Missing Love
(ภาคต่อของพาย) เมื่อเขาทำรักหายไปจนมาเจอเธอ และเธอตั้งใจพลาดความรักเพื่อความสำเร็จ แล้วเขาจะทำให้เธอหันมาสนใจความรักได้อย่างไร
Tags: พาย แจ็คลีน

ตอน: ML002

Missing Love ตอนที่ 2

รถติดขัดเล็กน้อย แต่แจ็คลีนก็มาถึงในช่วงบ่ายสามของวัน อากาศร้อนเหลือทน เมื่อเธอเดินมาที่ด้านหน้า เห็นมีคนเดินมากมายหน้าห้องสำหรับใช้จัดงาน เธอจึงเดินเข้าไป แต่เบเนดิกซ์บอกให้เธอรออยู่แล้วเข้าไปถามเอง

“งานยังไม่เปิดให้เข้าจนกว่าจะเย็น เพราะฉะนั้นขอให้รอจนถึงเวลานั้นแล้วค่อยกลับมาใหม่นะคะ” คนสูงวัยที่กำลังตอบคำถามไร้สาระกำลังหงุดหงิด ยิ่งคนที่มาถาม ยังมาถามแทนเด็กสาวอีกคนที่แต่งตัวเด็กอย่างเห็นได้ชัด และเธอก็มีเรื่องในงานที่ต้องจัดการมากมายพออยู่แล้ว “ขอตัวถ้าไม่ว่าอะไร”

เบเนดิกซ์ส่ายหน้าช้าๆ ก่อนเดินกลับไปหาเจ้านาย แต่ยังไม่ทันได้รายงานก็โดนยกมือห้าม

“พวกนั้นไม่ให้เราเข้าไป งั้นกลับ” แจ็คลีนไม่ยอมทนร้อนอีกแน่นอน

“แต่คุณมิคาเอลกำลังจะลงจากเครื่องในอีกไม่กี่นาที และนัดมาพบคุณที่นี่นะคะ อีกอย่างวันนี้วันเสาร์รถก็ติดมากด้วยค่ะ” เบเนดิกซ์อธิบาย ก่อนมองเจ้านายทำหน้างออย่างงอนๆ

“ก็มันร้อนนี่คะ ตรงนี้ไม่มีแอร์ด้วย ทำไมไม่ไปจัดที่โรงแรมนะ ข้างนอกมันร้อน” แจ็คลีนมีท่าทางเอาแต่ใจแบบอ้อนผู้ติดตามของตนเองนิดๆ

เบเนดิกซ์ได้แต่ยิ้ม ก่อนจะถามขึ้น “เราไปที่โรงแรมใกล้ๆ นั่งรอในโรงแรมเย็นๆ ดีไหมคะ”

“อีกกี่นาทีเครื่องถึงลงน่ะ” แจ็คลีนกำลังประมวลผล

“ประมาณยี่สิบนาทีค่ะ แล้วกว่าจะมาถึงคงไม่เกินชั่วโมงครึ่ง โรงแรมที่ใกล้ที่สุดอยู่ห่างจากที่นี่ราวครึ่งชั่วโมง ดูจากการจราจรแล้ว คุณควรเดินทางโดยรถไฟฟ้านะคะ จะได้ไม่ต้องเจอรถติดเป็นชั่วโมงอีก” เบเนดิกซ์รายงานพร้อมกดเส้นทางต่างๆ จากพีดีเอ

“โอเค ไปโรงแรมก็ได้ค่ะ” แจ็คลีนเดินตามผู้ติดตามคนอื่นๆ ก่อนจะเดินคุยกับเบเนดิกซ์ไปเรื่อยๆ และหยุดเพราะคนติดตามคนหน้าหยุด เธอเงยหน้าขึ้นมองและเห็นปัญหาที่ทำให้คนของเธอหยุดเดิน ก่อนส่ายหน้าให้หลีกเลี่ยงการพูดคุย

เมื่อเป็นแบบนั้น คนทั้งกลุ่มนั้นก็ตั้งใจทำให้เธอต้องคุยด้วยจนได้ “สวัสดีค่ะ คุณอภินันท์ ขอทางด้วยค่ะ”

“สวัสดีครับ คุณแจ็คลีน ผมมีเรื่องอยากคุยกับคุณ” ทรงธรรมมองเธออย่างเป็นมิตร วันนี้เธอสวมเสื้อเชิ้ตแขนสั้นสีฟ้าอ่อน กางเกงยีนส์สีอ่อนขนาดพอดี แปลกตาทว่าน่าสนใจ

“ฉันอายุสิบหกและไม่มีอะไรน่าสนใจสำหรับคนอายุสามสิบอย่างคุณ ไปกันเถอะค่ะ เบน” แจ็คลีนพูดชัด

“ผมไม่ได้สนใจคุณเพราะคุณเด็ก ผมสนใจเพราะคุณมีแนวคิดที่แตกต่างจากวัยรุ่นทั่วไปต่างหาก” ทรงธรรมเผลอพูดกับเธอตรงๆ จนคนที่ได้ยินต่างมองเขาอย่างประหลาดใจ

“คุณมันเพี้ยนไปแล้ว เบนคะ พาฉันไปพักหน่อยค่ะ” แจ็คลีนรีบดึงแขนผู้ติดตาม ที่เป็นเสมือนพี่เลี้ยงและเพื่อน จากนั้นก็เดินหลีกไปอีกทาง

นอกจากอากาศร้อน...ใจคนยังร้อนอีกด้วย

“ขอเวลาให้เราคุยกันสักห้านาที แล้วถ้าผมเปลี่ยนใจคุณไม่ได้ ผมจะถอย” ทรงธรรมพูดและยิ้มอย่างเป็นมิตร รอยยิ้มที่เขาไม่เคยต้องใช้กับหญิงสาวคนไหน

“งั้นคุณคงไม่รังเกียจจะเดินไปด้วยกันใช่ไหมคะ เพราะที่นี่ร้อนมาก” แจ็คลีนไม่หยุดเดิน และยังคงเดินไปยังทางเดินลงรถไฟฟ้าใต้ดินอยู่ และเมื่อเขานิ่งเงียบเธอจึงถามขึ้น “เวลาห้านาทีของคุณจะหมดแล้วนะคะ”

“ผมนึกว่าให้คุยได้ตอนไปถึงที่ที่คุณจะไปพักซะอีกนะครับ” ทรงธรรมพูดและยิ้มให้เธออย่างเอ็นดู

“ตามใจ” แจ็คลีนเผลอพูดประชดกระแทกน้ำเสียง แต่กลายเป็นว่าเขาถือเป็นจริงเป็นจัง

เขาไม่พูดอะไรแม้กระทั่งตอนจ่ายเงินค่าตั๋ว เดินตามเธอกับกลุ่มไปขึ้นรถไฟฟ้าใต้ดิน โดยมีกลุ่มของเขาติดตามมา หรือแม้กระทั่งในเวลาที่อยู่ในรถไฟฟ้าใต้ดิน เขาก็ไม่พูดอะไร เมื่อถึงห้องอาหารนั่นเอง เขาถึงเริ่มพูด

“คุณเข้าใจผิดเรื่องที่ผมเข้ามาทำความรู้จักคุณ ผมไม่เคยคิดอะไรกับคุณ นอกจากสนใจอยากฟังวิธีคิดของวัยรุ่นสมัยใหม่อย่างคุณมากกว่า เพราะผมรู้จักวัยรุ่นน่ารำคาญอยู่หลายคนทีเดียว คุณแตกต่างและนั่นทำให้ผมสนใจ โดยเฉพาะวัยรุ่นร่ำรวย ใช้ชีวิตอย่างสะดวกสบาย แต่ไม่เคยคิดพยศกับผู้ปกครอง มันเป็นเรื่องแปลกใหม่สำหรับผม ผมจึงอยากฟังทัศนคติที่คุณมีก็เท่านั้น” ทรงธรรมใช้ห้านาทีของเขาอย่างคุ้มค่า ด้วยการพูดชื่นชมเธอกลายๆ

แจ็คลีนพิจารณา ก่อนจะพยักหน้ายอมรับว่าเข้าใจผิดไปทีเดียว และยังไม่พูดกับเขา เธอหันไปสั่งขนมกับเครื่องดื่ม จากนั้นก็พยักหน้าให้เบเนดิกซ์กับคนอื่นๆ หาที่นั่ง เพื่อให้เธอคุยกับคนตรงหน้าได้

“ฉันไม่เห็นว่าการพยศกับผู้ปกครองจะช่วยให้ชีวิตเจริญขึ้นตรงไหน คิดว่าคุณคงดูข่าวซุบซิบของคนดังมากเกินไป จนใช้เป็นบรรทัดฐานในการตัดสินไปเสียหมด แปลกที่คุณสนใจข่าวซุบซิบด้วย จากที่ได้อ่านข้อมูลเกี่ยวกับคุณ คุณมักเก็บตัวอยู่อย่างสันโดษในชนบทไม่ใช่เหรอคะ” แจ็คลีนชี้แจงตามข้อมูล

“คุณมีข้อมูลของผมหมดเลยเหรอ หรือมีของทุกคนที่คุณจะไปพบด้วย” ทรงธรรมเริ่มแปลกๆ ที่เธอสืบเรื่องของเขา

“ฉันตรวจสอบทุกคนที่ฉันพบค่ะ โดยเฉพาะคนที่เป็นนักธุรกิจ คุณทำงานค้าไม้ถูกกฏหมาย คุณสร้างสวนไม้สักขึ้นมาและตัดเมื่อถึงเวลา ต้องผ่านขั้นตอนตามกฏหมายเยอะ แล้วก็ไม่เคยเห็นข่าวทำงานแบบผิดกฏหมายที่ไหน” แจ็คลีนพูดและยังคงสบตาเขา ราวกับจะพ่นข้อมูลให้เขากลัวแล้วหยุดรบกวนเธอ

“คุณทำทุกอย่างเองหรือว่ามีคนทำให้ตลอดเวลา” ทรงธรรมถามเธอหลังจากคิดได้สักพัก

แจ็คลีนทานขนมกับกาแฟของตัวเอง ก่อนจะตอบ “ฉันทำทุกอย่างที่ฉันอยากจะทำเอง และให้คนช่วยทำสิ่งที่ไม่จำเป็นต้องทำเองค่ะ จะทำทุกอย่างเองทำไม ในเมื่อคุณมีกำลังจะจ้างคนมาทำแทน เอาล่ะ คุณคุยกับฉันเรื่องพวกนี้เพื่ออะไร ฉันยังไม่เห็นประเด็นที่เราจะคุยกันลยนะ อีกอย่างเรื่องพวกนี้มันน่าสนใจตรงไหน คุณไม่ใช่จิตแพทย์แล้วก็ไม่จำเป็นต้องถามเรื่องพวกนี้กับฉันด้วย”

“คุณไม่ชอบที่ผมถามเหรอ งั้นคุณถามผมสิ” ทรงธรรมเล่นลิ้นกับเด็กสาว และยังผลให้คนฟังเริ่มอารมณ์เสีย

“คุณกวนประสาทฉันทำไม ฉันพยายามรักษามารยาทกับคุณแล้วนะ เพราะงั้นอย่าล้ำเส้น” แจ็คลีนจ้องเขาด้วยความโกรธ

ทรงธรรมหัวเราะอย่างเอ็นดู เพราะดูเหมือนเธอพยายามทำตัวเป็นผู้ใหญ่ เพื่อปกปิดความเป็นเด็กของตัวเอง และคิดผิดถนัด เมื่อเธอควักเงินออกมาจ่ายและลุกขึ้นจากเก้าอี้ เขารีบคว้าข้อมือเธอเอาไว้ และเพราะความรีบร้อน ทำให้เขาเผลอดึงเธอเข้ามาใกล้

เธอยั้งตัวตามสัญชาตญาณ แต่กลับทำให้เขาดึงแรงขึ้น เป็นผลให้เธอล้มไปนั่งบนตักเขา และเขาได้สูดกลิ่นหอมของดอกไม้ที่หอมแรงมากกว่าวันก่อนที่เจอเธอ เป็นความหอมที่เขาไม่คิดว่าจะได้กลิ่นจากที่ไหน

“ปล่อยฉันนะ” แจ็คลีนพูดขึ้นเมื่อรู้สึกตัว แต่ก่อนจะรู้สึกตัว ผู้ติดตามก็เข้ามาขวางและพาเธอให้ลุกจากตรงนั้นได้แต่แรกแล้ว เธอค่อยมีสติ ก่อนจะเดินเข้าไปตบหน้าเขา แล้วสะบัดหน้าเดินหนีไปจากตรงนั้น

ทรงธรรมจับหน้าข้างที่โดนตบแล้วยังคงรอยยิ้มเอาไว้ ยอมรับว่าไม่ตั้งใจให้เรื่องเล่านี้เกิดขึ้น แต่เมื่อเกิดขึ้นแล้ว กลิ่นหอมนั้นก็ยังติดตรึงใจไม่หาย สมแล้วที่เป็นหลานสาวเจ้าของบริษัทน้ำหอม

“ท่านครับ” อรัญไม่ได้เข้ามาช่วยเจ้านาย เพราะแค่ห้าสาวก็ทำให้ทุกอย่างวุ่นวายได้แล้ว และยังไม่เห็นการคุกคามอย่างเด่นชัด แต่เขาก็อยากเตือนเจ้านาย “ถึงเธอจะเป็นเด็กวัยรุ่น แต่เชื่อผมเถอะ อีกห้าคนไม่ใช่วัยรุ่นธรรมดา คนหนึ่งขยับตัวเหมือนทหารเลยนะครับ”

“หอม” ทรงธรรมพูดคำเดียว ก่อนจะลุกขึ้น จ่ายค่ากาแฟที่เขาดื่มไป มองผ้าเช็ดหน้าของเธอแล้วหยิบขึ้นมาเก็บเอาไว้ ก่อนจะมองผู้ช่วยเขาแล้วยิ้มให้ “หอมนะ”

อรัญมองเจ้านายเดินออกไปอย่างอารมณ์ดี

******************************


เสียงโทรศัพท์ทำให้เธอเดินช้าลง จากที่ตั้งใจกระแทกส้นเท้าลงบนพื้น ต้องระงับความโมโหลงอย่างรวดเร็ว ก่อนรับสายจากพี่ชาย

“ท่านพี่ใจร้าย ใจร้ายที่สุด” แจ็คลีนวีนใส่พี่ชายทันทีที่มีโอกาส เธอขึ้นจากรถไฟฟ้าแล้วกำลังจะเดินกลับไปที่เดิม

“ใจเย็นๆ จ๊ะ น้องสาวที่รัก พี่ทำอะไรผิด” มิคาเอลเป็นงง เพราะไม่รู้ว่าตัวเองทำอะไรผิด

แจ็คลีนค่อยได้สติ ก่อนตอบ “ก็ท่านพี่ให้น้องรอนานมาก แล้วอากาศก็ร้อนด้วย ไม่รู้ล่ะ ท่านพี่ผิด”

“ได้จ๊ะ ได้ พี่ผิดเอง” มิคาเอลต้องรับผิดเพื่อให้น้องสาวใจเย็นลง

แจ็คลีนค่อยหัวเราะออก เมื่อพี่ชายยอมให้เธอ ก่อนจะนึกขึ้นมาได้ “เมื่อกี้เขาไม่ให้น้องเข้างาน ตอนนี้น้องก็ไม่อยากเข้างานแล้ว เจอกันที่บ้านป้าพิมนะคะ”

“โว้วๆ ใจเย็นๆ น้องสาวที่น่ารักของพี่ ยังไงก็เห็นแก่หน้าลุงพอลหน่อยสิ ถึงคนอื่นจะปฏิบัติกับเรายังไง พี่หลิน พี่หลง ลุงพอลกับป้าชิงชิงก็เป็นมิตรที่ดีกับครอบครัวเรามานานแล้วนะจ๊ะ ให้เกียรติครอบครัวลุงพอลหน่อยนะจ๊ะ” มิคาเอลพยายามอธิบายยาวยืด

แจ็คลีนหัวเราะและอารมณ์ดีขึ้น ก่อนจะพูดกับพี่ชาย “ได้ค่ะ”

เธอฟังพี่ชายอีกเล็กน้อย ก่อนจะมองแสงแดดแรงกล้า แล้วเดินตรงไปยังตัวตึก ก่อนอากาศร้อนจะทำให้เธออารมณ์เสียได้อีก โดยเฉพาะเมื่อนึกถึงเรื่องน่าอายเมื่อครู่

เมื่อถึงสถานที่จัดงาน แจ็คลีนก็รู้ว่าต้องมาเล่นฮาร์ฟในงาน ก่อนจะจัดการงานเรียบร้อย และรอให้พี่ชายคุยกับลุงพอลจนเสร็จ

“ตกลงตามนี้นะครับ” มิคาเอลกล่าวลา ก่อนจะโอบไหล่น้องสาวพากลับด้วย “แจ็คกลับเถอะ พี่อยากนอนพักด้วยนะ เบนแจ้งเวลาในการเล่นเพลงของแจ็คให้ด้วยละกัน ปิแอร์ไปกันเถอะ ลานะครับ”

แจ็คลีนหันไปลาหลินและหลง ก่อนจะเกาะแขนพี่ชายไป แต่ก็ต้องชะงักเท้าแล้วขมวดคิ้ว มองชายหนุ่มวัยสามสิบตรงหน้าอย่างขุ่นเคือง

มิคาเอลเห็นอีกฝ่ายไม่หลีกทางให้ก็เลี่ยง แต่ก็โดนกั้นขวางทางอีก “นี่คุณ พวกเราจะกลับก็ขอให้หลีกทางด้วย”

“ผมอยากคุยกับแจ็คลีนหน่อยจะได้ไหมครับ” ทรงธรรมพูดขึ้น ทำให้มิคาเอลไม่ค่อยพอใจนัก และแม้แต่คนที่เพิ่งเจอเหตุการณ์ไม่สบอารมณ์ก็ไม่อยากอยู่ตรงนี้มากพอกัน

“ไม่ได้ครับ แล้วแจ็คก็ไม่อยากคุยด้วยจริงไหม น้องพี่” มิคาเอลหันไปถามน้องสาว

“ใช่ค่ะ น้องไม่อยากคุยกับคนคนนี้ ไม่มีเรื่องจะคุย เรากลับบ้านกันเถอะค่ะ” แจ็คลีนเห็นด้วยกับพี่ชายแล้วกอดแขนแน่น พร้อมทั้งเชิดใส่

มิคาเอลเห็นน้องสาวทำท่าทีแปลกๆ ก็นึกเอะใจเล็กน้อย แต่เมื่อน้องสาวยืนยันแบบนั้น เขาก็รีบพาน้องสาวเดินออกไป หากอีกฝ่ายยังไม่ยอม

“ผมไม่ต้องการมีปัญหากับคุณ แล้วผมก็คิดว่าคุณคงไม่อยากมีปัญหากับพวกเรา น้องสาวผมพูดชัดเจนแล้วว่าไม่มีอะไรจะคุยกับคุณ น้องสาวผมก็ยังเป็นผู้เยาว์ ไม่ทราบคุณมีเรื่องอะไรคุยหนักหนา” มิคาเอลข่มใจพูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบ และไม่นานนัก ผู้ติดตามที่เหลืออยู่ก็มายืนออรออยู่

“คิดจะใช้อิทธิพลของตัวเองมาทำเก่งในเมืองไทยคงไม่ง่ายนักหรอกนะ” อรัญพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงดุดัน

มิคาเอลมองสบตาคนพูดด้วยสายตาเย็นชา แล้วพูดอย่างใจเย็น “ผมต้องใช้อิทธิพลทำไมไม่ทราบ พวกคุณจะยิ่งใหญ่เพียงไรก็ไม่สำคัญสำหรับผม สำหรับผม คนที่หาเรื่องคนในครอบครัวผมคือพวกไร้สาระ ไม่ควรแก่การใช้อิทธิพล”

“มิค อย่ามีเรื่อง” ไพรด์เดินเข้ามาขนาบข้างน้องสาวอีกคน ก่อนจะพูดอย่างสุภาพ “ครอบครัวธีโอฟาสเต้เป็นครอบครัวใหญ่ ซึ่งมีปัญหาเรื่องถูกมุ่งร้ายและลักพาตัวมาก ผมขอร้องอย่าพยายามทำอะไรเกินควรจะดีกว่า เป็นผู้ใหญ่ก็ทำตัวให้สมเป็นผู้ใหญ่ด้วยเถอะนะครับ พวกเราเพียงจะกลับบ้าน ทำไมพวกคุณต้องขวางทาง อยากทราบว่าการกลับไปพักที่บ้าน มันผิดกฎหมายเมืองไทยด้วยเหรอ”

“ฉลาดพูดทั้งคู่ ทำเหมือนไม่หาเรื่องแต่หาเรื่องชัดๆ” อรัญยังคงพูดจาอย่างไม่ใส่ใจเท่าไรนัก นอกจากจะช่วยเจ้านายให้บรรลุความต้องการ

“นี่ พูดให้มันดีๆ หน่อย เป็นผู้ใหญ่เสียเปล่า คิดจะจีบเด็กอายุสิบหกต่างหากหน้าไม่อาย” อิคารัสพูดตรงชัดเพราะอ่านสายตาออก คนประเภทเดียวกันย่อมอ่านกันออก

“เฮ้ยๆ หาเรื่อง” ชายกลุ่มนั้นยังคงหาเรื่องพวกเธออีก

“อิกกี้ อย่ามีเรื่อง ไพรด์พูดถูก ปิแอร์กับเบนจะลำบากใจ ถ้าคุณปู่เอาเรื่อง เรื่องจะไม่เล็กนะ” มิคาเอลเตือนเพื่อน ก่อนจะหันไปบอกน้องสาว “กลับปารีสคืนนี้เลยดีกว่า ร่วมงานเสร็จก็กลับเลย พี่จะไปส่ง ส่วนอิกกี้กับไพรด์ไปเยี่ยมบ้านก่อน ฉันจะพาแจ็คกลับ เครื่องบินส่วนตัวยังอยู่ใช่ไหมแจ็ค”

มิคาเอลรู้ว่าน้องสาวจอดเครื่องส่วนตัวไว้ที่สิงคโปร์ แล้วนั่งเครื่องพาณิชมาที่เมืองไทย

“อยู่ค่ะ ก็ดีเหมือนกัน แจ็คมีเรื่องต้องคุยกับคุณปู่เยอะ” แจ็คลีนเห็นด้วย แม้จะไม่ปักใจว่าอีกฝ่ายที่อายุมากกว่าตั้งรอบมาจีบเธอ แต่ก็รำคาญที่มีคนเข้ามาวุ่นวายกับชีวิตเธอ

ทรงธรรมยกมือขึ้นห้ามคนของตน ก่อนจะหันหลังเดินออกมาไป เพราะพอลกำลังเดินเข้ามาถามหลานๆ ที่ยืนอยู่แล้วยังไม่กลับสักที

“มีอะไร” พอลขมวดคิ้วที่เห็นทั้งสองฝ่ายประจันหน้ากัน

“ไม่มีอะไรหรอกค่ะ คนน่ารำคาญ” แจ็คลีนตัดบท ก่อนจะส่ายหน้าช้าๆ พยายามปัดความคิดแย่ๆ ที่พี่ชายแต่ละคนวิเคราะห์ออกมา

“มีอะไรกับคุณทรงธรรมเหรอ บอกลุงเถอะ” พอลขมวดคิ้วถามหลานๆ

“ไม่รู้ฮะ ท่าทางเหมือนมาจีบแจ็คอ่ะ คนแก่แล้วยังคิดจะกินหญ้าอ่อน น่าเตะชะมัด” อิคารัสพูดอย่างไม่ชอบขี้หน้าเท่าไรนัก

“อิกกี้บ้า! ห้ามพูดอะไรที่ไม่เป็นความจริงนะ แจ็คไม่ชอบ” แจ็คลีนขมวดคิ้วชักสีหน้าโกรธเต็มที่ ทั้งที่เมื่อครู่ไม่มีทีท่าว่าจะแก้ต่างให้ตัวเอง “ผู้ชายคนนั้น แจ็คเจอแค่ไม่กี่ครั้งเอง คงไม่สิ้นคิดขนาดจะมาถูกใจแจ็คหรอก”

“พูดไม่ได้หรอก สายตามันจ้องแต่แจ็คคนเดียว พี่สังเกตแต่แรก โอ๊ย!! เหยียบเท้าทำไมวะ” อิคารัสหันไปจ้องไพรด์เอาคำตอบ

“พอได้แล้ว คุณทรงธรรมเหรอ ปกติไม่ค่อยได้เจอเท่าไร เห็นว่าชอบเก็บตัวอยู่ในปางไม้ แจ็ค ถ้าทำได้รีบกลับปารีสไปซะ ลุงก็ไม่ชอบเหมือนกัน ถ้าเป็นไปได้ไม่ต้องมาเมืองไทยอีก อยู่ที่ปารีสนั่นล่ะ” พอลก็ชักไม่ชอบใจเท่าไร เพราะยังไงหลานสาวอายุแค่สิบหกเท่านั้น ถึงหน้าตาจะสะสวยอ่อนหวานมาก ยิ่งมองก็ยิ่งดูงามจับตาก็ตาม

“ผมเห็นด้วย ก็เลยว่าจะพากลับคืนนี้เลย ถ้ามีเที่ยวบินก็จะไปที่สิงคโปร์ก่อน แล้วค่อยยื่นตารางบินกลับปารีส ไปอยู่กับคุณปู่คงมีปัญหาน้อยหน่อย แล้วผมค่อยกลับมาเมืองไทย มาไหว้ป้าพิมแทนแม่น่ะครับ” มิคาเอลเห็นสายตาอีกฝ่ายก็ไม่ค่อยไว้ใจเท่าไรนักเช่นกัน

“คงไม่ตัณหากลับหรอกมั้ง แต่กันไว้ดีกว่านะ ดีแล้วๆ ไปสิงคโปร์ก็พักบ้านลุงก็ได้นะ หวังว่าคืนนี้จะไม่มีเรื่อง เอาไงดีหว่า” พอลก็คิดคำนวณอย่างไม่ไว้วางใจเท่าไรนัก เขาพอรู้เรื่องนักธุรกิจชาวไทยอยู่ไม่น้อย

“พอเถอะค่ะ ลุงพอล แจ็คน่ะมีเรื่องต้องทำอีกเยอะ อีกอย่างแจ็คก็ยังเด็ก ถ้ามีคนมาวุ่นวายล่ะก็จะให้เบนยิงไล่ไปเลย น่ารำคาญจะตาย มีพี่ชายเจ้าชู้ตั้งสามคนแล้ว แค่นี้ก็รู้แล้วว่าผู้ชายน่ะเจ้าชู้ทุกคน” แจ็คลีนพูดทำให้พี่ชายทั้งสามคนหัวเราะเบาๆ กันใหญ่

“เอาล่ะๆ กลับไปพักผ่อนแล้วรีบกลับมานะ” พอลตัดบทก่อนคิดได้ แล้วว่าจะโทรบอกเพื่อนเรื่องนี้

มิคาเอลยกมือไหว้ลา ก่อนจะโอบไหล่น้องสาวเดินออกไปจากห้องจัดงาน ทั้งยังต้องช่วยกันกับเพื่อน ป้องกันไม่ให้ฝูงชนเข้ามาวุ่นวาย

******************************


เสียงฮาร์ฟหวานซึ้งดังไปทั่ว ผสมผสานความสนุกสนานของคนเล่นได้อย่างกลมกลืน เมื่อคนเล่นกำลังนึกถึงความรักของพ่อแม่ที่เห็นมาโดยตลอด ซึมซาบลงไปในความรู้สึก เธอจึงเล่นเพลงที่พ่อแต่งให้แม่ได้อย่างเข้าถึงอารมณ์รักได้อย่างยอดเยี่ยม

เธอยิ้มเล็กน้อย เมื่อเล่นเพลงจบและมีคนปรบมือให้ทั่วทั้งงาน เธอย่อตัวเล็กน้อย ก่อนเดินลงจากเวทีเพื่อเปิดโอกาสให้วงดนตรีไทยอีกวงเริ่มเล่น เธอเดินมาที่ด้านหน้าเวทีพร้อมผู้ติดตาม ก่อนจะยืนพิงกำแพงมองพี่ชายอีกคนเล่นระนาดได้อย่างคล่องแคล้ว

เธอยิ้มให้กับจังหวะที่หนักแน่น ท่วงทำนองที่พลิ้วไหว ใครหลายคนกำลังงุนงง เพราะนักดนตรีขาร็อคกำลังเล่นบทเพลงไทยเดิมเก่าแก่ได้อย่างยอดเยี่ยม เธอปรบมือทันทีอย่างชื่นชม เมื่อเสียงเพลงสิ้นสุดลง ก่อนจะเดินไปหาพี่ชายที่โต๊ะของเธอกับพี่ชาย และโต๊ะเธอคนก็ไม่เยอะ แต่กำลังบริจาคนั้นมากกว่าที่ใครจะคิด

หากเธอยังเดินไปไม่ถึงโต๊ะ...ก็ถูกขวางทางเอาไว้

“ฉันขอให้คุณหลีกทางให้มาดมัวแซลด้วยนะคะ” เบเนดิกซ์เข้ามาพูดแทนเจ้านาย ก่อนชายหนุ่มอีกคนจะเข้ามาโอบเอวแจ็คลีนเอาไว้ แล้วพาเดินไปยังโต๊ะ ก่อนจะไปเขาผลักอกทรงธรรมอย่างหาเรื่องนิดๆ

“ไม่เอาน่า อิกกี้” แจ็คลีนต้องคอยห้ามพี่ชายใจร้อนอารมณ์กวน

“พี่ทำอะไรเหรอ จำไม่เห็นได้” อิคารัสทำเหมือนไม่รู้เรื่อง และยังคงโอบเอวแจ็คลีนไปยังโต๊ะของพวกเขา ดึงเก้าอี้แล้วให้น้องสาวเพื่อนนั่งลง ก่อนจะนั่งลงขนาบข้างแจ็คลีน โดยมีมิคาเอลนั่งอีกข้าง

“เมื่อกี้ฉันผลักอกมันด้วยล่ะ” อิคารัสบอกเพื่อนแล้วก็ยิ้มอย่างสนุกสนาน

“ดีที่มันไม่ต่อยเข้าให้” มิคาเอลพูดแล้วก็ยิ้มขำ

“พวกพี่นี่ยังไงนะ น้องยังนั่งอยู่ตรงนี้ด้วยนะคะ” แจ็คลีนส่ายหน้ากับสิ่งที่พี่ชายทั้งสองคนกำลังพูดคุยกัน

“แหม ก็มันน่าหมั่นไส้ บังอาจมาจีบน้องสาวของพวกเรา ก็ต้องเจอแบบนี้แหละ ตื้อมากด้วยนะ ระวังหน่อยสิ” อิคารัสพูดกับแจ็คลีนอย่างจริงจังและเป็นห่วง

“แจ็ครู้ค่ะ ไม่ต้องกังวล เพราะแจ็คตั้งใจจะอยู่เป็นโสดไปอีกนาน หลังจากเห็นผู้หญิงอกหัก เพราะพวกพี่มามากแล้ว” แจ็คลีนพูดกับพี่ๆ แล้วก็หัวเราะนิดๆ เมื่อพี่ชายสองคนซ่อนสีหน้าลำบากใจอย่างยากเย็น

“พี่ไม่เคยหักอกใครนะ” ไพรด์จูบเรือนผมน้องสาวอย่างแสนรัก ก่อนหาที่นั่งว่างๆ เพื่อนั่งลง

“ไม่เชื่อหรอกค่ะ ต้องมีสาวๆ ใจสลายเพราะพี่มั่งล่ะ” แจ็คลีนทำตัวได้น่ารักกับพี่ชายทั้งสามคน ดูร่าเริงแจ่มใสและไม่ดูรักษามารยาทเกินไปนัก เธอดูผ่อนคลายและไม่มีท่าทีหยิ่งยโส

ทรงธรรมมองเธอผ่อนคลาย กอดแขนพี่คนนั้น ถูกพี่คนนี้หอมอย่างแสนรัก เธอช่างน่าเอ็นดู ผิดกับเวลาอยู่กับเขา ที่ทำตัวเป็นผู้ใหญ่เกินวัย ท่าทีเคร่งขรึมคาดเดายาก

หากเขาน่าจะรู้จากเสื้อผ้าชุดแรกที่เห็นเธอ เธอแต่งตัวด้วยชุดกระโปรงฟูสีชมพูดูสดใส สวมถุงมือสีเข้าคู่ ดูเหมือนเธอมาจากคอลเล็กชั่นตุ๊กตาฝรั่งเศส รวมทั้งคืนนี้ด้วย เธอยังชอบสวมชุดฟูสีต่างจากเดิม เดาได้ว่าคงทำจากผ้าอย่างดีและมีลูกไม้ฝรั่งเศสราคาแพงอยู่บนชุดแน่นอน

สักพักเธอลุกขึ้นและเดินไปหาคนรู้จัก เขามองเธอคุยกับหญิงสาวอีกคนที่อายุมากกว่าเธอถึงห้าปี และท่าทางก็เหมือนเด็กวัยรุ่นทั่วไปคุยกัน ทั้งหัวเราะและเป็นมิตรอย่างมาก

เขายิ้มนิดๆ และนึกถึงกลิ่นหอมติดจมูก แล้วจึงหันไปถามคนสนิท “คุณหาน้ำหอมกลิ่นนั้นมาได้หรือเปล่า”

อรัญเข้ามากระซิบบอก “ไม่ครับ ปกติแล้วตระกูลนี้จะผลิตกลิ่นหอมประจำตัวเป็นพิเศษให้คนในตระกูล ซึ่งจะไม่มีวางขายทั่วไปหรอกครับ”

“น่าเสียดาย เพราะกลิ่นหอมถูกใจฉันเสียด้วยสิ จริงๆ แล้วเด็กหนุ่มพี่ชายเธอก็มีกลิ่นหอมเฉพาะตัวเหมือนกันนะ คงจะเป็นน้ำหอมเฉพาะตัวอีกสินะ หอมทั้งสองคน” ทรงธรรมพูดแล้วนึกถึงกลิ่นหอม

“ท่านครับ คนหนึ่งอายุไม่ถึงสิบแปด อีกคนหน้าตาหวานก็จริง แต่ดูลักษณะแล้วร้ายใช่ย่อยนะครับ” อรัญเตือนสติเจ้านาย

ทรงธรรมหันไปมองหน้าผู้ช่วยแล้วขมวดคิ้ว ก่อนถาม “คิดว่าฉันจะทำอะไรเด็กสองคนนั่น ฉันแค่ชอบกลิ่นหอมเท่านั้นเอง เป็นกลิ่นหอมที่ทำให้รู้สึกสดชื่นขณะเดียวกันก็สงบดี เหมือนกับตั้งใจจะให้คนที่ได้กลิ่นรู้สึกสงบ”

“อ๋อ เข้าใจแล้วครับ คงเป็นเพราะคนออกแบบเห็นว่าบุคลิกของคนที่ออกแบบให้คงจะดูใจร้อน เท่าที่ผมเห็นแม้แต่มาดมัวแซลธีโอฟาสเต้ในบางครั้งยังดูใจร้อนเลย” อรัญวิเคราะห์ออกมาและทำให้เจ้านายหยักหน้าช้าๆ

“อืม จองเที่ยวบินไปปารีสให้ฉันหน่อยแล้วกัน ช่างเป็นเด็กสาวที่น่าสนใจจริงๆ” ทรงธรรมพูดราวกับเป็นเรื่องปกติ ก่อนจะหันไปถามผู้ช่วยอีกครั้ง “ครอบครัวเธอบริจาคเงินให้มูลนิธินี้เท่าไร”

“ห้าแสนห้าหมื่นดอลล่าร์สหรัฐต่อปีครับ” อรัญบอกตามข้อมูลที่หามาได้

“ครอบครัวนี้เป็นชาวคริสต์เคร่งศาสนาเหรอ ใจบุญมากนะ” ทรงธรรมรับฟังอย่างงุนงง

“ไม่ทราบครับ แต่ผมจะหาคำตอบมาให้ จะให้จองตั๋วไปปารีสเมื่อไรครับ หรือท่านจะกลับปางไม้ก่อน” อรัญถามเจ้านายให้แน่ใจ รู้ว่าขัดไม่ได้แน่นอน

“ได้อะไรก่อนก็ทำนั่นแหละ” ทรงธรรมตอบอย่างไม่ใส่ใจนัก ก่อนจะลุกจากเก้าอี้และเดินออกไปจากงาน

อรัญเหลียวมองไปยังโต๊ะของคนที่เจ้านายสนใจ บอกไม่ถูกว่ากำลังเผชิญหน้ากับอะไร แต่ที่แน่ๆ ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะเข้าใกล้เด็กสาวที่ถูกดูแลด้วยบอดี้การ์ดถึงห้าคน โดยไม่ต้องทำอะไรเลย

******************************


เสียงพลิกกระดาษหน้าแล้วหน้าเล่าผ่านตาคนอ่านอย่างเรื่อยเปื่อย ในสโมสรสำหรับสมาชิกชั้นสูงของชุมชน แจ็คลีนได้รับคำเชิญจากปู่ย่าให้มาร่วมกิจกรรมของสมาชิกคนในครอบครัว

เสียงคนนั่งที่โต๊ะเดียวกับเธอทำให้เธอต้องเงยหน้าขึ้นมอง เห็นญาติผมสีทองของเธอก็ทำหน้าเฉยเมยและยังคงอ่านหนังสือที่ชอบต่อไป หากยังไม่ทันได้พลิกหน้า ก็โดนมีดีแย่งไปอ่าน

“รายงานความน่าเบื่อของแจ็คลีนพบว่า นอกจากจะไม่เคยหาความสุขส่วนตัวให้ตัวเองได้ ยังชอบช่วยตัวเองสำเร็จความใคร่ในเวลากลางคืน” คนพูดจงใจพูดเสียงดังทำให้วัยรุ่นรอบข้างหัวเราะ

แจ็คลีนมองหน้าอองรีกับซีริลแล้วส่ายหน้า เธอแย่งคืนมาโดยไม่พูดอะไร แต่ซีริลจงใจไม่คืนให้ง่ายๆ

“เธออย่าทำตัวน่าเบื่อเลยน่า หาเพื่อนเล่นบ้างสิ รู้ไหมถ้าใครรู้ว่าเธอเป็นญาติฉันละก็ ขายหน้าตาย อ่านแต่อะไรไร้สาระอยู่ได้” ซีริลส่ายหน้า ก่อนโยนมันลงโต๊ะอย่างไม่ใส่ใจนัก

“นายหมายถึงนายอยากแข่งตีเทนนิสกับฉันใช่ไหมล่ะ หรือว่านายอยาก อองรี” แจ็คลีนหันไปยิ้มให้อองรีเป็นเชิงท้าทาย

“ใครกลัวเธอ” ซีริลคว้าไม้เทนนิสของตัวเองเอาไว้ ก่อนมองญาติผู้น้องที่อายุห่างจากเขาสามปีถือแร็กเก็ตออกมา

“ไม่เคยเล่นกับคนอื่นเลย น่าสนใจนะ” แจ็คลีนมีสนามเทนนิสของตัวเอง จึงแทบไม่ออกสังคมให้เสียเวลา

อองรีส่ายหน้าช้าๆ มองแจ็คลีนกับซีริลหาเรื่องกันไปมา ก่อนจะเตือนญาติทั้งสอง “ไม่เอาน่า เพื่ออะไร”

“สองพันยูโร” ซีริลพูดขึ้นเป็นเชิงพนัน

“สองพันกับเทนนิส แล้วอีกสองพันกับฟันดาบก็ยังไหว” แจ็คลีนพูดขึ้น และเริ่มรู้สึกสนุกที่จะได้ฟาดฟันกับญาติตัวแสบ “ถ้านายมีเงินล่ะนะ”

“อย่าเลย ซีริล ครั้งก่อนที่มีคนท้าแจ็ค แจ็คเล่นห้าเกม ชนะทั้งห้าเกม อย่าดีกว่านะคะ หนูเตือนแล้วนะ” อันนาเอลเตือนลูกพี่ลูกน้อง

“อย่าโม้น่า แอน ยัยหนอนหนังสือเนี่ยนะ เชื่อก็บ้าแล้วล่ะ” ซีริลเชื่อว่าความสามารถทางกีฬาของเขาย่อมดีกว่า

“อย่าห่วงเลยแอน ฉันไม่เคยชนะท่านพี่ บางทีฉันอาจไม่ชนะซีริลก็ได้ ไปดูไหม” แจ็คลีนคุยกับลูกพี่ลูกน้องของเธอ ที่อายุน้อยกว่า เป็นลูกที่เกิดจากน้องคนสุดท้องของพ่อกับนักร้องเสียงใส ฉายาแม่นกน้อยไนติงเกล

“ถ้าฉันจะพนันละก็ ขอพนันข้างเธอดีกว่า” อันนาเอลยื่นเช็คส่งให้กรรมการ ซึ่งก็คืออองรี

“เธอมั่นใจว่าแจ็คจะชนะขนาดนั้นเชียว ถึงว่าล่ะ เมื่อก่อนลุงแอนโตเน่ย์ชอบเข้าข้างลุงกาเบรียล เธอจะเอาอย่างพ่อว่างั้นเถอะ” ซีริลถามอันนาเอลให้แน่ใจ

“ถามลีโอเนลดูก็ได้ เพราะคนที่แพ้ก็คือมอร์กานไง” อันนาเอลหันไปทางลูกพี่ลูกน้องที่อายุมากกว่าทุกคน

“อย่าพูดขึ้นมาเลยเชียว ก็รู้อยู่ เรื่องนี้ยังเป็นปมให้มอร์กานอยู่ วันนั้นโมโหมาก เพราะแจ็คลีนหอบน้อยกว่า เหนื่อยน้อยกว่า ขณะที่เจ้าตัวลิ้นห้อยกันเลยทีเดียว” ลีโอเนลยังนึกภาพน้องสาวในวันนั้นออก เพราะกลับบ้านยังได้ยินเสียงน้องสาวกรี๊ดๆ อยู่

เขาไม่คิดอะไรกับแจ็คลีนมากนัก เพราะต่างก็เป็นญาติกัน เขาเป็นหลานคนโตในบรรดาหลานทั้งหมดของตายายเขา และเป็นหลานของลูกสาวคนเดียวของท่าน เรื่องแย่งชิงสมบัติแทบไม่เกี่ยวข้องกับเขาเลย เมื่อพ่อเขาก็มีธุรกิจใหญ่มากพอตัว แต่น้องสาวเขาเรียนที่เดียวกับแจ็คลีนและอยู่ชั้นสูงกว่าสองปี ก่อนจะโดนแจ็คลีนไล่บี้เสียจนหาทางชนะไม่ได้

อันนาเอลหัวเราะกับญาติผู้พี่ ก่อนจะย้ายกันไปที่สนามแข่ง

แจ็คลีนสวมชุดเล่นเทนนิสกระโปรงสั้น สวมหมวกเพื่อบังแดดเล็กน้อย รวบผมเอาไว้แน่นเพื่อความสะดวกในการเล่น โชคดีที่วันนี้เธอยืดผมตรงเรียบ และนั่นทำให้เธอผมยาวแทบจะเท่าพี่ชาย เธอจึงถักเปียแน่นแล้วตั้งมั่นกับการแข่นขัน

ซีริลเสริฟก่อนจากการโยนแร็กเก็ต และเมื่อเริ่มเสริฟ ทั้งหมดก็เริ่มจดจ้อง โต้กันสักพักแจ็คลีนก็ทำคะแนนได้ จากที่เล่นกันสนุกๆ ก็ผ่านไปเรื่อยๆ และแจ็คลีนก็ทำแต้มได้อีก แต่ก็เรียกว่าสลับกันได้แต้มด้วยเช่นกัน

ซีรีลเริ่มเหนื่อย ขณะที่แจ็คลีนพยายามควบคุมลมหายใจอย่างชำนาญ และเพราะเธอไม่ใช่หนอนหนังสือธรรมดา แต่เป็นนักกีฬาตามแบบแม่เธอด้วย เธอจึงควบคุมจังหวะลมหายใจได้ด้วย ไม่น่าแปลกสำหรับครอบครัวเธอ แต่กับคนอื่นย่อมเป็นเรื่องน่าประหลาดใจ

“เธอจ้างโค้ชทีมชาติมาสอนให้อย่างนั้นเหรอ” ซีริลเริ่มถาม เมื่อได้จังหวะพัก

แจ็คลีนส่ายหน้า เพาะตอนแรกแข่งกันเล่นๆ แต่ตอนนี้ชักเอาจริงแล้ว “เปล่า คนสนิทฉันเคยเล่นเทนนิสให้กองทัพน่ะ เขาฝึกเล่นกับฉันตลอดเลย แต่ไม่ต้องห่วงหรอกนะ พี่ชายฉันแกล้งแพ้ฉันประจำ เพราะงั้นฉันจึงเล่นแย่ที่สุดในบ้านน่ะ”

“พูดยกหางตัวเองตลอดเวลาเลยนะ เธอเก่งสักแค่ไหนเชียว” ซีริลยังต่อปากต่อคำ

แจ็คลีนส่ายหน้า “ถ้าคิดะทำให้ฉันโกรธล่ะก็ต้องทำมากกว่านี้นะ

“แม่เธอนอนกับผู้หญิงมากี่คนแล้วล่ะ” ซีริลเล่นไม้เด็ด เพราะรู้เรื่องที่แม่แจ็คลีนไม่เคยบอกลูก

“พูดอะไรนะ” แจ็คลีนหันไปมองญาติทันที

“ท่านพ่อฉันบอกว่า เมื่อก่อนแม่เธอน่ะเป็นเลสเบี้ยน นอนกับผู้หญิงไง หรือว่าเธอก็ถูกสอนให้ทำแบบนั้นกับผู้หญิง” ซีริลพูดยังไม่ทันขาดคำ แจ็คลีนขว้างขวดน้ำใส่ญาติเต็มๆ

“อยากให้ฉันโกรธล่ะก็ นายทำสำเร็จแล้วล่ะ” แจ็คลีนถอดปลอกแทนทั้งสองข้าง พร้อมด้วยปลอกข้อเท้า และยังปลอกที่สวมไว้ที่เอว ก่อนจะหันมาพูดด้วย “เดี๋ยวไปเจอกันที่สนามฟันดาบ ดูสิว่านายจะยังปากดีอยู่ไหม”

“เมื่อกี้เธอสวมปลอกเอาไว้เหรอ” ซีริลเห็นเธอไม่น่าจะเป็นนักกีฬาแบบนี้

“หุบปาก!! แล้วลงสนามซะ” แจ็คลีนเดินไปยังสนาม ถอดหมวกออกจากศีรษะด้วย เธอพร้อมเต็มที่แน่นอน

“มีเรื่องหนึ่งที่หนูจะบอก ตอนชนะมอร์กาน แจ็คไม่เคยถอดอะไรออกจากตัวเลย อ๋อ ชิ้นละครึ่งกิโลค่ะ แจ็คบอกว่าคนเราควรสวมพวกนี้ตอนออกกำลัง เพราะจะได้มีอะไรถ่วงและทำให้เป็นการออกกำลังกายที่ดีด้วยนะคะ” อันนาเอลยิ้มให้ญาติหนุ่ม พร้อมโบกมือให้แจ็คลีน และชูนิ้วโป้งให้

“คู่แฝดเธอคิดเหมือนเธอหรือเปล่าน่ะ” อองรีถามอันนาเอล

“รายนั้นไม่สนใจหรอกค่ะ ชอบร้องเพลงเหมือนแม่มากกว่า ส่วนหนูยังเรื่อยๆ ทำอะไรก็ได้สบายใจดี” อันนาเอลค่อนข้างชอบญาติผู้พี่คนนี้อย่างมาก และมักจะขอตามไปในที่ต่างๆ ด้วย ตามแต่แม่จะอนุญาต

แจ็คลีนเล่นจริงจังกว่าเดิม เธอหวดแรงได้พอๆ กับอีกฝ่าย และยิ่งเธอมีอารมณ์มากเท่าไร เธอก็ควบคุมการเล่นได้ดีกว่าเดิม เพราะเริ่มเป็นเรื่องของการเอาชนะแล้ว

แจ็คลีนไม่ใช่เพียงพละกำลัง แต่ยังใช้สายตาแหลมคมของตัวเองด้วย ภายใต้แว่นตา เธอสามารถมองคู่เล่นได้อย่างเฉียบขาด ก่อนจะฟาดฟันด้วยเล่ห์เหลี่ยม จนอีกฝ่ายเก็บคะแนนไม่ได้สักคะแนน

เธอไม่พูดสักคำ...ถ้าอีกฝ่ายไม่ร้องขอจบเกม

“พอ!! ไม่แข่งแล้ว” ซีริลขว้างแร็กเก็ตลงพื้นอย่างฉุนเฉียว ก่อนนจะตะโกนอีกรอบ เป็นการดูหมิ่นอย่างแรง “ยังไงแม่เธอก็เป็นพวกวิปริตอยู่ดี”

“กล้าไปสนามฟันดาบไหมล่ะ” แจ็คลีนถามขึ้น ก่อนจะยื่นแร็กเก็ตให้ผู้ติดตาม

“ไม่เอาน่า แจ็คลีน เธอไม่ใช่คนเจ้าคิดเจ้าแค้นเหมือนพี่ชายเธอนะ” อองรีเข้ามาไกล่เกลี่ย เพราะเรื่องชักบานปลายแล้ว

“ไม่!! ไปสนามฟันดาบเดี๋ยวนี้” แจ็คลีนบ้าเลือดขึ้นมา ก็ไม่น้อยไปกว่าพี่ชายเหมือนกัน เพียงแต่ไม่ออกแนวหุนหัน แต่สงบเลือดเย็นจนน่ากลัว “อ๋อ ฉันลืมไปว่า ซีริลขี้ขลาด ไม่กล้าไปสนามฟันดาบ เฮ้อ ทีหลังขอให้ใจกล้าเท่าปากด้วยนะ แต่ลืมไปว่านายมันขี้ขลาด! และไม่ฉลาดเท่าแม่นาย ที่ทิ้งนายกับพ่อไป”

“นังแจ็คลีน!!” ซีริลกระโจนเข้าหาแจ็คลีนทันที แต่เบเนดิกซ์เข้ามาแทรกกลางและป้องกันเจ้านาย โดยไม่เห็นแก่หน้าญาติเจ้านาย แต่ผู้ติดตามทั้งหลายก็เข้าประจัญหน้ากันให้วุ่นวาย ก่อนผู้ติดตามของลีโอเนลจะใช้น้ำหยุดความวุ่นวาย

“นี่มันเรื่องอะไรกัน” ประธานสโมสรก็เข้ามาในสนามเทนนิส พร้อมด้วยผู้ใหญ่อีกหลายคนที่กำลังโมโห เพราะรุ่นเด็กก่อเรื่อง

“ซีริลจะต่อยแจ็คค่ะ เบเนดิกซ์เข้ามาขวาง แล้วก็โจชัวเข้ามาช่วยซีริล แล้วก็ตะลุมบอนอย่างที่เห็นค่ะ จากนั้นฟรังโก้ก็เอาน้ำมาสาด ถึงได้หยุดกันค่ะ” อันนาเอลอธิบายให้ทุกคนฟัง

“ไม่อยากเชื่อเลยว่า จะทำกิริยาแบบนี้ในสนามของสโมสร พวกเธอคิดว่าเพียงแค่มีเงินก็จะทำอะไรก็ได้ ในสโมสรที่ทรงเกียรติแห่งนี้เหรอ มองซิเออร์ธีโอฟาสเต้ คุณต้องจัดการหลานๆ ของคุณให้เรียบร้อยด้วยนะครับ นี่เป็นพฤติกรรมที่รับสำหรับที่นี่ไม่ได้อย่างมาก” ประธานสมาคมตำหนิสมาชิกอันทรงเกียรติ ก่อนจะเชิญทุกคนไปจากที่นั่น จนกว่าจะปรับปรุงพฤติกรรมให้เหมาะสมกว่านี้

ธีโอดอร์รู้สึกขายหน้า มองหน้าหลานแต่ละคน แล้วกระแทกลมหายใจหนักหน่วง “ไปที่บ้านปู่ ทุกคนเลยนะ จะให้ดี เอาพ่อแม่พวกเธอมาด้วย ลีโอเนลหลานด้วย นานๆ ทานมื้อค่ำด้วยกัน ก็คงไม่เป็นปัญหาใช่ไหม”

น้ำเสียงเฉียบขาดทำให้ทุกคนไม่กล้าปฏิเสธ สุดท้ายก็ต้องรับคำ แจ็คลีนรีบขึ้นรถกลับบ้านเพื่อแต่งตัว และเมื่อถึงบ้าน เธอเห็นแม่อยู่กับพ่อ ก็รีบวิ่งไปกอดแม่เอาไว้แล้วสารภาพ

“วันนี้หนูพูดไม่ดีกับซีริลด้วยล่ะค่ะ หนูพูดว่าเขาไม่ฉลาดเท่าแม่เขาที่ทิ้งเขากับพ่อไป แต่นั่นเพราะเขาเอาแต่ว่าท่านแม่มีอะไรกับผู้หญิงบ้าง หรือเป็นเลสเบี้ยนบ้าง หนูโกรธจัดมาก ก็เลยเผลอพูดออกไป” แจ็คลีนพูดทั้งน้ำตาและกำลังสารภาพความจริงกับแม่

กาเบรียลตกใจมากกว่าภรรยา เขาเห็นลูกสาวพูดเร็วกว่าและมีน้ำตาคลอ จึงเดินเข้าไปใกล้ๆ “ไม่เป็นไร ลูก ไม่มีปัญหาอยู่แล้วล่ะ อีกอย่าง ฉันว่าเธอควรบอกลูกนะ”

พายกอดลูกสาวเอาไว้ ก่อนจะพาเดินไปที่เก้าอี้ แล้วเช็ดน้ำตาของลูกสาวที่ค่อยๆ เอ่อล้นออกมา “ลูกรัก แม่ไม่เคยเป็นเลสเบี้ยน แต่แม่เคยมีอะไรกับผู้หญิง ก่อนจะมาเจอพ่อของลูก รู้อะไรไหม ทุกวันนี้ พ่อเขายังกลัวว่าแม่จะกลับไปหาพวกสาวๆ อยู่เลยล่ะ"

แจ็คลีนนิ่งอึ้ง ก่อนจะลุกขึ้นยืน แล้วกรี๊ดๆ พร้อมกระทืบเท้า จากนั้นก็นั่งลงพยายามสงบใจ “หนูขอสงบใจสักครู่นะคะ ไม่ใช่เลสเบี้ยนแต่มีอะไรกับผู้หญิง มันยังไงแน่คะ”

“ถ้าแม่เป็นเลสเบี้ยน รับรองเลยว่า แม่จะไม่ได้แต่งงานกับพ่อของลูกแน่นอน ซีริลแค่เรียกผิด แม่เป็นไบเซ็กชวล แม่มีอิสระที่จะเลือกรักหรือมีอะไรกับคนเพศไหนก็ได้ ถ้าจะเข้าใจผิดว่าเป็นเลสเบี้ยน ก็เพราะแม่ไม่เคยมีอะไรกับผู้ชายจนกระทั่งมาเจอพ่อของลูก ก็นะไม่มีผู้ชายคนไหนน่าสนใจนี่ ดูพ่อของลูกสิ สวย สง่าและมีรสนิยม แถม ยังหอมกว่าผู้หญิงอีก” พายอธิบายก่อนจะโดนสามีสะกิดแรงๆ

แจ็คลีนพยายามประมวลผล เมื่อนึกได้ว่าแม่เป็นคนมีอิสระเต็มที่ก็ถอนหายใจยาว แล้วเล่าต่อ “เขายังว่าแม่สอนให้หนูมีอะไรกับผู้หญิงด้วยค่ะ”

กาเบรียลโมโหตบโต๊ะดังเปรี้ยง ก่อนจะลุกขึ้นยืนแล้วสบถ “สารเลว!! ไม่รู้ว่าฉันมีหลานสารเลวแบบนี้ คิดได้ทุเรศมาก สมแล้วที่เป็นลูกพ่อมัน”

“ใช่ไหมคะ ท่านพ่อเห็นด้วยกับหนูใช่ไหมคะ หนูท้ามันไปสนามฟันดาบ มันก็ไม่กล้า หนูก็เลยว่ามันขี้ขลาดและไม่ฉลาดเท่าแม่ที่ทิ้งมันกับพ่อไป เท่านั้นล่ะค่ะ ซีริลกระโจนเข้าใส่หนู เบนเข้าไปขวาง ปัดมือของซีริลให้พ้นทาง จากนั้นโจชัวก็เข้ามา ทีนี้เบนกับโจชัวก็ต่อสู้กันเลยทีเดียว รู้สึกตัวอีกที เห็นแอนบอกว่าฟรังโกผู้ติดตามของท่านพี่ลีโอเนลใช้ท่อน้ำฉีด หนูก็เลยเปียกอย่างที่เห็นเนี่ยแหละค่ะ” แจ็คลีนใส่อารมณ์เต็มที่ เมื่อได้ยินพ่อพูดออกมา

พายยกมือขึ้นลูบหน้า ก่อนจะพูดให้สติทั้งสองคน “ใจเย็นๆ น่า ไม่ต้องถึงกับฉุนขาดกันได้ไหม มันเรื่องไม่เป็นเรื่อง เด็กนั่นก็แค่อยากเอาชนะลูกเราด้วยปากเท่านั้นเอง ก็แค่เด็กขาดความอบอุ่น แม่ก็มาทิ้งไป ลูกไปพูดแบบนั้น ก็ยิ่งทำให้เด็กคนนั้นยิ่งโกรธ เขามีปมน่ะ ลูก”

“ก็ใครให้มาพูดไม่ดีกับท่านแม่ก่อนล่ะคะ หนูจะไม่นับญาติกับคนแบบนั้นอีกแล้ว” แจ็คลีนมุ่งมั่นที่จะไม่รวมญาติกับซีริลอีกต่อไป

กาเบรียลเริ่มเห็นปัญหาและไม่สนับสนุนลูกสาวเรื่องนี้ สบตาภรรยาและพยายามปลอบให้ลูกสาวใจเย็นลง “ลูกรัก ถึงลูกจะไม่อยากวุ่นวายกับซีริล แต่ยังไง เรมองด์ก็เป็นน้องชายของพ่อ ถึงพ่อจะไม่ชอบเวลาที่เรมองด์พูดกับพ่อ แต่พ่อก็ไม่เคยตัดญาติกับเขานะ อย่างไรก็มีต้นตอสายเลือดเดียวกันนะลูก คนละสายเลือดลูกยังให้อภัยได้ แล้วคนสายเลือดเดียวกัน ลูกจะทำไม่ได้เลยเชียวเหรอ”

แจ็คลีนคลายอ้อมแขนที่กอดเอาไว้แน่น ก่อนจะวางมือลงที่เก้าอี้ยาวทั้งสองข้าง แม้ไม่พอใจนัก แต่ก็ต้องยอมรับเหตุผลของพ่อ “เย็นนี้หนูจะขอโทษ แต่เรื่องที่พูดว่าแม่ซีริลทิ้งเขากับพ่อไปเท่านั้น ส่วนเรื่องขี้ขลาดกับไม่ฉลาดนั้น หนูจะไม่ขอโทษ”

“โอเคได้ ว่าแต่เย็นนี้เลยเหรอ พรุ่งนี้ก็ได้ละมั้ง” กาเบรียลถอนหายใจยาวที่ยังพูดให้ลูกสาวเข้าใจได้

“เอ่อ หลังจากที่หนูกับซีริลก่อเรื่องที่สโมสร ทำให้ท่านปู่ขายหน้า ท่านปู่สั่งให้เราทุกคน ไปทานอาหารค่ำที่บ้าน แล้วก็ให้พาพ่อแม่ไปด้วยค่ะ แม้แต่ท่านพี่ลีโอเนลยังโดนเลยค่ะ ทั้งที่ไม่เกี่ยวกับเรื่องนี้สักนิด แล้วยังช่วยหยุดพวกเราเอาไว้ด้วยค่ะ” แจ็คลีนเล่าให้พ่อแม่ฟัง

“เย็นนี้คงอร่อยล่ะ เฮนริค สั่งคนครัวทำอาหารเย็นรอด้วย สามสี่ทุ่มจะกลับมากิน” พายตะโกนลั่นห้องให้เฮนริคที่อยู่หน้าห้องได้ยิน ก่อนจะหันไปคว้าคาราเมลมาใส่ปาก แล้วยื่นให้ทุกคน “เอาไหม รองท้อง ไม่งั้นไส้กิ่วแน่”

“พาย นี่ไม่ตลกนะ เธอชอบทำให้ทุกอย่างดูเป็นเรื่องตลกไปหมด รู้ไหมว่าการทำให้พ่อฉันขายหน้าในสโมสรที่ท่านเป็นสมาชิกมาเกินครึ่งศตวรรษเนี่ย เรื่องใหญ่ ไม่แปลกใจที่โดนเรียกไปหมดแบบนี้” กาเบรียลตื่นตกใจไม่แพ้ลูกสาว

“ทำใจเสียเถอะ ก็แต่งงานกับฉันนี่ ให้ทำไงได้ ชีวิตฉันมันง่ายซะที่ไหนล่ะ อดีตก็เยอะ เรื่องก็แยะ แต่แจ็ค ยังไม่ต้องบอกพี่ลูกนะ เดี๋ยวจะวุ่นวายไปใหญ่ อาจจะเตะซีริลทันทีที่เห็นหน้าเลยก็ได้ เพราะงั้นก็อย่าไปคิดมาก ทำตัวสบายๆ อะไรจะเกิด เดี๋ยวมันก็ต้องเกิดเองล่ะ คิดให้น้อยลงหน่อย” พายปลอบสามี ก่อนจะประทับริมฝีปากปิดปากสามีที่กำลังจะพูดขึ้น

แจ็คลีนยิ้มนิดๆ ก่อนจะปล่อยให้พ่อแม่มีเวลาเป็นส่วนตัวและเดินออกไปจากห้องนั่งเล่น เพื่อกลับห้องตัวเอง และเตรียมตัวสำหรับมื้อค่ำที่แสนวุ่นวาย

อดีตของแม่จะเป็นยังไงเธอไม่สนใจ ตราบที่ไฟรักของพ่อแม่ยังไม่จืดจาง ทุกอย่างก็ถูกสร้างสรรค์ให้งดงามได้สำหรับลูกๆ และเธอก็ไม่เคยกังวลเรื่องการแยกจากกันของพ่อแม่ เพราะตั้งแต่จำความได้ เธอไม่เคยเห็นพ่อแม่ทะเลาะกันเลย พ่ออาจจะมีพูดเสียงดังบ้าง นั่นเพราะแม่มักทำให้คนทั้งบ้านประหลาดใจได้เสมอ

******************************

สวัสดีค่ะ
โพส โพส โพส อิอิ
ขอบคุณที่ติดตามนิยายมาตลอดนะคะ

sirinda
คุณ สายลมแห่งรัก --- >,< ตั้งใจให้น่ารักสุดๆ ค่ะ
คุณ Pat --- รักแบบผู้ใหญ่นิดๆ ค่ะ อิอิ
คุณ ร้อยวจี --- ยังไงก็มาค่ะ เพราะบีก็รักคนอ่าน อิอิ
คุณ หนอนฮับ --- มาแว้ววววว ด้วย อิอิ
คุณ ตุ๊งแช่ --- *-* แฟนแก่แน่นอนค่า โฮะๆๆๆ
คุณ kaeka --- ชีวิตรักแบบ...อย่าเข้ามานะ อิอิ
คุณ XaWarZd --- ลุ้นๆ ด้วยกันจ้า
คุณ anOO --- วิธีดั่งเดิมที่สุดค่ะ ตื้อเท่านั้นที่ครองโลก อิอิ

jj-book
คุณ นอนดูดาว --- 555+ หลอนนนนนนนนนนน
คุณพี่ chakansi --- 555+ ช่วงนั้นมึน ช่วงนี้ก็มึนเหมือนเดิมค่ะ 555+

bloggang
คุณ tadatul --- ขอบคุณเช่นเดียวกันค่ะ
คุณ หมู --- ขอบคุณค่ะ ช่วงนี้น้ำท่วม ก็เลยยังไม่ได้โทรหา สนพ นะคะ ยังไงหลังน้ำลดแล้วจะโทรตามหนังสือให้ค่ะ ^^
คุณ วรรณ --- ^^ เชิญอ่านค่ะ อิอิ

dek-d
คุณ annann --- มีแน่นอนค่ะ อิอิ แต่จบภาคนี้แล้วคาดว่าจะจบแล้วจริงๆ นะคะ
คุณ lady-night --- โลลินิดเดียว (มั้ง) 555+
คุณ วนัน --- มาโพสต์ต่อแล้วค่ะ อิอิ



เพลิงวารี
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 28 พ.ย. 2554, 11:52:57 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 28 พ.ย. 2554, 11:52:57 น.

จำนวนการเข้าชม : 2159





<< ML001   ML003 >>
ร้อยวจี 28 พ.ย. 2554, 13:15:21 น.
สนุกค่ะรีบมาอัพต่อนะคะ นับวันรอค่ะ


anOO 28 พ.ย. 2554, 16:40:26 น.
มันส์กว่าเรื่องของหนุ่มๆ อีกแหะ
อย่างว่านะพระเอกเรื่องนี้เป้นหนุ่มใหญ่ผู้มากด้วยประสบการณ์ตื้อ (รึป่าว)


ตุ๊งแช่ 28 พ.ย. 2554, 16:46:10 น.
สาวมั่นออกโรง ฉะได้ทันควัน แต่แหม คนแก่ นิสัยไม่ดีก็ไม่ไหวนะคะ 55


สายลมแห่งรัก 28 พ.ย. 2554, 19:07:28 น.
ใช่พระเอกเปล่าอะ


ร้อยวจี 28 พ.ย. 2554, 20:43:18 น.
พรุ่งนี้ขออีกตอนได้ไหมค่ะ กำลังสนุกเชียว เป็นกำลังใจให้


หนอนฮับ 29 พ.ย. 2554, 10:31:39 น.
ชอบๆ ค่าาาา รีบมาต่อนะ...อึ อยากช่วยแจ๊คกี้ตบเจ้าเด็กปากเสียนั่นจริงๆ


XaWarZd 29 พ.ย. 2554, 12:35:58 น.
ยากจริงๆ ลุ้นต่อไป


tuktuk 29 พ.ย. 2554, 13:43:26 น.
วันนี้มาเยอะเลยนะคะ ชอบค่ะ


Pat 30 พ.ย. 2554, 22:00:41 น.
^_____________^


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account