อาทิตย์พรางดาว
เมื่อความเคียดแค้นชิงชังที่มีมาระหว่างพี่น้องต่างมารดา ทำให้เกิดเรื่องราวต่างที่นำมาซึ่งความสุข เศร้า และโศกนาฏกรรม! ดาวเหนือจะทำอย่างไรเมื่อตะวันฉายผู้เป็นเกลียดเธอจนไม่อยากจะอยู่ร่วมโลก และตฤณจะทำอย่างไรเพื่อปกป้องคนรักไม่ให้โดนทำร้าย ต้องติดตามใน 'อาทิตย์พรางดาว'
Tags: ดราม่า

ตอน: ตอนที่ 10

ตอนที่ 10

ดาวเหนือกำลังนั่งนิ่งเพื่อทำสมาธิในการคิดงานชิ้นใหม่ที่ใหญ่ยักษ์ของปีนี้ของบริษัทที่เธอทำงานอยู่ เมื่อประชาสัมพันธ์สาวของบริษัทเดินนำหน้าใครคนหนึ่งที่ทำให้ความหนักใจที่หายไปนานกลับมาอีกครั้งจนต้องถอนหายใจออกมาแรงๆอย่างไม่เก็บอาการ พัดยศส่งยิ้มไปให้คนรักสาวที่ทำหน้านิ่งไม่ยินดียินร้ายกับการมาของเขา ชายหนุ่มได้ยินเสียงถอนหายใจพรืดใหญ่ของอีกฝ่ายก็พาให้ใจเสียแต่ก็ต้องทำเป็นไม่รู้ไม่เห็น

“สวัสดีครับน้องดาว”

“หวัดดีพี่พัด กลับมาเมื่อไหร่”

“เมื่อวานครับ พี่โทรหาแล้วแต่น้องดาวปิดเครื่อง”

“อยากอยู่คนเดียวน่ะ เลยปิดซะ”

“พี่รู้เรื่องของน้องดาวกับแม่บุษแล้วนะครับ”ชายหนุ่มพูดขึ้นมาลอยทำให้คนที่แสร้งทำเป็นยุ่งกับงานชะงักไป มือที่จับกระดาษอยู่กำแน่นจนกระดาษแผ่นนั้นยับยู่ ก่อนจะเงยหน้าไปสบกับคนรักที่กำลังจะกลายเป็นอดีตในเร็วๆนี้แล้วบอก

“ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วงหรอก เรื่องปกติ อีกไม่นานทุกอย่างก็ลงตัว”

“ลงตัวแบบไหนครับ แบบที่น้องดาวไปทาง แม่บุษไปทางอย่างนั้นเหรอ”ชายหนุ่มถามต่อเสียงเรียบ ดาวเหนือจ้องอีกฝ่ายเขม็ง ดวงตากลมโตสื่อออกมาถึงความไม่พอใจ

“เรื่องของดาวกับแม่ พี่พัดอย่ายุ่ง มันจะลงเอยแบบไหนก็เรื่องของดาว”

“พี่เป็นห่วงแม่บุษ...”พัดยศบอกอย่างไม่ใส่ใจกับอาการหงุดหงิดของคนรัก ก่อนจะรีบเสริมเมื่อเห็นอีกฝ่ายทำท่าจะเอาหูฟังเสียบหูเพื่อตัดขาดจากโลกภายนอกรวมทั้งเขาด้วย “...แม่บุษอายุมากแล้วนะดาว อย่าทำอะไรที่จะทำให้แม่บุษไม่สบายใจเลย”

“หึ!แล้วดาวต้องเป็นคนทนให้คุณตะวันมาจิกด่าอยู่ทุกวันงั้นเหรอ แม่สบายใจ ทุกคนสบายใจ แล้วดาวล่ะ! มีใครใส่ใจความรู้สึกดาวบ้าง ตั้งแต่เด็กแม่บอกว่าแม่ทำผิดกับคุณตะวัน แม่ต้องชดใช้ แล้วดาวล่ะ ดาวผิดอะไรถึงต้องมานั่งทนกับความผิดที่ไม่ได้ก่อ พี่พัดตอบได้ไหม ถ้าตอบไม่ได้ก็ปล่อยดาวไปตามทางของดาว!”หญิงสาวพูดทุกอย่างรวดเดียวจบ ก่อนจะลุกขึ้นเดินออกไปจากที่นั่งของตน พัดยศหลับตานิ่ง สูดหายใจลึกแล้วโพล่งออกไป

“ดาวหมายถึงเรื่องของเราด้วยรึเปล่า” ดาวเหนือชะงักเท้า ก่อนจะตอบโดยไม่หันไปมอง

“ดาวยังไม่พร้อมที่จะคิดเรื่องอะไรในตอนนี้ นอกจากงาน หวังว่าพี่พัดจะเข้าใจ ”

“ไม่ว่ายังไงพี่จะรอ รอจนกว่าเราจะกลับมาเป็นเหมือนเดิม”ชายหนุ่มพูดดวงตาแน่วแน่จับจ้องอยู่ที่แผ่นหลังของร่างโปร่งของหญิงสาวที่เขารักที่เดินจากไป แม้จะเจ็บแปลบในหัวใจกับท่าทางไม่ไยดีของอีกฝ่ายแต่ชีวิตเขาถือคติ ตื้อเท่านั้นที่ครองโลก ไม่ว่าอย่างไรเขาก็ยื้อความรักของเขาเอาไว้จนวินาทีสุดท้าย! และความเจ็บก็ยิ่งบาดลึกลงไปอีกเมื่อเสียงของคนที่เดินจากไปแล้วดังขึ้น

“มันคงไม่มีวันนั้นอีกแล้ว พี่พัด”


“ใจเย็นๆ แม่บุษ ยายดาวน่ะเดี๋ยวหายน้อยใจแล้วก็กลับมาเองแหละ ก็ทะเลาะกันด้วยเรื่องนี้หลายครั้งแล้ว สุดท้ายยายดาวก็กลับมาอยู่ดี”คุณหญิงผกามาศปลอบสะใภ้หมายเลขสองของตนที่นั่งนิ่งซึม แถมมีน้ำตาคลอหน่วยอยู่ด้านนึง ส่วนอีกด้านก็มีคุณมินตราที่นั่งถอนหายใจแล้วมองภรรยาอีกคนของสามีด้วยสายตาที่สื่อได้ว่าเหนื่อยใจ ก่อนเอ่ย

“พี่บอกเธอแล้วใช่ไหมบุษว่าอย่าตามใจ ให้ท้าย หรือเข้าข้างยายตะวันมากกว่ายายดาว แล้วเป็นไง ทำไมไม่ฟังกันบ้าง เรื่องในอดีตก็คืออดีต เธอไม่จำเป็นต้องไปใส่ใจ ในเมื่อพี่และคุณแม่ไม่ได้มีปัญหาอะไรกับเรื่องนี้”

“บุษก็พยายามแล้ว แต่ยายดาวไม่เข้าใจ”คุณบุษบาเถียงเสียงอ่อย ก่อนจะรีบหลบตาเมื่อเห็นว่าคุณมินตราถลึงตาใส่

“พยายามน้อยไปน่ะสิ ยายดาวน่ะลูกเธอนะ เป็นแม่ต้องเข้าใจและตามลูกให้ทัน แต่เธอกับห่างเหินกับลูก รู้บ้างรึเปล่าว่าวันๆลูกทำอะไรมั้งน่ะห๊ะ...”คุณมินตราถาม ก่อนจะค้อนเมื่อเห็นอีกฝ่ายส่ายหัว มองหน้าเธอซื่อๆ

“...ขนาดยายตะวันไม่ค่อยได้เล่าอะไรให้ฟังพี่ยังรู้เลยว่ายายตะวันไปทำอะไรมาบ้าง แล้วพี่ก็รู้ดีด้วยว่ายายตะวันเป็นยังไง ให้ตายสิ! ถ้าวันนั้นพี่หรือคุณแม่อยู่นะจะไม่ปล่อยให้เรื่องนี้เกิดขึ้นเลย”คุณมินตราบ่น เพราะว่าเมื่อวานนั้นเธอออกไปช่วยแม่สามีซื้อของเพื่อเตรียมตัวไปทำบุญที่วัดต่างจังหวัด มารู้เรื่องอีกทีก็หลังจากกลับมาแล้ว และดาวเหนือก็ออกจากบ้านไปแล้ว ถ้าเธออยู่ก็ยังพอจะช่วยกล่อมดาวเหนือได้บ้าง

“ไม่มีทางหรอกค่ะ เพราะถ้าคุณแม่หรือคุณย่าอยู่พี่ตะวันก็จะไม่ก่อเรื่องขึ้นเด็ดขาด รายนั้นเขาต้องการเป็นนางฟ้าต่อหน้าคุณแม่กับคุณย่า”พรายจันทร์ที่นั่งอยู่ที่โซฟาอีกตัวค้านคำพูดของมารดา พร้อมกับเอื้อมมือไปบีบมือผอมของคุณบุษบาเบาๆ พร้อมพูดให้กำลังใจ

“น้าบุษคะ อย่างที่คุณย่าบอก เดี๋ยวดาวก็กลับมา ถึงจะไม่พอใจอย่างไร ดาวก็รักน้าบุษนะคะ ไม่มีวันทิ้งน้าบุษไปได้นานหรอก แล้วก็ถ้ายายดาวไม่ยอมมาจันทร์จะไปลากตัวมาเอง น่าบุษเชื่อมือจันทร์ก็แล้วกัน”หญิงสาวชูกำปั้นขึ้นฟ้า พร้อมประกาศอย่างมุ่งมั่น จนผู้เป็นแม่ต้องกุมขมับกับความไม่เต็มของลูกสาวคนรอง ส่วนคุณหญิงผกามาศก็ได้แต่เอายาดมจ่อจมูกอย่างไม่ไหวจะเคลียร์กับท่าทางของหลานสาว คุณบุษบามองหญิงสาวที่เข้าขากับเธอเพราะมีความชอบเหมือนกันอย่างขอบใจ ก่อนจะยอมยิ้มออกมาให้ทุกคนในที่นั้นได้สบายใจ

“คุณผู้หญิงขา คุณท่าน คุณบุษ คุณจันทร์ขา! มาแล้วค่ะ มาแล้ว!”เสียงตะโกนของสาวใช้ร่างเล็ก ผิวดำ คนสนิทของคุณหญิงผกามาศและคุณมินตราดังขึ้น ก่อนที่เจ้าตัวจะวิ่งจี๋เข้ามาล้มแทบเท้า

“อะไรย่ะแม่นิ่ม โวยวายเป็นเจ๊กตื่นไฟ แล้วอะไรของหล่อน ใครมา”คุณหญิงผกามาศดุสาวใช้คนโปรดที่ยังคงนั่งหอบแฮกๆ ชี้ไม้ชี้มือไปข้างนอก คุณมินตรามองดูว่าคงจะอีกนาน มือเรียวเลยต้องหยิกหมัที่แขนเป็นการกระตุ้น

“โอ๊ย!คุณผู้หญิงขา นิ่มเจ็บนะคะ”

“ย่ะ! ก็บอกมาเร็วๆสิ ว่ามีอะไร”

“คุณดาวค่ะ คุณดาวมาแล้ว ลุงสมเพิ่งไปเปิดประตูรั้วให้เมื่อตะกี้นี่เอง”จบคำรายงาน ทุกคนในที่นั้นก็มองหน้ากันอย่างดีใจ คุณบุษบายิ้มทั้งน้ำตาก่อนจะหันไปมองหน้าพรายจันทร์และคุณหญิงผกามาศที่มองมาอย่างกับจะบอกว่า เห็นไหมล่ะ ยายดาวกลับมาแล้ว และนางก็เกือบจะลุกออกไปหาอย่างที่ใจอยากแต่ก็โดนคุณมินตราดุเอาเสียก่อน

“นี่!แม่บุษนั่งลงเลยนะ อายุก็ไม่ใช่น้อยๆยังจะทำตัวเป็นวัยรุ่นไปได้ รออยู่นี่แหละเดี๋ยวยายดาวก็เข้ามา เอ้า!...”คุณมินตราดุใส่อีกฝ่ายก่อนจะส่งกล่องทิชชู่ให้เพื่อเช็ดหน้าตาที่เปรอะน้ำตา “...เช็ดหน้าเช็ดตาซะ เดี๋ยวลูกมันจะตกใจเอา”

“ขอบคุณมากค่ะ คุณพี่”

ร่างโปร่งผ่อนลมหายใจอันหนักอึ้ง ใบหน้าเกลี้ยงเกลาที่ล้อมไปด้วยกลุ่มผมนุ่มหยักเป็นลอนเคร่งเครียดเมื่อนึกถึงเรื่องเมื่อคืนและมารดาของตน หญิงสาวหลับตาปรับอารมณ์ให้เฉยชาเช่นปกติก่อนจะก้าวลงจากรถ แล้วเดินเข้าบ้านไป

ทันทีที่ก้าวเข้าไปในบ้าน ดาวเหนือก็ต้องชะงักเมื่อเห็นว่าคนที่รอเธออยู่ไม่ได้มีแค่มารดาแค่คนเดียวอย่างที่คิดเอาไว้ และหากทุกคนยังอยู่ที่นี่ การที่เธอจะกลับออกไปยิ่งยากขึ้น นั่นหมายความว่าเธอจะต้องถูกด้ายที่มองไม่เห็นยึดเธอไว้ในโลกที่ตะวันฉายเป็นใหญ่อีกครั้ง

“กลับมาแล้วเหรอลูก ดาว”คุณบุษบาลุกขึ้นยืน มือไม้เก้ๆกังๆวางท่าไม่ถูกเมื่อพบหน้าลูกสาวที่เพิ่งจะทะเลาะกันไปเมื่อคืน แต่สิ่งที่ได้รับจากลูกสาวคือความเงียบไม่ใช่คำตอบของคำถามที่ถามไป คุณบุษบาหน้าเสียรีบหันไปมองคุณมินตรากับคนอื่นอย่างขอความช่วยเหลือ คุณหญิงผกามาศเลยรีบช่วยทันที

“ทานกลางวันมารึยังยายดาว วันนี้เอาแกงส้มชะอมไข่มาฝากน่ะ ของโปรดเราไม่ใช่เหรอ ทานเลยไหมเดี๋ยวย่าจะได้ให้แม่นิ่มไปอุ่นแล้วยกออกมาเลย ไป ไป๊แม่นิ่ม”ท้ายประโยคบอกกับสาวใช้ที่เตรียมจะลุก แต่ก็ต้องนั่งลงอย่างเก่าเมื่อคนที่ยืนอยู่กลางบ้านพูดขัดขึ้นมา
“ไม่ต้องหรอก ดาวมาเก็บของเดี๋ยวก็จะไปแล้ว”

“ไปไหนดาว เพิ่งจะกลับมาเองนะ”พรายจันทร์รีบลุกจากที่นั่งตรงเข้ามาจับแขนน้องสาวต่างมารดาเอาไว้ คิ้วสวยขมวดเข้าหากัน ส่วนคุณบุษบาก็ทรุดตัวลงนั่งน้ำตาคลอ ท่าทางหมดเรี่ยวแรงของนางทำให้คุณมินตราและคุณหญิงต้องรีบเข้ามาขนาบข้างดูแล

“ก็บอกไปแล้วตั้งแต่เมื่อคืน ดาวไม่ขอทนอยู่ที่นี่ แม่อยากอยู่ก็อยู่ไป”

“ดาว!อย่ามาเหลวไหลนะ พี่โกรธแล้วนะ อย่าทำให้น้าบุษเสียใจสิ พี่รู้ ทุกคนรู้เรื่องเมื่อวาน แต่ดาวก็รู้ว่าคนอย่างพี่ตะวันน่ะเป็นอย่างไร ถ้าดาวออกไปเท่ากับว่าเขาชนะ เขาก็จะยิ่งได้ใจ...”พรายจันทร์จับแขนของน้องสาวเขย่า ก่อนจะพักหายใจเล็กน้อยเพราะใช้แรงตะโกนมากไป

“...ดาวจะยอมเป็นผู้แพ้ แพ้พี่ตะวันที่ดาวสู้มาตลอดน่ะเหรอ ยอมที่จะให้พี่ตะวันเหยียบดาวอยู่อย่างนี้เหรอ...”หญิงสาวปล่อยแขนของดาวเหนือออก แล้วถอยห่างออกมายืนมองหน้าก่อนพูดทิ้งท้าย

“คิดดูเอาเองก็แล้วกันนะ ดาวโตแล้ว”

ดาวเหนือยืนนิ่งเงียบ ความคิดตีกันให้วุ่น ทั้งเรื่องที่พี่สาวคนรองพูด ทั้งเรื่องที่ตัวเองยึดมั่นที่จะทำในวันนี้ จริงอย่างที่พรายจันทร์พูดหากเธอยอมเดินออกไป ก็เป็นการไปอย่างผู้แพ้ แต่หากอยู่ต่อก็แต่จะหาเรื่องให้ต้องเจ็บใจ เจ็บปวด แล้วทีนี้เธอควรจะเลือกทางไหนดี

“ยายดาว คิดให้ดีนะๆ ทั้งสามคนน่ะเป็นหลานของย่า ไม่ว่ายังไงย่าก็อยากให้พวกเราน่ะปรองดองกัน แต่มันคงยากเกินไปสำหรับเรื่องนั้น เอาเป็นว่าย่าไม่ขอให้อภัยยายตะวัน ขอแค่ให้เราอยู่ที่บ้านนี้ต่อไปได้ไหมลูก”คุณหญิงผกามาศพูดเสียงอ่อนโยนอย่างเข้าใจในตัวหลานสาวคนเล็ก อย่างผู้ใหญ่ที่ผ่านโลกมาก่อน ท่ามกลางสายตาที่เปี่ยมไปด้วยความหวังของคุณบุษบาและสายตาอ่อนโยนแกมบังคับของคุณมินตราที่เสริมขึ้นมา

“ดาว ป้าเห็นด้วยกับคุณย่านะ ป้าเป็นแม่แต่ป้าก็ไม่ได้เห็นด้วยกับตะวันหรอกนะ ป้าเข้าข้างความถูกต้อง เรื่องคราวนี้ยายตะวันทำเกินไป แล้วป้ามั่นใจว่าเมื่อดาวไม่อยู่ เขาต้องเล่นงานแม่บุษของเราได้สะดวกขึ้นแน่ ดาวยอมให้แม่เสียใจได้เหรอ ป้าถามแค่นี้”

“ตกลงดาวจะกลับมาอยู่ที่นี่ แต่...”ดาวเหนือตัดสินใจออกมาในที่สุด พรายจันทร์มองหน้าน้องสาวด้วยความดีใจ เช่นเดียวกับคุณบุษบา ส่วนคุณหญิงผกามาศกับคุณมินตราได้แต่ยิ้มออกมาอย่างสบายใจ แต่แล้วก็ต้องหุบยิ้มกันเป็นแถวๆ เพราะประโยคต่อมาของหญิงสาว

“...แต่ยังไม่ใช่ตอนนี้ ดาวขอเวลาสักสองสามวัน แล้วจะกลับมา”

“แต่ว่า...”พรายจันทร์เตรียมจะค้าน แต่ก็ต้องเงียบเมื่อคุณบุษบาลุกขึ้นยืนแล้วเดินเข้ากอดลูกสาวคนเดียวของเธอ

“แม่รอได้ลูก ขอแค่หนูกลับมา”

“ขอบคุณมากแม่ ที่เข้าใจดาว”หญิงสาวกราบที่อกมารดา ก่อนจะยอมนั่งคุยกับมารดา และคนอื่นๆโดยไม่มีเรื่องของเมื่อวานและเรื่องของตะวันฉายมาทำให้บทสนทนาต้องตึงเครียดอีกเลย...


“งั้นดาวไปก่อนนะคะ เดี๋ยวจะดึก เกรงใจทางโน้นเขา”ดาวเหนือบอกลามารดากับพรายจันทร์ซึ่งอยู่ทานข้าวเย็นที่บ้านของเธอและก็เดินออกมาส่งด้วย ส่วนคุณมินตรากับคุณหญิงผกามาศนั้นได้ขอตัวกลับไปเพื่อทานข้าวเย็นร่วมกับบิดาของเธอ ร่างโปร่งวางกระเป๋าเดินทางขนาดเล็กไว้ที่เบาะหลังก่อนจะหันกลับไปบอกทั้งสองสาวที่ยังคงยืนมองเธออยู่

“แม่กับพี่จันทร์กลับเข้าบ้านไปเถอะ เดี๋ยวดาวก็จะไปแล้ว”

“งั้นก็ดูแลตัวเองนะลูก สบายใจแล้วค่อยกลับมา แม่สัญญาว่าต่อจากนี้ไปแม่จะเข้าใจลูกให้มากขึ้น เอาใจคุณตะวันให้น้อยลงดีไหมจ๊ะ”คุณบุษบาให้สัญญากับลูกสาวอีกครั้ง ก่อนจะหัวเราะออกมาเบาๆเมื่อได้ยินประโยคที่พยายามจะให้เบาแต่ก็ไม่เบาของเธอเข้า

“ขอให้เป็นอย่างนั้นทีเถอะ”

“เอาล่ะ แม่กับคุณจันทร์ไปก่อนนะ”คุณบุษบาบอกลาก่อนจะเดินกลับไปในบ้านคนเดียว เพราะพรายจันทร์มีเรื่องจะพูดกับดาวเหนือ

“พี่จันทร์มีอะไรเหรอ”

“พี่พัดกลับมาแล้ว ดาวรู้รึยัง”พรายจันทร์เข้าเรื่องทันทีไม่มีอ้อมค้อม ก่อนจะเกิดความสงสัยเมื่อเห็นหน้าตาเบื่อหน่ายของน้องสาวคนโปรด

“รู้แล้ว เขาไปหาที่บริษัทวันนี้”

“แล้วไป พี่นึกว่ายังไม่รู้ พี่พัดเขาเป็นห่วงดาวมากนะ พอรู้ว่าดาวทะเลาะกับน้าบุษแล้วก็ออกจากบ้านไป เขาก็ซักพี่ใหญ่เลย จนพี่รู้สึกเหมือนเป็นผู้ต้องหาเลย”พรายจันทร์บอกแล้วหัวเราะเบากลบเกลื่อนความปวดใจที่ต้องพูดเรื่องนี้ ดาวเหนือเลิกคิ้วอย่างงงๆเพราะยังไม่เข้าใจวัตถุประสงค์ที่พี่สาวมาพูดถึงเรื่องนี้

“พี่จันทร์จะบอกแค่นี้เหรอ”

“อ๋อ อืม พี่นึกว่าดาวยังไม่รู้ว่าแต่ ดาวมีปัญหาอะไรกับพี่พัดเหรอ”

“เปล่านี่ พี่จันทร์คิดว่ามีเหรอ”

“เปล่าจ๊ะ ไม่มีก็ดีแล้ว ดาวถ้าดาวกับพี่พัดมีปัญหากัน ไม่ว่าเรื่องอะไรบอกพี่นะ ต้องบอกนะเข้าใจไหม”พรายจันทร์บอกกับน้องสาวหน้าตาจริงจัง จนอีกฝ่ายอดไม่ได้ต้องถาม

“ทำไมล่ะ”

“พี่ไม่ไว้ใจพี่ตะวัน เขาเคยบอกกับพี่ว่าเขาจะทำทุกอย่างเพื่อที่จะให้ดาวเจ็บปวดที่สุด พี่กลัวว่าเรื่องของพี่พัดกับดาวจะเป็นเรื่องหนึ่งที่เขาจะจัดการ”พรายจันทร์บอกความจริงที่ตะวันฉายเคยบอกกับเธอเมื่อไม่นานมานี้ให้น้องสาวฟัง ดาวเหนือมองใบหน้าที่เต็มไปด้วยความกังวลของพี่สาวเงียบๆก่อนจะเอ่ยปากขอบคุณ

“ขอบคุณพี่จันทร์มาก แต่ไม่ต้องห่วงหรอก ดาวเอาตัวรอดได้”

“ไม่ต้องห่วงนะดาว ต่อให้ตายพี่ก็จะไม่มีวันยอมให้พี่ตะวันมาทำให้ดาวและพี่พัดต้องหมางใจกัน พี่สัญญา”พรายจันทร์บอกกับน้องสาวอย่างมุ่งมั่น ก่อนจะโบกมือลาแล้วกลับเข้าบ้านหลังน้อยของเธอไป

ดาวเหนือมองตามร่างบางของพีสาวไป ก่อนจะยิ้มออกมาอย่างอ่อนโยน อย่างน้อยในความมืดที่เธอต้องเผชิญก็ยังพอมีแสงสว่างกับความช่วยเหลืออยู่บ้าง

ร่างโปร่งเปิดประตูรถก่อนจะขึ้นไปประจำที่คนขับ มือเรียวกำลังจะปิดประตูก็มีอันต้องชะงัก เมื่อใครบางคนกระชากประตูรถของเธอเอาไว้อย่างแรง หญิงสาวไม่ต้องเงยหน้ามองก็รู้ได้จากสัญชาตญานว่าใครกันที่เป็นคนไร้มารยาทคนนั้น ตะวันฉาย!

“ไม่แน่จริงนี่ กลับมาทำไม นังดาวตก!”ตะวันฉายตะคอกใส่ร่างโปร่งของหญิงสาวที่เธอเกลียดแสนเกลียด เธอเพิ่งกลับจากงานเลี้ยงวันเกิดของเพื่อนคนหนึ่งซึ่งเธอก็ดื่มและเต้นอย่างสนุกสนานเป็นการฉลองให้กับตนเองในเรื่องที่กำจัดอีกฝ่ายออกไปได้ แต่ไม่นึกเลยว่าจะได้เจอกับคนที่เธอกำจัดออกไปแล้วอีกครั้ง

“เรื่องของฉัน จะทำไม”ดาวเหนือย้อนกลับ ตะวันฉายตาลุกวาวเมื่อได้ยินแบบนั้น ร่างระหงกระชากแขนอีกฝ่ายให้ออกมาจากรถ ดาวเหนือพยายามขืนตัวเองเอาไว้แต่ก็สู้แรงบ้าของพี่สาวคนโตไม่ได้ จึงต้องออกมานอกรถ

“แกไสหัวออกไปเดี๋ยวนี้นะ!”

“ฉันไปแน่ แต่ไม่ได้ไปแบบถาวรนะ ฉันไปทำธุระ เดี๋ยวฉันก็กลับมา อย่าผยองกับแผนที่คุณคิดว่าสำเร็จ เพราะมันทำให้ฉันเสียเซลฟ์ได้ไม่นานหรอก แล้วฉันก็จะกลับมาเป็นดาวเหนือคนที่คุณเกลียดเหมือนเดิม อย่าหวังว่าคุณจะชนะฉันได้อีก! คุณตะวัน!”ดาวเหนือตะตอกใส่อีกฝ่ายกลับ พร้อมกับผลักตะวันฉายที่กำลังช็อกลงไปกองกับพื้นดิน หญิงสาวทำท่าจะกรีดร้องออกมา ดวงตาสวยเฉี่ยวจ้องอีกฝ่ายอย่างเคียดแค้นหนักกว่าเก่า

“แก!นังดาวเหนือ อย่าอยู่เลยวันนี้”จบคำร่างระหงของลุกพรวดเข้าไปหาดาวเหนือที่ตั้งท่ารับอยู่แล้ว นิ้วเรียวสวยพยายามที่จะจิกหน้าดาวเหนือให้ได้ แต่ก็ไม่สามารถด้วยฤทธิ์แอกกอฮอลล์ที่เธอได้ดื่มเข้าก่อนหน้านี้บั่นทอนแรงของเธอลงไป ทำให้ดาวเหนือที่สมบูรณ์พร้อมทุกอย่างเป็นฝ่ายได้เปรียบ

เพี้ยะ!

“คุณตบฉันก่อนมามากแล้ว คราวนี้โดนฉันตบก่อนบ้างก็แล้วกันคุณตะวัน”หญิงสาวบอกกับตะวันฉายที่ใบหน้าเนียนเกิดรอยแดงรูปฝ่ามือขึ้นมาแถบหนึ่ง การกระทำของดาวเหนือทำให้เส้นสติที่เหลืออยู่น้อยนิดของตะวันฉายขาดผึง ร่างระหงจิกผมอีกฝ่ายที่หันหลังจะไปขึ้นรถอย่างแรงแล้วหมุนให้มาเผชิญหน้าก่อนจะฟาดฝ่ามือลงไป หากแต่ดาวเหนือยกมือขึ้นมากันเอาไว้ได้ ร่างโรป่งตั้นใจจะฟาดฝ่ามือลงไปอีกทีแต่เสียงห้ามของบิดาของทั้งคู่ก็ดังขึ้นมาก่อน

“หยุดเดี๋ยวนี้นะ ทั้งคู่เลย!”

“คุณพ่อ! คุณพ่อดูสิคะ ดาวเหนือตบตะวัน คุณพ่อต้องจัดการให้ตะวันนะคะ”ตะวันฉายสลัดตัวให้พ้นจากการจับกุมของอีกฝ่าย รีบเข้าไปฟ้องบิดาที่ยืนมองเธอทั้งคู่อยู่ ดาวเหนือลดมือที่เงื้อเอาไว้ลงก่อนจะหันมามองบิดาเงียบๆ

คุณชนะชัยมองหน้าลูกสาวคนโปรดที่ตัวเขาเองก็ต้องยอมรับว่ามีส่วนทำให้อีกฝ่ายเอาแต่ใจ เจ้าอารมณ์ ไม่เห็นหัวใครอย่างเช่นทุกวันนี้ ก่อนจะหันไปมองหน้าลูกสาวคนเล็กที่ยืนมองสบตาท่านอย่างเฉยชาอย่างสงสาร

“มนุษย์น่ะเขาไม่มาทะเลาะกับอย่างกับสัตว์เดรัจฉานอย่างนี้หรอก มีอะไรคุยกันดีๆไม่ได้หรือไง หึ! ตะวันฉาย ดาวเหนือ”

“มันเริ่มก่อนนี่คะ คุณพ่อ”ตะวันฉายชี้หน้าคนที่เป็นฝ่ายเริ่มก่อน ซึ่งจ้องกลับมาตาแข็งกร้าวอย่างไม่ยอมแพ้

“ใครกันแน่ที่เริ่มก่อน ดาวอยู่ของดาวดีๆ กำลังจะไปแล้วด้วยซ้ำ คุณตะวันต่างหากที่มากระชากประตูรถของดาวก่อน แล้วยังมาว่าดาวต่างๆนานา จะให้ทนเฉยก็คงไม่ใช่ดาวแล้วล่ะ”หญิงสาวโต้กลับอย่างไม่สนใจบิดาที่ยืนเป็นคนกลาง ซึ่งคุณชนะชัยเองก็ทนไม่ไหวแล้วเช่นกันจึงตะโกนสั่งให้หยุด

“พอที! ไม่เห็นฉันที่ยืนหัวโด่ยู่เลยรึไง นึกจะเถียงก็เถียงกัน ไปเลยไป ยายตะวันขึ้นบ้านไป”

“คุณพ่อ! เข้าข้างมันเหรอคะ”ตะวันฉายร้องอย่างไม่พอใจเมื่อเห็นว่าบิดาไม่ได้ทำโทษอะไร หรือพูดให้อีกฝ่ายต้องมาขอโทษเธออย่างทุกที และเมื่อหันไปมองคู่อาฆาตก็เห็นอีกฝ่ายทำหน้าตาเฉยเมยแต่ดวงตาฉายแววสะใจ ยิ่งทำให้ความโกรธพุ่งขึ้น หากแต่ไม่สามารถทำอะไรได้เพราะบิดามองตาเขียวอยู่ สุดท้ายเธอจึงจำใจเดินกลับบ้านของตนไปอย่างหงุดหงิด

ตะวันฉายเดินตรงเข้าไปหยุดยืนเบื้องหน้าดาวเหนือ ดวงตาเรียวจ้องหน้าอีกฝ่ายแล้วยิ้มเยาะ ก่อนพูดทิ้งท้ายด้วยประโยคที่ชวนให้ดาวเหนือเริ่มไม่สบายใจ ก่อนที่คนทิ้งระเบิดจะเดินกระแทกไหล่เธอจากไป

“ระวังจะถูกแทงข้างหลัง พัดยศกับยายจันทร์ นังโง่!”



ไอจันทร์
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 14 เม.ย. 2554, 22:16:18 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 14 เม.ย. 2554, 22:16:18 น.

จำนวนการเข้าชม : 1808





<< ตอนที่ 9   ตอนที่ 11 >>
เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account