รักแท้...แม้ไม่ใกล้ชิด
สายป่านสาวน้อยจอมโก๊ะที่ไม่เคยรู้สึกว่าตัวเองชอบใครสักที ทั้งที่ก็มีคนเข้ามามากมาย ก็ใช่สิในหัวใจของเธอมีพี่วินอยู่แล้วตั้งแต่แรกเห็น แต่เรื่องราวกับไม่เป็นอย่างที่เธอคิด เมื่อมีอีกคนทำให้ความรักของเธอต้องสั่นคลอน เธอจะทำอย่างไร อยากตัดใจ แต่พยายามเท่าไหร่ก็ไม่สำเร็จสักที
วิทวิน หนุ่มมาดนิ่งรุ่นพี่ที่โรงเรียนของสายป่าน เขามอบหัวใจดวงนี้ให้เธอตั้งแต่วันแรกที่เห็นหน้า เมื่อหอบความกล้าทั้งหมดไปบอกเธอว่าชอบ แต่เอกลับวิ่งหนีเสียดื้อๆ แต่หลายอย่างทำให้เขารอ รอ และรอ เมื่อวันหนึ่งเดินทางมาถึง เขาได้เจอเธอในที่ที่ไม่คิดว่าจะได้เจอ และเป็นวันที่ทำให้เกิดความเข้าใจผิดอย่างใหญ่หลวง เขาจะทำอย่างไรเพื่อตามทวงหัวใจที่ควรจะเป็นของเขากลับคืนมา


ตามเป็นกำลังใจให้คู่รัก คู่นี้กันนะคะ ใน รักแท้จะไม่แพ้ใกล้ชิด

^^ เป็นกำลังใจให้คนเขียน ทุกคอมเม้นจะเป็นแนวทางและกำลังใจในการเขียนงานของผู้เขียนต่อไป

นางสาวปลาดาว....
Tags: รักแท้

ตอน: ตอนที่ 4

ปัจจุบัน..... ณ สนามบินสุวรรณภูมิ

ผู้คนบนเครื่องบิน บนชั้นประหยัดดูจะคึกคัก อาจจะเนื่องมาจาก ช่วงนี้เป็นฤดูกาลท่องเที่ยวประเทศญี่ปุ่น จึงทำให้คนเลือกที่จะเดินทางไปที่นั่น แต่จุดประสงค์ของฉันกลับไม่ใช่อย่างนั้น ฉันไปที่นั่น เพราะจะต้องไปทำหน้าที่ของหัวใจให้สมบูรณ์ ฉันรอไม่ได้อีกต่อไปที่จะให้พี่เขามาเอาคำตอบจากฉัน ฉันจะเป็นคนเอาคำตอบนี้ไปส่งให้พี่เขาถึงที่เลยที่เดียว
แต่อะไรมันก็เป็นไปได้ จากข่าวที่ได้ยินมาจากแหล่งที่ค่อนข้างเชื่อถือได้ ว่าตอนนี้ยัยรุ่นน้องที่โรงเรียนที่ใช้ทุนบิดรมารดา เดินทางไปเรียนต่อที่เดียวกับพี่วินกำลังปล่อยมัดเด็ด รักแท้แพ้ใกล้ชิด ฉันจึงนิ่งเฉย ทำเป็นเล่นตัว ไม่ได้อีกต่อไป ทางเดียวคือไปบอกความรู้สึกที่อัดแน่นมาทั้งเกือบ 10 ปี ให้เขาได้รู้ก่อนทีมันจะสายเกินไปอย่างที่เพื่อนหลายคนเสนอ
“ขอโทษนะคะพี่ขอสลับที่ได้มั้ยคะ พอดีว่าลูกสาวพี่อยากดูก้อนเมฆน่ะคะ”
“เอ่อ....ค่ะ..ค่ะ ได้ค่ะ”
ทั้งที่ไม่ค่อยจะเต็มใจนัก เพราฉันก้อยากดูก้อนเมฆเหมือนกันนี่นา แต่สุดท้ายก็จำนนต่อสายตาอ้อนวอนของสองแม่ลูกนั้น
“พี่คนสวยใจดีจังค่ะ”
“หนูต้องขอบคุณพี่คนสวยนะคะ”
“ขอบคุณค่ะ”
“ไม่เป็นไรค่ะ” วิญญาณนางงามรักเด็กเข้าสิงซะงั้น
หลายชั่วโมงที่ต้องนั่งอยู่บนเครื่องบินชั้นประหยัด ถึงจะดูคับแคบไปนิด แต่ด้วยความที่ฉันขาสั้นจึงไม่เป็นอุปสรรคเท่าไหร่
ที่อยู่พร้อมกับภาพถ่ายอพาร์ทเมนท์ที่พี่เดือนส่งให้เมื่อหลายวันก่อนถูกดึงขึ้นมาดูอีกครั้ง (พี่เดือนคือรุ่นพี่ที่ได้รับทุนมาเรียนที่ประเทศเดียวกันแต่ต่างมหาวิทยาลัยกับพี่วินนะคะ)
ตอนนี้เวลาประมาณบ่ายโมงเห็นจะได้ หาอะไรรองท้องก่อนดีกว่าแล้วค่อยไปตามที่อยู่นี้ ว่าแล้วร้านราเมงหน้าสนามบินคือเป้าหมายที่ฉันเลือก ถึงรสชาดจะไม่เท่าก๋วยเตี๋ยวน้ำตกบ้านเราแต่อย่างน้อยก็ประทังความหิวได้ไปได้หนึ่งมื้อ
ฉันเรียกแทคซี่เพื่อไปตามที่อยู่ที่ให้ไว้ ใช้เวลาประมาณครึ่งชั่วโมงกับการเดินทางไปอพาร์ทเมนท์เป้าหมาย แต่แล้วก็พลาดจนได้ รู้อย่างนี้โทรหาก่อนก็ดี เบอร์โทรก็มี เจ้าของอพาร์ทเมนท์สามชั้นทรงยุโรปที่เป็นที่พักพิงตลอดห้าปีที่พี่เขาเรียนและใช้ชีวิตที่นี่ บอกว่าพี่วินออกไปข้างนอกเมื่อสักครึ่งชั่วโมงที่แล้วนี่เอง นี่ถ้าฉันไม่มัวแต่เพลินกับการกินราเมงถ้วยนั้นก็คงทันพอดีสินะ เพราฉะนั้นแล้ว สิ่งแรกนับจากนี้ก็คือการหาที่พัก ฉันเลือกที่จะพักที่โรงแรมขนาดเล็กที่ไม่ไกลจากอพาร์ทเมนท์พี่วินเท่าไหร่ สามารถเดินไปได้ไม่ต้องพึ่งพาหนะ ถึงวันนี้จะกินแห้ว แต่พรุ่งนี้ฉันจะเซอไพส์ให้อึ้งกันไปเลย....
ย่านผู้คนค่อนข้างเยอะ ถนนสองข้างทางเต็มไปด้วยร้านค้า ทั้งเสื้อผ้า เครื่องสำอาง ของใช้ ของกิน ของกระจุกกระจิก น่ารักๆอย่างที่เมืองไทยก็มีให้เห็น แต่ก็ไม่ได้บรรยากาศเหมือนที่นี่ หลังจากหาที่พักได้แล้ว การเดินเล่นในต่างสถานที่ต่างเมือง ต่างภาษา มันทำให้รู้สึกสบายใจอย่างบอกไม่ถูก
ห้องพักขนาดพอดี บรรยากาศตกแต่งในแบบญี่ปุ่น คือประตูบานเลื่อนกับหน้าต่างแบบช่องๆกระถางต้นไผ่ขนาดเล็กที่มุมห้อง และกลิ่นหอมของชาญี่ปุ่นที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะอยากแกการลอกเลียนแบบ ถ้าตอนนี้ยัยเมย์อยู่ด้วยก็คงจะดี มีเพื่อนให้ได้นั่งเม้าไปจนถึงเช้าแน่ๆ แต่ยังไง จุดประสงค์ของการเดินทางมาที่นี่ก็คือการพูดความในใจตลอดเวลาเกือบสิบที่ให้พี่วินได้รู้ ดังนั้นการพักผ่อนเอาแรงน่าจะดีที่สุด ตื่นเช้าขึ้นมาจะได้หน้าตาสดชื่นสดใส
เช้านี้ฉันตื่นเช้าเป็นพิเศษเนื่องจากนาฬิกาปลุกโทรศัพท์มือถือที่ลืมเปลี่ยนเวลาตอนที่มาถึงที่นี่ เนื่องจากเวลาที่นี่กับที่เมืองไทยต่างกันสองชั่วโมงทำให้นาฬิกาของฉันปลุกก่อนเวลาไปตั้งสองชั่วโมง กะว่าจะนอนให้เต็มอิ่มซะหน่อยนาฬิกาก็ไม่เป็นใจซะนี่
ฉันจึงเลือกที่จะเดินเตร็ดเตร่มาเรื่อย จนกระทั่งรู้ตัวอีกครั้งก็มาหยุดอยู่ที่หน้าอพาร์ทเม้นทรงยุโรปที่มาแล้วเมื่อวาน แต่สิ่งที่ฉันกำลังเห็นอยู่ตอนนี้คือภาพชายหญิงคู่หนึ่งกำลังเดินภายใต้ร่มคันเดียวกันมือของชายหนุ่มประคองกอดที่เอวคอดนั้น ภาพที่ทั้งคู่กำลังเหมือนพูดคุยหยอกล้อกันอย่างสนุกสนาน อยู่ในสายตาที่พร่ามัวไปด้วยม่านน้ำตาที่กำลังจะหยดลงมา ทุกอย่างที่ตั้งใจกำลังจะพังลงเพราะคนที่บอกเสมอว่าเราคือคนเดียวที่อยู่ในหัวใจ คำหวานที่บอกผ่านระบบสื่อสารอันทันสมัย ฉันคงผิดเองที่ไม่เคยตอบเขากลับไปด้วยคำหวานเหมือนที่เขาส่งมา แต่เป็นเพียงประโยคสั้นๆ ที่ไม่น่าจะเป็นประโยคด้วยซ้ำอาจจะเรียกได้ว่าเป็นเพียงแค่กลุ่มคำหรือวลีเท่านั้น ฉันจำได้ไม่มีผิดเพี้ยนถึงแม้ว่าเขาจะเปลี่ยนไปมากเพียงใด
แต่เขาบอกว่าอย่าเชื่อในสิ่งที่เห็นมากกว่าไปกว่าการได้ลงมือ หรือการพิสูจน์ความจริงด้วยตัวของเราเอง และนั่นทำให้ฉันเดินข้ามฟากถนนตามเข้าไปในตัวอพาร์ทเม้น ห้องหมายเลข 212 คำตอบรอฉันอยู่ในนั้น มือที่สั่นเทาเอื้อมออกไปข้างหน้าเป้าหมายคือกริ่งหน้าประตู
....เสียงกริ่งดังขึ้นภายในห้อง แต่ประตูยังคงปิดสนิทอยู่ ฉันถอยหลังออกมาหนึ่งก้าวเพื่อตั้งหลักของตัวเองให้มั่น ประตูถูกเปิดออก แต่ภาพที่เห็นนั้นมันช่างย้ำคำตอบในหัวใจให้ฉันเหลือเกินผู้หญิงคนนั้นคนที่เดินหยอกล้อกันเข้ามาในตึก จากสภาพการแต่งกายของเธอ ก็ช่วยย้ำอีกว่าพวกเขาคงอยู่ด้วยกันอย่างแน่นอน ใบหน้าร้อนผ่าว มือไม้ ขาสั่นไปหมด ทำอะไรไม่ถูกน้ำตาหยดแรกหยดเผาะลงสำผัสกับใบหน้า เสียงใครบางคนที่ฉันคิดถึงลอยออกมาจากหลังประตู ถามเป็นภาษาอังกฤษว่าใครมา สติของฉันบอกว่าต้องไปจากที่นี่ให้เร็วที่สุด
“ขอโทษค่ะฉันคงผิดห้อง” ประโยคที่สั่นเคลือ และเบาหวิว ก่อนจะออกไปจากที่นี่ให้เร็วที่สุด
ฉันเดินแกมวิ่งออกจากตึกนั้น น้ำตาหยดแล้วหยดเล่าไหลลงมาอาบสองแก้มไม่ขาดสาย ฉันไม่สนใจว่าใครจะมองว่าอย่างไรรู้แต่เพียงว่า วันนี้ฉันคงมาช้าเกินไป ช้าเกินไปเสียแล้วกับความรู้สึกตัวเอง จริงสินะคงไม่มีใครรอคอยอย่างไร้ความหมาย รอคอยผู้หญิงโง่ ปากหนักอย่างฉันได้
ตอนนี้สิ่งที่ฉันคิดถึงที่สุดก็คือยัยเมย์ ยัยเมย์คงจะสมน้ำหน้า หรือไม่ก็อาจเสียใจร้องไห้ไปกับฉัน ฉันกลับมาที่ห้องพักหลังจากที่เดินไปอย่างไร้จุดหมายอยู่เป็นชั่วโมง กระเป๋าที่ยังไม่ได้เอาอะไรออกมามากนอกจากสิ่งขิงที่จำเป็น ข้าวของเหล่านั้นถูกเก็บเข้ากระเป๋าอีกครั้ง โทรศัพท์ภายในดังขึ้น พนักงานของโรงแรมโทรมาบอกว่าได้แจ้งเรื่องตั๋วเครื่องบินที่ฉันขอเปลี่ยนไฟส์กับพรุ่งนี้เช้าแทนที่จะเป็นอาทิตย์หน้าอย่างที่ตั้งใจ ใครจะไปคิดว่าฉันจะข้ามน้ำข้ามทะเลมาพบกับความผิดหวังได้ขนาดนี้ ขนาดตัวฉันเองยังไม่คิดแบบนั้นเลย น้ำตาหยุดไหลไปแล้ว แต่ข้างในยังคงเจ็บแปลบอย่างที่ยากจะบรรยาย รูปถ่ายขนาด 4x6 ที่เป็นส่วนหนึ่งของขวัญที่พี่วินให้ในวันปัจฉิม เป็นรูปของฉันเองตอนที่แอบนั่งหลับในหอประชุมตอนงานโรงเรียน เป็นหนึ่งในหลายต่อหลายรูปที่พี่วินมอบให้ ซึ่งเป็นสิ่งที่ยืนยันว่าพี่วินมองฉันมาตั้งนานแล้วเหมือนกัน และทำให้ฉันค่อนข้างมั่นใจว่าพี่วินเขาจะไม่มีใคร ระยะทางจะไม่มีทางทำให้ความรู้สึกของพี่วินเปลี่ยน แต่วันน้าสิ่งที่ฉันคิดมาโดยตลอดกลับไม่ใช่ พี่วินไม่เหมือนเดิม พี่วินมีแฟนแล้ว แถมเขายังอยู่ด้วยกัน และคงจะเรียนที่เดียวกัน มีอนาคตร่วมกันไปแล้ว แล้วฉันล่ะเป็นใครกัน ก็แค่ผู้หญิงคนหนึ่งที่ปากหนักชอบทำอะไรตรงข้ามกับหัวใจเสมอ โดยเฉพาะกับพี่เขา เขาจะมาคาดหวังและใส่ใจอะไรมากมายกับผู้หญิงอย่างฉัน......



นางสาวปลาดาว
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 4 พ.ย. 2554, 20:37:58 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 4 พ.ย. 2554, 20:37:58 น.

จำนวนการเข้าชม : 1561





<< ตอนที่ 3   ตอนที่ 5 >>
นางสาวปลาดาว 4 พ.ย. 2554, 20:38:52 น.
มาแล้วค่ะฝากด้วยนะคะ ^^


ไม้เอก 4 พ.ย. 2554, 22:21:35 น.
พี่วินอธิบายด่วนคะ ว่าเธอคือใคร?...


anOO 5 พ.ย. 2554, 15:43:56 น.
สงสัยจะเข้าใจผิดไปเองรึป่าว


เมล 5 พ.ย. 2554, 16:00:39 น.
นั่งแท็กซี่เข้าเมืองที่ญี่ปุ่นอาจดูไม่สมเหตุสมผลนิดนึงนะคะ เพราะแพงมาก นอกจากว่าที่อยู่พระเอกอยู่ใกล้สนามบินหรือนางเอกรวยมาก ^^


ปลาวาฬสีน้ำเงิน 5 พ.ย. 2554, 20:54:03 น.
พิมพ์ผิดเยอะจัง อ่านแล้วขัด ๆ


นางสาวปลาดาว 6 พ.ย. 2554, 11:16:23 น.
คุณเมล
คนเขียนก็ไม่เคยไปญี่ปุ่นด้วยสิคะ แฮ่ๆๆ คิดว่าแท็กซี่น่าจะรวดเร็วกว่าเพราะใกล้ค่ำอ่ะค่ะ
คุณปลาสวาฬสีน้ำเงิน
พอดีว่าพิมพ์สดเสร็จก็เอาลงเลย ไม่ได้ทบทวน ต้องขvอภัยมา ณ ที่นี้ นะคะ ^^



เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account