กลรัก สลับหัวใจ
เมื่อเพื่อนสาวจอมยุ่ง จับผลัดจับพลูให้เธอนัดไปดูตัวกับคาสโนว่าหนุ่มแลกกับค่าจ้างหนึ่งหมื่น ม่านนทีจึงยอมเซย์เยส แปลงร่างเป็นนางซินวางแผนตัดสัมพันธ์แทนเพื่อนสาวเสียดิบดี แต่ที่ไหนได้เขาทั้งหล่อ เท่ แถมยังมีรอยยิ้มบาดใจ ทำเอาเธอชักหวั่นไหวซะแล้วสิ
Tags: รักโรแมนติก,รักหวานๆ,รักใส ๆ

ตอน: ตอนที่ 27 หัวใจซ่อนกล

บทที่ 27
หัวใจซ่อนกล

“เตรียมตัวเตรียมใจไว้แล้วใช่ไหมตาเมศ”

คุณหญิงวิมลชื่นประกาศเสียงดังฟังชัด ถึงกำหนดการเข้าพิธีมงคลฤกษ์ระหว่างหลานชายกับลูกสาวเพื่อนสนิท ที่ไม่เคยรู้จักหน้าค่าตากันมาก่อน

“คุณหญิงป้า กำลังล้อผมเล่นอยู่ใช่ไหมครับ” ชายหนุ่มถามเสียงขรึม นึกอยากหัวเราะก็หัวเราะไม่ออก เนื่องจากอีกฝ่ายลงทุนหาฤกษ์งามยามดีและจองโรงแรมเอาไว้เรียบร้อยแล้ว

“ใครว่าล่ะ ฉันพูดจริงต่างหาก คนอย่างแกถ้าไม่ทำแบบนี้ ชาตินี้ก็คงไม่ได้แต่งงานมีทายาทสืบสกุลกับเขาสักทีหรอก ไม่ต้องออกปากคัดค้านอะไรทั้งนั้น เตรียมตัวทำตามที่ฉันสั่งก็พอ”

คุณหญิงวิมลชื่นตีสีหน้าขึงขัง สวมชุดกระโปรงสีเขียวปีกแมลงทับตัดเย็บจากผ้าไหมราคาแพง เข้ากับต่างหูและสร้อยคอเพชรราคาหลายล้าน ยกพัดในมือขึ้นโบกไปมาทั้งที่นั่งอยู่ในห้องปรับอากาศ

ราเมศยกมือขึ้นกุมขมับ นึกอยากตายวันละสักร้อยรอบ

“เรื่องแต่งงานไม่ใช่เล่นขายของนะครับป้า จู่ ๆ จะมาบังคับให้ผมแต่งงานกับผู้หญิงที่ไม่เคยรัก ไม่เคยเห็นหน้ากันมาก่อนได้ยังไง”

“ไม่เห็นจะเป็นไรเลย อยู่ ๆ ไปเดี๋ยวก็รักกันเองนั่นแหละ อีกฝ่ายเขาเป็นลูกสาวเพื่อนในแวดวงธุรกิจเดียวกันกับป้า ท่าทางเรียบร้อยน่ารัก รับรองว่าแกจะต้องชอบแน่ ๆ ”

อีกฝ่ายทำเป็นทองไม่รู้ร้อน สมัยโบร่ำโบราณการแต่งงานแบบคลุมถุงชนเองก็มีให้เห็นบ่อยไป คู่หนุ่มสาวที่ผู้ใหญ่เลือกให้ไม่เห็นจะมีปัญหาตรงไหน ตรงกันข้ามกลับเป็นผลดีกับวงศ์ตระกูลเสียด้วยซ้ำ

ใบหน้าคมคายขมวดคิ้วเข้มอย่างยุ่งยากใจ

“แต่ผมมีผู้หญิงที่ผมรักอยู่แล้ว”

คุณหญิงวิมลชื่นเลิกคิ้วสูงให้กับคำตอบของหลานชาย ที่มักยกขึ้นมาใช้เป็นข้ออ้างเป็นประจำทุกครั้งที่พูดถึงเรื่องแต่งงาน

“โกหกเหมือนเดิมอีกละสิ”

“ผมพูดจริง”

“คราวนี้ใครอีกล่ะ คู่ควงของแกมีมากเสียจนฉันขี้เกียจจะนับอยู่แล้ว แม่นางแบบตัวสูงที่เคยเป็นข่าวกับแกหรือไง”

ราเมศถอนหายใจยาว กับแววดาวเขาไม่เคยคิดแม้แต่จะพาเธอมาให้คุณหญิงป้ารู้จักเลยด้วยซ้ำ ตรงกันข้ามกับอีกคนที่ถึงแม้อยากพามาให้รู้จักใจแทบขาด กลับแทบไม่มีหวังเอาเสียเลย

“ไม่ใช่ครับ”

“หือ”

“เราเพิ่งพบกันได้ไม่นาน แต่เธอประทับใจผมหลายอย่าง...จนถึงขั้นอยากแต่งงานด้วยเลยก็ว่าได้”

คำสารภาพจากปากหลานชายจอมเจ้าชู้ สร้างความประหลาดให้แก่ผู้เป็นป้าชนิดที่คาดไม่ถึง ด้วยที่ผ่านมาเจ้าตัวไม่เคยศรัทธาในเรื่องความรักมาก่อน จนได้ชื่อว่าเป็นพวกไร้หัวใจด้วยซ้ำไป

“นี่แกพูดผิด หรือว่าป้าเป็นฝ่ายฟังผิดกันแน่”

“ผมกำลังซีเรียสนะครับคุณหญิงป้า” ราเมศทำหน้าขึงขัง “เธอเป็นผู้หญิงที่ผมรัก และต้องการแต่งงานด้วย นอกจากเธอคนนี้ผมก็ไม่อยากแต่งงานกับผู้หญิงคนไหนอีกแล้ว”

คุณหญิงวิมลชื่นแย้มยิ้มออกมาทันที

“แหม แล้วทำไมไม่รีบ ๆ บอกตั้งแต่ก่อนหน้านี้ล่ะ รีบไปพาผู้หญิงคนที่ว่ามาแนะนำให้ป้ารู้จักเร็วเข้า จะได้บอกยกเลิกกับทางโน้น แล้วหันมาคุยเรื่องการทาบทามสู่ขอเจ้าสาวให้แกอย่างเป็นเรื่องเป็นราวเสียที”

“เอ่อ เรื่องนั้น”

“ทำไม อย่าบอกนะว่าแกปั้นน้ำเป็นตัวขึ้นมาหลอกป้า”

“ผมยังไม่พูดสักคำ”

“ถ้างั้นก็รีบ ๆ ไปพาตัวมาให้ป้าดูสิ ภายในวันพรุ่งนี้ถ้าแกยังหาเจ้าสาวมายืนยันไม่ได้ ป้าก็จะถือว่าแกแค่หาข้ออ้างขึ้นมาปฏิเสธการแต่งงาน แล้วห้ามมาโวยวายทีหลังล่ะ”

พูดจบคุณหญิงวิมลชื่นก็ย้ายตัวเองจากเก้าอี้โซฟาห้องทำงานของหลานชาย เดินออกจากประตูไปร่วมดื่มอาหารว่างกับคณะผู้บริหารที่รอพบปะอยู่ในห้องประชุมชั้นบนสุด ราเมศได้แต่ยกมือขึ้นกุมขมับ หลับตาถอนหายใจยาวอย่างไม่รู้จะสรรหาคำใดมาอธิบายความคิดของคุณหญิงจอมบงการดี

“ให้ตายสิ...รับมือยากชะมัด”


ภายในผับชื่อดัง มีการออกแบบตกแต่งอย่างมีสไตล์ เต็มไปด้วยนักเที่ยวยามราตรีที่พากันมานั่งจิบเหล้าฟังเพลงเย็น ๆ ภายในบรรยากาศ หลายคนเลือกที่นี่เป็นสถานที่พักใจ ปล่อยความคิดให้ไหลไปตามอารมณ์และเสียงดนตรีชวนเคลิบเคลิ้ม จนนึกอยากนั่งแบบนี้ไปตลอดจนกระทั่งเวลาเช้า

เสียงเพลงขับกล่อมเป็นจังหวะเบา ๆ กับรสชาตของน้ำมาตินี่ในแก้วน้ำทรงสูง ทำให้ปิ่นแก้วรู้สึกผ่อนคลายขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก ร่างบางสวมกระโปรงสีดำสั้นเหนือเข่าคลุมทับด้วยเสื้อคลุมแขนยาวเรียบหรู เกล้าเส้นผมสลวยเอาไว้เหนือศีรษะหลังต้นคอ บางส่วนระใบหน้าหวานและดูมีเสน่ห์เย้ายวนกว่าเวลาปกติ

“รับเครื่องดื่มเพิ่มมั้ยครับคุณผู้หญิง” บาเทนเดอร์หน้าตาดีเอ่ยถาม หลังจากที่เห็นลูกค้าสาวสวยเอาแต่นั่งจ้องเครื่องดื่มสีอำพัน โดยไม่มีทีท่าว่าจะสั่งเพิ่ม

“ขอบคุณค่ะ แต่ไม่ดีกว่า”

ปิ่นแก้วยกมือขึ้นเท้าคางส่ายหน้าปฏิเสธ ประสบการณ์ครั้งที่แล้วสอนให้เธอรู้ว่าการดื่มมากเกินไปไม่ได้ช่วยให้เกิดผลดี โดยเฉพาะกับผู้หญิงสาวที่มานั่งดื่มตามลำพังในค่ำคืนเดียวดายเช่นนี้

ผับแห่งนี้เป็นที่แห่งแรกที่เธอได้พบกับราเมศ แม้มันจะฟังดูน่าตลกที่เธอเลือกกลับมาดื่มร้านเดิม แต่นั่นก็เป็นสาเหตุหนึ่งที่ช่วยให้ปิ่นแก้วรู้สึกสบายใจขึ้นมากในเวลาอย่างนี้...ภาพสาวสวยหน้าตาน่ารักที่มานั่งดื่มตามลำพัง ก่อให้เกิดแรงดึงดูดใจได้ง่าย โดยเฉพาะกับบรรดานักเที่ยวหนุ่ม ๆ ที่พากันชำเลืองมองมายังเธอ ราวกับเป็นขนมหวานน่าลิ้มลอง

น่าเสียดาย ที่ตอนนี้เธอไม่มีแม้แต่อารมณ์จะชายตาแลด้วยซ้ำ

“ขอผมนั่งด้วยคนได้ไหมครับ คุณผู้หญิง”

เสียงกระแอมเบา ๆ ผสานกับเสียงเพลงที่ค่อนข้างดัง ทำให้ปิ่นแก้วไม่นึกอยากหันกลับไปมอง จนกระทั่งเจ้าของร่างสูงถือวิสาสะเดินเข้าไปนั่งบนเก้าอี้ตัวด้านข้างติดกับเธอ พร้อมทั้งใช้มือเลื่อนส่งแก้วเดอะร็อกให้

“ถ้าอยากเมาดื่มนี่ดีกว่า รับรองว่าแค่จิบเดียว ท่าทางคออ่อนอย่างคุณไม่ถึงห้านาทีก็คงแน่นิ่ง ให้ผมหิ้วขึ้นรถได้สบาย ๆ ” ประโยคท้าทายบวกกับน้ำเสียงหยัน ๆ ส่งผลให้อารมณ์ที่คุกรุ่นอยู่แล้วของปิ่นแก้วเดือดปุด ๆ ขึ้นมาทันที

“นี่นาย กล้าดียังไงถึงได้...”

เธอหันไปแหวใส่ด้วยความโมโห แต่เมื่อแลเห็นเจ้าของใบหน้าหล่อเหลาชัด ๆ ร่างบางก็แทบทำแก้วร่วงหลุดจากมือด้วยความตกใจ

“ราเมศ”

ราเมศยิ้มให้เธอ ทว่าเป็นรอยยิ้มชนิดหนึ่งที่แตกต่างไปจากรอยยิ้มอารมณ์ดีอย่างที่เคยเห็นเป็นประจำ ดวงตาสีดำขลับที่กำลังจ้องมองมาก็ฉายชัดว่าเขากำลังกรุ่นโกรธไม่น้อยหน้า ร่างสูงสวมเสื้อเชิ้ตสีฟ้าอ่อนไม่ติดกระดุมบนสองสามเม็ด เผยให้เห็นสร้อยคอเลสเงินสะท้อนแสงไฟเป็นประกาย ตัดกับสีของเส้นผมและแววตาเป็นประกายคมกริบ

“ดูท่าว่าประสบการณ์ครั้งก่อน จะไม่ช่วยให้คุณรู้สึกเข็ดเลยสินะ” เขาเอ่ยเสียงเยาะ

“นายมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง” ปิ่นแก้วหายเมาเป็นปลิดทิ้ง

“ถามได้ ผมก็ขับรถตามคุณมาน่ะสิ มีอย่างที่ไหน ผู้หญิงตัวคนเดียวริอ่านเที่ยวกลางคืนตามลำพัง คิดว่าตัวเองเก่งแล้วสิท่า”

“ไม่ใช่เรื่องของนาย”

ปิ่นแก้วเม้มปากเข้าหากันแน่น รีบล้วงกระเป๋าหยิบเงินออกมาส่งให้บาเทนเดอร์ ก่อนผลุนผลันเดินออกไปทางประตูหลังร้าน โดยมีราเมศก้าวเดินตามมาติด ๆ พร้อมทั้งฉวยข้อมือบางออกแรงดึงให้เธอหมุนตัวกลับไปเคลียร์ปัญหาคาใจกันให้รู้เรื่อง

“เดี๋ยวก่อนสิ คุณจะไปไหน” เขาตวัดเสียงถาม

“ฉันจะไปไหนมาไหน ไม่เกี่ยวกับนาย” ปิ่นแก้วทำท่าสะบัดมือออก แต่ราเมศจับยึดเอาไว้แน่นและไม่คิดจะปล่อยง่าย ๆ

“มานี่ ระหว่างเรามีเรื่องต้องคุยกัน”

“ปล่อย จะพาฉันไปไหน”

ปิ่นแก้วร้องโวยวาย เมื่อคนตัวสูงโอบรอบเอวบางเข้าหาตัวพร้อมทั้งบังคับให้เธอเดินตามออกไปยังประตูหลังติดกับลานจอดรถยนต์ หญิงสาวทั้งดิ้นทั้งตะโกนเป็นพัลวันแต่ชายหนุ่มไม่ยี่หระ กระทั่งพาเธอเดินมาจนถึงรถยนต์สีดำยี่ห้อหรูที่จอดรออยู่ ก่อนเปิดประตูรถดันเธอเข้าไปข้างในอย่างไม่เสียเวลาคิดให้มากความ

“จะทำอะไรฉัน” หญิงสาวร้องถามเสียงตระหนก เมื่อราเมศเดินอ้อมเข้าไปนั่งฝั่งคนขับปิดประตูรถลอกกลอนอย่างรวดเร็ว ใบหน้าหล่อเหลากระตุกยิ้มนิด ๆ ที่มุมปากอย่างนึกขัน

ให้ตายเถอะ นี่เธอคิดว่าเขาเป็นผู้ชายประเภทไหนกัน ถึงได้คิดระแวงกลัวว่าจะถูกเขาปล้ำจูบทุกครั้งที่เห็นหน้า แต่ก็นะ...พอเหลียวไปเห็นใบหน้าสวยหวานแดงเรื่อด้วยฤทธิ์แอลกอฮอล์แบบนี้ ก็เริ่มคิดขึ้นมานิด ๆ ซะแล้วสิ

“ถามจริง ๆ เถอะคุณปิ่น คุณมาทำอะไรในผับคนเดียวแบบนี้ ไม่กลัวว่าจะโดนฉุดขึ้นรถบ้างเลยหรือไง” ราเมศหันไปมองเธอตรง ๆ ในขณะที่อีกฝ่ายหน้าเง้าหนักยิ่งกว่าเดิม

“นอกจากคุณแล้ว ยังจะมีใครหน้าไหนกล้าทำเรื่องแบบนี้อีกล่ะ”

“ผมไม่ได้หมายถึงเรื่องนี้ นี่มันนอกประเด็น ที่ผมทำลงไปก็เพื่อช่วยคุณต่างหาก”

“อ๋อ แปลว่าที่คุณลากฉันมาขึ้นมานี่ เพราะเป็นการช่วยฉันด้วยงั้นสิ” ปิ่นแก้วย้อนถามเสียงขุ่น “รีบเปิดประตูให้ฉันลงจากรถเดี๋ยวนี้เลยนะ ไม่งั้นฉันจะร้องตะโกนให้คนช่วยจริง ๆ ด้วย”

ราเมศตวัดสายตาคม ๆ มองเธอด้วยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์

“ก็เอาสิ เชิญเลย”

“คิดว่าฉันไม่กล้าเหรอ”

“ผมรู้ว่าคุณกล้า ขนาดครั้งก่อนยังคิดขับรถชนผมตายกลางถนนมาแล้วเลย” ราเมศช่วยเตือนความจำ พร้อมทั้งโน้มใบหน้าเข้าไปหาปิ่นแก้วช้า ๆ “แต่คุณแน่ใจนะว่าถ้าร้องตะโกนออกไปแล้ว จะไม่ถูกผมปิดปากเสียก่อน”

ดวงตาคมกริบที่ทอประสาน กับกลิ่นโคโลญจาง ๆ จากร่างสูงแข็งแกร่ง ส่งผลให้หญิงสาวถึงกับตัวแข็งควานหาที่เปิดประตูรถเป็นพัลวัน แต่ราเมศฉลาดพอที่จะยกแขนขึ้นกันในลักษณะปิดกั้นช่องทางไม่ให้เธอได้ถอยหนี

“จะทำอะไร อย่านะ” เธอร้องเสียงสั่น หน้าซีดเผือดไม่เหลือเค้าความเก่งให้เห็น

ใบหน้าหล่อเหลาซ่อนรอยยิ้มนิด ๆ รู้ดีว่าอีกฝ่ายกำลังกลัวจนตัวสั่น ที่ผ่านมาแม้ว่าปิ่นแก้วจะพยายามเอาชนะเขาแค่ไหน แต่หากว่าเขาต้องการที่จะทำจริง ๆ ขึ้นมา ต่อให้เธอติดปีกก็บินหนีเขาไม่พ้น

“ไม่ต้องกลัว ผมไม่ทำอะไรคุณหรอก....อย่างน้อย ๆ ก็ยังไม่ใช่ตอนนี้” คำพูดชวนให้คิดเตลิดของราเมศ ส่งผลให้คนฟังหน้าแดงก่ำ

“หมายความว่ายังไง”

“ก็หมายความตามที่พูดนั่นแหละ หรือคุณอยากให้ทำตอนนี้เลยก็ได้นะ” เขาย้อนให้

“อีตาบ้า ฝันไปเถอะ”

เท่านั้นแหละ ปิ่นแก้วก็ไม่รู้ไปเอาเรี่ยวแรงมาจากไหน ระดมทุบกำปั้นเข้าใส่บ่ากว้างและลำตัวของราเมศ เสียจนชายหนุ่มต้องรวบจับมือบางเข้าด้วยกันเป็นพัลวัน หลังจากที่ปล่อยให้เธอออกแรงดิ้นรนจนเหนื่อย ชายหนุ่มจึงแกล้งพูดเป็นเชิงเย้าแหย่ว่า

“แบบนี้ค่อยสมกับเป็นคุณหนูปากร้าย เอาแต่ใจคนเดิมขึ้นมาหน่อย”

“นายมัน...ไอ้คนผีทะเล”

“ปากดีแบบนี้ เดี๋ยวก็ปล้ำจูบเสียหรอก” เขาแกล้งขู่นัยน์ตาพราวระยับ ทั้งยังโน้มหน้าลงไปหาจนริมฝีปากปัดถูกแก้มเนียนอีกด้วย ปิ่นแก้วเบี่ยงหน้าหลบรู้สึกขาดทุนขึ้นมาทุกครั้งที่อยู่กับเขา

“คนบ้าลามก วัน ๆ หัวสมองคิดเป็นแต่เรื่องพวกนี้หรือยังไง”

ชายหนุ่มหัวเราะในลำคอเบา ๆ

“อันที่จริงผมก็ไม่ได้คิดแต่เรื่องพวกนี้หรอกนะ แต่เวลาอยู่กับคุณทีไรมันห้ามยากจริง ๆ”

“ทุเรศที่สุด”

พูดจบราเมศก็รั้งร่างบางเข้าไปกอดไว้ในอ้อมแขนแน่น ปิ่นแก้วดิ้นขลุกขลักด้วยความโกรธระคนอับอาย แต่เมื่ออยู่ภายใต้ไออุ่นจากอ้อมกอดที่เคยถวิลหา หญิงสาวก็พลอยหมดเรี่ยวแรงลงดื้อ ๆ เนื่องจากไม่อาจฝืนความต้องการของหัวใจ จนท้ายที่สุดฝ่ามือที่เคยดันเขาออกก็เปลี่ยนเป็นรั้งแขนเสื้อชายหนุ่มเอาไว้ ราวกับไม่ต้องการให้เขาผละจากไป

“อย่าโกรธผมเลยนะคนดี ผมรู้ว่าคุณยังไม่หายโกรธผมเรื่องที่เกิดขึ้นที่ชะอำ...แต่ผมอธิบายได้เต็มปากว่า เรื่องที่เกิดขึ้นระหว่างผมกับแววดาวมันจบลงไปตั้งนานแล้ว เวลานี้ผมไม่ต้องการใครอื่นอีก นอกจากคุณคนเดียวปิ่นแก้ว”

คำสารภาพจากปากของราเมศ สร้างความไหวหวั่นให้แก่เธออย่างบอกไม่ถูก

“นาย...พูดจริงเหรอ”

“ผมพูดออกมาจากหัวใจเลยล่ะ” ราเมศเผยรอยยิ้มอบอุ่น ยกมือขึ้นลูบเส้นผมบนศีรษะหญิงสาวแผ่วเบา

ความนุ่มนวลจากร่างน้อยในอ้อมแขนทำให้เขาเผลอตัวโอบกระชับเอวบางเข้าหาตัวมากยิ่งขึ้นกว่าเดิม มือบางที่วางอยู่บนหน้าอกแกร่งรู้สึกได้ถึงแรงเต้นของหัวใจที่ไม่เคยเปลี่ยนไปจากเดิม นับตั้งแต่เมื่อครั้งแรกสัมผัส...บางที ความรู้สึกที่เกิดขึ้นระหว่างเธอกับเขา อาจเริ่มต้นขึ้นตั้งแต่วินาทีแรกที่พบกันก็เป็นได้

“แต่คุณแววดาวเพิ่งบอกกับฉันว่า”

“ผมไม่อยากรู้หรอกว่าเขาพูดอะไรกับคุณ” ราเมศเอ่ยขัดน้ำเสียงจริงจัง “แต่ผมอยากให้คุณรู้ทุกอย่างจากปากของผมเองมากกว่า”

ร่างสูงประคองใบหน้าหวานให้เงยหน้าขึ้นสบตา

“หลังจากที่กลับมาจากหาดชะอำ ผมพยายามติดต่อหาคุณหลายครั้งแต่คุณก็เอาแต่หลบหน้าผมมาตลอด รู้ตัวบ้างหรือเปล่าว่าคุณทำให้ผมเป็นห่วงและทุกข์ใจมากแค่ไหน”

“ทุกข์มากก็ไม่ต้องตามสิ” แม้ใจจะอ่อนไปกว่าครึ่ง แต่ปิ่นแก้วก็ยังไม่วายปากเก่ง

ราเมศเหยียดยิ้มบนมุมปาก คนอย่างเขาลองปักใจแล้วยากนักที่จะปล่อยให้หลุดมือ

“ใครว่าล่ะ วิ่งไล่ตามคุณสนุกกว่าวิ่งไล่โจรตั้งเยอะ”

“บ้า หาว่าฉันเป็นโจรงั้นเหรอ” หญิงสาวทำท่าเงื้อกำปั้นเข้าใส่ แต่ราเมศดึงมือบางเข้าไปจรดริมฝีปากแผ่วเบา ทำเอาเธอถึงกับแก้มร้อนวูบ

“ทำอะไรน่ะ”

ปิ่นแก้วอุทานเบา ๆ เมื่อเห็นว่าชายหนุ่มกำลังทำอะไรบางอย่างกับนิ้วนางข้างซ้ายของเธอ จนเมื่อดึงกลับมาอีกครั้งก็พบว่ามันคือแหวนเพชรเม็ดงาม ส่องประกายภายใต้แสงสลัว

“...แหวน”

ราเมศมองคนตัวเล็กที่กำลังตะลึงมองจนพูดอะไรไม่ออก ฉวยจังหวะรั้งใบหน้าหวานเข้ามาประทับริมฝีปากเนิ่นนาน แทนคำหมายของคำพูดทุกคำที่เขาเตรียมไว้เพื่อเธอในค่ำคืนนี้ ปิ่นแก้วตัวแข็งไปชั่วขณะ ก่อนที่ความอบอุ่นอ่อนโยนจะแทรกลึกเข้าสู่ทุกอณูของหัวใจ กระทั่งลืมสิ้นว่ากำลังโกรธเขาอยู่…

“แต่งงานกับผมนะครับ”

*************

งัดไม้ตายออกมาจนได้
หนูปิ่น จะยอมใจอ่อนหรือเปล่า ต้องรอลุ้นค่ะ ^ ^





เบลินญา
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 1 ธ.ค. 2554, 16:32:15 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 1 ธ.ค. 2554, 16:32:15 น.

จำนวนการเข้าชม : 2453





<< ตอนที่ 26 พรหมลิขิต   ตอนที่ 28 เดิมพันหัวใจ >>
pattisa 1 ธ.ค. 2554, 17:48:29 น.
เอาคุณหนูปิ่นซะอยู่หมัดเลย :)


space 1 ธ.ค. 2554, 18:19:17 น.
อิจฉาอ่ะ


anOO 1 ธ.ค. 2554, 19:16:49 น.
นายราเมศเล่นไม้นี้เลยเหรอ งั้นคราวนี้คงได้แต่งสมใจแล้วล่ะ


violette 2 ธ.ค. 2554, 00:13:53 น.
เล่นไม้นี้แต่ยังไม่เคลียร์ตัวเองเลยนะนายราเมศศศ


เบลินญา 2 ธ.ค. 2554, 08:58:15 น.
ใจอ่อนแบบนี้เคลียร์ไม่ได้หรอกค่ะ ต้องยืมมือคนช่วยเคลียร์


nunoi 2 ธ.ค. 2554, 09:40:17 น.
ใจอ่อนยวบเลยหล่ะซิหนูปิ่น


Zephyr 2 ธ.ค. 2554, 14:39:21 น.
อ๊ากกกกกกกกกกกก โอเคค่ะ ตอบสิปิ่น ไม่ต้องรอด้วย ตอบเสร็จนะ งานอ่ะ อาทิตย์หน้าเลย ถ้ารู้แล้วจะช็อกกันทั้งคู่มั้ยเนี่ย แล้วฝ่ายผู้ใหญ่นี่ไม่ระแคะระคายเลยเหรอ ว่าแต่นางเอกสองคนมีชื่เล่นเรียกแล้วฝ่ายพระเอกล่ะคะ ไม่มีเหรอ แต่รู้สึกรีดเดอร์ทั้งหลายจะตั้งให้เรียบร้อยแล้ว ไม่ว่าจะเป็นคุณเต คุณเต้ นายเมศ หึหึ


Alcoholic 3 ธ.ค. 2554, 09:27:27 น.
แต่งคะ!!! แป่ว แอบอินกะเค้า


ameerahTaec 6 ธ.ค. 2554, 08:52:41 น.
กรี๊ดดดดดด สวมแหวนให้ซะงั้น คุณหนูปิ่ยจะว่าไงบ้างนะ อิอิ


XaWarZd 6 ธ.ค. 2554, 09:06:46 น.
โหย มัดมือชกซะงั้น


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account