กับดักใจ...ซาตานยอดรัก
เขา...ที่ตกหลุมรักเพื่อนน้องสาวที่ห่างจากเขา 15 ปี จะทำยังไงหากไม่วางกับดักให้เธอติดบ่วงเขา
เธอ...ที่ไม่เคยรักใคร เธอไม่เคยรู้ว่าเขากำลังต้อนเธอเข้ากรงใจ
Tags: พี่ใหญ่

ตอน: ตอนที่ 14

ตอนที่ 14

บ้านหลังใหญ่ของตระกูลธรรมกร ที่เป็นที่พักของทั้งครอบครัว เพชรหนุ่มใหญ่ร่างท้วมนั่งอ่านหนังสือพิมพ์อยู่ที่ห้องนั่งเล่นมีภรรยาที่นั่งดูเครื่องเพชรที่สะสมมาอยู่ข้างๆ กัน

“คุณแม่! คุณพ่อ! พอลลี่ไม่ยอมนะคะ” อุมาพรที่กลับมาถึงที่บ้านและไม่พูดพร่ำทำเพลงเธอก็เอ่ยออกมา ทั้งที่ตัวเองยังไม่ถึงโซฟาด้วยซ้ำ เธอพูดออกมาด้วยสีหน้าบูดบึ้งไม่พอใจ และยังแค้นไม่หายที่ไม่สามารถทำอะไรอีกฝ่ายได้เลยแม้แต่ครั้งเดียว ทำไมเธอต้องแพ้มันด้วย ทั้งที่เธอมั่นใจว่าเรื่องผู้ชายนังพลอยไม่มีทางหาได้เหนือกว่าเธอแน่ แต่ไหงกลายเป็นว่า...ผู้ชายของมันทั้งหล่อ และรวย...

“อะไรคะลูกพอลลี่...บอกแม่มาซิคะ” อุทุมพร หญิงวัยกลางคนผิวขาว ร่างเพรียวเล็ก ตาเล็กอย่างคนเชื้อสายจีน นางลูบผมลูกสาวอย่างตกใจที่เห็นท่าทางไม่พอใจของลูกสาวเพียงคนเดียว ที่ดูเหมือนจะโกรธใครมา

“ก็นังพลอย..ลูกเมียเก่าพ่อไงคะ” เธอกระแทกเสียงใส่อย่างไม่พอใจ และมองหน้าพ่อของเธอที่มีลูกกับผู้หญิงคนนั้นและมันเป็นหนามทิ่มใจเธอเสมอมา

“ทำไมเหรอคะ..มันทำอะไรให้ลูกพอลลี่ของแม่ไม่พอใจคะ?” นางอุทุมพรถามลูกสาวเสียงอ่อน นางเธอก็ไม่ชอบครอบครัวเมียเก่าสามีเหมือนกัน เธอไม่นึกว่านังไพลินมันจะสามารถตั้งตัวจนก้าวมายืนเทียมกับเธอในตอนนี้หรือไม่ก็อาจจะเหนือกว่าด้วยซ้ำ

“ก็มันน่ะซิคะเรียนไม่ทันจบก็มีแฟนซะแล้ว...แถมมีแฟนแก่กว่าตั้งเยอะนะคะแม่..งามหน้ามั้ยละพอพอลลี่เดินไปทักนังนั่นมันก็ด่าพอลลี่เสียๆ หายๆ นะคะ..แหมอย่างนี้พอลลี่ไม่ยอมหรอกนะคะ” อุมาพรบอกแม่เสียงเข้มอย่างไม่พอใจ และยิ่งไม่พอใจมากกว่าเดิมอีกเมื่ออีกฝ่ายเหนือกว่าเธอ

“นั่นซิคะคุณ..อย่างนี้มันใช้ได้ที่ไหน...ลูกสาวบ้านนั้นน่ะไม่พ้นคงท้องก่อนแต่งหรือไม่ก็ท้องไม่มีพ่อแน่เลยค่ะ” นางอุทุมพรบอกอย่างเชื่อทุกอย่างที่ลูกสาวบอก บ้านนั้นต้องย่อยยับไป

“นี่...เขานับผมเป็นพ่อด้วยรึเปล่าละ? ก็เห็นๆ อยู่ว่าบ้านนั้นเขาเกลียดผมมากแค่ไหน คุณกับลูกจะมาพาดพิงผมทำไมกัน ยังไงก็ขาดกันไปนานแล้ว...” คุณเพชรได้แต่วางหนังสือพิมพ์ลงและมองหน้าสองคนแม่ลูกที่ช่างหาเรื่องมาให้เขาปวดหัวเหลือเกิน แค่นี้เขาก็มีเรื่องให้คิดมากพอแล้ว

ตอนที่ได้รับรู้เรื่องลูกสาวอีกคนที่ฝ่ายนั้นไม่ยอมนับญาติกับเขาแล้ว เพราะสิ่งที่เขาทำไว้กับครอบครัวนั้น แม้ว่าอยากจะไปเยี่ยมเยียนหรือว่าไปหาเขาก็ไม่สามารถที่จะทำได้เพราะทางนั้นไม่ยอมที่จะเจอหน้า และยังบอกอีกฝ่ายเมื่อไปแล้วก็อย่ากลับมาให้เห็นหน้าอีก เขาถือว่าพ่อเขาตายไปแล้วตั้งแต่ที่เขาทิ้งไปกับผู้หญิงคนนั้นที่รวยกว่าแม่เธอ

“แหม..ถ้าเขานับก็จะไปหารึไงคะคุณเพชร?” อุทุมพรมองหน้าอีกฝ่ายอย่างไม่พอใจ ทำไมนางจะไม่รู้ว่าสามีอยากจะไปหาลูกสาวบ้านนั้นแค่ไหน แต่ติดที่ว่าลูกบ้านนั้นไม่ยอมเจอหน้าและเกลียดเขายิ่งกว่าอะไรเสียอีก

“อย่าคิดมากน่า..แล้วเขาว่าอะไรละลูก?” เขาเปลี่ยนไปถามลูกสาวที่นั่งกอดมารดาอย่างต้องการหาที่พึ่งอยู่

“มันว่าพอลลี่น่ะไม่มีปัญญาหาแฟนรวยๆ อย่างมัน...แล้วก็ว่าพอลลี่น่ะโง่ไม่มีปัญญาสอบเข้ามหาวิทยาลัยของรัฐ...แถมมันยังว่าคุณแม่น่ะแย่งพ่อไปจากแม่มันด้วยนะคะ” เธอบอกอย่างที่เธอต้องการไม่ได้บอกว่าตัวเองเป็นฝ่ายที่เข้าไปหาเรื่องพลอยไพลินและอีกฝ่ายไม่ได้ใส่ใจที่เธอพูดแม้แต่นิดเดียว

“ต้าย! ทำไมมันกล้าอย่างนี้ ทุมไม่ยอมหรอกนะคะ กล้าดียังไง...คุณเพชรต้องจัดการให้ทุมนะคะ..นังเด็กก้าวร้าวมันกล้าว่าทุมอย่างนี้น่ะ” อุทุมพรร้องออกมาอย่างตกใจ และไม่พอใจอย่างมาก ที่ตนถูกก้าวร้าวขนาดนี้

“น่า...คุณทุมคุณจะให้ผมไปทำอะไรเขาได้ละ...เขามีสิทธิ์ที่จะคิด จะพูดหรือแม้แต่ทำอะไรก็ได้มันเป็นสิทธิ์ของเขานะ อย่าลืมซิว่าที่เขาพูดมันก็จริง..แล้วก็นะเขาอยู่ได้ด้วยตัวเองไม่ได้ขอเงินใครแม้แต่บาทเดียวนะ ผมจะมีสิทธิ์อะไรไปว่าเขา เงินผมก็ไม่เคยให้เขาเลย ต่อให้ผมให้เขาก็ไม่รับหรอก” คุณเพชรได้แต่ถอนใจอย่างไม่รู้จะจัดการยังไงเขารู้ดีว่าคนที่เข้าไปหาเรื่องก่อนต้องเป็นอุมาพรอยู่แล้ว แต่ใครมันจะไปยอมรับละว่าตัวเองเป็นฝ่ายเข้าไปหาเรื่องแต่โดนเขาว่ากลับมาน่ะ

“พอลลี่ไม่ยอมนะคะ..ยังไงคุณแม่ก็ต้องจัดการนังพลอยให้พอลลี่” เธอเอ่ยออกมาอย่างไม่พอใจเมื่อบิดากล่าวจบ

“ไม่ต้องห่วงลูกแม่จัดการมันแน่..เมื่อพ่อแกไม่ได้เรื่องเดี๋ยวแม่จัดการกับมันเอง คราวนี้ละแม่จะทำให้มันต้องอับอายคนไปทั้งประเทศเลยละ” นางบอกอย่างเพิ่งคิดอะไรดีๆ ออกได้

“ยังไงคะ!” อุมาพรถามออกมาอย่างตื่นเต้น เมื่อแม่เธอบอกอย่างนี้แสดงว่าท่านกำลังมีแผนการดีๆ อะไรสำหรับจัดการครอบครัวนั้นแล้ว

“เราไปคุยกันสองคนดีกว่านะคะลูกพอลลี่...” นางอุทุมพรพาลูกสาวเดินออกจากห้องไปปล่อยให้สามีได้แต่มองตามอย่างอ่อนใจไม่รู้ว่าชิงดีชิงเด่นอะไรกัน ฝ่ายนั้นเขาก็ไม่ได้เข้ามาวุ่นวายกับเขาอีกเลยตั้งแต่ที่เลิกกัน เขารูว่าไพลินเป็นคนใจแข็งแม้จะเจ็บเจียนตายแต่เธอก็ใจสู้ พยายามอย่างมากที่จะเลี้ยงลูกสองคนที่เขาไม่เคยเหลียวแลเลยแม้น้อย

หลังจากที่เขาทิ้งไปหลายปีไพลินก็สามารถสร้างตัวสำเร็จและลูกสาวทั้งคู่ก็ช่างเหมือนเลี้ยงได้ดั่งใจเหลือเกิน เป็นเด็กน่ารัก เรียนดี ไม่เคยสร้างเรื่องให้แม่เลยซักครั้ง มีแต่สร้างเรื่องน่ายินดี ขนาดเขาได้ยินและรับรู้เรื่องราวอยู่ห่างๆ เขายังอดที่จะภูมิใจในตัวทั้งคู่ไม่ได้

และยิ่งพอโตเป็นสาวทั้งคู่ก็ตั้งใจเรียนและสอบติดมหาวิทยาลัยชื่อดังและร่ำเรียนได้เกรดเฉลี่ยดีเยี่ยม ลูกสาวคนโตเรียนจบกลับมาและช่วยงานแม่เธอได้อย่างไม่มีที่ติ เขายังเคยได้ยินลูกค้าบางรายเอ่ยถึงลูกสาวคนโตของเขาในเชิงชื่นชม และอยากได้เป็นลูกสะใภ้แต่ติดตรงที่ว่างหญิงสาวไม่สนใจหรือมีท่าทีด้วยเลย

เขาเคยแอบไปหาลูกสาวทั้งสองคนแต่ก็ต้องพลาดเพราะว่าอดีตภรรยาของเขารู้เข้าจึงไม่ให้ลูกสาวมาที่โรงแรมวันนั้น ซึ่งทำให้เขาเสียใจมากที่อีกฝ่ายกีดกันไม่ให้เขาได้เจอหน้าลูกๆ ของเขาเอง...ลูกที่เขาเป็นคนทอดทิ้งไป


“หึ..ทำไงได้ละในเมื่อเราเป็นคนที่ทิ้งเขามาเอง” เขาได้แต่บอกตัวเองหยันๆ เมื่อคิดว่าอะไรที่เป็นสาเหตุของความเกลียดชังของทั้งสามคน เขารู้ว่าอดีตภรรยาไม่ได้เสี้ยมสอนให้ลูกเกลียดเขาหรอก แต่เพราะว่าลูกเขาเห็นการกระทำของเขาที่ทำกับแม่เธอนั่นละ แม้ว่าลูกสาวคนเล็กจะเด็กและไม่รู้เรื่องตอนนั้นแต่เพราะเรื่องราวทุกอย่างครอบครัวไม่เคยปิดบังทำให้เธอรับรู้เรื่องราวทุกอย่าง แค่ที่เขาทิ้งไปก็ทำให้เธอเกลียดเขาแล้ว ยิ่งเมื่อรู้สาเหตุของการทิ้งไปก็ยิ่งทำให้ลูกเกลียดเขามากกว่าเดิมอีก

ยิ่งครอบครัวใหม่ต่างพร้อมใจกันหาเรื่องครอบครัวเก่าก็ยิ่งทำให้ความเกลียดชังของลูกๆ ที่มีต่อเขามีมากเกว่าเดิมเสียอีก ขนาดเจอหน้ากันตรงๆ เขาอยากจะทักทายพวกเธอยังเดินผ่านไปอย่างไม่ใยดีแม้แต่น้อย นี่คงจะเป็นผลกรรมจากที่เขาทำกับแม่ของเธอเป็นแน่แท้

“ผมผิดต่อคุณมากเลยใช่มั้ยไพลิน” เขาได้แต่พ้อออกมาเมื่อนึกถึงอดีตภรรยาที่เขาทิ้งเธอพร้อมลูกอีกสองคน ทำให้เธอต้องลำบากเพราะความทะเยอทะยานของเขาเอง เพียงเพราะคนใหม่มีอะไรให้เขาได้มากกว่า สามารถสร้างความร่ำรวยและมีหน้ามีตาให้เขาได้มากกว่าอดีตภรรยาเขาก็ทิ้งครอบครัวเดิมทันที และสร้างครอบครัวใหม่ ที่เขาลักลอบได้เสียกันมาเป็นปี กระทั่งอีกฝ่ายมีลูกอีกคนให้เขา ทำให้อุทุมพรยื่นคำขาดกับเขาว่าให้เลือกเสียทีว่าจะเอายังไง และเขาก็เลือกคนใหม่เพราะยังไงอีกฝ่ายก็สาวกว่าอดีตภรรยาเขาและมีทางก้าวหน้าให้อีกด้วย

ไม่ว่าอดีตภรรยาและลูกสาวคนโตจะขอร้องยังไงเขาก็ไม่ยอมฟังเสียง และสิ่งที่เขาได้รับตอนนี้คือสายตาเกลียดชังจากลูกสาวทั้งสองคนที่ไม่ยอมรับ และไม่มองหน้าด้วยซ้ำพวกเธอเรียกเขาด้วยชื่อไม่คิดจะเรียกเขาว่าพ่อซักคำ นั่นก็น่าจะสมควรแล้วกับการกระทำของเขาเอง

แม้ว่าเขาจะพยายามยังไงก็ไม่สามารถลบล้างความผิดที่ทำเอาไว้ในอดีตได้เลย ยิ่งครอบครัวใหม่เขาก็เกลียดชังครอบครัวเก่าเหลือเกินและสั่งสอนให้ลูกสาวอีกคนของเขาเกลียดพี่สาวต่างแม่ ดูเหมือนว่าการสั่งสอนของภรรยาเขาจะได้ผลเป็นอย่างดี เพราะลูกสาวของเขาคนนี้เกลียดชังและคอยหาเรื่องอีกฝ่ายอย่างสม่ำเสมอ และพยายามแข่งทุกอย่างกับอีกฝ่าย ไม่ว่าจะการเรียนหรือแม้แต่เรื่องความรัก แต่ก็ดูเหมือนว่าลูกสาวของอีกบ้านจะทำได้ดีกว่าเหมือนกัน





เกือบเที่ยงคืนร่างบางที่เดินลงจากรถหรูของใครบางคนที่ให้เธอเอารถกลับบ้านวันนี้ หลังจากที่เธอขับรถไปส่งสองพี่น้องที่บ้านของพวกเขาและชายหนุ่มก็ให้เธอเอารถกลับมามา เขาเป็นห่วงกลัวว่าเธอจะเป็นอะไรรึเปล่า เพราะเขาเองก็มีแอลกอฮอล์เล็กน้อย แต่ว่าพวกเธอไม่อยากให้เขาขับรถ เรื่องอย่างนี้ประมาทไม่ได้หรอก ต้องปลอดภัยไว้ก่อนหากเกิดเรื่องอะไรคนที่เสียคือชายหนุ่มเพราะเขาเป็นคนที่ถูกจับตามองมากคนหนึ่ง

แม้ว่าเพื่อนสาวของอีกฝ่ายจะขันอาสาจะเป็นสารถีให้อย่างเต็มใจ แต่ว่าชายหนุ่มก็ปฏิเสธอย่างมีมารยาท โดยเอาเธอเป็นโล่ได้อย่างแนบเนียนอย่างมาก มีน้องสาวเขาเป็นฝ่ายสนับสนุนอย่างเต็มที่ ก็รู้อยู่หรอกว่าเขมวันต์ห่วงพี่ชายกลัวจะพลาดท่าเสียทีเพื่อนสาวที่คิดอะไรเกินเลยกับพี่ชายตัวเอง

เธอยังจำความรู้สึกตอนที่จะออกมาจากบ้านหลังนั้นได้เป็นอย่างดี หลังจากที่เธอส่งทั้งคู่เรียบร้อยแล้ว และกำลังจะขอตัวกลับ เหมวันต์ก็เดินตามมาส่งเธอถึงที่รถ เขาก้มหน้ามาชิดที่ข้างแก้มจนรู้สึกถึงลมหายใจร้อนผะผ่าวของเขา ทำเอาเธอรู้สึกแปลกๆ ยังไงไม่รู้ได้ แต่เธอไม่สามารถหลบไปไหนได้เมื่อหลังเธอชนกับกับรถหรูของเขาที่ด้านหลัง และมีแขนของเขากักเธอเอาไว้ทั้งสองข้างแววตาที่ส่งมาที่เธอมันช่างเว้าวอนยังไม่ไม่อาจจะรู้ได้

“ขอบคุณมากสำหรับวันนี้...และฝันดีนะครับ”เอ่ยจบเขาก็ก้มมาหอมแก้มเธอบางๆ แล้วเดินจากไปทันที ไม่เปิดโอกาสให้เธอได้โต้แย้งใดๆ ทั้งสิ้นคนที่ตกใจกับการกระทำไม่คาดคิดของอีกฝ่าย เอามือจับแก้มตัวเองอย่างเผลอๆ ไม่คาดคิดว่าเขาจะทำอะไรอย่างนี้

พลอยไพลินได้แต่มองตามหลังอีกฝ่ายที่เดินจากไปอย่างอารมณ์ดี ไม่มีวี่แววของคนที่เมาหรือมีแอลกอฮอล์อยู่ในร่างกายแม้แต่น้อย เธอยืนอยู่ตรงนั้นอยู่นานกว่าจะมีสติเดินเข้ารถและขับออกไป เธอไม่รู้เธอมีสติขับรถกลับมาถึงที่บ้านได้ยังไง รู้แต่ว่าเธอวนเวียนคิดถึงการกระทำของเขาเมื่อครู่ไม่อาจจะสลัดให้หลุดจากหัวเธอได้เลย

“ไปไหนมาเหรอพลอยกลับมาซะดึกเชียว?” เพชรไพลินที่นั่งอ่านหนังสืออยู่ที่ห้องรับแขกเห็นน้องสาวเดินเข้ามาในบ้านเกือบเที่ยงคืนแล้ว ปกติน้องเธอก็ไปไหนมาไหนกับเพื่อนเป็นประจำอยู่แล้ว บ้านเธอเลี้ยงลูกแบบให้อิสระแต่ให้โทรบอกหน่อยจะได้ไม่ต้องเป็นห่วงเท่านั้นเอง

“อ้าว..พี่เพชร...ยังไม่นอนอีกเหรอคะดึกแล้วนะ?” พลอยไพลินชะงักเท้าที่กำลังเดินต่อไป เมื่อเห็นว่าพี่สาวอยู่ในชุดนอนและทับด้วยชุดคลุมสีหวานนั่งอยู่ในห้องรับแขกที่เธอกำลังเดินผ่าน

“ยัง..พี่กำลังอ่านหนังสือที่เพิ่งได้มาน่ะ..ว่าแต่เราเถอะไปไหนมาเหรอ?” เพชรไพลินที่วางหนังสือในมือลงและมองหน้าน้องสาวนิ่ง และอยากรู้ว่าน้องสาวไปไหนมา

“อ๋อ..พี่เพชรรอเอาของที่ฝากให้พลอยไปเอารึเปล่า?” เธอเพิ่งนึกออกว่าตัวเองลืมอะไรไปรึเปล่า เมื่อวันนี้เธอสัญญากับพี่สาวว่าจะไปเอาของที่พี่สาวฝากเอาให้

“เปล่าหรอก แต่พี่เป็นห่วงเราน่ะ..มานั่งนี่ก่อนมา” เพชรไพลินตบที่นั่งข้างตัวเองเรียกให้น้องสาวเดินเข้ามาหา

“อ้าว..เหรอนึกว่ารอเอาของ” เธอทำหน้างงๆ เมื่อพี่สาวไม่ได้มาดักรอเอาของจากเธอ แต่เรียกให้ไปนั่งซะอีก

“มานั่งนี่ดีกว่าพี่มีเรื่องอยากถามน่ะ?” เธอไม่สนใจของที่น้องสาวยื่นมาให้ดู เพราะรู้ว่ายังไงของก็ครบอยู่แล้ว

“มีเรื่องอะไรเหรอคะ?” พลอยไพลินเดินเข้ามาแล้วนั่งลงมองพี่สาวอย่างคาใจเต็มที่ว่าพี่สาวมีเรื่องอะไรจะคุยกับเธอ

“วันนี้เราไปเจอบ้านนั้นมาเหรอ?” เพชรไพลินถามเข้าประเด็นทันที รู้ดีทีเดียวว่าอีกฝ่ายต้องเป็นฝ่ายเข้ามาหาเรื่องแน่แต่เรื่องที่เธออยากจะรู้มากกว่า

“ก็ใช่...แล้วพี่เพชรรู้ได้ไงน่ะ?” เธอข้องใจมากกว่าเพราะเธอไม่ได้บอกใครว่าเธอเจอบ้านนั้นเพราะไม่อยากให้พี่สาวและแม่ไม่สบายใจ แต่เธอแค่บอกว่าเธอจะไปกับเขมวันต์เท่านั้น

“เรื่องนั้นไม่ต้องใส่ใจหรอกน่า...ว่าแต่ตอนที่เจอมีใครอยู่ตรงนั้นบ้างละ?” เธอตอบอย่างไม่ใส่ใจ เพราะเรื่องที่กำลังจะเกิดกับน้องสาวมากกว่าที่จะทำให้เป็นเรื่อง ไม่รู้ว่าใครไปล่อยข่าวน่ะซิ....

“ตอนนั้นเหรอ...ก็มีพลอย สาม ยัยพอลลี่ แฟนเขาละมั้ง?” เธอไล่อย่างไม่ใส่ใจมากนัก ไม่เห็นจะสำคัญไม่ใช่ว่าเธอไม่โดนหาเรื่องจากอีกฝ่ายเสียหน่อย เจอกันเป็นประจำ

“แล้วพี่ใหญ่อยู่ที่นั่นด้วยรึเปล่า?” เธอถามตรงประเด็นทันที เพราะเรื่องนี้มันเกี่ยวกับเขาโดยตรงน่ะซิ ถ้าไม่อยู่ก็ยังสามารถแก้ไขเรื่องนี้ได้ง่ายอยู่แต่ถ้าอยู่มันก็ยาก

“เกี่ยวอะไรกับพี่ใหญ่ด้วยเหรอพี่เพชร?” พลอยไพลินถึงกับขมวดคิ้วมุ่นอย่างไม่เข้าใจที่พี่สาวถาม และมันเกี่ยวกับอีกคนที่ทำให้เธอแทบไม่มีสติเมื่อครู่ยังไง แค่นี้เธอยังใจสั่นเพียงแค่พี่สาวเอยชื่อเขาเลย

“เฮ้อ..นี่ไม่ได้รู้อะไรเลยซิท่า...ว่าเป็นเรื่องแล้วน่ะ...วันนี้เราไปมีเรื่องกับยัยพอลลี่ในห้างฯ ยัยจีจี้ไม่ใช่รึไงละ...” สาวเปรี้ยวได้แต่ถอนใจอย่างหนักอก กับเรื่องที่กำลังจะบอกกับน้องสาวเหลือเกิน

“...ใช่..แล้วเกี่ยวอะไรกับพี่ใหญ่ด้วยละ?” เธอก็ยังไม่เข้าใจอยู่ดีนั่นละ...

“เฮ้อ..แล้วพลอยได้ไปพูดอะไรรึเปล่าละเกี่ยวกับพี่ใหญ่น่ะ?” เธอได้แต่ถอนใจเกี่ยวกับความซื่อบื่อของน้องสาวเหลือเกิน ทั้งที่เรื่องอื่นโคตรจะฉลาดแต่เรื่องความรู้สึกตัวเองกลับทื่อเสียไม่มี

หลังจากที่ได้ฟังพี่สาวพูดอย่างนั้นแล้ว เธอก็พยายามคิดถึงตอนที่มีเรื่องกันและคำพูดไปเพราะอารมณ์อยากจะชนะอีกฝ่าย และพลั้งปากพูดเรื่องที่ไม่ควรออกไป แต่เธอไม่คิดว่ามันจะเป็นเรื่องอะไร เพราะว่าเธอกับอีกฝ่ายไม่ได้เป็นอะไรกันเลย เธอเป็นแค่เพื่อนน้องสาว...

“ก็..แค่...อย่าบอกนะว่ามีใครได้ยินที่พลอยพูดไปน่ะ...” เธอบอกไปและก็ต้องตาโตเมื่อคิดว่าอาจจะมีคนได้ยินคำพูดเธอตอนนั้น “แต่พลอยว่ามันไม่น่าจะเป็นเรื่องอะไรนี่นา...” เธอก็ยังไม่เห็นเป็นเรื่องอะไรเลย เธอแค่บอกว่าเธอกับเหมวันต์กำลังคบหากันอยู่

“นั่นละที่มันเป็นเรื่อง ตอนแรกพี่ก็คิดว่าไมน่ามีอะไรหรอกนะ...ตอนที่ได้ยินข่าวนี้ครั้งแรก แต่ข่าวที่สองที่ได้ยินออกมาน่ะซิทำเอาพี่ไม่กล้าบอกคุณแม่เลยนะ” เธอบอกด้วยสีหน้ากังวลอย่างเห็นได้ชัด และยิ่งเห็นสีหน้าของอีกฝ่ายที่ไม่รู้เรื่องเลยแม้แต่นิดเดียวด้วยแล้วเธอยิ่งอ่อนใจ


“อะไร?” มีแค่นั้นเธอที่ไม่รู้อะไรเลยได้แต่มองหน้าพี่สาวอย่างข้องใจเหลือเกินว่าแค่เธอพูดแค่นั้นมันจะเป็นเรื่องอะไร

“มันคงไม่มีอะไรหรอกถ้าตรงนั้นมีแค่นักข่าว ถ้าสองคนแม่ลูกไม่พ่นพิษอีกครั้งน่ะ...” เธอบอกออกมาอย่างฉุนเฉียวไม่ต้องบอกก็รู้ว่าเรื่องราวแย่ๆ ของน้องสาวออกมาจากปากใครกันแน่

“หมายความว่าสองคนนั้น...”

“ใช่! ยัยพอลลี่กับแม่ของหล่อนคงไปพูดกับนักข่าวว่าพลอยน่ะเป็นเด็กของพี่ใหญ่ แต่เขาไม่ได้เอ่ยชื่อหรอกนะว่าเป็นเด็กใครมีแต่บอกว่าพี่กับแม่ให้พลอยไปบำเรอเสี่ยใหญ่บางคนเพื่อยกฐานะและเพื่อที่จะกู้เงินจากอีกฝ่ายโดยให้พลอยไปเป็นของบรรณาการ” เธอบอกออกมา แม้ว่าในเนื้อข่าวจะไม่เอ่ยชื่อตรงๆ ก็ตามแต่อีกข่าวที่ลงประมาณว่าทั้งคู่คบหากันอยู่ก็เป็นการบอกได้เป็นอย่างดี เพราะเนื้อข่าวที่เธอรู้ว่ามาเป็นข่าวกอสซิบที่ชอบเขียนอักษรย่อกัน แต่อยู่ที่ว่าใครจะโดนก่อนเท่านั้นเอง เรื่องนี้เธอไม่รู้ว่าคนอย่างเหมวันต์จะรู้สึกยังไง เพราะเขาเองก็เสียหายแม้จะเป็นผู้ชายแต่ว่าในวงการธุรกิจเขาอาจจะถูกมองในแง่ลบและกระทบต่อภาพลักษณ์บริษัทได้ เมื่อมีข่าวแบบนี้ออกมาแม้ผู้ชายที่ประสบความสำเร็จหลายๆ คนจะนิยมเลี้ยงเด็กจริงๆ ก็ตามแต่ไม่มีใครออกมาพูดหรอก







มาอัพแล้วจ้าอย่าลืมเม้นท์กันน้า



อักษรจัญจ์
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 29 พ.ย. 2554, 11:46:53 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 29 พ.ย. 2554, 11:46:53 น.

จำนวนการเข้าชม : 2454





<< ตอนที่ 13   ตอนที่ 15 >>
anOO 29 พ.ย. 2554, 13:49:24 น.
แม่ลูกคู่นี้ร้ายพอกันเลย เดี๋ยวได้เจอพี่ใหญ่จัดของสมนาคุณให้หรอก


หมูอ้วน 29 พ.ย. 2554, 15:28:06 น.
รอตอนต่อไปค่ะ


คิมหันตุ์ 29 พ.ย. 2554, 22:29:56 น.
ข่าวไวมาก


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account