อาทิตย์พรางดาว
เมื่อความเคียดแค้นชิงชังที่มีมาระหว่างพี่น้องต่างมารดา ทำให้เกิดเรื่องราวต่างที่นำมาซึ่งความสุข เศร้า และโศกนาฏกรรม! ดาวเหนือจะทำอย่างไรเมื่อตะวันฉายผู้เป็นเกลียดเธอจนไม่อยากจะอยู่ร่วมโลก และตฤณจะทำอย่างไรเพื่อปกป้องคนรักไม่ให้โดนทำร้าย ต้องติดตามใน 'อาทิตย์พรางดาว'
Tags: ดราม่า
ตอน: ตอนที่ 24
ตอนที่ 24
“แล้วเขาไปรู้จักมักจี่กันตอนไหนคะ”หลังจากหายตกใจแล้ว คุณมินตราก็เริ่มถามคุณหญิงผกามาศทันที แต่ก็ไม่ได้เรื่องอะไรนัก เพราะคุณหญิงเองก็เพิ่งจะรู้เรื่องนี้
“แล้วเธอไม่รู้มาก่อนรึไง ยายตะวันไม่ได้เล่าให้ฟังบ้างเหรอ”
“โธ่คุณแม่คะ ถ้ามินรู้ก่อน มินจะตกใจขนาดนี้เหรอคะ”
“โอ๊ย! ตายๆ จบเรื่องตาพัดกับยายจันทร์ไปไม่ทันไร เรื่องใหม่ก็มาอีกแล้วเหรอเนี่ย ฉันละกลุ้ม”คุณหญิงผกามาศร้องออกมาอย่างเหนื่อยใจกับปัญหาที่เกิดจากหลานสาวจอมเอาแต่ใจของตน คุณมินตรานั่งหน้าเครียดก่อนจะลุกพรวดพราดออกไปจนแม่สามีงงงวย ร้องถามตามหลังไป
“แล้วจะไปไหนล่ะนั่นแม่มิน”
“ไปหาบุษค่ะ”ตอบเสร็จก็รีบเดินตรงไปยังบ้านหลังเล็กของคุณบุษบาทันที คุณหญิงผกามาศได้ตามองตามหลังสะใภ้ของตนไป ก่อนจะภาวนา
“ขอให้เรื่องบ้าๆนี่มันจบลงด้วยดีด้วยเถิด”
“บุษ! บุษอยู่รึเปล่า”คุณมินตราร้องเรียกอีกฝ่ายดังลั่น เพราะเมื่อเดินเข้าไปในตัวบ้านแล้วแต่กลับไม่พบเจ้าของบ้านจึงตัดสินใจเดินหาอีกฝ่ายจนทั่วแต่ก็ไม่พบจนถอดใจ แต่ก่อนที่จะได้กลับไปยังบ้านของตน คุณบุษบาก็เดินถือของพะรุงพะรังเข้ามาเสียก่อน
“อ้าว!คุณพี่ มาตั้งแต่เมื่อไหร่คะเนี่ย”
“ไปไหนมาเนี่ยเธอ พี่ตามหาซะทั่ว”คุณมินตราบ่นก่อนจะเข้าไปลากอีกฝ่ายให้มานั่งที่โซฟา ก่อนจะเข้าเรื่องทันที
“เกิดเรื่องใหญ่แล้วบุษ ยายตะวันเกิดถูกใจคุณตฤณขึ้นมาแล้ว วันนี้ก็บุกไปหาเขาถึงบ้าน”
“อะไรนะคะ! แล้วนี่เรื่องมันเป็นไงมาไงคะเนี่ย”คุณมินตราจึงเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นให้ฟังทันที คุณบุษบาเกิดอาการมือไม้อ่อนขึ้นมาทันใดเมื่อได้ฟังเรื่องที่อีกฝ่ายเล่า
“บุษควรจะทำยังไงดีคะคุณพี่ ยายดาวน่ะรักตาตฤณมากเลยนะคะ บุษไม่เคยเห็นลูกมีความสุขขนาดนี้มาก่อน บุษไม่อยากให้ลูกกลับไปเย็นชาเหมือนเมื่อก่อนอีกแล้วค่ะ”
“พี่เข้าใจ พี่เองก็โล่งใจมากเลยทีเดียวที่เห็นยายดาวอ่อนลงขนาดนี้ แต่พี่เองก็ไม่รู้จะทำยังไงดีเหมือนกัน ยายตะวันก็ลูกพี่ ยายดาวพี่เองก็รักเหมือนลูกแท้ๆ ที่สำคัญเขาสองคนเป็นพี่น้องพ่อเดียวกัน ไม่ควรเลยที่จะมามีปัญหากันเพราะเรื่องนี้อีก ที่พี่มาบอกบุษก็เพื่อที่จะให้เธอบอกให้ยายดาวระวังตัวไว้ เผื่อยายตะวันจะเกิดลูกบ้าอะไรขึ้นมา”คุณมินตรานึกถึงลูกสาวตัวเองที่ไม่รู้ว่าเกิดบ้าขึ้นมาแย่งแฟนน้องอย่างโจ่งแจ้งได้ยังไงอย่างหนักใจ ปล่อยให้คุณบุษบาคิดหาทางออกสำหรับเรื่องนี้อยู่เงียบๆ
ตะวันฉายในชุดคลุมอาบน้ำเดินมาเปิดตู้เสื้อผ้า ก่อนจะหยิบชุดโน้น ชุดนี้ออกมาทาบกับตัวเองเพื่อดูว่าตัวไหนที่จะทำให้เธอดูสวย และดึงดูดใจชายหนุ่มที่เธอจะออกไปหาเย็นนี้ แต่ร่างเพรียวก็ต้องหงุดหงิดเมื่อไม่มีตัวไหนสวยที่พอจะทำให้ ’เขา’ สนใจได้ในความรู้สึกของเธอ
“นี่นังแววแกว่าฉันใส่ชุดไหนสวยสุด” สุดท้ายหญิงสาวจึงหันไปถามสาวใช้คนสนิทที่กำลังวิ่งวุ่นเก็บชุดทั้งหลายที่เจ้านายสาวโยนทิ้งจนเกลื่อนห้องด้วยความไม่พอใจ แวววางเสื้อทั้งหมดลงบนเตียงกว้างก่อนจะประจบ
“หูย! คุณตะวันของแววใส่ชุดไหนก็สวยหมดค่ะ”
“ปากหวานนะแกนี่”ตะวันฉายยิ้มพอใจกับคำชม พร้อมกับยื่นธนบัตรใบสีเทาไปให้แววที่คลานมารับอย่างรวดเร็ว แต่ก็ยังไม่สามารถหาได้อยู่ดีว่าตนควรใส่ชุดไหนไปดำเนินการจีบหนุ่มดี
“แต่ฉันว่าชุดพวกนี้มันเก่าแล้ว บางตัวตกรุ่นแล้วด้วย ขืนใส่ไปมีหวังเอาชนะใจคุณตฤณไม่ได้แน่”
“คุณตฤณนี่ใช่คนที่มางานคุณพัดกับเพื่อนนังคุณดาวหรือเปล่าคะ”แววติดใจชื่อของบุคคลที่สามที่หลุดมาจากปากของเจ้านายสาว ตะวันฉายพยักหน้ารับ
“ใช่ คนนั้นแหละที่หล่อๆ ดูสมาร์ท เสียอยู่อย่างดันใส่แว่นปิดบังความหล่อเอาไว้เสียนี่”
“เอ๊ะ! แต่เห็นแม่พวกปากหอยปากปูในครัวเม้าท์กันว่าเป็นแฟนใหม่ของนังคุณดาวไม่ใช่เหรอคะ”
“ใช่แล้วไง ฉันไม่แคร์ ฉันชอบของฉัน แกคอยดูนะนังแวว ฉันจะต้องฉกคุณตฤณมาจากนังดาวอุบาทว์นั่นให้ได้ คราวนี้แหละมันได้กระอักเลือดตายของจริงแน่ ตะวันฉายยิ้มร้าย ก่อนจะหัวเราะออกมาด้วยความสะใจโดยมีลูกคู่อย่างแววคอยผสมโรงอยู่ด้วยตลอดเวลา สุดท้ายหญิงสาวก็ตัดสินใจออกไปซื้อชุดใหม่เพื่อแผนที่เธอวางเอาไว้ในค่ำคืนนี้
“ถึงรึยังครับ”
“ถึงประมาณชั่วโมงกว่าได้แล้ว พี่ตฤณเป็นไงบ้าง”
“เหงาครับ ไม่มีคนอยู่ให้เอาใจ ดาวรีบๆกลับมานะครับ เทอร์โบคิดถึง”
ร่างโปร่งยิ้มใส่โทรศัพท์มือถือของตนกับคำอ้อนของชายหนุ่มที่ภายนอกดูสุภาพเรียบร้อย จนใครหลายคิดว่าคงไม่มีปัญญาจีบสาวติด หารู้ไม่ว่าอีกฝ่ายนั้นเปรียบเสมือนเสือหิวที่แอบเอาหนังลูกแกะมาคลุม หญิงสาวแกล้งทำเป็นโกรธเมื่ออีกฝ่ายยกเอาเจ้าตัวแสบสี่ขามาอ้าง
“อ๋อ เทอร์โบคิดถึงดาว แต่เจ้านายของเจ้าแสบนั่นไม่คิดถึงดาวใช่ไหม”
“ไม่ใช่นะครับ!”ร่างสูงรีบปฏิเสธเสียงลั่น ทำเอาลูกจ้างสาวที่ทำความสะอาดพื้นเตรียมปิดร้านสะดุ้งโหยง มองมาทางเจ้านายตนเองที่ส่งยิ้มแหยๆมาให้ ตฤณรีบย้ายตัวเองไปหลังร้านโดยเร็วก่อนจะอ้อมแอ้มแก้ตัว
“พี่คิดถึงดาวจะแย่อยู่แล้ว ที่แค่ไม่อยากให้ใครเข้าหาว่าพี่ติดแฟนเกินไปเท่านั้นเอง”
“ฟังไม่เห็นขึ้น”หญิงสาวยังคงแกล้งไม่เลิก
“โธ่! น้องดาวเลิกแกล้งพี่ได้แล้วครับ ว่าแต่แล้วนี่ทานข้าวเย็นแล้วยัง”เมื่อเห็นว่ายังไงๆก็แพ้คนรักสาวแน่นอน ชายหนุ่มเลยต้องรีบเรื่อง ดาวเหนือหัวเราะเบาๆก่อนจะตอบ
“กำลังจะไป รอน้องพี่ตฤณเปลี่ยนชุดก่อน นี่เข้าไปอาบน้ำเป็นชั่วโมงแล้ว”หญิงสาวรีบเปิดลำโพงให้ปลายสายได้ยินเสียงน้องสาวของเขาที่โผล่หน้าออกมาจากห้องน้ำทันทีที่ได้ยินประโยคข้างต้นของเธอเข้า
“อย่ามาใส่ไฟฉันนะแก ฉันเพิ่งเข้าไปยังไม่ถึงสิบนาทีดีเลย”ตรีทิพย์บ่น ก่อนจะร้องแง้วๆฟ้องพี่ชาย
“พี่ตฤณ แฟนพี่ตฤณหาเรื่องตาลอ่ะ เลิกกับมันเดี๋ยวนี้เลยนะ”
“บ้าเหรอเรา! อยู่ดีๆก็มายุให้เขาเลิกกัน ไม่รู้แหละ พี่เข้าข้างดาว” ชายหนุ่มประท้วง ก่อนจะเล่นงานน้องสาวกลับ “โอ๊ย! คนทรยศ ฉันเลิกคบแกไอ้ดาว เราขาดกันพี่ตฤณ!”หญิงสาวแกล้งโวยวายก่อนจะเดินสะบัดกลับเข้าห้องน้ำไป
“อ้าว! งอนไปซะแล้วเหรอนั่น”
“อืม”หญิงสาวตอบสั้นๆก่อนที่ต่างฝ่ายจะเงียบกันไป สุดท้ายตฤณก็เป็นฝ่ายทำลายความเงียบนั้นลง
“ดาวครับ เรื่องวันนี้น่ะ...”ยังพูดไม่ทันจบ ร่างโปร่งก็แทรกขึ้นมาเสียก่อน “ดาวมีเรื่องจะถามพี่ตฤณ”
“ครับ?”
“พี่ตฤณสนใจ ‘เขา’ บ้างไหม”
“พี่รอผู้หญิงคนหนึ่งให้เขาหันมามองพี่ตลอดชีวิต ถ้าพี่จะสนใจผู้หญิงอื่น พี่คงไม่อดทนรอคนๆนั้นหรอกครับดาว”ชายหนุ่มบอกปลายสายด้วยน้ำเสียงหนักแน่นมั่นคง ดาวเหนือเงยหน้ามองดวงจันทร์ก่อนจะส่งยิ้มไปให้ราวกับว่ามันคือใบหน้าอ่อนโยนของอีกฝ่าย
“ขอบคุณนะพี่ตฤณ”
“เฮ้อ! พี่น่ะไม่อะไรกับเขาหรอกนะ แต่พี่ว่าเขาจะไม่ยอมเลิกราน่ะสิ โชคดีไปที่วันนี้เจอเจ้าแสบสองเบอร์นั่นแกล้งป่วนไปเสียก่อน ไม่งั้นคงเจออีกมุมของพี่แหง”ตฤณถอนหายใจ ก่อนจะบ่นเพราะเขาเองก็ไม่ใช่สุภาพบุรุษเต็มร้อยซักเท่าไหร่ หากทนไม่ไหวขึ้นมาอาจมีตวาดใส่บ้างก็เป็นได้
“ทนต่อไปอีหน่อยแล้วกันพี่ตฤณ พอเขาเจอเหยื่อใหม่เขาอาจจะไม่สนพี่อีกเลย คนอย่างคุณตะวันน่ะชอบเร็ว แต่เวลาเบื่อน่ะเร็วยิ่งกว่า”ร่างโปร่งพูดด้วยรู้นิสัยของคนที่เป็นศัตรูกันมาตลอดกาลอย่างตะวันฉายดี
“ก็หวังให้เป็นอย่างนั้น แล้วนั่น ยายตัวดีโวยวายอะไรอีกล่ะ”
“อ๋อ บอกว่า ‘เลิกจีบกันซะที หิวข้าวไส้จะแล้ว’ น่ะ”ดาวเหนือถ่ายทอดคำพูดของเพื่อนให้เขาฟัง ก่อนจะหัวเราะเมื่อได้ยินคำพูดที่อีกฝ่ายฝากไปให้น้องสาวตัวเอง
“ห่วงกินจริงๆ บอกยายตาลให้พี่ทีว่า ‘ขากลับน่ะไม่ต้องเดิน กลิ้งกลับมาแทนล่ะกันนะ’”
“สวัสดีจ๊ะ คุณตฤณอยู่ไหม”เสียงหวานดังขึ้นเบื้องหลังเด็กสาววัยรุ่นที่กำลังถูพื้นหน้าร้าน Charming Pet อยู่ เด็กสาวหันกลับไปมองอีกฝ่ายก่อนจะทำตาโตกับความสวยราวกับนางพญา
“ว่าไงจ๊ะ อยู่ไหม”ตะวันฉายยิ้มหวานถามซ้ำอีกครั้ง แม้ในใจจะก่นด่าเด็กสาวไปเรียบร้อยแล้วค่าที่ทำให้เธอต้องลดตัวลงมาคุยด้วย เด็กสาวได้สติรีบบอกทันที
“อยู่ค่ะ คุณตฤณอยู่หลังร้าน”
“ขอบใจมากจ๊ะ” ร่างเพรียวโปรยยิ้มการค้าอีกครั้ง ก่อนจะเดินเข้าไปแต่แล้วก็หมุนตัวกลับมายังเด็กสาวที่ยังคงมองตามเธออยู่ “จริงสิ น้องชื่ออะไรเหรอ”
“ชื่อก้อยค่ะ”หญิงสาวพยักหน้ารับรู้ มือเรียวเปิดกระเป๋าถือสีเงินก่อนจะหยิบธนบัตรสีม่วงออกมาหนึ่งใบแล้วส่งให้
“นี่จ๊ะ พี่ให้”
“พี่คนสวยให้ก้อยเหรอคะ”ก้อยมองกระดาษบางๆแต่มูลค่าของมันกลับหนักอึ้งในมืออีกฝ่ายตาโต แต่ก็ยังไม่ไว้ใจเพราะในโลกใบนี้ไม่มีอะไรได้มาฟรีๆ
“ใช่ ให้เอาไปกินขนมน่ะ ”
“โหย! ขอบคุณมากเลยค่ะ พี่ เอ่อ พี่”
“ตะวันจ๊ะ ไปตอนนี้เลยสิ พี่เห็นมีของอร่อยอยู่ตรงปากซอย ไปซื้อมาเผื่อพี่ด้วยนะ”
“ได้เลยค่ะ” ร่างเพรียวยิ้มออกมาอย่างพอใจ ก่อนจะเดินไปหาเป้าหมายของตนเองทันที ดวงตาคู่งามทอประกายวาบเมื่อเห็นว่าชายในฝันของตนกำลังยืนอยู่คนเดียว ตะวันฉายยืนมองชายหนุ่มอย่างหลงใหลในความเป็นสุภาพบุรุษ เธอเชื่อว่าหากเขาและเธอคบกันจะต้องเป็นคู่ที่เหมาะสมกันยิ่งกว่ากิ่งทองใบหยกเสียอีก ไม่มีใครเหมาะสมกับเธอเท่ากับผู้ชายคนนี้อีกแล้ว ไม่ว่าจะต้องทำยังไงเธอก็ต้องได้เขามาครอบครองให้จงได้
ตฤณมองโทรศัพท์ในมืออย่างมีความสุข แม้ว่าคนไกลจะวางสายไปแล้ว แต่เสียงของหญิงสาวยังคงดังก้องอยู่ในโสตประสาทและจะยังคงอยู่ไปอีกนานจนกว่าอีกฝ่ายจะกลับมา ชายหนุ่มเก็บมือถือลงกระเป๋าแล้วหันหลังจะกลับเข้าไปจัดการกับบัญชีของร้านในวันนี้ แต่แล้วก็ต้องนิ่งค้างเมื่อเห็นยืนอยู่ แม้จะคิดไว้แล้วว่าอาจจะต้องเจอกันอีกครั้ง แต่ก็ไม่คิดว่าจะรวดเร็วแบบไม่ทันข้ามวันอบย่างนี้
“สวัสดีค่ะ ตะวันคงไม่ได้มารบกวนเวลาดูดาวของคุณใช่ไหมคะ”
เพล้ง!
“ว้าย! ขอโทษนะคะ เดี๋ยวจะไปเอาแก้วมาเปลี่ยนให้ใหม่”พนักงานสาวบอกกับร่างโปร่งหน้าซีด ก่อนจะรีบวิ่งกลับไปเอาอุปกรณ์ทำความสะอาด พร้อมกับแก้วไวน์ใบใหม่มาให้หญิงสาว ตรีทิพย์มองตามพนักงานคนนั้นไปก่อนจะส่ายหัว
“ให้ตายสิ ก็เห็นๆอยู่ว่ามันไม่มีที่จะวางจานแล้ว ยังจะอุตส่าห์วางลงไปอีก เป็นไงล่ะ สุดท้ายก็ไปดันเอาแก้วตกแตกเลย ไม่ได้เรื่องจริง แม่คนนี้”
“โธ่! คุณเรื่องแบบนี้มันก็มีพลาดได้น่า ไม่มีใครในโลกใบนี้ทำพลาดไม่ได้หรอกนะ”วีกิจบอกกับหญิงสาวที่เขากำลังตามจีบอยู่ตามสัจธรรมองโลกใบนี้ ไม่ได้คิดอะไรเกินเลย แต่ดูเหมือนว่าแม่สาวข้างตัวคนนี้จะชอบยัดเยียดความผิดมาให้เขาทุกทีไป ตรีทิพย์ค้อนอีกฝ่ายก่อนจะแค่นเสียงพูด
“ใช่ซี้! ก็แม่นั่นมันอกเป็นแม่พันธ์วัว เอวเป็นแม่พันธ์ม้านี่ นายเลยเข้าข้าง คนปกติธรรมดาอย่างฉันหรือจะสู้ได้”
“ว่าไปนั่น แล้วคุณมันปกติกับเขาที่ไหน น้องเขาน่ะปกติส่วนคุณน่ะมันผิดปกติ ผู้หญิงอะไรด้านหน้ากับด้านหลังเหมือนกันซะยิ่งกว่าฝาแฝด”ชายหนุ่มบ่น ก่อนจะร้องโอ๊ยเพราะโดนฝ่ามือพิฆาตคนลามกเข้าไป ดาวเหนือมองการทะเลาะกันของทั้งคู่ยิ้มๆ แม้แววตายามเหลือบมองเศษแก้วและไวน์แดงบนพื้นจะดูเคร่งเครียด ไม่ค่อยสบายใจ
“ว่าไงคะ ตะวันมารบกวนหรือเปล่า”หญิงสาวถามซ้ำพร้อมกับเดินเข้าไปใกล้คุณหมอหนุ่มที่ยังคงยืนนิ่ง ใบหน้าคมดูเครียดขรึมไม่ได้มีความยินดีที่ได้เจอเธอ แต่ก็ท่าทางแค่นี้ไม่ได้ทำให้เธอยอมแพ้หรอก
“ก็นิดหน่อยครับ ผมกำลังจะไปตรวจบัญชีพอดี คุณตะวันมีธุระอะไรกับผมครับ”
“ไม่มีอะไรมากหรอกค่ะ แค่กำลังหาคนไปทานข้าวเป็นเพื่อน ตะวันยังไม่ได้ทานอะไรเลยตั้งแต่กลับไปเมื่อตอนกลางวัน คุณพอจะว่างไปเป็นเพื่อนตะวันไหมคะ”ตะวันฉายเอียงคอเล็กน้อยแบบที่เธอคิดว่ามันจะทำให้เธอดูน่ารักขึ้นมาบ้างไปให้ มันคงจะทำให้หนุ่มๆทั้งหลายในสังกัดของเธอยินยอมพร้อมใจจะทำตามที่เธอสั่งทุกอย่างแต่นั่นไม่ใช่ นายสัตวแพทย์หนุ่มคนนี้เป็นแน่ เพราะตฤณทำแค่ส่งยิ้มไปให้ก่อนจะปฏิเสธแบบไม่ถนอมน้ำใจเท่าใด
“ต้องขอโทษด้วยครับ พอดีผมไม่ว่าง”ร่างสูงกล่าวเสร็จก็ปลีกตัวเดินกลับเข้าไปด้านในทันที ตะวันฉายมองตามหลังไปด้วยดวงตาลุกวาว ไม่พอใจที่อีกฝ่ายตัดรอนเธออย่างนี้ แน่นอนว่าถ้ายอมแพ้ง่ายๆก็ไม่ใช่ตะวันฉายสิ หญิงสาวปรับสีหน้าก่อนจะเดินตามเข้าไปอย่างรวดเร็ว
“คุณคงยังทำงานไม่เสร็จ ถ้างั้นตะวันนั่งรอได้ค่ะ”ว่าแล้วร่างเพรียวก็ทิ้งตัวลงนั่งที่โซฟารับแขก ซึ่งมีไว้ให้ลูกค้าที่มารอสัตว์เลี้ยงตัวโปรดตัดขน หรือมารับการรักษา ตฤณมองหญิงสาวที่นั่งอ่านนิตยสารบนโต๊ะอย่างใจเย็นก่อนจะก้มหน้าก้มตาตรวจทานบัญชีสำหรับวันนี้โดยไม่สนใจแขกที่ไม่ได้รับเชิญแม้แต่น้อย ในใจคิดถึงลูกจ้างสาวตัวดีที่หายจ้อยไปไหนไม่รู้
‘หึ คิดจะเล่นเกมวัดความอดทนกับฉันงั้นเหรอ ได้! มาดูกันว่าใครจะทนไม่ไหวก่อนกัน’
“เอ ห้องน้ำอยู่ทางไหนคะ”หลังจากผ่านไปครึ่งชั่วโมงที่มีแต่ความเงียบ ร่างเพรียวก็เอ่ยถามขึ้นมา ตฤณเงยหน้าขึ้นมาจากบัญชีเพื่อบอกทาง ก่อนจะก้มลงไปอย่างเดิม
“งั้นขอตัวซักครู่นะคะ” ตะวันฉายคว้ากระเป๋าถือติดมือไปด้วย ก่อนจะตรงไปยังทางที่อีกฝ่ายบอกเพื่อทำธุระส่วนตัว หลังจากที่ร่างของหญิงสาวพ้นประตูไปได้ไม่นาน ร่างป้อมของก้อยก็โผล่กลับเข้ามาพร้อมถุงขนมมากมายในมือ
“ไปไหนมานะเรา ยังไม่ได้บอกให้เลิกงานเลยนะ”ตฤณดุลูกจ้างสาวที่ส่งยิ้มแหยๆมาให้ก่อนจะอ้อมแอ้มตอบ
“ไปซื้อขนมหน้าปากซอยมาค่ะ”
“เหรอ แล้วทำไมไม่บอกหมอ เกิดมีโจรเข้ามาตีหัวหมอทำไง”
“ก็ก้อยเห็นหมอมีแฟนมาอยู่ด้วย ก็เลยไม่อยากเป็นก้างคะ”เด็กสาวแก้ตัวโดยเว้นเรื่องสินบนจำนวนห้าร้อยบาทไปซะ ตฤณถลึงตาใส่อีกฝ่ายก่อนเอ่ยแก้
“ใช่ซะที่ไหน พูดอย่างกับไม่เคยเห็นหน้าแฟนหมอ”
“ก็นึกว่าหมอเปลี่ยนใหม่ไงคะ ใครจะไปรู้ล่ะ”
“ทีหลังก็ถามไม่ใช่เดาส่ง แบบนี้ถ้าแฟนหมอมาได้ยินเป็นเรื่องเข้าจะทำไง จำเอาไว้ด้วย แล้วถ้าเขามาหาหมออีกอย่าทิ้งให้หมออยู่กับเขาสองคน แต่ถ้าเป็นแฟนหมอมา เราจะไปไหนก็ไป เข้าใจไหม”ชายหนุ่มย้ำกับลูกจ้างสาวเสียงเข้ม
“ค่ะ ก้อยจะไม่ทิ้งให้หมออยู่กับพี่เขาสองต่อสองอีก เพราะเดี๋ยวหมอเกิดสับรางไม่ทัน ก้อยคงตกงานแน่” เด็กสาวตอบรับ ก่อนจะเอ่ยแซวคุณหมอหมาใจดีที่เธอมาทำงานด้วยหลายปีแล้ว
“เดี๋ยวเถอะ อยากโดนตัดเงินเดือนก่อนตกงานไหมล่ะ จะได้จัดให้”
“อูย! ไม่เอาล่ะคะ แค่นี้ก็ไม่พอยาไส้แล้ว”
“พอๆไปทำความสะอาดต่อให้เสร็จๆ จะได้รีบกลับ เป็นสาวเป็นนางกลับบ้านค่ำมืดไม่ดี”
“ค่า คุณพ่อหมอ”ว่าแล้วก็วิ่งเข้าไปหยิบไม้ถูพื้นอันเดิมมาถูพื้นอีกครั้ง ตฤณมองตามเด็กสาวไปพลางส่ายหน้ากับความทะเล้นของลูกจ้างสาว ร่างสูงชะงักมือที่กำลังจะเขียนตัวเลขค่าใช้จ่ายในวันนี้ลงไปเมื่อได้ยินเสียงร้องของก้อย
“ว้าย! พี่ตะวันคนสวยยังอยู่เหรอคะเนี่ย ก้อยนึกว่ากลับไปแล้ว” ตะวันฉายยิ้มให้ก่อนจะเดินผ่านหน้าอีกฝ่ายไปนั่งบนโซฟาตัวเดิม ก้อยรีบเดินเข้าไปถามเอาใจ
“พี่คนสวยรอคุณหมอเหรอคะ ดื่มน้ำอะไรดีคะ เดี๋ยวก้อยไปเอามาให้”
“น้ำเปล่าดีกว่าจ้ะ พี่ไม่ค่อยชอบทานอะไรหวานๆ”
“ได้ค่ะ รอแป๊บนะคะ”เด็กสาวผลุบหายเข้าด้านหลัง ก่อนจะกลับมาอีกครั้งพร้อมแก้วน้ำในมือ แล้วเตรียมตัวจะไปทำความละอาดด้านใน แต่เสียงเรียบของคุณหมอหนุ่มก็ดังขัดไว้เสียก่อน
“ก้อย พื้นตรงหน้าประตูยังไม่สะอาดเลยนะ ถูอีกทีดีไหม”
“แต่ว่า...”
“หือ เมื่อกี้หมอบอกว่าไง”เด็กสาวที่กำลังจะอ้าปากเถียง ก็มีอันต้องหุบปากลงทันควันเมื่อนึกถึงเรื่องที่คุณหมอหมาบอกเมื่อครู่ สุดท้ายก้อยจึงได้แต่ลากไม้ถูพื้นไปยังหน้าประตูแต่โดยดี ตะวันฉายมองตามเด็กสาวงงๆแต่ซักพักก็นึกขึ้นได้ว่าเพราะอะไร
“คุณตฤณกลัวตะวันจะปล้ำคุณเหรอคะ ถึงต้องให้ก้อยคอยอยู่เป็นเพื่อน”ชายหนุ่มถึงกับทำปากกาในมือร่วง ส่วนก้อยก็ตาโตอ้าปากค้าง ตฤณพยามยามปรับอารมณ์ที่กระเจิงไปกับคำพูดนั้นในเป็นปกติ ก่อนจะตอบ
“ไม่ใช่อย่างนั้นหรอกครับ ผมรู้ดีว่าคุณตะวันคงไม่ทำอะไรแบบนั้นกับ ‘แฟนของน้อง’ ตัวเองหรอกครับ” เขาเน้นย้ำสถานะของตัวเอง ทำให้หญิงสาวที่วางมาดนางพญามาตลอดถึงกับผุดลุกคว้ากระเป๋าที่วางอยู่ด้านหน้าเดินฉับๆตรงไปยังประตู ใบหน้างามงอง้ำอย่างเห็นได้ชัด ตะวันฉายชะงักมือที่กำลังจะเปิดประตูแล้วหันกลับมา
“อ่อ อย่านึกนะคะว่าตะวันจะยอมแพ้ยายดาว ก็แค่ถอยไปตั้งหลัก ตะวันจะต้องทำให้คุณเป็นของตะวันให้ได้คอยดูก็แล้วกัน!!”
ตฤณมองตามอีกฝ่ายไปอย่างเคร่งเครียด เห็นทีเขาต้องปรึกษาเรื่องนี้กับมารดาของตนเสียแล้ว ไม่งั้นชีวิตรักของเขากับดาวเหนือคงต้องจบ ไปต่อไม่ได้แน่นอน ก้อยที่ยืนมองอยู่นานรีบปรี่เข้ามาหา
“หมอ พี่ตะวันคนสวยเขาเป็นพี่สาวพี่ดาวเหรอ”
“ใช่ ถึงได้บอกไงว่าอย่าให้หมออยู่กับเขาสองคน” ตฤณถอนหายใจก่อนจะเก็บบัญชีลงลิ้นชัก ก้อยมองออกไปด้านนอกเห็นรถสปอร์ตสีแดงของตะวันฉายขับออกไปจากหน้าร้านอย่างรวดเร็วราวกับพายุ
“โห เมื่อกี้กับก่อนหน้า นิสัยต่างกันราวฟ้ากับเหว ไม่น่าเชื่อเลยว่าคนเราเวลาโกรธแล้วความสวยหดหายหมด”เด็กสาวพูดลอยเพราะเมื่อครู่ตอนที่ตะวันฉายเดินผ่านหน้าเธอไปนั้น หน้าตาน่ากลัวมาก ทำให้ความประทับใจที่เคยมีหายวับไปในทันใด
“นี่แหละเขาถึงได้มีคำพูดที่ว่า ‘สวยแต่รูปจูบไม่หอมไง’ ผู้หญิงคนนี้ตรงตามที่โบราณว่าไว้เป๊ะเลย เฮ้อ!”ชายหนุ่มส่ายหน้า ก่อนจะเดินไปหยิบกุญแจรถของตนแล้วหันมาพูดกับเด็กสาว
“ไป ไปปิดประตูเหล็กได้แล้ว เดี๋ยวหมอไปส่งที่บ้าน”
“อ้าว หมอตรวจบัญชีเสร็จแล้วเหรอ” เด็กสาวถาม ก่อนจะหัวเราะคิกคักกับคำตอบที่ได้
“ตรวจเสร็จตั้งนานแล้ว ที่เห็นน่ะแกล้งตรวจต่างหาก กะอยู่เหมือนกันว่าหากตรวจรอบที่สี่เสร็จแล้วยังไม่ยอมไป จะหนีออกทางหลังร้านให้รู้แล้วรู้รอด”
ตะวันฉายขับรถกลับบ้านด้วยความเร็วตามแรงอารมณ์ที่กำลังปะทุอยู่ในอก หญิงสาวบีบแตรใส่รถคันข้างหน้าที่ไฟเขียวตั้งนานแล้วยังไม่ยอมไปซะที สุดท้ายก็ไม่ทันเพราะสัญญาณไฟเปลี่ยนกลับไปเป็นสีแดงอีกครั้ง ร่างเพรียวกระแทกฝ่ามือลงไปบนแตรแรงๆหนึ่งครั้งก่อนจะทำใจรอสัญญาณไฟครั้งใหม่
“โง่! ฉันอุตส่าห์ยอมลดตัวลงไปจีบแล้ว ยังจะดักดานอยู่แต่กับนังดาวตกนั่น หายใจเข้าออกก็เป็นมัน!! ไอ้บ้า ไอ้โง่”หญิงสาวฟาดมือลงบนพวงมาลัยราวกับว่ามันคือใบหน้าของตฤณ ตะวันฉายหอบหายใจถี่ๆเพราะเหนื่อยกับการอาละวาด ก่อนจะตัดสินใจเบนรถเข้าข้างทางแล้วหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาโทรหาเพื่อน
“ฮัลโหลริตา เธอว่างไหม ออกไปดื่มกัน มีเรื่องจะปรึกษาเธอด้วย”เมื่อปลายสายตอบตกลง หญิงสาวก็วางสายแล้วกลับรัถไปยังร้านประจำของเธอและก๊วนเพื่อนทันที
-------------------------------------------------------------------------------------
มาแล้วค่ะ ตอนใหม่สดๆ แต่ไม่ร้อนเท่าไหร่ เนื่องจากตอนที่แต่งตอนนี้อยู่ฝนกำลังทำลายร้างบ้านของข้าพเจ้าพอดี และแน่นอนว่าบ้านที่กรุงเทพของข้าพเจ้าก็อินเทรนด์กับเขาแล้ว น้องน้ำมาแล้วจ้า!!~ ข้าพเจ้าเลยต้องอพยพมาบ้านพ่อ (ได้ข่าวเอ็งมานานแล้วได้ป่ะ) ส่วนยายและน้าก็หนีน้องน้ำไปเมืองกาญจน์กันแทน(พร้อมน้องหมาอีกห้าตัว)
เอาล่ะพล่ามเรื่องตัวเองเยอะไปแล้ว เข้าเรื่องของเรากันดีกว่า สำหรับตอนนี้นี่เป็นอะไรที่คงจะขัดผู้อ่านอยู่บ้าง เนื่องจากยายตะวันตัวร้ายโผล่มากกว่านางเอกอีก แต่อาจจะทำให้หลายคนคิดว่าดีแล้ว เพราะได้เห็นพี่หมอหมาของเราในอีกมาดหนึ่ง ที่กวนได้อีก ใครรักใครชอบพี่ตฤณ หนุ่มแว่นของเรามาดไหนบอกกันได้นะคะ จะได้สนองมาดนั้นให้บ่อยๆ ไม่งั้นจะได้เจอแต่มาดกวนๆของพี่แกล่ะ (เนื่องจากพี่ตฤณมาดกวนคือสเป็กข้าพเจ้า)
สำหรับตอนหน้านี่ก็อาจจะทำให้หลายคนขัดใจ แต่ยังไม่เศร้าแค่ให้เตรียมกันก่อน เพราะอีกไม่นานความเศร้าจะมาเยือน เจอกันตอนหน้าค่ะ ของให้ทุกคนที่ประสบภัย ปลอดภัยกันทุกคนค่ะ ติ-ชมได้เน้อ บ๊าย บาย
“แล้วเขาไปรู้จักมักจี่กันตอนไหนคะ”หลังจากหายตกใจแล้ว คุณมินตราก็เริ่มถามคุณหญิงผกามาศทันที แต่ก็ไม่ได้เรื่องอะไรนัก เพราะคุณหญิงเองก็เพิ่งจะรู้เรื่องนี้
“แล้วเธอไม่รู้มาก่อนรึไง ยายตะวันไม่ได้เล่าให้ฟังบ้างเหรอ”
“โธ่คุณแม่คะ ถ้ามินรู้ก่อน มินจะตกใจขนาดนี้เหรอคะ”
“โอ๊ย! ตายๆ จบเรื่องตาพัดกับยายจันทร์ไปไม่ทันไร เรื่องใหม่ก็มาอีกแล้วเหรอเนี่ย ฉันละกลุ้ม”คุณหญิงผกามาศร้องออกมาอย่างเหนื่อยใจกับปัญหาที่เกิดจากหลานสาวจอมเอาแต่ใจของตน คุณมินตรานั่งหน้าเครียดก่อนจะลุกพรวดพราดออกไปจนแม่สามีงงงวย ร้องถามตามหลังไป
“แล้วจะไปไหนล่ะนั่นแม่มิน”
“ไปหาบุษค่ะ”ตอบเสร็จก็รีบเดินตรงไปยังบ้านหลังเล็กของคุณบุษบาทันที คุณหญิงผกามาศได้ตามองตามหลังสะใภ้ของตนไป ก่อนจะภาวนา
“ขอให้เรื่องบ้าๆนี่มันจบลงด้วยดีด้วยเถิด”
“บุษ! บุษอยู่รึเปล่า”คุณมินตราร้องเรียกอีกฝ่ายดังลั่น เพราะเมื่อเดินเข้าไปในตัวบ้านแล้วแต่กลับไม่พบเจ้าของบ้านจึงตัดสินใจเดินหาอีกฝ่ายจนทั่วแต่ก็ไม่พบจนถอดใจ แต่ก่อนที่จะได้กลับไปยังบ้านของตน คุณบุษบาก็เดินถือของพะรุงพะรังเข้ามาเสียก่อน
“อ้าว!คุณพี่ มาตั้งแต่เมื่อไหร่คะเนี่ย”
“ไปไหนมาเนี่ยเธอ พี่ตามหาซะทั่ว”คุณมินตราบ่นก่อนจะเข้าไปลากอีกฝ่ายให้มานั่งที่โซฟา ก่อนจะเข้าเรื่องทันที
“เกิดเรื่องใหญ่แล้วบุษ ยายตะวันเกิดถูกใจคุณตฤณขึ้นมาแล้ว วันนี้ก็บุกไปหาเขาถึงบ้าน”
“อะไรนะคะ! แล้วนี่เรื่องมันเป็นไงมาไงคะเนี่ย”คุณมินตราจึงเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นให้ฟังทันที คุณบุษบาเกิดอาการมือไม้อ่อนขึ้นมาทันใดเมื่อได้ฟังเรื่องที่อีกฝ่ายเล่า
“บุษควรจะทำยังไงดีคะคุณพี่ ยายดาวน่ะรักตาตฤณมากเลยนะคะ บุษไม่เคยเห็นลูกมีความสุขขนาดนี้มาก่อน บุษไม่อยากให้ลูกกลับไปเย็นชาเหมือนเมื่อก่อนอีกแล้วค่ะ”
“พี่เข้าใจ พี่เองก็โล่งใจมากเลยทีเดียวที่เห็นยายดาวอ่อนลงขนาดนี้ แต่พี่เองก็ไม่รู้จะทำยังไงดีเหมือนกัน ยายตะวันก็ลูกพี่ ยายดาวพี่เองก็รักเหมือนลูกแท้ๆ ที่สำคัญเขาสองคนเป็นพี่น้องพ่อเดียวกัน ไม่ควรเลยที่จะมามีปัญหากันเพราะเรื่องนี้อีก ที่พี่มาบอกบุษก็เพื่อที่จะให้เธอบอกให้ยายดาวระวังตัวไว้ เผื่อยายตะวันจะเกิดลูกบ้าอะไรขึ้นมา”คุณมินตรานึกถึงลูกสาวตัวเองที่ไม่รู้ว่าเกิดบ้าขึ้นมาแย่งแฟนน้องอย่างโจ่งแจ้งได้ยังไงอย่างหนักใจ ปล่อยให้คุณบุษบาคิดหาทางออกสำหรับเรื่องนี้อยู่เงียบๆ
ตะวันฉายในชุดคลุมอาบน้ำเดินมาเปิดตู้เสื้อผ้า ก่อนจะหยิบชุดโน้น ชุดนี้ออกมาทาบกับตัวเองเพื่อดูว่าตัวไหนที่จะทำให้เธอดูสวย และดึงดูดใจชายหนุ่มที่เธอจะออกไปหาเย็นนี้ แต่ร่างเพรียวก็ต้องหงุดหงิดเมื่อไม่มีตัวไหนสวยที่พอจะทำให้ ’เขา’ สนใจได้ในความรู้สึกของเธอ
“นี่นังแววแกว่าฉันใส่ชุดไหนสวยสุด” สุดท้ายหญิงสาวจึงหันไปถามสาวใช้คนสนิทที่กำลังวิ่งวุ่นเก็บชุดทั้งหลายที่เจ้านายสาวโยนทิ้งจนเกลื่อนห้องด้วยความไม่พอใจ แวววางเสื้อทั้งหมดลงบนเตียงกว้างก่อนจะประจบ
“หูย! คุณตะวันของแววใส่ชุดไหนก็สวยหมดค่ะ”
“ปากหวานนะแกนี่”ตะวันฉายยิ้มพอใจกับคำชม พร้อมกับยื่นธนบัตรใบสีเทาไปให้แววที่คลานมารับอย่างรวดเร็ว แต่ก็ยังไม่สามารถหาได้อยู่ดีว่าตนควรใส่ชุดไหนไปดำเนินการจีบหนุ่มดี
“แต่ฉันว่าชุดพวกนี้มันเก่าแล้ว บางตัวตกรุ่นแล้วด้วย ขืนใส่ไปมีหวังเอาชนะใจคุณตฤณไม่ได้แน่”
“คุณตฤณนี่ใช่คนที่มางานคุณพัดกับเพื่อนนังคุณดาวหรือเปล่าคะ”แววติดใจชื่อของบุคคลที่สามที่หลุดมาจากปากของเจ้านายสาว ตะวันฉายพยักหน้ารับ
“ใช่ คนนั้นแหละที่หล่อๆ ดูสมาร์ท เสียอยู่อย่างดันใส่แว่นปิดบังความหล่อเอาไว้เสียนี่”
“เอ๊ะ! แต่เห็นแม่พวกปากหอยปากปูในครัวเม้าท์กันว่าเป็นแฟนใหม่ของนังคุณดาวไม่ใช่เหรอคะ”
“ใช่แล้วไง ฉันไม่แคร์ ฉันชอบของฉัน แกคอยดูนะนังแวว ฉันจะต้องฉกคุณตฤณมาจากนังดาวอุบาทว์นั่นให้ได้ คราวนี้แหละมันได้กระอักเลือดตายของจริงแน่ ตะวันฉายยิ้มร้าย ก่อนจะหัวเราะออกมาด้วยความสะใจโดยมีลูกคู่อย่างแววคอยผสมโรงอยู่ด้วยตลอดเวลา สุดท้ายหญิงสาวก็ตัดสินใจออกไปซื้อชุดใหม่เพื่อแผนที่เธอวางเอาไว้ในค่ำคืนนี้
“ถึงรึยังครับ”
“ถึงประมาณชั่วโมงกว่าได้แล้ว พี่ตฤณเป็นไงบ้าง”
“เหงาครับ ไม่มีคนอยู่ให้เอาใจ ดาวรีบๆกลับมานะครับ เทอร์โบคิดถึง”
ร่างโปร่งยิ้มใส่โทรศัพท์มือถือของตนกับคำอ้อนของชายหนุ่มที่ภายนอกดูสุภาพเรียบร้อย จนใครหลายคิดว่าคงไม่มีปัญญาจีบสาวติด หารู้ไม่ว่าอีกฝ่ายนั้นเปรียบเสมือนเสือหิวที่แอบเอาหนังลูกแกะมาคลุม หญิงสาวแกล้งทำเป็นโกรธเมื่ออีกฝ่ายยกเอาเจ้าตัวแสบสี่ขามาอ้าง
“อ๋อ เทอร์โบคิดถึงดาว แต่เจ้านายของเจ้าแสบนั่นไม่คิดถึงดาวใช่ไหม”
“ไม่ใช่นะครับ!”ร่างสูงรีบปฏิเสธเสียงลั่น ทำเอาลูกจ้างสาวที่ทำความสะอาดพื้นเตรียมปิดร้านสะดุ้งโหยง มองมาทางเจ้านายตนเองที่ส่งยิ้มแหยๆมาให้ ตฤณรีบย้ายตัวเองไปหลังร้านโดยเร็วก่อนจะอ้อมแอ้มแก้ตัว
“พี่คิดถึงดาวจะแย่อยู่แล้ว ที่แค่ไม่อยากให้ใครเข้าหาว่าพี่ติดแฟนเกินไปเท่านั้นเอง”
“ฟังไม่เห็นขึ้น”หญิงสาวยังคงแกล้งไม่เลิก
“โธ่! น้องดาวเลิกแกล้งพี่ได้แล้วครับ ว่าแต่แล้วนี่ทานข้าวเย็นแล้วยัง”เมื่อเห็นว่ายังไงๆก็แพ้คนรักสาวแน่นอน ชายหนุ่มเลยต้องรีบเรื่อง ดาวเหนือหัวเราะเบาๆก่อนจะตอบ
“กำลังจะไป รอน้องพี่ตฤณเปลี่ยนชุดก่อน นี่เข้าไปอาบน้ำเป็นชั่วโมงแล้ว”หญิงสาวรีบเปิดลำโพงให้ปลายสายได้ยินเสียงน้องสาวของเขาที่โผล่หน้าออกมาจากห้องน้ำทันทีที่ได้ยินประโยคข้างต้นของเธอเข้า
“อย่ามาใส่ไฟฉันนะแก ฉันเพิ่งเข้าไปยังไม่ถึงสิบนาทีดีเลย”ตรีทิพย์บ่น ก่อนจะร้องแง้วๆฟ้องพี่ชาย
“พี่ตฤณ แฟนพี่ตฤณหาเรื่องตาลอ่ะ เลิกกับมันเดี๋ยวนี้เลยนะ”
“บ้าเหรอเรา! อยู่ดีๆก็มายุให้เขาเลิกกัน ไม่รู้แหละ พี่เข้าข้างดาว” ชายหนุ่มประท้วง ก่อนจะเล่นงานน้องสาวกลับ “โอ๊ย! คนทรยศ ฉันเลิกคบแกไอ้ดาว เราขาดกันพี่ตฤณ!”หญิงสาวแกล้งโวยวายก่อนจะเดินสะบัดกลับเข้าห้องน้ำไป
“อ้าว! งอนไปซะแล้วเหรอนั่น”
“อืม”หญิงสาวตอบสั้นๆก่อนที่ต่างฝ่ายจะเงียบกันไป สุดท้ายตฤณก็เป็นฝ่ายทำลายความเงียบนั้นลง
“ดาวครับ เรื่องวันนี้น่ะ...”ยังพูดไม่ทันจบ ร่างโปร่งก็แทรกขึ้นมาเสียก่อน “ดาวมีเรื่องจะถามพี่ตฤณ”
“ครับ?”
“พี่ตฤณสนใจ ‘เขา’ บ้างไหม”
“พี่รอผู้หญิงคนหนึ่งให้เขาหันมามองพี่ตลอดชีวิต ถ้าพี่จะสนใจผู้หญิงอื่น พี่คงไม่อดทนรอคนๆนั้นหรอกครับดาว”ชายหนุ่มบอกปลายสายด้วยน้ำเสียงหนักแน่นมั่นคง ดาวเหนือเงยหน้ามองดวงจันทร์ก่อนจะส่งยิ้มไปให้ราวกับว่ามันคือใบหน้าอ่อนโยนของอีกฝ่าย
“ขอบคุณนะพี่ตฤณ”
“เฮ้อ! พี่น่ะไม่อะไรกับเขาหรอกนะ แต่พี่ว่าเขาจะไม่ยอมเลิกราน่ะสิ โชคดีไปที่วันนี้เจอเจ้าแสบสองเบอร์นั่นแกล้งป่วนไปเสียก่อน ไม่งั้นคงเจออีกมุมของพี่แหง”ตฤณถอนหายใจ ก่อนจะบ่นเพราะเขาเองก็ไม่ใช่สุภาพบุรุษเต็มร้อยซักเท่าไหร่ หากทนไม่ไหวขึ้นมาอาจมีตวาดใส่บ้างก็เป็นได้
“ทนต่อไปอีหน่อยแล้วกันพี่ตฤณ พอเขาเจอเหยื่อใหม่เขาอาจจะไม่สนพี่อีกเลย คนอย่างคุณตะวันน่ะชอบเร็ว แต่เวลาเบื่อน่ะเร็วยิ่งกว่า”ร่างโปร่งพูดด้วยรู้นิสัยของคนที่เป็นศัตรูกันมาตลอดกาลอย่างตะวันฉายดี
“ก็หวังให้เป็นอย่างนั้น แล้วนั่น ยายตัวดีโวยวายอะไรอีกล่ะ”
“อ๋อ บอกว่า ‘เลิกจีบกันซะที หิวข้าวไส้จะแล้ว’ น่ะ”ดาวเหนือถ่ายทอดคำพูดของเพื่อนให้เขาฟัง ก่อนจะหัวเราะเมื่อได้ยินคำพูดที่อีกฝ่ายฝากไปให้น้องสาวตัวเอง
“ห่วงกินจริงๆ บอกยายตาลให้พี่ทีว่า ‘ขากลับน่ะไม่ต้องเดิน กลิ้งกลับมาแทนล่ะกันนะ’”
“สวัสดีจ๊ะ คุณตฤณอยู่ไหม”เสียงหวานดังขึ้นเบื้องหลังเด็กสาววัยรุ่นที่กำลังถูพื้นหน้าร้าน Charming Pet อยู่ เด็กสาวหันกลับไปมองอีกฝ่ายก่อนจะทำตาโตกับความสวยราวกับนางพญา
“ว่าไงจ๊ะ อยู่ไหม”ตะวันฉายยิ้มหวานถามซ้ำอีกครั้ง แม้ในใจจะก่นด่าเด็กสาวไปเรียบร้อยแล้วค่าที่ทำให้เธอต้องลดตัวลงมาคุยด้วย เด็กสาวได้สติรีบบอกทันที
“อยู่ค่ะ คุณตฤณอยู่หลังร้าน”
“ขอบใจมากจ๊ะ” ร่างเพรียวโปรยยิ้มการค้าอีกครั้ง ก่อนจะเดินเข้าไปแต่แล้วก็หมุนตัวกลับมายังเด็กสาวที่ยังคงมองตามเธออยู่ “จริงสิ น้องชื่ออะไรเหรอ”
“ชื่อก้อยค่ะ”หญิงสาวพยักหน้ารับรู้ มือเรียวเปิดกระเป๋าถือสีเงินก่อนจะหยิบธนบัตรสีม่วงออกมาหนึ่งใบแล้วส่งให้
“นี่จ๊ะ พี่ให้”
“พี่คนสวยให้ก้อยเหรอคะ”ก้อยมองกระดาษบางๆแต่มูลค่าของมันกลับหนักอึ้งในมืออีกฝ่ายตาโต แต่ก็ยังไม่ไว้ใจเพราะในโลกใบนี้ไม่มีอะไรได้มาฟรีๆ
“ใช่ ให้เอาไปกินขนมน่ะ ”
“โหย! ขอบคุณมากเลยค่ะ พี่ เอ่อ พี่”
“ตะวันจ๊ะ ไปตอนนี้เลยสิ พี่เห็นมีของอร่อยอยู่ตรงปากซอย ไปซื้อมาเผื่อพี่ด้วยนะ”
“ได้เลยค่ะ” ร่างเพรียวยิ้มออกมาอย่างพอใจ ก่อนจะเดินไปหาเป้าหมายของตนเองทันที ดวงตาคู่งามทอประกายวาบเมื่อเห็นว่าชายในฝันของตนกำลังยืนอยู่คนเดียว ตะวันฉายยืนมองชายหนุ่มอย่างหลงใหลในความเป็นสุภาพบุรุษ เธอเชื่อว่าหากเขาและเธอคบกันจะต้องเป็นคู่ที่เหมาะสมกันยิ่งกว่ากิ่งทองใบหยกเสียอีก ไม่มีใครเหมาะสมกับเธอเท่ากับผู้ชายคนนี้อีกแล้ว ไม่ว่าจะต้องทำยังไงเธอก็ต้องได้เขามาครอบครองให้จงได้
ตฤณมองโทรศัพท์ในมืออย่างมีความสุข แม้ว่าคนไกลจะวางสายไปแล้ว แต่เสียงของหญิงสาวยังคงดังก้องอยู่ในโสตประสาทและจะยังคงอยู่ไปอีกนานจนกว่าอีกฝ่ายจะกลับมา ชายหนุ่มเก็บมือถือลงกระเป๋าแล้วหันหลังจะกลับเข้าไปจัดการกับบัญชีของร้านในวันนี้ แต่แล้วก็ต้องนิ่งค้างเมื่อเห็นยืนอยู่ แม้จะคิดไว้แล้วว่าอาจจะต้องเจอกันอีกครั้ง แต่ก็ไม่คิดว่าจะรวดเร็วแบบไม่ทันข้ามวันอบย่างนี้
“สวัสดีค่ะ ตะวันคงไม่ได้มารบกวนเวลาดูดาวของคุณใช่ไหมคะ”
เพล้ง!
“ว้าย! ขอโทษนะคะ เดี๋ยวจะไปเอาแก้วมาเปลี่ยนให้ใหม่”พนักงานสาวบอกกับร่างโปร่งหน้าซีด ก่อนจะรีบวิ่งกลับไปเอาอุปกรณ์ทำความสะอาด พร้อมกับแก้วไวน์ใบใหม่มาให้หญิงสาว ตรีทิพย์มองตามพนักงานคนนั้นไปก่อนจะส่ายหัว
“ให้ตายสิ ก็เห็นๆอยู่ว่ามันไม่มีที่จะวางจานแล้ว ยังจะอุตส่าห์วางลงไปอีก เป็นไงล่ะ สุดท้ายก็ไปดันเอาแก้วตกแตกเลย ไม่ได้เรื่องจริง แม่คนนี้”
“โธ่! คุณเรื่องแบบนี้มันก็มีพลาดได้น่า ไม่มีใครในโลกใบนี้ทำพลาดไม่ได้หรอกนะ”วีกิจบอกกับหญิงสาวที่เขากำลังตามจีบอยู่ตามสัจธรรมองโลกใบนี้ ไม่ได้คิดอะไรเกินเลย แต่ดูเหมือนว่าแม่สาวข้างตัวคนนี้จะชอบยัดเยียดความผิดมาให้เขาทุกทีไป ตรีทิพย์ค้อนอีกฝ่ายก่อนจะแค่นเสียงพูด
“ใช่ซี้! ก็แม่นั่นมันอกเป็นแม่พันธ์วัว เอวเป็นแม่พันธ์ม้านี่ นายเลยเข้าข้าง คนปกติธรรมดาอย่างฉันหรือจะสู้ได้”
“ว่าไปนั่น แล้วคุณมันปกติกับเขาที่ไหน น้องเขาน่ะปกติส่วนคุณน่ะมันผิดปกติ ผู้หญิงอะไรด้านหน้ากับด้านหลังเหมือนกันซะยิ่งกว่าฝาแฝด”ชายหนุ่มบ่น ก่อนจะร้องโอ๊ยเพราะโดนฝ่ามือพิฆาตคนลามกเข้าไป ดาวเหนือมองการทะเลาะกันของทั้งคู่ยิ้มๆ แม้แววตายามเหลือบมองเศษแก้วและไวน์แดงบนพื้นจะดูเคร่งเครียด ไม่ค่อยสบายใจ
“ว่าไงคะ ตะวันมารบกวนหรือเปล่า”หญิงสาวถามซ้ำพร้อมกับเดินเข้าไปใกล้คุณหมอหนุ่มที่ยังคงยืนนิ่ง ใบหน้าคมดูเครียดขรึมไม่ได้มีความยินดีที่ได้เจอเธอ แต่ก็ท่าทางแค่นี้ไม่ได้ทำให้เธอยอมแพ้หรอก
“ก็นิดหน่อยครับ ผมกำลังจะไปตรวจบัญชีพอดี คุณตะวันมีธุระอะไรกับผมครับ”
“ไม่มีอะไรมากหรอกค่ะ แค่กำลังหาคนไปทานข้าวเป็นเพื่อน ตะวันยังไม่ได้ทานอะไรเลยตั้งแต่กลับไปเมื่อตอนกลางวัน คุณพอจะว่างไปเป็นเพื่อนตะวันไหมคะ”ตะวันฉายเอียงคอเล็กน้อยแบบที่เธอคิดว่ามันจะทำให้เธอดูน่ารักขึ้นมาบ้างไปให้ มันคงจะทำให้หนุ่มๆทั้งหลายในสังกัดของเธอยินยอมพร้อมใจจะทำตามที่เธอสั่งทุกอย่างแต่นั่นไม่ใช่ นายสัตวแพทย์หนุ่มคนนี้เป็นแน่ เพราะตฤณทำแค่ส่งยิ้มไปให้ก่อนจะปฏิเสธแบบไม่ถนอมน้ำใจเท่าใด
“ต้องขอโทษด้วยครับ พอดีผมไม่ว่าง”ร่างสูงกล่าวเสร็จก็ปลีกตัวเดินกลับเข้าไปด้านในทันที ตะวันฉายมองตามหลังไปด้วยดวงตาลุกวาว ไม่พอใจที่อีกฝ่ายตัดรอนเธออย่างนี้ แน่นอนว่าถ้ายอมแพ้ง่ายๆก็ไม่ใช่ตะวันฉายสิ หญิงสาวปรับสีหน้าก่อนจะเดินตามเข้าไปอย่างรวดเร็ว
“คุณคงยังทำงานไม่เสร็จ ถ้างั้นตะวันนั่งรอได้ค่ะ”ว่าแล้วร่างเพรียวก็ทิ้งตัวลงนั่งที่โซฟารับแขก ซึ่งมีไว้ให้ลูกค้าที่มารอสัตว์เลี้ยงตัวโปรดตัดขน หรือมารับการรักษา ตฤณมองหญิงสาวที่นั่งอ่านนิตยสารบนโต๊ะอย่างใจเย็นก่อนจะก้มหน้าก้มตาตรวจทานบัญชีสำหรับวันนี้โดยไม่สนใจแขกที่ไม่ได้รับเชิญแม้แต่น้อย ในใจคิดถึงลูกจ้างสาวตัวดีที่หายจ้อยไปไหนไม่รู้
‘หึ คิดจะเล่นเกมวัดความอดทนกับฉันงั้นเหรอ ได้! มาดูกันว่าใครจะทนไม่ไหวก่อนกัน’
“เอ ห้องน้ำอยู่ทางไหนคะ”หลังจากผ่านไปครึ่งชั่วโมงที่มีแต่ความเงียบ ร่างเพรียวก็เอ่ยถามขึ้นมา ตฤณเงยหน้าขึ้นมาจากบัญชีเพื่อบอกทาง ก่อนจะก้มลงไปอย่างเดิม
“งั้นขอตัวซักครู่นะคะ” ตะวันฉายคว้ากระเป๋าถือติดมือไปด้วย ก่อนจะตรงไปยังทางที่อีกฝ่ายบอกเพื่อทำธุระส่วนตัว หลังจากที่ร่างของหญิงสาวพ้นประตูไปได้ไม่นาน ร่างป้อมของก้อยก็โผล่กลับเข้ามาพร้อมถุงขนมมากมายในมือ
“ไปไหนมานะเรา ยังไม่ได้บอกให้เลิกงานเลยนะ”ตฤณดุลูกจ้างสาวที่ส่งยิ้มแหยๆมาให้ก่อนจะอ้อมแอ้มตอบ
“ไปซื้อขนมหน้าปากซอยมาค่ะ”
“เหรอ แล้วทำไมไม่บอกหมอ เกิดมีโจรเข้ามาตีหัวหมอทำไง”
“ก็ก้อยเห็นหมอมีแฟนมาอยู่ด้วย ก็เลยไม่อยากเป็นก้างคะ”เด็กสาวแก้ตัวโดยเว้นเรื่องสินบนจำนวนห้าร้อยบาทไปซะ ตฤณถลึงตาใส่อีกฝ่ายก่อนเอ่ยแก้
“ใช่ซะที่ไหน พูดอย่างกับไม่เคยเห็นหน้าแฟนหมอ”
“ก็นึกว่าหมอเปลี่ยนใหม่ไงคะ ใครจะไปรู้ล่ะ”
“ทีหลังก็ถามไม่ใช่เดาส่ง แบบนี้ถ้าแฟนหมอมาได้ยินเป็นเรื่องเข้าจะทำไง จำเอาไว้ด้วย แล้วถ้าเขามาหาหมออีกอย่าทิ้งให้หมออยู่กับเขาสองคน แต่ถ้าเป็นแฟนหมอมา เราจะไปไหนก็ไป เข้าใจไหม”ชายหนุ่มย้ำกับลูกจ้างสาวเสียงเข้ม
“ค่ะ ก้อยจะไม่ทิ้งให้หมออยู่กับพี่เขาสองต่อสองอีก เพราะเดี๋ยวหมอเกิดสับรางไม่ทัน ก้อยคงตกงานแน่” เด็กสาวตอบรับ ก่อนจะเอ่ยแซวคุณหมอหมาใจดีที่เธอมาทำงานด้วยหลายปีแล้ว
“เดี๋ยวเถอะ อยากโดนตัดเงินเดือนก่อนตกงานไหมล่ะ จะได้จัดให้”
“อูย! ไม่เอาล่ะคะ แค่นี้ก็ไม่พอยาไส้แล้ว”
“พอๆไปทำความสะอาดต่อให้เสร็จๆ จะได้รีบกลับ เป็นสาวเป็นนางกลับบ้านค่ำมืดไม่ดี”
“ค่า คุณพ่อหมอ”ว่าแล้วก็วิ่งเข้าไปหยิบไม้ถูพื้นอันเดิมมาถูพื้นอีกครั้ง ตฤณมองตามเด็กสาวไปพลางส่ายหน้ากับความทะเล้นของลูกจ้างสาว ร่างสูงชะงักมือที่กำลังจะเขียนตัวเลขค่าใช้จ่ายในวันนี้ลงไปเมื่อได้ยินเสียงร้องของก้อย
“ว้าย! พี่ตะวันคนสวยยังอยู่เหรอคะเนี่ย ก้อยนึกว่ากลับไปแล้ว” ตะวันฉายยิ้มให้ก่อนจะเดินผ่านหน้าอีกฝ่ายไปนั่งบนโซฟาตัวเดิม ก้อยรีบเดินเข้าไปถามเอาใจ
“พี่คนสวยรอคุณหมอเหรอคะ ดื่มน้ำอะไรดีคะ เดี๋ยวก้อยไปเอามาให้”
“น้ำเปล่าดีกว่าจ้ะ พี่ไม่ค่อยชอบทานอะไรหวานๆ”
“ได้ค่ะ รอแป๊บนะคะ”เด็กสาวผลุบหายเข้าด้านหลัง ก่อนจะกลับมาอีกครั้งพร้อมแก้วน้ำในมือ แล้วเตรียมตัวจะไปทำความละอาดด้านใน แต่เสียงเรียบของคุณหมอหนุ่มก็ดังขัดไว้เสียก่อน
“ก้อย พื้นตรงหน้าประตูยังไม่สะอาดเลยนะ ถูอีกทีดีไหม”
“แต่ว่า...”
“หือ เมื่อกี้หมอบอกว่าไง”เด็กสาวที่กำลังจะอ้าปากเถียง ก็มีอันต้องหุบปากลงทันควันเมื่อนึกถึงเรื่องที่คุณหมอหมาบอกเมื่อครู่ สุดท้ายก้อยจึงได้แต่ลากไม้ถูพื้นไปยังหน้าประตูแต่โดยดี ตะวันฉายมองตามเด็กสาวงงๆแต่ซักพักก็นึกขึ้นได้ว่าเพราะอะไร
“คุณตฤณกลัวตะวันจะปล้ำคุณเหรอคะ ถึงต้องให้ก้อยคอยอยู่เป็นเพื่อน”ชายหนุ่มถึงกับทำปากกาในมือร่วง ส่วนก้อยก็ตาโตอ้าปากค้าง ตฤณพยามยามปรับอารมณ์ที่กระเจิงไปกับคำพูดนั้นในเป็นปกติ ก่อนจะตอบ
“ไม่ใช่อย่างนั้นหรอกครับ ผมรู้ดีว่าคุณตะวันคงไม่ทำอะไรแบบนั้นกับ ‘แฟนของน้อง’ ตัวเองหรอกครับ” เขาเน้นย้ำสถานะของตัวเอง ทำให้หญิงสาวที่วางมาดนางพญามาตลอดถึงกับผุดลุกคว้ากระเป๋าที่วางอยู่ด้านหน้าเดินฉับๆตรงไปยังประตู ใบหน้างามงอง้ำอย่างเห็นได้ชัด ตะวันฉายชะงักมือที่กำลังจะเปิดประตูแล้วหันกลับมา
“อ่อ อย่านึกนะคะว่าตะวันจะยอมแพ้ยายดาว ก็แค่ถอยไปตั้งหลัก ตะวันจะต้องทำให้คุณเป็นของตะวันให้ได้คอยดูก็แล้วกัน!!”
ตฤณมองตามอีกฝ่ายไปอย่างเคร่งเครียด เห็นทีเขาต้องปรึกษาเรื่องนี้กับมารดาของตนเสียแล้ว ไม่งั้นชีวิตรักของเขากับดาวเหนือคงต้องจบ ไปต่อไม่ได้แน่นอน ก้อยที่ยืนมองอยู่นานรีบปรี่เข้ามาหา
“หมอ พี่ตะวันคนสวยเขาเป็นพี่สาวพี่ดาวเหรอ”
“ใช่ ถึงได้บอกไงว่าอย่าให้หมออยู่กับเขาสองคน” ตฤณถอนหายใจก่อนจะเก็บบัญชีลงลิ้นชัก ก้อยมองออกไปด้านนอกเห็นรถสปอร์ตสีแดงของตะวันฉายขับออกไปจากหน้าร้านอย่างรวดเร็วราวกับพายุ
“โห เมื่อกี้กับก่อนหน้า นิสัยต่างกันราวฟ้ากับเหว ไม่น่าเชื่อเลยว่าคนเราเวลาโกรธแล้วความสวยหดหายหมด”เด็กสาวพูดลอยเพราะเมื่อครู่ตอนที่ตะวันฉายเดินผ่านหน้าเธอไปนั้น หน้าตาน่ากลัวมาก ทำให้ความประทับใจที่เคยมีหายวับไปในทันใด
“นี่แหละเขาถึงได้มีคำพูดที่ว่า ‘สวยแต่รูปจูบไม่หอมไง’ ผู้หญิงคนนี้ตรงตามที่โบราณว่าไว้เป๊ะเลย เฮ้อ!”ชายหนุ่มส่ายหน้า ก่อนจะเดินไปหยิบกุญแจรถของตนแล้วหันมาพูดกับเด็กสาว
“ไป ไปปิดประตูเหล็กได้แล้ว เดี๋ยวหมอไปส่งที่บ้าน”
“อ้าว หมอตรวจบัญชีเสร็จแล้วเหรอ” เด็กสาวถาม ก่อนจะหัวเราะคิกคักกับคำตอบที่ได้
“ตรวจเสร็จตั้งนานแล้ว ที่เห็นน่ะแกล้งตรวจต่างหาก กะอยู่เหมือนกันว่าหากตรวจรอบที่สี่เสร็จแล้วยังไม่ยอมไป จะหนีออกทางหลังร้านให้รู้แล้วรู้รอด”
ตะวันฉายขับรถกลับบ้านด้วยความเร็วตามแรงอารมณ์ที่กำลังปะทุอยู่ในอก หญิงสาวบีบแตรใส่รถคันข้างหน้าที่ไฟเขียวตั้งนานแล้วยังไม่ยอมไปซะที สุดท้ายก็ไม่ทันเพราะสัญญาณไฟเปลี่ยนกลับไปเป็นสีแดงอีกครั้ง ร่างเพรียวกระแทกฝ่ามือลงไปบนแตรแรงๆหนึ่งครั้งก่อนจะทำใจรอสัญญาณไฟครั้งใหม่
“โง่! ฉันอุตส่าห์ยอมลดตัวลงไปจีบแล้ว ยังจะดักดานอยู่แต่กับนังดาวตกนั่น หายใจเข้าออกก็เป็นมัน!! ไอ้บ้า ไอ้โง่”หญิงสาวฟาดมือลงบนพวงมาลัยราวกับว่ามันคือใบหน้าของตฤณ ตะวันฉายหอบหายใจถี่ๆเพราะเหนื่อยกับการอาละวาด ก่อนจะตัดสินใจเบนรถเข้าข้างทางแล้วหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาโทรหาเพื่อน
“ฮัลโหลริตา เธอว่างไหม ออกไปดื่มกัน มีเรื่องจะปรึกษาเธอด้วย”เมื่อปลายสายตอบตกลง หญิงสาวก็วางสายแล้วกลับรัถไปยังร้านประจำของเธอและก๊วนเพื่อนทันที
-------------------------------------------------------------------------------------
มาแล้วค่ะ ตอนใหม่สดๆ แต่ไม่ร้อนเท่าไหร่ เนื่องจากตอนที่แต่งตอนนี้อยู่ฝนกำลังทำลายร้างบ้านของข้าพเจ้าพอดี และแน่นอนว่าบ้านที่กรุงเทพของข้าพเจ้าก็อินเทรนด์กับเขาแล้ว น้องน้ำมาแล้วจ้า!!~ ข้าพเจ้าเลยต้องอพยพมาบ้านพ่อ (ได้ข่าวเอ็งมานานแล้วได้ป่ะ) ส่วนยายและน้าก็หนีน้องน้ำไปเมืองกาญจน์กันแทน(พร้อมน้องหมาอีกห้าตัว)
เอาล่ะพล่ามเรื่องตัวเองเยอะไปแล้ว เข้าเรื่องของเรากันดีกว่า สำหรับตอนนี้นี่เป็นอะไรที่คงจะขัดผู้อ่านอยู่บ้าง เนื่องจากยายตะวันตัวร้ายโผล่มากกว่านางเอกอีก แต่อาจจะทำให้หลายคนคิดว่าดีแล้ว เพราะได้เห็นพี่หมอหมาของเราในอีกมาดหนึ่ง ที่กวนได้อีก ใครรักใครชอบพี่ตฤณ หนุ่มแว่นของเรามาดไหนบอกกันได้นะคะ จะได้สนองมาดนั้นให้บ่อยๆ ไม่งั้นจะได้เจอแต่มาดกวนๆของพี่แกล่ะ (เนื่องจากพี่ตฤณมาดกวนคือสเป็กข้าพเจ้า)
สำหรับตอนหน้านี่ก็อาจจะทำให้หลายคนขัดใจ แต่ยังไม่เศร้าแค่ให้เตรียมกันก่อน เพราะอีกไม่นานความเศร้าจะมาเยือน เจอกันตอนหน้าค่ะ ของให้ทุกคนที่ประสบภัย ปลอดภัยกันทุกคนค่ะ ติ-ชมได้เน้อ บ๊าย บาย
ไอจันทร์
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 12 พ.ย. 2554, 12:26:30 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 12 พ.ย. 2554, 12:26:30 น.
จำนวนการเข้าชม : 2145
<< ตอนที่ 23 | ตอนที่ 25 >> |
anOO 12 พ.ย. 2554, 15:05:19 น.
จะให้เศร้าแค่ไหนก็ได้ค่ะ แต่ขออย่าให้คู่นี้เค้าเลิกกันก็พอ
ยัยตะวันน่าจะได้เจอคนที่จัดการขั้นเด็ดขาดบ้างนะ
จะให้เศร้าแค่ไหนก็ได้ค่ะ แต่ขออย่าให้คู่นี้เค้าเลิกกันก็พอ
ยัยตะวันน่าจะได้เจอคนที่จัดการขั้นเด็ดขาดบ้างนะ
Setia 12 พ.ย. 2554, 16:20:44 น.
โธ่เอ๊ย เมื่อไหร่ยัยนี่่จะทีคนมาจัดการซะทีนะ
โธ่เอ๊ย เมื่อไหร่ยัยนี่่จะทีคนมาจัดการซะทีนะ