กับดักใจ...ซาตานยอดรัก
เขา...ที่ตกหลุมรักเพื่อนน้องสาวที่ห่างจากเขา 15 ปี จะทำยังไงหากไม่วางกับดักให้เธอติดบ่วงเขา
เธอ...ที่ไม่เคยรักใคร เธอไม่เคยรู้ว่าเขากำลังต้อนเธอเข้ากรงใจ
เธอ...ที่ไม่เคยรักใคร เธอไม่เคยรู้ว่าเขากำลังต้อนเธอเข้ากรงใจ
Tags: พี่ใหญ่
ตอน: ตอนที่ 11
“กรี้ด!!!!!!! บ้าๆๆๆๆ ใหญ่ทำอย่างนี้กับทาร่าได้ยังไงกัน” เสียงกรี้ดอย่างอัดอั้นหลังจากที่เธอกลับออกมาจากบริษัทของเหมวันต์ เธอมาถึงที่บ้านตัวเองและได้แต่ทำลายข้าวของและกรี้ดออกมาจนน้องสาวของเธอเดินออกมาดูอย่างสงสัยว่าเกิดอะไรขึ้นกับพี่สาวของตัวเอง
“เป็นไรพี่ทาร่า?” ทารินีน้องสาวเพียงคนเดียวของทาริกา เธอต่างจากพี่สาวตัวเองอย่างสิ้นเชิงไม่ใช่เรื่องหน้าตาแต่เป็นนิสัยเสียมากกว่า ทารินีเป็นคนเรียบง่ายและใช้ชีวิตสบายๆ เธอเป็นพนักงานการตลาดของบริษัทของเหมวันต์ เธอไม่สนใจเข้าวงการอย่างพี่สาวแม้จะมีหลายคนมาชวนให้ไปทำงานก็ตาม แต่เธอเคยทำตอนที่เรียนอยู่แต่ตอนนี้เธอตั้งใจทำงานเพียงอย่างเดียว
ทารินีเป็นสาวผิวสีน้ำผึ้ง หุ่นบางสวยเฉี่ยว สูง 175 ซม. ผมยาว เรียกได้ว่าเธอเหมาะมากในการที่จะเป็นนางแบบแต่เธอคิดว่าอาชีพอย่างนี้ไม่ยั่งยืน เธอเลยเลือกที่จะทำอาชีพประจำมากกว่า แม้ว่าจะได้เงินไม่มากเท่าที่พี่สาวเธอได้ แต่ว่าการทำงานประจำอย่างนี้ก็ทำให้เธอไม่ทำตัวฟุ่มเฟือยมากมายแต่รายได้จากการทำงานของเธอก็ถือว่าดีพอควร ไม่งั้นคงไม่มีใครๆ อยากจะพากันมาทำงานที่นี่หรอก ที่นี่เข้ายากจะตายไป และคนเก่าก็ไม่ค่อยจะลาออกด้วยเว้นแต่เกษียณ หรือว่าออกไปแต่งงาน ไม่งั้นตำแหน่งว่างยาก เว้นแต่จะรับเพิ่มเท่านั้น
“จะอะไรซะอีกละยัยรีนี่..ก็คุณใหญ่น่ะซิเขาบอกว่าไม่ได้คิดอะไรกับฉัน่ะ” ทาริกาตะโกนออกไปเสียงดัง ยิ่งเห็นน้องสาวที่ไม่ได้ดั่งใจเธอเลยซักอย่างทำงานอยู่ในบริษัทของเหมวันต์แทนที่จะช่วยเธอเป็นหูเป็นตา แต่กลับไม่ช่วยเธอซักอย่างเลย มีแต่ว่าไม่รู้เรื่องหรือไม่ก็ไม่เห็นอะไรทั้งนั้น
“อะไรอีกละ...ฉันก็เห็นอยู่ว่าท่านประธานก็ไม่ได้มีทีท่ากับพี่ซักหน่อย มีแต่พี่เท่านั้นนี่นาที่พูดเอาเอง” ทารินีถอนใจอย่างเบื่อหน่ายเมื่อไหร่พี่สาวเธอจะยอมรับเสียทีว่าผู้ชายเขาไม่ได้มีใจให้เลยแม้แต่น้อย
“นี่..นังรีนี่..ถ้าแกไม่คิดจะช่วยก็ไม่ต้องยื่นปากพูดมาก..รู้เอาไว้ว่าฉันไม่ยอมง่ายๆ หรอก
นะ..ฉันหวังไว้มากกับเขา” เธอชี้หน้าน้องสาวที่ยืนเอนอยู่ขอบตู้ที่อยู่ไม่ไกลมากนัก
“หึๆ คิดเอาเองคนเดียวรึเปล่าพี่ทาร่า..เท่าที่ฉันเห็นนะผู้ชายเขาไม่ได้มีท่าทีเลยนี่นา” ทารินีได้
แต่หัวเราะออกมาเสียงดัง เธอเห็นด้วยตาเธอเองด้วยซ้ำ มีแต่พี่สาวเธอทั้งนั้นที่พยายามทำตัวให้มีข่าวกับเขา แม้คนอื่นอาจจะคิดว่าฝ่ายชายมีใจ แต่สำหรับเธอแล้วดูออกหรอกว่าผู้ชายเขาไม่อยากพูดมาก
“แก..แกนังรีนี่...หนอย..อย่างแกน่ะเป็นน้องฉันซะเปล่าแทนที่แกจะมาขัดฉันทุกอย่างอย่างนี้ แกควรจะมาหาทางช่วยฉันคิดจะมากกว่าว่าจะทำยังไงให้เขามาเป็นของฉันน่ะ...” ทาริกามองหน้าน้องสาวเขม็งอย่างไม่พอใจ ที่อีกฝ่ายพูดขัดเธอตลอดเวลา ตอนนี้เธอยิ่งกลุ้มอยู่ด้วย ยิ่งเธอเห็นสายตาเขามองนังเด็กนั่นเธอยิ่งไม่สบายใจ เธอกลัว...กลัวว่าเธอจะเสียเขาให้นังเด็กคนนั้นจริงๆ
“เอ้า..ฉันเตือนพี่ไปหลายครั้งแล้วนะว่าให้ตัดใจแล้วมองคนอื่นที่เขามีใจให้จะไม่ดีกว่าเหรอ...พี่มาตามตื้อเขาอย่างนี้น่ะฉันว่ามันไม่มีประโยชน์เลยนะ...” ทารินีบอกพี่สาวอย่างคนที่มองโลกความเป็นจริงไม่รู้ว่าพี่สาวเธอเมื่อไหร่จะเลิกฝันลมๆ แล้งๆ อย่างนี้เสียที เพราะเธอเห็นแต่ความว่างเปล่าเท่านั้นที่รอพี่สาวเธออยู่ ขืนดันทุรังมากๆ เหมวันต์เกิดไม่พอใจและทำอะไรขึ้นมาพี่สาวเธอหรือจะไปสู้เขาได้ ในเมื่อเขามีทุกอย่างอยู่ในมือเขาอยู่แล้ว ถ้าเขาคิดจะทำ เธอเองก็ยังคิดไม่ออกเลยหากว่าชายหนุ่มคนนั้นคิดจะกำจัดพี่สาวเธอแล้วพี่สาวเธอจะเหลืออะไรอยู่รึเปล่า...
“เชอะ...ฉันไม่ยอมหรอกนะ..ยังไงเขาก็ต้องเป็นของฉันคนเดียวเท่านั้นคนอื่นไม่มีสิทธิ์หรอก...ยิ่งนังเด็กนั่นยิ่งไม่มีสิทธิ์หรอก” เธอบอกกับตัวเองอย่างนั้น แต่สิ่งที่เธอได้เห็นเองกับตาทำให้เธออดที่จะหวั่นไหวไม่ได้ เธอต้องหาทางกำจัดนังเด็กนั่นให้พ้นทางรักของเธอซะแล้ว
“พี่ทาร่าเลิกหลอกตัวเองเถอะนะ..เห็นๆ อยู่ว่าสายตาของท่านประธานน่ะมีน้องคนนั้นคนเดียวไม่เห็นตอนที่เขามองน้องเขาเหรอ?” บังเอิญเธอลงไปทำธุระด้านล่างและได้มีโอกาสเห็นภาพนั้นพอดี และเธอก็ค่อนข้างมั่นใจว่าหญิงสาวที่เจ้านายใหญ่ประคองเดินเข้าไปในลิฟต์พร้อมน้องสาวท่านเอง ต้องมีความสำคัญในวันข้างหน้าอย่างไม่ต้องสงสัย
“กรี้ดเ!!! หุบปากเน่าๆ ของแกไปเลยนะนังรีนี่” ทาริกาชี้หน้าน้องสาวพลางเต้นเร่าๆ อย่างไม่พอใจที่น้องสาวพูดอย่างนี้และมันก็แสลงใจเธออย่างมาก
“เอ้า...มาทำเป็นรับไม่ได้ฉันพูดความจริงแท้ๆ” เธอตีหน้าซื่ออย่างไม่สนใจสิ่งที่พี่สาวทำมากนัก
“ไป้! ถ้าแกไม่คิดจะช่วยหรือให้กำลังใจฉันเลยก็ไปไกลๆ ฉันเลย...คอยดูเถอะฉันทำสำเร็จเมื่อไหร่แกไม่ต้องมาขอสวนบุญแล้วกัน” เธอไล่ให้น้องสาวไปไกลๆ เธอหน่อยตอนนี้ ไม่งั้นเธออาจจะลงไม้ลงมือกับน้องสาวก็เป็นได้ ข้อหาขัดเธอเสียทุกเรื่องอย่างนี้ แล้วไหนจะพูดจากแสลงหูอีกละ...
“เชอะ...ไปก็ได้...พวกไม่ยอมรับความจริง” ก่อนจะไปยังพูดทิ้งท้ายเอาไว้อีกตะหาก และเธอก็ยังเห็นว่าพี่สาวคว้าหนังสือขว้างมาที่เธอด้วย ดีว่าเธอหลบทันไม่งั้นวันนี้คงได้เลือดกันบ้างละ..
“นี่...กะจะเล่นให้เห็นเลือดเลยเหรอเนี่ย” ทารินีหันมาว่าพี่สาวตัวเองเสียงดังเมื่ออีกฝ่ายลอยหน้าลอยตาอย่างไม่รู้สึกผิดเลยแม้แต่น้อยที่เกือบทำร้ายร่างกายเธอ
“แกน่ะไม่น่าเกิดเป็นน้องฉันเลย...” ตะวาดน้องสาวเสียงเกรี้ยวกราด ยิ่งเห็นท่าทางอย่างนี้ด้วยแล้ว
“เชอะ...ถ้าฉันเลือกได้ก็ไม่อยากเป็นน้องพี่หรอกนะ..แต่มันเลือกไม่ได้ ทางที่ดีพี่น่าจะพึงสังวรเอาไว้ดีกว่านะว่าผู้ชายเขาไม่ได้แยแสเลยแม้แต่นิดเดียว” ทารินีบอกเสียงเรียบ เธอรู้อยู่แล้วต่อให้พูดปากจะฉีกถึงหูอีกฝ่ายก็คงไม่ยอมฟังเสียงหรอก นิสัยชอบเอานะอย่างนี้น่ะ
“ไปไกลๆ เลยก่อนที่ฉันจะฆ่าแกนังรีนี่..” อีกฝ่ายได้แต่เต้นเร่าๆ อย่างไม่พอใจหนัก และยิ่งน้องสาวเดินลอยหน้าจากไปอย่างไม่แยแสเธอเลยซักนิดเดียว
สองสาวเพื่อนรักเดินเข้าร้านนู้นออกร้านนี้อย่างสนุกสนาน ยิ่งเป็นเรื่องเสื้อผ้าแล้วสองสาวนี่สู้ตาย แต่ไม่ใช่ว่าจะซื้อเฉพาะเสื้อผ้าที่ราคาแพง แต่ราคาถูกพวกเธอก็สนเหมือนกันเพราะว่าแบบสวยถูกใจ ตอนนี้คนที่เป็นเจ้ามือถึงกับต้องถอดเสื้อสูทออกไปเพราะว่าร้อนทั้งๆ ที่ในห้างนี้เปิดเย็นมากแค่ไหน แต่การเดินนานๆ ก็ทำให้เขาเหงื่อออกได้เหมือนกัน
เดินไปได้หนึ่งชั่วโมงพลอยไพลินก็เดินแยกตัวออกไปแล้วกลับมาพร้อมแก้วน้ำสำหรับทั้งสามคน เธอเดินกลับมาแล้วยื่นแก้วน้ำให้เขาและชายหนุ่มกำลังจะคืนเงินให้
“โหย..ไม้ต้องหรอกค่ะพี่ใหญ่แค่นี้เอง แล้วพี่ใหญ่ก็จ่ายไปเยอะแล้วด้วย” เธอรีบห้ามเขาน้ำแก้วไม่กี่บาทอย่างนี้ เธอซื้อน้ำชามะนาวมาให้เขาส่วนเธอและเพื่อนสาวเธอเลือกน้ำสตอเบอรี่ปั่นคนละแก้ว
“ขอบใจมากนะพลอยพี่ก็กำลังคอแห้งพอดีเลย ว่าแต่เราสองคนนี่ไม่เหนื่อยบ้างเหรอ?” เขาถามเธอยิ้มๆ พลางยกแก้วน้ำขึ้นดื่ม และเขาก็ไม่เห็นท่าทีเหนื่อยอ่อนจากแววตาของเธอเลย
“ไม่หรอกค่ะ...จะเหนื่อยอีกทีก็ตอนที่กลับบ้านไปแล้วละค่ะ” เธอบอกความจริง ก็เธอจะเหนื่อยสุดๆ ตอนกลับบ้านเพราะว่าตอนเดินซื้อของไม่มีความเหน็ดเหนื่อยเลยนี่นา จะเหนื่อยก็ตอนที่กลับไปถึงบ้านนั่นละ...
“เหรอ..แปลกจังเลยนะ..สาวๆ นี่ทนกันจังเลย” เขาบอกย่างทึ่งๆ ไม่คิดว่าจะเดินกันได้ทนอย่างนี้ขนาดว่าเขาเป็นผู้ชายแท้ๆ ยังเหนื่อยแทบขาดใจเลย ขนาดว่าเขาออกกำลังกายเป็นประจำนะเนี่ย
“อิๆ เรื่องมหัศจรรย์ของผู้หญิงค่ะ..เรื่องนี้สู้ตายกันทุกคนแหละค่ะ ต่อให้ไม่ได้ซื้ออะไรเลยขอแค่ให้ได้เดินก็มีความสุขแล้วค่ะ” เธอได้แต่หัวเราะน้อยๆ กับสีหน้าทึ่งจัดของอีกฝ่ายที่ได้รับรู้เรื่องทีเธอเพิ่งจะบอก
“อืม..อย่างพวกพี่น่ะส่วนใหญ่แค่จะมาซื้อๆ ให้เสร็จแล้วก็ไปเสียมากกว่าที่จะมาเดินแบบนี้” อย่างเขาต้องการอะไรก็มาซื้อแล้วก็กลับไม่เดินอย่างนี้หรอก
พอหายเหนื่อยแล้ว...ทั้งสามคนก็เดินเข้าไปดูเสื้อกันต่อ เพราะเป็นร้านที่พวกเธอมาประจำ แต่ไม่ใช่ร้านดังอะไร แต่มีเสื้อผ้าสวยๆ เยอะเลย ชายหนุ่มเดินตามหลังพลอยไพลินที่กำลังเดนิเข้าไปในร้าน...
“อะไรคนเรามันจะซวยได้อย่างนี้น่ะ” พลอยไพลินมองเห็นคนที่อยู่ในร้านก่อนหน้านี้ เธอก็บ่นออกมาอย่างเสนจะเบื่อหน่ายที่ต้องมาเจอกันที่นี่
“อะไรเหรอวะพลอย?” เขมวันต์ที่เดินนำหน้าเพื่อนสาวหันมาถามอย่างข้องใจว่าเพื่อนบ่นอะไรและเห็นใครที่นี่
“จะอะไรซะอีกละ...” เธอบอกยังไม่ทันจบดีด้วยซ้ำคู่กรณีก็ตรงมาที่เธอยืนอยู่ทันที และเธอเห็นด้วยว่าเธอมากับผู้ชายหน้าตาดีอีกคนด้วย
“ต้าย! ไม่คิดว่าจะมาเจอกันที่นี่นะเนี่ย...มีปัญญามาซื้อของที่ห้างฯ นี้ด้วยเหรอพลอย...” หญิงสาวที่เดินเข้ามาทักนามว่าอุมาพร ธรรมกร ลูกสาวของพ่ออีกคนที่เขามีตั้งแต่ที่ยังอยู่กับแม่ของเธอเรียกง่ายๆ ก็คือลูกชู้นั่นละ..แต่อีกฝ่ายร่ำรวยเลยไม่สะทกสะท้าน
“อืม..มีไม่มีฉันก็มีปัญญามาเดินแล้วกันละ..” เธอตอบคืนสีหน้าไม่เปลี่ยนซักนิดเดียว
“โถๆ คงแค่มีปัญญามาเดินดูของเท่านั้นละ..คงไม่ขโมยของห้างฯ จนโดนเขาจับเอาละ...แล้วอย่าบอกคนอื่นเขาละว่าพ่อเธอชื่ออะไร” อุมาพรมองอีกฝ่ายอย่างเหยียดๆ เธอเกลียดลูกเก่าพ่อเธอมาก เธอโดนฝังหัวมาตั้งแต่เด็กแล้วว่าครอบครัวนี้จะมาแย่งทุกอย่างไปจากพ่อและเธอ
“หึๆ คนอย่างนั้นน่ะเหรอ..ฉันไม่นับว่าเขาเป็นพ่อของฉันหรอก ฉันไม่บอกใครหรอกว่ามีพ่อน่ะ เท่าที่ฉันจำได้ผู้ชายคนนั้นไม่ได้มีความสำคัญอะไรกับชีวิตพวกฉันตั้งแต่ที่เขาเก็บเจ้านั่นไว้ไม่อยู่จนเกิดเธอขึ้นมาไงละ...อย่างเธอน่ะก็แค่ลูกชู้เท่านั้นละ..” เธอกอดอกมองหน้าอีกฝ่ายอย่างเหนือกว่า เพราะยังไงซะแม่ของเธอก็เป็นเมียที่ถูกต้องก่อนที่เขาจะหย่าขาดจากกันและอีกฝ่ายเกิดมาตอนที่แม่เธอกับผู้ชายคนนั้นยังมีทะเบียนสมรสกันอยู่
“กรี้ด!!! นังพลอย...แกกล้าดียังไง..เชอะ...อย่างแกน่ะไม่มีอะไรเหนือกว่าฉันซักอย่าง...ดูหน้าตาหล่อนรึก็แสนจะจืดชืดคงไม่มีปัญญาหาผู้ชายหล่อๆ รวยๆ มาเป็นคนรักหรอก...อย่างแกน่ะคงหาได้แค่ไอ้พวกกุ้ยเท่านั้นละ...” อุมาพรกรี้ดลั่นไม่สนใจผู้ชายที่มาด้วยพยายามที่จะดึงให้เธออกไปจากร้านเพราะคนเริ่มมองกันแล้ว
เหมวันต์มองทั้งคู่อย่างประเมินสถานการณ์ เขาเห็นว่าอีกฝ่ายเดินเข้ามาหาเรื่องและเท่าที่ฟังก็พอจะเดาออกได้ไม่ยากว่าอีกฝ่ายเป็นใคร มิน่าละน้องสาวเขาถึงบอกว่าลูกเมียใหม่พ่อของพลอยไพลินชอบแข่งขันกับเธอมาก แม้ว่าจะสู้ไม่ได้
“เหอะ..ขอโทษทีเถอะนะผู้ชายหล่อๆ น่ะฉันมีปัญญาหาหรอกยะ...แล้วก็นะอย่างผู้ชายคนนั้นน่ะเหรอที่เธอว่าหล่อ...สู้แฟนฉันก็ไม่ได้หล่อกว่าตั้งเยอะ..แถมรวยกว่าเธอไม่รู้กี่เท่าใช่มั้ยคะพี่ใหญ่” เธอลากเสียงหวานแถมยังคว้าแขนของอีกฝ่ายมากอดเอาไว้ และมองอุมาพรอย่างเหนือกว่าความจริงเธอไม่ต้องไปงัดข้อกับอีกฝ่ายก็ได้แต่เธอเบื่อมากกว่าที่อีกฝ่ายไม่ยอมเลิกราและหาเรื่องครอบครัวเธอเสียที เมื่ออยากมีเรื่องเธอก็จัดให้อยู่แล้ว
“กรี้ด! แกโกหกอย่างแกน่ะเหรอจะมีปัญญา...” อุมาพรกรี้ดลั่นเมื่ออีกฝ่ายควงผู้ชายคนหนึ่งมาอวดเธอ และเท่าที่เธอเห็นอีกฝ่ายก็เหนือกว่าคนรักของเธอย่างไม่ต้องสงสัย
“ขอโทษทีเถอะผมฟังมานานแล้วนะ..คุณเป็นอะไรมากรึเปล่า...แล้วก็เข้ามาหาเรื่องคนรักของผมน่ะ..ขืนคุณยังไม่เลิกและมาหาเรื่องคนรักผมต่อไปอย่าหาว่าผมโหดแล้วกันนะ...รับรองว่าผมคงไม่อยู่เฉยอีกแล้ว..จากนี้ไปผมจะทำทุกอย่างให้คุณไม่สามารถมารังควานคนรักของผมได้อีก” เหมวันต์เอ่ยเสียงเฉียบขาด เมื่ออีกฝ่ายเอาแต่กรี้ดๆ อยู่นั่นละ และเขาไม่พอใจอย่างมากที่คนที่เขามีใจโดนรังแกอย่างนี้ คนเรามันก็ต้องเอาคืนกันบ้าง
อุมาพรได้แต่ยืนหน้าซีดหลังจากที่ได้ยินอีกฝ่ายพูดจบ เธอไม่รู้จักผู้ชายคนนี้แต่เธอรู้ว่าเขาน่ากลัว และมีรังสีที่น่าเกรงขามอยู่ไม่น้อย
“แต่ฉันไม่กลัวหรอกนะ...อย่างแกน่ะไปคว้าผู้ชายที่ไหนมาก็ไม่รู้..” อุมาพรก็ยังปากดีหาเรื่องไม่เลิก
“นี่..ปากเธอน่ะเสียมากเลยนะอุมาพรแล้วก็อย่าคิดว่าคนอื่นเขาจะเหมือนตัวเองซิที่เรียนอะไรก็ไม่ได้เรื่องแล้วก็สอบไม่ติดซักที่จนต้องไปเรียนเอกชนน่ะะ...แล้วก็รู้เอาไว้นะว่าพี่ชายฉันน่ะไม่ใช่คนที่จะล้อเล่นได้ง่ายๆ เขาเอาเรื่องหล่อนแน่ครอบครัวหล่อนอีกระวังตัวเองไว้เถอะ..เธอมาหาเรื่องคนรักของเขาอย่างนี้ เมื่อก่อนเขาไม่ถือสาเพราะไม่เจอต่อหน้าแต่ตอนนี้คิดเหรอว่าพี่เขาจะยอมปล่อยไปน่ะ...นั่นเท่ากับว่าเขาไม่สามารถปกป้องคนรักของเขาได้น่ะซิ...” เขมวันต์อดใจไม่อยู่ที่เอาแต่ทนฟังอีกฝ่ายหาเรื่องเพื่อนเธออย่างนี้และเธอเชื่อว่าพี่ชายเธอเอาจริงอย่างที่พูดแน่
“แล้วก็อีกอย่างที่เธอว่าเธอกับพลอยคนละระดับกันน่ะ...ฉันก็เห็นด้วยนะเพราะว่าเพื่อนฉันอยู่สูงกว่าเธอและครอบครัวเธอเยอะเลย..เป็นไงละที่วันนี้เขาไม่ได้ต้อยต่ำติดดินอย่างที่เธอกับแม่เธอต้องการตอนนี้เขาเหนือกว่าพวกเธอเยอะและมีคุณค่ามากกว่าที่เธอจะบังอาจมาว่าเขาอย่างนี้” เธอยังคงว่าต่อไป นี่เป็นเรื่องจริงล้วนๆ ไม่ใช่วาเธอจะยกเพื่อนตัวเองแต่ว่าพลอยไพลินเองก็มีครอบครัว ฐานะที่มั่นคงและมีงานที่เธอทำตลอดเวลาที่เธอร่ำเรียน จนมีเงินใช้เองไม่ต้องขอแม่กับพี่สาวใช้ แต่ครอบครัวก็ไม่เคยที่จะละเลยที่จะเอาเงินให้อีกฝ่ายเสมอๆ
“หุบปากแกไปเลยนังสาม..อย่างพวกแกจะไปทำอะไรได้นอกจากเห่าเท่านั้นเอง..” อุมาพรชี้หน้าเขมวันต์ที่บังอาจมาว่าเธอและแม่ของเธอ เรื่องอย่างนี้เธอไม่ยอม
“พี่ว่าเราไปกันเถอะพอลลี่...อย่าไปมีเรื่องเลยนะ..ดูซิคนเขามองกันใหญ่แล้ว” ฐานัสแฟนหนุ่มของอุมาพรพยายามดึงแฟนสาวให้ออกไปจากที่นี่เสียที เขาอายคนอย่างมาก
“เอ้ะ! พี่นัสอย่าห้ามพอลลี่น่ะเรื่องนี้จะไปยอมพวกมันทำไมละ...” เธอหันไปตะวาดแฟนหนุ่มที่เธอแสนจะภูมิใจเหลือเกินเพราะหน้าตาที่หล่อเหลาอย่างหนุ่มตี๋ และสูง 170 ซม. รูปร่างดี เหมาะกับเธอทุกอย่างและพอที่จะเอาไปข่มพลอยไพลินได้
“ถ้าอยากจะอยู่ก็อยู่ไปเถอะพี่ไปละ..อายคนเขา ถ้ารู้ว่าจะเป็นอย่างนี้นะพี่ไม่มากับเราหรอก” ฐานัสปล่อยมือแฟนสาวแล้วเดินจากไปทันที เขาไม่ทนอยู่ที่นี่หรอก เพราะเริ่มมีคนมากมองอย่างสนใจและเริ่มจับกลุ่มพูดกันแล้ว คนอย่างเขาไม่ต้องเอาตัวมาเป็นที่สนใจอย่างนี้หรอก และเขก็รู้ด้วยว่าผู้ชายที่มองพวกเขาทั้งคู่ตาวาวโรจน์นี้เป็นใคร และมีอำนาจแค่ไหนที่เขาพูดว่าจะจัดการน่ะคงทำได้จริงแน่ เขาไม่อยากจะติดร่างแหไปด้วย อนาคตเขายังอีกยาวไกล
“กรี้ด! พี่นัสกลับมาเดี๋ยวนี้นะอย่ามาทิ้งพอลลี่อย่างนี้นะ..กลับมา” เธอกรี้ดลั่นเมื่อคนรักของเธอเดินจากไปทิ้งให้เธออยู่ตรงนี้คนเดียว
“ไง...จะอยู่หาเรื่องต่อก็ได้นะ ตอนนี้กำลังได้ที่เลย” พลอยไพลินมองหน้าอีกฝ่ายกวนๆ ตอนนี้เธอพร้อมจะมีเรื่องแล้วหากว่าอีกฝ่ายอยากมีเรื่องต่อ..เธอหมดอารมณ์ดูของแล้วด้วย
“ฝากไว้ก่อนเถอะ..เรื่องไม่จบแค่นี้แน่..” อุมาพรยังไม่วายพูดทับอีกรอบก่อนจะเดินจากไป เธอไม่ยอมหรอกเรื่องนี้แม่เธอต้องรู้เรื่อง และพ่อต้องรับผิดชอบเพราะนังนั่นเป็นลูกเขาด้วย
“โธ่..คิดว่าจะแน่..” มองตามหลังอีกฝ่ายไปแล้วส่ายหน้าอย่างระอาใจกับอีกฝ่ายเหลือเกินที่ไม่ยอมต่างคนต่างอยู่อย่างที่เธอกับครอบครัวต้องการทั้งที่เธอและครอบครัวไม่เคยไปหาเรื่องราวีอีกฝ่ายแม้แต่น้อย
“พี่ว่าเรากลับกันเถอะ...ขืนอยู่นี่นานๆ คงเป็นข่าวหน้าหนึ่งแน่...” เหมวันต์แตะแขนเธอเบาๆ เป็นการเตือน วันนี้เขาไม่รู้ว่าจะบังเอิญมีนักข่าวมาอยู่แถวนี้หรอกว่ามีคนที่บังเอิญรู้จักหน้าตาเขาและเอาข่าวไปส่งให้สำนักพิมพ์รึเปล่า
“ค่ะ..พลอยขอโทษด้วยนะคะที่เกิดเรื่อง...ถ้าเกิดว่า..เป็นข่าวละคะ..พลอยไม่อยากให้พี่ใหญ่เดือดร้อนเพราะพลอยน่ะค่ะ..” เธอรู้ว่าคนอย่างเหมวันต์แค่ขยับนิดเดียวก็เป็นข่าวแล้ว วันนี้ยิ่งกว่าขยับตัวเสียอีก แถมเขายังยอมเล่นละครกับเธอเสียอีก เกิดมีคนมือดีได้ยินเข้าและเอาไปเล่นข่าวละ...
“ไม่หรอกเรื่องเล็ก...ถือว่าหายกันแล้วนะ..เราสองคน” ชายหนุ่มยิ้มอบอุ่นให้เธอสบายใจ เขาไม่สนใจเรื่องที่นักข่าวจะเอาไปเขียนเรื่องเขาและเธอเป็นคนรักกัน...ดีเสียอีกจะได้ง่ายขึ้นกับการที่จะพูดคุยกับเธอ..แต่เขาห่วงเรื่องครอบครัวเธอมากกว่า
“หา...อ๋อ...ค่ะ” เธอพยักหน้ารับอย่างเพิ่งนึกออกมาเขาหมายถึงเรื่องอะไร
“เป็นไรพี่ทาร่า?” ทารินีน้องสาวเพียงคนเดียวของทาริกา เธอต่างจากพี่สาวตัวเองอย่างสิ้นเชิงไม่ใช่เรื่องหน้าตาแต่เป็นนิสัยเสียมากกว่า ทารินีเป็นคนเรียบง่ายและใช้ชีวิตสบายๆ เธอเป็นพนักงานการตลาดของบริษัทของเหมวันต์ เธอไม่สนใจเข้าวงการอย่างพี่สาวแม้จะมีหลายคนมาชวนให้ไปทำงานก็ตาม แต่เธอเคยทำตอนที่เรียนอยู่แต่ตอนนี้เธอตั้งใจทำงานเพียงอย่างเดียว
ทารินีเป็นสาวผิวสีน้ำผึ้ง หุ่นบางสวยเฉี่ยว สูง 175 ซม. ผมยาว เรียกได้ว่าเธอเหมาะมากในการที่จะเป็นนางแบบแต่เธอคิดว่าอาชีพอย่างนี้ไม่ยั่งยืน เธอเลยเลือกที่จะทำอาชีพประจำมากกว่า แม้ว่าจะได้เงินไม่มากเท่าที่พี่สาวเธอได้ แต่ว่าการทำงานประจำอย่างนี้ก็ทำให้เธอไม่ทำตัวฟุ่มเฟือยมากมายแต่รายได้จากการทำงานของเธอก็ถือว่าดีพอควร ไม่งั้นคงไม่มีใครๆ อยากจะพากันมาทำงานที่นี่หรอก ที่นี่เข้ายากจะตายไป และคนเก่าก็ไม่ค่อยจะลาออกด้วยเว้นแต่เกษียณ หรือว่าออกไปแต่งงาน ไม่งั้นตำแหน่งว่างยาก เว้นแต่จะรับเพิ่มเท่านั้น
“จะอะไรซะอีกละยัยรีนี่..ก็คุณใหญ่น่ะซิเขาบอกว่าไม่ได้คิดอะไรกับฉัน่ะ” ทาริกาตะโกนออกไปเสียงดัง ยิ่งเห็นน้องสาวที่ไม่ได้ดั่งใจเธอเลยซักอย่างทำงานอยู่ในบริษัทของเหมวันต์แทนที่จะช่วยเธอเป็นหูเป็นตา แต่กลับไม่ช่วยเธอซักอย่างเลย มีแต่ว่าไม่รู้เรื่องหรือไม่ก็ไม่เห็นอะไรทั้งนั้น
“อะไรอีกละ...ฉันก็เห็นอยู่ว่าท่านประธานก็ไม่ได้มีทีท่ากับพี่ซักหน่อย มีแต่พี่เท่านั้นนี่นาที่พูดเอาเอง” ทารินีถอนใจอย่างเบื่อหน่ายเมื่อไหร่พี่สาวเธอจะยอมรับเสียทีว่าผู้ชายเขาไม่ได้มีใจให้เลยแม้แต่น้อย
“นี่..นังรีนี่..ถ้าแกไม่คิดจะช่วยก็ไม่ต้องยื่นปากพูดมาก..รู้เอาไว้ว่าฉันไม่ยอมง่ายๆ หรอก
นะ..ฉันหวังไว้มากกับเขา” เธอชี้หน้าน้องสาวที่ยืนเอนอยู่ขอบตู้ที่อยู่ไม่ไกลมากนัก
“หึๆ คิดเอาเองคนเดียวรึเปล่าพี่ทาร่า..เท่าที่ฉันเห็นนะผู้ชายเขาไม่ได้มีท่าทีเลยนี่นา” ทารินีได้
แต่หัวเราะออกมาเสียงดัง เธอเห็นด้วยตาเธอเองด้วยซ้ำ มีแต่พี่สาวเธอทั้งนั้นที่พยายามทำตัวให้มีข่าวกับเขา แม้คนอื่นอาจจะคิดว่าฝ่ายชายมีใจ แต่สำหรับเธอแล้วดูออกหรอกว่าผู้ชายเขาไม่อยากพูดมาก
“แก..แกนังรีนี่...หนอย..อย่างแกน่ะเป็นน้องฉันซะเปล่าแทนที่แกจะมาขัดฉันทุกอย่างอย่างนี้ แกควรจะมาหาทางช่วยฉันคิดจะมากกว่าว่าจะทำยังไงให้เขามาเป็นของฉันน่ะ...” ทาริกามองหน้าน้องสาวเขม็งอย่างไม่พอใจ ที่อีกฝ่ายพูดขัดเธอตลอดเวลา ตอนนี้เธอยิ่งกลุ้มอยู่ด้วย ยิ่งเธอเห็นสายตาเขามองนังเด็กนั่นเธอยิ่งไม่สบายใจ เธอกลัว...กลัวว่าเธอจะเสียเขาให้นังเด็กคนนั้นจริงๆ
“เอ้า..ฉันเตือนพี่ไปหลายครั้งแล้วนะว่าให้ตัดใจแล้วมองคนอื่นที่เขามีใจให้จะไม่ดีกว่าเหรอ...พี่มาตามตื้อเขาอย่างนี้น่ะฉันว่ามันไม่มีประโยชน์เลยนะ...” ทารินีบอกพี่สาวอย่างคนที่มองโลกความเป็นจริงไม่รู้ว่าพี่สาวเธอเมื่อไหร่จะเลิกฝันลมๆ แล้งๆ อย่างนี้เสียที เพราะเธอเห็นแต่ความว่างเปล่าเท่านั้นที่รอพี่สาวเธออยู่ ขืนดันทุรังมากๆ เหมวันต์เกิดไม่พอใจและทำอะไรขึ้นมาพี่สาวเธอหรือจะไปสู้เขาได้ ในเมื่อเขามีทุกอย่างอยู่ในมือเขาอยู่แล้ว ถ้าเขาคิดจะทำ เธอเองก็ยังคิดไม่ออกเลยหากว่าชายหนุ่มคนนั้นคิดจะกำจัดพี่สาวเธอแล้วพี่สาวเธอจะเหลืออะไรอยู่รึเปล่า...
“เชอะ...ฉันไม่ยอมหรอกนะ..ยังไงเขาก็ต้องเป็นของฉันคนเดียวเท่านั้นคนอื่นไม่มีสิทธิ์หรอก...ยิ่งนังเด็กนั่นยิ่งไม่มีสิทธิ์หรอก” เธอบอกกับตัวเองอย่างนั้น แต่สิ่งที่เธอได้เห็นเองกับตาทำให้เธออดที่จะหวั่นไหวไม่ได้ เธอต้องหาทางกำจัดนังเด็กนั่นให้พ้นทางรักของเธอซะแล้ว
“พี่ทาร่าเลิกหลอกตัวเองเถอะนะ..เห็นๆ อยู่ว่าสายตาของท่านประธานน่ะมีน้องคนนั้นคนเดียวไม่เห็นตอนที่เขามองน้องเขาเหรอ?” บังเอิญเธอลงไปทำธุระด้านล่างและได้มีโอกาสเห็นภาพนั้นพอดี และเธอก็ค่อนข้างมั่นใจว่าหญิงสาวที่เจ้านายใหญ่ประคองเดินเข้าไปในลิฟต์พร้อมน้องสาวท่านเอง ต้องมีความสำคัญในวันข้างหน้าอย่างไม่ต้องสงสัย
“กรี้ดเ!!! หุบปากเน่าๆ ของแกไปเลยนะนังรีนี่” ทาริกาชี้หน้าน้องสาวพลางเต้นเร่าๆ อย่างไม่พอใจที่น้องสาวพูดอย่างนี้และมันก็แสลงใจเธออย่างมาก
“เอ้า...มาทำเป็นรับไม่ได้ฉันพูดความจริงแท้ๆ” เธอตีหน้าซื่ออย่างไม่สนใจสิ่งที่พี่สาวทำมากนัก
“ไป้! ถ้าแกไม่คิดจะช่วยหรือให้กำลังใจฉันเลยก็ไปไกลๆ ฉันเลย...คอยดูเถอะฉันทำสำเร็จเมื่อไหร่แกไม่ต้องมาขอสวนบุญแล้วกัน” เธอไล่ให้น้องสาวไปไกลๆ เธอหน่อยตอนนี้ ไม่งั้นเธออาจจะลงไม้ลงมือกับน้องสาวก็เป็นได้ ข้อหาขัดเธอเสียทุกเรื่องอย่างนี้ แล้วไหนจะพูดจากแสลงหูอีกละ...
“เชอะ...ไปก็ได้...พวกไม่ยอมรับความจริง” ก่อนจะไปยังพูดทิ้งท้ายเอาไว้อีกตะหาก และเธอก็ยังเห็นว่าพี่สาวคว้าหนังสือขว้างมาที่เธอด้วย ดีว่าเธอหลบทันไม่งั้นวันนี้คงได้เลือดกันบ้างละ..
“นี่...กะจะเล่นให้เห็นเลือดเลยเหรอเนี่ย” ทารินีหันมาว่าพี่สาวตัวเองเสียงดังเมื่ออีกฝ่ายลอยหน้าลอยตาอย่างไม่รู้สึกผิดเลยแม้แต่น้อยที่เกือบทำร้ายร่างกายเธอ
“แกน่ะไม่น่าเกิดเป็นน้องฉันเลย...” ตะวาดน้องสาวเสียงเกรี้ยวกราด ยิ่งเห็นท่าทางอย่างนี้ด้วยแล้ว
“เชอะ...ถ้าฉันเลือกได้ก็ไม่อยากเป็นน้องพี่หรอกนะ..แต่มันเลือกไม่ได้ ทางที่ดีพี่น่าจะพึงสังวรเอาไว้ดีกว่านะว่าผู้ชายเขาไม่ได้แยแสเลยแม้แต่นิดเดียว” ทารินีบอกเสียงเรียบ เธอรู้อยู่แล้วต่อให้พูดปากจะฉีกถึงหูอีกฝ่ายก็คงไม่ยอมฟังเสียงหรอก นิสัยชอบเอานะอย่างนี้น่ะ
“ไปไกลๆ เลยก่อนที่ฉันจะฆ่าแกนังรีนี่..” อีกฝ่ายได้แต่เต้นเร่าๆ อย่างไม่พอใจหนัก และยิ่งน้องสาวเดินลอยหน้าจากไปอย่างไม่แยแสเธอเลยซักนิดเดียว
สองสาวเพื่อนรักเดินเข้าร้านนู้นออกร้านนี้อย่างสนุกสนาน ยิ่งเป็นเรื่องเสื้อผ้าแล้วสองสาวนี่สู้ตาย แต่ไม่ใช่ว่าจะซื้อเฉพาะเสื้อผ้าที่ราคาแพง แต่ราคาถูกพวกเธอก็สนเหมือนกันเพราะว่าแบบสวยถูกใจ ตอนนี้คนที่เป็นเจ้ามือถึงกับต้องถอดเสื้อสูทออกไปเพราะว่าร้อนทั้งๆ ที่ในห้างนี้เปิดเย็นมากแค่ไหน แต่การเดินนานๆ ก็ทำให้เขาเหงื่อออกได้เหมือนกัน
เดินไปได้หนึ่งชั่วโมงพลอยไพลินก็เดินแยกตัวออกไปแล้วกลับมาพร้อมแก้วน้ำสำหรับทั้งสามคน เธอเดินกลับมาแล้วยื่นแก้วน้ำให้เขาและชายหนุ่มกำลังจะคืนเงินให้
“โหย..ไม้ต้องหรอกค่ะพี่ใหญ่แค่นี้เอง แล้วพี่ใหญ่ก็จ่ายไปเยอะแล้วด้วย” เธอรีบห้ามเขาน้ำแก้วไม่กี่บาทอย่างนี้ เธอซื้อน้ำชามะนาวมาให้เขาส่วนเธอและเพื่อนสาวเธอเลือกน้ำสตอเบอรี่ปั่นคนละแก้ว
“ขอบใจมากนะพลอยพี่ก็กำลังคอแห้งพอดีเลย ว่าแต่เราสองคนนี่ไม่เหนื่อยบ้างเหรอ?” เขาถามเธอยิ้มๆ พลางยกแก้วน้ำขึ้นดื่ม และเขาก็ไม่เห็นท่าทีเหนื่อยอ่อนจากแววตาของเธอเลย
“ไม่หรอกค่ะ...จะเหนื่อยอีกทีก็ตอนที่กลับบ้านไปแล้วละค่ะ” เธอบอกความจริง ก็เธอจะเหนื่อยสุดๆ ตอนกลับบ้านเพราะว่าตอนเดินซื้อของไม่มีความเหน็ดเหนื่อยเลยนี่นา จะเหนื่อยก็ตอนที่กลับไปถึงบ้านนั่นละ...
“เหรอ..แปลกจังเลยนะ..สาวๆ นี่ทนกันจังเลย” เขาบอกย่างทึ่งๆ ไม่คิดว่าจะเดินกันได้ทนอย่างนี้ขนาดว่าเขาเป็นผู้ชายแท้ๆ ยังเหนื่อยแทบขาดใจเลย ขนาดว่าเขาออกกำลังกายเป็นประจำนะเนี่ย
“อิๆ เรื่องมหัศจรรย์ของผู้หญิงค่ะ..เรื่องนี้สู้ตายกันทุกคนแหละค่ะ ต่อให้ไม่ได้ซื้ออะไรเลยขอแค่ให้ได้เดินก็มีความสุขแล้วค่ะ” เธอได้แต่หัวเราะน้อยๆ กับสีหน้าทึ่งจัดของอีกฝ่ายที่ได้รับรู้เรื่องทีเธอเพิ่งจะบอก
“อืม..อย่างพวกพี่น่ะส่วนใหญ่แค่จะมาซื้อๆ ให้เสร็จแล้วก็ไปเสียมากกว่าที่จะมาเดินแบบนี้” อย่างเขาต้องการอะไรก็มาซื้อแล้วก็กลับไม่เดินอย่างนี้หรอก
พอหายเหนื่อยแล้ว...ทั้งสามคนก็เดินเข้าไปดูเสื้อกันต่อ เพราะเป็นร้านที่พวกเธอมาประจำ แต่ไม่ใช่ร้านดังอะไร แต่มีเสื้อผ้าสวยๆ เยอะเลย ชายหนุ่มเดินตามหลังพลอยไพลินที่กำลังเดนิเข้าไปในร้าน...
“อะไรคนเรามันจะซวยได้อย่างนี้น่ะ” พลอยไพลินมองเห็นคนที่อยู่ในร้านก่อนหน้านี้ เธอก็บ่นออกมาอย่างเสนจะเบื่อหน่ายที่ต้องมาเจอกันที่นี่
“อะไรเหรอวะพลอย?” เขมวันต์ที่เดินนำหน้าเพื่อนสาวหันมาถามอย่างข้องใจว่าเพื่อนบ่นอะไรและเห็นใครที่นี่
“จะอะไรซะอีกละ...” เธอบอกยังไม่ทันจบดีด้วยซ้ำคู่กรณีก็ตรงมาที่เธอยืนอยู่ทันที และเธอเห็นด้วยว่าเธอมากับผู้ชายหน้าตาดีอีกคนด้วย
“ต้าย! ไม่คิดว่าจะมาเจอกันที่นี่นะเนี่ย...มีปัญญามาซื้อของที่ห้างฯ นี้ด้วยเหรอพลอย...” หญิงสาวที่เดินเข้ามาทักนามว่าอุมาพร ธรรมกร ลูกสาวของพ่ออีกคนที่เขามีตั้งแต่ที่ยังอยู่กับแม่ของเธอเรียกง่ายๆ ก็คือลูกชู้นั่นละ..แต่อีกฝ่ายร่ำรวยเลยไม่สะทกสะท้าน
“อืม..มีไม่มีฉันก็มีปัญญามาเดินแล้วกันละ..” เธอตอบคืนสีหน้าไม่เปลี่ยนซักนิดเดียว
“โถๆ คงแค่มีปัญญามาเดินดูของเท่านั้นละ..คงไม่ขโมยของห้างฯ จนโดนเขาจับเอาละ...แล้วอย่าบอกคนอื่นเขาละว่าพ่อเธอชื่ออะไร” อุมาพรมองอีกฝ่ายอย่างเหยียดๆ เธอเกลียดลูกเก่าพ่อเธอมาก เธอโดนฝังหัวมาตั้งแต่เด็กแล้วว่าครอบครัวนี้จะมาแย่งทุกอย่างไปจากพ่อและเธอ
“หึๆ คนอย่างนั้นน่ะเหรอ..ฉันไม่นับว่าเขาเป็นพ่อของฉันหรอก ฉันไม่บอกใครหรอกว่ามีพ่อน่ะ เท่าที่ฉันจำได้ผู้ชายคนนั้นไม่ได้มีความสำคัญอะไรกับชีวิตพวกฉันตั้งแต่ที่เขาเก็บเจ้านั่นไว้ไม่อยู่จนเกิดเธอขึ้นมาไงละ...อย่างเธอน่ะก็แค่ลูกชู้เท่านั้นละ..” เธอกอดอกมองหน้าอีกฝ่ายอย่างเหนือกว่า เพราะยังไงซะแม่ของเธอก็เป็นเมียที่ถูกต้องก่อนที่เขาจะหย่าขาดจากกันและอีกฝ่ายเกิดมาตอนที่แม่เธอกับผู้ชายคนนั้นยังมีทะเบียนสมรสกันอยู่
“กรี้ด!!! นังพลอย...แกกล้าดียังไง..เชอะ...อย่างแกน่ะไม่มีอะไรเหนือกว่าฉันซักอย่าง...ดูหน้าตาหล่อนรึก็แสนจะจืดชืดคงไม่มีปัญญาหาผู้ชายหล่อๆ รวยๆ มาเป็นคนรักหรอก...อย่างแกน่ะคงหาได้แค่ไอ้พวกกุ้ยเท่านั้นละ...” อุมาพรกรี้ดลั่นไม่สนใจผู้ชายที่มาด้วยพยายามที่จะดึงให้เธออกไปจากร้านเพราะคนเริ่มมองกันแล้ว
เหมวันต์มองทั้งคู่อย่างประเมินสถานการณ์ เขาเห็นว่าอีกฝ่ายเดินเข้ามาหาเรื่องและเท่าที่ฟังก็พอจะเดาออกได้ไม่ยากว่าอีกฝ่ายเป็นใคร มิน่าละน้องสาวเขาถึงบอกว่าลูกเมียใหม่พ่อของพลอยไพลินชอบแข่งขันกับเธอมาก แม้ว่าจะสู้ไม่ได้
“เหอะ..ขอโทษทีเถอะนะผู้ชายหล่อๆ น่ะฉันมีปัญญาหาหรอกยะ...แล้วก็นะอย่างผู้ชายคนนั้นน่ะเหรอที่เธอว่าหล่อ...สู้แฟนฉันก็ไม่ได้หล่อกว่าตั้งเยอะ..แถมรวยกว่าเธอไม่รู้กี่เท่าใช่มั้ยคะพี่ใหญ่” เธอลากเสียงหวานแถมยังคว้าแขนของอีกฝ่ายมากอดเอาไว้ และมองอุมาพรอย่างเหนือกว่าความจริงเธอไม่ต้องไปงัดข้อกับอีกฝ่ายก็ได้แต่เธอเบื่อมากกว่าที่อีกฝ่ายไม่ยอมเลิกราและหาเรื่องครอบครัวเธอเสียที เมื่ออยากมีเรื่องเธอก็จัดให้อยู่แล้ว
“กรี้ด! แกโกหกอย่างแกน่ะเหรอจะมีปัญญา...” อุมาพรกรี้ดลั่นเมื่ออีกฝ่ายควงผู้ชายคนหนึ่งมาอวดเธอ และเท่าที่เธอเห็นอีกฝ่ายก็เหนือกว่าคนรักของเธอย่างไม่ต้องสงสัย
“ขอโทษทีเถอะผมฟังมานานแล้วนะ..คุณเป็นอะไรมากรึเปล่า...แล้วก็เข้ามาหาเรื่องคนรักของผมน่ะ..ขืนคุณยังไม่เลิกและมาหาเรื่องคนรักผมต่อไปอย่าหาว่าผมโหดแล้วกันนะ...รับรองว่าผมคงไม่อยู่เฉยอีกแล้ว..จากนี้ไปผมจะทำทุกอย่างให้คุณไม่สามารถมารังควานคนรักของผมได้อีก” เหมวันต์เอ่ยเสียงเฉียบขาด เมื่ออีกฝ่ายเอาแต่กรี้ดๆ อยู่นั่นละ และเขาไม่พอใจอย่างมากที่คนที่เขามีใจโดนรังแกอย่างนี้ คนเรามันก็ต้องเอาคืนกันบ้าง
อุมาพรได้แต่ยืนหน้าซีดหลังจากที่ได้ยินอีกฝ่ายพูดจบ เธอไม่รู้จักผู้ชายคนนี้แต่เธอรู้ว่าเขาน่ากลัว และมีรังสีที่น่าเกรงขามอยู่ไม่น้อย
“แต่ฉันไม่กลัวหรอกนะ...อย่างแกน่ะไปคว้าผู้ชายที่ไหนมาก็ไม่รู้..” อุมาพรก็ยังปากดีหาเรื่องไม่เลิก
“นี่..ปากเธอน่ะเสียมากเลยนะอุมาพรแล้วก็อย่าคิดว่าคนอื่นเขาจะเหมือนตัวเองซิที่เรียนอะไรก็ไม่ได้เรื่องแล้วก็สอบไม่ติดซักที่จนต้องไปเรียนเอกชนน่ะะ...แล้วก็รู้เอาไว้นะว่าพี่ชายฉันน่ะไม่ใช่คนที่จะล้อเล่นได้ง่ายๆ เขาเอาเรื่องหล่อนแน่ครอบครัวหล่อนอีกระวังตัวเองไว้เถอะ..เธอมาหาเรื่องคนรักของเขาอย่างนี้ เมื่อก่อนเขาไม่ถือสาเพราะไม่เจอต่อหน้าแต่ตอนนี้คิดเหรอว่าพี่เขาจะยอมปล่อยไปน่ะ...นั่นเท่ากับว่าเขาไม่สามารถปกป้องคนรักของเขาได้น่ะซิ...” เขมวันต์อดใจไม่อยู่ที่เอาแต่ทนฟังอีกฝ่ายหาเรื่องเพื่อนเธออย่างนี้และเธอเชื่อว่าพี่ชายเธอเอาจริงอย่างที่พูดแน่
“แล้วก็อีกอย่างที่เธอว่าเธอกับพลอยคนละระดับกันน่ะ...ฉันก็เห็นด้วยนะเพราะว่าเพื่อนฉันอยู่สูงกว่าเธอและครอบครัวเธอเยอะเลย..เป็นไงละที่วันนี้เขาไม่ได้ต้อยต่ำติดดินอย่างที่เธอกับแม่เธอต้องการตอนนี้เขาเหนือกว่าพวกเธอเยอะและมีคุณค่ามากกว่าที่เธอจะบังอาจมาว่าเขาอย่างนี้” เธอยังคงว่าต่อไป นี่เป็นเรื่องจริงล้วนๆ ไม่ใช่วาเธอจะยกเพื่อนตัวเองแต่ว่าพลอยไพลินเองก็มีครอบครัว ฐานะที่มั่นคงและมีงานที่เธอทำตลอดเวลาที่เธอร่ำเรียน จนมีเงินใช้เองไม่ต้องขอแม่กับพี่สาวใช้ แต่ครอบครัวก็ไม่เคยที่จะละเลยที่จะเอาเงินให้อีกฝ่ายเสมอๆ
“หุบปากแกไปเลยนังสาม..อย่างพวกแกจะไปทำอะไรได้นอกจากเห่าเท่านั้นเอง..” อุมาพรชี้หน้าเขมวันต์ที่บังอาจมาว่าเธอและแม่ของเธอ เรื่องอย่างนี้เธอไม่ยอม
“พี่ว่าเราไปกันเถอะพอลลี่...อย่าไปมีเรื่องเลยนะ..ดูซิคนเขามองกันใหญ่แล้ว” ฐานัสแฟนหนุ่มของอุมาพรพยายามดึงแฟนสาวให้ออกไปจากที่นี่เสียที เขาอายคนอย่างมาก
“เอ้ะ! พี่นัสอย่าห้ามพอลลี่น่ะเรื่องนี้จะไปยอมพวกมันทำไมละ...” เธอหันไปตะวาดแฟนหนุ่มที่เธอแสนจะภูมิใจเหลือเกินเพราะหน้าตาที่หล่อเหลาอย่างหนุ่มตี๋ และสูง 170 ซม. รูปร่างดี เหมาะกับเธอทุกอย่างและพอที่จะเอาไปข่มพลอยไพลินได้
“ถ้าอยากจะอยู่ก็อยู่ไปเถอะพี่ไปละ..อายคนเขา ถ้ารู้ว่าจะเป็นอย่างนี้นะพี่ไม่มากับเราหรอก” ฐานัสปล่อยมือแฟนสาวแล้วเดินจากไปทันที เขาไม่ทนอยู่ที่นี่หรอก เพราะเริ่มมีคนมากมองอย่างสนใจและเริ่มจับกลุ่มพูดกันแล้ว คนอย่างเขาไม่ต้องเอาตัวมาเป็นที่สนใจอย่างนี้หรอก และเขก็รู้ด้วยว่าผู้ชายที่มองพวกเขาทั้งคู่ตาวาวโรจน์นี้เป็นใคร และมีอำนาจแค่ไหนที่เขาพูดว่าจะจัดการน่ะคงทำได้จริงแน่ เขาไม่อยากจะติดร่างแหไปด้วย อนาคตเขายังอีกยาวไกล
“กรี้ด! พี่นัสกลับมาเดี๋ยวนี้นะอย่ามาทิ้งพอลลี่อย่างนี้นะ..กลับมา” เธอกรี้ดลั่นเมื่อคนรักของเธอเดินจากไปทิ้งให้เธออยู่ตรงนี้คนเดียว
“ไง...จะอยู่หาเรื่องต่อก็ได้นะ ตอนนี้กำลังได้ที่เลย” พลอยไพลินมองหน้าอีกฝ่ายกวนๆ ตอนนี้เธอพร้อมจะมีเรื่องแล้วหากว่าอีกฝ่ายอยากมีเรื่องต่อ..เธอหมดอารมณ์ดูของแล้วด้วย
“ฝากไว้ก่อนเถอะ..เรื่องไม่จบแค่นี้แน่..” อุมาพรยังไม่วายพูดทับอีกรอบก่อนจะเดินจากไป เธอไม่ยอมหรอกเรื่องนี้แม่เธอต้องรู้เรื่อง และพ่อต้องรับผิดชอบเพราะนังนั่นเป็นลูกเขาด้วย
“โธ่..คิดว่าจะแน่..” มองตามหลังอีกฝ่ายไปแล้วส่ายหน้าอย่างระอาใจกับอีกฝ่ายเหลือเกินที่ไม่ยอมต่างคนต่างอยู่อย่างที่เธอกับครอบครัวต้องการทั้งที่เธอและครอบครัวไม่เคยไปหาเรื่องราวีอีกฝ่ายแม้แต่น้อย
“พี่ว่าเรากลับกันเถอะ...ขืนอยู่นี่นานๆ คงเป็นข่าวหน้าหนึ่งแน่...” เหมวันต์แตะแขนเธอเบาๆ เป็นการเตือน วันนี้เขาไม่รู้ว่าจะบังเอิญมีนักข่าวมาอยู่แถวนี้หรอกว่ามีคนที่บังเอิญรู้จักหน้าตาเขาและเอาข่าวไปส่งให้สำนักพิมพ์รึเปล่า
“ค่ะ..พลอยขอโทษด้วยนะคะที่เกิดเรื่อง...ถ้าเกิดว่า..เป็นข่าวละคะ..พลอยไม่อยากให้พี่ใหญ่เดือดร้อนเพราะพลอยน่ะค่ะ..” เธอรู้ว่าคนอย่างเหมวันต์แค่ขยับนิดเดียวก็เป็นข่าวแล้ว วันนี้ยิ่งกว่าขยับตัวเสียอีก แถมเขายังยอมเล่นละครกับเธอเสียอีก เกิดมีคนมือดีได้ยินเข้าและเอาไปเล่นข่าวละ...
“ไม่หรอกเรื่องเล็ก...ถือว่าหายกันแล้วนะ..เราสองคน” ชายหนุ่มยิ้มอบอุ่นให้เธอสบายใจ เขาไม่สนใจเรื่องที่นักข่าวจะเอาไปเขียนเรื่องเขาและเธอเป็นคนรักกัน...ดีเสียอีกจะได้ง่ายขึ้นกับการที่จะพูดคุยกับเธอ..แต่เขาห่วงเรื่องครอบครัวเธอมากกว่า
“หา...อ๋อ...ค่ะ” เธอพยักหน้ารับอย่างเพิ่งนึกออกมาเขาหมายถึงเรื่องอะไร

เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 31 ต.ค. 2554, 12:05:11 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 31 ต.ค. 2554, 12:05:11 น.
จำนวนการเข้าชม : 2484
<< ตอนที่ 10 | ตอนที่ 12 >> |

หมูอ้วน 31 ต.ค. 2554, 12:30:57 น.
พี่ใหญ่ น่ารักมาก ๆ เลยค่ะ
พี่ใหญ่ น่ารักมาก ๆ เลยค่ะ

anOO 31 ต.ค. 2554, 15:36:15 น.
นึกว่าพี่ใหญ่จะบอกว่า พลอยต้องรับผิดชอบชีวิตพี่ด้วย ซะแล้ว
นึกว่าพี่ใหญ่จะบอกว่า พลอยต้องรับผิดชอบชีวิตพี่ด้วย ซะแล้ว