ในชุดภารกิจรัก เรื่องราชนาวีที่รัก

Tags: ทหารเรือ นักเขียน

ตอน: 15.มาตามสัญญา2

15.
หลังจากที่สองหนุ่มนายทหารเรือกลับไปแล้ว สองสาวนักเขียนก็อาบน้ำสวมชุดนอนกระโดดขึ้นเตียง แรกทีเดียวทั้งคู่ก็นอนหันหลังให้กัน แต่ด้วยมีเรื่องครุ่นคิดอยู่ในใจ ต่างก็นอนพลิกไปพลิกมา

กระทั่งแพรวพรรณเป็นฝ่ายทนไม่ไหวจึงเอ่ยถามว่า..“เป็นอะไรพี่..”

“เธอล่ะ”

“...คิดว่าถ้าต้องมาอยู่ที่นี่ตลอดไป จะอยู่ได้ไหม..”

“เขาบอกรักเธอแล้วเหรอ”

“เกือบ จะ บอก แต่แพรวยังไม่อยากฟัง พี่ละ นอนไม่หลับเพราะอะไร..” เปิดเผยความรู้สึกของตัวเองเพราะต้องการให้อีกฝ่ายเล่าความรู้สึกตัวเองบ้าง แต่ว่าหิรัญญาก็พลิกตัวหันหลังให้..แต่พอแพรวพรรณพูดประโยคนี้ หิรัญญาก็รีบพลิกตัวกลับ “หรือพี่กลัวว่าเราสองคนจะไม่ยอมให้เงินห้าหมื่นบาทกับพี่”

“โอ้ย..นี่ เลิกพูดเรื่องนี้เลยนะ”

“แล้วทำไมพี่นอนไม่หลับละ มีเรื่องอะไรตัดสินใจไม่ได้ ปรึกษาแพรวได้นะคะ..”

“สงสัยเป็นเพราะกาแฟ”

“แพรวว่าเป็นคนชงกาแฟให้มากกว่า เล่ามาเดี๋ยวนี้เลย ตอนอยู่ในบ้านคุยอะไรกัน”

“..ก็คุยเรื่องทั่ว ๆ ไป..”

“ผู้ร้ายปากแข็งนะ..”

“จะหลับแล้ว..อย่าเสียงดัง..พรุ่งนี้ไม่ต้องปลุกนะ พี่อยากตื่นสาย ๆ”

“พรุ่งนี้พี่ต้นกล้าจะมารับไปดูตลาดเช้า..แพรวตกลงกับเขาแล้ว..”

“ไปกันเหอะไม่ต้องห่วงพี่หรอก..ล็อกบ้านเลยก็ได้..”

“จะซื้อโจ๊กมากินกันที่บ้านนะ ต้นเรือจะมากินก่อนไปทำงานด้วย”

ไม่มีเสียงคุยมาจากหิรัญญา แพรวพรรณโงหัวขึ้นไปดูแล้วก็ทุ่มหัวลงกับหมอน..แต่ถึงกระนั้นก็ยังไม่เลิกทำตัวเป็นแม่สื่อ “ไม่ยอมลุกจากที่นอน แล้วเขาเข้ามาปลุกเห็นสภาพไม่สวยของพี่ จะหาว่าแพรวไม่เตือนนะ..”

///////////////////////////////////
เจ็ดโมงกว่า ๆ จิรวัติกับแพรวพรรณกลับมาจากตลาดเช้า ก็พบว่าหิรัญญานั่งจิบกาแฟพลางคุยกับต้นเรืออยู่ที่โต๊ะหน้าบ้าน และบนโต๊ะก็มีถ้วยสำหรับใส่โจ๊กจานสำหรับใส่ปาท่องโก๋ ขนม และผลไม้ที่ทั้งคู่ซื้อกลับมาพร้อมแล้ว..หิรัญญานั้นอยู่ในชุดผ้าถุงโสร่งดอกน้ำเงินสลับเขียวพื้นแดงมัดเอวทับเสื้อยืดแขนกุดพอดีตัวสีขาวทำให้เห็นส่วนเว้าสวนโค้ง ส่วนผมนั้นก็ปล่อยสยายใบหน้านั้นมีแป้งผัดพอนวลตา

..ต้นเรือศุภโชคนั้นอยู่ในชุดสีกากีแขนสั้นเหมือนเมื่อวาน ต้นเรือรีบลุกขึ้นไปรับของที่มือผู้การของตนซึ่งอยู่ในชุดกางเกงขาสั้นเสื้อยืดสีดำพอดีตัวรองเท้าผ้าใบ

“แพรวเดาว่าต้นเรือเป็นคนจัดถ้วยจานไว้รอ..”

“ก็เขาเป็นเจ้าบ้านนี่..เราเป็นแขกก็นั่งรอกิน”

“ต้นเรือเขารู้จักหยิบจับงานบ้าน งานเรือ งานเล็กงานน้อยแบบนี้แหละครับ ..ใครได้ไปเป็นสามีนี่ยิ่งกว่าถูกหวยรางวัลที่หนึ่ง”

“ผู้การก็พูดเกินไปแล้ว..” ศุภโชคถ่อมตน

“จริง ๆ พี่ญา ต้นเรือผมคนนี้ ที่หนึ่งเลยครับ..”


“ค่ะ เชื่อ” เพราะเมื่อคืน หลังจากที่เธอออกมาจากห้องน้ำเขาก็เข้าไปล้างคราบอาเจียนของเธอที่ชักโครกอย่างไม่รังเกียจและก็ไม่บ่นเธอสักคำ

“’งั้นผมขอตัวไปอาบน้ำแต่งตัวก่อนนะครับ..เย็นนี้เจอกัน” จิรวัติก่อนที่จะเดินกลับไปที่รถยนต์ ส่วน ต้นเรือศุภโชคนั้นก็จัดแจงเทถุงโจ๊กให้หิรัญญา

“ของแพรวไม่ต้องนะคะ แพรวยังไม่หิวค่ะ”

“ผู้การกินแล้วเหรอ” หิรัญญาถาม

“กินแล้วค่ะ กินที่ร้าน พร้อมกาแฟ แพรวไม่หิวเลยหิ้วติดมือกลับมาด้วย..เดี๋ยวแพรวขอตัวเข้าบ้านก่อนนะคะ ต้นเรือ แพรวขอตัวอาบน้ำก่อน ถ้าออกมาลาไม่ทัน ก็เย็นนี้เจอกันนะคะ”

แพรวพรรณเข้าบ้านไปแล้ว ศุภโชคก็เทโจ๊กใส่ชามให้ตัวเอง..หิรัญญาฉีกปาท่องโก๋กับกินกับกาแฟ ทรีอินวันที่ต้นเรือออกไปซื้อมาให้หลังจากที่เห็นหิรัญญาเปิดประตูห้องพักออกมาพร้อมกับอาการหาว

“เล่าต่อสิครับ..” ก่อนที่จิรวัติกับแพรวพรรณจะกลับมาหิรัญญาได้เล่าเรื่องครอบครัวของเธอให้เขาฟัง และเขาก็ตั้งอกตั้งใจฟังเป็นอย่างมาก..

“พอเรียนจบ ก็ทำงานที่กรุงเทพฯ พ่อแม่แก่ตัว ไม่ใครดูแลฉันก็เลยต้องลาออกจากงาน ไปทำงานแถว ๆ บ้าน แต่ว่า เงินเดือนไม่ดี ก็เลยขายกาแฟอยู่บ้าน เริ่มเขียนนิยาย แล้วก็ดูแลคนแก่ ตอนหลังพ่อแม่มาเสียไป ฉันก็เลยมีอาชีพอิสระอย่างทุกวันนี้ แล้วมันก็ทำรายได้ดีกว่าทำงานประจำอีก”

“น่าอิจฉาจริง ๆ”

“วิถีใครวิถีมันค่ะ ถ้าให้ต้นเรือไปทำแทนฉัน จะไปไหม”

“ผมคิดอะไรเป็นเรื่องแบบนั้นไม่ได้หรอกครับ..ไร้จินตนาการ”

“อย่าลืมอ่านนิยายของฉันให้จบนะคะ..อ่านมาก ๆ ก็ทำให้มีจินตนาการได้”
“ได้ครึ่งเล่มแล้วครับ..เดี๋ยวไปอ่านที่เรือต่อ บ่าย ๆ ก็คงหมดเล่มครับ..”

“ถ้าอยากอ่านอีกยังมีอีกหลายเรื่องค่ะ..”

“ผมคงต้องซื้อครับ เอามาเฉย ๆ เกรงใจ”

“ให้ยืมแล้วกัน..”

“ผมอยากเก็บไว้ครับ เอาไว้เป็นที่ระลึก โอกาสที่จะได้รับหนังสือมาจากมือนักเขียนนี่ไม่ใช่ง่าย ๆ
เลย เป็นโชคดีของผมที่เจอคุณญาที่นี่..ต้องขอบคุณคุณแพรวที่พาคุณญามาที่นี่”

“ขนาดนั้นเลย”

“ครับ..ผมก็เพิ่งรู้ตัวว่าชีวิตขาดจินตนาการ..ก่อนหน้านั้นผมดูหนังละคร ผมจะคิดว่า คนคิดเรื่องเขาคิดได้อย่างไร แต่พอมาคุยกับคุณญา พอฟังคุณญาเล่านั่นเล่านี่ ผมรู้สึกว่า ผมเข้าใจคำว่าจินตนการแล้วครับ”

“เพ้อ ๆ หน่อยค่ะ เพียงแต่ต้องทำให้มันเป็นเรื่องเดียวกัน จินตนาการมันเหมือนเรื่องที่มันเป็นไปไม่ได้ แต่มันก็เป็นไปได้ค่ะ ใส่เหตุผลให้มัน หรือเราเองก็ต้องกล้าที่จะปล่อยมันลงไป..เหมือนพวกจิตรกรที่เขาวาดรูป เขากล้าที่จะตวัดปลายพู่กัน หรือดินสอ ภาพมันก็เลยออกมา..บางรูปไม่สวย ไม่เหมือน แต่ว่า เรากลับดูรู้เรื่อง เพราะศิลปินกล้าที่จะปล่อยจินตนาการออกมา มันเป็นศาสตร์เฉพาะตัวค่ะ..”

“เวลาเขียนถึงความรักก็จินตนาการใช่ไหมครับ”

“ใช้ความรู้สึกค่ะ เวลาเราประสบกับสภาวะอารมณ์อะไรสักอย่างหนึ่ง เราก็จำมันไว้ หรือไม่เราก็อ่านเรื่องในนิตยสารชีวิตรัก ชีวิตจริง เรื่องเล่าเคล้าน้ำตาในศาลาคนเศร้า หรือฟังคนคุยกันเล่าสุขทุกข์ของชีวิต มองดูคนรอบ ๆ ตัว เราก็จะพอได้อารมณ์นั้นมาค่ะ แต่มันก็ต้องประกอบด้วยเหตุผลนะคะ..”

“คุณญาเคยมีแฟนไหม..”

หิรัญญากรอกตาไปมาเลือดสาวฉีดขึ้นหน้า แต่ว่าก็สำรวมใจตัวเองเอาไว้ได้
“เคยแค่แอบรักค่ะ รักคนหน้าตาดี ๆ รวย ๆ แบบสาวน้อยที่คิดหาทางสุขสบาย เพ้อฝันไปวัน ๆ”

“แล้วได้บอกเขาหรือเปล่าครับ”

“ไม่ได้บอกหรอกค่ะ สมัยนั้นฉันขี้อายจะตาย เพิ่งมาใจแตกเสียคนก็หลังเบญจเพสนี่เอง”

“ใจแตก..”

“ก็กล้าที่จะคุยกับผู้ชายก่อน เจอถูกใจ ๆ ก็หลีสักหน่อย..เหมือนพวกไก่แก่แม่ปลาช่อน”

“ทำอย่างไรละครับ..”

“ก็..” หิรัญญาเสมองไปอาคารสถานที่..แล้วก็หันมาคนโจ๊กในชาม ก่อนจะบอกว่า “โจ๊กเขาน่ากินดีนะ”

“ยังไม่ตอบผมเลย...หลีผู้ชายทำอย่างไร” ศุภโชคไม่ยอมเปลี่ยนเรื่องคุย

“ก็..ความลับค่ะ..” ใบหน้าของหิรัญญาแดงระเรื่อขึ้นมา..โดยใจก็นึกว่า ‘อีตาบ้า ก็อย่างที่ฉันกระโดดเข้าหาคุณวันที่เจอกันครั้งแรกนั่นแหละ..ภาษาไก่แก่ฯ เรียกว่า หลี’

“แล้วอย่างผมนี่ล่ะครับ”

“ทำไมเหรอ”

“น่าหลีบ้างไหม”

“แล้วเคยถูกใครหลีบ้างไหม”

เขาทำท่าครุ่นคิด..ก่อนจะย่นหน้าผากและก็สั่นหัวเบา ๆ

“ไม่เคย” หิรัญญาอ่านภาษาใบ้ของเขา
“ผมไม่รู้ว่าหลีแปลว่าอะไร”

“ไม่รู้ก็ดีแล้ว..”

“แต่ผมอยากถูกหลี..”

หิรัญญาหัวเราะเบา ๆ

“ช่วยหลีผมหน่อยได้ไหม”

“ไม่ได้”

“ทำไมล่ะ ทำไมไม่คิดจะหลีผม...”

“เจ้าเล่ห์” หิรัญญารวบรับเพราะรู้สึกว่าเขินเป็นอย่างมาก เขามองหน้าหญิงสาวตรงหน้า แล้วก็หัวเราะพลางส่งสายตาหวานฉ่ำให้กับหิรัญญา แต่หิรัญญาก็เบนสายตาไปชมนกชมไม้เสียอีกครั้ง..

“คุณญา” น้ำเสียงที่ดูจริงจังขึ้นทำให้หิรัญญาต้องหันกลับมามองหน้าของเขา..ซึ่งคราวนี้หิรัญญาเห็นว่าหน้าใบหน้าที่มีเคราเขียวครึ้มของเขานั้นน่ามองอยู่ไม่น้อย แต่เธอก็มองดูเขาให้เต็มตาไม่ได้

“อยู่กับผมมาวันหนึ่งแล้ว คิดว่าผมเป็นคนอย่างไร”

“แล้วต้นเรือคิดว่าตัวเองเป็นคนอย่างไรละคะ”

“ผมก็.. ผมคนตามน้ำนะ..โตมากับระบบก็คงไปกับระบบ..ทำวันนี้ให้ดีที่สุด..ส่วนพรุ่งนี้ไม่ได้คิดอะไรมากมาย เรื่อย ๆ ครับ..”

“ค่ะก็ตามนั้น..”

“นี่มันความรู้สึกของผมนะครับ..ผมอยากได้ความรู้สึกจากคุณญา”

“ก็..เพิ่งอยู่กันแค่วันเดียวเอง ยังสรุปไม่ได้หรอกค่ะ” หิรัญญาบ่ายเบี่ยง..

“ต้องดูกันอีกสักพักใช่ไหมครับ”

“ใช่..”

“โอเคครับ..คุยกันอีกสักเดือนหนึ่ง ผมจะถามคุณญาใหม่”

“จะคุยกันทางไหนละคะ เดี๋ยววันศุกร์ตอนเช้า ฉันก็กลับบ้านกันแล้ว..”

“ทางโทรศัพท์ไงครับ..คุยกันไปทุกวัน ๆ ก็ครบหนึ่งเดือนพอดี..แล้วครบปุ๊บ ผมจะถามคุณญาใหม่..โอเคไหมครับ..”

////////////////////////////////////////////////
หลังจากกินข้าวต้มหมดชาม ต้นเรือก็ขออนุญาตไปทำงาน แต่ว่าหิรัญญายังนั่งจมจ่อมอยู่ตรงนั้น..

“ฮะแอ้ม..” แพรวพรรณย่องมาสะกิดที่ข้างหลัง หิรัญญาสะดุ้งพรวด

“คิดพล็อตนิยายอยู่เหรอพี่..” หิรัญญาเบือนหน้าหนี..

“พระเอกอ่อนกว่านางเอกเจ็ดปีหรือเปล่า..”

“อย่าพูดให้หมดอารมณ์ฝัน..”

“แน๊ะ..อย่าบอกนะว่า..หน้าแดงละ”

“ฉันกลัวเด็กมันหลอกว่ะ” หิรัญยายอมรับในที่สุด..แพรวพรรณก็เลยปรบมือก่อนจะทรุดตัวลงนั่งข้าง ๆ แล้วเขย่าตัว..

“อย่าบอกนะว่า ต้นเรือฝากรักไว้..”

“เขาก็พูดทำนองนั้นแหละ..แต่พี่ พี่ไม่หลงคารมเขาง่าย ๆ หรอก..ปากก็ว่าจีบผู้หญิงไม่เป็น ที่ไหนได้ต้อนพี่แต่เมื่อคืนแล้ว..”

“ต้อนอย่างไง..”

“อ้าว..ตอนที่นั่งอยู่ตรงนี้ เค้าก็เอามือมาแอบแตะเอวพี่..ตอนที่พี่ไปอ้วกก็ยังตามไปดูแล ถามนั่นถามนี่ จะนวดให้ด้วย สุดยอดเลย..เมื่อกี้ก็มาทำตาเชื่อมใส่อีก..”

“อยากแบ่งเงินกับพี่คนละสองหมื่นห้าซะมั้ง”

“สงสัย..”

“แล้วพี่จะทำอย่างไรต่อไป..”

“หนทางพิสูจน์ม้ากาลเวลาพิสูจน์คน สุภาษิตนี้เที่ยงแท้แน่นอน เธอล่ะกับผู้การเป็นอย่างไงบ้าง ตาเชื่อมกันตลอดเลยนะ”

“ก็ แพรวพยายามให้มันอยู่ในขอบข่ายของคำว่าน้องสาวค่ะ..พยายามมากกกกก”

“ดีแล้ว เป็นผู้หญิงถ้าหลงคารมผู้ชาย ก็จะมีแต่เสียกับเสีย..”

“ถ้าเขารักแพรว เขาก็ต้องพิสูจน์ตัวเองเหมือนกันค่ะ..สำหรับแพรวแล้ว รวย จน ไม่สำคัญ สำคัญแค่ว่า เขารักแพรว ต้องการแพรวมาเป็นคู่ชีวิต และกล้าที่จะเข้าบ้านแพรว ช่วยแพรวสู้กับพ่อแม่แค่นี้แหละค่ะ”

“ได้ เดี๋ยวพี่จะแย๊บ ๆ แล้วกระทุ้งให้..”

“ขอบคุณนะคะ..” แพรวพรรณทำหน้าเจ้าเล่ห์ หิรัญญาก็เลยกอดอกปั้นหน้าแบบนางร้ายกระหยิ่มยิ้มย่องหลิ่วตาบิดปาก จนแพรวพรรณต้องหัวเราะออกมา..


หลังจากคุยเรื่องส่วนตัวพอให้ชีวิตวัยสาวมีสีสัน พอแพรวพรรณจัดการกับโจ๊กถุงนั้นพร้อมกับขนมที่ซื้อมาเรียบร้อย สองสาวก็เข้าบ้านพัก แพรวพรรณเปิดคอมพิวเตอร์ทำงาน ส่วนหิรัญญาถนัดเขียนในกระดาษแล้วพิมพ์ลงในคอมพิวเตอร์ก่อนส่งงานให้สำนักพิมพ์

นั่งทำงานกันได้ครู่ใหญ่ โทรศัพท์ของแพรวพรรณก็ดังขึ้น..

“นกมาถึงแล้วค่ะ พี่พักอยู่บ้านหลังไหนค่ะ นกกับเพื่อนจะได้เดินไปหา..”

บอกหมายเลขบ้านพักไปแล้ว แพรวพรรณก็ลุกจากหน้าจอคอมพิวเตอร์มายืนรอนักอ่านที่ชื่อนกกับพรรคพวกที่หน้าบ้าน และพอเห็นว่าหนึ่งในสี่คนนั้นมีใครบ้าง แพรวพรรณก็รีบหันไปเรียกหิรัญญาทันที..

“พี่ญา เร็ว ๆ “

พอได้ยินน้ำเสียงร้อนรนของแพรวพรรณ หิรัญญาก็รีบลุกขึ้นแล้วเดินมาหยุดอยู่ข้าง

“สวัสดีค่ะพี่แพรวพี่ญา..หนูนกค่ะ”

“หนูจอย คนนี้ก้อย คนนั้นฐาค่ะ”

สี่สาวที่อยู่ในชุดนักศึกษาซึ่งเป็นเสื้อแบบรัดตัวกับกระโปรงสั้นเพียงคืบยืนเรียงหน้ากระดานโดยสองในสี่คนนั้นมีถุงหนังสือติดมือมาด้วยจึงไม่ได้ยกมือไหว้..แพรวพรรณกับหิรัญญาจึงได้เพียงยิ้มแย้มต้อนรับโดยในใจของแพรวพรรณนั้นเริ่มเต้นไม่เป็นจังหวะ..

น้องฐาคู่นอนของพี่ต้นกล้า กล้ามาหาเธอถึงที่นี่ พร้อมกับเพื่อนในคราบนักอ่านมันต้องไม่ธรรมดาแน่ ๆ

หลังจากที่สี่สาวนั่งลงที่โต๊ะยาวตัวเมื่อคืน แพรวพรรณกับหิรัญญาก็ถือปากกาเดินตามไปนั่งด้วย..

“นกมีนิยายพี่แพรวทุกเล่มเลยค่ะ วันนี้นกขนมาหมดเลยค่ะ พี่แพรวช่วยเซ็นให้นกด้วยนะคะ เอาไว้เป็นที่ระลึก”

น้องนกเลื่อนกองหนังสือมาให้

“นี่ของจอยค่ะ จอยชอบงานพี่หิรัญญา..แต่มีไม่ครบค่ะ เอาเฉพาะเรื่องสนุก ๆ เรื่องเครียดแบบแรงรักแรงแค้น จอยอ่านไม่ไหว จอยชอบแบบไร่องุ่นอุ่นไอรัก สนุกทั้งนิยายและละครเลย” พูดจบน้องจอยก็เลื่อนหนังสือกองย่อม ๆ มาหาหิรัญญา

ขณะที่สองสาวกำลังก้มหน้าก้มตาเซ็นหนังสืออยู่นั้น สี่สาวลอบมองหน้ากันแล้วอมยิ้ม..และคนที่ยิ้มอย่างเหยียดสาแก่ใจก็คือฐาปนิสร คนที่จะต้องแสดงละครฉากต่อไป..

และเมื่อสองนักเขียนเซ็นเสร็จแล้ว ฐาปนิสรก็เลื่อนอัลบั้มรูปที่เตรียมรอไว้ไปตรงหน้า..

“อันนี้พิเศษสำหรับพี่แพรวค่ะ” พูดแล้วฐาปนิสรเด็กชมรมการแสดงก็เริ่มสวมบทบาทนางเอกเจ้าน้ำตา..

“อะไรเหรอ” หิรัญญาเป็นคนเลื่อนอัลบั้มนั้นมาดูซะเอง และเพียงเปิดไปหน้าแรก หิรัญญาก็รู้ทันทีว่า สี่สาวมาที่นี่เพื่ออะไรกันแน่ ส่วนแพรวพรรณนั้นใจเต้นแทบไม่เป็นจังหวะทีเดียว..

“รูปน้องฐากับพี่ต้น นกเป็นคนแท็กมาให้พี่เองค่ะ ตอนแรกนกไม่รู้ว่าพี่กับพี่ต้นเป็นเพียงแค่ญาติ ๆ กัน นกก็เลยไปบอกฐา ตอนนั้นฐากำลังโมโห ฐาก็เลยสั่งให้นกทำอย่างนั้น นกขอโทษพี่แพรวด้วยนะคะ”

“ไม่เป็นไรค่ะ”

“ที่น้องฐาเอารูปมาให้พี่แพรวดู คือมันเป็นหลักฐานให้เห็นว่าน้องฐากับพี่ต้นคบหากันมานานแค่ไหน แล้วก็ลึกซึ้งถึงเพียงไหน”

แม้น้องนกไม่พูด แต่รูปในอัลบั้มก็ฟ้องอยู่แล้วว่า ลึกซึ้งกันถึงเพียงไหน โอบ กอด จูบ กระซี้กระแซะกันถึงเพียงนี้ มีทั้งในและนอกห้องพักขนาดนี้ ดูก็รู้ว่าหวานกันแค่ไหน..

“ค่ะ” แพรวพรรณสุภาพกลับไปทั้งที่ใจนั้นเหมือนถูกดึงออกมาโยนตากแดด..

“พี่ต้นมาขอเลิกกับน้องฐาค่ะ อ้างนั่นอ้างนี่ ตามประสาผู้ชายรักง่ายหน่ายเร็ว น้องฐาที่เสียไปแล้ว จะทำอะไรได้ ร้องไห้อ้อนวอนคุกเข่า สารพัดจะหาวิธีขอความเห็นใจ พี่ต้นก็ทำเหมือนน้องฐาเป็นขยะไร้ค่า น้องฐาอยากให้พี่แพรวซึ่งเป็นญาติพี่ต้นช่วยค่ะ ช่วยพูดกับพี่ต้นให้เห็นใจน้องฐา ตอนนี้น้องฐากำลังจะสอบ บอกตรง ๆ ว่าแทบไม่มีสมาธิดูหนังสือเลยค่ะ เมื่อคืนน้องฐาก็ร้องไห้จนตาบวมปิด..ตื่นเช้ามาต้องเอาน้ำแข็งประคบ..” ว่าแล้วฐาปนิสรก็ก้มหน้าเช็ดน้ำตาที่ทะลักออกมาก่อนจะโผกอดจอยแล้วร้องไห้โฮ ๆ..

////////////////////////////////////

สี่สาวกลับไปแล้วแต่แพรวพรรณยังนั่งมองรูปถ่ายที่ฐาปนิสรจงใจทิ้งไว้..โดยหิรัญญาก็ได้แต่เพียงนั่งทำหน้าซึมเศร้าอยู่ข้าง ๆ เพราะอยากให้แพรวพรรณได้คิดตัดสินใจแก้ปัญหานี้ด้วยตนเอง..

“กลับฉะเชิงเทราวันนี้เลยดีกว่าพี่..แพรว แพรวคิดว่า แพรวจบดีกว่า”

“เอาอย่างนั้นนะ”

“ค่ะ..เอาอย่างนี้แหละ” ตัดบัวยังเหลือใย แล้วตัดใจรักนั้นมันง่าย ๆ เสียที่ไหน พอหิรัญญาลุกขึ้นแพรวพรรณกับซบหน้าลงกับโต๊ะแล้วร้องไห้ออกมาอย่างยากระงับ...

หิรัญญามองภาพของแพรวพรรณที่เสียใจแล้วก็พลอยมีน้ำตาคลอครองดวงตาไปด้วย แต่หิรัญญาก็ไม่ได้ปลอบเป็นคำพูด..หญิงสาวเพียงใช้มือลูบหัว ตบไหล่..ปล่อยให้แพรวพรรณร้องไห้ จนกระทั่งเห็นว่าแพรวพรรณหมดน้ำตาก๊อกแรก หิรัญญาก็ทรุดลงนั่งลงข้าง ๆ

“โทรบอกเขาสิ ว่าเรากำลังจะกลับกันแล้ว”

“แพรวพูดไม่ได้หรอกพี่ พี่โทรเถอะ..”

“เข้มแข็งสิ เล่นบทน้องสาวต่อไป เธอยังไม่ได้ตกลงอะไรกับเขาไม่ใช่เหรอ..”

“ค่ะ..ยัง..แล้วเราจะอ้างอะไรดีละ..”

“บอกว่าพี่ติดธุระแล้วกัน..พอดีน้องชายพี่เขาจะมาเอาเอกสารที่บ้าน..ตามนี้แล้วกัน..” ว่าแล้วหิรัญญาก็เดินเข้าบ้านพักไปคว้าโทรศัพท์ของตัวเองโทรหาผู้การจิรวัติ...

“อะไรนะครับ จะกลับกันตอนนี้เลย”

“ค่ะ..พอดีน้องชายของพี่จะมาเอาเอกสารสำคัญที่บ้าน ต้องรีบกลับ..”

“มีอะไรกันหรือเปล่าครับ..”

“ไม่มีหรอก..”

“ขอผมคุยกับแพรวหน่อยนะครับ..”

หิรัญญาจำต้องส่งโทรศัพท์ให้แพรวพรรณที่สูดน้ำมูกเพื่อตั้งสติ...

“แพรวค่ะ”

“น้องแพรวไม่อยู่ต่อละครับ..เดี๋ยววันศุกร์พี่ขับรถไปส่งที่นครสวรรค์ให้ก็ได้ พี่จะกลับไปเยี่ยมตาพี่ด้วย”

“แพรว..แพรว แพรวอยู่ที่นี่คนเดียวไม่ได้หรอกค่ะ แล้วอีกอย่างธุระของแพรวก็หมดแล้ว..”

“แต่แพรวยังไม่ได้ไปดูห้องพี่เลยนะ”

“ไม่เป็นไรค่ะ จินตนาการเอาบ้างก็ได้..”

“มีอะไรหรือเปล่า บอกพี่มา..พี่ไม่สบายใจนะ เอาอย่างนี้ดีกว่า รอพี่แป๊บนะ เดี๋ยวพี่ไปหา”

เขาวางโทรศัพท์ลงแล้ว แพรวพรรณรีบคว้าอัลบั้มรูปของเขากับฐาปนิสร แล้วเดินนำหิรัญญาเข้าบ้านพักเพื่อจะเก็บของลงกระเป๋า แต่ว่ายังเก็บไม่ทันเก็บของเสร็จ ผู้การจิรวัติกับต้นเรือศุภโชคก็เดินหน้าตาตื่นเข้ามาหา

“พี่ขอคุยกับแพรวเป็นการส่วนตัวได้ไหม”

พอผู้การจิรวัติบอกแบบนี้ หิรัญญาที่นั่งพับเพียบพับผ้าอยู่กับพื้นเหมือนแพรวพรรณจึงต้องละมือจากเสื้อผ้า ลุกขึ้นแล้วเดินออกมาจากบ้านพักพร้อมกับศุภโชค..ส่วนแพรวพรรณก็นั่งพับผ้าลงกระเป๋าต่อ โดยไม่ยอมมองหน้าของเขา

“แพรวมีอะไรบอกพี่สิ..มองหน้าพี่..” เขาที่อยู่ในชุดสีกากีแขนสั้นนั่งคุกเข่าลงข้าง ๆ กายของหญิงสาว

“ไม่มีค่ะ ไม่มีอะไร”

“มันต้องมี เมื่อเช้าเรายังคุยกันดี ๆ อยู่เลย น้องฐาใช่ไหม น้องฐาเขาทำอะไร บอกพี่มา เขาเข้าไปโพสต์อะไรในเน็ตอีก..”

แพรวพรรณส่ายหน้า ด้วยไม่อยากพูดให้ตัวเองเสียสัตย์อีก..กับไม่อยากให้เขาเห็นใบหน้าที่ยังเช็ดน้ำตาไม่แห้ง..

“ต้องน้องฐาแน่ ๆ เลย เขาขู่แพรวใช่ไหม เขาจะทำร้ายแพรวกับพี่ญาใช่ไหม ไม่ต้องกลัวนะ น้องฐาเขา.. เขาไม่กล้าทำหรอก เขาขู่ไปอย่างนั้นเอง”

“ขอแพรวกลับบ้านเถอะคะ ขอแพรวไปสงบสติอารมณ์สักพัก..นะคะ..” ว่าแล้วแพรวพรรณก็ร้องไห้ออกมาจนได้..ก็ลึก ๆ ในใจแล้ว เธอก็ไม่อยากให้ความรู้สึกดี ๆ ที่มีให้กับเขาจบลงอย่างนี้..แต่เธอก็มีปัญญาพอที่จะรู้ว่า การที่น้องฐามาพูดกับเธอดี ๆ ก่อนที่จะทำเรื่องร้ายแรงกว่านี้ หรืออย่างที่ทำครั้งนั้น เพราะต้องการให้โอกาสกับเธอ..ให้เธอได้สำนึกเองว่าอย่างยุ่งกับคนมีเจ้าของให้มีปัญหาก่อนที่ยากจะแก้ไข..





จุฬามณีเฟื่องนคร
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 19 พ.ย. 2554, 21:55:10 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 19 พ.ย. 2554, 21:55:10 น.

จำนวนการเข้าชม : 4169





<< 14.มาตามสัญญา   16. มาตามสัญญา 3 >>
จุฬามณีเฟื่องนคร 19 พ.ย. 2554, 21:58:40 น.
ขอบคุณทุก ๆ ท่านที่ร่วมเล่นสนุกด้วยกัน..มีคนท้วงมาหลังไมค์ว่าคุณเฟื่องไม่แจกคนที่เม้นท์เหรอค่ะ แจกเฉพาะคน กด like อย่างเดียว แบบนี้ หนูไม่ยอม... 55555555 เอาเป็นว่า สัดส่วน ของ กดไลน์ จะมากกว่า ครับ อยากกระตุ้นให้สมัคร สมาชิก ล็อกอินมาให้กำลังใจนักเขียน ครับ คือผมเข้าใจว่า บางคนอ่านแล้วชอบ แต่ไม่รู้จะเม้นท์อะไร เอาเป็นว่า กดไลน์ ให้นักเขียน ที่ท่านชอบผลงานของเขา มันก็โอเคอยู่นะครับ.....สุดท้าย..ตอนที่ 16 คือตอนหน้า ผมเขียนเรื่องนี้ ผมยอมรับว่า ผมชอบตอนนี้มากที่สุด เพราะ พระนางต่อปากต่อคำเปิดใจกัน ชนิด เล่นเอาผมอึ้งไปเหมือนกัน...อยากรู้ละเซ่.. ตอนหน้า เล่นเกมส์กันอีกสักครั้งนะครับ 60 like ของตอนที่ 16 ตอนที่ 17 ก็จะรีบตามมาทันที แบบนี้...
ขอบคุณครับ


kuttarut 19 พ.ย. 2554, 22:18:27 น.
สนุกคะ


ณัฐวีร์ 19 พ.ย. 2554, 22:41:24 น.
เป็นกำลังใจให้ค่ะ ทั้งไลท์ ทั้งเม้นท์เลย // น้องฐานี่แรงเนอะ น่าจะโดนสั่งสอนซะบ้าง


fahsaipkt 19 พ.ย. 2554, 22:41:35 น.
ตอนต่อไป มาเร็วนะคะ จะรอคะ


bombayelalli 19 พ.ย. 2554, 22:43:57 น.
รอตอนต่อไปอยู่นะคะ อัพเร็วๆนะคะ


minafiba 19 พ.ย. 2554, 22:50:36 น.
^_^


ป้าพร 19 พ.ย. 2554, 22:54:27 น.
สงสารแพรวค่ะคุณเฟื่อง ขอบคุณมากค่ะที่มาตามสัญญา เอ้าคนเขียนใจดีอีกแล้วเราคนอ่านก็กดlike กันอย่าช้าค่ะ


ทานตะวัน 19 พ.ย. 2554, 23:02:52 น.
ตอนที่16 ต้องกดlike หรือว่าคุณเฟื่องมาลงเองค่ะ อยากอ่านแร้ววค่า (^____^)


pattisa 19 พ.ย. 2554, 23:07:35 น.
ยัยฐานี่เเย่จริงๆ :(

ปอลิง รีบมากดไลค์ก่อนอ่าน กันลืม :)


จุฬามณีเฟื่องนคร 19 พ.ย. 2554, 23:24:20 น.
ถ้าตอนที่ 15 ได้ 60 like ตอนที่ 16 ก็จะมาในบัดดลครับ..(ผมเขียนให้วกวนเอง )5555555555555


คิมหันตุ์ 19 พ.ย. 2554, 23:31:41 น.
มากดlikeจ่ะ คิคิ


ann 20 พ.ย. 2554, 12:40:11 น.
อีกแค่ 20 คนเท่านั้น อิอิ


Baitoeyz 20 พ.ย. 2554, 13:16:13 น.
เป็นนักอ่านเงาคนหนึ่งค่ะ ที่ไม่รู้จะเม้นท์อะไร แต่ตามอ่านของคุณเฟื่องทุกตอน ชอบเรื่องนี้จริงๆ :D


anOO 20 พ.ย. 2554, 13:18:37 น.
แพรวยอมถอยง่ายดายไปไหมเนี้ย
แต่พักนี้ต้นเรือกับพี่ญาขโมยซีนไปเยอะเชียว


แวนด้าน้อย 20 พ.ย. 2554, 13:23:21 น.
ยังไม่ได้อ่านแต่เข้ามากดไลน์ไว้ก่อน อิอิ


pimsaowaluck 20 พ.ย. 2554, 13:38:35 น.
อืมตะหานเรือมีแต่ศึกรักนะค่ะ ตะหานบก กะตำรวจบู้กันใหญ่


หนอนฮับ 20 พ.ย. 2554, 15:08:11 น.
ยัยฐานี่...น่า...เนอะ..หนอย บังอาจมาฉกปู้ชายของฉัน อิอิ


morisa 20 พ.ย. 2554, 15:26:42 น.
กด like ก่อนอ่าน

อ่านแล้วเม้นท์บอกว่า

ตอนต่อไปเอามาลงเร็วๆเลย ให้ว่องจ้ะเฟื่อง



จุฬามณีเฟื่องนคร 20 พ.ย. 2554, 15:44:59 น.
เหลืออีก 10 like นิ...อิอิ


Solnushka 20 พ.ย. 2554, 19:38:15 น.
ปกติจะแอบเป็นนักอ่านเงาตลอด แต่แอบอ่านเฉยๆไม่ไหวแล้ว^^ หนุกหนานมากกกกค่า


แว่นใส 20 พ.ย. 2554, 21:01:34 น.
มาแผนสูงจริง ๆ เลยนะ


Zephyr 20 พ.ย. 2554, 22:40:28 น.
เฮ้อ อ่านตอนนี้แล้วแบบแอบเกลียดยายฐาอ่ะ มาแรงไปมั้ย แต่ก็ยังดีที่เธอยังเตือน ไม่ทำแบบคราวก่อน แต่ถ้าเราเป็นฐา เราคงเสียใจเหมือนกันนะ บอกเลิกเพื่อไปหาคนใหม่ ถึงไม่รักแต่ความผูกพันมันก็มีอ่ะ แล้วถ้าเราเป็นแพรว มันก็คล้ายๆจะไปแย่งแฟนเค้ามาเลยอ่ะ รู้สึกผิดเช่นกัน ถึงแฟนเค้าจะเอนมาทางนี้ก็เถอะนะ ลำบากใจสุดๆ พี่ต้นกล้าตัดสินดีๆนะ อ๊ากกกกกกกกกกกก อยากอ่านตอนต่อไป ใครก็ได้ช่วยมากดไลค์ให้ถึงเร็ว ตอนนี้เรากด 57 แล้ววววว


loveleklek 20 พ.ย. 2554, 22:56:48 น.
ช่วยกดให้อีก 1 แล้ว อยากอ่านต่อเหมือนกัน


ไอติม 20 พ.ย. 2554, 23:36:40 น.
อ๊าย ~~ คนท่ี 60


แวนด้าน้อย 20 พ.ย. 2554, 23:40:36 น.
อ่านแล้วสงสารแพรวอ่ะ แต่ลุ้นพี่ญากะต้นเรือมากๆ เลยค่ะ


จุฬามณีเฟื่องนคร 21 พ.ย. 2554, 00:10:12 น.
โอ้ว 61 like 27 like facebook 813 คลิ๊ก..ตอนที่ 16 ก็ต้องมาตามสัญญาสิเนี่ย..เที่ยงคืน 7 นาที จะมีใคร นั่งรออยู่บ้างเนี่ย..


แพม 21 พ.ย. 2554, 08:55:17 น.
เรื่องแบบนี้ไปเคลียร์กันเองเฟร้ย อยู่วงนอกเลยน่ะแหละหนูแพร ผู้ชายต้องเคลียร์ตัวเองให้ได้ก่อน


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account