อาทิตย์พรางดาว
เมื่อความเคียดแค้นชิงชังที่มีมาระหว่างพี่น้องต่างมารดา ทำให้เกิดเรื่องราวต่างที่นำมาซึ่งความสุข เศร้า และโศกนาฏกรรม! ดาวเหนือจะทำอย่างไรเมื่อตะวันฉายผู้เป็นเกลียดเธอจนไม่อยากจะอยู่ร่วมโลก และตฤณจะทำอย่างไรเพื่อปกป้องคนรักไม่ให้โดนทำร้าย ต้องติดตามใน 'อาทิตย์พรางดาว'
Tags: ดราม่า

ตอน: ตอนที่ 7

ตอนที่ 7

“โอ๊ย!ช้า ช้ามากๆเลยพี่ตฤณ แล้วทำไมไม่รับโทร.. เฮ้ย! ไปทำอะไรมาเนี่ย ทำไมถึงมอมแมมอย่างนี้อ่ะ”ตรีทิพย์บ่นใส่พี่ชายทันทีที่เห็นเขาเดินมาข้างในร้าน ก่อนจะเปลี่ยนเป็นตกใจเมื่อเห็นสภาพอีกฝ่ายชัดๆ ตฤณขยี้หัวน้องสาวตัวแสบให้ฟูฟ่อง ก่อนจะตอบคำถาม

“ชนกับสาวมาน่ะ แล้วโทรศัพท์ก็พังไปแล้วด้วย”

“เวรกรรม! ทำไมหมู่นี้พี่มีเรื่องกับสาวๆบ่อยจัง หรือว่าถึงเวลามีคู่แล้ว”ตรีทิพย์ที่ได้ฟังเรื่องทั้งหมดจากพี่ชายรีบสันนิษฐานตาโต ตฤณหัวเราะเบา ก่อนจะเอามือเขกหัวของแม่จอมแสบ

“มั่วใหญ่แล้วเรา จะมีใครมาสนพี่ พี่มันไม่หล่อ ไม่เท่ ไม่เซอร์ตามสไตล์ที่สาวสมัยนี้ชอบ”

“โหย!พูดมาได้ ถ้าพี่ชายตาลไม่หล่อ คงจะหาใครหล่อไม่ได้แล้ว” ตรีทิพย์พูดพร้อมกับพิจารณาพี่ชายไปด้วย

ชายหนุ่มรูปร่างสูงโปร่ง กล้ามเนื้อแข็งแรงที่ถูกซ่อนไว้ใต้เสื้อเชิ้ต ผิวขาวตามเชื้อจีนผสมไทย ดวงตาคมสีดำสนิทที่ถูกแว่นไร้กรอบบดบัง เส้นผมสีดำที่ที่ตัดแบบผู้ชายทั่วไปไม่ใช่ตามสไตล์วัยรุ่นในปัจจุบัน แถมด้วยกิริยา ท่าทางที่เป็นธรรมชาติของเขาทำให้ดูดีไม่มีที่ติ ติดอยู่เพียงอย่างเดียวอีกฝ่ายเอาแต่อยู่ในคลีนิครักษาสัตว์ในซอยบ้านที่เปิดขึ้นเองเท่านั้น ไม่ค่อยจะออกไปไหนเท่าไหร่ ทำให้ไม่มีใครมาเห็นความหล่อของพี่ชายเธอ

ตฤณส่ายหัวกับท่าทางจริงจังของน้องสาว ใช่ว่าเขาจะไม่เคยรักใคร แต่คนที่เขารักคนนั้น ทำให้เขาได้แต่มองเท่านั้น เพราะเธอคนนั้นมีคนที่รักอยู่ก่อนแล้ว และเขาก็ไม่สามารถตัดใจได้ เรื่องนี้ชายหนุ่มไม่เคยเล่าให้ใครฟังได้แต่เก็บเป็นความลับซ่อนเอาไว้ในหัวใจ โดยเฉพาะตรีทิพย์จะให้รู้ไม่ได้เด็ดขาด! ชายหนุ่มรีบตัดบทก่อนที่อีกฝ่ายจะคิดอะไรไปไกล

“ไปเถอะ ไปกินข้าวกัน หรือจะไม่กินพี่จะได้เก็บเงินไปซื้อของเล่นให้เทอร์โบมันแทน”

“กินสิ! กองทัพต้องเดินด้วยท้องนะ แต่ว่ายายดาวกลับไปแล้วอ่ะ น่าจะอยู่กินด้วยกันก่อน แล้วก็นะไม่ต้องคิดจะเอาเงินไปซื้อของเล่นให้ไอ้แสบนั่นเลยนะ ตาลไม่ยอม!”หญิงสาวพูดถึงคู่ปรับตัวฉกาจ ที่ไม่ว่าเมื่อไหร่ที่เจอหน้ากันเป็นต้องมีเรื่องทะเลาะข้ามสายพันธุ์ระหว่างคนกับสุนัขเกิดขึ้นทุกที ทั้งคู่กำลังเดินไปยังร้านอาหารที่ตรีทิพย์ได้เล็งไว้ ตฤณชะงักไปเล็กน้อยกับชื่อของเพื่อนรักของน้องสาวก่อนจะถาม

“ทำไมไม่ชวนให้ไปกินด้วยกันล่ะ พี่ยังไม่เคยเจอตัวจริงเลยนะ เพื่อนเราคนนี้น่ะ”

“ก็ใช่ไง! ไม่รู้อะไร อย่างกับหนังอินเดีย ไม่พี่ตฤณติดงาน ยายดาวก็เข้าป่า วุ้ย!วัยรุ่นเซ็ง”

“หึ หึ ดวงคงไม่สมพงศ์กันมั้ง เลยยังไม่เจอหน้ากันซะที ว่าแต่เพื่อนเราเขาก็มีแฟนแล้วไม่ใช่เหรอ เมื่อไหร่เราจะมีบ้างล่ะ เดี๋ยวเขาก็แต่งงานแซงหน้าไปเสียก่อนหรอก”ตฤณถามอย่างสงสัย เพราะถึงแม้จะไม่เคยได้เจอตัวจริง แต่ได้ยินทั้งแม่ทั้งน้องสาวพูดถึงเพื่อนคนนี้อยู่บ่อยครั้ง ทำให้รู้ว่าอีกฝ่ายมีคนรักอยู่แล้ว ตรีทิพย์หัวเราะ พลางโบกมือไปมา ก่อนจะตอบ

“ไม่มีทางเลยพี่ ตอนนี้ไอ้ดาวมันกำลังอยากจะเลิกกับพี่พัดอยู่” สิ่งที่น้องสาวบอกออกมานี้ทำให้ชายหนุ่มต้องรีบหันมาถามรายละเอียดทันที แม้ว่าจะงงกับท่าทางอยากรู้เกินปกติของพี่ชาย แต่ตรีทิพย์ก็เล่าเรื่องราวทั้งหมดให้ชายหนุ่มฟังตั้งแต่ต้น เมื่อฟังจบตฤณก็ได้แต่เงียบไม่พูดไม่จาอะไรจนน้องสาวต้องเอ่ยปากถาม

“พี่ตฤณเป็นอะไรไป อย่าบอกนะว่าเครียดแทนไอ้ดาวน่ะ”

“ก็นะ เท่าที่ฟังดูอีกฝ่ายเขาก็คงจะพอรู้ตัวล่ะนะ ไม่งั้นคงไม่ตัดบท แถมยังหาทางยืดเวลาไปอีกตั้งนานขนาดนี้หรอก”ตฤณออกความเห็น ซึ่งก็ตรงกับความคิดของตรีทิพย์

“ใช่ ตาลก็บอกกับไอ้ดาวไปแล้วเหมือนกัน มันก็บอกว่าดี เรื่องจะได้ง่ายขึ้น แต่ตาลว่าไม่ง่ายหรอกพี่ตฤณ พี่พัดน่ะเห็นอย่างนั้นก็เอาเรื่องเหมือนกัน แถมยังรักมากขนาดนั้น เอาหัวเป็นประกันได้เลยว่าเรื่องนี้ต้องยืดเยื้อแน่นอน!”

ตฤณมองตามหลังน้องสาวที่เดินนำไปหลังจากทิ้งท้ายไว้อย่างหนักแน่นอย่างเป็นกังวล เขาไม่ได้กังวลอะไรเกี่ยวกับน้อง หากแต่เป็นอีกหนึ่งสาวต่างหากที่เขากังวล ชายหนุ่มหน้าเครียดก่อนจะรำพึงกับตัวเองเบาๆ

“พี่ขอให้ผ่านเรื่องยากลำบากในชีวิตไปให้ได้นะครับ ดาวเหนือ”


ดาวเหนือรวมถุงใส่ของทั้งหลายที่ซื้อมาในวันนี้ไว้ทั้งสองมือ โดยทิ้งกระเป๋าใส่แบบและอย่างอื่นที่เกี่ยวกับงานของเธอไว้ในรถ ก่อนจะล็อกรถแล้วเดินเข้าไปในบ้าน ร่างโปร่งเดินผ่านห้องรับแขกกำลังจะขึ้นไปยังของตัวเองที่ชั้นสองก็ต้องชะงักเมื่อเห็นแสงไฟส่องสว่างอยู่ภายในครัว หญิงสาวมองนาฬิกาที่ผนังเห็นว่าเป็นเวลาสี่ทุ่มกว่าแล้ว จึงเกิดความสงสัยว่าใครกันที่อยู่ในครัวบ้านเธอดึกๆอย่างนี้

ร่างโปร่งวางของลงที่โซฟา ก่อนจะเดินเบาๆไปยังห้องครัวเพื่อที่จะดูว่าใครที่อยู่ในนั้น แต่แล้วก็ต้องหายข้องใจเมื่อเห็นด้านหลังของสตรีผู้ให้กำเนิดกำลังทำอะไรบางอย่างอยู่ที่เคาน์เตอร์ภายในครัว เธอเดินมาหยุดอยู่หน้าประตูมองดูมารดากำลังปั้นแป้งหลากสีให้เป็นลูกกลมขนาดเล็ก ก่อนจะเอ่ยปากทัก

“แม่ ทำไมยังไม่นอน”

“อ้าว! ยายดาวกลับมาแล้วเหรอเรา”คุณบุษบาหันกลับมามองตามเสียงทัก เมื่อเห็นว่าเป็นลูกสาวก็หันกลับไปทำขนมต่อ ไม่ยอมตอบคำถามแต่ถามอีกฝ่ายกลับไปแทน ดาวเหนือเดินมาหยุดที่เบื้องหน้าของมารดา

“กลับมาแล้ว แต่ยังไม่ได้ตอบคำถามดาวเลยว่าทำไมยังไม่นอน”

“แม่กำลังจะทำบัวลอยน่ะ”

“ทำไปทำไม”

“คุณตะวันเขาจะพาเพื่อนมาที่บ้านพรุ่งนี้ แล้วเขาไปบอกเพื่อนว่าแม่ทำขนมอร่อย ก็เลยอยากให้แม่ทำให้เพื่อนเขาทานน่ะ”คุณบุษบาอธิบายอย่างไม่คิดอะไรมาก ในขณะที่ดาวเหนือได้ฟังแล้วอารมณ์เสียขึ้นมาทันที

“แล้วมันเรื่องอะไรที่แม่ต้องไปทำขนมเลี้ยงเพื่อนเขา เพื่อนเขาก็ให้เขาหาเองสิ”

“มันไม่ได้หนักหนาอะไรเลยนะยายดาว อยู่บ้านเดียวกัน อะไรช่วยได้ก็ช่วยกันไป”

“แม่จะปิดหูปิดตาไปอีกนานแค่ไหน แม่ไม่รู้เลยเหรอว่าเขาว่าเราว่ายังไงบ้าง เขาทำร้ายจิตใจดาวแค่ไหน แม่รู้บ้างไหม!”ดาวเหนือระเบิดอารมณ์ออกมาเมื่อได้ยินมารดาพูด ก่อนจะวิ่งกลับบอกไปขึ้นห้องของตนเอง คุณบุษบามองตามลูกสาวของเธออย่างเหนื่อยใจ ทำไมเธอจะไม่รู้ เธอรู้ทุกเรื่อง ใครๆในบ้านต่างก็รู้ดีว่าลูกสาวเธอและตะวันฉายนั้นเกลียดกันมากแค่ไหน แต่ด้วยความที่เธอเชื่อมั่นว่า ความดีจะเอาชนะทุกสิ่งได้ รวมไปถึงจิตใจที่มีแต่ความพยาบาทของตะวันฉายด้วย


“เสร็จรึยังคะ น้าบุษ”เสียงหวานหยดย้อยดังขึ้นมา ทำให้ดาวเหนือที่กำลังช่วยคนบัวลอยอยู่ต้องชะงัก ใบหน้าเรียวสวยงอหงิก จนมารดาที่กำลังทำไข่หวานอยู่นั้นต้องถอนหายใจออกมา ถึงแม้ว่าหญิงสาวจะไม่พอใจกับสิ่งที่อีกฝ่ายทำแต่ก็ปล่อยให้มารดาต้องเหนื่อยเพียงคนเดียวไม่ได้ ร่างโปร่งจึงต้องลงมาช่วยงานแต่เช้า จนถึงตอนนี้...

“ว่าไงคะ เสร็จรึยังเอ่ย เพื่อนตะวันจะมาแล้วนะ”ตะวันฉายดัดเสียงให้ดูออดอ้อนเข้าไว้ แต่แล้วก็ต้องตาขวางเมื่อคู่อริของเธอเป็นคนตอบคำถามแทน

“มีตาไหมล่ะคุณตะวัน ถ้ามีก็ดูเอาเองว่าเสร็จรึยัง แล้วก็ไม่ต้องมาเร่ง มีกันแค่สองคน จะให้เร็วไปกว่านี้คงไม่ได้ แต่ถ้าอยากให้เร็วก็กรุณาลงมาช่วยกันด้วย เพราะคนที่กินเป็นเพื่อนคุณไม่ใช่เพื่นอฉันหรือแม่”ดาวเหนือตอบแทนยาวเหยียด จนคุณบุษบาแอบหวั่นใจเพราะกลัวจะเกิดศึกก่อนบัวลอยจะเสร็จ ตะวันฉายจ้องหน้าดาวเหนือแบบอยากจะกินเลือดกินเนื้อ ฝ่ายดาวเหนือเองก็จ้องตอบกลับมาอย่างไม่ยอมแพ้ แต่แล้วร่างเพรียวก็แย้มยิ้ม พร้อมกับเดินเข้ามาหาน้องสาวต่างแม่

“โธ่เอ๊ย! ดาวล่ะก็พี่ไม่ได้จะมาเร่งอะไรเลย แค่ถามเฉยๆเอง นี่ไง! พี่กำลังจะมาช่วยเนี่ย”ว่าแล้วหญิงสาวก็แย่งทัพพีมาคนบัวลอยเสียเอง คุณบุษบามองท่าทางการคนบัวลอยแบบเก้ๆกังๆของอีกฝ่ายอย่างเอ็นดู ก่อนจะเข้าไปช่วยสอน ทิ้งให้ดาวเหนือยืนงงกับท่าทางของพี่สาวตัวแสบที่วันนี้ไม่กรี๊ดกร๊าดกับการที่เธอย้อน

ตะวันฉายเดินย่ำเท้าออกจากบ้านหลังเล็กของดาวเหนืออย่างหงุดหงิด หญิงสาวยกแขนตัวเองขึ้นมาดมๆ ก่อนจะเบ้หน้าเมื่อได้กลิ่นอาหารติดมาตามเสื้อผ้า และเนื้อตัวของเธอ

“อี๋! กลิ่นบ้าอะไรเนี่ย นี่ถ้าไม่ใช่เพราะฉันจะเล่นงานแกนะนังดาวตก ฉันไม่วันลดตัวลงมาเข้าครัวเด็ดขาด”

“ฉันว่าแล้วว่าคุณต้องมีแผนอะไรอยู่แน่”ตะวันฉายละงักเล็กน้อย ก่อนจะหันไปเผชิญหน้ากับเจ้าของบ้านที่ยืนกอดอกมองตรงมายังเธอ ดาวเหนือเดินเข้ามาหยุดอยู่ตรงหน้าตะวันฉายก่อนขู่

“ไม่ว่าคุณจะมีแผนอะไรก็ตาม หยุดมันซะ! อย่าดึงแม่ฉันเข้ามาเกี่ยวด้วย”

“แกห้ามฉันไม่ได้หรอกนังดาวตก ฉันจะทำให้ทั้งแกทั้งแม่แก ต้องเจ็บจนอยู่บนโลกนี้ไม่ได้เลย...”ตะวันฉายพูดให้ได้ยินกันแค่สองคน “...แล้วก็นะพวกแกเดินเข้ามาอยู่ในแผนของฉันเอง มันช่วยไม่ได้ เตรียมนับวันรอดูความหายนะของตัวเองได้เลย นังดาวอุบาทว์”พูดจบร่างเพรียวก็เดินกลับไปพร้อมเสียงหัวเราะที่ดังบาดหัวใจของดาวเหนือ


“นี่!ทุกคนมาแล้วล่ะบัวลอยสุดอร่อยที่ฉันโฆษณาไว้น่ะ”ตะวันฉายเดินกรีดกรายนำสาวใช้ที่ยกถาดใส่บัวลอยหลายถ้วยออกมายังบริเวณสวนหน้าบ้านที่มีเหล่าเพื่อนชายหญิงกำลังยืนอยู่ บ้างก็นั่ง บ้างก็เต้น แม้จะต่างอิริยาบถแต่สิ่งที่ทุกคนมีเหมือนกันก็คือ น้ำพั้นช์สีสวยในมือแทบทุกคน ทั้งหมดหันมามองหญิงสาวเจ้าของงานที่ยืนยิ้มหวานอยู่ ตะวันฉายหันไปสั่งให้สาวใช้แจกขนมให้กับเพื่อนทุกคน ส่วนตัวเธอเองก็หยิบขึ้นมาหนึ่งถ้วยก่อนจะตักเข้าปากเช่นเดียวกับเพื่อนคนอื่นๆ

“สุดยอดเลยตะวัน! บัวลอยนี่อร่อยมากเลย อร่อยกว่าที่ฉันเคยไปกินมาอีกนะเนี่ย”หญิงสาวคนหนึ่งพูดขึ้นมาหลังจากตักบัวลอยเข้าปากไปแล้ว ส่วนคนอื่นๆก็พากันชมไม่ขาดปาก จนกระทั่งหญิงสาวคนเดิมถามขึ้นมา

“ใครเป็นคนทำล่ะ”

ตะวันฉายยิ้มหวาน แต่ยังไม่ทันได้ตอบ ร่างโปร่งของดาวเหนือก็เดินยกถาดใส่น้ำเข้ามาเสียก่อน หญิงสาวหน้าตาบึ้งตึง ก่อนจะวางลงที่ตรงหน้าของแต่ละคนอย่างพยายามที่จะไม่กระแทกกระทั้นให้มากนักก็เรียกสายตาขุ่นเคืองจากสาวๆได้ ไม่ใช่เพราะกิริยาที่แสดงออกแต่เป็นเพราะความสวยแบบแปลกตาของเธอที่ทำให้เหล่าหนุ่มทั้งหลายมองตามนั่นเองที่เรียกความไม่พอใจของสาวๆให้บังเกิด ดาวเหนือไม่สนใจสายตาที่มองมาเหมือนจะถามว่าเธอเป็นของเหล่าชายหนุ่มและสายตาริษยาของเหล่าสาวๆ ร่างโปร่งหันไปถามบางอย่างกับเจ้าของด้วยน้ำเสียงไร้อารมณ์ว่า

“แม่ให้มาถามว่าจะรับขนมเพิ่มไหม”

“มีใครเอาอีกบ้างจ๊ะ”ตะวันฉายไม่ตอบคำถามเธอแต่หันไปถามเพื่อนๆของตนเอง ซึ่งก็มีหลายมือที่ชูขึ้นมาเป็นสัญญาณว่าขอเติม ตะวันฉายหันมาส่งยิ้มหวานที่ดาวเหนือดูยังไงก็เคลือบยาพิษดีๆนี่เองให้เธอ ก่อนตอบเสียงนุ่มชนิดที่ที่พายุคงจะถล่มบ้านรัชดารักษ์หากว่าอีกฝ่ายพูดกับเธอแบบนี้ทุกวัน

“ก็เท่าที่เห็นส่วนใหญ่จะของเติมนะจ๊ะดาว...”เธอพยักหน้ารับก่อนจะเตรียมตัวเดินไปช่วยมารดาตักขนมใส่ถ้วยมาให้เหล่าเพื่อนของตะวันฉาย แต่แล้วก็ต้องชะงักหันขวับไปมองตะวันฉายอย่างรวดเร็ว เมืออีกฝ่ายพูดบางอย่างออกมา “...แล้วก็นะ บอกให้น้าบุษออกมาด้วยนะจ๊ะ จะได้แนะนำให้เพื่อนๆรู้จัก”

“ให้แม่ออกมาทำไม”

“ก็บอกไปแล้วนี่ว่าจะแนะนำให้เพื่อนๆของฉันรู้จัก”

“ในฐานะอะไรไม่ทราบ”ดาวเหนือถามเสียงห้วน ตะวันฉายเดินเข้ามาใกล้ก่อนจะกระซิบตอบ ท่ามกลางความอยากรู้อยากเห็นของบรรดาเพื่อนๆ

“เดี๋ยวก็รู้”เมื่ออีกฝ่ายพูดมาแค่นี้หญิงสาวก็ไม่สามารถทำอะไรได้ ดาวเหนือเดินกระแทกเท้าอย่างหงุดหงิดกลับเข้าไปในครัว

“เป็นอะไรไปลูกดาว”คุณบุษบาถามลูกสาวที่หน้างอหนักกว่าตอนที่มาช่วยงานในช่วงแรกๆ ดาวเหนือมองหน้ามารดาอย่างเคืองๆ ก่อนจะตอบ

“ก็คุณตะวันสุดรักสุดสวาทของแม่ไง บอกว่าให้มาเอาบัวลอยออกไปเพิ่มเพราะเพื่อนของแม่คุณสวาปามลงท้องกันอย่างกับเครื่องสูบลม แล้วก็บอกให้แม่ออกไปด้วย เหอะ! จะแนะนำให้เพื่อนรู้จัก ดาวไม่เชื่อหรอกว่าเข้าจะแนะนำแม่ดีๆ แม่ไม่ต้องออกไปนะ เดี๋ยวดาวจะไปบอกเขาเองว่าแม่ไม่สบายกลับบ้านนอนไปแล้ว”ว่าแล้วร่างโปร่งก็ทำท่าจะออกไปทำตามที่พูด แต่ก็ต้องหยุดอยู่กับที่เมื่อมารดาขึ้นเสียงเข้ม

“หยุดนะดาว!”

“ทำไมล่ะแม่ แม่เชื่อเหรอว่าคนอย่างคุณตะวันฉายจะแนะนำกับเพื่อนๆว่าแม่เป็นใครได้ ดาวบอกคำเดียวเลยว่าไม่มีทาง!”

“นั่นมันก็สิทธิ์ของคุณตะวันเขา เราไม่มีสิทธิ์เถียงเข้าใจไหม เอาขนมออกไปได้แล้ว บอกคุณตะวันด้วยว่าเดียวแม่เก็บของแล้วจะตามออกไป”คุณบุษบาตัดบทเสียงเรียบ ไม่สนใจใบหน้าของลูกสาวที่แสนจะขัดใจ เมื่อเห็นว่ายังไงมารดาก็จะออกไป ร่างโปร่งจึงจำต้องทำตามคำสั่งแต่โดยดี


“อุ๊ย!มานั่นแล้วแน่ะ”เสียงแหลมของใครบางคนร้องขึ้นขัดเสียงพูดคุยของคนอื่นๆ พร้อมทั้งนิ้วเรียวสวยที่ตกแต่งสีแดงแสบตาบนเล็บยาวเหมือนแม่มดจะชี้ตรงมาทางเธออย่างที่ไม่น่าเชื่อว่าคนระดับนี้จะไร้มารยาททางสังคมพื้นฐานแบบนี้ ตะวันฉายหันไปมองตามที่เพื่อนชี้แล้วก็ต้องนิ่งไปเมื่อเห็นว่าคนที่มาคือแม่ตัวดีคนเดียว ไม่มีเป้าหมายที่เธอจะเล่นงานในวันนี้มาด้วย ถึงจะขุ่นใจที่ผิดแผนแต่ร่างเพรียวก็ยังคงยิ้มขณะที่ถามถึงคุณบุษบา

“อ้าว!น้าบุษล่ะดาว ฉันบอกให้ตามออกมาด้วย”

“....”ดาวเหนือไม่ตอบ มือเรียวหยิบถ้วยออกวางตรงหน้าของหนุ่มสาวที่ขอบัวลอยเพิ่ม ไม่ใส่ใจคำถามของอีกฝ่าย ตะวันฉายตาลุกวาวมือกำแน่น อารมณ์โกรธเริ่มจะพวยพุ่ง ยิ่งเมื่อได้ยินเสียงเพื่อนสาวคนหนึ่งที่เป็นทั้งเพื่อนและคู่แข่งพูดด้วยน้ำเสียงหยันๆ

“ตายแล้วตะวัน เด็กรับใช้บ้านเธอนี่ทำไมไร้มารยาทอย่างนี้นะ ตั้งแต่เมื่อกี้แล้วพูดก็ไม่มีหางเสียง แถมตอนนี้เจ้านายถามก็ไม่พูด ถ้าเป็นบ้านฉันนะต้องลงโทษ แล้วก็ไล่ออกอย่างเดียว”

“ตกลงว่าไง น้าบุษไปไหน ทำไมไม่ออกมา!”ความอดทนของตะวันฉายสิ้นสุดลง หญิงสาวตะคอกใส่น้องสาวตัวแสบ เพื่อนหลายคนตรงเข้ามาดูเหตุการณ์ บางคนใจกล้าจับแขนตะวันฉายเอาไว้ไม่ให้พุ่งใส่ร่างโปร่งของดาวเหนือที่ยืนนิ่ง แต่ดวงตาจ้องที่พี่สาวต่างมารดานิ่ง สายตาที่สื่อออกมานั้นยิ่งที่ให้ตะวันฉายแทบคลั่ง เพราะมันปนไปด้วยความสะใจ เยาะเย้ยอยู่ครบ แม้จะมีความขุ่นเคืองอยู่บ้างแต่ตะวันฉายกลับมองเห็นแค่นั้น

“....”

“นังดาวเหนือ!”

“มีอะไรกันค่ะ คุณตะวัน ยายดาว”

ก่อนที่จะได้มีมวยวัดประเภทหญิงนั้น เสียงกรรมการก็ดังออกมาเสียงก่อน คุณบุษบาที่กำลังเดินออกมายังสนามหน้าบ้าน มองคนโน้นที คนนี้ทีอย่างุนงง ก่อนที่ความงุนงงจะแปรเปลี่ยนเป็นความตกใจเมื่อเห็นว่าตะวันฉายจ้องหน้าลูกสาวของตนเองอย่างโกรธจัด ส่วนดาวเหนือก็ยืนเงียบไม่พูดไม่จา

ตะวันฉายพยายามระงับอารมณ์ของตนเองเอาไว้เมื่อเห็นแล้วว่าผู้ที่เดินออกมาคือ เป้าหมายที่ตนรอคอย ร่างเพรียวสะบัดแขนให้หลุดจากการจับของเพื่อน ก่อนจะเดินกระแทกไหล่ดาวเหนือไปหาคุณบุษบาที่ยืนงงๆอยู่ แล้วเกาะแขนพร้อมกับพูดแนะนำที่ทำให้คุณบุษบารู้สึกเหมือนแผ่นดินที่ยืนอยู่ทรุดฮวบลงไปต่อหน้าต่อตา

“นี่ทุกคนขอแนะนำให้รู้จักน่ะ คนนี้แหละที่ทำบัวลอยที่พวกเธอกินกันเมื่อกี้ ชื่อน้าบุษบา เป็น...”ตะวันฉายเว้นวรรคนิดนึง ก่อนจะหันไปจ้องตากับดาวเหนือ ริมฝีปากแดงสวยมีรอยยิ้มเล็กๆประดับมุมปากก่อนต่อ “...คนใช้ที่นี่น่ะ”


“แม่เห็นไหมว่าคุณตะวันดับนั่นไม่ได้เห็นแม่เป็นเมียอีกคนของพ่อเขาเลยด้วยซ้ำ! แล้วแม่ยังจะเข้าข้างเขาอีกเหรอ”ดาวเหนือโวยวายใส่มารดาภายในบ้านหลังน้อยของตนในตอนเย็น หลังจากกลับออกมาจากงานเลี้ยงของตะวันฉาย ที่คุณบุษบาต้องลากเธอออกมาด้วยความลำบากเพราะว่าเธอจะกระโจนเข้าใส่ตะวันฉายเพื่อเล่นให้หายแค้นใจ หากแต่มารดาผู้แสนดีซึ่งไม่เคยโกรธลูกสาวคนโตของสามีเลยจะไม่ยอมให้เธอทำแบบนั้น ทำให้ร่างโปร่งต้องกลับบ้านไปตามแรงดึงของมารดา โดยมีสายตาสะใจของตะวันฉายมองตามมา...

“พ่อเขาก็พ่อลูกด้วยนะดาว”คุณบุษบายังคงแย้งเสียงเรียบ สายตาจ้องไปที่โทรทัศน์เบื้องหน้า ดาวเหนือก้าวไปยืนบังจอโทรทัศน์เพื่อให้มารดาสนใจเธอ แล้วก็ได้ผลเมื่อคุณบุษบายอมมอง หญิงสาวจึงรีบพูดต่อทันที

“แม่จะไปยอมเขาทำไม ทำไมแม่ไม่พูดออกไปว่าไม่ใช่ แม่เป็นแม่คนที่สองของเขา เป็นเมียของผู้ชายคนนั้น! ทำไมแม่ไม่รักษาสิทธิ์ของตัวเองบ้าง ทำไม!!”

“ดาวเหนือ แม่รักพ่อของลูกมากนะ แม่ไม่อยากจะทำให้พ่อของลูก คุณพี่มินตราแล้วก็คุณย่าของหนูต้องลำบากใจหรือหนักใจในเรื่องเล็กๆน้อยๆเลย นั่นคือเหตุผลที่แม่ทน”ยิ่งได้ฟังดังนั้น ดาวเหนือก็หมดความอดทน หญิงสาวตะโกนความรู้ที่อัดอยู่ภายในออกมาให้มารดาได้รับรู้ พร้อมกับน้ำตาที่ไหลริน

“แม่ทนเพื่อผู้ชายคนนั้นคนเดียวเท่านั้นเหรอ แล้วดาวล่ะ แม่ไม่สนเลยใช่ไหมว่าดาวจะรู้สึกยังไงเวลาที่มีใครสักคนมาว่าแม่ของดาว ถึงแม่จะรักดาวน้อยกว่าคุณตะวันฉาย แต่ดาวก็ไม่เคยบ่น ดาวก็ยังรักแม่ หวังว่าสักวันแม่จะเห็นดาวสำคัญกว่าผู้ชายคนนั้น สำคัญกว่าใคร แต่มันก็ไม่เลยใช่ไหม...”ร่างโปร่งหยุดสะอื้นเล็กน้อย แล้วถอยหลังไปเล็กน้อย เมื่อมือของมารดายื่นมาหา คุณบุษบามองลูกสาวคนเดียวของเธออย่างใจหายเมื่อเห็นสายตาเจ็บช้ำที่มองมายังเธอ หัวอกคนเป็นแม่แทบสลายเมื่อได้รับรู้ความรู้สึกที่เก็บไว้ภายในตลอดมาของลูกสาวคนเดียวที่เธอใส่ใจไม่มากพออย่างหลายๆคนเคยเตือน

“...ถ้าอย่างนั้นดาวก็จะไปจากบ้านหลังนี้ ความอดทนของดาวมันจบลงแล้ว!”ดาวเหนือถอยหลังไปสองก้าวก่อนจะคว้ากุญแจรถของเธอแล้ววิ่งไปยังหน้าประตูบ้านก่อนจะชะงักเมื่อเห็นร่างสูงของชายวัยกลางคน ประมุขของบ้านรัชดารักษ์ยืนขวางทางหน้านิ่งอยู่ ดาวเหนือมองอย่างโกรธเคืองก่อนจะวิ่งผ่านไปไม่ใส่ใจ คุณบุษบาที่วิ่งตามมาทันหยุดมองสามีทีมองตามหลังลูกสาวที ก่อนจะตัดสินใจวิ่งตามลูกไป หากแต่คุณชนะชัยคว้าแขนของหล่อนเอาไว้ก่อน แล้วพูดเสียงเรียบ

“ปล่อยไปก่อนเถอะบุษ ตอนนี้ยายดาวกำลังร้อน รอให้เย็นลงกว่านี้ก่อนแล้วค่อยคุยกัน”

“แต่ว่า...”แม้ว่าจะไม่เห็นด้วยแต่ก็ไม่ทันเสียแล้วเพราะดาวเหนือนั้นได้ขับรถออกไปจากบ้านด้วยความรวดเร็ว คุณชนะชัยเองก็มองตามรถของลูกสาวคนเล็กไป ดวงตาที่ผ่านโลกมานานนิ่งลึกยากจะเดาได้ ก่อนจะเบือนกลับมาสบกับภรรยาคนที่สองที้มีน้ำใสๆไหลนองใบหน้า มือหนาปาดน้ำตาให้อย่างอ่อนโยน ปากก็พูดปลอบประโลมอีกฝ่ายแม้หัวใจของตนจะถูกกรีดแทงไม่แพ้กัน ห้วงคำนึงคิดถึงคนที่เพิ่งจากไป หวังว่าอีกฝ่ายจะได้รับรู้ถึงความรักที่พวกเขามีให้ไม่แพ้กับลูกคนใด

‘พ่อขอโทษนะดาว กลับมาเถอะลูก’



ไอจันทร์
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 14 เม.ย. 2554, 22:04:08 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 14 เม.ย. 2554, 22:05:19 น.

จำนวนการเข้าชม : 1742





<< ตอนที่ 6   ตอนที่ 8 >>
เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account