กลรัก สลับหัวใจ
เมื่อเพื่อนสาวจอมยุ่ง จับผลัดจับพลูให้เธอนัดไปดูตัวกับคาสโนว่าหนุ่มแลกกับค่าจ้างหนึ่งหมื่น ม่านนทีจึงยอมเซย์เยส แปลงร่างเป็นนางซินวางแผนตัดสัมพันธ์แทนเพื่อนสาวเสียดิบดี แต่ที่ไหนได้เขาทั้งหล่อ เท่ แถมยังมีรอยยิ้มบาดใจ ทำเอาเธอชักหวั่นไหวซะแล้วสิ
Tags: รักโรแมนติก,รักหวานๆ,รักใส ๆ
ตอน: ตอนที่ 21 ปากไม่ตรงกับใจ
บทที่ 21
ปากไม่ตรงกับใจ
ราเมศขมวดคิ้วมุ่น ไม่รู้จะแก้ต่างให้ตัวเองอย่างไรดี ที่ผ่านมาเขายอมรับว่าตัวเองเป็นผู้ชายประเภทที่เธอกล่าวหามาตลอด แถมยังเลือกคบผู้หญิงไม่ซ้ำหน้า ทว่านับตั้งแต่เจอเธอ ความคิดของราเมศก็เปลี่ยนแปลงไปอย่างสิ้นเชิง
ปิ่นแก้วจ้องหน้าเขาอย่างกล่าวหา และเมื่อชายหนุ่มคลายวงแขนออกหญิงสาวก็รีบผลักเขาออกพร้อมทั้งดันตัวออกห่างทันที
“ออกไปจากห้องของฉันได้แล้ว เกิดเมียนายมาเจอเข้าจะพาลทำให้ฉันเดือดร้อนอีก” เธอออกปากไล่ดื้อ ๆ
แต่ราเมศไม่ยักจำได้ ว่าเขาเคยมีเมียเป็นตัวเป็นตนตั้งแต่เมื่อไหร่
“เอาอะไรมาพูด ผมยังไม่เคยแต่งงานเสียหน่อย”
“อ๋อเหรอ...แล้วคุณแววดาวล่ะ นายเอาเธอไปไว้ที่ไหนไม่ทราบ” ปิ่นแก้วลากเสียงถาม รู้สึกรังเกียจผู้ชายมากชู้หลายใจขึ้นมาตงิด ๆ
คำพูดปนไม่พอใจของหญิงสาว ทำให้ราเมศอดคิดไม่ได้ว่าอีกฝ่ายกำลังออกอาการ ‘หึง’ เขาอยู่
ใบหน้าหล่อเหลาเลิกคิ้วสูง จุดประกายรอยยิ้มบนเรียวปาก
“รู้ตัวหรือเปล่าคุณปิ่น เวลาคุณหึงน่ารักชะมัดเลย” ราเมศเอ่ยเสียงยั่วเย้า ทำเอาคนฟังถึงกับหน้าร้อนจัด
“บ้า ใครหึงนาย ฉันแค่ไม่อยากถูกราวีเหมือนคราวที่แล้วต่างหาก บอกไว้ก่อนเลยนะว่าถ้าเขามายุ่งเกี่ยวกับฉันอีก ฉันจะไม่เกรงใจจริง ๆ ด้วย”
ราเมศมองเธอด้วยแววตากรุ้มกริ่ม
“คุณจะทำไมหรือ”
“ถามได้ ฉันก็จะ..”
“พูดต่อสิ”
ปิ่นแก้วพูดไม่ออก ได้แต่เม้มปากเข้าหากันแน่น เนื่องจากรู้ดีว่าอีกฝ่ายกำลังขุดหลุมพรางหลอกให้เธอพูดออกไป ยิ่งเธอแสดงกิริยาไม่พอใจแววดาวออกไปมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งกลับกลายเป็นว่าเธอกำลังเข้าข่าย ‘หึง’ ราเมศมากขึ้นเท่านั้น
“คิดจะหลอกให้ฉันพูดล่ะสิ ไม่มีทางเสียหรอก” หญิงสาวยกกำปั้นขึ้นทุบไหล่หนาด้วยความโมโห ราเมศหัวเราะในลำคอก่อนแกล้งรวบร่างบางเข้ามากอดไว้แนบแน่น
“ตกลง ผมยอมรับแล้วก็ได้ว่าคุณปากแข็ง” ชายหนุ่มแสร้งบ่นโอดครวญ
“ใครปากแข็ง พูดให้ดี ๆ นะ”
“จริงสินะ ใครว่าคุณปากแข็ง...ริมฝีปากคุณทั้งหวานแล้วก็นุ่มนิ่มจะตายไป”
ราเมศยิ้มให้ดวงตากลมโตอย่างมีเลศนัย ทำเอาปิ่นแก้วถึงกับสะอึก ใจเต้นระรัวขึ้นมาอีกเป็นรอบที่หนึ่งร้อย ร่างบางทุบกำปั้นลงบนบ่ากว้างแรง ๆ พร้อมกับด่าว่าเขาไม่มียั้ง
“คนผีทะเล หยุดพูดเดี๋ยวนี้นะ”
“โอ้ย ยอมแล้ว”
ปิ่นแก้วทั้งผลักทั้งดันราเมศออกด้วยความโมโห แต่คนตัวสูงไม่ยอมปล่อยแถมยังกอดรัดแน่นยิ่งกว่าเดิม จนกระทั่งหญิงสาวหมดแรง ซบหน้าลงกับบ่ากว้างอย่างรู้ว่าไม่มีทางชนะ ราเมศโอบกอดร่างบางด้วยความรู้สึกอบอุ่นอย่างประหลาด หลายครั้งที่ราเมศเคยคิดว่าความสุขยามที่ได้โอบกอดหญิงสาวนั้นคงไม่แตกต่างกัน หากแต่ในเวลานี้เขาค้นพบความจริงแล้วว่า
...ความสุขฉาบฉวยเหล่านั้น ไม่อาจเทียบกับตอนที่มีปิ่นแก้วอยู่ในอ้อมแขนได้เลย
ไออุ่นจากร่างบางที่นั่งนิ่งไม่กระดิกในอ้อมแขน ทำให้ราเมศนึกแปลกใจขึ้นมาครามครัน เพราะหากเป็นยามปกติอย่างปิ่นแก้วคงไม่มีทางอยู่เฉยให้เขาประคองกอดได้แน่ ๆ ร่างสูงยกปลายนิ้วขึ้นเขี่ยเส้นผมออกจากใบหน้าหวานเบา ๆ พร้อมกับกระซิบเรียกชื่อเธอ
“คุณปิ่นครับ”
ใบหน้าหล่อเหลาก้มลงมองคนตัวเล็กที่กำลังหลับสนิทอยู่ในอ้อมแขน แล้วก็ต้องถอนหายใจยาว หลังจากที่พบว่าอีกฝ่ายหนีเอาตัวรอดด้วยการหลับฝันไปเรียบร้อยแล้ว กิริยาน่ารักเหมือนเด็ก ๆ ของเธอ ทำให้ชายหนุ่มเผลอยิ้มออกมาโดยไม่รู้ตัว
“เอาตัวรอดเก่งนักนะ คอยดูเถอะครั้งหน้าผมจะลักหลับจริง ๆ ให้ดู...”
…ทอแสงยามอรุณรุ่งพาดผ่านร่างคู่หนุ่มสาวที่นอนอิงแอบอยู่บนเตียงให้ตื่นขึ้นจากความฝันแสนสุข ปิ่นแก้วขยับตัวซุกหาไออุ่นจากคนตัวสูงที่กำลังนอนอยู่ข้าง ๆอย่างลืมตัว ขณะที่ชายหนุ่มเพิ่งจะลืมตาตื่นและยกแขนขึ้นมองดูนาฬิกาข้อมือด้วยความรู้สึกง่วงงุนไม่แพ้กัน
“...เช้าแล้วหรือเนี่ย”
“กรี้ดด”
ทันใดนั้น ภายในห้องนอนของปิ่นแก้วก็พลันเกิดฟ้าถล่มดินทลายขึ้นกะทันหัน หลังจากที่แววดาวเห็นรองเท้าที่ราเมศถอดทิ้งเอาไว้ที่หน้าประตูห้องเมื่อคืน จึงถือวิสาสะตอนที่เจ้าของลืมล็อกกลอนเปิดประตูเข้ามา แล้วเห็นภาพบาดตาชนิดที่เธอไม่มีวันลืมไปชั่วชีวิต
“คุณราเมศ คุณทำแบบนี้ได้ยังไง ดาวไม่ยอมจริง ๆ ด้วย”
เสียงกรีดร้องของแววดาว ทำให้ปิ่นแก้วสะดุ้งตื่นด้วยความตกใจ
“คุณแววดาว” ปิ่นแก้วอุทานแผ่ว จับต้นชนปลายไม่ถูก แต่เมื่อหันไปเห็นคนตัวสูงที่นอนเปลือยอกอยู่ด้านข้าง หญิงสาวก็ต้องช็อกมากกว่า “ราเมศ...นายมาอยู่บนเตียงของฉันได้ยังไง”
ใบหน้าหล่อเหลาหันมามองเธอพร้อมกับถอนหายใจยาว
“นี่แสดงว่าคุณหลับสนิท จนจำอะไรไม่ได้เลยสินะ”
คำตอบซ่อนความนัยของอีกฝ่าย ยิ่งทำให้แววดาวโกรธหนักจนแทบถลาเข้าไปฉีกเนื้อเธอออกเป็นชิ้น ๆ
“กรี้ด นังผู้หญิงหน้าด้าน แกกล้าดียังไงถึงมายุ่งกับผู้ชายของฉัน”
นางแบบสาวสวยถลาเข้ามาในห้อง หมายจะตบสั่งสอนปิ่นแก้วให้สาสมกับความแค้น แต่ราเมศลุกขึ้นเอาตัวเข้าขวาง ส่งผลให้ฝ่ามือฟาดเข้าใส่ใบหน้าหล่อเหลาเต็มแรง
เผียะ
“คุณราเมศ” แววตาหน้าซีดเผือด คิดไม่ถึงว่าเขาจะยอมเจ็บตัวแทนปิ่นแก้วขนาดนี้
ความเจ็บแสบบนใบหน้าไม่ได้ทำให้ราเมศเดือดร้อนเท่าไหร่นัก ตรงกันข้ามหากผู้ที่ถูกตบเป็นปิ่นแก้ว เขาคงเจ็บปวดใจยิ่งกว่านี้หลายเท่านัก รอยแดงอันเกิดจากผลงานของแววดาว ส่งผลให้ปิ่นแก้วถึงกับพูดไม่ออก
“ทำไมต้องเอาตัวปกป้องผู้หญิงคนนี้ด้วยคะ แววดาวเกลียดมัน เกลียดมัน” แววดาวร้องตะโกนอย่างเจ็บปวด
“พอซะทีเถอะคุณแววดาว คุณปิ่นแก้วไม่ใช่คนผิด ผมต่างหากที่เป็นคนผิด” ราเมศออกตัวปกป้องหญิงสาวที่นั่งตัวแข็งอยู่บนเตียงอย่างลูกผู้ชาย
แววดาวเบิกตากว้าง ริมฝีปากสั่นระริก
“คุณราเมศ”
“ผมเป็นคนถือวิสาสะเข้ามาในห้องของคุณปิ่นเอง เมื่อคืนเธอจมน้ำผมก็เลยอยู่ช่วยปฐมพยาบาลให้ เพราะฉะนั้นคุณไม่มีสิทธิ์ไปโยนความผิดหรือกล่าวโทษเธอ”
“ราเมศ” ปิ่นแก้วทำท่าจะอธิบาย เพื่อแก้ไขความเข้าใจผิด แต่ชายหนุ่มกล่าวขัดขึ้นเสียก่อน
“ไม่เป็นไร เรื่องนี้ไม่ใช่ความผิดของคุณ”
“แต่ว่า”
“นังบ้า ถอยห่างออกมาจากคุณราเมศเดี๋ยวนี้นะ” แววดาวกรีดร้องเสียงดัง นัยน์ตาลุกโชนด้วยความริษยา หลังจากที่เห็นอดีตชายคนรัก ออกโรงปกป้องปิ่นแก้วชนิดที่ไม่ยอมไว้หน้าเธอ นางแบบสาวถลาเข้ามาหมายจะตบใบหน้าหวานให้หายแค้น แต่ราเมศไม่ยอมให้ทำได้ง่าย ๆ
“หยุดเดี๋ยวนี้นะคุณดาว ถ้าคุณไม่หยุดผมจะสั่งให้คนขับรถ พาคุณกลับกรุงเทพฯเดี๋ยวนี้” ราเมศตะโกนสั่นเสียงเฉียบขาด
“คุณราเมศ” แววดาวหน้าซีดเผือด แม้เธอจะหึงหวงเพียงใดแต่เมื่อถูกคาดโทษขนาดนี้ นางแบบสาวก็ไม่กล้าเสี่ยงที่จะดึงดันต่อเหมือนกัน
หลังจากที่ใช้ไม้แข็งไม่ได้ผล นางแบบสาวก็หันมาใช้มารยาร้อยเล่มเกวียนแทนด้วยการโผตัวเข้ากอดราเมศ บีบน้ำตาร้องไห้ฟูมฟายราวกับนางเอกรันทดที่กำลังจะถูกชายคนรักทิ้งก็ไม่ปาน
“ดาวขอโทษค่ะคุณราเมศ ฮือ อย่าโกรธดาวเลยนะคะ ดาวรักคุณ ทำทุกอย่างลงไปก็เพื่อคุณคนเดียว”
ปิ่นแก้วตัวชาพูดไม่ออกไปชั่วขณะ จ้องมองภาพแววดาวที่โอบกอดราเมศด้วยใบหน้าเปื้อนน้ำตาผู้สวมบทบาทนางเอกผู้น่าสงสารด้วยความรู้สึกเจ็บแปลบอย่างบอกไม่ถูก แม้แต่ราเมศเองก็ยังนึกไม่ถึงว่าแววดาวจะใช้วิธีนี้ ร่างสูงสมส่วนพยายามดันเธอออกห่าง
“คุณแววดาว”
“อย่าทิ้งดาวไปนะคะคุณราเมศ ถ้าดาวไม่มีคุณสู้ฆ่าดาวให้ตายซะยังดีกว่า”
นางแบบสาวร้องไห้ซบหน้าลงกับบ่ากว้าง ว่ากันว่าน้ำตาของผู้หญิงมีอิทธิพลต่อผู้ชายมากมายจนคาดไม่ถึง ซึ่งดูเหมือนว่าราเมศเองก็เป็นหนึ่งในจำนวนนั้นเช่นกัน ชายหนุ่มถอนหายใจหนักหน่วง ยกมือขึ้นกระชับไหล่มนเบา ๆ แทนคำปลอบโยน หากแต่นั่นก็เพียงพอแล้วสำหรับรอยยิ้มหยัน ที่แววดาวลอบส่งให้แก่ปิ่นแก้วที่ยืนนิ่งท่ามกลางเสียงกรีดร้องของหัวใจ...
***********************
มารผจญมาเยือนแล้วค่ะงานนี้
กะจะให้คู่นี้หวานเยอะ ๆ กว่านี้แท้ ๆ นะเนี่ย ^ ^
เบลินญา
ปากไม่ตรงกับใจ
ราเมศขมวดคิ้วมุ่น ไม่รู้จะแก้ต่างให้ตัวเองอย่างไรดี ที่ผ่านมาเขายอมรับว่าตัวเองเป็นผู้ชายประเภทที่เธอกล่าวหามาตลอด แถมยังเลือกคบผู้หญิงไม่ซ้ำหน้า ทว่านับตั้งแต่เจอเธอ ความคิดของราเมศก็เปลี่ยนแปลงไปอย่างสิ้นเชิง
ปิ่นแก้วจ้องหน้าเขาอย่างกล่าวหา และเมื่อชายหนุ่มคลายวงแขนออกหญิงสาวก็รีบผลักเขาออกพร้อมทั้งดันตัวออกห่างทันที
“ออกไปจากห้องของฉันได้แล้ว เกิดเมียนายมาเจอเข้าจะพาลทำให้ฉันเดือดร้อนอีก” เธอออกปากไล่ดื้อ ๆ
แต่ราเมศไม่ยักจำได้ ว่าเขาเคยมีเมียเป็นตัวเป็นตนตั้งแต่เมื่อไหร่
“เอาอะไรมาพูด ผมยังไม่เคยแต่งงานเสียหน่อย”
“อ๋อเหรอ...แล้วคุณแววดาวล่ะ นายเอาเธอไปไว้ที่ไหนไม่ทราบ” ปิ่นแก้วลากเสียงถาม รู้สึกรังเกียจผู้ชายมากชู้หลายใจขึ้นมาตงิด ๆ
คำพูดปนไม่พอใจของหญิงสาว ทำให้ราเมศอดคิดไม่ได้ว่าอีกฝ่ายกำลังออกอาการ ‘หึง’ เขาอยู่
ใบหน้าหล่อเหลาเลิกคิ้วสูง จุดประกายรอยยิ้มบนเรียวปาก
“รู้ตัวหรือเปล่าคุณปิ่น เวลาคุณหึงน่ารักชะมัดเลย” ราเมศเอ่ยเสียงยั่วเย้า ทำเอาคนฟังถึงกับหน้าร้อนจัด
“บ้า ใครหึงนาย ฉันแค่ไม่อยากถูกราวีเหมือนคราวที่แล้วต่างหาก บอกไว้ก่อนเลยนะว่าถ้าเขามายุ่งเกี่ยวกับฉันอีก ฉันจะไม่เกรงใจจริง ๆ ด้วย”
ราเมศมองเธอด้วยแววตากรุ้มกริ่ม
“คุณจะทำไมหรือ”
“ถามได้ ฉันก็จะ..”
“พูดต่อสิ”
ปิ่นแก้วพูดไม่ออก ได้แต่เม้มปากเข้าหากันแน่น เนื่องจากรู้ดีว่าอีกฝ่ายกำลังขุดหลุมพรางหลอกให้เธอพูดออกไป ยิ่งเธอแสดงกิริยาไม่พอใจแววดาวออกไปมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งกลับกลายเป็นว่าเธอกำลังเข้าข่าย ‘หึง’ ราเมศมากขึ้นเท่านั้น
“คิดจะหลอกให้ฉันพูดล่ะสิ ไม่มีทางเสียหรอก” หญิงสาวยกกำปั้นขึ้นทุบไหล่หนาด้วยความโมโห ราเมศหัวเราะในลำคอก่อนแกล้งรวบร่างบางเข้ามากอดไว้แนบแน่น
“ตกลง ผมยอมรับแล้วก็ได้ว่าคุณปากแข็ง” ชายหนุ่มแสร้งบ่นโอดครวญ
“ใครปากแข็ง พูดให้ดี ๆ นะ”
“จริงสินะ ใครว่าคุณปากแข็ง...ริมฝีปากคุณทั้งหวานแล้วก็นุ่มนิ่มจะตายไป”
ราเมศยิ้มให้ดวงตากลมโตอย่างมีเลศนัย ทำเอาปิ่นแก้วถึงกับสะอึก ใจเต้นระรัวขึ้นมาอีกเป็นรอบที่หนึ่งร้อย ร่างบางทุบกำปั้นลงบนบ่ากว้างแรง ๆ พร้อมกับด่าว่าเขาไม่มียั้ง
“คนผีทะเล หยุดพูดเดี๋ยวนี้นะ”
“โอ้ย ยอมแล้ว”
ปิ่นแก้วทั้งผลักทั้งดันราเมศออกด้วยความโมโห แต่คนตัวสูงไม่ยอมปล่อยแถมยังกอดรัดแน่นยิ่งกว่าเดิม จนกระทั่งหญิงสาวหมดแรง ซบหน้าลงกับบ่ากว้างอย่างรู้ว่าไม่มีทางชนะ ราเมศโอบกอดร่างบางด้วยความรู้สึกอบอุ่นอย่างประหลาด หลายครั้งที่ราเมศเคยคิดว่าความสุขยามที่ได้โอบกอดหญิงสาวนั้นคงไม่แตกต่างกัน หากแต่ในเวลานี้เขาค้นพบความจริงแล้วว่า
...ความสุขฉาบฉวยเหล่านั้น ไม่อาจเทียบกับตอนที่มีปิ่นแก้วอยู่ในอ้อมแขนได้เลย
ไออุ่นจากร่างบางที่นั่งนิ่งไม่กระดิกในอ้อมแขน ทำให้ราเมศนึกแปลกใจขึ้นมาครามครัน เพราะหากเป็นยามปกติอย่างปิ่นแก้วคงไม่มีทางอยู่เฉยให้เขาประคองกอดได้แน่ ๆ ร่างสูงยกปลายนิ้วขึ้นเขี่ยเส้นผมออกจากใบหน้าหวานเบา ๆ พร้อมกับกระซิบเรียกชื่อเธอ
“คุณปิ่นครับ”
ใบหน้าหล่อเหลาก้มลงมองคนตัวเล็กที่กำลังหลับสนิทอยู่ในอ้อมแขน แล้วก็ต้องถอนหายใจยาว หลังจากที่พบว่าอีกฝ่ายหนีเอาตัวรอดด้วยการหลับฝันไปเรียบร้อยแล้ว กิริยาน่ารักเหมือนเด็ก ๆ ของเธอ ทำให้ชายหนุ่มเผลอยิ้มออกมาโดยไม่รู้ตัว
“เอาตัวรอดเก่งนักนะ คอยดูเถอะครั้งหน้าผมจะลักหลับจริง ๆ ให้ดู...”
…ทอแสงยามอรุณรุ่งพาดผ่านร่างคู่หนุ่มสาวที่นอนอิงแอบอยู่บนเตียงให้ตื่นขึ้นจากความฝันแสนสุข ปิ่นแก้วขยับตัวซุกหาไออุ่นจากคนตัวสูงที่กำลังนอนอยู่ข้าง ๆอย่างลืมตัว ขณะที่ชายหนุ่มเพิ่งจะลืมตาตื่นและยกแขนขึ้นมองดูนาฬิกาข้อมือด้วยความรู้สึกง่วงงุนไม่แพ้กัน
“...เช้าแล้วหรือเนี่ย”
“กรี้ดด”
ทันใดนั้น ภายในห้องนอนของปิ่นแก้วก็พลันเกิดฟ้าถล่มดินทลายขึ้นกะทันหัน หลังจากที่แววดาวเห็นรองเท้าที่ราเมศถอดทิ้งเอาไว้ที่หน้าประตูห้องเมื่อคืน จึงถือวิสาสะตอนที่เจ้าของลืมล็อกกลอนเปิดประตูเข้ามา แล้วเห็นภาพบาดตาชนิดที่เธอไม่มีวันลืมไปชั่วชีวิต
“คุณราเมศ คุณทำแบบนี้ได้ยังไง ดาวไม่ยอมจริง ๆ ด้วย”
เสียงกรีดร้องของแววดาว ทำให้ปิ่นแก้วสะดุ้งตื่นด้วยความตกใจ
“คุณแววดาว” ปิ่นแก้วอุทานแผ่ว จับต้นชนปลายไม่ถูก แต่เมื่อหันไปเห็นคนตัวสูงที่นอนเปลือยอกอยู่ด้านข้าง หญิงสาวก็ต้องช็อกมากกว่า “ราเมศ...นายมาอยู่บนเตียงของฉันได้ยังไง”
ใบหน้าหล่อเหลาหันมามองเธอพร้อมกับถอนหายใจยาว
“นี่แสดงว่าคุณหลับสนิท จนจำอะไรไม่ได้เลยสินะ”
คำตอบซ่อนความนัยของอีกฝ่าย ยิ่งทำให้แววดาวโกรธหนักจนแทบถลาเข้าไปฉีกเนื้อเธอออกเป็นชิ้น ๆ
“กรี้ด นังผู้หญิงหน้าด้าน แกกล้าดียังไงถึงมายุ่งกับผู้ชายของฉัน”
นางแบบสาวสวยถลาเข้ามาในห้อง หมายจะตบสั่งสอนปิ่นแก้วให้สาสมกับความแค้น แต่ราเมศลุกขึ้นเอาตัวเข้าขวาง ส่งผลให้ฝ่ามือฟาดเข้าใส่ใบหน้าหล่อเหลาเต็มแรง
เผียะ
“คุณราเมศ” แววตาหน้าซีดเผือด คิดไม่ถึงว่าเขาจะยอมเจ็บตัวแทนปิ่นแก้วขนาดนี้
ความเจ็บแสบบนใบหน้าไม่ได้ทำให้ราเมศเดือดร้อนเท่าไหร่นัก ตรงกันข้ามหากผู้ที่ถูกตบเป็นปิ่นแก้ว เขาคงเจ็บปวดใจยิ่งกว่านี้หลายเท่านัก รอยแดงอันเกิดจากผลงานของแววดาว ส่งผลให้ปิ่นแก้วถึงกับพูดไม่ออก
“ทำไมต้องเอาตัวปกป้องผู้หญิงคนนี้ด้วยคะ แววดาวเกลียดมัน เกลียดมัน” แววดาวร้องตะโกนอย่างเจ็บปวด
“พอซะทีเถอะคุณแววดาว คุณปิ่นแก้วไม่ใช่คนผิด ผมต่างหากที่เป็นคนผิด” ราเมศออกตัวปกป้องหญิงสาวที่นั่งตัวแข็งอยู่บนเตียงอย่างลูกผู้ชาย
แววดาวเบิกตากว้าง ริมฝีปากสั่นระริก
“คุณราเมศ”
“ผมเป็นคนถือวิสาสะเข้ามาในห้องของคุณปิ่นเอง เมื่อคืนเธอจมน้ำผมก็เลยอยู่ช่วยปฐมพยาบาลให้ เพราะฉะนั้นคุณไม่มีสิทธิ์ไปโยนความผิดหรือกล่าวโทษเธอ”
“ราเมศ” ปิ่นแก้วทำท่าจะอธิบาย เพื่อแก้ไขความเข้าใจผิด แต่ชายหนุ่มกล่าวขัดขึ้นเสียก่อน
“ไม่เป็นไร เรื่องนี้ไม่ใช่ความผิดของคุณ”
“แต่ว่า”
“นังบ้า ถอยห่างออกมาจากคุณราเมศเดี๋ยวนี้นะ” แววดาวกรีดร้องเสียงดัง นัยน์ตาลุกโชนด้วยความริษยา หลังจากที่เห็นอดีตชายคนรัก ออกโรงปกป้องปิ่นแก้วชนิดที่ไม่ยอมไว้หน้าเธอ นางแบบสาวถลาเข้ามาหมายจะตบใบหน้าหวานให้หายแค้น แต่ราเมศไม่ยอมให้ทำได้ง่าย ๆ
“หยุดเดี๋ยวนี้นะคุณดาว ถ้าคุณไม่หยุดผมจะสั่งให้คนขับรถ พาคุณกลับกรุงเทพฯเดี๋ยวนี้” ราเมศตะโกนสั่นเสียงเฉียบขาด
“คุณราเมศ” แววดาวหน้าซีดเผือด แม้เธอจะหึงหวงเพียงใดแต่เมื่อถูกคาดโทษขนาดนี้ นางแบบสาวก็ไม่กล้าเสี่ยงที่จะดึงดันต่อเหมือนกัน
หลังจากที่ใช้ไม้แข็งไม่ได้ผล นางแบบสาวก็หันมาใช้มารยาร้อยเล่มเกวียนแทนด้วยการโผตัวเข้ากอดราเมศ บีบน้ำตาร้องไห้ฟูมฟายราวกับนางเอกรันทดที่กำลังจะถูกชายคนรักทิ้งก็ไม่ปาน
“ดาวขอโทษค่ะคุณราเมศ ฮือ อย่าโกรธดาวเลยนะคะ ดาวรักคุณ ทำทุกอย่างลงไปก็เพื่อคุณคนเดียว”
ปิ่นแก้วตัวชาพูดไม่ออกไปชั่วขณะ จ้องมองภาพแววดาวที่โอบกอดราเมศด้วยใบหน้าเปื้อนน้ำตาผู้สวมบทบาทนางเอกผู้น่าสงสารด้วยความรู้สึกเจ็บแปลบอย่างบอกไม่ถูก แม้แต่ราเมศเองก็ยังนึกไม่ถึงว่าแววดาวจะใช้วิธีนี้ ร่างสูงสมส่วนพยายามดันเธอออกห่าง
“คุณแววดาว”
“อย่าทิ้งดาวไปนะคะคุณราเมศ ถ้าดาวไม่มีคุณสู้ฆ่าดาวให้ตายซะยังดีกว่า”
นางแบบสาวร้องไห้ซบหน้าลงกับบ่ากว้าง ว่ากันว่าน้ำตาของผู้หญิงมีอิทธิพลต่อผู้ชายมากมายจนคาดไม่ถึง ซึ่งดูเหมือนว่าราเมศเองก็เป็นหนึ่งในจำนวนนั้นเช่นกัน ชายหนุ่มถอนหายใจหนักหน่วง ยกมือขึ้นกระชับไหล่มนเบา ๆ แทนคำปลอบโยน หากแต่นั่นก็เพียงพอแล้วสำหรับรอยยิ้มหยัน ที่แววดาวลอบส่งให้แก่ปิ่นแก้วที่ยืนนิ่งท่ามกลางเสียงกรีดร้องของหัวใจ...
***********************
มารผจญมาเยือนแล้วค่ะงานนี้
กะจะให้คู่นี้หวานเยอะ ๆ กว่านี้แท้ ๆ นะเนี่ย ^ ^
เบลินญา

เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 3 พ.ย. 2554, 11:19:51 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 3 พ.ย. 2554, 11:19:51 น.
จำนวนการเข้าชม : 2445
<< ตอนที่ 20 หนี้หัวใจ | ตอนที่ 22 เงินตราแลกหัวใจ >> |

Zephyr 3 พ.ย. 2554, 12:59:47 น.
นายอย่าดง่สิเมศ เสียค่าโง่โดยการเสียปิ่นไปน่ะ คุ้มแล้วเหรอ
นายอย่าดง่สิเมศ เสียค่าโง่โดยการเสียปิ่นไปน่ะ คุ้มแล้วเหรอ

nunoi 3 พ.ย. 2554, 15:10:08 น.
เฮ้อ!อย่างนี้หนูปิ่น คงตั้งท่าถอยออกจาก ราเมศ ยิ่งกว่าเดิมหล่ะซิเนี๊ยะ
เฮ้อ!อย่างนี้หนูปิ่น คงตั้งท่าถอยออกจาก ราเมศ ยิ่งกว่าเดิมหล่ะซิเนี๊ยะ

anOO 3 พ.ย. 2554, 19:39:53 น.
ดันไปปลอบยัยแววดาวซะงั้น งานนี้หนูปิ่นถอยไปไกลแน่ๆๆๆๆ
ดันไปปลอบยัยแววดาวซะงั้น งานนี้หนูปิ่นถอยไปไกลแน่ๆๆๆๆ

violette 4 พ.ย. 2554, 10:59:45 น.
นายราเมศไม่เคยเคลียร์เรื่องแววดาวจะให้ปิ่นยอมคงยากล่ะ
ปิ่นเพิ่งอกหักจากอิแฟนชั่วๆแบบนายมานะ
ช่วยไม่ได้แล้วปิ่นต้องยิ่งถอยๆๆๆจะดีที่สุด อย่าไปยุ่งกับอิตาบ้านี่เล้ยย
นายราเมศไม่เคยเคลียร์เรื่องแววดาวจะให้ปิ่นยอมคงยากล่ะ
ปิ่นเพิ่งอกหักจากอิแฟนชั่วๆแบบนายมานะ
ช่วยไม่ได้แล้วปิ่นต้องยิ่งถอยๆๆๆจะดีที่สุด อย่าไปยุ่งกับอิตาบ้านี่เล้ยย

ameerahTaec 16 พ.ย. 2554, 08:32:02 น.
แววดาวร้ายมา หนูปิ่นร้ายกลับไปเลยคะ อย่ายอมมมมมม แบบนี้ท้าทายกันชัดๆๆๆ
แววดาวร้ายมา หนูปิ่นร้ายกลับไปเลยคะ อย่ายอมมมมมม แบบนี้ท้าทายกันชัดๆๆๆ

bloomberg 18 พ.ย. 2554, 15:54:01 น.
นายเมศใจไม่แข็งแรงเอาซะเล๊ย เจอน้ำตาเทียมยายแววดาวเข้า
นายเมศใจไม่แข็งแรงเอาซะเล๊ย เจอน้ำตาเทียมยายแววดาวเข้า