พิศวาสรัก จอมใจอสูร (ตีพิมพ์แล้วในชื่อ เพลิงรักมนต์สวาท)
พิศวาสรักจอมใจอสูร
เพียงดาว บุตรสาวคนโตของตระกูลดัง ผู้มีความสวยบวกความมั่นใจและนิสัยเย่อหยิ่ง ได้รับรู้ว่าน้องสาวของเธอ เพียงฟ้าที่แสนจะอ่อนโยนและอ่อนแอถูกพ่อบังคับให้แต่งงานกับผู้ชายวัยคราวลุงซึ่งเป็นเศรษฐีบ้านนอกไม่ใช่เพราะเงินตราแต่เป็นสัญญาใจของคนเป็นพ่อ เธอรู้สึกสงสารน้องสาวเพราะรู้ดีว่า เพียงฟ้ามีคนรักอยู่แล้วอีกทั้งรังเกียจที่เลือดไฮโซของพวกเธอจะต้องไปปะปนกับเลือดเศรษฐีบ้านนอก แต่ด้วยความที่รักน้องและก่อนตายมารดาได้ฝากฝังน้องสาวเอาไว้กับเธอให้ช่วยดูแล
ทำให้เพียงดาวตัดสินใจไปเป็นสะใภ้บ้านไร่แทนน้องสาว และส่งเพียงฟ้าไปอยู่เมืองนอกสลับตัวกันระหว่างเดินทางซึ่งเมื่อคุณศรุตผู้พ่อรู้ความจริงเข้าก็ไม่สามารถจะทำอะไรได้แล้วต้องปล่อยให้เป็นไปตามนั้นแต่ลงโทษบุตรสาวคนโตด้วยการตัดออกจากกองมรดกและบอกว่าหากเธออยู่ที่บ้านไร่ไม่ได้ก็ไม่ต้องคิดเผยอหน้าชูคอกลับมาที่คฤหาสน์อัศวเทพอีก
เพียงดาวจำต้องยอมรับในโชคชะตา ทันทีที่เธอไปถึงบ้านไร่ก็พบว่าผู้ชายแก่คราวพี่ชายพ่อคนนั้นได้ตายไปแล้วเพราะเป็นโรคหัวใจ แถมก่อนตายได้เขียนมรดกยกเธอให้เป็นภรรยาของน้องชายคนเดียวของเขาแทนนั่นคืออัศนัยเจ้าของไร่องุ่นวัยสามสิบเศษและเป็นเจ้าของทุ่งทานตะวันที่ใหญ่ที่สุดในลพบุรีด้วย นอกจากนี้เขายังมีโรงงานแปรรูปผลผลิตจากไร่ ซึ่งโดยรวมแล้วเขาไม่ได้บ้านนอกอย่างที่เธอคิด เขาทั้งหล่อ และรวยกว่าตระกูลของเธอมาก และเขาก็มองเธอเป็นแค่เพียงยัยตุ๊กตายางไฮโซเสื่อมคุณภาพที่ได้รับมรดกมาเท่านั้น
ความเย่อหยิ่งของเธอทำให้อัศนัยแอบหมั่นไสร้เขาแกล้งเธอต่างๆนาๆ แถมยังไม่ยอมบอกด้วยว่าเขารู้ความจริงแต่แรกแล้วว่าเธอคือเพียงดาว ไม่ใช่เพียงฟ้า อัศนัยให้เธอเลือกว่าจะทำงานบนเตียงหรือทำงานในไร่แต่เพียงดาวเลือกทำงานในไร่เขาจึงใช้เธอเยี่ยงทาส แต่ก็ทำให้สาวสวยไฮโซผู้เย่อหยิ่งรู้ว่าน้ำใจของคนจนๆนั้นมีมากกว่าพวกไฮโซที่เธอเคยรู้จักเพราะคนงานในไร่หลายคนทำดีต่อเธอมากโดยไม่ได้หวังสิ่งตอบแทน
เพียงดาวอยากจะแก้แค้นอัศนัยที่คอยกลั่นแกล้งเธอ หญิงสาวจึงหาที่ระบายอารมณ์ด้วยการกลั่นแกล้งแฟนสาวสุดแสนเรียบร้อยของอัศนัยแทนเธอชื่อเพลงพิณ มักจะมาหาอัศนัยที่ไร่อยู่บ่อยๆ และอัศนัยก็แสดงออกว่ารักเธอเอามากๆ จนครั้งหนึ่งเพียงดาวเกือบทำให้เพลงพิณพลาดท่าเสียทีนักเลงกลุ่มหนึ่ง ซึ่งอัศนัยโกรธมากเขาจึงลงโทษเธออย่างรุนแรงพรากความสาวของเธอไปอย่างไม่ไยดี ทำให้เธอได้รู้บ้างว่านรกมันเป็นอย่างไรแต่แล้วความโกรธเกรี้ยวทั้งหมดก็ค่อยๆมลายหายไปเมื่ออัศนัยได้ค้นพบว่าหญิงสาวไม่ได้เลวร้ายแบบที่เขาคิดและที่สำคัญเขาตกหลุมรักเธอไปตั้งแต่ตอนไหนก็ไม่รู้
แต่กว่าคนทั้งคู่จะปรับความเข้าใจกันได้ก็เล่นเอาคนรอบข้างเหนื่อยไปตามๆ กันเพราะเพียงดาวสวยน้อยเสียเมื่อไหร่เธอทำให้หัวใจชายหนุ่มหลายๆคน ไม่ว่าจะเป็นอรรณพเจ้าของห้างทองชื่อดัง หรือพีระนักวิชาการเกษตรแย่งกันแจกขนมจีบเธอจ้าละหวั่น แต่ก็ไม่มีใครเอาชนะใจเธอได้เพราะอัศนัยใช้สิทธิ์ความเป็นเจ้าของเธอ บีบให้ชายหนุ่มทั้งหลายสละสิทธิ์ไปที่ละคนจนเหลือเขาคนเดียวที่จะนั่งอยู่ภายในหัวใจของเธอ
++++++++++++++++++++++++++
เพียงดาว บุตรสาวคนโตของตระกูลดัง ผู้มีความสวยบวกความมั่นใจและนิสัยเย่อหยิ่ง ได้รับรู้ว่าน้องสาวของเธอ เพียงฟ้าที่แสนจะอ่อนโยนและอ่อนแอถูกพ่อบังคับให้แต่งงานกับผู้ชายวัยคราวลุงซึ่งเป็นเศรษฐีบ้านนอกไม่ใช่เพราะเงินตราแต่เป็นสัญญาใจของคนเป็นพ่อ เธอรู้สึกสงสารน้องสาวเพราะรู้ดีว่า เพียงฟ้ามีคนรักอยู่แล้วอีกทั้งรังเกียจที่เลือดไฮโซของพวกเธอจะต้องไปปะปนกับเลือดเศรษฐีบ้านนอก แต่ด้วยความที่รักน้องและก่อนตายมารดาได้ฝากฝังน้องสาวเอาไว้กับเธอให้ช่วยดูแล
ทำให้เพียงดาวตัดสินใจไปเป็นสะใภ้บ้านไร่แทนน้องสาว และส่งเพียงฟ้าไปอยู่เมืองนอกสลับตัวกันระหว่างเดินทางซึ่งเมื่อคุณศรุตผู้พ่อรู้ความจริงเข้าก็ไม่สามารถจะทำอะไรได้แล้วต้องปล่อยให้เป็นไปตามนั้นแต่ลงโทษบุตรสาวคนโตด้วยการตัดออกจากกองมรดกและบอกว่าหากเธออยู่ที่บ้านไร่ไม่ได้ก็ไม่ต้องคิดเผยอหน้าชูคอกลับมาที่คฤหาสน์อัศวเทพอีก
เพียงดาวจำต้องยอมรับในโชคชะตา ทันทีที่เธอไปถึงบ้านไร่ก็พบว่าผู้ชายแก่คราวพี่ชายพ่อคนนั้นได้ตายไปแล้วเพราะเป็นโรคหัวใจ แถมก่อนตายได้เขียนมรดกยกเธอให้เป็นภรรยาของน้องชายคนเดียวของเขาแทนนั่นคืออัศนัยเจ้าของไร่องุ่นวัยสามสิบเศษและเป็นเจ้าของทุ่งทานตะวันที่ใหญ่ที่สุดในลพบุรีด้วย นอกจากนี้เขายังมีโรงงานแปรรูปผลผลิตจากไร่ ซึ่งโดยรวมแล้วเขาไม่ได้บ้านนอกอย่างที่เธอคิด เขาทั้งหล่อ และรวยกว่าตระกูลของเธอมาก และเขาก็มองเธอเป็นแค่เพียงยัยตุ๊กตายางไฮโซเสื่อมคุณภาพที่ได้รับมรดกมาเท่านั้น
ความเย่อหยิ่งของเธอทำให้อัศนัยแอบหมั่นไสร้เขาแกล้งเธอต่างๆนาๆ แถมยังไม่ยอมบอกด้วยว่าเขารู้ความจริงแต่แรกแล้วว่าเธอคือเพียงดาว ไม่ใช่เพียงฟ้า อัศนัยให้เธอเลือกว่าจะทำงานบนเตียงหรือทำงานในไร่แต่เพียงดาวเลือกทำงานในไร่เขาจึงใช้เธอเยี่ยงทาส แต่ก็ทำให้สาวสวยไฮโซผู้เย่อหยิ่งรู้ว่าน้ำใจของคนจนๆนั้นมีมากกว่าพวกไฮโซที่เธอเคยรู้จักเพราะคนงานในไร่หลายคนทำดีต่อเธอมากโดยไม่ได้หวังสิ่งตอบแทน
เพียงดาวอยากจะแก้แค้นอัศนัยที่คอยกลั่นแกล้งเธอ หญิงสาวจึงหาที่ระบายอารมณ์ด้วยการกลั่นแกล้งแฟนสาวสุดแสนเรียบร้อยของอัศนัยแทนเธอชื่อเพลงพิณ มักจะมาหาอัศนัยที่ไร่อยู่บ่อยๆ และอัศนัยก็แสดงออกว่ารักเธอเอามากๆ จนครั้งหนึ่งเพียงดาวเกือบทำให้เพลงพิณพลาดท่าเสียทีนักเลงกลุ่มหนึ่ง ซึ่งอัศนัยโกรธมากเขาจึงลงโทษเธออย่างรุนแรงพรากความสาวของเธอไปอย่างไม่ไยดี ทำให้เธอได้รู้บ้างว่านรกมันเป็นอย่างไรแต่แล้วความโกรธเกรี้ยวทั้งหมดก็ค่อยๆมลายหายไปเมื่ออัศนัยได้ค้นพบว่าหญิงสาวไม่ได้เลวร้ายแบบที่เขาคิดและที่สำคัญเขาตกหลุมรักเธอไปตั้งแต่ตอนไหนก็ไม่รู้
แต่กว่าคนทั้งคู่จะปรับความเข้าใจกันได้ก็เล่นเอาคนรอบข้างเหนื่อยไปตามๆ กันเพราะเพียงดาวสวยน้อยเสียเมื่อไหร่เธอทำให้หัวใจชายหนุ่มหลายๆคน ไม่ว่าจะเป็นอรรณพเจ้าของห้างทองชื่อดัง หรือพีระนักวิชาการเกษตรแย่งกันแจกขนมจีบเธอจ้าละหวั่น แต่ก็ไม่มีใครเอาชนะใจเธอได้เพราะอัศนัยใช้สิทธิ์ความเป็นเจ้าของเธอ บีบให้ชายหนุ่มทั้งหลายสละสิทธิ์ไปที่ละคนจนเหลือเขาคนเดียวที่จะนั่งอยู่ภายในหัวใจของเธอ
++++++++++++++++++++++++++
Tags: ไร่ทานตะวัน
ตอน: ตอนที่ 10
ตอนที่ 10
อัศนัยเรียกคนงานทั้งไร่ให้มารวมกันที่หน้าคฤหาสน์นรบดีซึ่งทุกคนต่างสงสัยว่าเกิดอะไรขึ้น
“ผมต้องขอโทษที่เรียกทุกคนมารวมกันที่นี่ทั้งที่ไม่ใช่เวลางาน แต่เพราะคุณดาวหายตัวไป ผมอยากทราบว่ามีใครเห็นเธอบ้างในวันนี้”
เหล่าคนงานชายหญิงต่างมองหน้ากัน บ้างก็ซุบซิบกัน คนงานหลายคนส่ายหน้าเพราะไม่เห็นจริงๆ
“เราไม่เห็นเธอเลยค่ะนาย” หัวหน้าคนงานหญิงคนหนึ่งตอบ
“เกิดอะไรขึ้นเนี่ย” อัศนัยถอนหายใจ อีกใจก็รู้สึกห่วง ส่วนอีกใจกลับรู้สึกโมโหที่เธอไปไหนไม่บอกเขาสักคำ
“จะให้พวกเราออกตามหากันไหมครับนาย” หัวหน้าคนงานชายชื่อนายหมูถามอัศนัย
“ก็คงจะต้องรบกวนพวกเราแล้วล่ะ” อัศนัยพยักหน้า และกำลังวางแผนออกตามหาหญิงสาย
“พวกเรายินดีครับนาย”
หัวหน้าคนงานกำลังแบ่งคนงานเป็นกลุ่ม แต่ทว่ามีหญิงสาววัยรุ่นร่างบาง ผิวคล้ำคนหนึ่งเอ่ยขึ้นก่อน
“เอ่อ..นายคะนาย อ้อ..เอ่อ..”
“มีอะไรเหรอ” อัศนัยเอ่ยถาม
“อ้าวอ้ำอึ้งอยู่นั่นแหละนังอ้อ มีอะไรก็บอกนายเขาไปสิ”คนงานหญิงวัยกลางคนที่ยืนข้างๆ บอกหญิงสาว
“ว่ายังไงอ้อ มีอะไรจะบอกฉันเหรอ”อัศนัยถามด้วยน้ำเสียงนุ่ม
“คือเมื่อเย็น อ้อเห็นคุณดาวออกไปกับคุณชิดณรงค์ค่ะ”
“อะไรนะ! ออกไปกับนายชิดอย่างนั้นเหรอ”
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++
ขณะที่ชายหนุ่มกับหญิงสาวกำลังเพลิดเพลินกับการปาลูกโป่งในงาน ซึ่งในมือของชิดณรงค์มีตุ๊กตาอยู่ถึงสามตัวอันเกิดจากฝีมือของเพียงดาวล้วนๆ ซึ่งเจ้าตัวดูเหมือนยังไม่พอใจเพราะบอกว่าจะปาอีกเธอต้องการของรางวัลไปฝากหนูตะวันด้วย
“คุณดาวนี่ปาแม่นจังเลยนะครับ”
“ยิงปืนก็แม่นด้วยค่ะ ไม่เชื่อคุณชิดจะทดลองเป็นเป้าให้ดาวยิงก็ได้นะคะ” เพียงดาวพูดติดตลก
ชายหนุ่มทำสีหน้าเหยเก “ไม่ดีกว่าครับ ผมเชื่อแล้วครับไม่ต้องทดสอบก็ได้”
“เสียดายนะคะที่หนูตะวันไม่ได้มาด้วย”
“งานยังมีอีกหลายวันนะครับ วันหลังเราพาแกมาด้วยก็ได้”
“ถ้าอย่างนั้นดีเลย พรุ่งนี้เรามากันอีกนะคะดาวจะพาหนูตะวันแกมาเที่ยวด้วย”
“แล้วนายอั๊ดเขาจะยอมเหรอครับ”
“ไม่ยอมก็ต้องยอมคะ”
โทรศัพท์ของชิดณรงค์ดังขึ้นชายหนุ่มถอนหายใจเฮือกใหญ่เมื่อรู้ว่าปลายสายที่โทรมาคือใคร
“สงสัยงานจะเข้า” เขาทำเสียงจิ๊จ๊ะอย่างเป็นกังวล
“มีอะไรหรือเปล่าคะคุณชิด”
“เอ่อ...ผมขอตัวรับโทรศัพท์เดี๋ยวนะครับคุณดาว”
“เชิญค่ะ จากนั้นหญิงสาวก็ก็หันไปสนใจกับการล่ารางวัลต่อ”
“ว่ายังไงนะ ออกไปเที่ยวงานกาชาดกันอย่างนั้นหรือ” น้ำเสียงนิ่งๆ แต่ปลายสายรับรู้ถึงความไม่พอใจที่คุกรุ่นขึ้นของอีกฝ่าย
“ฉันว่าจะโทรบอกนายแล้วแต่ว่า....”
“เธออยู่ที่ไหน” อัศนัยถามเสียงเข้ม
“ปาลูกโป่งอยู่”
“ก่อเรื่อง แล้วยังกล้าหนีไปเที่ยวอีกอย่างนี้คงปล่อยเอาไว้ไม่ได้แล้ว”
“นายจะทำอะไรคุณดาววะ เรื่องนี้คนผิดคือฉันเพราะฉันเป็นคนไปชวนเธอออกมาเที่ยวเอง”
“นายก็ผิดที่มาพาคนของฉันไปโดยไม่บอกกล่าวกันสักคำ แต่ผู้หญิงคนนั้นตั้งใจจะลองดีกับฉัน”
“ใจเย็นๆ ได้ไหม เดี๋ยวฉันจะรีบพาเธอกลับไปส่งที่ไร่”ชิดณรงค์กลัวจะทำให้หญิงสาวเดือดร้อนเขาเป็นห่วงเพียงดาวมาก
“ในเมื่อเธออยากลองดี ฉันก็จะให้เธอเจอดี”อัศนัยหัวเราะหึหึในลำคอยิ่งทำให้ชิดณรงค์รู้สึกกังวลใจ
“นายจะทำอะไรอั๊ด”
“ทำอะไรสนุกๆ”
“หมายความว่ายังไงพูดมาให้ชัดหน่อยได้ไหม”
“นายไม่ต้องรู้หรอก แต่ตอนนี้นายพาเธอกลับมาได้แล้ว”
“ก็ได้”ชิดณรคงค์ถอนหายใจ”
ชายหนุ่มตัดสายทิ้งและหันไปมองเพียงดาวที่ดูเหมือนว่าเธอจะได้ตุ๊กตาหมูสีชมพู กับกบสีเขียวตัวใหญ่เพิ่มอีกอย่างละตัว
“คุณดาวครับ” ชายหนุ่มเป็นกังวลกลัวอัศนัยจะดุหญิงสาว ยังไงถ้าไปส่งเธอที่ไร่แล้วเขาจะอธิบายให้เพื่อนรักเข้าใจอีกครั้งหนึ่ง
“ว่ายังไงคะคุณชิด ดูนี่สิคะดาวได้เพิ่มอีกสองตัวแล้วค่ะ”
“คุณดาวเก่งมากครับ แต่ตอนนี้เราต้องกลับกันแล้ว”
“ทำไมล่ะคะ กำลังสนุกอยู่เชียว”หญิงสาวยิ้มกว้าง นัยน์ตาเป็นประกาย
“นายอั๊ดโทรมาตามคุณ เขาบอกให้ผมรีบพาคุณไปส่งที่ไร่”
“ช่างเถอะดาวไม่สน ดาวกำลังสนุก” หญิงสาวพูดจบก็เหยียดริมฝีปากและหันไปปาลูกโป่งต่ออย่างไม่ยี่หระต่อคำพูดของชิดณรงค์”
“คุณดาวครับ ผมขอร้องล่ะครับกลับก่อนเถอะครับ ไม่ใช่ว่าผมไม่อยากพาคุณดาวเที่ยว แต่ผมรู้ว่าตอนนายอั๊ดมันโมโหจะเป็นยังไง”
ชิดณรงค์ไม่ได้เกรงกลัวอัศนัยแต่ที่เขาทำแบบนี้เป็นเพราะไม่อยากให้คนทั้งสองทะเลาะกัน
“แล้วถ้าเขาโมโหจะเป็นยังไงล่ะคะ เส้นโลหิตในสมองของเขาจะแตกไหมคะ ดีดาวจะได้ยังไม่กลับ”
“คุณดาวไม่รู้อะไรเสียแล้ว นายอั๊ดเวลาโมโหเอาเรื่องนะครับ”
“ถ้าคุณชิดลำบากใจมากนักดาวกลับก็ได้ค่ะ” หญิงสาวหยุดปาลูกโป่ง และเดินไปที่รถของชิดณรงค์ที่จอดเอาไว้
“โธ่! คุณดาวอย่างอนผมนะครับ ผมหวังดีต่างหาก”
“เปล่าค่ะ ดาวไม่ได้งอนคุณ”
“แล้วทำไมเดินเร็วแบบนั้นล่ะครับ” ชิดณรงค์แทบจะต้องวิ่งตามเธอ
“ก็คุณชิดเดินช้าเองต่างหาก”
“เหรอครับ”เขาเกาศีรษะอย่างงงๆ และรีบเดินตามเธอ
ภายในรถเก๋งสีดำกลางเก่ากลางใหม่ เบาะนั่งหลังคนขับเต็มไปด้วยตุ๊กตาหลากหลายชนิด
“เต็มรถพอดีเลยครับ ขืนคุณดาวปาต่ออีกมีหวังน้องตุ๊กตาคงต้องไปนั่งบนหลังคารถแน่เลย”ชิดณรงค์พูดอย่างอารมณ์ดี
“อย่างนั้นเหรอคะ เดี๋ยวดาวจะแบ่งให้คุณชิดไปนอนกอดสักตัวดีไหมคะ”
“ก็ดีครับ”ในใจชิดณรงค์คิดว่าหากเปลี่ยนจากเจ้าตุ๊กตาเป็นเธอได้เขาจะดีใจกว่าเป็นไหนๆ แต่แล้วเขาก็ต่อว่าตัวเองที่คิดอะไรแบบนี้
“ไอ้บ้า บ้าไปใหญ่แล้ว”
“คุณชิดว่าดาวเหรอคะ”
“เปล่าๆ ครับคุณดาว ไม่ใช่นะครับผมด่าตัวเองนะครับ”
เพียงดาวมองชิดณรงค์และยิ้มแปลกๆ
ระหว่างนั่งรถเพียงดาวกำลังนึกถึงใบหน้าของอัศนัย เทพบุตรสุดหล่อที่ชอบปั้นหน้านิ่งสงสัยขืนนี้เขาคงจะสวดเธอยาวหญิงสาวกำลังหาวิธีรับมือ
“คุณดาวไม่ต้องกลัวนะครับ กลับไปที่ไร่แล้วผมจะอธิบายให้นายอั๊ดเข้าใจเองว่าผมเป็นฝ่ายชวนคุณดาวออกมาเอง”
“ทำไมดาวจะต้องกลัวคนแบบนั้นด้วย ดาวไม่มีวันกลัวเขาหรอก”
“ไม่กลัวเลยหรือครับ”
“ใช่คะ คนแบบนั้นทำให้เพียงดาวคนนี้กลัวไม่ได้หรอก” แต่ในใจก็แอบหวั่นเล็กน้อยวันนี้เธอแกล้งแฟนเขาจนเป็นลมจนทำให้สวรรค์ของเขาล่ม นายนั่นคงจะเล่นงานเธอเรื่องนี้มากกว่าการที่เธอแอบหนีไปเที่ยวโดยไม่บอก
โอ้ย!ศีรษะของหญิงสาวแทบจะกระแทกกับคอนโซลหน้ารถ เมื่อจู่ๆชิดณรงค์เบรกรถอย่างกระทันหันโดยไม่ได้ตั้งตัว
“เกิดอะไรขึ้นคะคุณชิด”
“ก้มศีรษะลงเร็วครับคุณดาว” เกษตรอำเภอหนุ่มเองก็ตกใจไม่น้อยกับเหตุการณ์เบื้องหน้า แต่เขาห่วงสาวสวยข้างกายมากกว่า
ทันใดนั้นชายในชุดไอ้โม่งที่ขับรถเข้ามาจอดขวางหน้ารถของเขาก็ลงมาจากรถ และชายร่างยักษ์เข้ามาประชิดประตูด้านที่เพียงดาวนั่ง
“พวกมันเป็นใครกันคะคุณชิด”
“ผมก็ไม่ทราบเหมือนกันครับ แต่มันมาไม่ดีแน่”
“คุณไปมีเรื่องกับใครเขาเอาไว้หรือเปล่าคะ”
“ไม่นะครับ ไม่เคยเลยจริงๆ”
“เอาไงดีละคะ”
“เราต้องหนีครับคุณดาว เอาอย่างนี้นะผมจะเปิดประตูด้านของผมจากนั้นเราจะวิ่งลงไปให้เร็วที่สุด” เพราะชิดณรงค์เห็นว่าข้างทางเป็นทุ่งทานตะวันที่มีความสูงเลยหัวอาจจะพอเป็นที่หลบซ่อนคนร้ายได้
“พร้อมหรือยังครับ”
“ค่ะ”
“หนึ่ง สอง สาม ไปครับ”
เพียงดาวกับชิดณรงค์วิ่งเข้าไปในไร่ทานตะวัน แต่แปลกที่ชายร่างอ้วนสองคนกับไม่วิ่งตามไปได้แต่หันไปสบตากันและหัวเราะเบาๆ ยืนรอคำสั่งของคนที่เข้าไปรออยู่ในไร่
เพียงดาววิ่งนำหน้า ขณะที่ชิดณรงค์วิ่งตามหลังคอยระวังให้หญิงสาว
“วิ่งต่อไปครับคุณดาวอย่าหันมาเราต้องไปให้ไกลจากตรงนี้พอสมควรก่อน”
“ค่ะ” หญิงสาววิ่งไวที่สุดเท่าที่กำลังขาของเธอจะทำได้ แม้ว่าจะหอบด้วยความเหนื่อยแต่เธอกลัวคนร้ายจะตามมาทันมากกว่า
“ไกลพอหรือยังคะคุณชิด” ไร่ทานตะวันยามดึกสงัดไม่มีเสียงใดเลยนอกจากแมลงกลางคืนที่ส่งเสียงอยู่เบาๆ
เงียบ ไม่มีเสียงตอบกลับ เพียงดาวหยุดวิ่ง เธอหันกลับไปมองมีเพียงดอกทานตะวันในไร่กว้างสุดลูกหูลูกตาและความมืดเท่านั้น
“คุณชิด! หายไปไหนแล้วนะ”
มีบางอย่างกำลังเคลื่อนไหวอยู่ทางด้านซ้ายของเธอ เงาตะครุ่มๆนั้นทำให้เพียงดาวอุ่นใจขึ้น
“คุณชิดเหรอคะ ออกมาสิคะ เร็วเรารีบหาทางออกไปจากไร่นี้ดีกว่าค่ะ”
เงียบ เงานั้นไม่ตอบแต่ย่างท้าวออกมาจากกลุ่มทานตะวันที่สูงท่วมหัว
เพียงดาวเพ่งมองที่เงานั้น หญิงสาวรู้สึกว่าหัวใจของเธอมันรู้สึกโหวงเหวงและขนลุกอย่างบอกไม่ถูกเพราะเงานั้นไม่ใช่ชิดณรงค์อย่างแน่นอน หมวกไอ้โม่งไหมพรหมกับชุดเสื้อยืดแขนยาวสีดำสวมกางเกงยีนส์สีมอๆ
“แกเป็นใคร”
มันไม่ตอบแต่ก้าวเข้ามาประชิดตัวเธอหัวเราพร้อมส่งเสียงหัวเราะ ตั้งใจจะให้หญิงสาวตกใจ
“คุณชิดหายไปไหน อย่าบอกนะว่าแกฆ่าเขาแล้ว” หญิงสาวนึกไปถึงหนังฝรั่งหลายๆ เรื่องพวกฆาตกรจะต้องลอบปลิดชีพผู้ช่วยนางเอกเสียก่อน จากนั้นจะเหลือนางเอกเอาไว้เป็นเหยื่อคนสุดท้าย
“ใช่ ฆ่าหมกใต้ต้นทานตะวันไปแล้ว” มันหัวเราะเสียงดังอีกครั้งก่อนจะย่างสามขุมเข้ามาหาหญิงสาว
“โธ่คุณชิด!”หญิงสาวรู้สึกตกใจและเป็นห่วงชิดณรงค์มาก
“ ออกไปให้พ้นนะ อย่าเข้ามานะ”เพียงดาวถอยหลังพยายามจะหนีแต่ทว่ากลับมีคนชุดดำอีกหนึ่งคนอ้อมเข้ามาทางด้านหลัง
“จะหนีไปไหนคนสวย”
“ว้าย! พวกแกต้องการอะไรจากฉัน อยากได้เงินใช่ไหมเอาไปสิ” หญิงสาวล้วงไปในกระเป๋าสะพายและหยิบกระเป๋าเสตางค์ส่งให้พวกมัน” มือเรียวสั่นเทาขาวซีดเต็มไปด้วยความหวาดกลัว
++++++++++++++++++++++++++++++
“คุณดาวป่านนี้จะเป็นยังไงบ้างนะ ไอ้อั๊ดไอ้เพื่อนโรคจิต”
ชิดณรงค์ขับรถกลับบ้านด้วยความหัวเสีย ระหว่างที่เขาวิ่งหนีเข้าไปในไร่ทาน
ตะวันกับหญิงสาว จู่ๆเขาก็ถูกคนร้ายที่ซ่อนตัวอยู่ในทุ่งทานตะวันล็อคตัวเอาไว้และเอากระบอกปืนจี้ที่หลังพร้อมทั้งสั่งว่าห้ามส่งเสียงดังไม่อย่างนั้นมันจะยิงให้ไส้แตก ตอนนั้นเขายอมรับว่ากลัวมากแต่แล้วไอ้โม่งในชุดดำกับน้ำเสียงคุ้นหูของมันกลับหัวเราะชอบใจที่เห็นใบหน้าของเขาขาวซีดจากนั้นมันก็ถอดหมวกไอ้โม่งออก และฉากต่อไปก็คือเขาด่าไอ้โจรโรคจิตอย่างสาดเสียเทเสียที่เล่นอะไรบ้าๆ แต่ก็ได้รับคำตอบว่าแผนการนี้ถูกคิดขึ้นเพื่อต้องการดัดนิสัยของผู้หญิงอวดดีเท่านั้น ชิดณรงค์ได้ขอร้องให้อัศนัยหยุดการกระทำเพราะกลัวว่าเพียงดาวจะวิ่งเตลิดไปไกล เธอคงกลัวมากแต่ทว่าอัศนัยไม่ยอมและอ้างว่าเขามีสิทธิในตัวเธอยังไงเสียเขารับปากได้ว่าเธอจะไม่มีอันตรายถึงกับชีวิตหรอก นั่นทำให้ชิดณรงค์รู้สึกเคืองเพื่อนรักถึงกับมีปากเสียงกัน แต่แล้วเขาก็ต้องยอมพ่ายให้กับอัศนัยจนได้ก็เขาไม่มีสิทธิในตัวเธอเลย
“ไอ้อั๊ดนะไอ้อั๊ด ถ้านายทำกับคุณดาวเกินไปฉันไม่ปล่อยนายแน่ๆ เพื่อนก็เพื่อนเถอะ”
++++++++++++++++++++++++++++++++
“เป็นยังไงบ้างจ้ะน้องพิณคนดีของพี่รู้สึกตัวแล้วเหรอ”
“พี่อิง พี่อิงช่วยพิณด้วย ยัยอรๆจะฆ่าพิณ” หญิงสาวผวาลุกขึ้นกอดอิงเอาไว้แน่น
“ใจเย็นๆนะน้องพิณ ไม่มีใครทำอะไรพิณหรอก” อิงลูบหลัง ปลอบประโลมหญิงสาว
หลังจากกลับมาจากไร่นรบดี เพลงพิณก็จับไข้อิงนั่งเฝ้าและคอยเช็ดตัวให้หญิงสาวเพราะสบโอกาสที่ออยหรืออนัชชาพี่สาวคนโตไม่อยู่บ้าน
“พิณกลัวค่ะ” หญิงสาวมองไปรอบๆตัว “ว่าแต่ทำไมพิณต้องกลัวน้องอรด้วย น้องอรจะมาทำร้ายพิณทำไม”อิงรู้สึกประหลาดใจ
“เอ่อ…คือ”
“เกิดอะไรขึ้นเหรอพิณ แล้วทำไมพิณต้องฝันร้ายถึงน้องอรด้วย”อิงทำสีหน้าไม่เข้าใจ
“ไม่มีอะไรหรอกค่ะพี่อิง ก็ยัยอรตายไปแล้วพิณก็ต้องกลัวเป็นธรรมดาถึงจะเป็นแค่ฝันก็เถอะ”
อิงลูบศีรษะของเพลงพิณอย่างอ่อนโยน “ถ้าอย่างนั้นไม่ต้องกลัวคืนนี้พี่จะนอนเป็นเพื่อนเธอเอง”
“ไม่นะคะพี่อิง เดี๋ยวพี่ออยมาเห็นเข้า”
“พี่ออยไม่อยู่ ไปธุระที่ชะอำ”
“แต่ว่า”เพลงพิณพยายามคัดค้าน
“ไม่มีแต่ เราไม่ได้มีโอกาสใกล้ชิดกันมาหลายวันแล้วนะ”สายตาของเขาแฝงเอาไว้ด้วยความต้องการบางอย่างซึ่งหญิงสาวรู้ดี
อิงไม่ได้กลัวที่พี่สาวคนโตอย่างอนัชชาจะรู้ว่าเขามีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกับเพลงพิณ เพราะเธอกับเขาไม่ได้มีความผูกพันกันในทางสายเลือดสักหน่อย เพลงพิณเป็นแค่บุตรบุญธรรมของพ่อและแม่เลี้ยงเขาเท่านั้นในแต่เพลงพิณต่างหากที่ขอร้องไม่ให้เขาเปิดเผยความสัมพันธ์นี้เพราะกลัวอนัชชา ลูกติดแม่เลี้ยงของเขาจะรู้
+++++++++++++++++++++++++++++++++
กรี๊ดๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
เพียงดาวกรีดร้องเสียงดังเมื่อคนร้ายสองคนตรงเข้าจับแขนของเธอเอาไว้แน่น หญิงสาวได้แต่ภาวนาให้เกิดปาฏิหารย์ให้เธอรอดพ้นจากน้ำมือของพวกมัน เพราะดูเหมือนว่าจะหาทางรอดได้ยากเหลือเกินแม้เธอจะเก่งกล้าแค่ไหนแต่กับชายฉกรรจ์ร่างยักษ์ทั้งสองคนเธอคงสู้แรงพวกมันไม่ไหว
“ปล่อยฉันไปเถอะนะได้โปรดเถอะ ฉันไม่เคยไปทำอะไรกับพวกนายสักหน่อย”
พวกมันไม่ตอบได้แต่หัวเราะพร้อมกัน
จากนั้นหญิงสาวก็ได้ยินเสียงฝีเท้าหนักๆของคนกำลังเดินตรงเข้ามาเพียงดาวได้แต่ภาวนาขอให้เป็นตำรวจ แต่แล้วหัวใจหญิงสาแทบจะหยุดเต้น พวกมันอีกสองคนสวมหมวกไอ้โม่งและแบกยางรถยนต์เดินเข้ามาสมทบกับไอ้สองคนที่จับแขนเธอเอาไว้ ส่วนอีกคนถือเชือกกับกระสอบตามมาด้วย
“จะทำอะไรฉันน่ะ อย่าบอกนะว่าจะจับฉันนั่งยางและเผา” หญิงสาวนึกไปถึงข่าวฆ่าโหดตามหน้าหนังสือพิมพ์
พวกมันได้แต่หัวเราะ คนที่แบกยางรถยนต์มา วางยางรถยนต์ตรงหน้าเธอ จากนั้นหยิบไฟแชคขึ้นมาจุด
หญิงสาวแทบจะน้ำตาร่วงแต่พยายามกลั้นเอาไว้ “พวกนายคิดจะเผาฉันทั้งเป็นจริงๆเหรอ นี่มันอะไรกัน”
พวกมันหัวเราะอีกตามเคย จากนั้นไอ้คนจุดไฟแชคก็หยิบบุหรี่ขึ้นต่อไฟ
“ไอ้พวกบ้าเอาแต่หัวเราะ ฉันตายไปเป็นผีก็จะกลับมาหักคอพวกแกทุกคนเลย”หญิงสาวขู่
“ยังปากดีได้อีกนะ” คนที่แฝงตัวหลบอยู่ไม่ห่างจากจุดเกิดเหตุพูดเบาๆและยิ้มอย่างขันๆ พร้อมทั้งหยิบโทรศัพท์กดโทรหาหนึ่งในคนร้าย ทำให้คนร้ายที่กำลังสูบบุหรี่อยู่นั้นรับโทรศัพท์และถอยห่างจากหญิงสาวออกไปคุยอะไรบางอย่าง
+++++++++++++++++++++++++++++++++
อัศนัยเรียกคนงานทั้งไร่ให้มารวมกันที่หน้าคฤหาสน์นรบดีซึ่งทุกคนต่างสงสัยว่าเกิดอะไรขึ้น
“ผมต้องขอโทษที่เรียกทุกคนมารวมกันที่นี่ทั้งที่ไม่ใช่เวลางาน แต่เพราะคุณดาวหายตัวไป ผมอยากทราบว่ามีใครเห็นเธอบ้างในวันนี้”
เหล่าคนงานชายหญิงต่างมองหน้ากัน บ้างก็ซุบซิบกัน คนงานหลายคนส่ายหน้าเพราะไม่เห็นจริงๆ
“เราไม่เห็นเธอเลยค่ะนาย” หัวหน้าคนงานหญิงคนหนึ่งตอบ
“เกิดอะไรขึ้นเนี่ย” อัศนัยถอนหายใจ อีกใจก็รู้สึกห่วง ส่วนอีกใจกลับรู้สึกโมโหที่เธอไปไหนไม่บอกเขาสักคำ
“จะให้พวกเราออกตามหากันไหมครับนาย” หัวหน้าคนงานชายชื่อนายหมูถามอัศนัย
“ก็คงจะต้องรบกวนพวกเราแล้วล่ะ” อัศนัยพยักหน้า และกำลังวางแผนออกตามหาหญิงสาย
“พวกเรายินดีครับนาย”
หัวหน้าคนงานกำลังแบ่งคนงานเป็นกลุ่ม แต่ทว่ามีหญิงสาววัยรุ่นร่างบาง ผิวคล้ำคนหนึ่งเอ่ยขึ้นก่อน
“เอ่อ..นายคะนาย อ้อ..เอ่อ..”
“มีอะไรเหรอ” อัศนัยเอ่ยถาม
“อ้าวอ้ำอึ้งอยู่นั่นแหละนังอ้อ มีอะไรก็บอกนายเขาไปสิ”คนงานหญิงวัยกลางคนที่ยืนข้างๆ บอกหญิงสาว
“ว่ายังไงอ้อ มีอะไรจะบอกฉันเหรอ”อัศนัยถามด้วยน้ำเสียงนุ่ม
“คือเมื่อเย็น อ้อเห็นคุณดาวออกไปกับคุณชิดณรงค์ค่ะ”
“อะไรนะ! ออกไปกับนายชิดอย่างนั้นเหรอ”
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++
ขณะที่ชายหนุ่มกับหญิงสาวกำลังเพลิดเพลินกับการปาลูกโป่งในงาน ซึ่งในมือของชิดณรงค์มีตุ๊กตาอยู่ถึงสามตัวอันเกิดจากฝีมือของเพียงดาวล้วนๆ ซึ่งเจ้าตัวดูเหมือนยังไม่พอใจเพราะบอกว่าจะปาอีกเธอต้องการของรางวัลไปฝากหนูตะวันด้วย
“คุณดาวนี่ปาแม่นจังเลยนะครับ”
“ยิงปืนก็แม่นด้วยค่ะ ไม่เชื่อคุณชิดจะทดลองเป็นเป้าให้ดาวยิงก็ได้นะคะ” เพียงดาวพูดติดตลก
ชายหนุ่มทำสีหน้าเหยเก “ไม่ดีกว่าครับ ผมเชื่อแล้วครับไม่ต้องทดสอบก็ได้”
“เสียดายนะคะที่หนูตะวันไม่ได้มาด้วย”
“งานยังมีอีกหลายวันนะครับ วันหลังเราพาแกมาด้วยก็ได้”
“ถ้าอย่างนั้นดีเลย พรุ่งนี้เรามากันอีกนะคะดาวจะพาหนูตะวันแกมาเที่ยวด้วย”
“แล้วนายอั๊ดเขาจะยอมเหรอครับ”
“ไม่ยอมก็ต้องยอมคะ”
โทรศัพท์ของชิดณรงค์ดังขึ้นชายหนุ่มถอนหายใจเฮือกใหญ่เมื่อรู้ว่าปลายสายที่โทรมาคือใคร
“สงสัยงานจะเข้า” เขาทำเสียงจิ๊จ๊ะอย่างเป็นกังวล
“มีอะไรหรือเปล่าคะคุณชิด”
“เอ่อ...ผมขอตัวรับโทรศัพท์เดี๋ยวนะครับคุณดาว”
“เชิญค่ะ จากนั้นหญิงสาวก็ก็หันไปสนใจกับการล่ารางวัลต่อ”
“ว่ายังไงนะ ออกไปเที่ยวงานกาชาดกันอย่างนั้นหรือ” น้ำเสียงนิ่งๆ แต่ปลายสายรับรู้ถึงความไม่พอใจที่คุกรุ่นขึ้นของอีกฝ่าย
“ฉันว่าจะโทรบอกนายแล้วแต่ว่า....”
“เธออยู่ที่ไหน” อัศนัยถามเสียงเข้ม
“ปาลูกโป่งอยู่”
“ก่อเรื่อง แล้วยังกล้าหนีไปเที่ยวอีกอย่างนี้คงปล่อยเอาไว้ไม่ได้แล้ว”
“นายจะทำอะไรคุณดาววะ เรื่องนี้คนผิดคือฉันเพราะฉันเป็นคนไปชวนเธอออกมาเที่ยวเอง”
“นายก็ผิดที่มาพาคนของฉันไปโดยไม่บอกกล่าวกันสักคำ แต่ผู้หญิงคนนั้นตั้งใจจะลองดีกับฉัน”
“ใจเย็นๆ ได้ไหม เดี๋ยวฉันจะรีบพาเธอกลับไปส่งที่ไร่”ชิดณรงค์กลัวจะทำให้หญิงสาวเดือดร้อนเขาเป็นห่วงเพียงดาวมาก
“ในเมื่อเธออยากลองดี ฉันก็จะให้เธอเจอดี”อัศนัยหัวเราะหึหึในลำคอยิ่งทำให้ชิดณรงค์รู้สึกกังวลใจ
“นายจะทำอะไรอั๊ด”
“ทำอะไรสนุกๆ”
“หมายความว่ายังไงพูดมาให้ชัดหน่อยได้ไหม”
“นายไม่ต้องรู้หรอก แต่ตอนนี้นายพาเธอกลับมาได้แล้ว”
“ก็ได้”ชิดณรคงค์ถอนหายใจ”
ชายหนุ่มตัดสายทิ้งและหันไปมองเพียงดาวที่ดูเหมือนว่าเธอจะได้ตุ๊กตาหมูสีชมพู กับกบสีเขียวตัวใหญ่เพิ่มอีกอย่างละตัว
“คุณดาวครับ” ชายหนุ่มเป็นกังวลกลัวอัศนัยจะดุหญิงสาว ยังไงถ้าไปส่งเธอที่ไร่แล้วเขาจะอธิบายให้เพื่อนรักเข้าใจอีกครั้งหนึ่ง
“ว่ายังไงคะคุณชิด ดูนี่สิคะดาวได้เพิ่มอีกสองตัวแล้วค่ะ”
“คุณดาวเก่งมากครับ แต่ตอนนี้เราต้องกลับกันแล้ว”
“ทำไมล่ะคะ กำลังสนุกอยู่เชียว”หญิงสาวยิ้มกว้าง นัยน์ตาเป็นประกาย
“นายอั๊ดโทรมาตามคุณ เขาบอกให้ผมรีบพาคุณไปส่งที่ไร่”
“ช่างเถอะดาวไม่สน ดาวกำลังสนุก” หญิงสาวพูดจบก็เหยียดริมฝีปากและหันไปปาลูกโป่งต่ออย่างไม่ยี่หระต่อคำพูดของชิดณรงค์”
“คุณดาวครับ ผมขอร้องล่ะครับกลับก่อนเถอะครับ ไม่ใช่ว่าผมไม่อยากพาคุณดาวเที่ยว แต่ผมรู้ว่าตอนนายอั๊ดมันโมโหจะเป็นยังไง”
ชิดณรงค์ไม่ได้เกรงกลัวอัศนัยแต่ที่เขาทำแบบนี้เป็นเพราะไม่อยากให้คนทั้งสองทะเลาะกัน
“แล้วถ้าเขาโมโหจะเป็นยังไงล่ะคะ เส้นโลหิตในสมองของเขาจะแตกไหมคะ ดีดาวจะได้ยังไม่กลับ”
“คุณดาวไม่รู้อะไรเสียแล้ว นายอั๊ดเวลาโมโหเอาเรื่องนะครับ”
“ถ้าคุณชิดลำบากใจมากนักดาวกลับก็ได้ค่ะ” หญิงสาวหยุดปาลูกโป่ง และเดินไปที่รถของชิดณรงค์ที่จอดเอาไว้
“โธ่! คุณดาวอย่างอนผมนะครับ ผมหวังดีต่างหาก”
“เปล่าค่ะ ดาวไม่ได้งอนคุณ”
“แล้วทำไมเดินเร็วแบบนั้นล่ะครับ” ชิดณรงค์แทบจะต้องวิ่งตามเธอ
“ก็คุณชิดเดินช้าเองต่างหาก”
“เหรอครับ”เขาเกาศีรษะอย่างงงๆ และรีบเดินตามเธอ
ภายในรถเก๋งสีดำกลางเก่ากลางใหม่ เบาะนั่งหลังคนขับเต็มไปด้วยตุ๊กตาหลากหลายชนิด
“เต็มรถพอดีเลยครับ ขืนคุณดาวปาต่ออีกมีหวังน้องตุ๊กตาคงต้องไปนั่งบนหลังคารถแน่เลย”ชิดณรงค์พูดอย่างอารมณ์ดี
“อย่างนั้นเหรอคะ เดี๋ยวดาวจะแบ่งให้คุณชิดไปนอนกอดสักตัวดีไหมคะ”
“ก็ดีครับ”ในใจชิดณรงค์คิดว่าหากเปลี่ยนจากเจ้าตุ๊กตาเป็นเธอได้เขาจะดีใจกว่าเป็นไหนๆ แต่แล้วเขาก็ต่อว่าตัวเองที่คิดอะไรแบบนี้
“ไอ้บ้า บ้าไปใหญ่แล้ว”
“คุณชิดว่าดาวเหรอคะ”
“เปล่าๆ ครับคุณดาว ไม่ใช่นะครับผมด่าตัวเองนะครับ”
เพียงดาวมองชิดณรงค์และยิ้มแปลกๆ
ระหว่างนั่งรถเพียงดาวกำลังนึกถึงใบหน้าของอัศนัย เทพบุตรสุดหล่อที่ชอบปั้นหน้านิ่งสงสัยขืนนี้เขาคงจะสวดเธอยาวหญิงสาวกำลังหาวิธีรับมือ
“คุณดาวไม่ต้องกลัวนะครับ กลับไปที่ไร่แล้วผมจะอธิบายให้นายอั๊ดเข้าใจเองว่าผมเป็นฝ่ายชวนคุณดาวออกมาเอง”
“ทำไมดาวจะต้องกลัวคนแบบนั้นด้วย ดาวไม่มีวันกลัวเขาหรอก”
“ไม่กลัวเลยหรือครับ”
“ใช่คะ คนแบบนั้นทำให้เพียงดาวคนนี้กลัวไม่ได้หรอก” แต่ในใจก็แอบหวั่นเล็กน้อยวันนี้เธอแกล้งแฟนเขาจนเป็นลมจนทำให้สวรรค์ของเขาล่ม นายนั่นคงจะเล่นงานเธอเรื่องนี้มากกว่าการที่เธอแอบหนีไปเที่ยวโดยไม่บอก
โอ้ย!ศีรษะของหญิงสาวแทบจะกระแทกกับคอนโซลหน้ารถ เมื่อจู่ๆชิดณรงค์เบรกรถอย่างกระทันหันโดยไม่ได้ตั้งตัว
“เกิดอะไรขึ้นคะคุณชิด”
“ก้มศีรษะลงเร็วครับคุณดาว” เกษตรอำเภอหนุ่มเองก็ตกใจไม่น้อยกับเหตุการณ์เบื้องหน้า แต่เขาห่วงสาวสวยข้างกายมากกว่า
ทันใดนั้นชายในชุดไอ้โม่งที่ขับรถเข้ามาจอดขวางหน้ารถของเขาก็ลงมาจากรถ และชายร่างยักษ์เข้ามาประชิดประตูด้านที่เพียงดาวนั่ง
“พวกมันเป็นใครกันคะคุณชิด”
“ผมก็ไม่ทราบเหมือนกันครับ แต่มันมาไม่ดีแน่”
“คุณไปมีเรื่องกับใครเขาเอาไว้หรือเปล่าคะ”
“ไม่นะครับ ไม่เคยเลยจริงๆ”
“เอาไงดีละคะ”
“เราต้องหนีครับคุณดาว เอาอย่างนี้นะผมจะเปิดประตูด้านของผมจากนั้นเราจะวิ่งลงไปให้เร็วที่สุด” เพราะชิดณรงค์เห็นว่าข้างทางเป็นทุ่งทานตะวันที่มีความสูงเลยหัวอาจจะพอเป็นที่หลบซ่อนคนร้ายได้
“พร้อมหรือยังครับ”
“ค่ะ”
“หนึ่ง สอง สาม ไปครับ”
เพียงดาวกับชิดณรงค์วิ่งเข้าไปในไร่ทานตะวัน แต่แปลกที่ชายร่างอ้วนสองคนกับไม่วิ่งตามไปได้แต่หันไปสบตากันและหัวเราะเบาๆ ยืนรอคำสั่งของคนที่เข้าไปรออยู่ในไร่
เพียงดาววิ่งนำหน้า ขณะที่ชิดณรงค์วิ่งตามหลังคอยระวังให้หญิงสาว
“วิ่งต่อไปครับคุณดาวอย่าหันมาเราต้องไปให้ไกลจากตรงนี้พอสมควรก่อน”
“ค่ะ” หญิงสาววิ่งไวที่สุดเท่าที่กำลังขาของเธอจะทำได้ แม้ว่าจะหอบด้วยความเหนื่อยแต่เธอกลัวคนร้ายจะตามมาทันมากกว่า
“ไกลพอหรือยังคะคุณชิด” ไร่ทานตะวันยามดึกสงัดไม่มีเสียงใดเลยนอกจากแมลงกลางคืนที่ส่งเสียงอยู่เบาๆ
เงียบ ไม่มีเสียงตอบกลับ เพียงดาวหยุดวิ่ง เธอหันกลับไปมองมีเพียงดอกทานตะวันในไร่กว้างสุดลูกหูลูกตาและความมืดเท่านั้น
“คุณชิด! หายไปไหนแล้วนะ”
มีบางอย่างกำลังเคลื่อนไหวอยู่ทางด้านซ้ายของเธอ เงาตะครุ่มๆนั้นทำให้เพียงดาวอุ่นใจขึ้น
“คุณชิดเหรอคะ ออกมาสิคะ เร็วเรารีบหาทางออกไปจากไร่นี้ดีกว่าค่ะ”
เงียบ เงานั้นไม่ตอบแต่ย่างท้าวออกมาจากกลุ่มทานตะวันที่สูงท่วมหัว
เพียงดาวเพ่งมองที่เงานั้น หญิงสาวรู้สึกว่าหัวใจของเธอมันรู้สึกโหวงเหวงและขนลุกอย่างบอกไม่ถูกเพราะเงานั้นไม่ใช่ชิดณรงค์อย่างแน่นอน หมวกไอ้โม่งไหมพรหมกับชุดเสื้อยืดแขนยาวสีดำสวมกางเกงยีนส์สีมอๆ
“แกเป็นใคร”
มันไม่ตอบแต่ก้าวเข้ามาประชิดตัวเธอหัวเราพร้อมส่งเสียงหัวเราะ ตั้งใจจะให้หญิงสาวตกใจ
“คุณชิดหายไปไหน อย่าบอกนะว่าแกฆ่าเขาแล้ว” หญิงสาวนึกไปถึงหนังฝรั่งหลายๆ เรื่องพวกฆาตกรจะต้องลอบปลิดชีพผู้ช่วยนางเอกเสียก่อน จากนั้นจะเหลือนางเอกเอาไว้เป็นเหยื่อคนสุดท้าย
“ใช่ ฆ่าหมกใต้ต้นทานตะวันไปแล้ว” มันหัวเราะเสียงดังอีกครั้งก่อนจะย่างสามขุมเข้ามาหาหญิงสาว
“โธ่คุณชิด!”หญิงสาวรู้สึกตกใจและเป็นห่วงชิดณรงค์มาก
“ ออกไปให้พ้นนะ อย่าเข้ามานะ”เพียงดาวถอยหลังพยายามจะหนีแต่ทว่ากลับมีคนชุดดำอีกหนึ่งคนอ้อมเข้ามาทางด้านหลัง
“จะหนีไปไหนคนสวย”
“ว้าย! พวกแกต้องการอะไรจากฉัน อยากได้เงินใช่ไหมเอาไปสิ” หญิงสาวล้วงไปในกระเป๋าสะพายและหยิบกระเป๋าเสตางค์ส่งให้พวกมัน” มือเรียวสั่นเทาขาวซีดเต็มไปด้วยความหวาดกลัว
++++++++++++++++++++++++++++++
“คุณดาวป่านนี้จะเป็นยังไงบ้างนะ ไอ้อั๊ดไอ้เพื่อนโรคจิต”
ชิดณรงค์ขับรถกลับบ้านด้วยความหัวเสีย ระหว่างที่เขาวิ่งหนีเข้าไปในไร่ทาน
ตะวันกับหญิงสาว จู่ๆเขาก็ถูกคนร้ายที่ซ่อนตัวอยู่ในทุ่งทานตะวันล็อคตัวเอาไว้และเอากระบอกปืนจี้ที่หลังพร้อมทั้งสั่งว่าห้ามส่งเสียงดังไม่อย่างนั้นมันจะยิงให้ไส้แตก ตอนนั้นเขายอมรับว่ากลัวมากแต่แล้วไอ้โม่งในชุดดำกับน้ำเสียงคุ้นหูของมันกลับหัวเราะชอบใจที่เห็นใบหน้าของเขาขาวซีดจากนั้นมันก็ถอดหมวกไอ้โม่งออก และฉากต่อไปก็คือเขาด่าไอ้โจรโรคจิตอย่างสาดเสียเทเสียที่เล่นอะไรบ้าๆ แต่ก็ได้รับคำตอบว่าแผนการนี้ถูกคิดขึ้นเพื่อต้องการดัดนิสัยของผู้หญิงอวดดีเท่านั้น ชิดณรงค์ได้ขอร้องให้อัศนัยหยุดการกระทำเพราะกลัวว่าเพียงดาวจะวิ่งเตลิดไปไกล เธอคงกลัวมากแต่ทว่าอัศนัยไม่ยอมและอ้างว่าเขามีสิทธิในตัวเธอยังไงเสียเขารับปากได้ว่าเธอจะไม่มีอันตรายถึงกับชีวิตหรอก นั่นทำให้ชิดณรงค์รู้สึกเคืองเพื่อนรักถึงกับมีปากเสียงกัน แต่แล้วเขาก็ต้องยอมพ่ายให้กับอัศนัยจนได้ก็เขาไม่มีสิทธิในตัวเธอเลย
“ไอ้อั๊ดนะไอ้อั๊ด ถ้านายทำกับคุณดาวเกินไปฉันไม่ปล่อยนายแน่ๆ เพื่อนก็เพื่อนเถอะ”
++++++++++++++++++++++++++++++++
“เป็นยังไงบ้างจ้ะน้องพิณคนดีของพี่รู้สึกตัวแล้วเหรอ”
“พี่อิง พี่อิงช่วยพิณด้วย ยัยอรๆจะฆ่าพิณ” หญิงสาวผวาลุกขึ้นกอดอิงเอาไว้แน่น
“ใจเย็นๆนะน้องพิณ ไม่มีใครทำอะไรพิณหรอก” อิงลูบหลัง ปลอบประโลมหญิงสาว
หลังจากกลับมาจากไร่นรบดี เพลงพิณก็จับไข้อิงนั่งเฝ้าและคอยเช็ดตัวให้หญิงสาวเพราะสบโอกาสที่ออยหรืออนัชชาพี่สาวคนโตไม่อยู่บ้าน
“พิณกลัวค่ะ” หญิงสาวมองไปรอบๆตัว “ว่าแต่ทำไมพิณต้องกลัวน้องอรด้วย น้องอรจะมาทำร้ายพิณทำไม”อิงรู้สึกประหลาดใจ
“เอ่อ…คือ”
“เกิดอะไรขึ้นเหรอพิณ แล้วทำไมพิณต้องฝันร้ายถึงน้องอรด้วย”อิงทำสีหน้าไม่เข้าใจ
“ไม่มีอะไรหรอกค่ะพี่อิง ก็ยัยอรตายไปแล้วพิณก็ต้องกลัวเป็นธรรมดาถึงจะเป็นแค่ฝันก็เถอะ”
อิงลูบศีรษะของเพลงพิณอย่างอ่อนโยน “ถ้าอย่างนั้นไม่ต้องกลัวคืนนี้พี่จะนอนเป็นเพื่อนเธอเอง”
“ไม่นะคะพี่อิง เดี๋ยวพี่ออยมาเห็นเข้า”
“พี่ออยไม่อยู่ ไปธุระที่ชะอำ”
“แต่ว่า”เพลงพิณพยายามคัดค้าน
“ไม่มีแต่ เราไม่ได้มีโอกาสใกล้ชิดกันมาหลายวันแล้วนะ”สายตาของเขาแฝงเอาไว้ด้วยความต้องการบางอย่างซึ่งหญิงสาวรู้ดี
อิงไม่ได้กลัวที่พี่สาวคนโตอย่างอนัชชาจะรู้ว่าเขามีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกับเพลงพิณ เพราะเธอกับเขาไม่ได้มีความผูกพันกันในทางสายเลือดสักหน่อย เพลงพิณเป็นแค่บุตรบุญธรรมของพ่อและแม่เลี้ยงเขาเท่านั้นในแต่เพลงพิณต่างหากที่ขอร้องไม่ให้เขาเปิดเผยความสัมพันธ์นี้เพราะกลัวอนัชชา ลูกติดแม่เลี้ยงของเขาจะรู้
+++++++++++++++++++++++++++++++++
กรี๊ดๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
เพียงดาวกรีดร้องเสียงดังเมื่อคนร้ายสองคนตรงเข้าจับแขนของเธอเอาไว้แน่น หญิงสาวได้แต่ภาวนาให้เกิดปาฏิหารย์ให้เธอรอดพ้นจากน้ำมือของพวกมัน เพราะดูเหมือนว่าจะหาทางรอดได้ยากเหลือเกินแม้เธอจะเก่งกล้าแค่ไหนแต่กับชายฉกรรจ์ร่างยักษ์ทั้งสองคนเธอคงสู้แรงพวกมันไม่ไหว
“ปล่อยฉันไปเถอะนะได้โปรดเถอะ ฉันไม่เคยไปทำอะไรกับพวกนายสักหน่อย”
พวกมันไม่ตอบได้แต่หัวเราะพร้อมกัน
จากนั้นหญิงสาวก็ได้ยินเสียงฝีเท้าหนักๆของคนกำลังเดินตรงเข้ามาเพียงดาวได้แต่ภาวนาขอให้เป็นตำรวจ แต่แล้วหัวใจหญิงสาแทบจะหยุดเต้น พวกมันอีกสองคนสวมหมวกไอ้โม่งและแบกยางรถยนต์เดินเข้ามาสมทบกับไอ้สองคนที่จับแขนเธอเอาไว้ ส่วนอีกคนถือเชือกกับกระสอบตามมาด้วย
“จะทำอะไรฉันน่ะ อย่าบอกนะว่าจะจับฉันนั่งยางและเผา” หญิงสาวนึกไปถึงข่าวฆ่าโหดตามหน้าหนังสือพิมพ์
พวกมันได้แต่หัวเราะ คนที่แบกยางรถยนต์มา วางยางรถยนต์ตรงหน้าเธอ จากนั้นหยิบไฟแชคขึ้นมาจุด
หญิงสาวแทบจะน้ำตาร่วงแต่พยายามกลั้นเอาไว้ “พวกนายคิดจะเผาฉันทั้งเป็นจริงๆเหรอ นี่มันอะไรกัน”
พวกมันหัวเราะอีกตามเคย จากนั้นไอ้คนจุดไฟแชคก็หยิบบุหรี่ขึ้นต่อไฟ
“ไอ้พวกบ้าเอาแต่หัวเราะ ฉันตายไปเป็นผีก็จะกลับมาหักคอพวกแกทุกคนเลย”หญิงสาวขู่
“ยังปากดีได้อีกนะ” คนที่แฝงตัวหลบอยู่ไม่ห่างจากจุดเกิดเหตุพูดเบาๆและยิ้มอย่างขันๆ พร้อมทั้งหยิบโทรศัพท์กดโทรหาหนึ่งในคนร้าย ทำให้คนร้ายที่กำลังสูบบุหรี่อยู่นั้นรับโทรศัพท์และถอยห่างจากหญิงสาวออกไปคุยอะไรบางอย่าง
+++++++++++++++++++++++++++++++++

เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 19 พ.ย. 2554, 11:53:22 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 19 พ.ย. 2554, 12:09:33 น.
จำนวนการเข้าชม : 2922
<< ตอนที่ 9 | ตอนที่ 11 >> |

คิมหันตุ์ 19 พ.ย. 2554, 12:27:24 น.
คุณอั๊ด ก็ ทำไปได้เนอะ อิอิ
คุณอั๊ด ก็ ทำไปได้เนอะ อิอิ


XaWarZd 19 พ.ย. 2554, 13:18:14 น.
โหย แบบนี้ต้องมีเอาคืนแล้วล่ะ
โหย แบบนี้ต้องมีเอาคืนแล้วล่ะ

แพม 19 พ.ย. 2554, 18:26:49 น.
ไอ้คุณพระเอก มันน่า....
ไอ้คุณพระเอก มันน่า....

lovemuay 19 พ.ย. 2554, 19:14:53 น.
นายอั๊ดเอาคืนนิเอง อิอิ
ครั้งที่แล้วนู๋ดาวก็ทำเกินไปหน่อยจริงๆ ไม่มีขอโทษด้วย โดนสักครั้งก็ดีเหมือนกัน ^^
นายอั๊ดเอาคืนนิเอง อิอิ
ครั้งที่แล้วนู๋ดาวก็ทำเกินไปหน่อยจริงๆ ไม่มีขอโทษด้วย โดนสักครั้งก็ดีเหมือนกัน ^^


kaero 22 พ.ย. 2554, 10:46:39 น.
โดนเข้าแล้วนู๋ดาว
โดนเข้าแล้วนู๋ดาว

nunoi 23 พ.ย. 2554, 16:17:08 น.
แหม!คุณอั๊ด เอาคืนน้องดาว ซะหนักเลยน่ะ
แหม!คุณอั๊ด เอาคืนน้องดาว ซะหนักเลยน่ะ