพรรณเสร็จเขาก็ถือโอกาสส่งกล้องให้พลทหารโดยเขาไปยืนอยู่คนละมุมกระดาษที่แปะไว้..พลทหารกดชัตเตอร์ให้แล้วก็ยิ้มบาง ๆ ให้กับคนทั้งคู่ที่ดูว่า กำลังหวานได้ที่..โดยทั้งจิรวัติกับแพรวพรรณหารู้ไม่ว่า ด้านหลังทหารคนนั้น มีหญิงสาวคนหนึ่งซึ่งเป็นแฟนคลับของแพรวพรรณซูมเลนส์กล้องกดชัตเตอร์เก็บภาพนั้นไว้ด้วย

และภาพใบนั้น เจ้าหล่อนก็นำไปโพสโนเฟสบุ๊ค ประมาณว่าพบนักเขียนในดวงใจพร้อมหวานใจ.. โดยหารู้ หนึ่งในเพื่อนของ ๆ เจ้าหล่อนในโลกโซเชี่ยลเน็ตเวิร์ก มีอยู่หนึ่งคน อยู่ใน “แก๊งดอกฟ้า” ของน้องฐา

--------------------------

นาทีดูภาพจากโปรแกรมสนทนา msn พลางคุยโทรศัพท์กับแพรวพรรณไปด้วย

“ต๊าย อิจฉา ๆ เพื่อนหนึ่งนี่แรงได้ใจ กล้า กว่าที่หนึ่งคิดไว้เยอะเลย..” ทั้งภาพบนเรือ ภาพตรงบอร์ดทางออก ภาพที่ศูนย์อนุรักษ์เต่าทะเล หาดนางรำ ภาพคู่ของเขากับเธอนั้นทำให้หนึ่งต้องร้องว้าว ๆ ไม่รู้จักกี่ครั้ง

“แต่ตอนนี้แพรวปวดหัว..สงสัยเจอร้อน ๆ เย็น ๆ เข้าไป” ด้วยเขาเห็นว่าหน้าเธอแดง ๆ แล้วไอโขลกอยู่สองสามครั้ง พอออกจากศูนย์อนุรักษ์เต่าทะเลแล้ว โปรแกรมที่วางไว้จึงต้องมีการเปลี่ยนแปลงเพื่อให้เธอกลับมาพักผ่อน ก่อนจะออกไปทานอาหารค่ำด้วยกัน

แต่ว่าพอถึงห้องพักด้วยอารมณ์อยากให้นาทีได้เห็นภาพหวาน ๆ ของเธอกับพี่ต้นกล้า เธอจึงเปิดคอมพิวเตอร์เชื่อสัญญาณอินเตอร์เน็ตกับช่องสัญญาณ wifi ของโรงแรม แล้วโทรศัพท์หานาทีให้คุยกับเธอ..จนกระทั่งตอนนี้ ความเพลียมันเพิ่มมากขึ้น ๆ

“แล้วนี่แพรวจะออกไปทานมื้อเย็นกับผู้การเรือเร่ได้ไหมเนี่ย..”

“ยังไม่ถึงกับไข้หรอก แค่รู้สึกมึน ๆ เดี๋ยวแพรวจะกินพาราเซตามอลแล้วนอนสักครู่ดีกว่า..พี่ต้นกล้าจะมารับตอนหนึ่งทุ่ม..แพรวขอตัวก่อนนะ..เดี๋ยวกลับมาค่อยคุยกันใหม่..แล้วอย่าเอารูปแพรวกับพี่ต้นกล้าไปโพสต์ที่ไหนนะ...แพรวยังไม่อยากถูกล้อ ได้ยินเปล่า”

“จ้า ไม่โพสต์หรอก..ให้คนอื่นเข้าใจว่าหนึ่งเป็นแฟนแพรวแหละดีแล้ว”

“โอเค..บายนะจ้ะ” ตัดสายของนาทีแล้วแพรวพรรณก็ปิดโปรแกรม msn ที่แชร์ภาพถ่ายให้นาทีได้เห็น ดูนาฬิกาที่หน้าจอคอมพิวเตอร์อีกรอบ พอเห็นเลข 17.00 แพรวพรรณก็คิดว่า นอนพักสักชั่วโมง เธอคงจะมีแรงออกไปกินข้าวเย็นที่พี่ต้นกล้าจะเลี้ยงต้อนรับเธอ.. ซึ่งในเวลานี้ คำว่าพี่ต้นกล้าที่อยู่ในใจของเธอในตอนแรก ก็เริ่มมีคำว่า ‘ผู้การ’ มาทำให้เธอเริ่มสับสนงง ๆ กับการเรียกขานเขา.

ซึ่ง แพรวพรรณก็สัญญากับตัวเองว่า ต่อไปเธอจะเรียกเขาว่า ‘ผู้การ’ ตามที่คนอื่นเขาเรียก เพื่อเป็นการยกย่องให้เกียรติแก่งานของเขาเช่นคนอื่น..

----------------------------------------------------

เสียงเคาะประตูทำให้แพรวพรรณสะดุ้งสุดตัว..และพอตั้งสติได้หญิงสาวก็ขยับตัวไปที่โต๊ะโคมไฟที่อยู่ตรงหัวเตียงกดสวิทซ์ไฟ..แล้วพอนึกได้ว่า เธอนัดกินข้าวกับพี่ต้นกล้าไว้ แพรวพรรณก็ทะลึ่งลุกขึ้นนั่ง..

เสียงเคาะประตูยังคงดังต่อเนื่อง..

“ค่ะ ๆ ..” แพรวพรรณรีบกระโดดลงจากเตียงโดยชุดที่สวมใส่อยู่นั้นก็เป็นชุดเดิมที่ใส่ตั้งแต่เช้า แต่ว่าพอจะถึงประตู หญิงสาวก็ได้สติ..

“ใครคะ..”

“พี่เอง..” เสียงของพี่ต้นกล้าที่หน้าประตูทำให้แพรวพรรณต้องชะงักมือที่จะปลดล็อคเปิดประตูให้กับเขา..และเมื่อคิดถึงความเหมาะสม แพรวพรรณก็ต้องตอบไปว่า..

“พี่ต้นกล้าคะ แพรว หลับเพิ่งตื่น แพรวขอโทษทีคะ เดี๋ยวแพรวอาบน้ำแต่งตัวเสร็จ แพรวจะรีบตามลงไปที่ล็อบบี้นะคะ รอแพรวเดี๋ยวเดียว..”

“ได้ครับ..พี่ลงไปรอข้างล่างแล้วกัน” เสียงของพี่ต้นกล้าเงียบไป แพรวพรรณเป่าลมออกจากปากอย่างโล่งออกก่อนจะวิ่งกลับมาดูที่โทรศัพท์มือถือของตน..หน้าจอนั้นมีสายที่ไม่ได้รับเพียงสองสายเท่านั้นเอง..ซึ่งเหตุที่เธอไม่ได้ยินเสียงเรียกเข้า มันน่าจะเกิดจากการที่เธอหลับลึก..เพราะเกิดจากความเหน็ดเหนื่อย อ่อนเพลียจากแสงแดดกับฤทธิ์ของยา..
-----------------------

ระหว่างที่อาบน้ำแพรวพรรณก็นึกถึงพี่ต้นกล้า ตอนเดินตามเธอดูป้ายนิทรรศการพร้อมกับอธิบายเสริมให้เธอเข้าใจเกี่ยวกับการอนุรักษ์เต่าทะเล ทรัพยากรธรรมชาติทางทะเลซึ่งเป็นงานอีกรูปแบบของทหารเรือที่ไม่เกี่ยวกับศึกสงคราม สายตา น้ำเสียง ของเขาทำให้เธอหวั่นไหวเพิ่มมากขึ้น ๆ

จนกระทั่งเขาพาเธอไปเดินชายหาดนางรำที่คลาคล่ำไปด้วยนักท่องเที่ยวชาวไทยซึ่งมาปูเสื่อปิกนิค บ้างก็เล่นน้ำทะเล เขาเดินเคียงข้างไปกับเธอพลางดื่มน้ำอัดลมเย็น ๆ คนละกระป๋อง จนกระทั่งเห็นว่าเธอดูอ่อนแรง เขาจึงเปลี่ยนแผนพาเธอกลับมาส่งที่โรงแรม..และก่อนที่เธอจะลงจากรถ เขาก็บอกกับเธอว่า ‘ดูแลตัวเองด้วยนะ’ น้ำเสียงและแววตาของเขานั้นทำให้ใจของเธอละลายครั้งแล้วครั้งเล่า จนกระทั่งถึงตอนเมื่อครู่ หากเธอเปิดประตูรับเขาเข้ามาในห้อง อะไรมันจะเกิดขึ้นบ้าง...

ขณะอาบน้ำไปครุ่นคิดถึงเขา โทรศัพท์ที่วางไว้บนเตียงก็ดังขึ้น แพรวพรรณรีบล้างตัว เพราะมั่นใจว่าเสียงที่ดังอย่างต่อเนื่องนี้ ต้องเป็นสายที่มาจากทางบ้านแน่ ๆ ..

“ทำไมรับสายช้าจังเลย” แม่ของเธอเสียงเข้มมาตามสายเพราะว่ารอนานมาก

“แพรวอาบน้ำ”

“อาบพร้อมแม่หิรัญญาเลยเหรอ”

“เอ่อ พี่หิรัญญาอยู่ข้างล่างค่ะ..แม่มีอะไรคะ”

“แล้วบ้านเขามีกี่ชั้น”

พอนึกได้ว่าแม่เข้าใจว่าเธออยู่บ้านพี่หิรัญญา แพรวพรรณก็อยากจะเคาะหัวตัวเองจังเลย..ไอ้การโกหกมันก็ไม่ดีอย่างนี้..ต้องมาตามจำเรื่องไม่จริงนั้นด้วย..

“สองชั้นค่ะ..แม่มีอะไรหรือคะ” แพรวพรรณต้องถามธุระของแม่อีกครั้งเพราะไม่อยากให้แม่ถามถึงพี่หิรัญญาหรือขอคุยกับพี่หิรัญญาในตอนนี้

“แพรวจะกลับบ้านเมื่อไหร่แน่”

“เอ่อ เอ่อ” ด้วยไม่ได้เตรียมคำตอบสำหรับคำถามนี้ แพรวพรรณจึงคิดไม่ทัน “เอ่อ วันจันทร์หน้าค่ะ”

“โหว อีกตั้งเจ็ดวันเลยนะ”

“ก็แพรวขอมาสองสัปดาห์นี่คะ”

“แม่อยากให้รีบกลับมาก่อนวันเสาร์อาทิตย์ได้ไหม”

“มีอะไรหรือคะ”

“พี่เอกรินทร์จะกลับจากอเมริกาวันพฤหัสบดีนี้ ทางโน้นเพิ่งบอกมา..เขาจะจัดงานเลี้ยงต้อนรับกันนะ เขาเชิญเราไปด้วย เป็นการภายใน..เฉพาะคนกันเองเท่านั้น”

“คุณแม่คะ”

“..ไปเห็นหน้าเห็นตากันไว้ก่อน..แล้วค่อยมาว่ากันทีหลัง”

“แต่แพรว..แพรว..ไม่ชอบวิธีการแบบนี้..”

“เอาน่าแพรว คลุมถุงชนอะไรเสียที่ไหน แค่คนที่พ่อแม่เห็นดีเห็นงามด้วย แม่ขอนะลูก กลับมาให้ทันวันศุกร์ แล้ววันเสาร์ เราก็เข้าคอร์สสักหน่อย วันอาทิตย์ตอนค่ำจะได้สวยได้ที่”

“แต่งานแพรวยังไม่เสร็จ”

“กลับมางานนี้ก่อน แล้วค่อยกลับไปใหม่ เดี๋ยววันศุกร์แม่จะส่งรถไปรับที่ฉะเชิงเทรานะ..ไม่ต้องให้แม่หิรัญญามาส่งหรอก..เกรงใจเขา ขับไปขับกลับ แม่ก็ห่วงเขาเหมือนกัน เป็นผู้หญิงเดินทางคนเดียวมันดีเสียที่ไหน”

“แม่คะ..”

“เดี๋ยวกลับมาแล้ว..แม่ให้กลับไปใหม่ เดี๋ยวให้รถไปส่ง ทีนี้แม่ให้อยู่ทำงานอีกสิบห้าวัน ดีไหม” แม่เข้าใจเอาเรื่องที่เธอต้องการมาหลอกล่อ แต่ว่าเธอมองถึงปัญหาที่ไกลกว่านั้นมากกว่าที่จะพอใจเวลาที่ยืดขึ้นมาอีกครึ่งเดือน “คุณแม่คะ ประเด็นมันไม่ได้อยู่ที่...คือแพรว แพรวไม่อยากเจอพี่เอกอะไรนั่น แพรว..”

“เชื่อแม่แล้วจะดีเอง ตกลงนะ วันศุกร์แม่จะส่งรถไปรับที่ฉะเชิงเทรา เดี๋ยวนัดกันอีกที แค่นี้นะ..”

แม่วางสายไปแล้ว แพรวพรรณถอนหายใจออกมาอย่างแรง..แต่ว่าจะมัวกลุ้มใจหรือตีโพยตีพายโทรศัพท์ไปปรึกษาพี่หิรัญญาหรือนาทีในตอนนี้ก็ไม่ได้ เพราะพี่ต้นกล้านั่งรออยู่ข้างล่าง..

---------------------------
แม้บรรยากาศของร้านอาหารสโมสรเรือใบ ในฐานทัพเรือสัตหีบจะดีเพียงไหน แต่ใจที่หดหู่กับเรื่องที่แม่เพิ่งแจ้งมาทำให้แพรวพรรณฝืนปั้นหน้าให้สดชื่นไม่ได้..

“น้องแพรวไม่สบายหรือเปล่า ตั้งแต่ออกจากโรงแรมมาไม่พูดไม่จา” จากโรงแรมมาถึงร้านอาหารไม่ไกลนัก ..แพรวพรรณที่อยู่ในชุดกระโปรงแซคแขนกุดสีขาวมีลายดอกไม้สีแดงแต่งแต้มที่ชายกระโปรงยาวคลุมเข่ากล่าวขอโทษเมื่อเห็นเขานั่งรอที่โซฟาในล็อบบี้ ระหว่างเดินตามเขามาที่รถ และระหว่างทางแพรวพรรณก็นั่งเงียบมาตลอด ไม่ชวนเขาคุย ไม่สดใสเหมือนเดิม..จนกระทั่งเขาพามานั่งที่โต๊ะกลางแจ้งซึ่งไม่ไกลจากเวทีวงดนตรีมากนัก เขาจึงต้องเอ่ยปากถาม เพราะกลัวว่าหญิงสาวเจ็บไข้ได้ป่วย..

“มีเรื่องไม่สบายใจนิดหน่อยค่ะพี่”

“บอกพี่ได้ไหม”

“บอกได้ค่ะ แต่พี่คงช่วยอะไรแพรวไม่ได้หรอก..” แพรวพรรณมองหน้าเขาก่อนจะมองไปยังเวทีที่มีนักดนตรีกำลังเล่นกีต้าร์พลางร้องเพลงกล่อมหัวใจคนที่มานั่งกินข้าวเคล้าบรรยากาศ..

พนักงานเสิร์ฟเดินมา ส่งเมนูให้ทั้งสองหนุ่มสาว แพรวพรรณรับเมนูมาเปิดดู พอเห็นราคาอาหาร แพรวพรรณก็นึกได้ว่า วันนี้ตอนกลางวันเขาอาจจะเลี้ยงอาหารแม่พรกับน้องหมอภีร์ไปแล้ว ซึ่งอาหารทะเลมันก็น่าจะแพงอยู่ไม่น้อย แล้วเขาจะต้องมาเดือดร้อนเลี้ยงต้อนรับเธออีก

“พี่ต้นกล้า”..เสียงของแพรวพรรณแผ่วเบา จนจิรวัติต้องเงยหน้าขึ้นสบตาคู่สวยที่ยังดูบวม ๆ เพราะเพิ่งตื่นนอน

“คือ คือ ถ้า มื้อนี้ แพรวขอเลี้ยงอาหารพี่จะได้ไหม”

“ทำไมละ”

“แค่ที่พี่พาแพรวไปตะลอน ๆ ทั้งวันนี่แพรวก็เกรงใจจะแย่แล้วค่ะ..แพรว ไม่ได้ดูถูกว่าพี่จนนะคะ แต่
ว่าแพรว ถ้าแพรวให้พี่เลี้ยงแพรวจะรู้สึกไม่สบายใจมากกว่า”

“ถ้าแพรวเลี้ยง งั้นก็ไม่ต้องกินที่ร้านนี้”

“ทำไมละคะ”

“พี่ก็ไม่อยากเอาเปรียบแพรวเหมือนกัน..” เขาถอนหายใจเบา ๆ ก่อนจะพูดต่อว่า “มื้อนี้พี่พร้อมเลี้ยงน้องแพรวแล้วกันครับ สั่งได้เลย..”

“หารสองได้ไหมคะ..นะคะ ตอนนี้แพรวอยากกินแต่ของแพง ๆ ทั้งนั้นเลย..แพรวกลัวพี่กระเป๋าฉีก..”

เขาจ้องหน้าแพรวพรรณถอนหายใจเบา ๆ แล้วก็บอกว่า

“เพื่อความสบายใจของน้องแพรว เอาอย่างนั้นก็ได้..”

“โอเคค่ะ” พอตกลงกันได้แล้วแพรวพรรณก็เรียกพนักงานเสิร์ฟมาสั่งอาหาร และเมื่อพนักงานเดิน
จากไปแล้ว แพรวพรรณก็มองบรรยากาศรอบ ๆ ร้าน..ทิ้งความเงียบไว้ระหว่างเธอกับเขา..เพราะในใจนั้นยังตัดใจเรื่องที่แม่ให้รีบกลับบ้านยังไม่ได้

“ยังไม่ได้บอกพี่เลยมีเรื่องอะไรไม่สบายใจ”

“แม่จะให้รีบกลับบ้านวันศุกร์นี้ค่ะ จะส่งคนขับรถมารับที่ฉะเชิงเทรา โทรมาก่อนที่แพรวจะลงนี่เองค่ะ”

“มีธุระอะไรเร่งด่วน”

“คนที่แม่อยากให้แพรวแต่งงานด้วยจะกลับมาจากเมืองนอกวันพฤหัสนี้ วันอาทิตย์ เขามีงานเลี้ยงต้อนรับ แม่อยากให้แพรวไป..”

“นักเรียนนอกเสียด้วย แสดงว่าฐานะทางบ้านคงจะดีมาก ๆ” แม้จะรู้สึกว่าหดหู่ แต่จิรวัติก็แสร้งปั้นยิ้ม ทำเหมือนกับว่า เรื่องที่ได้ฟังจากแพรวพรรณนั้น เป็นเรื่องที่ได้ฟังจากน้องหนูนา..

“รวยมากค่ะ พ่อแม่พี่เขาเป็นเจ้าของโรงแรม เจ้าของกิจการไม่รู้จักกี่อย่าง เขาเป็นลูกคนเล็ก ไปเรียนปริญญาโท..จบมานานแล้วแต่ว่าไม่ยอมกลับ แต่นี่ดึงกันกลับมาได้..ก็คงฝืนพ่อแม่ไม่ได้เช่นกัน”

“คนจีนละซิ”

“ค่ะ คนจีน ป๊าพี่เอกกับป๊าแพรวเป็นเพื่อนเรียนโรงเรียนลาซาลมาด้วยกัน”

“หน้าตาเป็นไง”

“ตี๋ ๆ แต่ก็หน้าตาดีนะ แต่ตัวไม่สูงเท่าพี่ต้นกล้าหรอก พี่ต้นกล้าดูดีกว่าเยอะ..”

“แต่พี่ก็คนมีแต่ตัว..”

“มีแต่ตัวที่ไหน พี่มีหัวใจ ฟังพี่พูดวันนี้แล้ว แพรวว่าพี่เป็นทหารทั้งชีวิตและจิตวิญญาณนะคะ ไม่ใช่ทหารรับจ้างรบประทังชีวิตไปวัน ๆ เหมือนพวกข้าราชการเช้าชามเย็นชามบางคน”

“คมกริบเลย”

“แพรวดีใจนะคะที่ได้กลับมาเจอพี่อีกครั้ง..การได้เจอพี่..มันทำให้แพรวรู้สึก รู้สึกว่าแพรวน่าจะมีทางออก..”

“ทางออกอะไร”

“ไม่รู้ค่ะ แพรวรู้แต่ว่า ที่ผ่านมา แพรวเหมือนถูกขังไว้ในกรงทอง..ขังไว้ด้วยความรักความปรารถนาดีจากพ่อแม่พี่ชาย..”

“มันก็เป็นเรื่องดีไม่ใช่หรือ”

“ดีค่ะ ดีที่สุด ดีจนหลาย ๆ คนพากันอิจฉาแพรว แล้วก็คิดว่า แพรวบ้า บ้าที่คิดว่า ความรักที่มากเกินไปของพ่อแม่นั้นเป็นกรงขังจิตวิญญาณของแพรวไว้..พี่ว่าแพรวคิดบ้า ๆ ไหม”

“เรื่องบางเรื่องใครไม่เจอใครก็ไม่รู้หรอกครับ พี่จะบอกอะไรให้นะแพรว..ถามว่าพี่เคยเจอเรื่องอึดอัดใจไหม ..พี่ก็เคยเจอ..พี่ไม่ได้ว่าแพรวนะ แต่ว่า เหตุการณ์เมื่อครู่นี้..”

แพรวพรรณชักสีหน้าฉงน..

“ตอนที่แพรวไม่อยากให้พี่เลี้ยงอาหารเพราะคิดว่า พี่จะกระเป๋าฉีก..มันไม่ใช่ครั้งแรก..ชีวิตพี่นี่แปลกอยู่อย่างหนึ่ง ตั้งแต่เป็นหนุ่มมา พี่ก็เจอแต่ผู้หญิงที่มีฐานะดีกว่าพี่ทั้งนั้นเลย ทุกคนต้องการตัวพี่ ทุกคนต้องการให้พี่รัก ทุกคนพยายามเข้าอกเข้าใจพี่ แต่ว่า พอถึงจุดหนึ่ง ทุกคนก็มีเหตุที่จะต้องไปจากพี่..”

“พี่ต้นกล้า!!”

“พี่ก็คนธรรมดาคนหนึ่งนะแพรว พี่ก็มีความรู้สึกเหมือนกัน ถามว่า มันดีกับพี่ไหม มันดีนะ เงินในกระเป๋าพี่อยู่ครบ..แต่ว่า ความรู้สึกของพี่ บางทีพี่ก็ไม่ไหวเหมือนกัน..พี่รู้สึกว่ามันแปลก ๆ ทุกครั้งที่ต้องเจอแบบนี้”

“แพรวขอโทษค่ะพี่..แพรวไม่ได้ต้องการให้พี่เสียความรู้สึกแบบนั้น แพรวคิดแค่ว่า แพรวไม่อยากรบกวนพี่..แค่ที่ให้รบกวนนี้มันก็มากมายอยู่แล้ว แล้วแพรวก็ไม่ได้เดือดร้อน อยู่บ้านแพรวก็แทบไม่ได้ใช้เงิน”

“พี่ก็ไม่ได้ว่าแพรว แต่แพรวเป็นคนแรกที่พี่อยากจะบอกว่า พี่ก็มีอารมณ์อึดอัดแบบนี้ พี่ก็มีปัญหาแบบของพี่”

“แล้วที่ผ่านมาพี่ไม่ได้บอกคนอื่น ๆ หรอกหรือคะ..” แพรวพรรณจ้องหน้าของเขา แล้วครั้งนี้แพรวพรรณก็ได้เห็นความหม่นเศร้าในดวงตาของเขา..

“ไม่ได้บอกหรอก..ถ้าจะบอกพี่ก็จะบอกว่าพี่ไม่มีเงินมากพอที่จะไปทำกิจกรรมเหล่านั้นกับเขา ..แต่มันก็กลายเป็นว่า พี่กำลังจะบอกให้เขาจ่ายเงินให้..บางทีเราก็ทะเลาะกันเรื่องไม่เป็นเรื่อง”

แพรวพรรณนิ่งฟัง พยายามเรียบเรียงว่าเขากำลังหมายถึงใคร และมีทั้งหมดกี่คน..

“คุยเรื่องซีเรียสกันไปหรือเปล่า”

“แพรวดีใจนะคะที่พี่เปิดอกคุยกับแพรว..ก็แสดงว่าพี่เห็นแพรวเป็นน้องสาว เป็นเพื่อน”

“แล้วที่แพรวเปิดอกคุยกับพี่ละ แพรวคิดกับพี่อย่างไร”

“ก็..” แพรวพรรณกรอกตาไปมา.. “แพรว แพรวก็คิดกับพี่แบบพี่ชายไงคะ เหมือนที่คิดกับพี่พงศ์ แพรวไม่พอใจอะไรแพรวก็บ่นให้พงศ์ฟัง ระบาย ๆ แล้วก็ลืม ๆ มันไป..”

“ตกลงมื้อนี้ให้พี่เลี้ยงแพรวนะ..”

“ได้ค่ะ ดีซะอีกเงินในกระเป๋าแพรวจะได้อยู่ครบ..”

หลังอาหารมื้อค่ำผ่านไป แพรวพรรณก็ขอให้เขาพาเดินเรียบชายหาดดงตาลเพื่อย่อยอาหารในกระเพาะ..แล้วแพรวพรรณก็ถือโอกาสนั้นถามถึงใครสักคนหนึ่งที่ทำให้เขารู้สึกอึดอัดใจอย่างไม่อ้อมค้อม “พี่ต้นกล้า ถ้าแพรวจะถามถึงแฟนเก่าพี่ พี่จะเล่าให้แพรวฟังได้ไหม”

“ถ้าบอกว่าไม่มีเลยสักคนละ”

“โกหกแล้วค่ะ แพรวไม่เชื่อเด็ดขาดว่า คนหน้าตาดีแบบพี่จะไม่มีแฟน”

“แล้วแพรวอยากจะรู้ไปทำไม”

“แพรวเป็นนักเขียนนี่คะ เรื่องของคนคนหนึ่ง มันเป็นวัตถุดิบของเรา บางเรื่องเราไม่มีวันประสบเอง
หรอกค่ะ คนอื่นเขาประสบ เขารู้สึก เขาเล่าออกมา เราซึมซับถ่ายทอดออกมาเป็นตัวอักษร นี่แหละค่ะงานของแพรว..เริ่มต้นจากคนแรกเลยนะคะ..แพรวจำได้ว่าตอนประถม พี่ตัวติดกันกับพี่รุ่ง..”

“โห ทำไมจำแม่นจำ..”

“แพรวไม่ได้จำนะคะ แต่แพรวไม่ได้ลืม..ตอนนั้นแพรวได้ยินพี่พงศ์บอกว่า พี่ต้นกล้ากับพี่รุ่งเป็นแฟนกัน เพราะทำกิจกรรมด้วยกันตลอด..ถือพานไหว้ครูด้วยกันด้วย เชิญธงชาติด้วยกันบ่อย ๆ”

“แล้วแพรวทำไมไม่ลืม”

“จริง ๆ แพรวลืมแล้วนะคะ แต่ว่า พอเห็นหน้าพี่ ความทรงจำในอดีตมันก็กลับมา..”

“คนแก่”

“สงสัยจะจริง 26 แล้วนี่คะ จะว่าแก่ก็ไม่เถียง แต่คนที่อายุ 29 น่าจะแก่กว่า”

“กะล่อน ไปติดใครมา..ไอ้ตี๋ใหญ่ก็บื้อจะตาย”

“ก็ยีนส์ด้อยพี่พงศ์เอาไป ยีนส์เด่นแพรวรับมา เล่าเรื่องพี่รุ่งมาค่ะ..”

“ตอนนี้รุ่งเขามีลูกสองคนแล้วไม่ใช่เหรอ ไม่มีประโยชน์จะไปพูดถึงเค้าหรอก..รักในวัยเด็กก็เหมือนหนังเรื่องแฟนฉันไงแพรว ไม่มีอะไรหรอก..สุดท้ายก็ต่างคนต่างไป”

“แล้วตอนมัธยมละ..แต่ตอนนั้นแพรวไม่เห็นพี่แล้ว เพราะพี่ย้ายมาเรียนในเมือง”

“มัธยมพี่ก็..เหมือน ๆ กับเรื่องของรุ่ง แค่พอหวาน ๆ เป็นกำลังใจให้กัน จนกระทั่งพี่มาต่อโรงเรียนเตรียมเขาก็ไปเรียนพยาบาล ได้ข่าวอีกที เขาก็แต่งงานกับหมอไปแล้ว..คนที่มันไม่ใช่เนื้อคู่กันนะแพรว มันก็ต้องให้มีเหตุให้ต้องเป็นไป หรือมีอันต้องแยกย้ายกันไป...”

“สรุปว่าพี่มีคนที่มันไม่ใช่เนื้อคู่เยอะไหมคะ”

“ก็..” จิรวัติทำท่านับนิ้ว..เรียงตั้งแต่นิ้วโป้งข้างซ้าย จนกระทั่งสลับมือนับมาจนถึงนิ้วโป้งข้างขวา..”

“ฝากไว้ สิบก่อนนะ”

“โห..อย่าบอกนะว่ามีเป็นโหล..”

“นับให้เสร็จก่อน ดีไม่ดี อาจจะมีถึงสามโหลด้วยซ้ำ..ขอเวลาแป๊บ”..



จุฬามณีเฟื่องนคร
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 31 ต.ค. 2554, 08:47:38 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 31 ต.ค. 2554, 08:47:38 น.

จำนวนการเข้าชม : 4324





<< 8.‘ไหมละอยากจะบอกละซิว่ายังโสด พี่ว่าง จีบพี่ได้อะไรทำนองนี้'   10.‘หลักฐาน นักเขียนสาว แย่ง แฟนนักอ่าน’ >>
จุฬามณีเฟื่องนคร 31 ต.ค. 2554, 08:50:55 น.
สวัสดีครับ...ช่วงนี้เพื่อนนักอ่านหลาย ๆ ท่านคงกำลังเคร่งเครียดรอลุ้นว่า ท่วมไม่ท่วม แต่แฟนคลับเบอร์หนึ่งของผม ที่่บ้านของเธอท่วมไปเรียบร้อยแล้วครับ..ระดับน้ำก็ประมาณ "ขาอ่อน" แต่เธอว่าน่าจะสุงกว่านั้น เพราะเธอไม่กล้าออกไป "วัด"...

เอาเป็นว่า คุณเธอ ร้องขอให้ผม ลงนิยายให้อ่านแก้เบื่อ..ซึ่งผมก็บอกเธอไปว่า คงให้ได้สัปดาห์ละตอน ซึ่ง ตอนที่แล้ว ผมจะได้ว่า ลงวันพฤหัส แต่วันนี้ ผมมาวันจันทร์..ซึ่งมันยังไม่ครบ 7 วัน แต่เธอก็ว่า..ขออ่านก่อนเหอะ..อยากรู้ว่า น้องแพรวกับพี่ต้นกล้าจะอย่างไง ๆ กันต่อไป...เอาเป็นว่าผมก็ใจอ่อน แต่ว่าก็ยังอยู่ในลิมิตที่ว่า สัปดาห์ละ 1 ตอนครับ..//

ขอบคุณจากทุก ๆ กำลังใจนะครับ...


รอให้เป็นเล่ม 31 ต.ค. 2554, 09:32:38 น.
หอบนิยายหนีน้ำที่เข้ามาเป็นแขกไม่ได้รับเชิญอยู่ในบ้าน 2-3 เล่มค่ะ ตอนนี้อ่านไปเกือบหมดสต็อกแล้วค่ะ ก็ได้อาศัยอ่านนิยาย online แก้เครียดนี่แหละ / ขอบคุณค่ะ


panon 31 ต.ค. 2554, 10:08:17 น.
รอเป้นเล่นเหมือนกันค่ะ


XaWarZd 31 ต.ค. 2554, 10:15:29 น.
นายเอกจะเป็นไงเนี่ย อุปสรรคเริ่มโผล่แล้วนะสู้ๆ


Zephyr 31 ต.ค. 2554, 13:54:45 น.
โห พี่ต้นกล้านั่นแฟนเก่าเหรอคะ แล้วยังงี้ถ้าแฟนเก่าตามมาหาเรื่อง แพรวไม่ตายเหรอ แฟนคลับแพรวจะทำให้นักเขียนในดวงใจเดือดร้อนกะน้องฐาแล้วนะ


nunoi 31 ต.ค. 2554, 15:06:36 น.
โอโห พี่ต้นกล้า นับซะขนาดนี้ น้องแพรวก็แย่ซิค่ะเนี๊ยะ


anOO 31 ต.ค. 2554, 15:14:05 น.
โอ้โห....คนอะไรมีแฟนเก่าตั้งเกือบสามโหล
พาพี่ต้นกล้าไปเปิดตัวเลยน้องแพรว


pattisa 31 ต.ค. 2554, 16:27:05 น.
หลงรักพี่ต้นกล้าจริงๆนะนี่ :D


morisa 31 ต.ค. 2554, 17:02:50 น.
อ๊ายยยยย ถูกใจมากกกกก กด Like ให้แล้ว

คำพูดของแพรวพรรณคมกริบบาดใจจริงๆเลย

ชอบที่บอกว่า "แพรวไม่ได้จำนะคะ แต่แพรวไม่ได้ลืม" คิดได้ไงนะเพ่เฟื่อง

ชอบพี่ต้นกล้าด้วยอ่ะ มีทั้งลูกล่อลูกชนขนมาเป็นคันรถเลยทีเดียว

และในฐานะแฟนคลับเบอร์หนึ่งก็มาขอร้องตรงนี้อีกครั้ง หลังจากที่โทรขอให้ลงเพิ่มอาทิตย์ละ 2 ตอน เพราะถ้ามาตอนละอาทิตย์รู้สึกว่านานมากกกก
เหมือนรออ่านจากนิตยสารดีๆนี่เอง
เพราะฉะนั้นขอเป็นอาทิตย์ละ 2 ตอนก็แล้วกันนะเฟื่อง ถ้าใครเห็นด้วยก็ช่วยลงชื่อด้วยจร้าาาา


minafiba 31 ต.ค. 2554, 21:38:33 น.
^_____________^


jane 31 ต.ค. 2554, 22:07:01 น.
เหนด้วยกับคุณ morisa ค่ะ
:)


sunny 1 พ.ย. 2554, 19:16:22 น.
:)


ณัฐวีร์ 1 พ.ย. 2554, 22:05:52 น.
เห็นด้วยคร้าบบบบ / แต่งานนีั้้คู่แข่งน่ากลัวมั้ยอ่า สู้ๆ เอาใจช่วยพี่ต้นกล้าสุดๆ


silverraindrop 4 พ.ย. 2554, 11:09:49 น.
อาจจะมากกว่า 3 โหลหรือปล่าวคะ


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account