วิวาห์อารมณ์
เมื่อรักนั้นไม่ได้มาด้วยหัวใจ การครองเรือนจึงเต็มไปด้วยความร้าวรานใจ
Tags: อย่า ยอม แพ้

ตอน: อยากเอาชนะ

ดารกาตัดช่องออกตัวไปตามลำพัง ไม่อยากให้ทั้งเปรมและนเรศไปส่งถึงบ้านด้วยกันทั้งคู่ เธอตัดบทว่า
“แดงจะไปธุระทางอื่นต่อ ไม่รบกวนพี่เปรมไปส่งหรอกค่ะ”
“จะดื้อทำไม”เปรมหลุดปากท่าทางหงุดหงิด
“แดงไม่อยากให้พี่เปรมรู้จักบ้านแดงนี่คะ”กล่าวแล้วดารกาไม่ยอมให้เปรมไปส่ง เธอผละจากกลุ่มเดินไปโบกรถสามล้อถีบ ทันที
ชิดสมัยถอนใจ ทำหน้ามุ่ย เอ่ยเบา
“แดงเอาแต่ใจอย่างนี้อยู่เรื่อยเชียวค่ะ พี่นเรศจะตามเธอทันหรือเปล่าคะ”
“พี่ชอบครับไหม” นเรศตอบตามหัวใจ
เปรมรู้สึกอึดอัดอย่างบอกไม่ถูก แต่ส่วนหนึ่งกับโล่งใจอย่างไม่ยอมรับว่า ดีที่ดารกากลับไปเอง ไม่ต้องให้นเรศไปส่ง

ที่บ้านของดารกา มีการจัดเลี้ยงน้ำชาให้กับพ่อค้ารายใหญ่ ซึ่งวัลย์วิไลจัดเตรียมอย่างหวังผลให้ นครเป็นผู้สนับสนุนทางการเมืองของสามี และเธอมีสิ่งตอบแทนคือ น้องสาวคนสวยของสามี ซึ่งเธอแอบบอกกับนครว่ามีของสวยกว่าความสวยที่นครเคยพบรออยู่
นครกระหยิ่มใจที่จะได้พบความสวยที่วัลย์วิไลไม่มีทางชมใครให้ได้ยินอย่างง่าย แต่เมื่อเวลาน้ำชาผ่านมาแล้วจนถึงบ่ายสองโมง ความสวยที่นครอยากเห็นยังไม่ปรากฏให้เห็น
วัลย์วิไลหันไปไล่เบี้ยกับคนรถซึ่งน่าที่จะทำหน้าที่ส่งคุณหนูราชพานิช แต่มานั่งสบายอยู่ก้นครัว ดังนั้นวัลย์วิไลจึงลงมาเอาเรื่องอีกฝ่าย
นายเสริมเกือบสะดุ้งเพราะคุณผู้หญิงรองของบ้าน แต่ยามนี้ใหญ่กว่าบ้านเสียอีก เยื้องย่างเข้ามาในครัว ทุกคนที่อยู่ในนั้น มีแม่ครัว และลูกมือ ส่วนสาวใช้คนอื่นออกไปทำหน้าที่รับใช้แขกอยู่ข้างนอกสองคน
“คุณนายวัลย์ เอ่อมีอะไรให้กระผมรับใช้ครับ”
“นายเสริมไปส่งคุณหนูแดงที่ไหน เมื่อไหร่ แล้วรู้มั้ยคุณหนูแดงไปไหนกับใคร จะกลับเมื่อไหร่ ทำไมนายเสริมไม่คอยรับกลับมาให้ทันเวลาบ่าย นี่มันสองโมงเข้าไปแล้วนะ”
คำถามยาวเหยียดทำให้นายเสริมตอบไม่ถูก และดูเหมือนวัลย์วิไลทนความรำคาญไม่ได้ จึงหมุนกายกลับออกไปโดยไม่ทันได้ตอบ นายเสริมหันไปมองแม่ครัว ซึ่งทำหน้าบอกบุญไม่รับ ส่วนลูกมือนางปากอยู่ไม่สุขจึงว่า
“คุณนายวัลย์คงคิดใช้คุณหนูอะไรสักอย่างแน่เลย ฉันเห็นเธอพาผู้ชายมาด้วย”
“คุณผู้หญิงไม่มีทางยอมหรอก ท่านรักคุณหนูแดงยังกับอะไร”
“แต่คุณผู้หญิงก็เกรงใจคุณเลิศ ส่วนคุณเลิศกลัวเมีย ป้าว่าคุณหนูจะเป็นยังไง”
คำถามของเด็กในครัว ไม่มีใครตอบได้ นอกจากนึกเป็นห่วงคุณหนูของบ้านเลิศพานิช เพราะเห็นกันมาแต่เล็กแต่น้อย หนีภัยสงครามไปด้วยกัน คุณหนูเป็นคนฉลาด ได้แต่หวังว่าความฉลาดจะพาตัวเองให้รอดจากคนคิดไม่ดีเท่านั้นเอง!!
วัลย์วิไลเดินนิ่วหน้าไปหาแม่สามีที่ห้องนั่งเล่น เวลานั้นคุณเลื่อนนั่งกึ่งนอนตะแคง อิงหมอนสามเหลี่ยม บนตั่งไม้แผ่นเดียวกว้างสามฟุตกว่า โดยมีแม้นนวดฟั้นให้ คุยกันไปเรื่อย กระทั่งวัลย์วิไลเข้าไปภายใน
แม้นจึงทักเพราะเป็นผู้มีฐานะน้อยกว่า
“คุณนายวัลย์ เอ่อมีอะไรคะ มีแขกเลี้ยงรับชาไม่ใช่หรือคะ ทำไมทิ้งแขกมาเสียล่ะคะ”
“ไม่ใช่เรื่องของแกแม้น ฉันมีเรื่องต้องถามคุณแม่เสียทีละ”
คำพูดกระด้างแข็งของสะใภ้บาดใจให้คุณเลื่อนเจ็บทุกครั้งที่ได้ยิน หญิงกลางคนขยับกายนั่งห้อยขาลงวางพื้น วางสีหน้าเรียบ แม้นขยับนั่งพื้นห่างออกมาเล็กน้อย ได้ยินคุณเลื่อนย้อนถามลูกสะใภ้ที่ท่านไม่อยากใกล้คนนี้ว่า
“เรื่องร้อนอะไร ดูท่าเหมือนจะมาบีบคอฉันถ้าไม่ตอบ”
“อุ๊ย คุณแม่ช่างพูดร้ายไปได้ถึงเพียงนั้นเชียวหรือคะ”วัลย์วิไลหาเรื่องได้ทุกครั้ง “วัลย์เป็นสะใภ้ คุณแม่ไม่คิดว่าเป็นลูกหรือคะ ไม่คิดว่าวัลย์ทำเพราะห่วงคนในบ้านนี้หรือคะ”
“แล้วเธอทำอะไรล่ะวัลย์”
“ที่บ้านวัลย์เขาเรียกวัลย์ว่าคุณนะคะคุณแม่ คุณแม่ดูเหมือนจะลืมว่าคุณพ่อคุณแม่ของวัลย์จะเรียกอย่างนี้แทนคนอื่น”
“เธอพูดเองไม่ใช่หรือว่าเป็นสะใภ้ เธอก็ไม่ใช่คนอื่นสำหรับฉันแล้ว พอดีว่าบ้านนี้ลูกก็คือลูก ฉันก็เรียกเลิศว่าเลิศไม่ได้เรียกคุณ เอาล่ะเธอว่าห่วงคนบ้านนี้ มีใครให้น่าห่วงหรือ”
“หนูแดงไงคะ เธอเป็นสาวแล้ว แต่วัลย์ไม่เห็นคุณแม่ปรามไม่ให้เที่ยวเตร่เก่งอย่างนี้เลย ไม่เรียนต่อแล้วเอาแต่เที่ยวนอกบ้านใครจะมองไม่งามนะคะ วันนี้ไปไหนอีกแล้วก็ไม่ทราบ”
“ไปเที่ยวกับเพื่อนเรียนมาด้วยกัน”
“คุณแม่ไม่น่าปล่อยไปนะคะ น่าจะให้หนูแดงอยู่บ้านให้เป็นเสียบ้าง ถ้าคุณแม่ดุแลหนูแดงไม่ไหว วัลย์จะดูแลเองค่ะ ดูสิคะ นี่สองโมงกว่าจะสามโมงแล้วยังไม่กลับอีก ท่าทางคุณแม่ไม่เป็นห่วงเสียด้วยนะคะ”
คุณเลื่อนมีแต่ความไว้ใจลูกสาวซึ่งคิดว่าเอาตัวรอดได้ และไม่เคยห้ามเรื่องเที่ยว เพราะดารกาจะมาเล่าให้ฟังเสมอว่าไปไหนกับใคร เมื่อสะใภ้มากล่าวหากันซึ่งหน้าอย่างนี้คุณเลื่อนจึงโต้ไปทันที
“ฉันคงไม่ห่วงเพราะหนูแดงไม่ได้ทำอะไรเสียหาย แม่วัลย์ไม่ไปดูแลแขกหรือ ปล่อยทิ้งไว้เดี๋ยวจะเสียคนสนับสนุนนะ”
“เพราะคุณแม่ คุณพ่อของเลิศเป็นอย่างนี้ละ วัลย์ถึงได้เหนื่อย งานในบ้านเลี้ยงรับรองคนมาช่วยลูกชายแท้ๆเลย”วัลย์วิไลบ่นให้คุณเลื่อนได้ยิน ก่อนจะเดินออกจากห้องไปด้วยท่าทีไม่เหนื่อยอย่างปากบ่นสักนิดเดียว
แม้นขยับเข้าไปใกล้คุณผู้หญิงซึ่งกุมขมับท่าทางวิงเวียนและคลื่นไส้จริง
“ฉันคงต้องไปอยู่วัดเสียแล้วละแม้น บ้านชักแคบลงทุกที”
“คุณวัลย์นี่ระรานไม่เลือกเชียว ต้องการอะไรกันแน่จึงมาถามถึงคุณหนูของแม้น หรือคิดจะจับคู่อะไรให้กับใครในงานเจ้าคะคุณผู้หญิง”
คุณเลื่อนสะดุ้งเมื่อได้ยินแม้นเดาสุ่ม ซึ่งอาจจะมีความเป็นไปได้มากทีเดียว ท่านรีบสั่งสาวใช้ใกล้ชิดทันที
“ไปดูซิ หนูแดงกลับมาหรือยัง ถ้ามาแล้วให้เลี่ยงไม่ต้องเข้างานนะแม้น”
“เจ้าค่ะคุณท่าน”
แม้นรีบไปทำตามคำสั่งของนายผู้หญิงทันที คุณเลื่อนถอนใจออกมาอย่างหนักอก ท่านไม่ชอบสะใภ้แต่ตามใจลูกชาย และเมื่ออยู่ร่วมบ้านนานวันเข้า ความวุ่นวายและแสดงตัวเป็นเจ้าของทุกสิ่งของวัลย์วิไล ทำให้บ้านเริ่มไร้ความสุขสำหรับท่านมากทุกทีจนบางครั้งอยากชวนสามีไปอยู่ที่ไกลๆเสียด้วยซ้ำไป
แต่....เงินลงทุนทางการเมืองของเลิศชาย ใช้มากจนแทบหมดตัวแล้ว เหลือบ้านหลังนี้ กับเงินที่คุณเลื่อนบังไว้ให้ลูกสาวเพียงคนเดียวโดยไม่ให้เลิศชายได้เข้ามาแตะต้องสักนิดเดียว
ดารกากลับมาถึงบ้าน เธอลงจากรถเช่า เดินเข้าไปในบ้านจึงเห็นว่าในสวนมีงานเลี้ยง เธอทำท่าจะเลี่ยง แต่โนมือหนึ่งฉวยฉุดแขนของเธอโดยแรงจนเสียหลัก
“พระช่วยแดง”เธออุทานอย่างตกใจ
“มาทางนี้ก่อนหนูแดง พี่จะแนะนำเพื่อนให้รู้จัก เขาอยากรู้จักหนูแดงมากเลยนะ นั่งรอตั้งสองชั่วโมง”
“มารอแดงทำไม แดงไม่อยากรู้จักด้วยสักหน่อย”ดารกาบอกตรงกับใจ
วัลย์วิไลไม่รับฟัง ดึงกึ่งลากน้องสามีให้ตามเข้าไปที่โต๊ะเลี้ยงน้ำชาจนได้
ภายในห้องเลี้ยงรับรองขนาดใหญ่ โต๊ะไม้ใหญ่ ไม้แผ่นเดียวไม่มีการต่อให้เป็นตำหนิ ปูผ้าถักลายสวยสีขาว ทับด้วยผ้าเขียวใบตองพาดเฉียง คนร่วมโต๊ะสนทนากันเสียงดังทั้งชายหญิง ส่วนใหญ่ในยี่สิบคนที่ร่วมกันอยู่ในห้องนี้เป็นชายกว่าครึ่ง ดารกาเข้าพร้อมกับวัลย์วิไลซึ่งแนะนำก่อนเข้าไปด้วยซ้ำว่า
“มาแล้วน้องสาวคนสวยของคุณเลิศชาย ดารกา ดาวจรัสแสงในยามกลางวันเช่นนี้ค่ะ”
ทุกสายตาหันมามองดารกาอย่างให้ความสำคัญ โดยเฉพาะนคร ผู้ที่จะซื้อสาวคนนี้ด้วยเงินหลายสิบล้านเป็นค่าสนับสนุนทางการเมืองให้เลิศชาย ดารกายกมือไหว้ทุกคนเพราะความอายุเยาว์ของตนเอง ความงดงามไร้ตำหนิของหญิงสาวทำให้นครไม่นึกเสียดายเงินส่วนเกินในบัญชีของตนเองแม้แต่น้อย
“แดงขอตัวก่อนนะคะ แดงจะไปหาคุณแม่ค่ะ”
“อะไรกันคะน้องแดง มาถึงจะรีบไปได้ยังไงคะ มานี่ก่อนมารู้จักเพื่อนคุณเลิศก่อน”วัลย์วิไลจูงมือดารกาไปหานคร แนะนำให้รู้จัก
“นี่คุณนคร พ่อค้า และนายธนาคารรายใหญ่ของเมืองไทยทีเดียวนะน้องแดง”
“ยินดีที่ได้รู้จักครับคุณแดง”
“ค่ะคุณนคร แดงขอโทษนะคะ พอดีแดงไม่ว่างค่ะ แดงจอตัวก่อนะคะ เอ่อแดงขอตัวก่อนนะทุกคน แดงมีธุระคะ”
“ธุระอะไรจะสำคัญในเวลานี้มากกว่าธุระของะพี่หรือแดง”เลิศชายเอ่ยราวกับปรามน้องสาว ดารกาจึงว่า
“ธุระเรื่องสุขภาพของคุณพ่อค่ะ ท่านไม่ได้อยู่ที่นี่ ท่านไปหาหมอไม่ทราบกลับมาหรือยัง”
“ท่านนอนพักผ่อนแล้วพี่ดูแลท่านเป็นอย่างดี แดงไม่ต้องกังวลหรอก”
“อย่างนั้นแดงไปหาคุณแม่นะคะ คือแดงไม่ค่อยรู้เรื่องการเมืองค่ะ ขอตัวนะคะ”ดารกากล่าวแล้วจากไปทันที นครแอบชอบความเป็นตัวเองของอีกฝ่ายยิ่งนัก
หญิงสาวคนนี้ยังมีสมองเป็นของตนเองอยู่ ชอบจริงๆ วัลย์วิไลหันไปมองนคร ด้วยสีหน้าไม่ดีนัก แต่เธอยังเห็นนครยังทำท่าปกติ ไม่มีทีท่าหัวเสียหรือไม่พอใจที่ดารกาผละจากห้องนั้นไปอย่างไม่รักษามารยาทของผู้ดี แต่เป็นผู้เอาแต่ใจตนเองตามความเคยชิน นครอยากรู้ ดารกามีใครอยู่ในใจหรือเปล่า จึงตีกรอบล้อมตัวเองเสียขนาดนี้ เขาเห็นจะต้องตามดูเสียแล้ว!!!
นครแสร้งเอ่ยกับวัลย์วิไลว่า
“ดูเหมือนคูณเลิศชายจะไม่ได้รับการสนับสนุนให้เล่นการเมืองจากทางครอบครัวเท่าไหร่เลยนะคุณวัลย์”
“ไม่ใช่เช่นนั้นหรอกค่ะ แหมคุณนครก็น่าจะทราบว่าคุณเลิศเป็นนักการเมืองมือสะอาด ไม่เช่นนั้นคงเอ่อ ไม่ต้องการผู้สนับสนุน โดยเฉพาะคุณนะคะที่คุณเลิศต้องพึ่งพาอาศัยมาก และคุณก็รู้ว่าถ้าคุณเลิศได้รับลการเลือกตั้งคุณเลิศต้องมีฐานะในรัฐบาลแน่นอน”
“อำนาจตอนนี้อยู่ที่ทหาร หลังจากเสรีไทยลำเลิกขนาดหนัก ทำไมจึงเบนมาที่พ่อค้าล่ะคุณวัลย์”
“พ่อค้าอย่างคุณนครมีเส้นสายทางทหารนี่คะ”วัลย์วิไลย้อนกลับไปตามตรง
นครยิ้มกว้าง อย่างยอมรับเงียบๆ เขาเป็นเศรษฐีใหญ่ เป็นผู้ที่ได้รับการขนานนามว่า หลงจู๊ คำๆนี้ ย่อมมีความหมายต่ออิทธิพลรองรับอยู่ด้วย แค่เจ้าสัวยังธรรมดานักสำหรับแวดวงนักเลง และฐานการเงิน หลงจู๊ คือที่พักพิงจากชาวโพ้นทะเล ซึ่งหากเข้ามาอาศัยในแผ่นดินแห่งความร่มเย็นและอย่างที่ชาวจีนได้ขึ้นจากเรือและได้เห็นจากสายตาถึงความอุดมสมบูรณ์ของเมืองไทยต่างร้องอุทานทุกคนว่า ‘อั๊วไม่อดตายเลี้ยว’ หากว่า กว่าจะทำอย่างใจได้ ชาวจีนนั้นๆต้องผ่านผู้ที่มาสร้างตัวจนมีอิทธิพล หลงจีหนุ่มคือคนที่อยู่เบื้องหลังนั้น นครพอใจในตัวของดารกาและคิดอย่างคนเป็นใหญ่ว่า แค่สาวตัวอรชรอ้อนแอ้นแค่นี้ คงไม่พ้นจากความต้องการของเขาไปได้แน่!!
ที่ว่าการบริษัทแห่งหนึ่ง ทั้งสุดา และราตรี สองสาวนั่งทำงานกันอย่างเอาใจใส่ ชิดสมัยรอเวลาว่างแล้วจึงได้ขอพบสองสาว จากนั้นจึงออกไปทานขนมเล่นกัน ทั้งสุดาและราตรีถามเป็นเสียงเดียวกันว่า
“ไปไหนมาล่ะไหม”
“ไปสมัครงานมา แต่ไม่ได้อีกตามเคย...สงสัยต้องรำละครแล้วล่ะ”
“ขอพี่เปรมแต่งงานก็สิ้นเรื่องเขาจะได้เลี้ยงเธอ”
“บ้าสิพวกเธอนี่ พูดบัดสี ใครจะขอผู้ชายแต่งงาน”
“นั่นสินะ ถ้าเป็นยัยคุณหนูบ้าเลือดคนนั้นอาจจะปล้ำผู้ชายก่อนก็ได้เนอะ”ราตรีเอ่ยพาดพิงไปถึงดารกาอย่างไม่ชอบอีกฝ่ายเอาเสียเลย
ชิดสมัยรีบถามราตรีทันที
“ทำไมไปว่าแดงอย่างนั้นล่ะ”
“ยัยหนูแดงแผลงฤทธิ์เราก็รู้อยู่ว่าเขาเอาแต่ใจ”ราตรีย้ำหนัก เพราะรู้นิสัยเพื่อนไม่สนิทคนนี้ดี “แต่ดูเหมือนพี่นเรศจะสนใจยัยหนูแดงมาก ว่าแต่ยัยนั่นคงต้องตะครุบพี่นเรศแน่เลย”
“เธอไปใส่ร้ายหนูแดงจนฉันกลัวเลยนะราตรี”ชิดสมัยเอ่ยเสียงเบา หน้าซีดขาวราวกับกลีบดอกไม้ หายใจหอบ ราตรีรีบลูบแขนอีกฝ่ายปลอบใจ แต่สุดาไม่ทันสังเกตยังเย้าว่า
“กลัวทำไม กลัวเขาจะปล้ำพี่เปรมของเธอเหรอ”
“พอแล้วสุ เพื่อนเราทำท่าจะเป็นลมแล้ว อย่าไปแกล้งเลย เราก็รู้อยู่ว่า พี่เปรมไม่มีทางมองยัยหนูแดงแผลงศรนั่นหรอก พี่เปรมรักเพื่อนของเรายังกับอะไรดี เขาว่าจะมาสู่ขอเร็วๆนี้ด้วยซ้ำ”
“พวกเธอพูดเอาเองแท้ๆ พี่เปรมไม่เคยพูดสักคำ”คนพูดเปลี่ยนจากท่าทีจะเป็นลมมาเป็นอายจัด ก่อนว่า “พวกเธอว่างมั้ยคืนวันศุกร์นี้”
“จะพาไปดูละคร หรือหนังละจ๊ะ”
“ละครเวทีซบเซาไปแล้ว ตอนนี้ยังฉายอยู่เห็นจะเป็นหนังดีพอดูได้ตามใบปิด แต่ฉันงี้ติดละครวิทยุมากเลยต้องกลับไปฟังเกือบทุกคืนเชียว เรื่องเรือนแพ ฟังแล้วสงสารจังเลยสามชีวิตต้องมาแตกแยกกัน”
“ตกลงเธอไม่ไปกับฉันเพราะติดละครวิทยุหรือสุดา”
“เปล่าจ้ะ จริงๆแล้วพอดีติดที่คุณยายมาเยี่ยมจ้ะเพื่อนรัก”สุดากล่าวแก้ ราตรีทำเสียงอ่อย
“ฉันต้องไปงานเลี้ยงบ้านคุณน้า ค้างถึงวันอาทิตย์แน่ะ เพราะอยู่ต่างจังหวัด ไหมก็ไปตามลำพังกับพี่เปรมได้นี่ ไม่น่าเกลียดสักหน่อย”
“พี่นเรศไปด้วย”
“แน่ะเพื่อนเราจะควงสอง”
“พูดจาน่าเกลียดที่สุดเลยพวกเธอ ฉันไม่คุยด้วยแล้ว”ชิดสมัยเอ่ยอย่างแง่งอน สองเพื่อนรักจึงได้ง้อเอาใจ ชิดสมัยยังติดบึ้งก่อนว่า
“ฉันกลับล่ะ ไม่ไปแล้วดูหนังดูละคร”
“อย่าทำอย่างนั้นเชียวนะ เสียดายพี่เปรมแย่เลย ทั้งหล่อทั้งรวย”
ชิดสมัยทำไม่รู้ไม่ชี้ แต่เมื่อลับหลังเพื่อนแล้วเธอกับมีแต่รอยยิ้มระบายสวยบนใบหน้า เธอปิดปากไม่ยอมบอกว่าเธอจะจับคู่ให้นเรศกับดารกาด้วย เธอไม่อยากให้เปรมหันไปมองสาวคนใด โดยเฉพาะดารกา ผู้ที่เธอกลัวใจ และคิดจัดการจับคู๋เสียให้สิ้นเรื่องกันไป
สุภาษิตชายคนจริง...เมียเพื่อนเหมือนแม่เรา...นั่นคือสิ่วที่แตะต้องไม่ได้ ชิดสมัยต้องจัดการโดยเร็ว
ดารกาสาวเท้าเดินเร็วไปที่ห้องนั่งเล่นหลังออกมาจากงานเลี้ยงโดยไม่ฟังเสียงใคร เธอรีบเดินไปยังจุดหมาย ซึ่งคาดว่ามารดาจะนั่งเล่นที่นั่น เธอเดินไม่นานนักก็โดนแม้นฉุดแขนมาจากด้านข้างซึ่งแม้นดักซุ่มไม่ให้ใครเห็น
“คุณหนูเจ้าขา”
“พระช่วย”
“แม้นเองเจ้าค่ะ”
“เอ้า...ทำไมต้องมาทำลับลับล่อๆด้วยล่ะแม้น”ดารการีบถาม
พลางเหลียวมองที่ดักซุ่มของพี่เลี้ยง แล้วยิ้มในสีหน้า เพราะใช้ประตูเปิดจากห้องรับรองแขกเปิดออกมาบังร่างของผอมของแม้นอย่างมิดชิดทีเดียว
“ดักฉุดแดงทำไมคะ”
“แม้นเห็นคุณนายวัลย์คว้าคุณแดงไปจากหน้าทางเดิน แม้นซุ่มอยู่ที่พุ่มมะลิซ้อน คว้าไม่ทันเจ้าค่ะ”
ดารกาหัวเราะเสียงใสอย่างกลั้นไว้ไม่อยู่ เพราะแม้นไม่เคยตามใครทันสักครั้ง แม้แต่เรื่องความรักก็ตาม
“คุณนายเธอเจ้ากี้เจ้าการพาคุณหนูแดงไปหาให้ใครได้เกี้ยวพาบ้างหรือเปล่าเจ้าคะ”
ดารกาออกแปลกใจเมื่อได้ยินคำถามด้วยท่าทางที่ไม่ดีเอาเสียเลยของพี่เลี้ยง และคนที่เธอห่วงที่สุดคือมารดา ดังนั้นจึงเอ่ยถามอย่างเฉลียวใจว่า
“พี่วัลย์เขาไปหาคุณแม่ แล้วทำให้คุณแม่ไม่สบายใจเรื่องของแดงหรือเปล่าจ๊ะแม้น”
“ไปสิเจ้าคะ ไปต่อว่าคุณผู้หญิงว่า ไม่ดุแลคุณ ปล่อยให้ไปเที่ยวทุกวัน ต่อไปนี้เธอจะดูแลคุณเอง นี่คุณแม่สั่งให้มาดักพาคุณหนูออกไปก่อน”แม้นลดเสียง สีหน้าท่าทีจืดเจื่อนลงไปอย่างเห็นได้ขัดเพราะทำไม่สำเร็จจึงเอ่ยแสนเบา “แต่ไม่ทันคุณวัลย์”
“คุณแม่คงห่วงแดง”
“เจ้าค่ะ พอคุณวัลย์ออกจากห้องปุ๊บ ท่านปวดศีรษะทุกทีเลยเจ้าค่ะ แม้นสงสารคุณผู้หญิงจริงๆเลยที่โดนสะใภ้พูดจาข่มเอาข่มเอาอย่างนี้”
ดารการับฟังด้วยหัวใจที่เจ็บร้อนแทนมารดา และเธอคิดว่า สมควรแล้วที่หักหน้าวัลย์วิไลอย่างเมื่อครู่นี้ ที่ไม่ต้อนรับแขกที่เธอพามา แม้คนพวกนั้นจะสามารถช่วยเหลือพี่ชายของเธอให้เล่นการเมืองได้สะดวก
แต่...เลิศชายยิ่งเล่นการเมือง ยิ่งเหมือน เล่น ไม่ได้ทำจริง ทำไมจึงใช้คำว่าเล่นการเมือง ทำไมพวกเขาไม่ใช้คำว่า ทำการเมืองให้เป็นจริงเป็นจัง หรือถ้าทำแล้วมันจะแย่ไปกว่า ‘เล่น’เช่นนี้ เพราะเป็นของเล่นกระมังจึงไม่มีประชาธิปไตยเต็มใบ นับแต่ได้รัฐธรรมนูญมา มีอะไรเปลี่ยนแปลงไปบ้าง นอกจากการเหลิงอำนาจของคน พวกพ้อง
นักการเมืองบางคนรวยมาก บางคนจน อย่างพี่ชายเธอนั้นแรกเริ่มเล่นการเมืองประสบความสำเร็จมาก และรวย ต่อมาเริ่มขายทรัพย์สินออกไปอย่างที่บิดามารดาไม่สามารถห้ามได้ เพราะเริ่มล้มเหลวจากการรัฐประหารและมีการเลือกตั้งใหม่หลายครั้ง
เลิศชาย ต้องซื้อเสียงเพื่อให้ได้ชัยชนะ และนั้นเป็นการลงทุน ยังไม่ทันถอนทุน ก็ล้มอีก การเมืองเป็นเรื่องพวกพ้อง พรรคพวก เลิศชายไม่มีนายทหารเป็นพวก ซึ่งเป็นที่รู้กันว่า หากจะตั้งตัว หรือสร้างอิทธิพลต้องยึดสายทหาร
นายทหารชื่อดังท่านหนึ่งจึงมีอำนาจสั่งการมากนัก ดารกาเชื่อว่าเขาคนนั้นต้องมีเงินล้นฟ้าทีเดียว เพียงแต่ตอนนี้คงเปิดโปงอะไรไม่ได้ หาไม่คงถูกจับยิงเป้า...ประชาธิปไตยที่คนยังถูกพิพากษาโดยไม่ต้องขึ้นศาล
เล่นไปเพื่ออะไร หากไม่ทำเพื่อชาติอย่างแท้จริง!!
“คิดอะไรเจ้าคะคุณหนู เงียบไปเชียว”
“คิดเล่นๆจ้ะแม้น”
หญิงสาวตอบพลางเลี้ยวเข้าห้องนั่งเล่น ซึ่งเป็นมุมยื่นส่วนไปทางด้านหลังเพื่อชมทิวทัศน์ของสวนดอกไม้ และสวนไม้ยืนต้น โดยเฉพาะ เมื่อเปิด ประตู หน้าต่าง ซึ่งยาวจรดพื้น เป็นแบบทรงของชาวยุโรป รับลมเย็นได้สบาย
คุณเลื่อนมีสีหน้าดีขึ้นทุกครั้งเมื่อได้พบกับลูกรักคนนี้ ดารกาเข้าไปนั่งพื้นใกล้ตั่งนอนเล่นของมารดา สวมกอดท่าน ซุกหน้าแนบอก ออดอ้อนกับผู้บังเกิดเกล้าว่า
“นั่งเป็นห่วงแดงมากเชียวหรือคะคุณแม่”
คุณเลื่อนจับคางมลบิดเล็กน้อย เหมือนลงโทษ ซึ่งที่แท้คือหยอกเอินมากกว่า
“ทำอวดเก่ง ตะลอนเที่ยวทุกวัน ไหนบอกมาทีว่าวันนี้ไปที่ไหนมาบ้าง”
“ไปหาเที่ยวเล่นแถวกระทรวงค่ะคุณแม่”
“ไปทำไมเจ้าคะ”คนสงสัยและถามเสียงแข็งกลับเป็นแม้น “เมื่อวานไปเที่ยวท่าน้ำ วันนี้ไปกระทรวง ตกลงกระทรวงอะไรคะ อยู่ท่าน้ำด้วยหรือเปล่าเจ้าคะ”
“ไม่บอกแม้นดอก แต่แดงจะบอกคุณแม่ของแดง”เธอหันไปยั่วพี่เลี้ยง มารดาอารมณ์ดีขึ้นทันตา
“อย่าโยกโย้อยู่เลย ว่าไงไปทำไม”
“ไปหาเพื่อนรุ่นพี่ที่เป็นทหารบกค่ะคุณแม่ เรามีนัดดูหนังรอบค่ำด้วยนะคะ”
“จะไปได้อย่างไรตามลำพังเจ้าคะคุณหนู มืดมืดค่ำๆอย่างนี้”
“อย่างนี้ยังเพิ่งสามโมงนะจ๊ะแม้น” เธอหันมาโต้แย้งพี่เลี้ยง ซึ่งทำหน้ามุ่ย เถียงไม่เคยชนะสักที นอกจากนั้นยังทำให้งงกลับกับความทันสมัยของดารกาอีกด้วย
“ตามนายเราไม่ทัน แล้วจะเป็นพี่เลี้ยงได้ยังไงกันนะแม้น”คุณเลื่อนเปรยขึ้น แม้นจึงตอบว่า
“แม้นตามสาวโก้เก๋ไม่ทันจริงๆเจ้าค่ะ คุณเธอช่างยอกย้อนให้แม้นปวดหัวเสียเรื่อย แต่ว่า เมื่อคุณหนูจะไปรอบค่ำให้จงได้ แม้นก็จะไปด้วยนะเจ้าคะ”
“ไปนั่งกรนให้แดงได้อายต่อพี่เปรมปะไรเล่า”
“เปรม...เปรมไหนเจ้าคะคุณหนูแดง”
คุณเลื่อนเป็นฝ่ายเอ็ดข้าเก่าเต่าเลี้ยงของตนเองว่า
“ทำเป็นเจ๊กตื่นไฟเอะอะให้อึงไปทำไมแม้น” แม้นทำตัวลีบ เงยขึ้นมองหน้านายผู้หญิงซึ่งพยักหน้ารับ เอ่ยว่า
“เขาเพื่อนหนูแดงนานนมมาแล้วทำเป็นลืมหรือ พ่อเปรมเขาเป็นนายทหาร คนใกล้ชิดกับท่านนายพลใหญ่คับเมืองนั่นละแม้น”
“เอ่อคุณผู้หญิงเห็นดีเห็นงามไปกับคุณหนูแดงเสียแล้วหรือเจ้าคะ”
“แล้วกันแม้น เรื่องอะไรมาย้อนฉันอย่างนี้เล่า ลูกสาวฉันโตแล้วนะ แล้วเขาก็ไม่ปิดบังฉันสักเรื่องฉันจะไปว่าอะไรเขาล่ะ เขาไม่ได้หอบผ้าไปอยู่กับผู้ชายเสียเมื่อไหร่ นี่ก็ขอไปดูหนัง เอ่อว่าแต่ไปอย่างไรล่ะหนูแดง”
ดารกามีท่าทีครุ่นคิด เธอนึกถึงขณะที่นัดหมายกัน ชิดสมัยดึงเธอไปดูหนัง และเธอต้องการไปให้ได้ แต่เปรมไม่เอ่ยปากมารับเธอ เขาทำตัวเหมือนคนไม่คุ้นเคย
‘เกรงใจยัยชิดสมัยขี้โรคอย่างน่าหมั่นไส้’ดารกาคิดได้เพียงเหตุผลเดียว
“ว่าอย่างไรล่ะหนูแดง เงียบไปเลย พี่เปรมไม่มารับหรือลูก”
“เอ่อพี่เปรมมีธุระค่ะ แดงไปรอที่บ้านชิดสมัยค่ะ เอ่อเราตกลงกันอย่างนั้นค่ะ”
“ให้แถมไปส่งนะลูก ไปกี่โมงล่ะ”
“ไปนั่งเล่นบ้านชิดสมัยสักหกโมงค่ะคุณแม่”ดารกาเพิ่งวางแผนตอนนี้เอง
เธออยากตีสนิทกับชิดสมัยให้มากกว่าเดิม อยากรู้ว่า เพื่อนที่เธอปรามาสว่าเป็นคนขี้โรคนั้นจะแหนหวงคนรักอย่างจงอางหวงไข่ หรือเสือแม่ลูกอ่อนหวงลูก แต่ไม่ว่าชิดสมัยจะเลือกเป็นอะไรก็ตาม ดารกาคนนี้เลือกแล้วที่จะแย่งเปรมกลับมาเป็นพี่ชายคนดีของเธอให้ได้ดังเดิม พี่ชายที่ดารกาไม่ยอมให้มีน้องสาวคนอื่นทั้งสิ้น!!
มารดาของชิดสมัยนั่งเย็บผ้าอยู่ตามปกติ เธอมีลูกค้ามาให้ตัดเย็บเสื้อผ้าอยู่บ้างไม่มากนัก มีรายได้พอกินกันไปอย่างไม่เดือดร้อน วันนี้แม่ริมดูลูกสาวแต่งตัวและแต่งหน้าเข้มแต่วัน จึงได้ท้วงว่า
“เปรมมารับหกโมงกว่าไม่ใช่หรือไหม ทำไมรีบแต่งตัวล่ะลูก”
ชิดสมัยยิ้มบางๆให้กับมารดา ไม่อายที่จะเอ่ยบอกความจริงกับท่านว่า
“นี่เป็นการเที่ยวกลางคืนวันแรกของไหมนี่คะคุณแม่ ไหมอยากสวยอย่างไม่มีที่ติค่ะ คุณแม่ว่าไหมสวยหรือยังคะ”
“สวยสิสวยมาก”แม่ริมชม แล้วมองไปที่ประตูทางเข้าบ้าน หญิงสาวร่างอรชรแต่งกายสวยด้วยผ้าราคาแพงอย่างที่ช่างตัดเสื้อรู้ดี ดารกายกมือทำความเคารพมารดาของชิดสมัย
“สวัสดีค่ะคุณแม่” ผู้เป็นลูกแนะนำว่า
“หนูแดง ลูกสาวคุณหลวงค่ะคุณแม่ เธอจะไปเป็นเพื่อนไหมคืนนี้ค่ะ”
ความสวยที่เหมือนดวงจันทร์จรัสแสงของดารกาทำให้แม่ริมอดตำหนิลูกสาวในใจไม่ได้ว่าช่างไม่ฉลาดเลยที่เอาเพื่อไปข่มตัวเออย่างนี้
“พวกสุดากับราตรีไม่ไปด้วยหรือเห็นสนิทกัน”
“พวกนั้นธุระเยอะค่ะคุณแม่ มีแต่แดงที่รับปากไหมจะไปเป็นเพื่อนค่ะ”
แม่ริมลอบถอนใจ เมื่อยิ่งพิศ ยิ่งเพ่ง ยิ่งเห็นความงามอย่างไม่น่าเบื่อตาของดารกา สาวที่หาความงามเช่นนี้ยากนักที่จะยิ่งมองยิ่งสวย เห็นแล้วยิ่งกลัวใจจนอดหวงแทนลูกสาวเสียไม่ได้ว่า
“เปรมเขาบอกว่าติดยศร้อยเอกแล้วจะแต่งงานกับไหมไม่ใช่หรือลูก”
อุ๊ย...คุณแม่เอาที่ไหนมาพูด ชิดสมัยครางในอก
“ดีเหมือนกันนะ บ้านเราจะได้มีผู้ชายคุ้มครอง ยิ่งคนดีอย่างเปรมแม่ก็วางใจ ว่าแต่หนูแดงมีคู่หมายหรือยังล่ะจ๊ะ”
“มีแล้วค่ะคุณแม่ เราหมั้นกันตั้งแต่เด็กๆค่ะ”
“แดงมีแล้วหรือแดง” ชิดสมัยถามหน้าซื่อ ส่วนแม่ริม ทำตาโต อุทานว่า
“เหมือนละครวิทยุเลยนะ พวกลูกคนมีเงินจะจับคู่หมั้นกันแต่เด็กๆ หนูแดงคงมีคู่หมั้นที่เหมาะสมกันมากใช่มั้ยจ๊ะ”
“ค่ะ เป็นนายทหาร คุณพ่อคุณแม่ของเขารักแดงมากเชียวค่ะ” ดารกานึกถึงคนที่ท่านรักและเอ็นดูเธออย่างไม่ได้โกหก
คุณริมอดเอ่ยออกมาเสียไม่ได้ว่า
“ดีนะ เพราะลูกผู้หญิงเราแย่มากที่สุดก็เรื่องพ่อผัวลูกสะใภ้ พ่อแม่ผู้ชายมีรักให้หนูแดงเป็นทุนอย่างนี้ดีแล้วนะ”
“ไหมล่ะจ๊ะ คุณพ่อคุณแม่พี่เปรมคงรักไหมมากกระมัง ไหมน่ารักออก”ดารกากล่าวทั้งที่รู้อีกฝ่ายไม่รู้จักพ่อปริก แม่วาด ชิดสมัยมีท่าทีสลดลง ก่อนเอ่ยตามจริงออกมาว่า
“ไหมไม่รู้จักพวกท่านเลยจ้ะแดง ไหมคบกับพี่เปรมมาสองปีแล้ว แต่พี่เปรมยังไม่เคยพาไปบ้านของเขาที่ต่างจังหวัด
เลย พี่เปรมคงเห็นว่าไม่เหมาะสมที่จะไปตามลำพัง”
อ้อ...นางงามแสนดีของพี่เปรม!ดารกานึกค่อน จากนั้นจึงเอ่ยออกมาว่า
“คุณแม่นั่งเย็บผ้าอย่างนี้ตั้งแต่เช้าเลยหรือคะ”
“ใช่จ้ะ”
“ไม่ร้อนหรือคะ” ดารกาหาทางออกไปคุยกับชิดสมัยตามลำพัง ซึ่งได้ผล เพราะแม่ริมรีบเอ่ยอย่างวางใจ ในคำบอกเล่าของดารกาที่ว่า เธอมีคู่หมั้นแล้ว โดยไม่รู้เรื่องอุปโลกน์ของหญิงสาวคนสวย
“หน้าบ้านมีลมพัด ไม่ค่อยร้อน พากันไปนั่งตรงนั้นสิ เดี๋ยวเปรมคงมารับ เขามาหาไหมบ่อยๆไป”
แหม แหม คุณแม่ท่าทางไม่เบาเลยนะ อยากจับไปคู่กับแม้นเสียจริง มีหวังสองคนนี้คงได้งัดค้างแน่ว่าชิดสมัยหรือแดงคนนี้ใครมีดีกว่าใคร...แต่ แดงเป็นคนที่ถูกลืมนี่นา ความคิดเอาชนะหดหู่ลงไปชั่วขณะ



นางแก้ว
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 8 พ.ย. 2554, 07:08:25 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 9 พ.ย. 2554, 08:59:36 น.

จำนวนการเข้าชม : 2595





<< ทำเรื่องให้ยุ่ง   บังเอิญจูบ >>
เดิมเดิม 8 พ.ย. 2554, 08:22:50 น.
หนูแดงเจอศึกหลายด้านเลยเนี่ย


nunoi 8 พ.ย. 2554, 09:11:26 น.
พี่สะใภ้ นี่ร้ายจริงๆ


MYsister 8 พ.ย. 2554, 10:30:57 น.
ดูเรื่องจะวุ่นๆยิ่งขึ้น หนูแดงฉลาดพอตัวเลยทีเดียว


nutcha 8 พ.ย. 2554, 11:08:31 น.
หนูแดงฉลาดเอาตัวรอด เป็นกำลังใจให้หนูแดง


คิมหันตุ์ 8 พ.ย. 2554, 12:15:02 น.
เห้อ เอาใจช่วยหนูแดงค่ะ


Zephyr 8 พ.ย. 2554, 13:46:21 น.
พี่สะใภ้ร้ายเชียวจะเอาหนูแดงไปประเคนใครเนี่ย ไหมเธอก็อีกคนนะจับคู่อีก แม่ของไหมอีกตีกันให้ลูกสาวซะ น่าจะเอาไปฉะกับแม้นจริงๆคงเป็นมวยคู่เอก ศึกรอบด้านเลลยหนูแดง ดีแล้วค่ะที่หนูแดงบุคลิกแบบนี้ ไม่งั้นคงสู้ใครไม่ได้ คาดว่าจากไหมจะจับคู่ให้นเรศกลายเป็นจับให้พี่เปรมแทนป่าว หึหึ


แพม 8 พ.ย. 2554, 16:35:30 น.
สังเวียนรักมันต้องสู้! เหอะๆ


minafiba 8 พ.ย. 2554, 20:15:19 น.
^_^


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account