พระอาทิตย์ขึ้นในคืนหนาว # จุฬามณี (ลิขสิทธิ์ สนพ.มายดรีม)
เรื่องย่อ พระอาทิตย์ขึ้นในคืนหนาว

เป็นเรื่องราว ของ มาลี สาวน้อยวัย 20 ปี ลูกกำพร้าพ่อซึ่งเสียชีวิตเพราะโรคมะเร็ง มาลี กับแม่และน้องชาย มารุต อาศัอยู่กับญาติห่าง ๆ ข้างพ่อ ซึ่งทำรีสอร์ตและการท่องเที่ยงท้องถิ่นอยู่ที่อุ้มผาง..

วันหนึ่ง กลยุทธและคณะไปเที่ยวล่องแก่งน้ำตกทีลอซู แล้ว เขาชอบมาลีจึงสานความสัมพันธ์ ส่วนมาลีนั้น เจอลูกทัวร์จีบจนชาชิน แต่กลยุทธก็ทำให้มาลีหวั่นใจอยู่ไม่น้อย..

หลังจากคณะของกลยุทธกลับไป..ทางป้า ก็บีบบังคับให้มาลีไปเรียนต่อกรุงเทพฯ พักอยู่กับนันทาลูกสาว เพราะว่าต้องการให้อนันต์ลูกชายของตัวเองแต่งงานกับคนที่รวยกว่า..

มาลีมาอยู่กรุงเทพฯ โดยที่ชัชชัย เพื่อนของนันทา ซึ่งเคยไปหาข้อมูลเขียนหนังสือมารับที่แม่สอด(ชัชชัยอ้างว่ามาธุระแถวนั้นพอดี)..มาลีกับชัชชัยนั้นเป็นไม้เบื่อไม้เมากันมา เพราะตอนที่ชัชชัยมาอยู่อุ้มผางเพื่อหาข้อมูลเขียนสารคดี ตามคำแนะนำของ นันทา (ชัชชัยเป็นเพื่อนกับนันทา) มาลีแกล้งชัชชัยเพราะว่าไม่ชอบผู้ชายไว้ผมยาวกับปากไม่ค่อยดี..

ที่บ้านทาวเฮ้าส์ของนันทานั้นอยู่หมู่บ้านเดียวกับกลยุทธที่มีน้องสาวชื่อกุลกัญญา และช่วงที่ยังไม่ได้เข้าเรียน ต่อที่รามคำแหงมาลีก็ได้คำแนะนำจากศรีวรรณเพื่อนข้างบ้านของนันทาให้ให้ไปทำงานฆ่าเวลาเป็นแม่บ้านบนตึกสูงกลางเมือง มาลีที่อยู่กับนันทาแบบคนใช้ (นันทากดไว้เพราะมาลีมาด้วยทุนของแม่) ที่คิดเบื่อบ้านจึงไปทำงานตามคำแนะนำของศรีวรรณ

และบนตึกสูงนั้น มาลีก็ได้รู้ว่าเธอทำงานในตำแหน่งแม่บ้านซึ่งมีกลยุทธทำงานที่นั่นด้วย และมาลีก็ได้รู้จักสังคมรอบ ๆ ตัวของกลยุทธมากขึ้น มาลีรู้ว่ากลยุทธเป็นที่หมายปรองของรมมณีย์ลูกสาวของเจ้าของประธาน
บริษัทฯ

กลยุทธนั้นอึดอัดกับความรักที่รมณีย์มีให้ เพราะเขาทนกับปากของเพื่อนร่วมงานไม่ได้ เขาสานความสัมพันธ์กับมาลีมากขึ้น จนกระทั่งรมณีย์ที่เป็นเพื่อนกับชัชชัย ต้องดึงชัชชัยมาช่วยทำให้มาลีกับกลยุทธเข้าใจผิดกัน...

ชัชชัยนั้นชอบมาลีเป็นอย่างมาก เขาพยายามเอาอกเอาใจมาลีสารพัด แต่มาลีคิดว่า ชัชชัยนั้นเป็นคู่รักของนันทา ทำให้มาลีไม่เปิดใจให้ชัยชัย..

และมาลีจะเลือกใครระหว่างกลยุทธกับชัชชัย..

Tags: รักสามเส้า เราสามคน

ตอน: 3.น้ำตกทีลอซู

3.

ด้วยทั้งคณะยังถือว่าอยู่ในวัยหนุ่มสาว ระยะทางเดินจากจุดจอดรถไปตัวน้ำตกเกือบสองกิโลเมตรจึงไม่ใช่ปัญหาใหญ่ หลังจากที่จอดรถและมาลียื่นเอกสารให้ ‘เจ้าหน้าที่หนุ่ม’ ที่คุ้นเคยกันแล้ว เหมือนเดิมที่เขาจะมองสำรวจไปทั่วทั้งกลุ่มว่ามีใครคนไหนที่ถือว่า น่าจะทำให้หัวใจมาลีสั่นไหวได้บ้าง

เมื่อเป็นอย่างนี้บ่อยๆ ในครั้งนี้มาลีจึงทำเป็นอี๋อ๋อกับกลยุทธให้หนุ่มวิจักษ์ได้เห็น บางครั้งการเจ็บปวดจนชาชินของเขา มันน่าจะมีภูมิคุ้มกันหัวใจขึ้นมา แต่อย่างว่าความรัก ลองได้รักใครสักคนแล้ว คนบางคนก็ขอแค่ให้ได้รัก ก็ยังดี

“หน้าตาดีนะหนุ่มคนนั้น”

มาลีอดขำไม่ได้ ใช่ว่าคุณวรรณาคนเดียวหรอกที่หลงเสน่ห์วิจักษ์ ผู้หญิงจากต่างถิ่นมากมายรวมถึงเหล่า ‘อีแอบ’ หลายคนทีเดียวที่ได้พยายาม ‘สี’ วิจักษ์ ถ้าวิจักษ์จะตกลงปลงใจกับใครสักคน เธอก็ยินดีด้วย แต่หลายๆ ครั้งทีเดียวเมื่อลูกทัวร์เดินไปถ่ายรูปที่ป้ายขนาดใหญ่ของเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าอุ้มผาง น้ำตกทีลอซู แล้ววิจักษ์ใช้สายตาอ้อนวอนขอให้เธออยู่ตรงนั้น แม้งานเขาจะยุ่งแต่เขาก็บอกตรงๆ ว่า

‘ขอให้ได้เห็นหน้ามาลีสักนิด หนักก็เบา เหนื่อยก็หาย’

วันนี้พอเห็นใบหน้าและสายตาของวิจักษ์ มาลีรู้สึกอยากจะร้องไห้ บางทีเธอก็อยากเอ่ยปากเรื่องที่คับข้องใจให้เขาได้รู้ และดูแล้วตัวเขาเองก็คงรู้เรื่องเกี่ยวกับเธออยู่บ้าง ด้วยเมื่อลูกทัวร์ทั้งคณะไปถ่ายรูปกับป้ายและเต็นท์ที่กางไว้ วิจักษ์ก็เลี่ยงออกมาจากการทำหน้าที่ตรวจรายชื่อผู้ขออนุญาตเข้าน้ำตกเพื่อมาคุยกับเธอ

“ไม่จริงใช่ไหม”

“เรื่องอะไร” มาลีทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้

“ใครๆ เขาลือกันว่ามาลีจะแต่งงานกับอนันต์”

วิจักษ์กับพี่อนันต์นั้นรุ่นราวคราวเดียวกัน เคยเรียนหนังสือมาด้วยกันจนจบมัธยมหก แล้วพี่อนันต์เข้าไปเรียนต่อที่แม่สอด วิจักษ์ช่วยพ่อแม่ทำไร่บ้าง เป็นลูกจ้างพายเรือขับรถอยู่พักใหญ่ จนกระทั่งได้มาเป็นลูกจ้างอยู่ที่นี่

“จริง แต่ไม่ทั้งหมด”

มาลีนึกในใจว่าจะบอกเล่าให้วิจักษ์รู้ตื้นลึกหนาบางทั้งหมดดีไหม บอกไปแล้วมีประโยชน์อะไร ให้เขาเข้ามาเป็นมือที่สามอย่างที่ตั้งใจ และอีกอย่างเธอก็ยังไม่รู้แน่ชัดว่าป้ากับลุงจะเอาอย่างไรกับปัญหาทั้งหมดนี้ “เดี๋ยวตัวก็รู้เองแหละว่าเรื่องเป็นอย่างไร และจะจบลงอย่างไร แต่เอาเป็นว่า ตอนนี้มันเป็นแค่ข่าวลือเท่านั้น”

“จงใจจะปั่นหัวเค้าต่อไปละซิ” วิจักษ์มีทีท่าหงุดหงิด

“พูดดีๆ นะวิจักษ์ แล้วเราเคยบอกว่ามีใจให้กับตัวหรือเปล่า เราบอกแล้วไงว่า เพื่อน แค่เพื่อนเท่านั้นน่ะ”

“ใช่ซิ เค้ามันไม่รวยอย่างอนันต์นี่ ตัวเองถึงไม่ได้สนใจ” น้ำเสียงนั้นมีแววน้อยเนื้อต่ำใจ

“ตามใจตัวเองแล้วกัน จะคิดอะไรก็” ว่าแล้วมาลีก็เดินก้าวยาวๆ จากมาโดยไม่ได้สนใจท่าทีกระฟัดกระเฟียดของเขาเมื่อเดินไปทันคณะที่บริเวณตรวจบัตรก่อนเข้าน้ำตก มาลีก็รีบปรับสีหน้าให้เป็นสดชื่นทั้งที่หัวใจนั้นอึดอัดเหลือเกิน

“มาลี นี่แหล่ะค่ะ หัวหน้าทัวร์ของเรา”

มาลีส่งบัตรให้เจ้าหน้าที่ ยิ้มๆ ให้กัน ไม่ได้กล่าวอะไรด้วยเธอเองก็ยังไม่มีอารมณ์คุยกับใครทั้งนั้น

“เดินไกลไหมเนี่ย”

ถนนที่ลัดเลาะไปตามแนวป่าไม้สูงใหญ่ด้านหน้าทำให้คุณวรรณาถึงกับถอนหายใจดังเฮือก

“จากตรงนี้ก็ประมาณ 1.5 ก.ม. ไปกลับก็แค่ 3 ก.ม.เอง เดินกันไปหยอกกันไป ชมนกชมไม้ไป เดี๋ยวก็ถึงค่ะ ไหนๆ ก็ไหนๆ แล้ว อดทนหน่อยแล้วก็จะได้เห็นกับความสดชื่นก็สวยงาม” มาลีต้องพูดเพื่อให้ลูกทัวร์เกิดกำลังใจ

“นี่ถ้าไม่เห็นว่าติดอันดับน้ำตกที่สวยน่ามาเที่ยวที่สุดในโลก อีชั้นก็คงไม่อยากมาหรอก”

“จ๊ะ ก็เหมือนกัน”

“แต่อ๋อว่า ก็โอเคนะไม่ไกลมาก ไม่ได้เดินขึ้นเขา ก็แค่ลัดเลาะไปตามทางนี่ไม่ใช่หรือ”

“ค่ะ” มาลีตอบรับ แล้วก็ขอร้องให้ทั้งคณะเร่งฝีเท้าออกเดิน

“ก็วรรณไม่ได้มีใครช่วยประคองเหมือนคุณอ๋อคุณจ๊ะนี่”

“ผมไงครับคุณวรรณ” สมศักดิ์รีบเสนอหน้าตี๋ๆ ของตนออกมา ผลปรากฏว่าคุณวรรณายื่นมะเหงกให้

“ต้องเป็นผมใช่ไหม” สุชินรีบเสนอหน้าไทยๆ ทันทีเช่นกัน แต่คุณวรรณก็เบ้หน้าใส่ จนสุดท้ายคุณวรรณารีบก้าวเดินไปให้ทันคุณกลยุทธ แล้วก็เกาะแขน ผลปรากฏว่า ผู้ชายไม่ได้ว่าอะไร

มาลีมองภาพนั้นแล้วรู้สึกเห็นใจ บางทีแค่นั้นแหละที่คุณวรรณต้องการ การได้รักใครสักคนก็ดีกว่าที่หัวใจว่างเปล่า

เมื่อนึกถึงตรงนี้ มาลีใช้ความรู้สึกหันหลังกลับไป เธอนึกถึงใบหน้าของวิจักษ์เมื่อครู่ เขาคิดอะไรบ้างนะ เขาคงทุกข์ใจเมื่อรู้ว่าเธอกำลังเป็นอื่น

//////////////////////////////////////

“เหอะๆ กูบอกมึงแล้วไอ้วิจักษ์ให้ทำใจ ดูสารรูปตัวเองซะบ้าง ว่าตัวเป็นใคร แล้วเขานะใคร ถึงแม้มาลีมันไม่ได้เลิศเลอแต่มันก็นับว่า ดีกว่าเอ็งแล้วกัน”

“หยุดพูดเถอะพี่ คนกำลังกลุ้มๆ”

“กลุ้มใจแล้วมีประโยชน์อะไร ชายตาแลคนอื่นบ้างก็ได้ สาวอุ้มผางมีมาลีคนเดียวเสียที่ไหน บ้านสวนหลวงก็มีตั้งหลายคน ที่แม่กลองใหม่ก็มีชะแง้รอเอ็งอยู่ ถึงแม้ไม่สวยเท่ามาลี ก็ยังมีที่ไร่ที่นามีบ้านไม้สักหลังใหญ่โตนะ”

หนุ่มวิจักษ์ถอนลมหายใจออกมา ใจของเขาไม่มีใครนอกจากมาลี ตราบใดที่มาลียังไม่ได้แต่งงานกับใคร เขาก็ยังมีหวังที่จะได้ครอบครองหรอกน่า


ขณะที่เดินทางเข้าน้ำตก นอกจากชมนกชมไม้ ถามนั่น ถามนี่ไกด์สาวแล้ว ลูกทัวร์ก็ถามกับคนที่เดินเข้าไปในน้ำตกก่อนแล้วกำลังกลับออกมา คนเราต้องการรู้ว่าอนาคตจะเป็นอย่างไร ทั้งที่สุดท้ายก็ต้องรู้

มาลีมองแล้วนึกขำ มันเป็นอย่างนี้ เกือบจะทุกคณะก็ว่าได้

แล้วการเดินทางที่ทุกคนมุ่งหวังก็สิ้นสุด

“กรี๊ดดดด สวย สวยจริงๆ ด้วย สวยจริงๆ เลย”

เป็นเสียงร้องของคุณวรรณตั้งแต่พ้นแนวป่าไม้ คุณกลยุทธหันมามองหน้ากับสุชินสมศักดิ์แล้วยิ้มนิดๆ แต่สายตานั้นเลยมาหามาลีที่หอบแฮกๆ เพราะเหนื่อยกับงาน

มันเป็นภาพซ้ำๆ ซากๆ แต่เธอก็ยอมรับว่า มันสามารถทำเงินและทำให้เธอได้ใช้พลังที่มีอยู่ทำงานได้อย่างเต็มที่ เพราะทริปคนไทยนั้นไม่มีอะไรมาก พวกเขาพอรู้เรื่องอยู่แล้ว แต่ถ้าเป็นทริปที่มีฝรั่งเธอจะต้องเตรียมสคริปต์ เตรียมล้างหู แล้วก็เตรียมถ้อยคำที่ว่า ‘พูดอีกทีซิคะ’ ด้วยภาษาอังกฤษของเธอนั้น แค่ครูพยายามช่วยให้สื่อสารกับนักท่องเที่ยวได้เท่านั้น

“ขึ้นไปที่ข้างบนได้นี่” คุณจ๊ะ จริญญาชี้มือไปยังคนกลุ่มเล็กๆ ที่กำลังไต่ตรงโขดหินด้านบน

“ได้ค่ะ แต่ระวังลื่นหน่อยแล้วกัน”


“จะนำไปไหม”

“ถ่ายรูปกันก่อนแล้วกันค่ะ ตรงนี้จะเห็นน้ำตกในมุมกว้างทั้งสามชั้นใหญ่ แต่ถ้าขึ้นไปแล้วก็จะสวยอีกแบบหนึ่ง แล้วที่สำคัญหากใครอยากเล่นน้ำ แนะนำที่ข้างบนนะคะ เป็นแอ่งกว้าง เล่นสนุก”

ขณะพูดก็มีนักท่องเที่ยวกระโดดหน้าผาจากอีกชั้นลงมาที่ท้องน้ำจนเสียงดังตูม

“คุณชิน คุณศักดิ์ ทำอย่างนั้นได้หรือเปล่า” คุณวรรณาร้องถาม

“คงไม่ใช่ผมหรอกครับคุณวรรณ ไอ้ยุทธแน่ๆ เลยที่ทำได้”

“ไอ้ห่า เรื่องเสี่ยงตายแล้วยกให้ข้าเลย”

“ก็เป็นหัวหน้าเงินเดือนแยะนี่ ลุยไปก่อนซิ”

“เดี๋ยวให้นนท์ เขาโดดให้คุณวรรณดูก็ได้” คุณจ๊ะ จริญญา ดึงสามีให้ร่วมวง

“ผมยังไม่มีลูกเลยคุณจ๊ะ แล้วอีกอย่างคุณก็ยังน่ารัก” พอสามีพูดอย่างนี้ คนเป็นเมียหน้าแดง

“แหวะ” คุณวรรณจึงถือโอกาสบอกให้รู้ว่าเลี่ยน

หลังจากถ่ายรูปแล้วทั้งคณะก็ปีนป่ายไปยังชั้นบนที่น้ำตกสูงไหลลงมา ซึ่งไม่ทำให้ใครๆ ผิดหวังเลยสักนิด

สายน้ำสีขาวไหลเป็นม่านยาวออกมาจากทิวไม้สีเขียว ทำให้จิตใจนั้นพลอยชื่นด้วยอากาศนั้นเย็นฉ่ำ ทำให้ต้องขยับแขนนั้นมากอดที่อกตัวเองเพื่อเพิ่มความอบอุ่น ที่ตรงนี้ มีหลายคู่ทีเดียวที่เคยห่มผ้าให้กัน เคยถอดเสื้อกันหนาวให้กันเมื่ออีกฝ่ายบอกว่า ‘หนาว’

สำหรับคณะนี้ ‘สวีต’ หวานได้เต็มที่เห็นจะเป็นคู่ของคุณจ๊ะกับคุณนนท์ และคุณอ๋อกับคุณเอก มาลีเห็นคุณจ๊ะหยิบแว่นของสามีมาเช็ดเม็ดน้ำที่เกาะพราวให้ ส่วนคุณเอกสามีของคุณอ๋อก็ใช้ผ้าเช็ดหน้าซับไป
ตามไรผมที่ชื้นเหงื่อผสมกับไอน้ำที่ปลิวว่อนลงมา

สำหรับสามหนุ่มแล้ว มาลีเห็นลัดเลาะนำหน้าโดยไม่ได้รอให้คุณวรรณขึ้นไปด้วย จนคุณวรรณหันกลับมาทำหน้ามุ่ย

“เครื่องยืนยันว่า พวกเขาไม่เคยได้สนใจพี่เลยจริงๆ นะ”

มาลีเพียงหัวเราะแฮะๆ แล้วก็ฉุดรั้งมือของคุณวรรณให้ก้าวผ่านโขดหินขึ้นไปสู่จุดสำหรับชมวิวและถ่ายรูปของน้ำตกทีลอซูที่สวยที่สุด เมื่อขึ้นไปถึงมาลีก็พบว่าทั้งสามหนุ่มนั้นลงไปดำผุดดำว่ายกันอยู่ในน้ำใสเย็น ท่ามกลางเสียงร้องว่าหนาว

“ระวังเป็นตะคริวนะคะ อย่าไปลึกนะ อันตราย”

มาลีต้องร้องปรามเพราะเคยประสบเหตุแบบนี้มาแล้ว หรือถ้ามีอันตรายถึงชีวิต เธอไม่อยากให้เกิดขึ้นกับคณะของเธอ

“สวย สมคำร่ำลือ ไม่เสียดายเงินกับเวลาเลยจริงๆ”

ละอองน้ำสีขาวปลิวว่อนสร้างความชื่นฉ่ำสร้างความงดงามทางสายไปทั่วบริเวณ จนคุณวรรณอดเพ้อขึ้นมาไม่ได้

สามีคุณจ๊ะกับคุณอ๋อไต่หินลงน้ำตามทั้งสามหนุ่มไป สามสาวร่วมทริปจึงได้แต่ยืนสูดลมหายใจเข้าปอดเฮือกแล้วเฮือกเล่า

และเมื่อมาถึงตรงนี้ครั้งใด มาลี ก็อดนึกถึง ‘ใครคนหนึ่ง’ เมื่อปีที่แล้วไม่ได้ เธอบอกกับเขาแล้วว่าระวังเป็นตะคริว แต่เขาอวดดื้อถือดีคิดว่าตัวเองแข็งแรง และสุดท้ายเธอต้องรีบทะยานลงจากโขดหินแล้วกระโจนลงไปลากเขาขึ้นมาจากน้ำเย็นไหลแรงในฤดูฝน

ภาพบางภาพกับเวลาที่ผ่านมาเธอคิดว่าจะสลัดมันออกจากหัวได้ทั้งหมด แต่เอาเข้าจริงๆ ในวัยที่เปลี่ยวเหงา เธอเองก็พยายามมองหาใครสักคนที่ทำให้ชีวิตมีความอบอุ่นขึ้นมา

พ่อกับแม่ถือเป็นคู่หนึ่งที่เธอควรยึดเป็นต้นแบบ พ่อรักแม่ เป็นสามีที่ดีรับผิดชอบครอบครัวจนกระทั่งตายจากกันไป

ลุงมิ่งกับป้าจำปีก็เหมือนกัน สามีอยู่ในโอวาท เมียชี้นกเป็นนกชี้ไม้เป็นไม้ ลูกทั้งสองคน แม้ไม่ได้อย่างใจทั้งหมด แต่ทั้งพี่อนันต์และพี่ นันทา ก็ไม่ได้ทำให้พ่อแม่ผิดหวัง พวกเขามีชีวิตที่ดีงาม เพราะพื้นฐานของครอบครัวดี ผิดกับเธอหรอก

อยากเป็นดีๆ กว่านี้แค่ไหน แต่เมื่อเหตุปัจจัยในปัจจุบันไม่เอื้อ เธอจึงมุ่งทำเฉพาะวันให้ดีที่สุด

ความปรารถนาเมื่อตอนใกล้จบมัธยมศึกษาปีที่หกก็คือ การได้เข้าเรียนต่อที่สถาบันราชภัฏในสาขาครูแล้วพยายามสอบบรรจุให้ได้เพื่อขอกลับมาอยู่ที่บ้าน ในตอนนั้นเธอไม่ได้นึกถึงคู่ครอง เพียงนึกถึงว่าจะได้มีโอกาสมีอาชีพเลี้ยงพ่อแม่ให้สุขสบายในแผ่นดินเกิด

เมื่อพ่อเริ่มเจ็บปวดในตอนที่เธออยู่ชั้นมัธยมสี่ วันเสาร์อาทิตย์เธอจึงมาทำหน้าที่ช่วยแม่ทำครัว ช่วยจัดบ้านพัก แล้วเริ่มขยับมารับโทรศัพท์ประสานงานรถ งานเรือ จนกระทั่ง เมื่อเรียนจบชั้นมัธยมศึกษาปีที่หก พ่อก็มาเสียชีวิต ท่ามกลางเงินรักษาตัวที่ป้ากับลุงเรียกว่าช่วย แต่แม่บอกกับเธอว่า การทำงานอยู่ที่นี่คือวิธีการใช้หนี้อย่างหนึ่ง

เมื่อจำนนกับชีวิตตัวเองแล้ว มาลีจึงได้ฝากความหวังชีวิตไว้กับมารุต หวังว่าน้องที่เรียนอยู่ชั้นประถมสี่ จะมีความรักและปรารถนาดีกับชีวิตตัวเอง เพราะเธอนั้นได้พล่ามบอกกับน้องอยู่เสมอว่า

“เราโชคดีที่เป็นไทยได้สัญชาติไทย หากเราไปเกิด อีกฟากเขา ป่านนี้พวกเราก็ต้องมาทำงานใช้แรงแลกกับค่าแรงราคาถูกเหมือนกับพวกฝั่งโน้น”

เธอพยายามให้น้องตั้งใจเรียนและช่วยเหลือตัวเองให้มากที่สุด ดังนั้นในวันหยุดเสาร์อาทิตย์แบบนี้มารุตจึงต้องตื่นเพื่อไปต่อคิวคอยบริการนักท่องเที่ยวที่จะเข้าไปในถ้ำตะโคะบิ ถือไฟฉายนำทาง พร้อมกับบรรยายชี้ชวนแนวสนุกสนานกวนๆ เพื่อแลกกับความเห็นอกเห็นใจของคนมาเที่ยว

จะว่าเหมือนขอ ก็ใช่ แต่มันแตกต่างตรงคือการแสดงความสามารถแล้วแลกกับเงิน เหมือนกับที่เธอมักจะได้ทริปก่อนที่รถตู้จะเคลื่อนจากไปเสมอ

“เพราะพวกเธอเป็นเด็กไง ใครๆ จึงเมตตา” ป้ามักบอกกับเธออย่างนั้น

//////////////////////////////////////////////
“ใจลอยอีกแล้วไกด์ของผม”

เป็นน้ำเสียงของคุณกลยุทธ เขาโผล่ขึ้นมาจากน้ำเย็นด้วยปากแดงและร่างที่สั่นงักๆ มาลีนึกโกรธตัวเองที่ลืมให้พวกเขานำผ้าเช็ดตัวติดมาด้วย แล้วกว่าจะแห้ง

มาลีมองหุ่นกำยำในเสื้อที่แนบเนื้อ

“ทำไมไม่ถอดเสื้อก่อนลงล่ะ”

“ก็กลัวหนาวไง”

“อี้” ทำหน้าเซ็งกลั้วด้วยรอยยิ้มกับมุกนั้น

“งั้นก็หนาวกันต่อไป”

เมื่อคณะทั้งหมดทยอยขึ้นมา มาลีจึงต้อนให้ไต่ลงจากโขดหินสูงใหญ่ ส่วนตัวเองนั้นเดินรั้งท้าย แต่ก็อดสั่งไปเหมือนพวกเขาเป็นเด็กเล็กๆ ไม่ได้

“ช่วยดูแลกันเองด้วยนะคะ ระวังจะตกลงไป มาลีขี้เกียจหิ้วกลับ แถมแรงไม่มีแล้วด้วย”

“ว่าแต่เขา ตัวเองเถอะ ตัวผอมแห้งมีแรงเดินหรือเปล่า”

มาลีหันกลับมามองหนุ่มปากแดงที่เดินอยู่ข้างหลัง จังหวะที่หยุดเขาก็ยังเดินตามจึงทำให้แผ่นหลังของเธอสัมผัสกับหน้าอกในเสื้อยืดชุ่มน้ำของเขา

ใจของตัวเองเต้นไม่เป็นจังหวะ เรี่ยวแรงที่จะก้าวเดินต่อไปพลันหดหาย แล้วเธอก็หน้ามืดก่อนจะค่อยๆ ทรุดลง นี่กระมังอาการของคนเป็นลม ใจของเธอสั่นหวิวไปหมด มาลีพยายามฝืนตัวเองให้เป็นปกติแต่เธอบังคับตัวเองไม่ได้ มารู้สึกตัวเองอีกที คณะที่เดินลงกันไปก่อนกลับขึ้นมามุงดูเธอ พร้อมกับมีมือสาวๆ ช่วยกันนวดเฟ้น

“ไหวไหม”

“เป็นอย่างไรบ้าง ไม่ได้มีโรคประจำตัวใช่ไหม”

เป็นเสียงร้องถามของคุณอรชุมากับคุณจริญญา มาลีรู้สึกซึ้งในน้ำใจจนน้ำตามันมาอยู่ที่ขอบตา

“มึงทำอะไรน้องเขาวะไอ้ยุทธ”

เมื่อเห็นว่ามาลีลืมตาแล้ว พวกเขาจึงมีอารมณ์หยอกกันต่อ

“กูก็แค่บอก”

กลยุทธอยากจะยิงมุกบ้าง แต่จำชะงักปากไว้ พูดไปได้อย่างไรว่าแค่บอก ‘รัก’ มันเร็วไปมั้งสำหรับเขา แค่เขารู้สึกเป็นห่วงเฉยๆ เห็นตั้งแต่ช่วงเดินขึ้นมาจากล่องแก่งแล้วว่า ใบหน้าของเธอซีดเผือด นี่ต้องมาออกแรงโหนพวงมาลัยขับรถขึ้นเขา มันคงใช้กำลังไม่น้อย ยิ่งตอนเดินเข้ามา บางครั้งเห็นเธอหยุดหอบ แสดงว่าร่างกายคงไม่แข็งแรงเท่าไรนัก

เมื่อมาลีฟื้นได้สติ สามสาวจึงช่วยกันประคองหญิงสาวลงสู่เบื้องล่าง

“ขับรถไหวไหมวะเนี่ย” สมศักดิ์มีทีท่าเป็นห่วง

“เดี๋ยวกูจะเสนอตัวขับให้แล้วกัน” กลยุทธรีบเสนอตัว

“ห่วงเขาซิ” สุชินล้อเลียน

“ห่วงตัวเองมากกว่าเว้ย เกิดเป็นอะไรไปตอนรถขึ้นเขา พวกเองไม่ลงไม่นอนหลับในเหวเลยเหรอ”

“แล้วมึงรู้จักเหวดีแค่ไหน” สุชินเริ่มปล่อยมุกขึ้นมาบ้าง

“ก็ข้างทางที่ลึกๆ นั่นไง ถ้าตกลงไปก็เละแถมคนมาช่วยก็เหนื่อยยากอีก”

“ผิด”

คนตอบผิด มีสีหน้าขุ่นๆ ขณะค่อยๆ ไต่ชะง่อนหินลงมา เมื่อร่างกายได้รับแสงสว่างจากดวงอาทิตย์ ได้ขยับแข้งขา ความหนาวเย็นหลังขึ้นพ้นจากน้ำเริ่มหายไป และความสดชื่นนั้นกลับเข้ามาเยือนคนทั้งสามจนรู้สึกได้

“ถ้าลึกไม่ถึงร้อยเมตร เรียกว่า หอ-วอ-เอ เว๋ มึงเข้าใจคำว่า เว๋ไหม” คนฟังนึกขำตาม

“ส่วนที่ลึกกว่าร้อยเมตรจึงจะเรียกว่า เหว”

“ถ้ามากกว่าร้อยเมตรนั้นมากๆ ล่ะ” สมศักดิ์ยังทำหน้าสงสัย ชวนหาปัญญามาต่อปาก

“เหว-นรก ไง ตายสถานเดียว” พูดไม่พูดเปล่า สุชินทำท่าเชือดคอตัวเองด้วย

“แล้วเมียที่บ้านมึง เขารู้หรือเปล่าว่ามึงมาสีคุณวรรณที่นี่ กลับไปนรกนะโว้ย”

“เงียบเลย กูเป็นโสดโว้ย”

“กูไม่เชื่อ” สมศักดิ์รีบย้อน

“คนที่ควรกลัวตายก็คือไอ้ยุทธมากกว่า”

สุชินรีบเปลี่ยนเรื่องคุย เพราะเขานั้นประเภทรักง่ายหน่ายเร็ว ในคอนโดของเขา มีผลัดเปลี่ยนกันมาเรื่อย ก็อย่างว่าเขายังไม่พร้อมมีครอบครัว แต่ต้องการที่จะมีผู้หญิง ดังนั้นผู้หญิงของเขาจึงเป็นประเภทหาได้ตามอินเทอร์เน็ตหรือสถานที่บริการยามค่ำคืน สนุกสนานแล้วก็จากไป

เขาแนะนำวิธีการใช้ชีวิตแบบนี้ให้กับทั้งสมศักดิ์และกลยุทธ มีแต่สมศักดิ์คนเดียวเท่านั้นที่คล้อยตามเป็นบางครั้ง แต่สุดท้ายมันก็พยายามที่จะกลับไปหา ‘รักแท้’ เหมือนเคย

ส่วนกลยุทธนั้นเขาแทบปิดประตูตายเลยทีเดียว เขาบอกว่าวิธีการแบบนั้นมันไม่ตื่นเต้น หากจะมีชั่วครู่ชั่วยามแบบนั้น ขอเป็นเริ่มต้นที่ความ ‘ชอบเป็นการส่วนตัว’

และดูแล้ว คำว่าชอบเป็นการส่วนตัว ที่กลยุทธนิยามไว้ ก็มาจบลงที่สาวน้อยหน้าหวานชวนสงสารคนนี้ สุชินถอนหายใจออกมา

แล้วเรื่องของนายกลยุทธนี่มันจะจบลงที่ตรงไหน ชอบเป็นการส่วนตัว แล้วก็สุขที่ได้ชอบเป็นการส่วนตัว สุดท้ายก็เหน็บหนาวเป็นการส่วนตัวเหมือนเคย

“มันไม่กลัวโว้ยไอ้ชิน” สมศักดิ์ยังคงหยอกเรื่องเดิม

“ข้ายังไม่ได้ทำอะไรผิดสักหน่อยนี่หว่าแล้วจะกลัวทำไม อีกอย่างคุณรมณีย์กับข้าก็ยังไม่ได้ มีอะไรลึกซึ้งต่อกันเลย”

“มึงอาจจะไม่มี แต่เขามีกับมึงแน่พวกกูดูออก” สมศักดิ์ยังขยับเรื่องให้เข้าทางตัวเอง

“ปากแข็งไป จริงๆ มึงกำลังตีปีกอยู่เหมือนกันใช่ไหมล่ะ อนาคตหรูนะเฟ้ย”

“เงียบเถอะไม่อยากคิด” ว่าแล้วเจ้าตัว ก็ตัดบทเดินลิ่วตามคณะสามสาวข้างหน้าที่พามาลีลงไปก่อน

“แหงเลยไอ้ศักดิ์ ไอ้ยุทธชอบน้องมาลี แน่ๆ เลย”

“ไม่คิดเลยว่าสเปคมันจะต่ำแบบนี้”

“มึงก็สเปคต่ำกูรู้ แต่มึงเจียมตัวว่าอย่างไรก็พ่าย ว่าไง คุณวรรณมึงไปถึงไหนๆ แล้ว”

“ถึงไหนก็เรื่องของกู”

“เขามองมึงสักนิดก็ดีหรอก นี่ทั้งหัวใจเขามีแต่ไอ้ยุทธ แห้วสุพรรณบุรีรู้จักไหม ถ้าไม่รู้จักขากลับกรุงเทพฯ กูจะได้ให้เขากลับทางสุพรรณ รักแท้ รักแท้ มีแต่คนอยากมีรักแท้ทั้งนั้นโว้ย แต่สุชินคนนี้ ขอมีแค่ รักแท้ในคืนหลอกลวงเป็นพอ”

“หยุดเพ้อสักทีเถอะวะ รำคาญ”

สุชินหยุดกึกแล้วก็ขำๆ กับท่าทีของเพื่อนหนุ่มทั้งสองคน ชีวิตคนเหมือนละคร อยากรู้เหมือนกันว่าจุดจบของละครโรงนี้จะเป็นอย่างไร?


เมื่อเห็นมาลีเดินออกมาน้ำตก โดยมีลูกทัวร์สาวสองคนขนาบข้างมาด้วย ทำให้วิจักษ์ต้องรีบละงานแล้ววิ่งมาหา “เป็นอะไรหรือมาลี”

“เป็นลมค่ะ แต่ดีขึ้นแล้ว” จริญญาเป็นฝ่ายตอบโดยอรชุมาเพียงยิ้มและสำรวจสีหน้าและทีท่าชายหนุ่ม พอดีกับที่วรรณาเดินมาทัน

“อยากเป็นลมบ้างจังน้องมาลี”

มาลีพอเข้าใจว่าคุณวรรณาหมายถึงอะไร วิจักษ์ไม่ได้หน้าแดงอย่างที่วรรณาต้องการเห็น เขายังมีสีหน้าห่วงใยมาลีอย่างจริงๆ จังๆ

“มีอะไรไม่สบายใจบอกเค้าได้นะมาลี”

ประโยคห่วงใยของวิจักษ์พอดีกับที่กลยุทธกับพรรคพวกผู้ชายเดินมาทัน สมศักดิ์กับสุชินจึงยิ้มๆ แล้วผละออกไปพร้อมกับเอกชัยและอานนท์

“ไม่ได้เป็นไรหรอก ไม่มีอะไร ขอตัวก่อนแล้วกัน” ว่าแล้วมาลีก็ก้าวเดินโดยมีอรชุมากับจริญญาก้าวตามมาด้วย แต่ว่าวรรณานั้นอยากรู้ความสัมพันธ์ของคนทั้งคู่ จึงรั้งรอเพื่อจะเอ่ยถาม

“เป็นแฟนกันเหรอ”

ชายหนุ่มในชุดลายพราง ถอนหายใจออกมาจ้องหน้าหญิงสาวที่ผิวขาวมีผมหยิกเป็นลอนดูทันสมัย และแม้ไม่เข้าใจในเจตนาแต่ว่า ระบายออกไปคงดีกว่าเก็บไว้ให้อัดแน่นอยู่ในทรวงอก

“ผมชอบเค้า แต่เค้าไม่รู้เหมือนกันว่าชอบใคร”

“ทำไมไม่รู้”

“เพราะไม่เห็นว่าเค้ามีทีท่าว่าชอบใคร”

วรรณายิ้มแหย ๆ พลางมองตามร่างของกลยุทธ คนที่ไม่เห็นมีทีท่าว่าชอบใครเช่นกัน แต่ว่าวันนี้เธอเห็นความวูบไหวในดวงตาของเขา แม้ไม่ได้บอกว่าชอบ เธอก็พอดูออกว่าเขาห่วงใยเด็กคนนั้นมากมายแค่ไหน ทำไมเขาถึงไม่มองหรือสนใจเธอบ้างนะ

“ขอตัวก่อนนะครับ”

เมื่อหมดเรื่องคุย วิจักษ์จึงผละออกเดินตามมาส่งมาลีถึงที่รถยนต์ และเมื่อเห็นว่าใครจะทำหน้าที่เป็นพลขับเขาก็ชักสีหน้าแปลกใจพลางเอ่ยถาม

“อ้าว มาลีไม่ได้ขับเองเหรอ”

“ผมอาสาขอเธอขับเองครับ เป็นลมเมื่อครู่ คิดว่าเธอน่าจะพัก
อีกสักหน่อย ไม่ต้องห่วงครับ ผมมั่นใจว่าผมขับได้”

เมื่อได้ยินน้ำเสียงมั่นใจของหนุ่มที่ดูดีกว่าตน ทำให้ วิจักษ์ต้องถอยหลังออกมา

เมื่อคณะทั้งหมดกระโจนขึ้นท้ายรถพร้อมผ้าปิดปากปิดจมูก หมวกคลุมผมแล้ว รถคันที่กลยุทธเป็นพลขับก็ค่อยๆ ถอยออกมาจนกระทั่งลับหายไปกับโค้งถนนและฝุ่นที่ค่อยๆ จางลง

“หนุ่มนั่นชอบเธอ”

กลยุทธเป็นฝ่ายชวนคุยขึ้นมา มาลีไม่ตอบ หญิงสาวพยายามหาสาเหตุของการเจ็บป่วยไร้เรี่ยวแรงของตนในครั้งนี้มากกว่า คงเป็นด้วยพักผ่อนน้อยกับกินข้าวไม่ได้แน่ๆ ใช่แล้ว เมื่อเช้าและกลางวันเธอกลืนข้าวไม่ลงคอด้วยรู้สึกว่าไม่หิว เธอคงเครียดเรื่องนั้นด้วย

เมื่อรู้สาเหตุ มาลีพยายามดึงใจกลับมารักษา มันเกิดขึ้นที่ใจ มันก็ต้องดับที่ใจ เธอต้องกินต้องมีแรงถึงจะสู้ชีวิตต่อไปได้ ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น เธอก็จะไม่ท้อ ไม่หวั่น



จุฬามณีเฟื่องนคร
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 14 พ.ย. 2554, 10:15:22 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 14 พ.ย. 2554, 10:15:22 น.

จำนวนการเข้าชม : 1932





<< 2.ดวงตาเป็นหน้าต่างของหัวใจ    4.ซ้าย ขวา โค้ง >>
จุฬามณีเฟื่องนคร 14 พ.ย. 2554, 10:16:58 น.
เรื่องนี้ หนึ่งหญิงสองชาย..แนวอารมณ์ โรแมนติกดราม่า(ชิวชิว)..ตัวละครเยอะหน่อยใช้เวลาเดินเรื่องนานนี๊ดหนึ่ง แต่กหวานพอได้อยู่นะครับ (สำหรับผม))


nateetip 14 พ.ย. 2554, 11:02:36 น.
:)


คิมหันตุ์ 14 พ.ย. 2554, 12:31:33 น.
มารอความหวานค่ะ อิอิ


แว่นใส 14 พ.ย. 2554, 14:27:06 น.
เรื่องชักยุ่งเนอะ


minafiba 14 พ.ย. 2554, 20:40:25 น.
^_^


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account