ในชุดภารกิจรัก เรื่องราชนาวีที่รัก

Tags: ทหารเรือ นักเขียน

ตอน: 17.2 "ดีใจว่าอ้อมแขนเขาว่าง แต่อีกใจก็กลัวว่าจะเป็นอ้อมแขนของคนลวง"

17.2

หลังมื้อกลางวันที่เป็นอาหารจำพวกอาหารจานเดียว ผู้การจิรวัติกับต้นเรือศุภโชคก็พากันกลับไปยังเรือ ต.92 และระหว่างทาง ต้นเรือก็เอ่ยปากถามถึงการแก้ไขปัญหาในครั้งนี้ของผู้บังคับการเรือของตน และจิรวัติก็บอกเล่าไปตรง ๆ ซึ่งมันก็ยังความตกใจมาสู่คนฟังอยู่ไม่น้อย

“โห..บอกรักไปเลยหรือพี่..เร็วไปไหมเนี่ย”

“ไม่บอกวันนี้ พรุ่งนี้ก็ต้องบอกอยู่ดี จะเก็บไว้ทำไม แล้วบรรยากาศก็พาไปด้วย..”

“ขุนแผนเรียกพี่จริง ๆ”

“มากไปแล้ว..เล่าให้ฟังแล้วเอามาประณาม..คราวหลังจะไม่เล่าอีก.”

“แหม ครูไม่เล่า แล้วศิษย์จะเจริญรอยตามได้อย่างไร”

“เอ็งกับพี่ญาล่ะ ถึงไหนกันแล้ว..”

“คุยกันเรื่องทั่ว ๆ ไป ครับ ส่วนใหญ่ผมจะโดนล้วงตับเรื่องงานเสียมากกว่า”

“เปิดเผยความลับของทางราชการหมดแล้วใช่ไหม”

“มีคนสนใจอยากรู้ความเป็นมา ความเป็นไปของเรามันก็ดีนะพี่..” ตอบไปพลางมองออกไปนอกรถ..ส่งใจถึงคนที่เพิ่งแยกจากกัน..และดวงตาเลื่อนลอยนั้น จิรวัติก็มั่นใจว่า ต้นเรือศุภโชค รุ่นน้อง คนในใต้บังคับบัญชา คงจะมีความรักเข้าให้แล้ว..

“ตอนนี้อยากได้ความอบอุ่นแล้วละซิ”

“นิดหน่อย”

“..แล้วนี่ถ้าพี่ลงเอยกับคุณแพรว แกลงเอยกับพี่ญาได้จริง ๆ ลูกที่เกิดมามันจะเรียงลำดับพี่น้องกันอย่างไงวะ”

“นับศักดิ์ทางพ่อมันไง..ลูกผมก็จะเรียกพี่ว่าลุง ลูกพี่ก็จะเรียกพี่ญาของพี่ ว่าอา...”

“เอาอย่างนั้นนะ”

“แต่ตอนนี้ พี่มาช่วยผมคิดก่อนดีกว่าว่า ผมจะทำอย่างไรให้คุณญาเขาเผยความในใจออกมา..”

“แต่พี่ต้องถามเอ็งก่อนว่า เอ็งมั่นใจว่ารับเขาได้แล้วใช่ไหม มันมีช่องว่างตรงเรื่องอายุอยู่นะ ผู้ชายมีเมียแก่กว่าหลาย ๆ ปี จะถูกเพื่อนล้อไปจนตายเลยนะโว้ย คิดให้ดีนะ..ถ้าเล่นกับเขาแล้วไม่คิดจริงจัง ถ้าเขาเสียใจ เขาก็จะขังตัวเองไปจนตายเลยนะ”

///////////////////////////////

กลับมาถึงที่พัก แพรวพรรณก็เปิดเครื่องบันทึกเสียงให้หิรัญญาฟัง และระหว่างที่ฟังหิรัญญาก็ทำท่าเลี่ยนพะอืดพะอมจะสำรอกข้าวที่กินไปเสียตั้งหลายหน จนกระทั่งถึงประโยคที่ว่า “แพรวขอกอดพี่สักอึดใจนะคะ”..หิรัญญาก็ตีที่ขาของแพรวพรรณก่อนจะถลึงตาเข้าใส่..

“ทำอย่างนั้นทำไม ..น่าเกลียดจริง ๆ”

แพรวพรรณอมยิ้ม..จนกระทั่งเสียงที่บันทึกไว้จบลง แพรวพรรณจึงพูดด้วยสีหน้ายิ้ม ๆ ว่า

“แหมพี่ หวานซะขนาดนั้น แพรวก็หูอื้อตาลายขาดสติ..”

“แล้วพอกอดแล้วเขาทำอะไรเธอบ้าง”

“ตอนแรกเขาไม่ได้กอดตอบหรอก มากอดตอบทีหลัง กอดกันแล้วอุ่นนะคะ เวลาเราเขียนนิยายเราจะให้พระเอกนางเอกกอดกันจูบกันตอนจบ ริมทะเลบ้าง ภายใต้ฉากหลังสวยงามมากมาย เราก็คิดแค่ว่ามันเป็นความสุขสมหวัง แต่เอาเข้าจริง ๆ ชีวิตจริง ๆ มันยิ่งกว่านั้นนะคะ..หลากหลายความรู้สึกมันประเด
ประดังเข้ามา..เบื้องต้นแพรวดีใจ ตามประสาสาว ๆ ว่าความปรารถนาของเราเป็นจริง..ก็อย่างที่แพรวบอก
เขาไปแหละค่ะ..ดีใจที่อ้อมแขนเขาว่าง ดีใจว่าเขาอยากกอดเรา อยากให้เราอยู่ในอ้อมแขนของเขา แต่อีกใจก็กลัวว่า อ้อมแขนนั้นเป็นอ้อมแขนของคนลวง แต่อีกใจก็ว่า สุขแค่นี้ดีกว่า ที่จะไม่ได้รับรู้ความสุขจากคำว่ารักเลยสักครั้ง..มันอาจจะเหมือนถ้อยคำของคุณหญิงกีรติ จากเรื่องข้างหลังภาพ ฉันตายโดยปราศจากคนที่ฉันรัก แต่ฉันก็อิ่มใจว่า ฉันมีคนที่ฉันรัก อนาคตระหว่างแพรวกับพี่เขา แพรวไม่รู้ แต่ความในใจของแพรวมันส่งถึงคนที่ใจเรารักไปแล้ว พอแล้วค่ะ..ที่เหลือก็ให้กาลเวลาเป็นตัวพิสูจน์คน..”
แพรวพรรณพูดจบ หิรัญญาก็ปรบมือให้โดยดวงตามีน้ำตาคลอครอง..

/////////////////////

ด้วยพี่ชายกับพี่สะใภ้จะมาสมทบในตอนเย็น แพรวพรรณจึงต้องรีบโทรหานงนุชเพราะงานนี้มันจำเป็นต้องพาครอบครัวของพี่ชายไปมีส่วนร่วมด้วย นงนุชอนุญาต แต่แพรวพรรณขอเป็นคนจ่ายค่าอาหารสดมื้อนี้เอง นงนุชจะไม่ยอม แพรวพรรณจึงต้องยกเรื่องความเกรงใจมาอ้าง แล้วในที่สุดนงนุชก็ต้องยอมให้แพรวพรรณเลือกซื้อหาอาหารสดในห้างโลตัสไว้รอเธอ

เมื่อตกลงกันได้แล้ว แพรวพรรณกับหิรัญญาก็พากันออกจากที่พักมาห้างโลตัส เพื่อซื้อของ กับรอพี่ชายที่กำลังจะเดินทางมาถึงด้วย..และระหว่างที่เดินตากแอร์เลือกซื้อของ หิรัญญาก็ชวนแพรวพรรณคุยไปตามประสาคนที่ชอบคิดวิเคราะห์คิดสังเคราะห์เรื่องของตัวเองและเรื่องรอบ ๆ ตัวด้วยเหตุผลและอารมณ์

“บอกผู้การหรือยังว่าเธอทำอาหารไม่เป็น”

“ยัง..แต่ผู้ชายสมัยนี้เขาไม่ถือไม่สาหรอกพี่..แล้วเขาเองทำอาหารเป็นหรือเปล่าแพรวก็ไม่ได้ถาม เห็นแต่ว่าเขาชมต้นเรือน่าดู”

“แม่ต้นเรือตายตั้งแต่เขาเด็ก ๆ ที่บ้านมีแต่ผู้ชาย เขาก็เลยต้องเข้าครัวทำงานบ้านช่วยพ่อ”

“โห..สืบประวัติกันน่าดู”

“ปกติฉันก็ชอบสืบประวัติคนอยู่แล้ว..ตอนที่ฉันไปหาหมอที่โรงพยาบาล ฉันเห็นโต๊ะซักประวัติ ฉันอยากทำงานในตำแหน่งนั้นมาก ฉันคงจะมีความสุขมาก”

“แหมพี่ เขาแค่ถามเล็ก ๆน้อย ๆ”

“เหรอ ฉันก็นึกถามไปถึงต้นตระกูล นั่งรออยู่นานมากกกกกกกก แม่ง ไม่รู้ถามอะไรกันหนักหนา”
แพรวพรรณหัวเราะขำกับมุกตลกของหิรัญญา

“เขาคัดกรองประวัติ จะได้ลดเวลาทำงานของหมอ..”

“เหรอ..แล้วนี่ ผู้การเธอ เขามีพี่มีน้องกี่คน..”

“มีน้องสาวคนหนึ่งและ รู้สึกว่าจะมีน้องชายอีกคน รุ่นพี่แพรว แพรวจำไม่ได้ แพรว รู้แต่ว่าสักปลั่งเป็นตระกูลใหญ่ นามสกุลสุกปลั่งเต็มโรงเรียนไปหมด เลยไม่รู้ใครเป็นลูกใครบ้าง..”

“จำได้แต่เขาคนเดียว”

“เนื้อคู่แพรวนี่คะ”แพรวพรรณเข็นรถไปคุยไป

“ไม่น่าเชื่อว่าเขาจะเชื่อเรื่องดูดวง เรื่องเนื้อคู่คำทำนายนั่นเนอะ..”

“คนไม่ใช่ก็ต้องมีเหตุให้ไป คนที่ใช่ เดี๋ยวก็มาเจอกัน..ฟังสตอร์รี่ชีวิตรักก่อนหน้านั้นของเขามันก็น่า
เชื่ออยู่นะพี่...ตอนที่แพรวได้ยินเสียงเขา แพรวก็รู้สึกคุ้นหูเหมือนกัน” พอพูดถึงเขาดวงตาของแพรวพรรณก็เต้นระยิบระยับ ใบหน้านั้นเปี่ยมล้นไปด้วยความสุข..

“ตอนที่พี่เห็นหน้าต้นเรือครั้งแรกพี่รู้สึกอย่างไรบ้างอ่ะ..”

“ไม่ต้องวกกลับมาหาฉันเลยนะ ฉันมาคิด ๆ ดูแล้ว..ฉันกับเขาไม่เหมาะสมกันหรอก..เมื่อเช้าฉันก็แค่ขาดสติ เผลอพูดหลุดปากออกไป..ฉันว่า ฉัน ขออยู่อย่างเดิมดีกว่า”

“กลัวฝนขึ้นมา..”

“พี่แก่กว่าเขาเจ็ดปีเลยนะแพรว..แล้วอีกอย่าง พี่ว่า เขาก็คงเคลิ้ม ๆ ไปเพราะลูกยุ กับเพราะเมาเหมือนกัน..แล้วเดี๋ยวพี่กลับไป เขาก็คงได้สติ..แล้วก็ปล่อยให้เรื่องที่เกิดขึ้นหายไปกับกาลเวลาที่หมุนไป..”

“แล้วถ้าเขาไม่ทำอย่างนั้นละพี่..”

“ถ้าเขาอยากกินนมใกล้หมดอายุก็ต้องปล่อยให้กิน”

“พูดแบบนี้ ถ้าเขาไม่ถอยพี่ก็จะสู้ใช่ป่ะ”

“เงินห้าหมื่น ทองห้าบาท มันก็เยอะอยู่นะแพรว..แต่ว่าเธอสองคนต้องไม่เบี้ยวนะ”

“เอาเลยไหมละ..จะได้กดเงินออกมาให้เลย แต่รับไปแล้วต้องทำให้ได้นะ..”

หิรัญญาสั่นหน้า และตอนนั้นโทรศัพท์ของแพรวพรรณก็ดังขึ้น..เป็นสายจากพงศ์พันธุ์ ซึ่งกำลังจะถึงสัตหีบ..

////////////////////////
ระหว่างที่กำลังนั่งอ่านหนังสือนิยายเรื่อง แรงรักแรงแค้น ของหิรัญญาอยู่ในเรือ โทรศัพท์ของต้นเรือศุภโชคก็ดังขึ้น..และพอเห็นว่าเป็นเบอร์ของใคร เขาก็ถึงกับปั้นหน้าเมื่อย..แต่ว่าจะไม่รับสายก็ไม่ใช่นิสัยของเขา..“มีอะไรให้พี่รับใช้หรือครับ”

“พี่ต้นเป็นอย่างไรบ้าง”

“ก็สบายดีครับ”

“รู้เรื่องที่น้องฐาไปก่อไว้หรือยังคะ”

“รู้แล้วครับ”

“แก้ไขปัญหาอย่างไรบ้างคะ”

“เอ่อ อันนี้พี่ก็ไม่รู้เหมือนกันครับ โทรถามกันเอาเองเถอะ..”

“แล้วคิดว่าน้องฐาจะมีแค่แผนเดียวเหรอคะ” ว่าแล้วฐาปนิสรก็หัวเราะอย่างเป็นต่อ หัวเราะแบบเจ้าเล่ห์จนต้นเรือรู้สึกหวั่นใจกับสวัสดิภาพของแพรวพรรณกับหิรัญญาไปด้วย

“ถ้าขอร้องดี ๆ แล้วไม่ให้ความร่วมมือ จะหาว่าน้องฐาร้ายไม่ได้นะ ถึงพี่ต้นจะบอกเลิกกับน้องฐาแล้ว แต่ว่าน้องฐายังไม่ได้เซ็นอนุมัติ เรื่องมันก็ยังจบไม่ได้ อยากจองเวรจองกรรม..เหมือนหนังเรื่องแฟนเก่าน่ะคะ พี่โชคก็เคยดูไม่ใช่เหรอคะ”

“แล้วมาบอกกับพี่ทำไม”

“ก็แล้วแต่พี่โชคจะสะกิดเตือนใคร สุดแต่ใจพี่เลยค่ะ แค่นี้นะคะ น้องฐาขอตัวไปทำตามแผนสอง
ก่อนค่ะ..ขอบคุณที่รับสายนะคะ”

///////////////////////////

เมื่อแต่งตัวเสร็จเรียบร้อย ต้นเรือศุภโชคซึ่งจะต้องอาศัยรถของผู้การจิรวัติไปบ้านของผู้การอนุสิทธิ์ที่อยู่ในสวนนอกค่ายทหาร ก็ถือวิสาสะผลักประตูห้องที่เปิดแง้มไว้ให้เสียงเพลงจากคอมพิวเตอร์โน้ตบุ้คส์ที่ต่อเชื่อมกับลำโพงตัวเล็กแต่พลังเสียงเยี่ยมเล็ดลอดออกมา และเมื่อเห็นว่าผู้การ กำลังยืนเซ็ทผมหน้ากระจกที่แขวนอยู่ติดอยู่กับผนังห้อง เขาก็กระแอมให้เจ้าของห้องรู้ว่าเขาเข้าห้องมาแล้ว...

ต้นเรือศุภโชคเดินไปทรุดตัวลงนั่งบนเก้าอี้ มองหน้าจอที่ปรากฏรูปพื้น Desktop เป็นรูปของแพรวพรรณโดยฉากหลังเป็นอนุสาวรีย์นาวิกโยธิน ณ อ่าวเตยงาม แล้วก็ต้องอมยิ้ม..ซึ่งตั้งแต่มาอยู่เรือลำเดียวกัน แพรวพรรณเพิ่งเป็นผู้หญิงคนแรกที่ผู้การของเขาให้เกียรตินำขึ้นเป็นภาพปรากฏหน้าจอเมื่อเปิดคอมพิวเตอร์ เขานึกอยากจะหยอกล้อ แต่ว่าเพลง ‘สักวันหนึ่ง’ เพลงประกอบภาพยนตร์ที่โปรแกรม Winamp กำลังเล่นอยู่นั้นซึ่งเขาก็นึกได้ว่า มันเป็นเพลงเสียงเรียกเข้าเครื่องของแพรวพรรณด้วย..

“มากไปไหมเนี่ย” ในที่สุดศุภโชคก็อดที่จะหยอกเย้าไม่ได้..

“อะไร...” จิรวัติหันมาถาม...

แต่ว่าศุภโชคก็ตอบโดยการยิ้มหน่าย ๆ กับรูปหน้าจอและเพลงที่ตั้ง repeat ไว้..

“เชื่อแล้วว่ารักกันจริง ๆ ทั้งรูปทั้งเพลง..”

“จีบผู้หญิงต้องเป็นคนหูไวตาไว ดูว่าเขาชอบอะไร แล้วก็จำไว้..แค่นี้เราก็จะได้ใจเขาง่าย ๆ”

“แล้วพี่ชอบเพลงนี้ไหม” ที่ถามอย่างนั้นเพราะต้นเรือรู้ว่าผู้การชอบเพลงลูกทุ่งเป็นอย่างมาก

“ก็..ฟังบ่อย ๆ ก็เพราะดี..เศร้า ๆ สุนทรีย์ เพลงแห่งแรงบันดาลใจ..”

ขณะที่นั่งคุยสายตาของต้นเรือก็มองไปยังรูปขนาด 12 คูณ 15 นิ้ว ที่วางพิงผนังห้องไว้ ซึ่งรูปนี้เป็นรูปสมัยที่ผู้การจิรวัติอยู่โรงเรียนเตรียมทหาร ในรูปมีเขากับเพื่อนร่วมรุ่นอีกสามคนอยู่ในชุดปกติ เครื่องแบบพื้นฐานของนักโรงเรียนโรงเรียนเตรียมทหาร ที่ต้องสวมใส่ยามออกนอกบริเวณโรงเรียน ลักษณะเครื่องแบบประกอบด้วยเสื้อเชิ้ตแขนยาวสีขาวรัดรูป กางเกงขายาวสีเขียวขี้ม้า สวมรองเท้าหนังคัชชูสีดำ ติดกระดานบ่าที่ไหล่ทั้งสองข้าง ผูกเนคไทซ่อนปลาย สวมหมวกหม้อตาลสีเทา มีหน้าหมวกเป็นโลหะสีทองแวววาว แต่ละส่วนของเครื่องแบบล้วนมีเอกลักษณะเฉพาะและมีความหมายซ่อนอยู่ อย่างหมวกหม้อตาลสีเทา เป็นหมวกของนักเรียนนายเรืออากาศ กระดานบ่าสีดำก็เป็นเครื่องหมายของนักเรียนนายเรือ ส่วนหน้าหมวกกับกางเกงสีเขียวขี้ม้าก็มาจากเครื่องแบบของนักเรียนนายร้อย..

“เพื่อนพี่สามคนนี่ แยกย้ายไปอยู่เหล่าไหนกันบ้าง”

“ครบ บก อากาศ ตำรวจ..”

“แล้วแต่งงานแต่งการกันไปหรือยัง”

“..บ้างานกันทั้งนั้น..ถ้าจะมีเมีย ก็คงต้องจับใส่พานประเคนให้...”



จุฬามณีเฟื่องนคร
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 22 พ.ย. 2554, 02:54:15 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 22 พ.ย. 2554, 02:54:15 น.

จำนวนการเข้าชม : 3778





<< 17.1 "ผู้ชายได้คืบจะเอาศอก"   18.1 สามสิบยังแจ๋ว.. >>
จุฬามณีเฟื่องนคร 22 พ.ย. 2554, 02:55:52 น.
มาซะดึกกกกกกก..มากกกกกก...เอาเป็นว่า ตอนไหนครบ 100 like ก่อนตอนนั้นจะถูกจับฉลาก...แจกหนังสือแล้วกันนะ..พบกันอีกที วัน..อะไรดีละ...ตอนนี้ถูกใจวาทะไหนกันบ้าง..วานบอก..จุ๊บ ๆ คร็อก!!


minafiba 22 พ.ย. 2554, 02:56:56 น.
^_^


XaWarZd 22 พ.ย. 2554, 03:49:33 น.
กดให้ตลอดทำไมมันไม่ครบซักทีเนี่ย
ฐาจะมาไม้ไหนหนอ สู้ๆ นะหนูแพรว


ณัฐวีร์ 22 พ.ย. 2554, 04:42:32 น.
“จีบผู้หญิงต้องเป็นคนหูไวตาไว ดูว่าเขาชอบอะไร แล้วก็จำไว้..แค่นี้เราก็จะได้ใจเขาง่าย ๆ” ชอบประโยคนี้ค่ะ // ส่วนน้องฐา เอาไปไกลๆ เลยได้มั้ยเนี่ย เริ่มจะทนไม่ได้แล้ว


เด็กหญิงม่อน 22 พ.ย. 2554, 07:14:57 น.
"เปิดเผยความลับของราชการหมดแล้วใช่ไหม"
จากประโยคนี้รู้สึกเหมือนพี่ญาเจ้าเล่ๆยังไงไม่รู้สิ ^^


แว่นใส 22 พ.ย. 2554, 08:19:53 น.
มารยังผจญไม่เลิกเลยนะเนี่ย


mottanoy 22 พ.ย. 2554, 08:59:25 น.
เพิ่งรู้ว่าคนเขียนปากจัดเหมือนกันนะเนี่ยน(ชมนะคะไม่ได้ว่าอิอิ)


Solnushka 22 พ.ย. 2554, 09:16:57 น.
แง่วว อ่านไปอ่านมา ทำไมรู้สึกเหมือนว่าผู้การจิรวัติของเราดูไม่ค่อยรักนางเอกเท่าไรเลย ออกแนวเจ้าชู้มากกว่า


morisa 22 พ.ย. 2554, 09:25:51 น.
"ถ้าเขาอยากกินนมใกล้หมดอายุ ก็ต้องปล่อยให้กิน"
ยกให้เป็นวาทะเด็ดสำหรับวันนี้ฮับ

ชอบที่สองสาวคุยกัน กับสองหนุ่มปรึกษากัน
ตัวละครมีคำพูดที่ฉลาดทำให้เรายิ้ม และฉุกคิดตามไปด้วย
เพราะฉะนั้นตอนต่อไปอย่าให้ต้องรอนาน



อาเช็ง 22 พ.ย. 2554, 09:51:32 น.
อ้างอิงจากข้างหลังภาพ คุณหญิงกีรติน่าจะพูดว่า "ฉันตายโดยปราศจากคนที่รักฉัน แต่ฉันก็ยังภูมิใจว่ามีคนที่ฉันรัก" เช็คอีกทีนะคะ


ป้าพร 22 พ.ย. 2554, 10:11:50 น.
"ถ้าเขาอยากกินนมหมดอายุ ก็ต้องปล่อยให้กิน" ฮื้อ..."ขุนแผนเรียกพี่จริงๆ" ป้าต้องเอาใจช่วยสี่คนนี้สุดๆใจเลย ส่วนน้องแพรวต้องตั้งรับกับน้องฐาเอาไว้ด้วยความมั่นคงอย่าหวั่นไหว สู้ๆ


zeen 22 พ.ย. 2554, 11:05:00 น.
ลงชื่อก่อนนะคะ เดี๋ยวกลับมาอ่านต่อ งานเข้าพอดี


อาเช็ง 22 พ.ย. 2554, 12:08:36 น.
ขอโทษที สับสนเองค่ะ ประโยคหลังคุณเฟื่องถูกแล้วค่ะ


Baitoeyz 22 พ.ย. 2554, 12:31:39 น.
เริ่มรู้สึกเหมือน คุณ Solnushka เลย T^T เอาเป็นว่าจะพยายามเข้าใจว่าเป็นการแสดงความรักของคน(เคย)เจ้าชู้ละกันนะ


แวนด้าน้อย 22 พ.ย. 2554, 14:07:24 น.
ตามชื่อตอนเลยค่ะ "ดีใจที่อ้อมแขนเขาว่าง แต่อีกใจก็กลัวว่า อ้อมแขนนั้นเป็นอ้อมแขนของคนลวง" แต่ประโยคเด็ดเค้าเยอะจริงๆ ชอบทุกประโยคเลยค่ะ


jeejar816 22 พ.ย. 2554, 14:13:53 น.
ต้นกล้าเอ้ยมาตกม้าตายเอาตอนนี้เอง ...หูไวตาไว ...เอาเถอะถ้าหนูแพรวได้ยินเป็นอันล่ม


Zephyr 22 พ.ย. 2554, 14:47:48 น.
มรสุมฐาปนิสรระลอกสองกำลังจะเข้าแล้ว พี่ต้นกะหนูแพรวสร้างคันกั้นยัง


หนอนฮับ 22 พ.ย. 2554, 15:53:07 น.
ยัยฐานี่เข้าขั้นโรคจิตอ่อนๆ


milbol 22 พ.ย. 2554, 16:17:49 น.
กดทุกตอน มีกดซ้ำได้จะกดตอนละหลายๆซ้ำเลย


anOO 22 พ.ย. 2554, 16:18:17 น.
"ถ้าเล่นกับเค้าแล้วไม่จริงจัง เค้าจะเสียใจ เค้าจะขังตัวเองไปจนตาย"
แอบชอบประโยคนี้ ผู้หญิงเราคิดแบบนี้จริงๆ แหละ


nunoi 22 พ.ย. 2554, 18:33:19 น.
"ถ้าเขาอยากกินนมหมดอายุ ก็ต้องปล่อยให้กิน" ฮาดี


เดิมเดิม 22 พ.ย. 2554, 20:25:19 น.
ชอบที่หนูแพรวคุยกะพี่ญาเรื่องชอบสืบประวัติหน่ะค่ะ ฮามาก


จุฬามณีเฟื่องนคร 22 พ.ย. 2554, 22:33:07 น.
56 like 615 คลิ๊ก ขอบคุณจากทุก ๆ กำลังใจนะครับ


ann 23 พ.ย. 2554, 08:27:19 น.
รอ ร๊อ รอ


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account