พิศวาสรัก จอมใจอสูร (ตีพิมพ์แล้วในชื่อ เพลิงรักมนต์สวาท)
พิศวาสรักจอมใจอสูร
เพียงดาว บุตรสาวคนโตของตระกูลดัง ผู้มีความสวยบวกความมั่นใจและนิสัยเย่อหยิ่ง ได้รับรู้ว่าน้องสาวของเธอ เพียงฟ้าที่แสนจะอ่อนโยนและอ่อนแอถูกพ่อบังคับให้แต่งงานกับผู้ชายวัยคราวลุงซึ่งเป็นเศรษฐีบ้านนอกไม่ใช่เพราะเงินตราแต่เป็นสัญญาใจของคนเป็นพ่อ เธอรู้สึกสงสารน้องสาวเพราะรู้ดีว่า เพียงฟ้ามีคนรักอยู่แล้วอีกทั้งรังเกียจที่เลือดไฮโซของพวกเธอจะต้องไปปะปนกับเลือดเศรษฐีบ้านนอก แต่ด้วยความที่รักน้องและก่อนตายมารดาได้ฝากฝังน้องสาวเอาไว้กับเธอให้ช่วยดูแล
ทำให้เพียงดาวตัดสินใจไปเป็นสะใภ้บ้านไร่แทนน้องสาว และส่งเพียงฟ้าไปอยู่เมืองนอกสลับตัวกันระหว่างเดินทางซึ่งเมื่อคุณศรุตผู้พ่อรู้ความจริงเข้าก็ไม่สามารถจะทำอะไรได้แล้วต้องปล่อยให้เป็นไปตามนั้นแต่ลงโทษบุตรสาวคนโตด้วยการตัดออกจากกองมรดกและบอกว่าหากเธออยู่ที่บ้านไร่ไม่ได้ก็ไม่ต้องคิดเผยอหน้าชูคอกลับมาที่คฤหาสน์อัศวเทพอีก
เพียงดาวจำต้องยอมรับในโชคชะตา ทันทีที่เธอไปถึงบ้านไร่ก็พบว่าผู้ชายแก่คราวพี่ชายพ่อคนนั้นได้ตายไปแล้วเพราะเป็นโรคหัวใจ แถมก่อนตายได้เขียนมรดกยกเธอให้เป็นภรรยาของน้องชายคนเดียวของเขาแทนนั่นคืออัศนัยเจ้าของไร่องุ่นวัยสามสิบเศษและเป็นเจ้าของทุ่งทานตะวันที่ใหญ่ที่สุดในลพบุรีด้วย นอกจากนี้เขายังมีโรงงานแปรรูปผลผลิตจากไร่ ซึ่งโดยรวมแล้วเขาไม่ได้บ้านนอกอย่างที่เธอคิด เขาทั้งหล่อ และรวยกว่าตระกูลของเธอมาก และเขาก็มองเธอเป็นแค่เพียงยัยตุ๊กตายางไฮโซเสื่อมคุณภาพที่ได้รับมรดกมาเท่านั้น
ความเย่อหยิ่งของเธอทำให้อัศนัยแอบหมั่นไสร้เขาแกล้งเธอต่างๆนาๆ แถมยังไม่ยอมบอกด้วยว่าเขารู้ความจริงแต่แรกแล้วว่าเธอคือเพียงดาว ไม่ใช่เพียงฟ้า อัศนัยให้เธอเลือกว่าจะทำงานบนเตียงหรือทำงานในไร่แต่เพียงดาวเลือกทำงานในไร่เขาจึงใช้เธอเยี่ยงทาส แต่ก็ทำให้สาวสวยไฮโซผู้เย่อหยิ่งรู้ว่าน้ำใจของคนจนๆนั้นมีมากกว่าพวกไฮโซที่เธอเคยรู้จักเพราะคนงานในไร่หลายคนทำดีต่อเธอมากโดยไม่ได้หวังสิ่งตอบแทน
เพียงดาวอยากจะแก้แค้นอัศนัยที่คอยกลั่นแกล้งเธอ หญิงสาวจึงหาที่ระบายอารมณ์ด้วยการกลั่นแกล้งแฟนสาวสุดแสนเรียบร้อยของอัศนัยแทนเธอชื่อเพลงพิณ มักจะมาหาอัศนัยที่ไร่อยู่บ่อยๆ และอัศนัยก็แสดงออกว่ารักเธอเอามากๆ จนครั้งหนึ่งเพียงดาวเกือบทำให้เพลงพิณพลาดท่าเสียทีนักเลงกลุ่มหนึ่ง ซึ่งอัศนัยโกรธมากเขาจึงลงโทษเธออย่างรุนแรงพรากความสาวของเธอไปอย่างไม่ไยดี ทำให้เธอได้รู้บ้างว่านรกมันเป็นอย่างไรแต่แล้วความโกรธเกรี้ยวทั้งหมดก็ค่อยๆมลายหายไปเมื่ออัศนัยได้ค้นพบว่าหญิงสาวไม่ได้เลวร้ายแบบที่เขาคิดและที่สำคัญเขาตกหลุมรักเธอไปตั้งแต่ตอนไหนก็ไม่รู้
แต่กว่าคนทั้งคู่จะปรับความเข้าใจกันได้ก็เล่นเอาคนรอบข้างเหนื่อยไปตามๆ กันเพราะเพียงดาวสวยน้อยเสียเมื่อไหร่เธอทำให้หัวใจชายหนุ่มหลายๆคน ไม่ว่าจะเป็นอรรณพเจ้าของห้างทองชื่อดัง หรือพีระนักวิชาการเกษตรแย่งกันแจกขนมจีบเธอจ้าละหวั่น แต่ก็ไม่มีใครเอาชนะใจเธอได้เพราะอัศนัยใช้สิทธิ์ความเป็นเจ้าของเธอ บีบให้ชายหนุ่มทั้งหลายสละสิทธิ์ไปที่ละคนจนเหลือเขาคนเดียวที่จะนั่งอยู่ภายในหัวใจของเธอ
++++++++++++++++++++++++++
เพียงดาว บุตรสาวคนโตของตระกูลดัง ผู้มีความสวยบวกความมั่นใจและนิสัยเย่อหยิ่ง ได้รับรู้ว่าน้องสาวของเธอ เพียงฟ้าที่แสนจะอ่อนโยนและอ่อนแอถูกพ่อบังคับให้แต่งงานกับผู้ชายวัยคราวลุงซึ่งเป็นเศรษฐีบ้านนอกไม่ใช่เพราะเงินตราแต่เป็นสัญญาใจของคนเป็นพ่อ เธอรู้สึกสงสารน้องสาวเพราะรู้ดีว่า เพียงฟ้ามีคนรักอยู่แล้วอีกทั้งรังเกียจที่เลือดไฮโซของพวกเธอจะต้องไปปะปนกับเลือดเศรษฐีบ้านนอก แต่ด้วยความที่รักน้องและก่อนตายมารดาได้ฝากฝังน้องสาวเอาไว้กับเธอให้ช่วยดูแล
ทำให้เพียงดาวตัดสินใจไปเป็นสะใภ้บ้านไร่แทนน้องสาว และส่งเพียงฟ้าไปอยู่เมืองนอกสลับตัวกันระหว่างเดินทางซึ่งเมื่อคุณศรุตผู้พ่อรู้ความจริงเข้าก็ไม่สามารถจะทำอะไรได้แล้วต้องปล่อยให้เป็นไปตามนั้นแต่ลงโทษบุตรสาวคนโตด้วยการตัดออกจากกองมรดกและบอกว่าหากเธออยู่ที่บ้านไร่ไม่ได้ก็ไม่ต้องคิดเผยอหน้าชูคอกลับมาที่คฤหาสน์อัศวเทพอีก
เพียงดาวจำต้องยอมรับในโชคชะตา ทันทีที่เธอไปถึงบ้านไร่ก็พบว่าผู้ชายแก่คราวพี่ชายพ่อคนนั้นได้ตายไปแล้วเพราะเป็นโรคหัวใจ แถมก่อนตายได้เขียนมรดกยกเธอให้เป็นภรรยาของน้องชายคนเดียวของเขาแทนนั่นคืออัศนัยเจ้าของไร่องุ่นวัยสามสิบเศษและเป็นเจ้าของทุ่งทานตะวันที่ใหญ่ที่สุดในลพบุรีด้วย นอกจากนี้เขายังมีโรงงานแปรรูปผลผลิตจากไร่ ซึ่งโดยรวมแล้วเขาไม่ได้บ้านนอกอย่างที่เธอคิด เขาทั้งหล่อ และรวยกว่าตระกูลของเธอมาก และเขาก็มองเธอเป็นแค่เพียงยัยตุ๊กตายางไฮโซเสื่อมคุณภาพที่ได้รับมรดกมาเท่านั้น
ความเย่อหยิ่งของเธอทำให้อัศนัยแอบหมั่นไสร้เขาแกล้งเธอต่างๆนาๆ แถมยังไม่ยอมบอกด้วยว่าเขารู้ความจริงแต่แรกแล้วว่าเธอคือเพียงดาว ไม่ใช่เพียงฟ้า อัศนัยให้เธอเลือกว่าจะทำงานบนเตียงหรือทำงานในไร่แต่เพียงดาวเลือกทำงานในไร่เขาจึงใช้เธอเยี่ยงทาส แต่ก็ทำให้สาวสวยไฮโซผู้เย่อหยิ่งรู้ว่าน้ำใจของคนจนๆนั้นมีมากกว่าพวกไฮโซที่เธอเคยรู้จักเพราะคนงานในไร่หลายคนทำดีต่อเธอมากโดยไม่ได้หวังสิ่งตอบแทน
เพียงดาวอยากจะแก้แค้นอัศนัยที่คอยกลั่นแกล้งเธอ หญิงสาวจึงหาที่ระบายอารมณ์ด้วยการกลั่นแกล้งแฟนสาวสุดแสนเรียบร้อยของอัศนัยแทนเธอชื่อเพลงพิณ มักจะมาหาอัศนัยที่ไร่อยู่บ่อยๆ และอัศนัยก็แสดงออกว่ารักเธอเอามากๆ จนครั้งหนึ่งเพียงดาวเกือบทำให้เพลงพิณพลาดท่าเสียทีนักเลงกลุ่มหนึ่ง ซึ่งอัศนัยโกรธมากเขาจึงลงโทษเธออย่างรุนแรงพรากความสาวของเธอไปอย่างไม่ไยดี ทำให้เธอได้รู้บ้างว่านรกมันเป็นอย่างไรแต่แล้วความโกรธเกรี้ยวทั้งหมดก็ค่อยๆมลายหายไปเมื่ออัศนัยได้ค้นพบว่าหญิงสาวไม่ได้เลวร้ายแบบที่เขาคิดและที่สำคัญเขาตกหลุมรักเธอไปตั้งแต่ตอนไหนก็ไม่รู้
แต่กว่าคนทั้งคู่จะปรับความเข้าใจกันได้ก็เล่นเอาคนรอบข้างเหนื่อยไปตามๆ กันเพราะเพียงดาวสวยน้อยเสียเมื่อไหร่เธอทำให้หัวใจชายหนุ่มหลายๆคน ไม่ว่าจะเป็นอรรณพเจ้าของห้างทองชื่อดัง หรือพีระนักวิชาการเกษตรแย่งกันแจกขนมจีบเธอจ้าละหวั่น แต่ก็ไม่มีใครเอาชนะใจเธอได้เพราะอัศนัยใช้สิทธิ์ความเป็นเจ้าของเธอ บีบให้ชายหนุ่มทั้งหลายสละสิทธิ์ไปที่ละคนจนเหลือเขาคนเดียวที่จะนั่งอยู่ภายในหัวใจของเธอ
++++++++++++++++++++++++++
Tags: ไร่ทานตะวัน
ตอน: ตอนที่ 12
ตอนที่ 12
หลังจากอัศนัยพาตะวันไปส่งที่ห้องนอนแล้ว เขากลับมาหาเพียงดาวอีกครั้งเพื่อจะอธิบายบางอย่าง แต่ลึกๆภายในใจเขาไม่รู้ตัวหรอกว่าที่กลับมาเพราะความเป็นห่วงเธอที่ป่วยอยู่
“อย่าคิดมากเลยคุณ ยังไงก็รับสมอ้างเป็นแม่ให้ยัยตะวันไปก่อนแล้วกัน แต่อันที่จริงตำแหน่งแม่เลี้ยงมันก็เป็นของคุณอยู่แล้วเพราะเรากำลังจะแต่งงานกันไม่ใช่เหรอ”
“งานแต่งงานจอมปลอม สามีจอมปลอม คุณทำเพื่อผลประโยชน์”
“ก็เพื่อผลประโยชน์ของเราทั้งคู่นั่นแหละ ”
“แล้วตกลงที่คุณรับปากยัยตะวันว่าจะไปส่งแกที่โรงเรียนตอนเช้ากับผมคุณไปไหวหรือเปล่า”
“ฉันไม่เป็นอะไรมากแล้วค่ะคงไปส่งแกพร้อมกับคุณได้ ”
“ถ้าอย่างนั้นก็ดี เพราะการหลอกเด็กให้คอยเก้อมันเป็นบาป”
“รู้แล้วน่า” หญิงสาวทำท่าหงุดหงิด จากนั้นก็คลุมโปงหนีเขา
อัศนัยเผลอยิ้มที่มุมปาก เขาส่ายหน้า จากนั้นยื่นมือไปดึงผ้าห่มที่คลุมร่างบางออก
“เล่นผีผ้าห่มอยู่เหรอ ให้ผมเล่นเป็นเพื่อนเอาไหม”นัยน์ตายียวน
“คุณมันโรคจิตคิดอกุศล”เธอผลักเขาออกเต็มแรง
“ฉันง่วงต่างหาก”
“คุณยังมีคดีที่ผมยังไม่ได้ชำระความอยู่นะ งานที่ให้ช่วยก็ทำไม่สำเร็จ”เขาถอนใจแสร้งทำสีหน้าระอาเธอ
เพียงดาวนึกขึ้นมาได้ ถึงองุ่นที่เขาจะต้องตัดให้เสร็จภายในวันนี้ไม่เช่นนั้นจะถูกปรับเพราะเป็นออเดอร์จากต่างประเทศ
“ว่าแต่องุ่นในไร่ที่ฉันตัดค้างเอาไว้จะทำยังไงดีคะ”
“ผลผลิตถูกลำเลียงไปส่งลูกค้าแล้วตั้งแต่เมื่อตอนเย็น”
หญิงสาวขมวดคิ้วด้วยความมึนงง “ไหนคุณบอกฉันว่าคนงานพากันท้องเสียทั้งไร่ไม่สามารถมาทำงานได้”
“ก็ใช่ ผมได้คนงานจากไร่อื่นมาช่วยกันตัดจนเสร็จหมดแล้ว”
“อ้าว….แล้วทำไมคุณไม่จ้างคนงานพวกนั้นมาตั้งแต่ช่วงเช้า คุณปล่อยให้ฉันทำคนเดียวหรือว่าคุณแกล้งฉัน”ตากลมโตสำรวจความผิดปรกติ
“ก็มันกระทันหันตอนเช้าผมหาคนมาช่วยไม่ได้จริงๆ เพราะทุกไร่ในละแวกนี้ต่างเร่งเก็บผลผลิตพร้อมกันหมด แต่พอดีว่าไร่ของกำนันวิทยาเสร็จก่อนจึงส่งคนมาช่วยเราได้ในช่วงบ่าย”
“แล้วไป นึกว่าคุณกลั่นแกล้งฉันให้ทำงานหนักปางตายอยู่คนเดียว”
อัศนัยเงียบเขาไม่ได้ตอบอะไร แต่ขอตัวไปนอน
“เดี๋ยวค่ะ อย่าเพิ่งไป”
เขาหันกลับมาสีหน้าสงสัย “มีอะไร อย่าบอกนะว่าคืนนี้คุณฝันร้ายอีก”
“ฉันแค่อยากจะขอบคุณอีกครั้งที่คุณช่วยฉันเอาไว้ จนพ้นน้ำมือจากไอ้พวกโจร ไม่อย่างนั้นแล้วฉันคงต้องตกนรกทั้งเป็น”
ยิ่งเธอส่งสายตาซาบซึ้งจริงใจมาให้เขา อัศนัยกลับยิ่งรู้สึกผิดมากขึ้นที่ทำเกินไปหน่อย
“ไม่เป็นไรครับ ลืมมันเสียเถอะ”
“กู้ดไนท์นะคะ” เธอส่งยิ้มหวานให้เขาอย่างไม่คิดอะไร มันทำให้อัศนัยรู้สึกประหลาด เพราะหัวใจของเขามันกำลังเต้นโครมคราม แต่ปกปิดด้วยการตีสีหน้าเรียบเฉยก่อนจะเดินออกไปจากห้อง ++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
ภายในรถเก๋งสีขาวที่เป็นยานพาหนะไปส่งสาวน้อยที่โรงเรียนอย่างสม่ำเสมอ ตะวันดูจะร่าเริงกว่าทุกๆเช้าที่ผ่านมาเพราะวันนี้หนูน้อยมีคนพิเศษเพิ่มมาด้วยนอกจากพ่ออั๊ดขาประจำ เมื่อรถยนต์จอดสนิทสาวน้อยก้าวลงจากรถมาก่อนใครเพื่อนด้วยความมั่นใจ ขาเรียวคู่เล็กๆเดินอย่างอาจหาญเหมือนผู้กำชัยชนะอยู่ในมือ เพราะเห็นสายตาของเพื่อนร่วมห้องที่กำลังยื่นหน้าสลอนออกมาจากทางหน้าต่าง ชะโงกหน้าจากทางประตูบ้างก็มี บางคนก็ยืนตาโตอยู่หน้าห้องมองมาที่แม่ของเธอด้วยความสนอกสนใจ แต่ยัยชูรสน่ะสิทำตาเขียวใส่และส่งสายตาค้อนมาที่ตะวันอยู่หลายครั้ง แต่ตะวันหรือจะยอมเธอก็เชิดใส่กลับไปเหมือนกันก็แม่เขาสาวและสวยกว่านี่
“คุณแม่ขาจูงตะวันหน่อยสิคะ”
อัศนัยอมยิ้มพรายมองดูลูกสาวแสบ กับแม่เลี้ยงสาว
“ได้สิจ้ะ”เพียงดาวจูงคนตัวเล็กและแอบกระซิบถามเบาๆ“มีอะไรหรือเปล่าจ้ะตะวัน”
“แล้วหนูจะเล่าให้ฟังตอนเย็นค่ะ”
“คุณครูขา สวัสดีค่ะ” เสียงเจื้อยแจ่วช่างพูดกล่าวขึ้น ก่อนจะยกมือไหว้อย่างสวยงาม
“สวัสดีค่ะหนูตะวัน”คุณครูยิ้มให้ก่อนจะยกมือสวัสดีผู้ปกครอง
“วันนี้หนูพาคุณแม่มาเปิดตัวด้วยค่ะ” สาวน้อยคุยโวอย่างภาคภูมิใจ ส่วนคุณครูมองมาที่เพียงดาวอย่างสนใจเช่นกัน
เพียงดาวยิ้มตอบคุณครูอย่างเก้อเขิน ส่วนอัศนัยก็นึกขำกับคำพูดของบุตรสาวเขาไม่ได้เป็นคนสอนเสียหน่อยเธอพูดเองต่างหาก
“คุณอัศนัยได้ข่าวว่ากำลังจะแต่งงานเหรอคะ ยินดีด้วยนะคะ” คุณครูประจำชั้นเองก็ทราบข่าวการแต่งงานของอัศนัยเจ้าของไร่นรบดีเศรษฐีอันดับต้นๆของจังหวัด ซึ่งข่าวนี้ทำให้สาวๆหลายรายถึงกับน้ำตาร่วง
“เชิญคุณครูด้วยนะครับ แล้วผมจะส่งการ์ดมา”
“ดิฉันไม่พลาดงานนี้อย่างแน่นอนค่ะ ว่าที่เจ้าสาวของคุณอัศนัยสวยมากนะคะ เหมาะกันทีเดียว” แววตาแสดงความชื่นชมในตัวว่าที่เจ้าสาวอย่างจริงใจ แต่ก็อดนึกสงสัยไม่ได้ว่าเพลงพิณหญิงสาวที่เขาเคยควงอยู่ยอมได้อย่างไรกันกับงานนี้
เพียงดาวเขินจนหน้าแดงราวกับลูกตำลึง
ระหว่างที่คุณครูและผู้ปกครองกำลังสนทนากันอยู่อย่างออกรสนั้น บุตรชายเจ้าของโรงเรียนก็กำลังจูงหลานชายเพื่อนร่วมห้องกับเด็กหญิงตะวันเดินเข้ามา
“ปันปัน ไหว้คุณครูสิครับ”
“สวัสดีครับคุณครู”
คุณครูประจำชั้นรับไหว้เด็กชายหน้าตาน่ารัก ตาโต ปากนิด จมูกหน่อย และยิ้มเลยไปถึงคนเป็นอา
“คุณปกป้อง วันนี้มาส่งหลานชายเองเลยหรือคะ”
“ใช่ครับ วันนี้พี่ธนูเขาไปธุระแต่เช้า ผมเลยมาส่งน้องปันปันเอง”
“ตะวัน มาแต่เช้าเลยนะแม่เธอมาส่งด้วยเหรอ แม่เธอสวยจัง” เด็กชายส่งยิ้มให้สาวน้อยและพูดอย่างเอาใจ
“เธอจะลงคะแนนให้เราไหม”
“แน่นอนอยู่แล้ว”
เป็นจังหวะเดียวกับที่เพียงดาวหันไปมองว่าเด็กๆคุยถึงเรื่องอะไรกัน
“คุณดาว! คุณจริงๆด้วยผมไม่ได้ตาฝาดใช่ไหม” ชายหนุ่มแสดงท่าทีตื่นเต้นดีใจจนเก็บอาการไม่อยู่ทั้งที่ปรกติเป็นคนสุขุม
เขาอยากจะดึงเธอเข้ามากอดให้สมกับความคิดถึงแต่ติดที่ว่ามีคนอยู่
“อ้าว…พี่ป๋อ! มาอยู่ที่นี่ได้ยังไงคะ บังเอิญจัง”หญิงสาวยิ้มกว้างรู้สึกประหลาดใจที่ได้พบกับเขาอีกครั้ง “อย่าเรียกว่าบังเอิญเลยครับ เรียกว่าพรหมลิขิตจะดีกว่า”แววตาซาบซึ้ง
“จะอ้วก” อัศนัยพูดเบาๆ
หญิงสาวหันไปทำตาดุใส่ “เสียมารยาท”
“รู้ไหมว่าผมตามหาคุณจนทั่ว ผมกลับไปที่ฝรั่งเศสไปหาคุณที่อพาร์ทเม้นต์ที่เราเคยพักด้วยกันแต่เจ้าของบอกว่าคุณกลับเมืองไทยไปแล้วแต่เขาไม่ทราบที่อยู่”
อัศนัยมองคนทั้งคู่ในใจรู้สึกขุ่นเคืองขึ้นมาทันที ไอ้หมอนี่บอกว่าเคยพักอยู่กับเธอ แถมผู้ชายด้วยกันทำไมจะมองไม่ออกสายตาแบบนี้คิดเกินกว่าเพื่อนอย่างแน่นอน ที่สำคัญไอ้หมอนี่ไม่สนใจเลยว่าเธอมากับเขา นี่เราเป็นหัวหลักหัวตอไปตั้งแต่เมื่อไหร่
“ดาวกลับมาเมืองไทยได้สามเดือนแล้วค่ะ ดาวเองก็ติดต่อพี่ป๋อไม่ได้เหมือนกัน ไม่คิดว่าจะได้เจอกันอีก”
“ว่าแต่คุณดาวมาทำอะไรที่โรงเรียนนี้ครับ”เขามีอะไรนึกอยากจะถามเธอมากมายจนลำดับไม่ถูก
“มาส่งลูกสาวค่ะ”เด็กหญิงตะวันชิงตอบแทน
อัศนัยสะใจไม่น้อยเมื่อเห็นสีหน้าลูกชายเจ้าของโรงเรียนชะงักไป อาทิตย์นี้คงต้องให้รางวัลลูกสาวด้วยการพาไปทานไอศกรีมร้านดังเสียหน่อย
ปกป้องมองไปที่เด็กหญิงตะวันด้วยความสงสัย“ผมจำได้ไม่เคยลืมนะครับว่าเมื่อหลายเดือนก่อนคุณยังโสด ในระยะเวลาเพียงไม่กี่เดือนคุณดาวมีลูกโตขนาดนี้แล้วเหรอครับจะเป็นไปได้ยังไง”สายตาแสดงความไม่เชื่อ
“คือว่าเรื่องมันยาวค่ะพี่ป๋อเอาไว้ดาวจะเล่าให้ฟังวันหลัง”
“แต่ถ้าจะให้ตอบสั้นๆวันนี้ ก็คือเรากำลังจะแต่งงานกัน และผมมีลูกสาวอยู่หนึ่งคน คุณดาวก็เลยมีลูกสาวที่โตได้ขนาดนี้แล้วครับ จบไหม”
“คุณกำลังจะแต่งงาน!” เขาอยากจะโทษว่าเป็นความผิดของฟ้า
“ใช่ค่ะ” เพียงดาวยิ้มเจื่อนๆ
คนฉลาดอย่างเขามองออกว่ามีอะไรมากกว่านี้ หากมีทางที่เธอจะไม่ต้องตกไปเป็นของใครเขาจะทำ แต่บางอย่างต้องสืบให้แน่ชัดเสียก่อนเพราะเขารู้ดีว่านายอัศนัยเจ้าของไร่นรบดีไม่ใช่ธรรมดา
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
ภายในรถเงียบสนิทได้ยินเพียงลมหายใจของคนทั้งคู่สลับกันไปมา จนชายหนุ่มเอ่ยขึ้นก่อน
“ลูกชายเจ้าของโรงเรียนนั่นเป็นแฟนเก่าของคุณเหรอ?”
น้ำเสียงราบเรียบ เหมือนว่าถามไปอย่างนั้นแต่อันที่จริงเขากลับอยากรู้มาก จนต้องย้อนถามตัวเองว่าจะสนใจไปทำไมเขาไม่ได้คิดอะไรกับเธอเกินกว่าหน้าที่สักหน่อย เอ….หรือคิด ไม่จริงเขารักเพลงพิณต่างหาก
“ถ้าเป็นแบบที่คุณพูดจริงๆก็ดีสิ”
“ทำไมล่ะ”
เธอหันมามองหน้าเขา “ฉันจะได้ไม่ต้องมาแต่งงานลวงโลกกับคุณยังไงล่ะ”
“ไม่เห็นเป็นอะไร ไว้ครบสองปีคุณหย่าขาดกับผมแล้วค่อยไปแต่งงานกับเขาใหม่ก็ได้ แต่บอกให้นายป๋ออะไรนั่นรอหน่อยก็แล้วกัน มันคงนานๆๆๆ”
“พูดอะไรบ้าๆ ไหนบอกแค่สองปียังไงล่ะ”
“แล้วสองปีมันยังนานไม่พออีกเหรอ อย่ารีบร้อนมีสามีคนที่สองเร็วนักสิ”
หญิงสาวจ้องหน้าเขาแล้วมองเลยที่ไปที่ใบหูยาวขาวสะอาด แล้วนึกอยากจะกัดสักที สองที ให้เลือดมันออก
“จะมีสามีสักกี่คนมันก็เรื่องของฉัน แต่คุณมันแค่ในนามเท่านั้นจำเอาไว้”
“ต่อไปนี้ผมขอสั่งห้ามคุณแสดงท่าทีสนิทสนมกับผู้ชายคนไหนอีก นอกจากผมคนเดียวเท่านั้น” “เพราะอะไรคะ”
“ผมไม่อยากถูกนินทาลับหลังว่าเมียแอบมีชู้”
“คุณก็รู้ว่าความจริงมันคืออะไร คุณจะสนใจทำไปทำไมกัน”
“ใช่ผมรู้ แต่คนอื่นเขาไม่รู้ คุณอย่าลืมสิ เพราะฉะนั้นอย่าทำเด็ดขาด” น้ำเสียงเขียว
“ถ้าคุณไม่บอกว่ารักคุณพิณเพียงคนเดียวมาก่อน ฉันคงนึกว่าคุณกำลังหึงหวงฉันอยู่”
“ผมนะเหรอหึงคุณ ไม่มีทาง”น้ำเสียงหนักแน่น “อย่าสำคัญตัวผิด”
“กลัวจะสำคัญตัวถูกมากกว่า” หญิงสาวเบ้ปาก
“พูดถึงพิณหวานใจของผมก็ดีแล้ว ผมกำลังคิดถึงเขาพอดีเอาเป็นว่าผมไปส่งคุณที่ไร่ก่อนแล้วกัน จากนั้นผมจะไปเยี่ยมเธอเสียหน่อย”
“ฉันขอไปด้วยสิ”เพียงดาวรู้สึกผิดที่แกล้งเพลงพิณจนจับไข้นึกอยากไปขอโทษ
“ไม่ให้ไป กลับไปอยู่ที่ไร่นั่นแหละดีแล้ว อย่ามาวุ่นวายกับชีวิตรักของผมหน่อยเลย”
“ทำไมให้ฉันไปด้วยไม่ได้ล่ะ ฉันไม่ขัดคอตอนพวกคุณนั่งคุยกันหรอก”
“และถ้าผมไม่ได้นั่งคุยกันล่ะ แบบนั้นมันเมื่อย นอนคุยกันดีกว่าเยอะ”
“น่าเกลียด”
“มันน่าเกลียดตรงไหนไม่ทราบ”
“ก็ตรงที่…..” จะให้เธอพูดยังไงกับสองแง่สามง่ามขอเขา
“คิดลึกเกินไปหรือเปล่าคุณ ท่าทางคุณนี่จะหมกมุ่นกับเรื่องอย่างว่า”
“ก็คุณพูดชวนให้คิดก่อน”
“ผมพูดชวนให้คิด หรือสมองคุณคิดไวกับเรื่องแบบนั้น”
“ฉันไม่เถียงกับคุณแล้ว”หญิงสาวสะบัดหน้าหนี
“เถียงไม่ออกล่ะสิ”
++++++++++++++++++++++++++++
อัศนัยตั้งใจจะไปเซอร์ไพรซ์แฟนสาวที่กำลังป่วยเป็นไข้ เขาซื้อดอกลิลลี่สีขาวช่อใหญ่ราคาแพงจากร้านประจำในเมืองก่อนจะขับไปที่บ้านไร่ของแฟนสาว ภายในบ้านเงียบเชียบเขาเคยมาที่นี่หลายครั้งเมื่อตอนเพื่อนรุ่นน้องอย่างอรนภายังอยู่ และทำให้เขารู้จักกับเพลงพิณที่นี่ แต่หลังจากอรนภาเสียชีวิตไปอย่างน่าเศร้าเขามีความรู้สึกว่าคนในบ้านหลังนี้ไม่อยากจะต้อนรับเขาเท่าไหร่นักยกเว้นเพลงพิณ
“พิณครับ พิณ”บ้านเงียบเชียบ แต่รองเท้าคู่โปรด กับรถคันเก่งของเธอยังอยู่
ภายในห้องนอนกว้าง เตียงขนาดใหญ่ ที่นอนสปริงอย่างดีไหวยวบอย่างเป็นจังหวะขึ้นลงตามแรงถาโถม เรียวลิ้นเปียกชื้นยังหยอกเอินเลียไล้อยู่บนยอดปทุมคู่งามของหญิงสาว
“โอ๊ย…..พี่อิงคะ เบาๆค่ะ”
“พี่ใจจะขาดอยู่แล้วนะยอดรัก”น้ำเสียงกระเซ่าซ่านปริ่มว่าจะขาดใจ
นิ้วเรียวยาวของเธอแทรกซอนอยู่ใต้ผมดำขลับที่ยาวปะบ่าของเขา มีแอบดึงและทึ้งแรงๆบ้างเป็นบางครั้งในเวลาที่เขาแทรกกายเข้าไปในกลีบกุหลาบบางถึงชั้นในสุดอย่างเต็มแรงรัก
“พี่อิง พิณทนไม่ไหวแล้วค่ะ”
แอร์ที่เย็นจัดภายในห้องดูเหมือนจะสู้อารมณ์ร้อนรักดั่งพายุทรายของทั้งคู่ไม่ได้เลย
“ทนอีกหน่อยนะพิณ พี่อยากอยู่กับพิณนานๆ อย่าหนีพี่ไปไหนนะ”
กายแกร่งแข็งแรงที่สอดเข้าออกในช่องทางรักอย่างเป็นจังหวะนั้นสลับกับเสียงหวีดร้องที่เต็มไปด้วยความเสียวซ่าน และปลดปล่อยจากภาพลักษณ์ที่ดูเรียบร้อย
“สลับที่กันบ้างไหมคะพี่อิง”
ใครจะรู้ว่าเธอร้อนแรงเวลาอยู่บนเตียง และเหมือนว่าดีกรีแห่งความร้อนแรงนี้จะเพิ่มมากขึ้นตามอายุของเธอ ต่างจากเด็กสาวในวันวานเมื่อคราวอายุสิบแปดที่เขาเป็นครั้งแรกของเธอ ทำให้เขาติดใจในรสสวาทของน้องเลี้ยงคนนี้ แต่ที่แน่ๆนอกจากความต้องการทางร่างกายหัวใจของเขาก็ยกให้น้องสาวคนนี้ไปจนหมดหัวใจแล้วด้วย
“เอาสิจ้ะ” เขาหมุนร่างบอบบางขึ้นมาทาบทับบนร่างเปลือยกำยำ ตาคมชื่นชมกับความสวยยามสะโพกพลิ้วไหวของเธอทาบทับลงมาบนแก่นกายของเขา อกขาวผ่องคู่งามกระเพิ่มขึ้นลงอย่างเป็นจังหวะชวนมอง เปลือกตาของเธอหลับพลิ้มยามบดขยี้ลงมาเสียดสีกับก้อนเนื้อร้อนจัดที่แข็งขืนอยู่ตลอดเวลา
“โอ๊ย โอ๊ย ” เสียงหญิงสาวครวณคราง ในขณะที่คนด้านร่างตัวเกร็ง
อัศนัยถอนหายใจเขานั่งรออยู่นานทั้งๆที่ประตูบ้านก็เปิดเอาไว้ แต่เพลงพิณไปไหนกันหรือว่าเธอกำลัง
อาบน้ำอยู่
“พิณทำอะไรอยู่นะ”อัศนัยมองขึ้นไปที่ชั้นสอง มันคงไม่ดีแน่ที่เขาจะบุกรุกขึ้นไปบนห้องของหญิงสาว แต่แล้วเขากลับได้ยินเสียงของเธอเล็ดลอดออกมา มันเป็นเสียงครวญครางเหมือนกำลังเจ็บปวด
“พิณครับ พิณเป็นอะไรหรือเปล่าครับ” อัศนัยลืมเรื่องมารยาทเสียสนิท เขารีบวิ่งขึ้นไปดูที่ชั้นสองในใจนึกห่วงคนรัก
“พิณ พิณครับ เกิดอะไรขึ้น”
ประตูห้องไม่ได้ล็อค อัศนัยไม่รั้งรอที่จะเปิดเข้าไปในนั้นเพื่อดูให้รู้แน่ว่าเกิดอะไรกับแฟนสาว
แต่แล้วภาพของคนทั้งคู่ก็ทำให้เขาต้องตกตะลึง ไม่คิดมาก่อนว่านายอิงจะกล้าทำแบบนี้กับน้องสาวของตนเอง ไม่เห็นด้วยตาก็คงไม่เชื่
“พิณเจ็บค่ะ พี่อิงเบาๆหน่อยสิคะ”
“แหมก็พี่เป็นผู้ชายนะจะให้เบาแบบผู้หญิงได้ยังไงกัน พี่ออยก็ไม่อยู่เสียด้วย”
สองพี่น้องต่างสายเลือดหันไปมองอัศนัย
“ขอโทษทีครับที่ผมสียมารยาทเข้ามาในห้องพิณ พอดีผมได้ยินเสียงร้องของพิณ”
หญิงสาวส่งยิ้มให้เขา ทั้งที่ยังหอบเหนื่อย “ไม่เป็นไรค่ะ พิณได้ยินเสียงคุณแล้วแต่ไอ้เสี้ยนที่ตำเท้าพิณมันยังเอาไม่ออก ก็เลยลงไปไม่ได้ นี่พี่อิงกำลังคีบออกให้อยู่ค่ะ”
อิงหันมายิ้มให้อัศนัยแต่ในใจกำลังแยกเขี้ยวใส่มาอะไรตอนนี้วะ “มันกำลังจะออกอยู่แล้วครับ แต่ทว่ามือผมสั่นตอนได้ยินเสียงคุณ ก็เลยพลาดไปหน่อย มันเลยไม่ออกค้างอยู่แบบนี้”สีหน้าหงุดหงิด
“ต้องขอโทษทีครับ เอาเป็นว่าผมลงไปรอข้างล่างจะดีกว่า”
“เชิญครับ”อิงตอบ ก่อนจะหันไปสนใจกับเท้าน้องสาว
“เดี๋ยวพิณตามไปนะคะคุณอั๊ด”
เมื่อลับหลังอัศนัยคนทั้งคู่ต่างถอนหายใจออกมาพร้อมกันแรงๆ "เกือบไปแล้ว ดีนะเนี่ยที่พิณได้ยินเสียงคุณอั๊ดเสียก่อนเลยไหวตัวทัน ยังโชคดีนะที่เขายังไม่ทันสังเกตเห็นว่าพี่่อิงใส่เสื้อกลับตะเข็บ"
"จริงด้วย วันหลังเราต้องระวังตัวกันมากกว่านี้"
++++++
“ถอนเสี้ยนที่ตำเท้ากันเนี่ยนะ” อัศนัยรู้สึกประหลาดใจ และยังนึกสงสัยไม่หายว่านายอิงมักชอบใส่เสื้อกลับตะเข็บแบบนี้เสมอเหรอเวลาอยู่บ้าน
นี่ถ้าทั้งสองคนไม่ใช่พี่น้องกันเขาคงคิดมาก แต่เขายอมรับว่านายอิงคงจะรักน้องสาวมากถึงขนาดยอมถอนเสี้ยนที่เท้าให้นับว่าเป็นพี่ชายที่หาได้ยากจริงๆ
++++++++++++++++++++++++++++
โรงเรียนอนุบาลเอกชนชื่อดัง ตอนพักกลางวัน
หลังรับประทานอาหารเสร็จอนุบาลสามทับสี่ก็เริ่มลงคะแนนกันอย่างลับๆอยู่ท้ายห้อง เพราะเรื่องแบบนี้จะให้คุณครูรู้ไม่ได้
“ปัน ปัน เหลือตัวเองเป็นคนสุดท้ายแล้วนะตัวเองต้องเป็นคนตัดสิน” น้องเล็ก เด็กหญิงร่างอ้วนที่สุดในห้องผู้เป็นกรรมการกล่าวขึ้น ในขณะที่ผู้มีสิทธิ์ออกเสียงทุกคนที่ได้ลงคะแนนไปแล้วจ้องมาที่หนุ่มน้อยอย่างร่วมลุ้นคำตอบ
“ปัน ปัน เราหวังว่าตัวเองจะใช้ตาโตๆ แยกออกนะว่าความสวยเป็นยังไง แม่เราเคยได้รางวัลเทพีโคนมประจำจังหวัดด้วย” ชูรสกล่าวก่อนจะเชิดหน้าใส่ตะวัน
“ปัน ปัน ตัวเองคือคำตอบสุดท้าย แม่ใครสวยกว่าตัวเองก็เห็นเต็มสองตาเมื่อเช้าแล้วนี่” ตะวันกล่าวก่อนจะยักคิ้วและเบ้ปากส่งให้ชูรสบ้าง
เด็กชายตาโตบ้องแบ๊ว นัยน์ตาดำสนิท มองสาวน้อยแสนสวยทั้งคู่สลับกันไปมาอย่างหนักใจ ก่อนจะเป็นผู้ชี้ขาดว่าลูกอมรสนมจากฟาร์มโคชื่อดังประจำจังหวัดสระบุรีห่อใหญ่จะตกเป็นของใคร
“เย้ๆๆๆๆๆ ชนะแล้ว เห็นไหมแม่เราสวยกว่า ปัน ปัน ตาถึงจริงๆ”
“ความยุติธรรรมไม่มีในโลก ผู้ชายก็แบบนี้ทุกคน”ชูรสเชิดใส่เด็กชายก่อนจะเดินหนีไปอีกทาง
“เราผิดตรงไหนล่ะ ถึงแม่ชูรสเคยเป็นเทพีโคนมแต่ก็แก่แล้วนี่นา แต่แม่ของตะวันยังสาวยังสวยอยู่ หุ่นก็ดีเหมือนกับโคโยตี้”
“ปันปัน อะไรคือโคโยตี้เหรอ” เด็กหญิงคนหนึ่งเอ่ยถามด้วยความสงสัย
เด็กชายตาโตช่างจำส่ายหน้า“ไม่รู้สิ แต่เห็นพ่อชอบชวนอาเราไปดู เขาบอกว่าโคโยตี้มีแต่หุ่นดีๆกันทั้งนั้น” ++++++++++++++++++++++++++++
“หนูมีอะไรจะให้ค่ะ”เด็กหญิงยิ้มแป้นและซ่อนบางอย่างไว้ข้างหลัง
เพียงดาวยิ้มอย่างเอ็นดู “อะไรหรือจ้ะตะวัน”
เด็กหญิงส่งลูกอมแบ่งใส่ถุงมาประมาณห้าเม็ดยื่นให้เพียงดาว “อืมมิลล์! นี่มันลูกอมนี่จ้ะยี่ห้อนี้อร่อยมากเลย” เพียงดาวรับมาเธอก็ชอบเหมือนกัน
“นี่เป็นส่วนแบ่งค่ะ”
เพียงดาวสงสัย “ส่วนแบ่ง หมายความว่ายังไงจ้ะตะวัน ส่วนแบ่งอะไรเหรอ”
เด็กหญิงกอดอกอย่างภาคภูมิใจก่อนจะเล่าความจริงทั้งหมดให้ฟัง
เพียงดาวไม่รู้ว่าตัวเองควรจะดีใจหรือเสียใจดีที่เธอได้รับตำแหน่งคุณแม่ที่สาวและสวยที่สุดในชั้นเรียนและได้รับรางวัลส่วนแบ่งเป็นลูกอมห้าเม็ด
“ความสวยของเรามีค่าแค่ลูกอมห้าเม็ดเองเหรอ” หญิงสาวรำพึงกับตัวเอง แต่แล้วก็มองคนตัวเล็กก่อนจะพยักหน้า
“เราต้องคุยกันหน่อยแล้วล่ะสาวน้อย”
“คุณแม่ไม่พอใจกับส่วนแบ่งเหรอคะ ตะวันให้เพิ่มก็ได้”
ดูสิเรียกคุณแม่อีกแล้วประจบแบบนี้จะดุลงไหมเนี่ย แต่ยังไงก็ต้องสอนจากนั้นเพียงดาวก็สอนให้ตะวันรู้ว่าวันหลังอย่าทำแบบนี้อีกเพราะการพนันเป็นสิ่งไม่ดี ถึงจะเล่นพนันกันแค่ลูกอมก็ตาม เพราะจะทำให้มีนิสัยชอบเล่นการพนันติดตัวไปในวันข้างหน้า
“เข้าใจที่น้าดาวสอนไหมคะน้องตะวัน”แววตาอ่อนโยนลูบเลือนผมหนูน้อยเบาๆ
“เรียกว่าคุณแม่สิคะ” สาวน้อยมองตาแป๋ว ออดอ้อนเธอรู้ดีว่าเพียงดาวจะเป็นแม่ที่ดีของเธอได้เพราะหญิงสาวดีกับเธอทั้งต่อหน้าและรับหลังพ่ออั๊ด ไม่เหมือนเพลงพิณ
“แม่เหรอจ้ะ เอ่อ..ตกลงแม่ก็แม่ แล้วตะวันจะเชื่อที่แม่สอนไหมคะ”เพียงดาวยังเขินกับตำแหน่งใหม่ “เชื่อก็ได้ค่ะ ว้าแย่จัง….อย่างนี้โครงการประกวดคุณพ่อหล่อที่สุดในห้องก็ต้องล้มเลิกน่ะสิ” ลึกๆรู้สึกเสียดายเพราะรางวัลอยู่ใกล้แค่เอื้อมเพราะพ่ออั๊ดความหล่อกินขาด
“อะไรนะยังมีอีกเหรอ” เพียงดาวมีสีหน้าตกใจยกมือกุมศีรษะ ดีนะเด็กพวกนี้ไม่เอารูปพ่อแม่ลงไปในเฟชบุ๊ค แล้วนับคะแนนจากการกดไลท์
“เด็กสมัยนี้กินนมอะไรกันนะ ถึงได้แสบถึงทรวงขนาดนี้”เธอบ่นเบาๆและแอบถอนใจ สงสัยต้องคุยกับนายอัศนัยเสียบ้างแล้ว เขาคงไม่ค่อยมีเวลาให้ลูกสาว จะรู้บ้างไหมว่าเด็กสมัยนี้ไปถึงไหนกันแล้ว หากไม่มีเวลาดูแลอาจจะทำให้เด็กๆทำอะไรออกนอกลู่นอกทางด้วยความเข้าใจผิดก็ได้
++++++++++++++++++++++++++++++++
หลังจากอัศนัยพาตะวันไปส่งที่ห้องนอนแล้ว เขากลับมาหาเพียงดาวอีกครั้งเพื่อจะอธิบายบางอย่าง แต่ลึกๆภายในใจเขาไม่รู้ตัวหรอกว่าที่กลับมาเพราะความเป็นห่วงเธอที่ป่วยอยู่
“อย่าคิดมากเลยคุณ ยังไงก็รับสมอ้างเป็นแม่ให้ยัยตะวันไปก่อนแล้วกัน แต่อันที่จริงตำแหน่งแม่เลี้ยงมันก็เป็นของคุณอยู่แล้วเพราะเรากำลังจะแต่งงานกันไม่ใช่เหรอ”
“งานแต่งงานจอมปลอม สามีจอมปลอม คุณทำเพื่อผลประโยชน์”
“ก็เพื่อผลประโยชน์ของเราทั้งคู่นั่นแหละ ”
“แล้วตกลงที่คุณรับปากยัยตะวันว่าจะไปส่งแกที่โรงเรียนตอนเช้ากับผมคุณไปไหวหรือเปล่า”
“ฉันไม่เป็นอะไรมากแล้วค่ะคงไปส่งแกพร้อมกับคุณได้ ”
“ถ้าอย่างนั้นก็ดี เพราะการหลอกเด็กให้คอยเก้อมันเป็นบาป”
“รู้แล้วน่า” หญิงสาวทำท่าหงุดหงิด จากนั้นก็คลุมโปงหนีเขา
อัศนัยเผลอยิ้มที่มุมปาก เขาส่ายหน้า จากนั้นยื่นมือไปดึงผ้าห่มที่คลุมร่างบางออก
“เล่นผีผ้าห่มอยู่เหรอ ให้ผมเล่นเป็นเพื่อนเอาไหม”นัยน์ตายียวน
“คุณมันโรคจิตคิดอกุศล”เธอผลักเขาออกเต็มแรง
“ฉันง่วงต่างหาก”
“คุณยังมีคดีที่ผมยังไม่ได้ชำระความอยู่นะ งานที่ให้ช่วยก็ทำไม่สำเร็จ”เขาถอนใจแสร้งทำสีหน้าระอาเธอ
เพียงดาวนึกขึ้นมาได้ ถึงองุ่นที่เขาจะต้องตัดให้เสร็จภายในวันนี้ไม่เช่นนั้นจะถูกปรับเพราะเป็นออเดอร์จากต่างประเทศ
“ว่าแต่องุ่นในไร่ที่ฉันตัดค้างเอาไว้จะทำยังไงดีคะ”
“ผลผลิตถูกลำเลียงไปส่งลูกค้าแล้วตั้งแต่เมื่อตอนเย็น”
หญิงสาวขมวดคิ้วด้วยความมึนงง “ไหนคุณบอกฉันว่าคนงานพากันท้องเสียทั้งไร่ไม่สามารถมาทำงานได้”
“ก็ใช่ ผมได้คนงานจากไร่อื่นมาช่วยกันตัดจนเสร็จหมดแล้ว”
“อ้าว….แล้วทำไมคุณไม่จ้างคนงานพวกนั้นมาตั้งแต่ช่วงเช้า คุณปล่อยให้ฉันทำคนเดียวหรือว่าคุณแกล้งฉัน”ตากลมโตสำรวจความผิดปรกติ
“ก็มันกระทันหันตอนเช้าผมหาคนมาช่วยไม่ได้จริงๆ เพราะทุกไร่ในละแวกนี้ต่างเร่งเก็บผลผลิตพร้อมกันหมด แต่พอดีว่าไร่ของกำนันวิทยาเสร็จก่อนจึงส่งคนมาช่วยเราได้ในช่วงบ่าย”
“แล้วไป นึกว่าคุณกลั่นแกล้งฉันให้ทำงานหนักปางตายอยู่คนเดียว”
อัศนัยเงียบเขาไม่ได้ตอบอะไร แต่ขอตัวไปนอน
“เดี๋ยวค่ะ อย่าเพิ่งไป”
เขาหันกลับมาสีหน้าสงสัย “มีอะไร อย่าบอกนะว่าคืนนี้คุณฝันร้ายอีก”
“ฉันแค่อยากจะขอบคุณอีกครั้งที่คุณช่วยฉันเอาไว้ จนพ้นน้ำมือจากไอ้พวกโจร ไม่อย่างนั้นแล้วฉันคงต้องตกนรกทั้งเป็น”
ยิ่งเธอส่งสายตาซาบซึ้งจริงใจมาให้เขา อัศนัยกลับยิ่งรู้สึกผิดมากขึ้นที่ทำเกินไปหน่อย
“ไม่เป็นไรครับ ลืมมันเสียเถอะ”
“กู้ดไนท์นะคะ” เธอส่งยิ้มหวานให้เขาอย่างไม่คิดอะไร มันทำให้อัศนัยรู้สึกประหลาด เพราะหัวใจของเขามันกำลังเต้นโครมคราม แต่ปกปิดด้วยการตีสีหน้าเรียบเฉยก่อนจะเดินออกไปจากห้อง ++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
ภายในรถเก๋งสีขาวที่เป็นยานพาหนะไปส่งสาวน้อยที่โรงเรียนอย่างสม่ำเสมอ ตะวันดูจะร่าเริงกว่าทุกๆเช้าที่ผ่านมาเพราะวันนี้หนูน้อยมีคนพิเศษเพิ่มมาด้วยนอกจากพ่ออั๊ดขาประจำ เมื่อรถยนต์จอดสนิทสาวน้อยก้าวลงจากรถมาก่อนใครเพื่อนด้วยความมั่นใจ ขาเรียวคู่เล็กๆเดินอย่างอาจหาญเหมือนผู้กำชัยชนะอยู่ในมือ เพราะเห็นสายตาของเพื่อนร่วมห้องที่กำลังยื่นหน้าสลอนออกมาจากทางหน้าต่าง ชะโงกหน้าจากทางประตูบ้างก็มี บางคนก็ยืนตาโตอยู่หน้าห้องมองมาที่แม่ของเธอด้วยความสนอกสนใจ แต่ยัยชูรสน่ะสิทำตาเขียวใส่และส่งสายตาค้อนมาที่ตะวันอยู่หลายครั้ง แต่ตะวันหรือจะยอมเธอก็เชิดใส่กลับไปเหมือนกันก็แม่เขาสาวและสวยกว่านี่
“คุณแม่ขาจูงตะวันหน่อยสิคะ”
อัศนัยอมยิ้มพรายมองดูลูกสาวแสบ กับแม่เลี้ยงสาว
“ได้สิจ้ะ”เพียงดาวจูงคนตัวเล็กและแอบกระซิบถามเบาๆ“มีอะไรหรือเปล่าจ้ะตะวัน”
“แล้วหนูจะเล่าให้ฟังตอนเย็นค่ะ”
“คุณครูขา สวัสดีค่ะ” เสียงเจื้อยแจ่วช่างพูดกล่าวขึ้น ก่อนจะยกมือไหว้อย่างสวยงาม
“สวัสดีค่ะหนูตะวัน”คุณครูยิ้มให้ก่อนจะยกมือสวัสดีผู้ปกครอง
“วันนี้หนูพาคุณแม่มาเปิดตัวด้วยค่ะ” สาวน้อยคุยโวอย่างภาคภูมิใจ ส่วนคุณครูมองมาที่เพียงดาวอย่างสนใจเช่นกัน
เพียงดาวยิ้มตอบคุณครูอย่างเก้อเขิน ส่วนอัศนัยก็นึกขำกับคำพูดของบุตรสาวเขาไม่ได้เป็นคนสอนเสียหน่อยเธอพูดเองต่างหาก
“คุณอัศนัยได้ข่าวว่ากำลังจะแต่งงานเหรอคะ ยินดีด้วยนะคะ” คุณครูประจำชั้นเองก็ทราบข่าวการแต่งงานของอัศนัยเจ้าของไร่นรบดีเศรษฐีอันดับต้นๆของจังหวัด ซึ่งข่าวนี้ทำให้สาวๆหลายรายถึงกับน้ำตาร่วง
“เชิญคุณครูด้วยนะครับ แล้วผมจะส่งการ์ดมา”
“ดิฉันไม่พลาดงานนี้อย่างแน่นอนค่ะ ว่าที่เจ้าสาวของคุณอัศนัยสวยมากนะคะ เหมาะกันทีเดียว” แววตาแสดงความชื่นชมในตัวว่าที่เจ้าสาวอย่างจริงใจ แต่ก็อดนึกสงสัยไม่ได้ว่าเพลงพิณหญิงสาวที่เขาเคยควงอยู่ยอมได้อย่างไรกันกับงานนี้
เพียงดาวเขินจนหน้าแดงราวกับลูกตำลึง
ระหว่างที่คุณครูและผู้ปกครองกำลังสนทนากันอยู่อย่างออกรสนั้น บุตรชายเจ้าของโรงเรียนก็กำลังจูงหลานชายเพื่อนร่วมห้องกับเด็กหญิงตะวันเดินเข้ามา
“ปันปัน ไหว้คุณครูสิครับ”
“สวัสดีครับคุณครู”
คุณครูประจำชั้นรับไหว้เด็กชายหน้าตาน่ารัก ตาโต ปากนิด จมูกหน่อย และยิ้มเลยไปถึงคนเป็นอา
“คุณปกป้อง วันนี้มาส่งหลานชายเองเลยหรือคะ”
“ใช่ครับ วันนี้พี่ธนูเขาไปธุระแต่เช้า ผมเลยมาส่งน้องปันปันเอง”
“ตะวัน มาแต่เช้าเลยนะแม่เธอมาส่งด้วยเหรอ แม่เธอสวยจัง” เด็กชายส่งยิ้มให้สาวน้อยและพูดอย่างเอาใจ
“เธอจะลงคะแนนให้เราไหม”
“แน่นอนอยู่แล้ว”
เป็นจังหวะเดียวกับที่เพียงดาวหันไปมองว่าเด็กๆคุยถึงเรื่องอะไรกัน
“คุณดาว! คุณจริงๆด้วยผมไม่ได้ตาฝาดใช่ไหม” ชายหนุ่มแสดงท่าทีตื่นเต้นดีใจจนเก็บอาการไม่อยู่ทั้งที่ปรกติเป็นคนสุขุม
เขาอยากจะดึงเธอเข้ามากอดให้สมกับความคิดถึงแต่ติดที่ว่ามีคนอยู่
“อ้าว…พี่ป๋อ! มาอยู่ที่นี่ได้ยังไงคะ บังเอิญจัง”หญิงสาวยิ้มกว้างรู้สึกประหลาดใจที่ได้พบกับเขาอีกครั้ง “อย่าเรียกว่าบังเอิญเลยครับ เรียกว่าพรหมลิขิตจะดีกว่า”แววตาซาบซึ้ง
“จะอ้วก” อัศนัยพูดเบาๆ
หญิงสาวหันไปทำตาดุใส่ “เสียมารยาท”
“รู้ไหมว่าผมตามหาคุณจนทั่ว ผมกลับไปที่ฝรั่งเศสไปหาคุณที่อพาร์ทเม้นต์ที่เราเคยพักด้วยกันแต่เจ้าของบอกว่าคุณกลับเมืองไทยไปแล้วแต่เขาไม่ทราบที่อยู่”
อัศนัยมองคนทั้งคู่ในใจรู้สึกขุ่นเคืองขึ้นมาทันที ไอ้หมอนี่บอกว่าเคยพักอยู่กับเธอ แถมผู้ชายด้วยกันทำไมจะมองไม่ออกสายตาแบบนี้คิดเกินกว่าเพื่อนอย่างแน่นอน ที่สำคัญไอ้หมอนี่ไม่สนใจเลยว่าเธอมากับเขา นี่เราเป็นหัวหลักหัวตอไปตั้งแต่เมื่อไหร่
“ดาวกลับมาเมืองไทยได้สามเดือนแล้วค่ะ ดาวเองก็ติดต่อพี่ป๋อไม่ได้เหมือนกัน ไม่คิดว่าจะได้เจอกันอีก”
“ว่าแต่คุณดาวมาทำอะไรที่โรงเรียนนี้ครับ”เขามีอะไรนึกอยากจะถามเธอมากมายจนลำดับไม่ถูก
“มาส่งลูกสาวค่ะ”เด็กหญิงตะวันชิงตอบแทน
อัศนัยสะใจไม่น้อยเมื่อเห็นสีหน้าลูกชายเจ้าของโรงเรียนชะงักไป อาทิตย์นี้คงต้องให้รางวัลลูกสาวด้วยการพาไปทานไอศกรีมร้านดังเสียหน่อย
ปกป้องมองไปที่เด็กหญิงตะวันด้วยความสงสัย“ผมจำได้ไม่เคยลืมนะครับว่าเมื่อหลายเดือนก่อนคุณยังโสด ในระยะเวลาเพียงไม่กี่เดือนคุณดาวมีลูกโตขนาดนี้แล้วเหรอครับจะเป็นไปได้ยังไง”สายตาแสดงความไม่เชื่อ
“คือว่าเรื่องมันยาวค่ะพี่ป๋อเอาไว้ดาวจะเล่าให้ฟังวันหลัง”
“แต่ถ้าจะให้ตอบสั้นๆวันนี้ ก็คือเรากำลังจะแต่งงานกัน และผมมีลูกสาวอยู่หนึ่งคน คุณดาวก็เลยมีลูกสาวที่โตได้ขนาดนี้แล้วครับ จบไหม”
“คุณกำลังจะแต่งงาน!” เขาอยากจะโทษว่าเป็นความผิดของฟ้า
“ใช่ค่ะ” เพียงดาวยิ้มเจื่อนๆ
คนฉลาดอย่างเขามองออกว่ามีอะไรมากกว่านี้ หากมีทางที่เธอจะไม่ต้องตกไปเป็นของใครเขาจะทำ แต่บางอย่างต้องสืบให้แน่ชัดเสียก่อนเพราะเขารู้ดีว่านายอัศนัยเจ้าของไร่นรบดีไม่ใช่ธรรมดา
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
ภายในรถเงียบสนิทได้ยินเพียงลมหายใจของคนทั้งคู่สลับกันไปมา จนชายหนุ่มเอ่ยขึ้นก่อน
“ลูกชายเจ้าของโรงเรียนนั่นเป็นแฟนเก่าของคุณเหรอ?”
น้ำเสียงราบเรียบ เหมือนว่าถามไปอย่างนั้นแต่อันที่จริงเขากลับอยากรู้มาก จนต้องย้อนถามตัวเองว่าจะสนใจไปทำไมเขาไม่ได้คิดอะไรกับเธอเกินกว่าหน้าที่สักหน่อย เอ….หรือคิด ไม่จริงเขารักเพลงพิณต่างหาก
“ถ้าเป็นแบบที่คุณพูดจริงๆก็ดีสิ”
“ทำไมล่ะ”
เธอหันมามองหน้าเขา “ฉันจะได้ไม่ต้องมาแต่งงานลวงโลกกับคุณยังไงล่ะ”
“ไม่เห็นเป็นอะไร ไว้ครบสองปีคุณหย่าขาดกับผมแล้วค่อยไปแต่งงานกับเขาใหม่ก็ได้ แต่บอกให้นายป๋ออะไรนั่นรอหน่อยก็แล้วกัน มันคงนานๆๆๆ”
“พูดอะไรบ้าๆ ไหนบอกแค่สองปียังไงล่ะ”
“แล้วสองปีมันยังนานไม่พออีกเหรอ อย่ารีบร้อนมีสามีคนที่สองเร็วนักสิ”
หญิงสาวจ้องหน้าเขาแล้วมองเลยที่ไปที่ใบหูยาวขาวสะอาด แล้วนึกอยากจะกัดสักที สองที ให้เลือดมันออก
“จะมีสามีสักกี่คนมันก็เรื่องของฉัน แต่คุณมันแค่ในนามเท่านั้นจำเอาไว้”
“ต่อไปนี้ผมขอสั่งห้ามคุณแสดงท่าทีสนิทสนมกับผู้ชายคนไหนอีก นอกจากผมคนเดียวเท่านั้น” “เพราะอะไรคะ”
“ผมไม่อยากถูกนินทาลับหลังว่าเมียแอบมีชู้”
“คุณก็รู้ว่าความจริงมันคืออะไร คุณจะสนใจทำไปทำไมกัน”
“ใช่ผมรู้ แต่คนอื่นเขาไม่รู้ คุณอย่าลืมสิ เพราะฉะนั้นอย่าทำเด็ดขาด” น้ำเสียงเขียว
“ถ้าคุณไม่บอกว่ารักคุณพิณเพียงคนเดียวมาก่อน ฉันคงนึกว่าคุณกำลังหึงหวงฉันอยู่”
“ผมนะเหรอหึงคุณ ไม่มีทาง”น้ำเสียงหนักแน่น “อย่าสำคัญตัวผิด”
“กลัวจะสำคัญตัวถูกมากกว่า” หญิงสาวเบ้ปาก
“พูดถึงพิณหวานใจของผมก็ดีแล้ว ผมกำลังคิดถึงเขาพอดีเอาเป็นว่าผมไปส่งคุณที่ไร่ก่อนแล้วกัน จากนั้นผมจะไปเยี่ยมเธอเสียหน่อย”
“ฉันขอไปด้วยสิ”เพียงดาวรู้สึกผิดที่แกล้งเพลงพิณจนจับไข้นึกอยากไปขอโทษ
“ไม่ให้ไป กลับไปอยู่ที่ไร่นั่นแหละดีแล้ว อย่ามาวุ่นวายกับชีวิตรักของผมหน่อยเลย”
“ทำไมให้ฉันไปด้วยไม่ได้ล่ะ ฉันไม่ขัดคอตอนพวกคุณนั่งคุยกันหรอก”
“และถ้าผมไม่ได้นั่งคุยกันล่ะ แบบนั้นมันเมื่อย นอนคุยกันดีกว่าเยอะ”
“น่าเกลียด”
“มันน่าเกลียดตรงไหนไม่ทราบ”
“ก็ตรงที่…..” จะให้เธอพูดยังไงกับสองแง่สามง่ามขอเขา
“คิดลึกเกินไปหรือเปล่าคุณ ท่าทางคุณนี่จะหมกมุ่นกับเรื่องอย่างว่า”
“ก็คุณพูดชวนให้คิดก่อน”
“ผมพูดชวนให้คิด หรือสมองคุณคิดไวกับเรื่องแบบนั้น”
“ฉันไม่เถียงกับคุณแล้ว”หญิงสาวสะบัดหน้าหนี
“เถียงไม่ออกล่ะสิ”
++++++++++++++++++++++++++++
อัศนัยตั้งใจจะไปเซอร์ไพรซ์แฟนสาวที่กำลังป่วยเป็นไข้ เขาซื้อดอกลิลลี่สีขาวช่อใหญ่ราคาแพงจากร้านประจำในเมืองก่อนจะขับไปที่บ้านไร่ของแฟนสาว ภายในบ้านเงียบเชียบเขาเคยมาที่นี่หลายครั้งเมื่อตอนเพื่อนรุ่นน้องอย่างอรนภายังอยู่ และทำให้เขารู้จักกับเพลงพิณที่นี่ แต่หลังจากอรนภาเสียชีวิตไปอย่างน่าเศร้าเขามีความรู้สึกว่าคนในบ้านหลังนี้ไม่อยากจะต้อนรับเขาเท่าไหร่นักยกเว้นเพลงพิณ
“พิณครับ พิณ”บ้านเงียบเชียบ แต่รองเท้าคู่โปรด กับรถคันเก่งของเธอยังอยู่
ภายในห้องนอนกว้าง เตียงขนาดใหญ่ ที่นอนสปริงอย่างดีไหวยวบอย่างเป็นจังหวะขึ้นลงตามแรงถาโถม เรียวลิ้นเปียกชื้นยังหยอกเอินเลียไล้อยู่บนยอดปทุมคู่งามของหญิงสาว
“โอ๊ย…..พี่อิงคะ เบาๆค่ะ”
“พี่ใจจะขาดอยู่แล้วนะยอดรัก”น้ำเสียงกระเซ่าซ่านปริ่มว่าจะขาดใจ
นิ้วเรียวยาวของเธอแทรกซอนอยู่ใต้ผมดำขลับที่ยาวปะบ่าของเขา มีแอบดึงและทึ้งแรงๆบ้างเป็นบางครั้งในเวลาที่เขาแทรกกายเข้าไปในกลีบกุหลาบบางถึงชั้นในสุดอย่างเต็มแรงรัก
“พี่อิง พิณทนไม่ไหวแล้วค่ะ”
แอร์ที่เย็นจัดภายในห้องดูเหมือนจะสู้อารมณ์ร้อนรักดั่งพายุทรายของทั้งคู่ไม่ได้เลย
“ทนอีกหน่อยนะพิณ พี่อยากอยู่กับพิณนานๆ อย่าหนีพี่ไปไหนนะ”
กายแกร่งแข็งแรงที่สอดเข้าออกในช่องทางรักอย่างเป็นจังหวะนั้นสลับกับเสียงหวีดร้องที่เต็มไปด้วยความเสียวซ่าน และปลดปล่อยจากภาพลักษณ์ที่ดูเรียบร้อย
“สลับที่กันบ้างไหมคะพี่อิง”
ใครจะรู้ว่าเธอร้อนแรงเวลาอยู่บนเตียง และเหมือนว่าดีกรีแห่งความร้อนแรงนี้จะเพิ่มมากขึ้นตามอายุของเธอ ต่างจากเด็กสาวในวันวานเมื่อคราวอายุสิบแปดที่เขาเป็นครั้งแรกของเธอ ทำให้เขาติดใจในรสสวาทของน้องเลี้ยงคนนี้ แต่ที่แน่ๆนอกจากความต้องการทางร่างกายหัวใจของเขาก็ยกให้น้องสาวคนนี้ไปจนหมดหัวใจแล้วด้วย
“เอาสิจ้ะ” เขาหมุนร่างบอบบางขึ้นมาทาบทับบนร่างเปลือยกำยำ ตาคมชื่นชมกับความสวยยามสะโพกพลิ้วไหวของเธอทาบทับลงมาบนแก่นกายของเขา อกขาวผ่องคู่งามกระเพิ่มขึ้นลงอย่างเป็นจังหวะชวนมอง เปลือกตาของเธอหลับพลิ้มยามบดขยี้ลงมาเสียดสีกับก้อนเนื้อร้อนจัดที่แข็งขืนอยู่ตลอดเวลา
“โอ๊ย โอ๊ย ” เสียงหญิงสาวครวณคราง ในขณะที่คนด้านร่างตัวเกร็ง
อัศนัยถอนหายใจเขานั่งรออยู่นานทั้งๆที่ประตูบ้านก็เปิดเอาไว้ แต่เพลงพิณไปไหนกันหรือว่าเธอกำลัง
อาบน้ำอยู่
“พิณทำอะไรอยู่นะ”อัศนัยมองขึ้นไปที่ชั้นสอง มันคงไม่ดีแน่ที่เขาจะบุกรุกขึ้นไปบนห้องของหญิงสาว แต่แล้วเขากลับได้ยินเสียงของเธอเล็ดลอดออกมา มันเป็นเสียงครวญครางเหมือนกำลังเจ็บปวด
“พิณครับ พิณเป็นอะไรหรือเปล่าครับ” อัศนัยลืมเรื่องมารยาทเสียสนิท เขารีบวิ่งขึ้นไปดูที่ชั้นสองในใจนึกห่วงคนรัก
“พิณ พิณครับ เกิดอะไรขึ้น”
ประตูห้องไม่ได้ล็อค อัศนัยไม่รั้งรอที่จะเปิดเข้าไปในนั้นเพื่อดูให้รู้แน่ว่าเกิดอะไรกับแฟนสาว
แต่แล้วภาพของคนทั้งคู่ก็ทำให้เขาต้องตกตะลึง ไม่คิดมาก่อนว่านายอิงจะกล้าทำแบบนี้กับน้องสาวของตนเอง ไม่เห็นด้วยตาก็คงไม่เชื่
“พิณเจ็บค่ะ พี่อิงเบาๆหน่อยสิคะ”
“แหมก็พี่เป็นผู้ชายนะจะให้เบาแบบผู้หญิงได้ยังไงกัน พี่ออยก็ไม่อยู่เสียด้วย”
สองพี่น้องต่างสายเลือดหันไปมองอัศนัย
“ขอโทษทีครับที่ผมสียมารยาทเข้ามาในห้องพิณ พอดีผมได้ยินเสียงร้องของพิณ”
หญิงสาวส่งยิ้มให้เขา ทั้งที่ยังหอบเหนื่อย “ไม่เป็นไรค่ะ พิณได้ยินเสียงคุณแล้วแต่ไอ้เสี้ยนที่ตำเท้าพิณมันยังเอาไม่ออก ก็เลยลงไปไม่ได้ นี่พี่อิงกำลังคีบออกให้อยู่ค่ะ”
อิงหันมายิ้มให้อัศนัยแต่ในใจกำลังแยกเขี้ยวใส่มาอะไรตอนนี้วะ “มันกำลังจะออกอยู่แล้วครับ แต่ทว่ามือผมสั่นตอนได้ยินเสียงคุณ ก็เลยพลาดไปหน่อย มันเลยไม่ออกค้างอยู่แบบนี้”สีหน้าหงุดหงิด
“ต้องขอโทษทีครับ เอาเป็นว่าผมลงไปรอข้างล่างจะดีกว่า”
“เชิญครับ”อิงตอบ ก่อนจะหันไปสนใจกับเท้าน้องสาว
“เดี๋ยวพิณตามไปนะคะคุณอั๊ด”
เมื่อลับหลังอัศนัยคนทั้งคู่ต่างถอนหายใจออกมาพร้อมกันแรงๆ "เกือบไปแล้ว ดีนะเนี่ยที่พิณได้ยินเสียงคุณอั๊ดเสียก่อนเลยไหวตัวทัน ยังโชคดีนะที่เขายังไม่ทันสังเกตเห็นว่าพี่่อิงใส่เสื้อกลับตะเข็บ"
"จริงด้วย วันหลังเราต้องระวังตัวกันมากกว่านี้"
++++++
“ถอนเสี้ยนที่ตำเท้ากันเนี่ยนะ” อัศนัยรู้สึกประหลาดใจ และยังนึกสงสัยไม่หายว่านายอิงมักชอบใส่เสื้อกลับตะเข็บแบบนี้เสมอเหรอเวลาอยู่บ้าน
นี่ถ้าทั้งสองคนไม่ใช่พี่น้องกันเขาคงคิดมาก แต่เขายอมรับว่านายอิงคงจะรักน้องสาวมากถึงขนาดยอมถอนเสี้ยนที่เท้าให้นับว่าเป็นพี่ชายที่หาได้ยากจริงๆ
++++++++++++++++++++++++++++
โรงเรียนอนุบาลเอกชนชื่อดัง ตอนพักกลางวัน
หลังรับประทานอาหารเสร็จอนุบาลสามทับสี่ก็เริ่มลงคะแนนกันอย่างลับๆอยู่ท้ายห้อง เพราะเรื่องแบบนี้จะให้คุณครูรู้ไม่ได้
“ปัน ปัน เหลือตัวเองเป็นคนสุดท้ายแล้วนะตัวเองต้องเป็นคนตัดสิน” น้องเล็ก เด็กหญิงร่างอ้วนที่สุดในห้องผู้เป็นกรรมการกล่าวขึ้น ในขณะที่ผู้มีสิทธิ์ออกเสียงทุกคนที่ได้ลงคะแนนไปแล้วจ้องมาที่หนุ่มน้อยอย่างร่วมลุ้นคำตอบ
“ปัน ปัน เราหวังว่าตัวเองจะใช้ตาโตๆ แยกออกนะว่าความสวยเป็นยังไง แม่เราเคยได้รางวัลเทพีโคนมประจำจังหวัดด้วย” ชูรสกล่าวก่อนจะเชิดหน้าใส่ตะวัน
“ปัน ปัน ตัวเองคือคำตอบสุดท้าย แม่ใครสวยกว่าตัวเองก็เห็นเต็มสองตาเมื่อเช้าแล้วนี่” ตะวันกล่าวก่อนจะยักคิ้วและเบ้ปากส่งให้ชูรสบ้าง
เด็กชายตาโตบ้องแบ๊ว นัยน์ตาดำสนิท มองสาวน้อยแสนสวยทั้งคู่สลับกันไปมาอย่างหนักใจ ก่อนจะเป็นผู้ชี้ขาดว่าลูกอมรสนมจากฟาร์มโคชื่อดังประจำจังหวัดสระบุรีห่อใหญ่จะตกเป็นของใคร
“เย้ๆๆๆๆๆ ชนะแล้ว เห็นไหมแม่เราสวยกว่า ปัน ปัน ตาถึงจริงๆ”
“ความยุติธรรรมไม่มีในโลก ผู้ชายก็แบบนี้ทุกคน”ชูรสเชิดใส่เด็กชายก่อนจะเดินหนีไปอีกทาง
“เราผิดตรงไหนล่ะ ถึงแม่ชูรสเคยเป็นเทพีโคนมแต่ก็แก่แล้วนี่นา แต่แม่ของตะวันยังสาวยังสวยอยู่ หุ่นก็ดีเหมือนกับโคโยตี้”
“ปันปัน อะไรคือโคโยตี้เหรอ” เด็กหญิงคนหนึ่งเอ่ยถามด้วยความสงสัย
เด็กชายตาโตช่างจำส่ายหน้า“ไม่รู้สิ แต่เห็นพ่อชอบชวนอาเราไปดู เขาบอกว่าโคโยตี้มีแต่หุ่นดีๆกันทั้งนั้น” ++++++++++++++++++++++++++++
“หนูมีอะไรจะให้ค่ะ”เด็กหญิงยิ้มแป้นและซ่อนบางอย่างไว้ข้างหลัง
เพียงดาวยิ้มอย่างเอ็นดู “อะไรหรือจ้ะตะวัน”
เด็กหญิงส่งลูกอมแบ่งใส่ถุงมาประมาณห้าเม็ดยื่นให้เพียงดาว “อืมมิลล์! นี่มันลูกอมนี่จ้ะยี่ห้อนี้อร่อยมากเลย” เพียงดาวรับมาเธอก็ชอบเหมือนกัน
“นี่เป็นส่วนแบ่งค่ะ”
เพียงดาวสงสัย “ส่วนแบ่ง หมายความว่ายังไงจ้ะตะวัน ส่วนแบ่งอะไรเหรอ”
เด็กหญิงกอดอกอย่างภาคภูมิใจก่อนจะเล่าความจริงทั้งหมดให้ฟัง
เพียงดาวไม่รู้ว่าตัวเองควรจะดีใจหรือเสียใจดีที่เธอได้รับตำแหน่งคุณแม่ที่สาวและสวยที่สุดในชั้นเรียนและได้รับรางวัลส่วนแบ่งเป็นลูกอมห้าเม็ด
“ความสวยของเรามีค่าแค่ลูกอมห้าเม็ดเองเหรอ” หญิงสาวรำพึงกับตัวเอง แต่แล้วก็มองคนตัวเล็กก่อนจะพยักหน้า
“เราต้องคุยกันหน่อยแล้วล่ะสาวน้อย”
“คุณแม่ไม่พอใจกับส่วนแบ่งเหรอคะ ตะวันให้เพิ่มก็ได้”
ดูสิเรียกคุณแม่อีกแล้วประจบแบบนี้จะดุลงไหมเนี่ย แต่ยังไงก็ต้องสอนจากนั้นเพียงดาวก็สอนให้ตะวันรู้ว่าวันหลังอย่าทำแบบนี้อีกเพราะการพนันเป็นสิ่งไม่ดี ถึงจะเล่นพนันกันแค่ลูกอมก็ตาม เพราะจะทำให้มีนิสัยชอบเล่นการพนันติดตัวไปในวันข้างหน้า
“เข้าใจที่น้าดาวสอนไหมคะน้องตะวัน”แววตาอ่อนโยนลูบเลือนผมหนูน้อยเบาๆ
“เรียกว่าคุณแม่สิคะ” สาวน้อยมองตาแป๋ว ออดอ้อนเธอรู้ดีว่าเพียงดาวจะเป็นแม่ที่ดีของเธอได้เพราะหญิงสาวดีกับเธอทั้งต่อหน้าและรับหลังพ่ออั๊ด ไม่เหมือนเพลงพิณ
“แม่เหรอจ้ะ เอ่อ..ตกลงแม่ก็แม่ แล้วตะวันจะเชื่อที่แม่สอนไหมคะ”เพียงดาวยังเขินกับตำแหน่งใหม่ “เชื่อก็ได้ค่ะ ว้าแย่จัง….อย่างนี้โครงการประกวดคุณพ่อหล่อที่สุดในห้องก็ต้องล้มเลิกน่ะสิ” ลึกๆรู้สึกเสียดายเพราะรางวัลอยู่ใกล้แค่เอื้อมเพราะพ่ออั๊ดความหล่อกินขาด
“อะไรนะยังมีอีกเหรอ” เพียงดาวมีสีหน้าตกใจยกมือกุมศีรษะ ดีนะเด็กพวกนี้ไม่เอารูปพ่อแม่ลงไปในเฟชบุ๊ค แล้วนับคะแนนจากการกดไลท์
“เด็กสมัยนี้กินนมอะไรกันนะ ถึงได้แสบถึงทรวงขนาดนี้”เธอบ่นเบาๆและแอบถอนใจ สงสัยต้องคุยกับนายอัศนัยเสียบ้างแล้ว เขาคงไม่ค่อยมีเวลาให้ลูกสาว จะรู้บ้างไหมว่าเด็กสมัยนี้ไปถึงไหนกันแล้ว หากไม่มีเวลาดูแลอาจจะทำให้เด็กๆทำอะไรออกนอกลู่นอกทางด้วยความเข้าใจผิดก็ได้
++++++++++++++++++++++++++++++++

เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 3 ธ.ค. 2554, 22:33:48 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 4 ธ.ค. 2554, 05:51:42 น.
จำนวนการเข้าชม : 3122
<< ตอนที่ 11 | ตอนที่ 13 >> |

XaWarZd 4 ธ.ค. 2554, 00:24:05 น.
เสี้ยนตำคิดได้ไง แล้วเสื้อผ้าใส่ทันเรอะ แอบงง
เสี้ยนตำคิดได้ไง แล้วเสื้อผ้าใส่ทันเรอะ แอบงง

นกอุมาพร 4 ธ.ค. 2554, 01:16:03 น.
เราก็งงกับฉากเสี่ยนตำเหมือนกัน ใส่เสื่อเร็วไปมั้ย
เราก็งงกับฉากเสี่ยนตำเหมือนกัน ใส่เสื่อเร็วไปมั้ย

แพม 4 ธ.ค. 2554, 08:23:44 น.
โง่จริง อะไรจริงนะ อัศนัย
โง่จริง อะไรจริงนะ อัศนัย

roseolar 4 ธ.ค. 2554, 08:41:34 น.
ความสวยที่มีค่าแค่ลูกอมห้าเม็ด น้องตะวันนี่น่ารักจริงๆ
แต่ฮาตรงเทพีโคนมกับโคโยตี้ไม่ไหวแล้ว
ความสวยที่มีค่าแค่ลูกอมห้าเม็ด น้องตะวันนี่น่ารักจริงๆ
แต่ฮาตรงเทพีโคนมกับโคโยตี้ไม่ไหวแล้ว

pseudolife 4 ธ.ค. 2554, 09:48:08 น.
โอ๊ย ตาสว่างเสียทีคุณอัศนัย ยังเพลงพิณนี่ก็น้าทำหน้าซื่อ
โอ๊ย ตาสว่างเสียทีคุณอัศนัย ยังเพลงพิณนี่ก็น้าทำหน้าซื่อ

lovemuay 4 ธ.ค. 2554, 10:24:35 น.
โอ๊ยไม่ไหวแระ นายอัศโง้โง่ -*-
แอบมีหึงหนูดาวด้วย ยังไงยังไงอยู่น้า อิอิ
โอ๊ยไม่ไหวแระ นายอัศโง้โง่ -*-
แอบมีหึงหนูดาวด้วย ยังไงยังไงอยู่น้า อิอิ

mhengjhy 4 ธ.ค. 2554, 10:43:42 น.
โอ้ยยย ขัดใจคุณอัศนัย
โอ้ยยย ขัดใจคุณอัศนัย

anOO 4 ธ.ค. 2554, 15:28:59 น.
โธ่...อุตส่าห์คิดว่านายอั๊ตจะเลิกกินหญ้าซะแล้ว
แต่มีหนุ่มโผล่มาอีกคน อาจช่วยให้แสดงอาการหึงได้บ้าง
โธ่...อุตส่าห์คิดว่านายอั๊ตจะเลิกกินหญ้าซะแล้ว
แต่มีหนุ่มโผล่มาอีกคน อาจช่วยให้แสดงอาการหึงได้บ้าง

กาซะลองพลัดถิ่น 5 ธ.ค. 2554, 01:20:10 น.
เสี้ยนตำเท้า ตำในห้องนอนเนี่ยะนะแล้วพี่ชายมาช่วยถอนให้ พร้อมกับใส่เสื้อกับตะเข็บ คุณอัศนัยเอ๋ย กินหญ้าแทนข้าวอีกแหละ.. รวยแต่โง่ ก็ไม่ไหวนะ
เสี้ยนตำเท้า ตำในห้องนอนเนี่ยะนะแล้วพี่ชายมาช่วยถอนให้ พร้อมกับใส่เสื้อกับตะเข็บ คุณอัศนัยเอ๋ย กินหญ้าแทนข้าวอีกแหละ.. รวยแต่โง่ ก็ไม่ไหวนะ

คิมหันตุ์ 5 ธ.ค. 2554, 01:39:44 น.
กินหญ้ากันต่อไป --- ---
กินหญ้ากันต่อไป --- ---

nunoi 5 ธ.ค. 2554, 14:47:03 น.
จะกินหญ้าอีกนานไหมคุณอั๊ด
จะกินหญ้าอีกนานไหมคุณอั๊ด

kaero 6 ธ.ค. 2554, 10:55:52 น.
ช่วยกันปลูกหญ้าไว้ให้นายอัศเยอะๆๆ เพราะสงสัยคงต้องกินหญ้าไปอีกนานนนน
ช่วยกันปลูกหญ้าไว้ให้นายอัศเยอะๆๆ เพราะสงสัยคงต้องกินหญ้าไปอีกนานนนน