พิศวาสรัก จอมใจอสูร (ตีพิมพ์แล้วในชื่อ เพลิงรักมนต์สวาท)
พิศวาสรักจอมใจอสูร

เพียงดาว บุตรสาวคนโตของตระกูลดัง ผู้มีความสวยบวกความมั่นใจและนิสัยเย่อหยิ่ง ได้รับรู้ว่าน้องสาวของเธอ เพียงฟ้าที่แสนจะอ่อนโยนและอ่อนแอถูกพ่อบังคับให้แต่งงานกับผู้ชายวัยคราวลุงซึ่งเป็นเศรษฐีบ้านนอกไม่ใช่เพราะเงินตราแต่เป็นสัญญาใจของคนเป็นพ่อ เธอรู้สึกสงสารน้องสาวเพราะรู้ดีว่า เพียงฟ้ามีคนรักอยู่แล้วอีกทั้งรังเกียจที่เลือดไฮโซของพวกเธอจะต้องไปปะปนกับเลือดเศรษฐีบ้านนอก แต่ด้วยความที่รักน้องและก่อนตายมารดาได้ฝากฝังน้องสาวเอาไว้กับเธอให้ช่วยดูแล

ทำให้เพียงดาวตัดสินใจไปเป็นสะใภ้บ้านไร่แทนน้องสาว และส่งเพียงฟ้าไปอยู่เมืองนอกสลับตัวกันระหว่างเดินทางซึ่งเมื่อคุณศรุตผู้พ่อรู้ความจริงเข้าก็ไม่สามารถจะทำอะไรได้แล้วต้องปล่อยให้เป็นไปตามนั้นแต่ลงโทษบุตรสาวคนโตด้วยการตัดออกจากกองมรดกและบอกว่าหากเธออยู่ที่บ้านไร่ไม่ได้ก็ไม่ต้องคิดเผยอหน้าชูคอกลับมาที่คฤหาสน์อัศวเทพอีก

เพียงดาวจำต้องยอมรับในโชคชะตา ทันทีที่เธอไปถึงบ้านไร่ก็พบว่าผู้ชายแก่คราวพี่ชายพ่อคนนั้นได้ตายไปแล้วเพราะเป็นโรคหัวใจ แถมก่อนตายได้เขียนมรดกยกเธอให้เป็นภรรยาของน้องชายคนเดียวของเขาแทนนั่นคืออัศนัยเจ้าของไร่องุ่นวัยสามสิบเศษและเป็นเจ้าของทุ่งทานตะวันที่ใหญ่ที่สุดในลพบุรีด้วย นอกจากนี้เขายังมีโรงงานแปรรูปผลผลิตจากไร่ ซึ่งโดยรวมแล้วเขาไม่ได้บ้านนอกอย่างที่เธอคิด เขาทั้งหล่อ และรวยกว่าตระกูลของเธอมาก และเขาก็มองเธอเป็นแค่เพียงยัยตุ๊กตายางไฮโซเสื่อมคุณภาพที่ได้รับมรดกมาเท่านั้น

ความเย่อหยิ่งของเธอทำให้อัศนัยแอบหมั่นไสร้เขาแกล้งเธอต่างๆนาๆ แถมยังไม่ยอมบอกด้วยว่าเขารู้ความจริงแต่แรกแล้วว่าเธอคือเพียงดาว ไม่ใช่เพียงฟ้า อัศนัยให้เธอเลือกว่าจะทำงานบนเตียงหรือทำงานในไร่แต่เพียงดาวเลือกทำงานในไร่เขาจึงใช้เธอเยี่ยงทาส แต่ก็ทำให้สาวสวยไฮโซผู้เย่อหยิ่งรู้ว่าน้ำใจของคนจนๆนั้นมีมากกว่าพวกไฮโซที่เธอเคยรู้จักเพราะคนงานในไร่หลายคนทำดีต่อเธอมากโดยไม่ได้หวังสิ่งตอบแทน

เพียงดาวอยากจะแก้แค้นอัศนัยที่คอยกลั่นแกล้งเธอ หญิงสาวจึงหาที่ระบายอารมณ์ด้วยการกลั่นแกล้งแฟนสาวสุดแสนเรียบร้อยของอัศนัยแทนเธอชื่อเพลงพิณ มักจะมาหาอัศนัยที่ไร่อยู่บ่อยๆ และอัศนัยก็แสดงออกว่ารักเธอเอามากๆ จนครั้งหนึ่งเพียงดาวเกือบทำให้เพลงพิณพลาดท่าเสียทีนักเลงกลุ่มหนึ่ง ซึ่งอัศนัยโกรธมากเขาจึงลงโทษเธออย่างรุนแรงพรากความสาวของเธอไปอย่างไม่ไยดี ทำให้เธอได้รู้บ้างว่านรกมันเป็นอย่างไรแต่แล้วความโกรธเกรี้ยวทั้งหมดก็ค่อยๆมลายหายไปเมื่ออัศนัยได้ค้นพบว่าหญิงสาวไม่ได้เลวร้ายแบบที่เขาคิดและที่สำคัญเขาตกหลุมรักเธอไปตั้งแต่ตอนไหนก็ไม่รู้

แต่กว่าคนทั้งคู่จะปรับความเข้าใจกันได้ก็เล่นเอาคนรอบข้างเหนื่อยไปตามๆ กันเพราะเพียงดาวสวยน้อยเสียเมื่อไหร่เธอทำให้หัวใจชายหนุ่มหลายๆคน ไม่ว่าจะเป็นอรรณพเจ้าของห้างทองชื่อดัง หรือพีระนักวิชาการเกษตรแย่งกันแจกขนมจีบเธอจ้าละหวั่น แต่ก็ไม่มีใครเอาชนะใจเธอได้เพราะอัศนัยใช้สิทธิ์ความเป็นเจ้าของเธอ บีบให้ชายหนุ่มทั้งหลายสละสิทธิ์ไปที่ละคนจนเหลือเขาคนเดียวที่จะนั่งอยู่ภายในหัวใจของเธอ

++++++++++++++++++++++++++

Tags: ไร่ทานตะวัน

ตอน: ตอนที่ 13

ตอนที่ 13
หญิงสาวนั่งกระสับกระส่ายเมื่อมองนาฬิกาเป็นเวลาเกือบสี่ทุ่มแล้วแต่ทว่ายังไม่มีวี่แววว่าเขาจะกลับมาเลยสักนิด

“ไปเยี่ยมไข้กันยังไง หายไปตั้งครึ่งค่อนวัน สงสัยจะนอนคุยกันจริงๆ” เพียงดาวคิดถึงคำพูดเมื่อเช้าของเขา
คนรอด้วยความร้อนใจผล็อยหลับไปก่อน แต่ต้องสะดุ้งตื่นเมื่อมีบางสิ่งมาสัมผัสที่แก้มนวล

“ตื่นๆ คนขี้เซา มานอนอะไรตรงนี้”
อุ้ย!

เพียงดาวลืมตาขึ้นมามอง และเห็นว่าใบหน้าคมเข้มของเขาอยู่ห่างจากหน้าเธอไม่เกินคืบ
กรี๊ดๆๆๆๆๆๆๆ

“คุณแอบหอมแก้มฉันเหรอ”เพราะเมื่อครู่รู้สึกว่ามีอะไรมาสัมผัสที่ใบหน้า หญิงสาวกุมแก้มใส ใบหน้าร้อนผ่าว
“ผมแค่ใช้มือตบแก้มคุณเบาๆเพื่อจะปลุก หรือว่าอยากให้ผมใช้ริมฝีปากตบแทนล่ะ”นัยน์ตาระริก“ทะลึ่ง”
“แล้วคุณย่องมาเงียบๆแบบนี้คิดจะทำอะไรฉัน หรือคิดจะลวนลาม อย่าแม้แต่คิดเชียวนะ นิดเดียวก็ไม่ได้” หญิงสาวตีโพยตีพายและรีบลุกขึ้นจากโซฟา

“มากไป คุณต่างหากที่คิดอะไรกับผม ถึงได้มานอนคอย”สายตาเจ้าเล่ห์กวาดมองชุดนอนสีชมพูหวานที่บังเอิญความกว้างของเสื้อมันเผยอออกมาให้เห็นเนินอวบอิ่มขาวเนียนอย่างไม่ตั้งใจ

“ว้าย! ” หญิงสาวรีบกระชับเสื้อคลุมนอน มันคงหลุดตอนที่เธอเผลอหลับ “คุณกำลังลวนลามฉันทางสายตาอยู่รู้ไหม”
“อ้าว…ผมก็นึกว่าคุณตั้งใจจะโชว์เสียอีก”
“อย่ายั่วฉัน”สีหน้าดุ

“คุณต่างหากที่กำลังยั่วผม”เขากวาดตามองเรือนร่างชวนมอง ผิวขาวหยวก ยิ่งใส่ชุดสีชมพูก็ยิ่งดูหวานหยดน่ากินไปทั้งตัว “ยั่วขึ้นเสียด้วย” เขาหยอกและจุ๊ปากเบาๆแล้วทำทีกลืนน้ำลายลงคอ

“ลามก” หญิงสาวรีบถอยห่าง

“ถ้าอย่างนั้นก็บอกผมมาสักทีสิว่ามานอนรอผมทำไม”

“ใครบอกว่าฉันมานอนรอคุณ ฉันนั่งรอจนเผลอหลับไปต่างหาก แล้วทำไมคุณกลับดึกล่ะ” สายตาจับผิด

“พอดีผมมีธุระส่วนตัวที่สำคัญมากต้องรีบไปจัดการ” แล้วทำไมจะต้องรายงานไม่ใช่เมียสักหน่อยเขาคิด “มันเป็นเรื่องค่อนข้างละเอียดอ่อนกว่าจะเสร็จก็เลยกินเวลานานผมเลยกลับถึงบ้านดึกกว่าทุกวัน”

“ฉันมีเรื่องจะปรึกษากับคุณ”

“จะปรึกษาเรื่องอะไรก็ได้ยกเว้นเรื่องหัวใจไม่รับปรึกษา”

“ถ้าเป็นเรื่องนั้นฉันก็คงไม่ปรึกษาคุณหรอก”

“ก็ดี ถ้าอย่างนั้นก็ว่าเรื่องของคุณมา”เขานั่งลงที่โซฟา วางมาดขรึม

“ฉันจะปรึกษาเรื่องของหนูตะวันลูกสาวคุณ”
อัศนัยยิ้ม “ลูกสาวของเรา ไปก่อวีรกรรมอะไรที่โรงเรียนหรือเปล่า” เขาสันนิษฐาน

ลูกสาวของเราอย่างนั้นเหรอ ทำเป็นเนียนเชียวเพียงดาวแขวะเขาในใจ จากนั้นจึงเล่าเรื่องทั้งหมดให้เขาฟัง และขอให้เขาหาเวลาอยู่กับลูกมากกว่านี้
ใบหน้าหล่อคมมองหญิงสาวอย่างทึ่ง ไม่คิดเลยว่าเพียงดาวจะให้ความสนใจในตัวของหนูตะวันลูกเลี้ยงเขามากขนาดนี้ซึ่งเขารู้ดีว่าเพลงพิณไม่เคยแม้แต่จะคิด มันทำให้เขารู้สึกดีอย่างบอกไม่ถูก แต่ก็อดจะขำกับเรื่องที่เกิดขึ้นไม่ได้
“จะขำอีกนานไหมคะคุณอั๊ด” หน้าสวยบึ้งตึง

เขาหยุดหัวเราะและตีสีหน้าเรียบเฉยตามเดิม “ไม่ขำก็ได้ครับ แล้วดีใจไหมล่ะครับที่ได้รับตำแหน่งคุณแม่ที่สาวและสวยที่สุดพร้อมกับรางวัลส่วนแบ่งลูกอมห้าเม็ด”

“อย่ามาล้อฉันนะ”

“ผมไม่ได้ล้อ ผมชมต่างหาก เด็กสมัยนี้ช่างคิดกันจริงๆ”

“วันนี้เด็กๆ อาจจะเห็นว่าเป็นเรื่องสนุกแต่ก็จะทำให้ติดนิสัยชอบเล่นพนันไปในวันข้างหน้าถ้าผู้ปกครองไม่สอนว่าสิ่งไหนผิด สิ่งไหนถูก”

“นั่นน่ะสิ จริงด้วย”เขามองมาที่เธอแววตาระยับ“

สมแล้วที่ผมยกตำแหน่งแม่เลี้ยงให้คุณ”

“ไม่ถามบ้างเหรอว่าฉันอยากรับหรือเปล่า”
“จะถามไปทำไม ในเมื่อยังไงมันก็ต้องเป็นไปตามนั้นอยู่แล้ว อย่างน้อยก็สองปี”

เฮ้อ! เพียงดาวถอนหายใจแรงๆ
“ที่ผ่านมาผมอาจจะให้เวลากับลูกสาวน้อยไป ต่อไปนี้ผมคงจะต้องใส่ใจกับแกมากขึ้น”สีหน้าจริงจัง

“ดีแล้วล่ะค่ะ เพราะหนูตะวันแกรักคุณมาก”

อัศนัยพยักหน้ารับ “ผมก็รักแกมากเหมือนกัน แล้วก็ต้องขอบคุณมากที่คุณช่วยดูแลแกแทนผม”

“ไม่เป็นอะไรหรอกค่ะ ยังไงฉันอยู่ที่นี่ก็ไม่มีอะไรทำอยู่แล้ว”
“เรื่องงานแต่งงานของเราปลายเดือนหน้าคุณคงไม่มีปัญหาใช่ไหม”

“ค่ะ ฉันตกลงตามนั้น รีบแต่งจะได้รีบหย่า”
คำพูดของเธอมันช่างไม่เข้าหูเขาเอาเสียเลย ฟังแล้วชวนหงุดหงิด “อย่างว่าคนรอต่อคิวจากผมคงมีเยอะ”

“คุณอัศนัย” หญิงสาวกระแทกเสียงใส่

“หรือจะเถียงว่ามันไม่จริง”

“ถ้าจริงแล้วจะทำไม ในเมื่อคุณกับฉันเราไม่ได้รักกันเสียหน่อย เราแค่แสดงตามบทเพื่อผลประโยชน์ของตัวเราเอง”
ใช่สินะทำไมเขาถึงลืมเรื่องนี้ไปเสียสนิท ชักยังไงๆแล้วเรา ชายหนุ่มเริ่มรู้สึกผิดปรกติและวิตกกังวลมากกับความรู้สึกนั้น มันจะเป็นไปได้อย่างไรเขาไม่ใช่ผู้ชายโลเล เขารักเพลงพิณมากไม่ใช่เหรอ

“ผมขอตัวไปนอนก่อน” จู่ๆเขาก็ตัดบทเอาดื้อๆแล้วก็เดินหนีเธอ

“นี่เรายังคุยกันไม่จบเลย เดี๋ยวสิฉันมีเรื่องจะถามต่ออีก”

“ผมเบื่อหน้าคุณแล้ว มีอะไรค่อยคุยพรุ่งนี้แล้วกัน ผมง่วง” เขากำลังจะเดินขึ้นบันได ไปที่ชั้นสองของคฤหาสน์
“กล้าดียังไงมาเบื่อหน้าฉัน” เพียงดาวรีบเดินตาม อยากจะสักถามเรื่องคนงานที่ต้องเจ็บตัวเพราะเธอ “ไปหลับไปนอนได้แล้วไปคุณจะมาเดินตามผมทำไม”

“ไม่ไป ฉันรอคุณตั้งนาน พอมาถึงยังคุยกันไม่รู้เรื่องก็จะหนีไปนอนแล้ว ฉันยอมไม่ได้” หญิงสาวคว้าแขนเอาไว้แต่อัศนัยทำทีไม่สนใจเขาแกะมือเธอออกและเดินต่อไป

“อะไรกันนักกันหนา น่ารำคาญ”เขาบ่นอุบ

เพียงดาวรีบเดินตัดหน้าขึ้นไปดักรอที่บันไดขั้นต่อไปและกางแขนขวางเขาเอาไว้

“ไม่ให้ไป ฉันยังคุยไม่จบ” แต่แล้วด้วยความไม่ระวังหรือว่าซุ่มซ่ามก็ไม่รู้ทำให้เธอเสียหลักเซถลาลงมาหาเขา โชคยังดีที่อัศนัยรั้งราวบันไดไว้ได้ทัน ส่วนมืออีกข้างก็คว้าร่างของเพียงดาวมากอดเอาไว้แน่น

“เกือบตกบันไดคอหักได้ไปคุยกับยมพบาลแทนแล้ว เหลือเกินจริงๆ

” ร่างบางแนบอยู่กับอกอุ่นถ้าหูเธอไม่ฝาดเธอได้ยินหัวใจเขามันเต้นโครมคราม

“ก็คุณอยากเดินหนีก่อน”

“ตอนนี้ผมไม่หนีแล้วพูดมาสิ”

หญิงสาวหน้าแดงจัด ก็เธออยู่ในอ้อมกอดของเขาแบบนี้จะให้พูดยังไง หน้าอกอวบหยุ่นเบียดชิดอยู่กับอกแกร่งจนรับรู้ถึงไอร้อนที่ออกมาจากตัวเขา และที่สำคัญทำไมมืออีกข้างของเขามันถึงได้ไปวางสะเปะสะปะอยู่ที่สะโพกกลมกลึงของเธอ มันไม่ได้วางเฉยๆ เสียด้วยดูเหมือนมันจะลูบคลึงไปๆมาๆ

“พูดสิมีอะไร”เขาถาม ตาคมสบตาหวาน นัยน์ตาเป็นประกายอย่างลืมตัว

“ใครจะไปพูดออก ถ้าคุณไม่เอามือออกไปก่อน”

น้ำเสียงสั่งการ

“มือผมทำไม”เขาถาม แต่เมื่อนึกออกก็รีบกลบเกลื่อนปล่อยจากส่วนนั้นแล้วเลื่อนขึ้นมาจับที่เอวบางแทน

“คุณจะทำอะไรฉัน”

“ผมกลัวว่าคุณจะล่วงลงไป” เขาใกล้เธอจนได้กลิ่นน้ำหอมจางๆ

ริมฝีปากหยักหนาได้รูปก้มลงไปที่ใบหน้าหวานอย่างลืมตัว

“ปล่อยสิ ปล่อยฉันได้แล้ว”

“ปล่อยก็ได้ แต่ขอเรียกค่าทำขวัญที่คุณเกือบทำให้ผมต้องตกบันไดตายก่อนวัยอันครวญก่อน” เขาพูดเท่านั้นก็ฉกลิ้นร้อนชุ่มชื้นเข้าไปชิมริมฝีปากบางที่หวานเกินคำบรรยาย

แต่แล้วเขากลับหยุดนิ่งเมื่อนึกถึงใบหน้าของเพลงพิณ นี่เขากำลังคิดนอกใจคนรักอย่างนั้นเหรอ

“ไม่ได้ ไม่ได้” เหมือนว่าจิตใต้สำนึกของเขากำลังย้ำเตือน
“ใช่ คุณทำแบบนี้ไม่ได้อย่าลืมสิว่าคุณมีคนรักแล้ว”
“ใช่ ผมหยุดมันไม่ได้”

หญิงสาวพยายามจะผละออกจากเขา แต่ทว่าไม่มีหนทางในเมื่อเขากักเธอเอาไว้กับราวบันได จากนั้นก็จุมพิตร้อนระอุอย่างดูดดื่มและลืมตัว จนได้สติอีกครั้งเมื่อหญิงสาวทั้งหยิกและจิกที่ใบหูของเขาอย่างแรง

“โอ๊ย!” เขาร้องและจับใบหูที่ตอนนี้แดงจัด “นี่ถ้ามันขาดไปจำทำไง”
“ใช่ว่าแต่หูหรอกนะที่จะขาด ส่วนอื่นๆของคุณมันก็จะขาดตามไปด้วยถ้ายังลวนลามฉันไม่เลิก”

“เก่งนักใช่ไหม” เขารวบร่างบางและตวัดเธอขึ้นพาดบ่าราวกับว่าหญิงสาวเบาเหมือนปุยนุ่น

“ปล่อยฉันนะ เดี๋ยวตกบันได” กลัวทั้งคน กลัวทั้งจะตกบันได หญิงสาวระรัวกำปั้นไปที่หลังของเขา

แม้จะทำให้ขึ้นบันไดได้ยากลำบากแต่เขาก็ไม่ยอมปล่อยเธอลง จากนั้นก็เดินลิ่วๆไปหยุดที่หน้าห้องของเธอก่อนจะแกล้งจับเธอทุ่มลงที่เตียงเบาๆ
“จะทำอะไร อย่าเข้ามานะ” ร่างบางดีดตัวขึ้นทันที
“นอนหลับสะ” เขาหันหลังให้

แต่แล้วกลับถูกกระชากกลับจากมือบาง “จะจูบฉันแล้วเดินหนีไปดื้อๆอย่างนี้เหรอ” หญิงสาวประท้วง “ถ้าอย่างนั้นจูบต่อก็ได้” เขารั้งใบหน้าเธอเข้ามาใกล้ แล้วประทับริมฝีปากร้อนลงไปอย่างรวดเร็ว” หญิงสาวพยายามขัดขืนเธอไม่ได้เรียกเขาเอาไว้เพื่อสิ่งนี้

“ปล่อยๆๆ ฉันนะ” เสียงอู้อี้ในลำคอ

เมื่อได้ชิมรสหวานที่ริมฝีปากอิ่มมันทำให้เขายากที่จะหยุด เขาอยากจะทำความรู้จักกับส่วนอื่นๆของเธอให้มากกว่านี้ มือหนาใหญ่เคล้าคลึงไปทั่ว อัศนัยตอบตัวเองไม่ได้ทำไมถึงเตลิดไปได้มากขนาดนี้แต่รู้อีกทีก็เมื่อเขาปลดกระดุมเสื้อเม็ดสุดท้ายของตัวเองออกจนหมด และหญิงสาวร้องกรี๊ดด้วยความตกใจนก่อนจะเป็นลมลงไป

“เพียงดาว !” ร่างบางระทวยอยู่ในอ้อมกอดของเขา

“ผมขอโทษ ผมลืมตัว ไม่น่าเลยนะนายอัศนัยทำไมถึงปล่อยให้กิเลศฝ่ายต่ำครอบงำเอาได้” เขาบ่นตัวเองและรีบช้อนร่างบางขึ้นวางลงบนเตียงรู้สึกผิดอย่างบอกไม่ถูก

“ทำไมตบะแตกได้นะเรา” เขานึกโกรธตัวเอง นี่เขาเกือบใช้อารมณ์ฝ่ายต่ำทำร้ายเธอแล้ว

หญิงสาวใบหน้าซีดเผือดเธอคงตกใจมาก ภายนอกเธอดูไม่กลัวใคร แต่กลับตกใจจนเป็นลมเขาอยากรู้นักว่าเธอยังเวอร์จิ้นอย่างที่บอกจริงหรือเปล่า นาฬิกาบ่งบอกว่าเป็นเวลาตีสองหนังตาของเขารู้สึกหนักอึ้งจวนจะปิดแต่ก็ไม่อยากทิ้งเธอไว้ลำพังแบบนี้กลัวว่าตื่นมาจะเป็นเรื่อง

อัศนัยมองที่เตียงกว้างร่างบางนอนชิดไปทางซ้าย ทางขวาเหลือที่ตั้งเยอะ

“ไม่ตื่นสักที ผมขอสักงีบนะคุณ ผมก็ง่วงเป็นเหมือนกัน” เมื่อหัวถึงหมอนชายหนุ่มก็หลับสนิทเพราะเหนื่อยมาทั้งวันและทำให้เขานอนเพลินไปหน่อยจนถึงรุ่งเช้า

หญิงสาวขยับตัวแต่รู้สึกอึดอัดมันขยับไม่ได้เหมือนติดอะไรสักอย่าง หญิงสาวลืมตาขึ้นมองอย่างช้าๆและพบว่าอยู่ในอ้อมกอดของเขาที่เปลือยเปล่าท่อนบน ไอ้ผู้ชายหื่นกาม ที่มันคงขืนใจเธอไปแล้วเมื่อคืนนี้ ดูสิเสื้อเชิ้ตสีขาวแขนยาวของเขายังคงกองอยู่ที่พื้น และที่สำคัญมีบางอย่างจากร่างกายเขาที่มันเครียดแข็งเสียดสีแนบอยู่ที่ปลีน่องเรียวของเธอ
“ไม่จริง ๆ ๆ ฉันถูกข่มขืน”
กรี๊ดๆๆๆๆ
เสียงดังสนั่นจนทำให้คนที่นอนข้างๆงัวเงียลุกขึ้นมานั่ง
“ตื่นแล้วเหรอ”เขาขยี้ตาสลึมสลือมองหน้าเธอ
แต่แล้วเขาต้องหายง่วงเป็นปลิดทิ้ง เมื่อร่างบางในชุดนอนสีหวานกระโดดทับร่างของเขาอย่างลืมตัวด้วยความโมโหก่อนจะบีบเข้าที่ลำคอของเขากะจะเอาให้ถึงตาย

“ตายเสียเถอะ ไอ้ผู้ชายมักมาก ตัณหากลับ ฉันเกลียดคุณ”
“ปล่อยผม อะไรกันเนี่ย” อัศนัยใช้ความได้เปรียบของร่างกายพลิกตัวเขาไปอยู่ด้านบน ส่งผลให้ร่างบางเสียเปรียบไปนอนราบอยู่ใต้ร่างเขาแทน
“คุณมันเลว คุณข่มขืนฉัน ทำแบบนี้ได้ยังไงไหนสัญญากันแล้วว่าจะไม่ยุ่งเกี่ยวกับฉัน”

“ผมยังไม่ได้ทำจริงๆ” น้ำเสียงหนักแน่น

“ฉันไม่เชื่ออย่ามาโกหก”

ใช่สิพูดความจริงผู้หญิงมักไม่เชื่อ แต่พูดโกหกเชื่อกันนัก

“ถ้าอย่างนั้นผมยอมรับว่าทำจริงก็ได้”

“ไม่จริง บอกมาสิว่ามันไม่จริง คุณไม่ได้ทำแบบที่พูด” หญิงสาวร้องไห้ฟูมฟายน้ำหูน้ำตาไหล และเอาหมอนฟาดที่ลำตัวเขาไม่หยุด
“แล้วตกลงจะให้ผมตอบคุณว่ายังไงดีล่ะถึงจะพอใจ”เขาก้มไปหยิบเสื้อที่พื้นขึ้นมาสวม

“ก็บอกความจริงมาเดี๋ยวนี้” หญิงสาวคาดคั้น

“ก็ตอบไปแล้วแต่ไม่เชื่อเอง เอาเป็นว่าแล้วแต่คุณจะคิดก็แล้วกัน”

“คุณมันเลว ตกลงคุณข่มขืนฉันจริงๆใช่ไหม ถ้าไม่ตอบแสดงว่าใช่”
เขากำลังจะอ้าปากค้านและตอบความจริงอีกครั้ง แต่ฝ่ามือบางตวัดไปที่ใบหน้าของเขาก่อนอย่างรุนแรง

“คืนนั้นหากฉันถูกไอ้พวกโจรย่ำยีฉันคงเสียใจน้อยกว่านี้”ร่างบางเกรี้ยวกราดใส่เขา

“ขนาดนั้นเชียวเหรอ ตกเป็นเมียโจรพร้อมกันหลายๆคนยังดีกว่าเป็นเมียผมคนเดียว” คนตัวสูงรู้สึกไม่พอใจที่เธอหมิ่นเขา
“ใช่ ถ้าเลือกได้ฉันยินดีที่จะเป็นเมียโจรพวกนั้นมากกว่า”เธอย้ำดวงตาแดงกล่ำ
“ผมจะได้รู้เอาไว้ แต่ไม่ต้องเสียใจนะเมื่อคืนผมก็จัดให้คุณไม่น้อยกว่าห้าครั้ง ถ้าตอนนั้นคุณมีสติก็คงได้รับอารมณ์เดียวกับการเป็นเมียพวกมันแบบหมู่คณะ”เขายิ้มหยัน

“ไอ้คนเลว” เพียงดาวทุบเขาอย่าแรง แต่ถูกเขารวบมือเอาไว้ได้และกดร่างบางแนบลงไปบนที่นอน

“จะเลวหรือดีก็ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นสามีของคุณไปแล้ว” เขาหัวเราะ ตั้งใจว่าจะแกล้งสักพักเพราะกำลังโมโหที่ถูกหยาม เดี๋ยวอารมณ์ดีค่อยบอกความจริงที่หลัง

เสียงของเขาและเธอแม้จะดัง แต่ภายนอกห้องไม่ได้ยินเพราะผนังเก็บเสียง
โทรศัพท์ภายในห้องดังขึ้น มันเป็นเสียงของโทรศัพท์ภายในบ้าน
“รับสิ แม่บ้านคงโทรตามคุณลงไปทานข้าว” เขามองนาฬิกาเจ็ดโมงเช้า เวลาอาหารของที่นี่

หญิงสาวยกสายขึ้นรับกลัวว่าถ้าไม่รับป้าแช่มอาจคิดว่าเธอไม่สบายและขึ้นมาดูเองก็ได้

“มีอะไรคะป้าแช่ม”
ปลายสายรายงานว่ามีแขกมารอพบ

“คุณปกป้องมาหาดาวเหรอคะ บอกเขาทีว่าอีกสักครู่ดาวจะลงไปหา”

“มันมาแต่เช้าเลยเหรอ คงนัดแนะกันไว้เมื่อวานล่ะสิท่า” เขาทำสีหน้าหงุดหงิด ทั้งที่ความจริงมันไม่ใช่เรื่องของเขาสักนิด

“แล้วคุณเกี่ยวอะไรด้วย” คนสวยตวาดใส่

“เมื่อก่อนไม่เกี่ยว แต่ตอนนี้เกี่ยวแล้วเพราะไอ้หมอนั่นมันบุกมาหาเมียผมตั้งแต่ไก่โห่”
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

“คุณพ่อคะ ขับรถหลงหรือเปล่าคะเนี่ย” เพียงฟ้ามองสองข้างทางที่มีแต่ทุ่งทานตะวันมานานมันก็สวยน่ามองดี แต่มองจนเบื่อก็ยังไม่ถึง ในนาทีนี้ที่คนทั้งคู่ต้องการเจอคือป้ายทางเข้าไร่นรบดี

“พ่อก็เลี้ยวมาตามที่ลุงคนนั้นบอกทางแล้วนะลูก เลี้ยวซ้าย เลี้ยวขวา ขับตรงไปข้างหน้า และเลี้ยวขวาเลี้ยวซ้าย และก็เลี้ยวซ้าย ต่อด้วยซ้ายอีกทีก็จะเจอไร่นรบดี


“ไหนคุณพ่อพูดใหม่อีกทีสิคะ”
คุณศรุตยิ้มแหย “พ่อจำไม่ได้แล้วลูกงงไปหมด”

“อ้าว..คุณพ่อ! ถ้าอย่างนั้นที่ขับมาก็แปลว่าขับมั่วล่ะสิคะ”
คนเป็นพ่อไม่ตอบแต่ตั้งคำถามแทน “แล้วนี่มันที่ไหนกันล่ะลูก ดูแปลกๆ”
“จริงด้วยค่ะ” ปลายฟ้ามองไปข้างทาง สถานที่แบบนี้ดูคุ้นๆแต่ที่สำคัญมันไม่น่าใช่สถานที่ ที่มีสิ่งมีชีวิตอยู่ เพราะมันคือป่าช้าหลังวัด จากนั้นสองพ่อลูกก็รีบกลับรถหาทางออกอย่างรวดเร็ว +++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++



อัปสรา
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 7 ธ.ค. 2554, 18:52:16 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 7 ธ.ค. 2554, 18:52:16 น.

จำนวนการเข้าชม : 3242





<< ตอนที่ 12   ตอนที่ 14 >>
anOO 7 ธ.ค. 2554, 19:22:00 น.
อ้าว....คุณพ่อกับคุณน้องพากันมาทำอะไรเนี้ย
ยัยดาวนี่ ขี้ดวยวายเหมือนกันนะ


lovemuay 7 ธ.ค. 2554, 19:44:41 น.
ตอนแรกก็แค่อำ ไปๆมาๆโมเมซะงั้น หึงเค้าหล่ะซี่ อิอิ


แพม 8 ธ.ค. 2554, 00:01:07 น.
อยู่กับนางเอกทำฉลาดเชียว แต่กับคนอื่นนี่โง่ได้ตลอด เอ...อย่างนี้เรียกว่ารักบังตาหรือนมบังตากันแน่ สงสัยอะไรก็นอนคุย หุหุ


XaWarZd 8 ธ.ค. 2554, 04:27:27 น.
ขำอ่ะหลงทาง นางเอกก็มั่วซะ ใช้เหตุผลหน่อย มีคำผิดนิดนึงนะจีะ เช็คด้วย ไม่เฉลย แกล้งคนเขียนให้หาเอง


nunoi 8 ธ.ค. 2554, 12:16:45 น.
เริ่มหึงหนูดาว ซะแล้ว นายอั๊ด


roseolar 8 ธ.ค. 2554, 12:48:54 น.
อ้าวอ้าว...พระเอกของเรายอมรับสมอ้างซะงั้น
ก็มันบูกมาหาเมียผมตั้งแต่ไก่โห่
หึงแล้วล่ะซี้คุณอัศนัย


นกอุมาพร 8 ธ.ค. 2554, 23:51:08 น.
รักเขาแล้วละสินายอั๊ต


kaero 9 ธ.ค. 2554, 10:43:58 น.
รออ่านต่อจร้า


อัปสรา 9 ธ.ค. 2554, 21:10:00 น.
http://www.taratornpublication.com/Books/Detail/33/เล่ห์พิศวาสซาตาน/

ปกเล่มใหม่ค่ะ ได้หนังสือเมื่อไหร่จะเอามาแจกนะคะ


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account